More Related Content
Similar to ความประเสริฐของ 10 คืนสุดท้ายเดือนเราะมะฎอน
Similar to ความประเสริฐของ 10 คืนสุดท้ายเดือนเราะมะฎอน (20)
More from Muhammadrusdee Almaarify
More from Muhammadrusdee Almaarify (20)
ความประเสริฐของ 10 คืนสุดท้ายเดือนเราะมะฎอน
- 2.
﴿رﻣﻀﺎن ﻣﻦ اﻷواﺧﺮ اﻟﻌﺮﺸ ﻓﻀﻞ﴾
»اﺤﻛ ﺑﺎﻟﻠﻐﺔﺎﻳﻼﻧﺪﻳﺔ«
د.اﻟﺸﻘﺎوي ﻋﺒﺪاﷲ ﺑﻦ أﻣﻦﻴ
ﺗﺮﻤﺟﺔ:ﻳﻌﻘﻮب ﺻﺮﺒي ﺤﻣﻤﺪ
ﻣﺮاﺟﻌﺔ:ﻋﺜﻤﺎن ﺻﺎﻲﻓ
اﻤﻟﺼﺪر:اﻤﻟﻠﻘﺎة اﻟﻠﻜﻤﺎت ﻣﻦ اﻤﻟﻨﺘﻘﺎة رر ا ﻛﺘﺎب
2011 – 1432
- 3. 3
ดวยพระนามของอัลลอฮฺ ผูทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
เรื่องที่ 17
ความประเสริฐของสิบคืนสุดทายเดือนเราะมะฎอน
มวลการสรรเสริญเปนของอัลลอฮฺ การสรรเสริญและ
ความศานติจงมีแดทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ
วะสัลลัม ฉันขอปฏิญาณวาไมมีพระเจาอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ
องคเดียว โดยไมมีภาคีใดๆ สําหรับพระองค และฉันขอ
ปฏิญาณวาทานนบีมุหัมมัดคือบาวและศาสนทูตของพระองค
แทจริง แบบอยางของทานนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ
วะสัลลัม ในชวงสิบวันสุดทายของเดือนนี้นั้นทานไดทุมเทอยาง
เต็มที่ในการทําอิบาดะฮฺอยางที่ไมเคยปรากฏในเดือนอื่นๆ ดังที่
ทานหญิงอาอิชะฮ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ไดเลาวา
»
َ
ن
َ
ﺎﻛ
ُ
ﻮل
ُ
ﺳَرِﷲا
َّ
ﻰﻠ
َ
ﺻُاﷲِﻪ
ْ
ﻴ
َ
ﻠ
َ
ﻋَﻢ
َّ
ﻠ
َ
ﺳَو
ُ
ﺪِﻬ
َ
ﺘ
ْ َ
ﺠﻳِﻲﻓِ
ْ
ﺮﺸ
َ
ﻌ
ْ
اﻟ
،ِﺮِﺧاَو
َ ْ
اﻷﺎ
َ
ﻣ
َ
ﻻ
ُ
ﺪِﻬ
َ
ﺘ
ْ َ
ﺠﻳِﻲﻓِهِ
ْ
ﺮﻴ
َ
ﻟ«)ﺑﺮﻗﻢ ﻣﺴﻠﻢ1175(
- 4. 4
ความวา “ทานนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดทุมเท
อยางเต็มที่(ในการทําอิบาดะฮฺ)ตลอดสิบวันสุดทายของ
เดือนเราะมะฎอน อยางที่ไมเคยปรากฏในเดือนอื่นๆ”
(บันทึกโดยมุสลิม : 1175)
และมีรายงานจากทานหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอัน
ฮา เชนเดียวกันวา
ُاﷲ َ ِ َر
َ
ﺔ
َ
ﺸِﺋ َﺨ ْﻦ
َ
ﻗ
ْ
ﺖ
َ
ﺎﻟ
َ
ﻗ ﺎَﻬ
ْ
ﻨ
َ
ﻗ:ُاﷲ
َّ
ﻰﻠ َﺻ ُّ
ِﻲﺒَّاﺠ
َ
ن
َ
ﺎﻛ
َ
ﻆ
َ
ﻘ
ْ
ﻓ
َ
أَو ،
ُ
ﻪ
َ
ﻠْ َ
ﺎَﻴ
ْ
ﺣ
َ
أَو ،ُهَرَ ْ
ﺰﺌِﻣ
َّ
ﺪ
َ
ﺷ ُ ْ
ﺮﺸَﻌ
ْ
اﻟ
َ
ﻞ
َ
ﺧ
َ
د ا
َ
ذِإ َﻢ
َّ
ﻠَﺳَو ِﻪ
ْ
ﻴ
َ
ﻠَﻋ
ُ
ﻪ
َ
ﻠ
ْ
ﻫ
َ
أ) .رﻗﻢ اﻛﺨﺎري2024،رﻗﻢ ﻣﺴﻠﻢ832(
ความวา “ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ
วะสัลลัม นั้น เมื่อถึงชวงสิบวันสุดทายของเราะมะฎอน
ทานจะรัดผานุงไวใหแนน(หมายถึงไมรวมหลับนอนกับ
ภรรยา) ทานจะใหชีวิตแกค่ําคืน(หมายถึงประกอบอิบา
ดะฮฺในยามค่ําคืน) และทานจะปลุกบรรดาภรรยาของทาน
(ใหลุกขึ้นมาประกอบอิบาดะฮฺ)” (รายงานโดย อัล-บุคอรีย :
2024 และมุสลิม : 832)
- 5. 5
ทานไดทําใหค่ําคืนมีชีวิตชีวาดวยกับการละหมาด การ
ซิกิรฺ(รําลึกถึงอัลลอฮฺ) การขอดุอาอ และไดปลุกบรรดาภรรยา
ของทานจากการนอน ทั้งนี้ก็เพื่อใหพวกเขาไดทุมเทอยางเต็มที่
ในการละหมาด ซิกิรฺ และการวิงวอนตออัลลอฮฺ ตะอาลา
เหลานี้คือแบบอยางหรือสุนนะฮฺของทานนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะ
ลัยฮิ วะสัลลัม ที่มุสลิมบางคนไมคอยใหความใสใจมากนัก
ซึ่งอัลลอฮฺ ตะอาลา ไดดํารัสวา
﴿اٗار
َ
ن ۡم
ُ
ِيكل
ۡ
ه
َ
أَو ۡم
ُ
ك َس
ُ
نف
َ
أ
ْ
آو
ُ
ق
ْ
واُنَامَء َِين
َّ
ٱل اَهُّي
َ
أٰٓ َ
ي
َّ ٞ
ادَِدش
ٞ
ظ
َ
ِغ
ٌ
ة
َ
كِئٰٓ
َ
لَم اَهۡي
َ
ل
َ
ع ُةَارَِج
ۡ
ٱلَو ُاسَّٱل ا
َ
ه
ُ
ود
ُ
قَو
َي
َ
ونُرَم
ۡ
ؤُي اَم
َ
ون
ُ
لَع
ۡ
فَيَو ۡم
ُ
هَرَم
َ
أ
ٓ
اَم َ َّ
ٱ
َ
ون ُصۡع٦﴾
]اﺤﻛﺤﺮﻳﻢ:٦[
ความวา “โอบรรดาผูศรัทธาเอย จงคุมครองตัวของพวก
เจาและครอบครัวของพวกเจาใหพนจากไฟนรก เพราะ
เชื้อเพลิงของมันคือมนุษย และกอนหิน มีมะลาอิกะฮฺผู
กราวหาญคอยเฝารักษามันอยู พวกเขาจะไมฝาฝนอัลลอ
- 6. 6
ฮฺในสิ่งที่พระองคทรงบัญชาแกพวกเขา และพวกเขาจะ
ปฏิบัติตามที่ถูกบัญชา” (สูเราะฮฺ อัต-ตะหฺรีม : 6)
สําหรับ “การรัดผานุงไวใหแนน” มีนักวิชาการหลาย
ทานไดกลาววา นั้นคือเปนการเปรียบเปรยจากการไมรวมหลับ
นอนกับภรรยาและอุทิศกับการทําอิบาดะฮฺ และดวยเหตุนี้เอง
ทานนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม จึงไดอิอฺติกาฟในชวง
สิบคืนสุดทายนี้ที่มัสญิด โดยไดตัดขาดจากโลกดุนยา และใช
ชีวิตอยางสันโดษกับพระผูเปนเจาของทาน ขอดุอาอตอ
พระองค รองทุกข(มุนาญาฮฺ)ตอพระองค ขอความชวยเหลือตอ
พระองค และวอนขอตอพระองค
การอิอฺติกาฟนั้น ถือเปนหนึ่งในอิบาดะฮฺที่ใหประโยชน
อยางยิ่งยวดในแงของการชวยขัดเกลาหัวใจใหดีงาม รวบรวม
และเพิ่มพูนความมุงมั่นทะเยอทะยาน ขจัดมลทินและความ
บกพรองทั้งหลาย ใครก็ตามที่ไดทดลองแลวเขายอมจะรูดีที่สุด
ดังมีรายงานจากทานหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอัน
ฮา ไดเลาวา
- 8. 8
มีรายงานจากทานอบู สะอีด อัล-คุดรีย เราะฎิยัลลอฮุ
อันฮุ ไดเลาวา
َّ
نِإ
َ
ﻮلُﺳَرِﷲا
َّ
ﻰﻠ َﺻُاﷲِﻪ
ْ
ﻴ
َ
ﻠَﻋَﻢ
َّ
ﻠَﺳَو
َ
ﻒ
َ
ﻜَﺘ
ْ
اﻗَ ْ
ﺮﺸَﻌ
ْ
اﻟ
َ
لَّو
َ ْ
اﻷ
ْﻦِﻣ،
َ
ﺎن
َ
ﻀَﻣَرَّﻢ
ُ
ﻋ
َ
ﻒ
َ
ﻜَﺘ
ْ
اﻗَ ْ
ﺮﺸَﻌ
ْ
اﻟ، َﻂَﺳْو
َ ْ
اﻷِﻲﻓٍﺔَّﺒ
ُ
ﻗْﺮ
ُ
ﺗٍﺔَّﻴِﻛ
َ َﺒﻟﺎَﻬِﺗ
َّ
ﺪُﺳ،ٌﺮﻴ ِﺼَﺣ
َ
ﺎل
َ
ﻗ:
َ
ﺬ
َ
ﺧ
َ
ﺄ
َ
ﻓَﺮﻴ ِﺼَْ
اﺤﻟِهِﺪَﻴِﻧﺎ
َ
ﺎﻫَّﺤ
َ
ﻨ
َ
ﻓِﻲﻓ
ِﺔَﻴِﺎﺣ
َ
ﻧ،ِﺔَّﺒ
ُ
ﻘ
ْ
اﻟَّﻢ
ُ
ﻋَﻊ
َ
ﻠ ْﻃ
َ
أ
ُ
ﻪَﺳ
ْ
أَرَﻢ
َّ َ
ﻠﻜ
َ
ﻓ، َﺎسَّاﺠاْﻮ
َ
ﻧ
َ
ﺪ
َ
ﻓ،
ُ
ﻪ
ْ
ﻨِﻣ
َ
ﺎل
َ
ﻘ
َ
ﻓ:
»
ِّ
ِإ
ُ
ﺖ
ْ
ﻔ
َ
ﻜ
َ
ﺘ
ْ
اﻗَ ْ
ﺮﺸ
َ
ﻌ
ْ
اﻟ،
َ
لَّو
َ ْ
اﻷ
ُ
ﺲِﻤَ ْ
ﺤﻛ
َ
أِهِﺬ
َ
ﻫ،
َ
ﺔ
َ
ﻠ
ْ
ﻴ
َّ
اﻟﻠَّﻢ
ُ
ﻋ
ُ
ﺖ
ْ
ﻔ
َ
ﻜ
َ
ﺘ
ْ
اﻗَ ْ
ﺮﺸ
َ
ﻌ
ْ
اﻟ،
َ
ﻂ
َ
ﺳْو
َ ْ
اﻷَّﻢ
ُ
ﻋ،
ُ
ِﻴﺖﻳ
ُ
أ
َ
ﻴﻞِﻘ
َ
ﻓِﻲﻟ:ﺎ
َ
ﻬ
َّ
ﻏِإِﻲﻓ
ِ
ْ
ﺮﺸ
َ
ﻌ
ْ
اﻟ،ِﺮِﺧاَو
َ ْ
اﻷ
ْ
ﻦ
َ
ﻤ
َ
ﻓَّﺐ
َ
ﺣ
َ
أ
ْ
ﻢ
ُ
ﻜ
ْ
ِﻨﻣ
ْ
ن
َ
أ
َ
ِﻒﻜ
َ
ﺘ
ْ
ﻌ
َ
ﻓ
ْ
ِﻒﻜ
َ
ﺘ
ْ
ﻌ
َ
ﻴ
ْ
ﻠ
َ
ﻓ«،
َ
ﻒ
َ
ﻜَﺘ
ْ
ﺎﻗ
َ
ﻓُﺎسَّاﺠ
ُ
ﻪَﻌَﻣ)ﺑﺮﻗﻢ اﻛﺨﺎري2018
ﻣﺴﻠﻢ215(
ความวา “แทจริงทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ
วะสัลลัม เคยอิอฺติกาฟในชวงสิบวันแรกของเดือนเราะ
มะฎอน หลังจากนั้นทานอิอฺติกาฟตออีกในชวงสิบวัน
กลางของเดือนเราะมะฎอนโดยพํานักอยูในกุบบะฮฺ ตุรกิ
ยะฮฺ (หมายถึงกระโจมหรือโดมเล็กๆ) ซึ่งที่ประตูกุบบะฮฺ
- 9. 9
นั้นมีเสื่ออยูผืนหนึ่ง ทานไดใชมือหยิบเสื่อผืนนั้นเพื่อปูไว
ในกุบบะฮฺ แลวโผลหัวมาพูดกับผูคนโดยเรียกใหคนเขา
ใกลทานแลวกลาววา “แทจริงฉันเคยอิอฺติกาฟในชวงสิบ
วันแรกของเดือนเราะมะฎอนเพื่อแสวงหาค่ําคืนนี้ (ลัยละ
ตุลก็อดรฺ) หลังจากนั้นฉันอิอฺติกาฟตอไปในชวงสิบวัน
กลางของเดือนเราะมะฎอน และแลวมีผูหนึ่งมาหาฉัน
และบอกฉันวา แทจริงค่ําคืนนี้ (ลัยละตุลก็อดรฺ) อยูในชวง
สิบวันสุดทาย ดังนั้น ใครก็ตามในหมูพวกทานที่ชอบ
จะอิอฺติกาฟ เขาจงอิอฺติกาฟในชวงสิบวันสุดทาย" แลว
ผูคนตางก็รวมอิอฺติกาฟกับทานนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ
วะสัลลัม” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย 2018และมุสลิม 215)
ซึ่งนี่คือค่ําคืนที่ยิ่งใหญและมีความจําเริญยิ่ง ผูที่ไมได
รับความดีงามใดๆ จากมันก็แสดงวาเขาเปนบุคคลที่ขาดทุนแน
แลว นั่นคือสิบวันสุดทาย(ของเดือนเราะมะฎอน)ที่มันจะ
เคลื่อนยายไปตลอด(ทุกๆป โดยที่ปหนึ่งจะอยูในค่ําคืนหนึ่งและป
ตอไปก็จะอยูในอีกคืนหนึ่ง-ผูแปล)ตามที่อัลลอฮฺทรงประสงค
- 10. 10
ดังที่มีรายงานจากทานหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอัน
ฮา ไดเลาวา ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม
ไดกลาววา
»اْوَّﺮَ َ
ﺤﺗ
َ
ﺔ
َ
ﻠْ َ
ِر
ْ
ﺪ
َ
اﻟﻘِﻲﻓ،ِﺮ
ْ
ﺗِاﻟﻮَِﻦﻣِ
ْ
ﺮﺸ
َ
اﻟﻌِﺮِﺧاَو
َ
اﻷ
ْ
ِﻦﻣ
َ
ﺎن
َ
ﻀ
َ
ﻣَر«)ﺑﺮﻗﻢ اﻛﺨﺎري2017(
ความวา“พวกเจาจงแสวงหาค่ําคืนลัยละตุลก็อดรฺในค่ําคืนที่
เปนคี่จากค่ําคืนสุดทายของเดือนเราะมะฎอนเถิด”(บันทึกโดย
อัล-บุคอรีย:2017)
และไดเนนย้ําในเจ็ดคืนสุดทาย(ของเดือนเราะมะฎอน)ดังที่
ทานอิบนุอุมัรฺเราะฎิยัลลอฮุอันฮุมาไดเลาวา
َّ
ن
َ
أ
ً
ﺎﻻَﺟِرْﻦِﻣِﺎبَﺤ
ْ
ﺻ
َ
أِّ
ِﻲﺒَّاﺠ
َّ
ﻰﻠ َﺻُاﷲِﻪ
ْ
ﻴ
َ
ﻠَﻋ،َﻢ
َّ
ﻠَﺳَوواُر
ُ
أ
َ
ﺔ
َ
ﻠْ َ
ِر
ْ
ﺪ
َ
اﻟﻘِﻲﻓِﺎم
َ
ﻨَاﻟﻤِﻲﻓِﻊ
ْ
ﺒ َّاﻟﺴ،ِﺮِاﺧَو
َ
اﻷ
َ
ﺎل
َ
ﻘ
َ
ﻓ
ُ
ﻮلُﺳَرِ
َّ
اﺑ
َّ
ﻰﻠ َﺻُاﷲِﻪ
ْ
ﻴ
َ
ﻠَﻋَﻢ
َّ
ﻠَﺳَو:»ىَر
َ
أ
ْ
ﻢ
ُ
ﺎﻛ
َ
ﻳ
ْ
ؤُر
ْ
ﺪ
َ
ﻗ
ْ
ت
َ
ﺄ
َ
اﻃَﻮ
َ
ﺗِﻲﻓ
ِﻊ
ْ
ﺒ
َّ
اﻟﺴ،ِﺮِﺧاَو
َ
اﻷ
ْ
ﻦ
َ
ﻤ
َ
ﻓ
َ
ن
َ
ﺎﻛﺎ
َ
ﻳﻬِّﺮ
َ
ﺤ
َ
ﺘ
ُ
ﻣﺎ
َ
ﻫَّﺮ
َ
ﺤ
َ
ﺘ
َ
ﻴ
ْ
ﻠ
َ
ﻓِﻲﻓِﻊ
ْ
ﺒ
َّ
اﻟﺴ
ِﺮِﺧاَو
َ
اﻷ«)ﺑﺮﻗﻢ اﻛﺨﺎري2015وﻣﺴﻠﻢ1165(
- 11. 11
ความวา “มีชายกลุมหนึ่งจากบรรดาเศาะฮาบะฮฺของทานนบี
ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดเห็นค่ําคืนลัยละตุลก็อดรฺใน
ความฝนในเจ็ดคืนสุดทาย(ของเดือนเราะมะฎอน) ทานนบี
ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม จึงกลาววา “ฉันเห็นวาพวก
ทานนั้นไดฝนตรงกันวามันจะเกิดขึ้นในเจ็ดคืนสุดทาย ดังนั้น
หากผูใดตองการแสวงหามัน ก็จงแสวงหาในเจ็ดคืนสุดทาย
เถิด”(บันทึกโดยอัล-บุคอรีย2015และมุสลิม1165)
และปรากฏวาทานอุบัยย บินกะอับเราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได
สาบานวาค่ําคืนลัยละตุลก็อดรนั้นคือค่ําคืนที่ 27 (ของเดือนเราะ
มะฎอน)ซึ่งทานซิรฺบินหุบัยชฺไดเลาวา
ُﺖ
ْ
ﻌِﻤَﺳَّ َ ُ
أَﻦْﻧ، ٍﺐ
ْ
ﻌ
َ
ﻛ
ُ
ﻮل
ُ
ﻘ
َ
ﻓ:
َ
ﻴﻞِﻗَوُ ََّ
نِإ
َ
ﺪ
ْ
ﺒ
َ
ﻗِﷲاَﻦْﻧ
،ٍدﻮُﻌْﺴَﻣ
ُ
ﻮل
ُ
ﻘ
َ
ﻓ:ْﻦَﻣَﺎم
َ
ﻗ
َ
ﺔ
َ
ﻨ َّاﻟﺴَﺎب َﺻ
َ
أ
َ
ﺔ
َ
ﻠْ َ
ِر
ْ
ﺪ
َ
ﻘ
ْ
اﻟ،
َ
ﺎل
َ
ﻘ
َ
ﻓ
ٌّ َ ُ
أ:ِﷲاَويِ
َّ
ا
َ
ﻻَ َ
ِإ
َّ
ﻻِإ،َﻮ
ُ
ﻫﺎَﻬ
َّ
ﻏِإِﻲﻔ
َ
ﻟ،
َ
ﺎن
َ
ﻀَﻣَر
ُ
ﻒِﻠ
ْ َ
ﺤﻳﺎَﻣ
، ِﻲﻨ
ْ
ﺜ
َ
ﺘْﺴَﻳِﷲاَوَو
ِّ
ِإُﻢ
َ
ﻠ
ْ
ﻋ
َ َ
ﻷُّي
َ
أٍﺔ
َ
ﻠْ َ
، َ ِﻲﻫَ ِﻲﻫ
ُ
ﺔ
َ
ﻠ
ْ
ﻴ
َّ
اﻟﻠِﻲﺘ
َّ
اﻟ
ﺎ
َ
ﻧَﺮَﻣ
َ
أﺎَﻬِﺑ
ُ
ﻮلُﺳَرِﷲا
َّ
ﻰﻠ َﺻُاﷲِﻪ
ْ
ﻴ
َ
ﻠَﻋَﻢ
َّ
ﻠَﺳَو،ﺎَﻬِﻣﺎَﻴِﻘِﺑَ ِﻲﻫ
ُ
ﺔ
َ
ﻠْ َ
- 12. 12
ِﺔَﻴﺤِﺒ َﺻٍﻊ
ْ
ﺒَﺳ، َﻳﻦِ
ْ
ﺮﺸِﻋَوﺎَﻬ
ُ
ﻳَﺎرَﻣ
َ
أَو
ْ
ن
َ
أَﻊ
ُ
ﻠ ْﻄ
َ
ﻳُﺲ
ْ
ﻤ
َّ
اﻟﺸِﻲﻓ
ِﺔَﻴﺤِﺒ َﺻﺎَﻬِﻣْﻮَﻳَﺎء
َ
ﻀ
ْ
ﻴَﻧ
َ
ﻻ
َ
ﺎعَﻌ
ُ
ﺷﺎَﻬ
َ
ﻟ.)ﺑﺮﻗﻢ ﻣﺴﻠﻢ762(
ความวา“ฉันไดยินทานอุบัยย บิน กะอับ กลาววา มีคนกลาว
แกทานวา ทานอับดุลลอฮฺ บิน มัสอูด ไดกลาววา ผูใดที่ได
ปฏิบัติกิยามุลลัยลฺตลอดทั้งปเขายอมไดพบกับค่ําคืนลัยละ
ตุลก็อดรฺอยางแนนอน ทานอุบัยยจึงกลาวเสริมวา ขอสาบาน
ตออัลลอฮฺผูทรงไมมีพระเจาอื่นใดนอกจากพระองควา มัน
ยอมอยูในเดือนเราะมะฎอนอยางแนนอน และขอสาบาน
ตออัลลอฮฺวาแทจริงฉันไดทราบแลววามันคือคืนไหน มันคือ
ค่ําคืนที่ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม เคย
สั่งใชใหเราตื่นขึ้นทํากิยามุลลัยลฺ มันคือค่ําคืนที่ 27 โดย
เครื่องหมายของมันก็คือดวงอาทิตยจะโผลขึ้นมาในเชาวัน
ใหมในสภาพสีขาวนวลไมมีแสงที่สองจา” (บันทึกโดยมุสลิม:
762)
และมีรายงานจากทานอบู สะอีดอัล-คุดรีย เราะฎิยัลลอฮุ
อันฮุ ไดเลาวาทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได
กลาววา
- 13. 13
»
ْ
ﺪ
َ
ﻗَو
ُ
ﺖ
ْ
ﻳ
َ
أَرِهِﺬ
َ
ﻫ
َ
ﺔ
َ
ﻠ
ْ
ﻴ
َّ
اﻟﻠ،ﺎ
َ
ﻬ
ُ
ﻴﺘِﺴ
ْ
ﻧ
ُ
ﺄ
َ
ﻓﺎ
َ
ﻮﻫ
ُ
ﺴِﻤَ ْ
ﺎﺤﻛ
َ
ﻓِﻲﻓِ
ْ
ﺮﺸ
َ
ﻌ
ْ
اﻟ
،ِﺮِﺧاَو
َ ْ
اﻷِﻲﻓ
ِّ ُ
ﻞﻛ،ٍﺮ
ْ
ﺗِو
ْ
ﺪ
َ
ﻗَوِﻲﻨ
ُ
ﺘ
ْ
ﻳ
َ
أَر
ُ
ﺪ
ُ
ﺠ
ْ
ﺳ
َ
أِﻲﻓٍءﺎ
َ
ﻣٍِﻦﻴﻃَو«
َ
ﺎل
َ
ﻗ
ﻮُﺑ
َ
أٍﻴﺪِﻌَﺳُّيِر
ْ
ﺪُْ
اﺨﻟ:ﺎ
َ
ﻧْﺮِﻄُﻣ
َ
ﺔ
َ
ﻠْ َ
ى
َ
ﺪ
ْ
ﺣِإ، َﻳﻦِ
ْ
ﺮﺸِﻋَو
َ
ﻒ
َ
ﻛَﻮ
َ
ﻓ
ُﺪِﺠْﺴَﻤ
ْ
اﻟِﻲﻓ
َّ
ﻰﻠ َﺼُﻣِﻮلُﺳَرِﷲا
َّ
ﻰﻠ َﺻُاﷲِﻪ
ْ
ﻴ
َ
ﻠَﻋ،َﻢ
َّ
ﻠَﺳَو
ُ
تْﺮ
َ
ﻈ
َ
ﻨ
َ
ﻓِإِﻪْ َ
ِﺪ
َ
ﻗَو
َ
فَ َﺮﺼ
ْ
اﻧْﻦِﻣِة
َ
ﻼ َﺻ، ِﺢ
ْ
ﺒ ُّاﻟﺼ
ُ
ﻪُﻬ
ْ
ﺟَوَو
ٌّ
ﻞَﺘ
ْ
ﺒُﻣ
ﺎ
ً
ﻴﻨِﻃًﺎءَﻣَو.)ﺑﺮﻗﻢ اﻛﺨﺎري2027ﺑﺮﻗﻢ وﻣﺴﻠﻢ1167(
ความวา “แทจริงฉันไดเห็นค่ําคืนลัยละตุลก็อดรฺแตแลวฉันก็
ถูกทําใหลืมมัน ดังนั้นพวกเจาจงแสวงหามันในสิบวันสุดทาย
(ของเดือนเราะมะฎอน) ในคืนที่เปนคี่ และฉันเห็นวาตัวเองได
สุูดบนน้ําและโคลนแลว” ทานอบู สะอีด อัล-คุดรีย ไดเลา
อีกวา ฝนไดตกลงมายังพวกเราในค่ําคืนที่ 21 ของเดือน
เราะมะฎอน ทําใหมัสยิดจึงมีน้ําหยด(รั่ว)ลงมายังสถานที่
ละหมาดของทานนบี ศ็อลลัลลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ดังนั้น
เราจึงมองไปยังทานนบี ซึ่งเปนเวลาที่ทานเสร็จจากการ
ละหมาดศุบหฺแลว และ(เราพบวา)หนาของทานเปยกชุม
ดวยดินโคลนและน้ํา” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย 2027 และ
มุสลิม 1167 )
- 14. 14
ทานอัล-หาฟซ อิบนุหะญัร ไดกลาววา “ทัศนะที่ถูกตอง
นั้นคือ ค่ําคืนลัยละตุลก็อดรฺจะมีในวันคี่ของสิบสุดทาย(ของ
เดือนเราะมะฎอน)และมันจะเคลื่อนยายไปตลอด(ทุกๆป โดย
ที่ปหนึ่งจะอยูในค่ําคืนหนึ่ง และปตอไปก็จะอยูในอีกคืนหนึ่ง -
ผูแปล)”(ฟตหุลบารีย4/266)
และนี่คือหิกมะฮฺ(เหตุผลหรือวิทยปญญา)ของพระผูเปนเจา
(ที่ใหค่ําคืนลัยละตุลก็อดรฺมีการสับเปลี่ยนและหมุนเวียนกันตลอด-ผู
แปล)ซึ่งหากมีการระบุเจาะจงวาค่ําคืนลัยละตุลก็อดรฺนั้นคือค่ําคืนใด
ผูคนก็จะมุงทุมเทในการทําอิบาดะฮฺตางๆเฉพาะค่ําคืนนั้นอยางเดียว
แลวจะละทิ้งในค่ําคืนที่เหลือถาเปนเชนนั้นก็จะกลายเปนวาผูที่มี
ความทุมเทอยางเต็มที่กับผูที่มีความเกียจครานนั้นไมไดแตกตางอะไร
เลย
และทานนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม เองก็มีความ
พยายามที่จะรักษาในการทําอิบาดะฮฺในค่ําคืนดังกลาว เนื่อง
จากอัลลอฮฺไดใหในค่ําคืนนั้นมีความประเสริฐและผลบุญตางๆอยาง
มากมาย
- 16. 16
อัลลอฮฺไดดํารัสอีกวา
﴿
ٓ
ا
َّ
نِإُهٰ َن
ۡ
لَنز
َ
أِفِة
َ
لۡ َ
لِرۡد
َ
ق
ۡ
ٱل١﴾]اﻟﻘﺪر:١[
ความวา “แทจริงเราไดประทานอัลกุรอานลงมาในคืนอัล-ก็
อดรฺ”(สูเราะฮฺอัล-ก็อดรฺ:1)
ในจํานวน(ความประเสริฐของค่ําคืนนั้น)อีกคือบรรดามะลาอิ
กะฮฺจะลงมาในค่ําคืนนั้นและมันจะเต็มไปดวยความดีงามและความ
จําเริญตางๆอัลลอฮฺตะอาลาไดมีดํารัสวา
﴿
ُ
لَّ َ
ن
َ
ت
ُ
ة
َ
كِئٰٓ
َ
لَم
ۡ
ٱلُوحُّٱلرَواَِيهفِن
ۡ
ذِإِبمِهِ
ّبَرِنّمِ
ّ ُ
كٖرۡم
َ
أ٤
ٌمٰ َ
لَسَ ِهٰ َّتَحِع
َ
ل ۡطَمِرۡج
َ
ف
ۡ
ٱل٥﴾]اﻟﻘﺪر:٤،٥[
ความวา“บรรดามะลาอิกะฮฺและอัร-รูหฺ(ญิบรีล)จะลงมาในคืน
นั้น โดยอนุมัติแหงพระเจาของพวกเขาเนื่องจากกิจการทุกๆ
สิ่ง คืนนั้นมีความศานติจนกระทั่งรุงอรุณ”(สูเราะฮฺ อัล-ก็อดรฺ :
4-5)
และในจํานวน(ความประเสริฐของค่ําคืนนั้น)คืออัลลอฮฺจะ
ทรงใหอภัยโทษสําหรับผูที่ดํารงอิบาดะฮฺในค่ําคืนนั้นดวยเปยม
- 17. 17
ศรัทธาตออัลลอฮฺและหวังในความโปรดปรานและผลตอบแทนจาก
พระองค ดังที่ทานอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ไดเลาวา
ทานนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไดกลาววา
»َو
ْ
ﻦ
َ
ﻣ
َ
ﺎم
َ
ﻗ
َ
ﺎن
َ
ﻀ
َ
ﻣَرﺎ
ً
ﺎﻧ
َ
ﻳﻤِإ،ﺎ
ً
ﺎﺑ
َ
ﺴِﺘ
ْ
اﺣَوَﺮِﻔ
ُ
ﻏُ َ
ﺎ
َ
ﻣ
َ
م
َّ
ﺪ
َ
ﻘ
َ
ﻳ
ْ
ِﻦﻣ
ِﻪِﺒ
ْ
ﻧ
َ
ذ«)ﺑﺮﻗﻢ اﻛﺨﺎري2009ﺑﺮﻗﻢ وﻣﺴﻠﻢ759(
ความวา "และผูใดที่ลุกขึ้น(อิบาดะฮฺ)ในค่ําคืนอัล-ก็อดรฺดวย
เปยมศรัทธาตออัลลอฮฺ และหวังในความโปรดปรานและ
ผลตอบแทนจากพระองค เขาจะไดรับการอภัยโทษจากบาปที่
ผานมา"(บันทึกโดยอัล-บุคอรีย:2009และมุสลิม:759)
และแทจริงทานนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดให
ขอแนะนําแกทานหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮาในครั้งที่ทาน
หญิงไดถามทานวาโอทานเราะสูลุลลอฮฺ หากฉันทราบวาค่ําคืนใด
เปนค่ําคืนลัยละตุลก็อดรฺ ฉันควรอานดุอาออะไรบาง ? ทานนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงตอบวาเธอก็จงอาน(ดุอาอ)
»
ِّ
ﻲﻨ
َ
ﻗ
ُ
ﻒ
ْ
ﺎﻗ
َ
ﻓ َﻮ
ْ
ﻔ
َ
ﻌ
ْ
اﻟ ُِّﺐ
ُ
ﺤﺗ ٌّﻮ
ُ
ﻔ
َ
ﻗ
َ
ﻚ
َّ
ﻧِإاﻢﻬﻠﻟ«)ﺑﺮﻗﻢاﻟﺮﺘﻣﺬي3513
واﻟﺮﺘﻫﻴﺐاﻟﺮﺘﻏﻴﺐﺻﺤﻴﺢﻲﻓ اﻷﻛﺎوﺻﺤﺤﻪ،3391(
- 18. 18
ความวา“โอองคอภิบาลของฉัน แทจริงพระองคเปนผูที่ทรงให
อภัย พระองคชอบที่จะใหอภัย (บาปตางๆ ของบาวของ
พระองค)ดังนั้นขอพระองคโปรดประทานอภัยใน (บาปตางๆ)
ของขาดวยเถิด”(บันทึกโดยอัต-ติรมิซีย 3513 ชัยคฺอัล-อัลบานีย มี
ทัศนะวาเศาะฮีหฺในหนังสือเศาะฮีหฺอัต-ตัรฆีบวัต-ตัรฮีบ3391)
มวลการสรรเสริญเปนกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ผูทรงเปนพระผู
อภิบาลแหงสากลโลกการสรรเสริญและความศานติของอัลลอฮฺจงมี
แดทานนบีมุหัมมัดของเราบรรดาเครือญาติ ตลอดจนบรรดาเศาะ
หาบะฮฺทั้งหลายของทานดวยเทอญ