More Related Content
Similar to พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจาร
Similar to พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจาร (20)
More from SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
More from SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL (20)
พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจาร
- 3. พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) (5 กรกฎาคม พ.ศ. 2365-16
ตุลาคม พ.ศ. 2434) เป็นชาวฉะเชิงเทรา ท่านได้รับสมญาว่าเป็นศาลฎีกา
ภาษาไทย เป็นผู้แต่งตาราเรียนชุดแรกของไทย เรียกว่า "แบบเรียนหลวง" ใช้สอนใน
โรงเรียนพระตาหนักสวนกุหลาบ และหนังสือกวีนิพนธ์ที่มีคุณค่าอีกหลายเรื่อง งานชิ้น
สาคัญชิ้นหนึ่ง คือท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็น แม่กองตรวจโคลงบรรยายประกอบรูปภาพ
เรื่อง "รามเกียรติ์" รอบระเบียงพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อครั้งกรุง
รัตนโกสินทร์ครบรอบ 100 ปี และตัวท่านเองก็ได้รับหน้าที่เป็นผู้แต่งด้วยท่านหนึ่ง
- 5. เมื่ออายุได้ประมาณ 6-7 ปี เรียนหนังสือไทยกับหลวงบรรเทาทุกข์ราษฎร์ กรมการ
เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพี่ชายใหญ่ของท่าน ในขณะที่หลวงบรรเทาทุกข์ราษฎร
อุปสมบทเป็นภิกษุอยู่ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร เมื่ออายุ 13 ปี ท่านได้เข้าไปศึกษาต่อ
ในพระนคร อยู่กับสามเณรน้าชาย ชื่อทัด ณ วัดสระเกศวรวิหาร อายุ 14 ปี บรรพชา
เป็นสามเณรเรียนหนังสือไทยกับพระกรรมวาจาจารย์ (จัน) เรียนหนังสือขอมกับพระ
ครุวิหารกิจจานุการ (กรรมวาจาจีน) ศึกษาพระธรรมวินัยจากสานักต่าง ๆ เช่น
- 6. เรียนคัมภีร์สารสงเคราะห์ สานักสมเด็จพระสังฆราช (ด่อน)
เรียนคัมภีร์มงคลทีปนีในสานักพระอุปทยาจารย์ (ศุข)
เรียนคัมภีร์มูลกัจจายนในสานักสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สน)
เรียนคัมภีร์กังขาวิตะระณี ในสานักอาจารย์เกิด
เรียนคัมภีร์มหาวงศ์ในสานักพระครูด้วง
เรียนคัมภีร์อื่น ๆ ในสานักพระครูปาน พระใบฎีกาแก้ว พระอาจารย์คง อาจารย์ที่
เป็นคฤหัสถ์ด้วย
- 7. ด้วยระยะเวลานั้น วัดสระเกศวรวิหารขาดพระมหาเปรียญเป็นเวลานับสิบ
ปี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโสมนัสยินดี ทรงเฉลิมพระราชศรัทธา
โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดใหม่ รื้อกุฏิเก่าฝาไม้ไผ่ออกสร้างกุฏิตึกเป็น
เสนาสนะงดงาม ตลอดทั้งก่อสร้างสถาปนาภูเขาทองด้วยนับเป็นเกียรติยศอย่างสูง
ด้วยความอุตสาหะพากเพียรใฝ่รู้ของท่าน จึงได้ขอศึกษาพระปริยัติธรรมในสานักของ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพรรษาที่ 6 ได้เข้าแปลพระปริยัติธรรมในที่
ประชุมพระราชาคณะ ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม สอบได้เปรียญ 7 ประโยค
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นพระราชาคณะที่
“พระประสิทธิสุตคุณ”
- 8. พ.ศ. 2396 ท่านลาสิกขาบท เจ้าพระยามหินทรศักดิ์ดารงค์ (หรือเจ้าหมื่นสรรพ
เพชรภักดีในขณะนั้น) ได้นาท่านเข้าถวายตัวรับราชการอยู่ในกรมมหาดเล็กเวรศักดิ์
รัชกาลที่ 4 ทรงใช้สอยในเรื่องหนังสือไทย หนังสือขอมคล่องแคล่ว ตอมที่พระองค์
ต้องการ
พ.ศ. 2414 ท่านได้คิดแบบสอนอ่านหนังสือไทย รวม 6 เล่ม ได้แก่ มูลบทบรรพ
กิจ วาหนิติ์นิกร อักษรประโยค สังโยคพิธาน พิศาลการันต์ ไวพจน์พิจารณ์
พ.ศ. 2415 ท่านได้เป็นครูสอนหนังสือไทย ในกรมมหาดเล็ก
พ.ศ. 2416 โปรดเกล้าฯ ให้เป็นอาจารย์สอนพระราชวงศ์ที่ยังพระเยาว์ และบุตร
หลานข้าราชการได้รับพระราชทานเงินเดือน เดือนละ 60 บาท
พ.ศ. 2418 ในปีนั้นเจ้ากรมพระอาลักษณ์ถึงแก่กรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
ฯ ตั้งพระสารประเสริฐขึ้นเป็น “พระศรีสุนทรโวหาร” เจ้ากรมอาลักษณ์ ถือศักดิ
นา 3,000 ไร่
- 9. พ.ศ. 2422 เมื่อมีการปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดารามท่านได้มีส่วนในการแต่ง
โคลงรามเกียรติ์เพื่อจารึกที่ระเบียงรอบพระอุโบสถ และเป็นท่านยังเป็นแม่กอง
ตรวจโคลงรามเกียรติ์
พ.ศ. 2425 ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ให้เป็นองคมนตรีเป็นที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน และทาหน้าที่
เป็นเลขานุการสภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน และองคมนตรีสภาอีกด้วย
พ.ศ. 2432 ท่านได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุติยจุลจอมเกล้า และ
ได้รับพระราชทานพานหมากคนโททอง กระโถนทอง เป็นเครื่องยศ
- 10. พ.ศ. 2434 ท่านได้ป่วยด้วยโรคชรา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหมอ
หลวงรักษา และให้พาหมอเชลยศักดิ์มารักษาด้วย แต่อาการไม่ดีขึ้น ดังนั้นในวันที่ 16
ตุลาคม พ.ศ. 2434 ท่านได้ถึงแก่อนิจกรรมตรงกับรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรวมอายุได้ 69 ปี
- 13. วรรณพฤติคาฉันท์
ฉันท์กล่อมช้าง
ฉันทวิภาค
ร่ายนาโคลงภาพพระราชพงศาวดาร
โคลงภาพพระราชพงศาวดาร รูปที่ ๖๕ และ ๘๕
คานมัสการคุณานุคุณ
สยามสาธก วรรณสาทิศ
พรรณพฤกษา
พหุบาทสัตวาภิธาน
ฯลฯ
- 14. อนุสาวรีย์ของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ตั้งอยู่บนถนนศรีโสธรตัด
ใหม่ ในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ในคาขวัญประจาจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีการ
กล่าวถึงพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ไว้ในวรรคที่ 3 ว่า "...พระยาศรี
สุนทรปราชญ์ภาษาไทย..."