Glass ionomer 2. รายชื่อสมาชิก
• นาย จุมพฏ
อาพันพงษ์ รหัส 5209110009
• นางสาวศุภิสรา
จันทร์ทอง รหัส 5209110022
• นางสาวชวานันท์ ไชยมี
รหัส 5209110038
• นางสาวเบญจพร อุทกัง
รหัส 5209110039
• นางสาวธีรดา
มุ่งทวีพงศ์ษา รหัส 5209110045
นิสิตทันตแพทยศาตร์ ชั้นปีที่ 3
Western University
4. HISTORY
1. 1873 Thomus Fletcher : silicate cement
(powder : aluminosilicate glass )
(liquid : phospholic acid )
2. 1908 shoenbeck ได้เพิมฟลูออไรด์ลงใน silicate cement
่
(powder : aluminosilicate glass +fluoride )
(liquid : phospholic acid )
3. 1968 Dennis C.Smith : polycaboxylate cement
(powder : zinc oxide)
(liquid : polyacrylic acid )
5. HISTORY(Cont.)
4. Wilson & Kent [kent เติม ฟลูออไรด์ ลงใน powder
= aluminosilicate polyacrylate] จุดเริมต้น GICs
่
(powder : fluoroaluminosilicate glass)
(liquid : polyacrylic acid )
5. 1972 wilson and Crisp
(powder : fluoroaluminosilicate glass)
(liquid : polyacrylic acid+tartalic acid )
6. 1984 Prosser
(powder :fluoroaluminosilicate glass+ polyacrylic acid+tartalic acid )
(liquid : water)
6. Tooth color material’s continuum
GLASS
IONOMER
RESIN
COMPOSITE
RESIN
MODIFIED
GLASS
IONOMER
POLY ACID
MODIFIED
RESIN
COMPOSITE
OR COMPOMER
GIOMER
7. Tooth color material’s continuum
GLASS IONOMER
วัสดุบรณะสีเหมือนฟัน
ู
ข้อดี
- คุณสมบัติทางกายภาพคล้ายคลึงกับ
เนื้อฟัน
- สัมประสิทธิ์การขยายตัวเมื่อมีการ
เปลี่ยนแปลงอุณภูมิใกล้เคียงกับเนื้อฟัน
- ยึดติดกับฟันด้วยฟันธะทางเคมี
- ปล่อยฟลูออไรด์ได้
ข้อเสีย
- มีtensile strength ต่า
- สีขาวไม่สวย
RESIN COMPOSITE
ข้อดี
- มีความแข็งแรง
- ทนทานและมีสีให้เลือกใช้
มากมาย
ข้อเสีย
-ไม่มีการปลดปล่อยฟลูออไรด์
-Polymerlize shinkage มาก
8. RESIN MODIFIED GLASS IONOMER
• ส่วนประกอบ
– powder : Calciumfuoroalumino silicate glass
– liquid : polyacrylic acid +methacrylate monomer +camphorquinone +amine
• มีคุณสมบัติคล้ายGIC คือ ปลดปล่อยฟลูออไรด์และคุณสมบัติคล้าย
เนื้อฟัน
• สีสวยงามแข็งแรงทนทานมากกว่า GIC แต่สีก็ยังไม่ใสเท่าฟันมนุษย์
จึงทาให้มีการผลิต compomer ขึ้นมา
9. •
•
•
•
POLY ACID MODIFIED RESIN COMPOSITE
OR COMPOMER
สีเหมือนฟัน และสวยเหมือน RESIN COMPOSITE
สามารถยึดติดฟันธรรมชาติได้เหมือนGIC
วัสดุสามารถปลดปล่อยฟลูออไรด์ได้แต่ปริมาณไม่สงเท่าGIC
ู
ข้อเสีย มันจะหลุดได้ง่ายเมื่อ นาไปบูรณะฟันclass V
แต่ก็ยังใช้เรื่อยมาจนกระทั่ง 2544
15. สมดุลย์ของน้าในวัสดุ (water balance)
• water base material GICs เป็นวัสดุที่มีน้าเป็น
ส่วนประกอบ
• Cement ที่แข็งตัวแล้วมีน้าเป็นองค์ประกอบ 24%
• ระวัง “water intake @ ระยะแรกของการแข็งตัว”
• ระวัง “water uptake @ ระยะหลังของการแข็งตัว”
วิธีการรักษาสมดุลน้าใน GICs ทา varnish หลังอุดเสร็จ
20. Classification GICs
ตาม wilson and Mclean ปี 1988
Type I Luting cements : Fuji Plus ,Vitremer Luting
cements
**Type II Restorative cement : Fuji II LC ,Vitremer
-restorative aesthetic ปรับปรุงคุณสมบัติให้ใกล้เคียงกับ
วัสดุบูรณะในอุดมคติ
-Restorative reinforced เติมโลหะบางอย่างเพื่อความ
แข็งแรง
Type III Base or lining cement : Fuji lining LC,Vitrebond
www.uhs.edu.pk/downloads/examination_data/bds/dm_SEQ.pdf
21. เราจะมาดูเฉพาะ Type II นะ
Type II Restorative cement
- Restorative aesthetic
พบได้ใน conventional GI and Resin Modified GIC (RM-GIC)
- Restorative reinforced (Metal-reinforced glass ionomer
cement)
คือการเพิ่มอนุภาค mental เข้าไป ซึ่งทาได้ 3 วิธี
1. Sintering metal powders on glass surface
2. Incorporation of amalgam alloy ผงโลหะ
3. Siver alloy admix
23. 2.Resin Modified GIC (RM-GIC)
: dual cure คือการแข็งตัวแบบธรรมดาและแข็งตัวได้แสง
• การใช้งาน เช่น เป็นวัสดุอุดรองพื้น, อุดฟัน Class III, อุดเป็นแกน
สาหรับครอบฟัน, อุดชั่วคราว เป็นต้น
• ส่วนประกอบของ RM-GIC
ผง : Calcium alumino silicate glass
ของเหลว : Polyacrylic acid หรือ modified polyacrylic acid with
methacrylic end group + hydrophilic resin คือ HEMA
photoinitiator
24. ปฏิกิริยาการก่อตัวของ RM-GIC
ประกอบด้วย 2 ปฏิกิริยา
1. ปฏิกิรยา Polymerization (light cure)
ิ
มีสารเริ่มปฏิกิริยาเป็น Camphorquinone เมื่อถูกแสง
ความยาวคลื่น 470 nm ซึ่งเป็น แสงสีฟา จะทาให้
้
Camphorquinone แตกตัวเป็นอิสระ ทาให้เกิดปฏิกิริยา
แบบ Polymerization
2. ปฏิกิริยากรด-เบส (Acid-base reaction)
25. RM-GIC จึงจัดเป็น “Dual-cured” ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีการฉาย
แสงก็จะมี Initial set ได้เองโดยปฏิกิริยากรด-เบส แต่สมบัติ
ความแข็งแรงต่าง ๆ จะลดน้อยลงกว่าเมื่อฉายแสงร่วม
27. 1. Sintering metal powders on glass
surface
•
•
•
•
•
เป็นcement ผงโลหะเงินทีผ่านการเผามาผสม
่
ทาให้ค่าของ flexural strength สูงขึ้น
แต่จะลดค่าแรงพันธะต่อเนื้อฟันลง
การปล่อยฟลูออไรด์ จะลดลงโดยเฉพาะในระยะแรกๆ
ตัวอย่าง Ketac Silver (3M ESPE, USA)
28. Ketac Silver (3M ESPE, USA)
ทีมา : http://www.clickdental.com/Restoratives/Glass-Ionomers/Ketac-Silver-Aplicap-Capsules/lid/7852
่
29. 2. Incorporation of amalgam alloy
• เป็นผงโลหะอมัลกัมอัลลอยรูปกลม (Spherical amalgum
alloy)
• เวลาใช้จะนาผงอะมัลกัมมาผสมกับผง GIC และเขย่าให้เข้ากัน
ก่อนนาไปผสมกับของเหลว GIC
• ชนิดนีพบว่าไม่ได้ทาให้สมบัติความแข็งแรงโดยทั่วไปดีขึ้น
้
• ตัวอย่าง Miracle-Mix(GC, Japan)
31. 3. Siver alloy admix
• นา Ag, Cu, Sn มาผสมใน GIC
• ทาให้ค่าความแข็งแรงของ GIC เพิ่มขึ้น แต่ต่ากว่า RMGIC
• สีอ่อนกว่าชนิด Cermet cement
32. Properties
Physical property
• Compressive strength ของ GIC ไม่ค่อยต่ามากเมื่อเทียบกับ
Composite resin และ Amalgam
• ความทนแรงดัด ของ GIC < Composite resin และ Amalgam
• Water solubility ของ GIC > Composite resin และ Amalgam
• ความโปร่งแสง (Translucency) ของ GIC < Composite resin
• ความคงตัวของสี (Color stability) มีค่าความคงตัวค่อนข้างสูง
34. ข้อดี-ข้อเสีย ของ GIC เมือเทียบกับวัสดุ อื่น ๆ
่
ข้อดีของ GIC
1. มี chemical bond with
tooth surface
2. Release fluoride
3. Biocompatibility
4. Radiopaque
ข้อเสียของ GIC
1. Resorption ในระยะแรก
2. dehydration ในระยะหลัง
3. ต้องรออย่างน้อย 24 ชั่วโมง จึง
จะขัดแต่งได้
4. Long setting time
36. Journal : A review of their Current
status
โดย G J. Mount จากวารสาร operative
dentistry ปี 1999 ฉบับที่ 24
38. IDENTIFICATION OF GLASS IONOMERS
• GI ประกอบด้วย Aluminosilicate glass และ Polyalkenoic acid
• การใช้งานทางคลินิก สามารถแยกชนิดได้ดังนี้
ชนิดที่ 1 Luting cement
ชนิดที่ 2.1 Restorative aesthetic cement
2.2 Restorative reinforced
ชนิดที่ 3 Linning or base cement
39. Resin-modified Glass Ionomers
• เติม HEMA และ มี Light เป็น Activator
• HEMA เป็น hydrophilic hydrogel เล็กน้อย
• เมื่อเทียบกับ GI ในส่วนของการเติม resin
ข้อดี คือ คงตัวได้ทันทีของสมดุลของน้า หลังจากถูกกระตุ้นด้วยแสง และ
translucency ได้ทันที
ข้อเสีย คือ จาเป็นต้องทาทีละชั้น สาหรับการอุดที่ลึกกว่า 3-4 มิลลิเมตร
เพราะการส่งผ่านของแสงจากัดในบริเวณที่ลก
ึ
• Redox reaction ทาให้การเกิดการก่อตัวสมบูรณ์ของวัสดุที่อยู่ด้านล่างโดยรอบ
40. Compomer
• เป็น resin composite ที่มี filler เป็นแก้ว เหมือน GI
• ปฏิกิริยาการก่อตัวเริ่มแรก ถูกกระตุ้นด้วยแสง เหมือน resin
composite
• หลังจากนั้น จะเกิด การยับยังAcid-base reaction ของ GI
้
• ทาให้มีการปลดปล่อยของ fluoride น้อย
• การยึดอยู่ resin กับ dentin เกิดการยึดติดแบบ ion-exchange
41. FLUORIDE RELEASE
• Topical fluoride will result in a further up take of
fluoride ion in to restoration
• Increase in the rate of release for a short period
• The ion release is sufficient to buffer the acid level of
plaque in the vicinity and thus the potential for
demineralization
42. ION-EXCHANGE ADHESION WITH TOOTH
STRUCTURE
• Diffusion based adhesive P[Poly alkenoic acid] + Ca[HA]
---> Electrical neutrality[@Surface of GICs]
• Electrical neutrality Intermediate Layer{ Firmly layer
attached Tooth surface }
• ซึ่งระดับการยึดเกาะกับ Collagen of Dentin ขึ้นอยู่กับ
OR
• Hydrogen Bonding
• Metallic ion [Carboxyl gr. Of Poly acrylic acid + Collagen Molecules]
43. ION-EXCHANGE ADHESION WITH TOOTH
STRUCTURE
• ในการขั้นการเตรียมสภาพของ Tooth Surface
– Original 50% Citric acid
– Now 10% Polyacrylic acid(มีประสิทธิภาพในการทาความสะอาดสูงสุดใน
10 วินาที)
ข้อดี
• ส่วนที่เหลือจากกรดนี้จะไม่รบกวน Setting Reaction ของ GIC
• Surface energy ↑ Cement แนบกับ cavity ได้ดี
• กรดที่มี ความเข้มข้นมาก ไม่แนะนาให้ใช้ในการปรับสภาพผิว Cavity
เพราะจะทาให้เกิดการ Demineralization มากเกินไป และยังลด
ประสิทธิภาพของ Ion-Exchange อีกด้วย
44. ION-EXCHANGE ADHESION WITH TOOTH
STRUCTURE
• ความล้มเหลวที่จะทาให้เกิดการหลุดของวัสดุ
–มักจะเกิดการหลุดของที่ตัววัสดุ มากกว่า การหลุดทีบริเวณรอยต่อของ
่
วัสดุกับฟัน
–นั้นหมายความว่า = ยังคงมีชั้นบางๆ ของ Ion-Enriched
Material เหลือ ยึดติดกับ Tooth Surface
– ดังนัน หลังจากเกิดความล้มเหลว Dentinal Tube ก็ยังคงถูก
้
sealed ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งยังคงมีความสามารถในการ
ป้องกันการเกิด Microleakage อยู่
45. BIOCOMPATIBILITY
• Ion-Exchange Prevent Microleakage
• แนะนาให้ใช้ในฟันผุที่มีการลุกลาม(active caries)
• GIC มีผลต่อการช่วยลดการอักเสบ และยังส่งผลให้มีการสนับสนุนการ
Remineralization @ Demineralized affected Dentin
• GIC ยังสามารถปลดปล่อยประจุอื่น นอกจาก F ได้อีก เช่น Calcium,
Strontium & Phosphate ions Reminerazation process
46. BIOCOMPATIBILITY
• Now Fast-setting autocure material
• Esthetics ↑
• ใช้ง่าย
• เป็นสารตัวกลางที่ทาให้มีความทนต่อการดูดซึมน้า ในการ set ตัวอีกด้วย
• @ Affected Dentine ควรที่เหลือไว้ เป็นพื้นให้กับ Pulp [Pulpal floor] และ
โพรงฟันควรมีการเตรียมให้อยู่ในสภาพที่ปกติ การอุด GIC [ที่มีอัตราส่วนของ
powder เข้มข้น = Optimum physical properties] แล้วปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 3 เดือน
สิ่งที่เราจะพบหลังจากที่เอามันออกคือ
•
•
•
•
ฟันมีลักษณะเหมือนปกติ
มีการสะสมแร่ธาตุ
พื้นฟัน(Floor remining)ก็ยังคงเหลืออยู่ (ไม่มีการลุกลามของรอยโรคฟันผุ)
Restoration designed, based on a minimal cavity design.
47. Ease of Handing
Capsule
• เก็บรักษาง่าย
• สามารถใส่ใน Syringe
แล้วฉีดเข้า cavity ลึกๆ
ได้
Packing
Powder
• เก็บรักษายาก (Liquid
+
ระเหยได้)
Liquid
48. Development of Translucency
• ระยะแรกของการแข็งตัว จะเกิด “loose bound” ของน้า คือ วัสดุมี
ความเหลว มีการสูญเสียการเด้งกลับ
• วัสดุที่บูรณะอาจมีการดูดซึมน้าจากแหล่งอื่น ทาให้เกิดการหลุดออกของ
metal ion
• Ca สร้างรูปแบบใหม่ของ calcium polyalkenoate chain
ซึ่งมี - ความสามารถในการละลายน้าสูง
- คุณสมบัติทางกายภาพลดลง
- ความโปร่งแสงจะถูกลดลง
49. Maintenance of water balance
• การควบคุมการสมดุลของน้า เป็นสิ่งจาเป็นต่อ restorative
aesthetic material
• วัสดุบูรณะควรจะได้รบการปกป้องทันทีจากชั้นต่าง ๆ และ
ั
สามารถตกแต่งในขณะที่ยังไม่แข็งตัว และตามด้วยการเคลือบทับ
สุดท้ายถูกกระตุ้นด้วยแสง ส่งผลให้สามารถป้องกันน้าได้เป็นระยะ
เวลานาน
• การปิดผิวที่มีประสิทธิภาพอย่างน้อยสุด 24 ชั่วโมง
50. Minimal cavity design
• ใช้ประโยชน์จาก micromechanical adhesion คือ การบูรณะฟัน
โดยใช้ GI ยึดกับ dentin และ resin composite ยึดกับ enamel
• GI มีการเหนี่ยวนาการเกิด remineralization
• ไม่จาเป็นต้องขยายcavity ไปถึง contact area หรือกาจัด enamel
ออกไปมาก จาเป็นแค่เอา enamel ทีแตกหักไม่สมบูรณ์ออก หรือ
่
enamel ที่มีรอยโรคออก ให้คง enamel สภาพดี ที่ยังคง
remineralization ได้
• มีการแนะนาว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน gingival ของโพรงฟัน ใช้
GI เป็นฐานด้านล่าง เพือหวังผลการปลดปล่อยฟลูออไรด์
่
51. LIMITATION
• GI มีการต้านทานการแตกหักที่ต่า
• สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่ผสม powder กับ liquid คือ การ
เกิดรูพรุน และ รอยแตกหัก
• วัสดุอุดเมื่อมีการแข็งตัวเต็มที่ (ประมาณ 2 สัปดาห์) มักจะเกิด
dehydration (การสูญเสียน้า) และเกิดรอยแตก
• GI ในปัจจุบันมีความแข็งแรงสูงขึ้น ประมาณ 3 เท่าของ GI รุ่นเดิม
52. Reduction of Porosity
• รูพรุน เกิดจากการผสมของวัสดุสองส่วน ในระหว่างการผสม ไม่
ว่าจะผสมด้วยเครื่องหรือมือ
• ถ้าสามารถกาจัดรูพรุนออกหมดได้ แต่อาจทาให้วัสดุมความหนืด
ี
มากไป
• ซึ่งการลดรูพรุนทาได้โดยการผสมวัสดุภายใต้ความดันอากาศต่า
หรือ ใช้แรงเหวี่ยง เพื่ออัดแน่นวัสดุ
53. Modifications to the Glass
• อาจมีการนาสารอื่นใส่เข้าไปผสมแทนแคลเซียม เพื่อให้เกิดการทึบ
แสง
– เช่น strontium (Sr) lanthanum (La) โดย Sr จะมีคุณสมบัติคล้ายกับ
Ca ในตารางธาตุ ซึ่งเป็นธาตุในหมู่เดียวกัน เป็นไปได้ว่า strontium มีการ
form เป็น strontium apatite ในโครงสร้างฟันปกติ
• การพัฒนาคุณสมบัติทางกายภาพ โดยการควบคุมขนาดของ
powder และ การกระจายของขนาด
54. Modification to the Liquid
• Polyalkenoic acids ที่บ่อยใช้ คือ
- Polyacrylic acid
- Itaconic acid
- Polymaleic acid
• การเพิ่มน้าหนักโมเลกุลของกรด จะเพิ่มคุณสมบัติทางกายภาพ มีผลต่อ
การแข็งตัวของซีเมนต์ และเพิ่มความหนืด
• การผสมส่วน Power & Liquid และขจัดน้าออก(Dehydration)
56. Enhanced Therapeutic Effect
ผลการรักษาที่ดี ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมในช่องปาก และการลุกลามของรอยโรคการเกิดฟันผุ
1. Ion-Exchange + Diffusion based adhesive ช่วยลดการเกิด
Microleakage และมีการ sealed ที่มีประสิทธิภาพ
2. Fluoride release [จุดเด่น]
1.
2.
3.
Remineralization
Caries resistance
รบกวน Metabolism ของ Bacterial
3. GIC ยังสามารถปลดปล่อยประจุอื่น นอกจาก F ได้อีก เช่น Calcium,
Strontium & Phosphate ions Reminerazation process +
Buffer pH @Plaque
4. และหากมาการสะสมกับของ Calcium, Strontium & Phosphate ions
ที่พียงพอ surface ของ GIC แข็งขึ้นอีกด้วย
58. ประโยชน์ที่ได้รับจาก Journal ฉบับนี้
• ได้รู้การพัฒนาและข้อจากัดในการทางานของ GICs ตั้งแต่อดีตจนถึง
ปัจจุบัน
• ได้รู้ คุณสมบัติและข้อดี-ข้อเสีย ของ GICs
• ได้รู้ถึงการใช้งานต่าง ๆ และเปรียบเทียบการใช้งานกับวัสดุบูรณะฟันชนิด
อื่น ๆ
• ได้รับความรู้จากงานวิจยที่หลากหลาย
ั