More Related Content
Similar to แผนการจัดการเรียนรู้วิชาอัลอัคลาก ปี 4 เทอม 2 ปีการศึกษา 2555
Similar to แผนการจัดการเรียนรู้วิชาอัลอัคลาก ปี 4 เทอม 2 ปีการศึกษา 2555 (20)
More from Muhammadrusdee Almaarify
More from Muhammadrusdee Almaarify (20)
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาอัลอัคลาก ปี 4 เทอม 2 ปีการศึกษา 2555
- 1. วิชา : อัลอัคลาก
ชั้น : ระดับอิสลามศึกษาตอนปลายชั้นปที่ 4
ภาคเรียน / ปการศึกษา : 2 / 2555
อาจารยผูสอน : ออ..มูหัมหมัดรุสดี อัลมะอาริฟมูหัมหมัดรุสดี อัลมะอาริฟยย
โรงเรียนสามารถดีวิทยา
อําเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
- 2. บันทึกขอความ
ที วสว. 017 / 2555
วันที พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
เรือง ขออนุมัติการใช้แผนการจัดการเรียนรู้
เรียน ผู้อํานวยการโรงเรียนสามารถดีวิทยา
ด้วยฝ่ายวิชาการอิสลามศึกษา โรงเรียนสามารถดีวิทยา ได้มีนโยบายเกียวกับการ
จัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพจึงได้กําหนดให้ครูผู้สอนมีการจัดทําแผนการ
จัดการเรียนรู้ทีเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ บัดนี ข้าพเจ้าได้จัดทําแผนการจัดการเรียนรู้ประจํา
ภาคเรียนที 2/2555 เรียบร้อย ดังรายละเอียดทีปรากฏในแผนการจัดการเรียนรู้
ในการนีจึงขออนุมัติใช้แผนการจัดการเรียนรู้
ลงชือ………………………………ผู้ขอใช้แผน
(นายมูหัมหมัดรุสดี อัลมะอาริฟีย์)
ครูผู้สอน
ลงชือ………………………………ผู้ตรวจสอบ
(นายมาหะมะ บาราเตะ)
รองหัวหน้าฝ่ายวิชาการอิสลามศึกษา
ลงชือ………………………………ผู้อนุมัติใช้แผน
(นายอําพล พลาสิน)
ผู้อํานวยการโรงเรียนสามารถดีวิทยา
- 3. คําอธิบายรายวิชา
รายวิชา อัลอัคลาก กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมและจริยธรรม
ชันอิสลามศึกษาปีที 4 ภาคเรียนที 2 รหัสวิชา สจ 41162
เวลา 20 ชัวโมง จํานวน 0.5 หน่วยกิต
ศึกษา ค้นคว้า สังเกต รายงานและอภิปรายหลักฐานจากอัลกุรอานและอัลฮะดีษถึง
ความสําคัญของจริยธรรมอิสลามในเรือง การมีมารยาทในการสามัคคีการห้ามคิดร้ายต่อผู้อืน การ
ห้ามนินทา และห้ามแตกแยก
เพือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ความเชือมัน พึงพอใจ ชืนชมในการปฏิบัติตามมารยาท
ต่างๆในการดําเนินชีวิตเพือการอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
- 4. โครงสร้างรายวิชา อัลอัคลาก (ภาคเรียนที 2)
ชันอิสลามศึกษาปีที 4
ลําดับ
ที
ชือหน่วยการเรียน
มาตรฐานการ
เรียนรู้
สาระสําคัญ
เวลา
(ชัวโมง)
5
การประชุมระบบชู
รอในอิสลาม
สจ 2.1 , 2.2 ชูรอ คือ การเสนอความคิดเห็นที่แตกตางกันตอ
เรื่องใด เรื่องหนึ่งโดยที่มีการตรวจสอบ
พิจารณาโดยนักคิด ผูเชี่ยวชาญ จนกระทั่งคนพบ
ความจริง หรือทัศนะที่สูงสุดและถูกตองสําหรับ
การนําไปประยุกตใชในกิจการนั้น ﻣﺟﻠس
اﻟﺷورى คือ สภาชูรอ /สํานักชูรอ
6
6
การช่วยเหลือสิงที
ดีและการตักวา
สจ 2.1 , 2.2 การใหความชวยเหลือกันระหวางผูศรัทธานั้น
จะตองดูใหครบทุกๆดาน ทุกๆเรื่อง ไมวาจะเปน
เรื่องในทางโลกอาคิเราะห หรือการดําเนินชีวิตใน
ดุนยา เปรียบไดกับอาคาร ทุกชิ้นสวนของมัน
จะตองยึดเหนี่ยวซึ่งกันและกัน จึงจะทําใหอาคาร
นั้นแข็งแรงมั่นคง
4
7
คุณค่าของเวลา สจ 2.1 , 2.2 เวลาเปนสิ่งมีคา ชาวตะวันตกถือวาเวลา
คือทองคํา แตอิสลามสอนวาเวลามีคายิ่งกวานั้น
เพราะเวลาคือชวงชีวิตที่พระเจามอบใหมนุษยแต
ละคนในโลกนี้เพื่อเตรียมตัวไวสําหรับอนาคตใน
โลกหนา ในอดีต นักวิชาการมุสลิมเขาใจถึงคุณคา
ของเวลาดีกวาชาวตะวันตกเสียอีกและการรูจัก
คุณคาของเวลานี้เองคือเหตุผลที่ทําใหทําใหบรรพ
ชนมุสลิมในอดีตประสบความสําเร็จในการฟนฟู
ศาสนา
5
8
การนินทาผู้อืน สจ 2.1 , 2.2 การนินทาวาราย ถือวาเปนการกระทําที่ไมดีอยาง
มาก และเปนการแสดงออกถึงความไรจรรยา
มารยาท ผูที่มีจิตใจออนแอและมีจิตใจที่ไรอีหมาน
จะไมสามารถหลีกเหลี่ยงจากการกระทําอันนี้ได
และมันยังเปนบาปใหญที่มุสลิมจะตองละทิ้ง การ
นินทาเปรียบเสมือนการคาที่ประสบกับการ
ขาดทุน โดยที่ผลของการนินทาจะมากัดกรอน
ความดีของเขาใหหมดไป ความผิดบาปจะเขามา
แทนที่ความดี
5
- 5. ตารางโครงสร้างแผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชา อัลอัคลาก ชันอิสลามศึกษาปีที 4
ภาคเรียนที 2 เวลา 20 ชัวโมง
หน่วยการเรียนรู้
แผนการจัด
การเรียนรู้
วิธีสอน / กระบวนการจัด
การเรียนรู้
ทักษะการคิด
เวลา
(ชัวโมง)
หน่วยการเรียนรู้ที5
การประชุมระบบชูรอใน
อิสลาม
1. ความหมายการชู
รอ ความสําคัญ
ประวัติความเป็นมา
หุกุมและหลักฐาน
1. วิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่ม
2. วิธีสอนแบบกระบวนการ
สร้างความตระหนัก
1. ทักษะการคิดวิเคราะห์
2. ทักษะการคิดสร้างสรรค์
4
2. คุณสมบัติที
ปรึกษาและเป้ าหมาย
- วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้
แบบร่วมมือ
1. ทักษะการคิดวิเคราะห์
2. ทักษะการคิดสร้างสรรค์
2
หน่วยการเรียนรู้ที6
การช่วยเหลือสิงทีดีและ
การตักวา
3. ความหมายและ
ความสําคัญของการ
ช่วยเหลือ
1. วิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่ม
2. วิธีสอนแบบกระบวนการ
สร้างความตระหนัก
1. ทักษะการคิดวิเคราะห์
2. ทักษะการคิด
สร้างสรรค์
2
4. หลักฐานและ
ปัจจัยเกือหนุน
1. วิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่ม
2. วิธีสอนแบบกระบวนการ
สืบค้น
- ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2
หน่วยการเรียนรู้ที7
คุณค่าของเวลา
5. ความหมาย
หลักฐานและ
ประโยชน์ของเวลา
- วิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่ม 1. ทักษะการคิดวิเคราะห์
2. ทักษะการคิดสร้างสรรค์
3
6. วิธีการบริหารเวลา - วิธีสอนแบบกระบวนการ
สร้างความตระหนัก
1. ทักษะการคิดวิเคราะห์
2. ทักษะการคิดสร้างสรรค์
2
หน่วยการเรียนรู้ที8
การนินทาผู้อืน
7. ความหมาย หุกุม
หลักฐานและสาเหตุ
ของการนิทา
1. วิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่ม
2. วิธีสอนแบบกระบวนการ
สร้างความตระหนัก
1. ทักษะการคิดวิเคราะห์
2. ทักษะการคิด
สร้างสรรค์
3
8. วิธีการป้ องกันและ
รักษา
1. วิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่ม
2. วิธีสอนแบบกระบวนการ
สืบค้น
- ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2
- 6. 5
อัลอัคลาก
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมและจริยธรรม
ชันอิสลามศึกษาปีที 4 เวลาเรียน 6 ชัวโมง
มาตรฐานการเรียนรู้
สจ 2.1 เขาใจ จริยธรรมอิสลามและนําไปใชในการพัฒนาตน บําเพ็ญประโยชนตอครอบครัว
สังคม และสิ่งแวดลอม เพื่อการอยูรวมกันไดอยางสันติสุข
สจ 2.2 ยึดมั่นและปฏิบัติตามจริยธรรมในการพัฒนาดําเนินชีวิต
สาระสําคัญ
ชูรอ คือ การเสนอความคิดเห็นที่แตกตางกันตอเรื่องใด เรื่องหนึ่งโดยที่มีการตรวจสอบ
พิจารณาโดยนักคิด ผูเชี่ยวชาญ จนกระทั่งคนพบความจริง หรือทัศนะที่สูงสุดและถูกตองสําหรับการ
นําไปประยุกตใชในกิจการนั้น اﻟﺷورى ﻣﺟﻠس คือ สภาชูรอ /สํานักชูรอ
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง/ตัวชีวัด
3.1 รูและเขาใจเกี่ยวกับความสําคัญของการประชุม
3.2 เห็นความสําคัญของการประชุม
3.3 บอกและปฏิบัติตนเกี่ยวกับการประชุมในชีวิตประจําวัน
จุดประสงค์การเรียนรู้
4.1 บอกและอธิบายความหมายของการประชุมได
4.2 บอกและอธิบายความสําคัญของการประชุมได
4.3 บอกและปฏิบัติตนเกี่ยวกับการประชุมในชีวิตประจําวันได
สาระการเรียนรู้
5.1 การประชุม(ชูรอ)
- ความหมายและความสําคัญของการประชุม
- 7. - ประวัติความเปนมา
- หุกุมและหลักฐาน
- คุณสมบัติสมาชิกการประชุม
- เปาหมายการประชุม
กิจกรรมการเรียนรู้
กิจกรรมการจัดการเรียนรู(การจัดกระบวนการเรียนการสอนตามหลัก “CIPPA”) ดังนี้
ขั้นที่ขั้นที่ขั้นที่ขั้นที่ 1111 การทบทวนความรูเดิมการทบทวนความรูเดิมการทบทวนความรูเดิมการทบทวนความรูเดิม
อุสตาษฺทบทวนความรูเดิมโดยซักถามนักเรียนเกี่ยวกับการชูรอ จากนั้นอุสตาษฺเขียนหัวขอบน
กระดานดํา และใหนักเรียนถกเกี่ยวกับการชูรอ ดังกลาว
ขั้นที่ขั้นที่ขั้นที่ขั้นที่ 2222 การแสวงหาความรูใหมการแสวงหาความรูใหมการแสวงหาความรูใหมการแสวงหาความรูใหม
อุสตาษฺอธิบายเกี่ยวกับความหมายการชูรอ โดยอุสตาษฺแจกใบความรูที่ 1 ใหนักเรียนศึกษา
จากนั้นอุสตาษฺอธิบายเกี่ยวกับ
1. วิธีการชูรอ
2. ความสําคัญของการชูรอ
ขั้นที่ขั้นที่ขั้นที่ขั้นที่ 3333 การศึกษาทําความเขาใจขอมูลการศึกษาทําความเขาใจขอมูลการศึกษาทําความเขาใจขอมูลการศึกษาทําความเขาใจขอมูล////ความรูใหมความรูใหมความรูใหมความรูใหม
อุสตาษฺใหนักเรียนแบงกลุม จากนั้นแจกใบงานที่ 1 ใหนักเรียนศึกษารายละเอียดของการชู
รอในอิสลาม
ขั้นที่ขั้นที่ขั้นที่ขั้นที่ 4444 การแลกเปลี่ยนความรูความเขาใจกับกลุมการแลกเปลี่ยนความรูความเขาใจกับกลุมการแลกเปลี่ยนความรูความเขาใจกับกลุมการแลกเปลี่ยนความรูความเขาใจกับกลุม
เมื่อนักเรียนทํางานเสร็จแลวใหนักเรียนทําความเขาใจ แลกเปลี่ยน หรือตรวจความถูกตอง
ภายในกลุม
ขั้นที่ขั้นที่ขั้นที่ขั้นที่ 5555 การสรุปการสรุปการสรุปการสรุป
อุสตาษฺใหนักเรียนชวยกันสรุปขอมูลที่ไดศึกษาการชูรอและรัฐศาสตรอิสลามในยุคปจจุบัน
ขั้นที่ขั้นที่ขั้นที่ขั้นที่ 6666 การแสดงผลงานการแสดงผลงานการแสดงผลงานการแสดงผลงาน
อุสตาษฺใหนักเรียน 6 คน ออกมานําเสนอขอมูลโดยสรุปจากที่ไดศึกษาบนกระดาน จากนั้นให
นักเรียนทุกคนชวยกันตรวจสอบ
ขั้นที่ขั้นที่ขั้นที่ขั้นที่ 7777 การประยุกตใชความรูการประยุกตใชความรูการประยุกตใชความรูการประยุกตใชความรู
อุสตาษฺแจกแบบฝกหัดใหนักเรียนทําเปนการบานและทดสอบเก็บคะแนน
การวัดและการประเมินผล
วิธีกวิธีกวิธีกวิธีการประเมินารประเมินารประเมินารประเมิน
1. สังเกตจากการรวมกิจกรรม(การตอบคําถาม)
2. การอานและทองจํา
3. ตรวจใบงาน
- 9. 1
ความหมายความหมายความหมายความหมายของคําวาชูรอ ทางหลักภาษาอาหรับ คือ ปรึกษาหารือ ขอคําเสนอแนะ ขอความ
คิดเห็น
ความหมายความหมายความหมายความหมายทางหลักนิติศาสตรอิสลาม อัชชูรอ คือ การประชุมในกิจการหนึ่งๆ เพื่อหารือกัน
ระหวางผูเขารวมประชุม ประสงคที่จะบรรลุสูความเห็นที่ดีและเหมาะสมในกิจการนั้นๆ . มัจลิส อัชชู
รอ คือ สภาที่ประชุม
หลักฐานบงชี้ถึงระบบอัชชูรอในอิสลามหลักฐานบงชี้ถึงระบบอัชชูรอในอิสลามหลักฐานบงชี้ถึงระบบอัชชูรอในอิสลามหลักฐานบงชี้ถึงระบบอัชชูรอในอิสลาม
หลักฐานจากอัลกุรอาน
ْمُھْرِاوَشَويِفِرْمَاألاَذِإَفَتْمَزَعْلﱠكَوَتَفىَلَعِ ّﷲﱠنِإَ ّﷲبﱡِحُيَينِلﱢكَوَتُمْال{
และจงปรึกษาหารือกับพวกเขาในกิจการทั้งหลาย ครั้นเมื่อเจาไดตัดสินใจแลว ก็จงมอบหมาย
แดอัลลอฮเถิดแทจริงอัลลอฮทรงรักใครผูมอบหมายทั้งหลาย (อาลิ อิมรอน 159)
َينِذﱠالَوُواباَجَتْساْمِھﱢبَرِلواُماَقَأَوَة َﱠالصالْمُھُرْمَأَوىَروُشْمُھَنْيَباﱠمِمَوْمُھاَنْقَزَرَونُقِفُني
และบรรดาผูตอบรับตอพระเจาของพวกเขาและดํารงละหมาด และกิจการของพวกเขามีการ
ปรึกษาหารือระหวางพวกเขาและเขาบริจาคสิ่งที่เราได ใหเครื่องปจจัยยังชีพแกพวกเขา (อัชชูรอ 38)
หลักฐานจากสุนนะฮนบีมุหัมมัดหลักฐานจากสุนนะฮนบีมุหัมมัดหลักฐานจากสุนนะฮนบีมุหัมมัดหลักฐานจากสุนนะฮนบีมุหัมมัด
1.รายงานโดยทานอบูฮุรอยเราะฮ (ร.ฮ.) กลาววา (ฉันไมเคยเห็นผูใดที่ปรึกษาหารือในกิจการ
ตางๆกับสหายของเคามากกวาทาน รอซูล อีกแลว) บันทีกโดยอัตติรมิซี(4/213).
2.ทานรอซูล ไดปรีกษาหารือ(ชูรอ) กับบรรดาศอฮาบะฮในสงครามบะดัร เกี่ยวกับยุทธศาสตร
การรบ. (ซีเราะฮอิบนุฮิชาม 2/272)
- 10. 3.ทานรอซูล ไดปรีกษาบรรดาศอฮาบะฮในการออกสงครามอุฮุดวาสมควรออกไปหรือไม
(ฟตฮุลบารีย 17/103-104)
4.ทานหะซัน อัลบัศรียกลาววา ทานรอซูล ไดปรีกษาหารือไมเวนแมกระทั่งสตรี และหลอนก็ไดให
คําแนะนํา ทานรอซูลไดปฏิบัติตามคําแนะนําของหลอน (ศอเฮี้ยะ อัลบุคอรี เรื่องสงครามหุดัยบี
ยะฮ)
ระบบชูรอเปนระบบสําคัญและมีมาตั้งแตการกอตั้งรัฐอิสลามแหงแรกในมะดีนะฮ โดยทานน
บีมุฮัมมัด นับแตทานไดฮิจเราะฮสูนครมะดีนะฮ นับแตนั้นไดถือกําเนิดระบบชูรอ และรัฐ
อิสลาม. ทานรอซูล ในฐานะผูนําประเทศไดปฏิบัติเปนแบบอยางในเรื่องการบริหารโดยใชระบบชู
รอ. ดังเชนทานมักจะปรีกษาทานอบูบักร และอุมัร(ร.ฮ.) และบรรดาศอฮาบะฮทานอื่นๆ แลวแต
กรณี.
ขอบเขตของการชูรอขอบเขตของการชูรอขอบเขตของการชูรอขอบเขตของการชูรอ
การใชระบบชูรอ หรือการปรึกษาหารือนั้น นบีไดทําเปนแบบอยางหลายดาน กลาวไดวาระบบชู
รอที่เปนรากฐานอันสําคัญของรัฐอิสลามคือ นับตั้งแตการเลือกตั้งผูนํา ผานสภาชูรอที่เลือกตั้ง
โดยประชาชน ไปจนถึงการศึกสงคราม หรือการบริหารองคกรหนึ่งๆ หรือวินิจฉัยปญหาศาสนา
หรือการศึกษา เศรษฐกิจ และอื่นๆ เปนตน กลาวไดวาระบบชูรอครอบคลุมชีวิตมุสลิมทุกๆดาน
รูปแบบการชูรอ
ชูรอไมไดมีรูปแบบตายตัว แตสามารถปรับใชในหลายๆกิจการแลวแตความเหมาะสม อาจ
สรุปได หลักๆ ดังตอไปนี้
1.การปรึกษา โดยอาศัยที่ปรึกษา หนี่งหรือสองคน ดังเชนการปรึกษาของทานนบีกับทานอบูบักร
และอุมัร(ร.ฮ.).
2.การตั้งสภาที่ปรีกษา(มัจลิสชูรอ) ดังเชนนบีไดเลือกผูนําจากเผาตางๆเปนสมาชิกสภาชูรอของ
รัฐ เพื่อลงมติและเสนอความคิดเห็นในกิจการตางๆของรัฐ.
ระบบชูรอในการเลือกผูนํารัฐหรือองคกรระบบชูรอในการเลือกผูนํารัฐหรือองคกรระบบชูรอในการเลือกผูนํารัฐหรือองคกรระบบชูรอในการเลือกผูนํารัฐหรือองคกร
การเลือกตั้งผูนํารัฐในอิสลามมีสองรูปแบบหลักๆ คือ
1.การเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน
2.การเลือกตั้งโดยระบบชูรอ คือ ประชาชนเลือกตัวแทนเพื่อประกอบเปนสภาชูรอ และสมาชิก
เหลานั้นเปนผูลงมติออกเสียงในการเลือกผูนํา
การตั้งสภาชูรอ
1.สมาชิกสภาชูรอนั้นตองเปนผูที่ยึดมั่นในหลักศาสนา อีกทั้งเปนผูรูในเรื่องศาสนา นี่คือบุคคล
ประเภทแรกที่ตองมีในสภาชูรอ
2.ไมจํากัดเพศ เพราะการออกความคิดเห็นนั้นคํานึงถึงหลักการและความถูกตอง
3.คํานึงถึงประเภทขององคกร เชน สหกรณ ตองมีผูรูดานเศรฐกิจการเงิน หรือชมรม ตองมีผูรู
ดานบริหาร การจัดการ การบริการ เปนตน
- 11. เพราะเหตุใดตองมีบุคคลสองประเภทขางตน ?
1.เพราะผูรูทางศาสนานั้นคอยใหคําชี้แนะ ไมใหการลงมติขัดแยงกับหลักการศาสนา
2.ผูรูทางศาสนาคอยตรวจสอบมติ และตักเตือนสมาชิกสภาชูรอ
3.สวนผูเชี่ยวชาญเฉพาะดาน เพื่อการบริหารองคกรที่มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชนสูงสุดตอ
สมาชิกองคกร
หลักเกณฑการตัดสินในการลงมติชูรอหลักเกณฑการตัดสินในการลงมติชูรอหลักเกณฑการตัดสินในการลงมติชูรอหลักเกณฑการตัดสินในการลงมติชูรอ
การลงมติชูรอในสภาชูรอนั้น ควรคํานึงถึงเรื่องที่ถูกนํามาเขาสภาชูรอ เพื่อวินิจฉัยลงมติเปน
หลัก
1.ในกรณีเปนการวินิจฉัยขอขัดแยงในทางศาสนา ตองอาศัยผูรู(อุลามา)ในการตัดสินและเปน
แหลงอางอิง และผูรูนั้นเปนผูที่ยึดมั่นในอัลกุรอานและอัซซุนนะฮ
2.ถาเปนการลงมติในเรื่องศาสตร ความรูเฉพาะดาน หรือเทคนิคการบริหาร อาทิเชน การลงมติ
ในเรื่องทิศทางการเงินขององคกร ตองอาศัยขอมูลและขอเท็จจริง และตองลงมติหลังจากไดผาน
การชูรออันประกอบดวยผูเชี่ยวชาญเฉพาะดาน
3.ถาเปนการบริหารงานทั่วไป หรือการเลือกผูนํานั้นตองคํานึงถึงความเห็นชอบของสมาชิกสภา
ทั้งหมด หรือเสียงขางมาก เพราะทานนบีไดถือเอามติขางมากของบรรดาศอฮาบะฮในหลายๆ
กรณีดวยกัน
ผูนํา(อามีรหรืออามีเราะฮ)สามารถขัดมติของสภาชูรอไดหรือไม?
อุลามาในประเด็นนี้มีความเห็นขัดแยงกัน เปนสองทรรศนะ
1.ทรรศนะแรกคือ ผูนําไมควรขัดมติสภาชูรอ แตไมถือวามตินั้นวาญิบตองปฏิบัติ
2.ทรรศนะที่สองคือ มติที่วาเด็ดขาด(วาญิบ) ผูนําตองปฏิบัติตาม
ที่ถูกตองคือ ทรรศนะที่สอง เพราะอิสลามสนับสนุนใหมีการชูรอเพื่อใหมติหางไกลจากการใช
อารมณ และมติเสียงขางมากจากสมาชิกสภาชูรอที่คัดเลือกอยางเหมาะสมนั้นจะหางไกล จาก
การหลองลวงของชัยฏอน และเพื่อปองกันการใชอํานาจเผด็จการของผูนํา และมุสลิมควรยึดถือ
แบบอยางของทานนบีมุฮัมมัด(ซ.ล.) ....
ใบงานที 1
- 12. หน่วยการเรียนรู้ที 1 เรือง การชูรอ ชัน( อป )ปีที 4/2
การชูรอในอิสลาม
คําสังที 1 : ให้นักเรียนตอบคําถามต่อไปนีให้ถูกต้อง
1. การชูรอในอิสลาม คืออะไร ?
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
.............................................................................
คําสังที 2 : ให้นักเรียนบอกและอธิบายหลักฐานของการชูรอ
จากอัลกุรอาน
________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
____________________.
จากอัลฮะดีษ
________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
____________________.
แบบสังเกตพฤติกรรมแบบสังเกตพฤติกรรมแบบสังเกตพฤติกรรมแบบสังเกตพฤติกรรม ((((ครั้งที่ครั้งที่ครั้งที่ครั้งที่........................))))
ชั้นชั้นชั้นชั้น((((อปอปอปอป)))) ปที่ปที่ปที่ปที่ 4444////2222 วันที่วันที่วันที่วันที่ ...../.........../...................../.........../...................../.........../...................../.........../................
- 13. เกณฑ์การประเมินของพฤติกรรม 1 = ปรับปรุง 2 = พอใช้ 3 = ดี
แบบประเมินชิ้นงานที่แบบประเมินชิ้นงานที่แบบประเมินชิ้นงานที่แบบประเมินชิ้นงานที่........................................................
ชั้นชั้นชั้นชั้น((((อปอปอปอป))))ปที่ปที่ปที่ปที่ 4/24/24/24/2 เรื่องเรื่องเรื่องเรื่อง............................................................................................................................................................................................................................ วันที่วันที่วันที่วันที่
...../....../.........../....../.........../....../.........../....../..................
ที ชือ - สกุล
พฤติกรรมทีจะประเมิน
รวม
คะแนน
สรุป
ความ
สนใจ
ความ
ร่วมมือ
การ
แสดงออก
การ
รับผิดชอบ ผ่าน ไม่
ผ่าน1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
- 14. ที ชือ – สกุล
เกณฑ์การประเมิน
รวม 10
คะแนน
สรุป
ความ
สมบูรณ์
ชัดเจน
2
ความ
ถูกต้อง
2
สะอาด
เรียบร้อย
สวยงาม
2
สาระ
ตรง
ประเด็น
2
ความคิด
สร้างสรรค์
2
ผ่าน
ไม่
ผ่าน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
เกณฑ์การประเมิน ได้ 7 คะแนนขึนไปถือว่าผ่าน
แบบประเมินการอ่านและท่องจําที..............
ชัน(อป)ปีที 4/2
เรือง............................................................................. วันที.........................................
- 15. ที
ชือ - สกุล
เกณฑ์การประเมิน รวม
10
คะแนน
สรุป
การอ่าน การท่องจํา
ผ่าน ไม่
ผ่าน
ครังที ครังที
1 2 1 2
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
เกณฑ์การประเมิน ได้ 7 คะแนนขึนไปถือว่าผ่าน
สือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สือการเรียนรู้
1. หนังสือเรียน อัลอัคลาก อป.1 2. บัตรภาพ
3. ใบความรู้ 4. ใบงาน
8.2 แหล่งการเรียนรู้
- 17. แผนการจัดการเรียนรูที่แผนการจัดการเรียนรูที่แผนการจัดการเรียนรูที่แผนการจัดการเรียนรูที่ 1111
สาระที่สาระที่สาระที่สาระที่ 2222 (((( อัลอัคลากอัลอัคลากอัลอัคลากอัลอัคลาก )))) ชชชชวงชั้นที่วงชั้นที่วงชั้นที่วงชั้นที่ 4444 ปที่ปที่ปที่ปที่ 1
เรื่องเรื่องเรื่องเรื่อง ความหมายของการชูรอ ความสําคัญ ความเปนมา หุกุมและหลักฐานความหมายของการชูรอ ความสําคัญ ความเปนมา หุกุมและหลักฐานความหมายของการชูรอ ความสําคัญ ความเปนมา หุกุมและหลักฐานความหมายของการชูรอ ความสําคัญ ความเปนมา หุกุมและหลักฐาน เวลาเวลาเวลาเวลา 4444 คาบคาบคาบคาบ ⁄ ชั่วโมงชั่วโมงชั่วโมงชั่วโมง
.......................................................................................................
1.1.1.1.มาตรฐานการเรียนรูมาตรฐานการเรียนรูมาตรฐานการเรียนรูมาตรฐานการเรียนรู
สจ 2.1 เขาใจ จริยธรรมอิสลามและนําไปใชในการพัฒนาตน บําเพ็ญประโยชนตอครอบครัว
สังคม และสิ่งแวดลอม เพื่อการอยูรวมกันไดอยางสันติสุข
สจ 2.2 ยึดมั่นและปฏิบัติตามจริยธรรมในการดําเนินชีวิต
2.2.2.2. สาระสําคัญสาระสําคัญสาระสําคัญสาระสําคัญ
- 18. ชูรอ คือ การเสนอความคิดเห็นที่แตกตางกันตอเรื่องใด เรื่องหนึ่งโดยที่มีการตรวจสอบ
พิจารณาโดยนักคิด ผูเชี่ยวชาญ จนกระทั่งคนพบความจริง หรือทัศนะที่สูงสุดและถูกตองสําหรับการ
นําไปประยุกตใชในกิจการนั้น اﻟﺷورى ﻣﺟﻠس คือ สภาชูรอ /สํานักชูรอ
3.... ผลการเรียนรูที่คาดหวังผลการเรียนรูที่คาดหวังผลการเรียนรูที่คาดหวังผลการเรียนรูที่คาดหวัง
3.1 รูและเขาใจเกี่ยวกับความสําคัญของการประชุม
3.2 เห็นความสําคัญของการประชุม
3.3 บอกและปฏิบัติตนเกี่ยวกับการประชุมในชีวิตประจําวัน
4.4.4.4. จุดประสงคการเรียนรูจุดประสงคการเรียนรูจุดประสงคการเรียนรูจุดประสงคการเรียนรู
4.1 บอกและอธิบายความหมายของการประชุมได
4.2 บอกและอธิบายความสําคัญของการประชุมได
4.3 บอกและปฏิบัติตนเกี่ยวกับการประชุมในชีวิตประจําวันได
5.5.5.5. สาระการเรียนรูสาระการเรียนรูสาระการเรียนรูสาระการเรียนรู
5.1 การประชุม(ชูรอ)
- ความหมายและความสําคัญของการประชุม
- ความเปนมา หุกุมและหลักฐาน
6.6.6.6.กิจกรรมการเรียนรูกิจกรรมการเรียนรูกิจกรรมการเรียนรูกิจกรรมการเรียนรู
ขั้นเริ่มเรียนขั้นเริ่มเรียนขั้นเริ่มเรียนขั้นเริ่มเรียน
6.1 ครูกลาวสะลาม
6.2 รวมกันอานซูเราะฮฺ อัล- ฟาตีฮะห และอานดุอาอฺ พรอมกัน
ขั้นนําเขาสูบทเรียนขั้นนําเขาสูบทเรียนขั้นนําเขาสูบทเรียนขั้นนําเขาสูบทเรียน
6.3 ครูเลาประวัติศาสตรอิสลามเกี่ยวกับการประชุมใหนักเรียนฟง
6.4 ทดสอบความรูของนักเรียนเกี่ยวกับการประชุมในอิสลาม
6.5 ซักถามนักเรียนเกี่ยวกับการประชุมในอิสลาม
ขั้นสอนขั้นสอนขั้นสอนขั้นสอน
6.6 ครูแจกใบความรูใหนักเรียนทุกคนอาน
6.7 สุมนักเรียน2-3คนเพื่ออานใบความรูใหเพื่อนๆรวมหองฟง
6.8 อธิบายความหมายของการประชุมในอิสลามใหนักเรียนเขาใจ
6.9 สุมนักเรียน2-3คนเพื่อบอกความหมายของประชุมใหเพื่อนๆรวมหองฟง
6.10 แจกใบงานใหนักเรียนทุกคนตอบคําถามเกี่ยวกับมารยาทในการประชุม
ขั้นสรุปขั้นสรุปขั้นสรุปขั้นสรุป
6.11 รวมกันสรุปเนื้อหาเกี่ยวกับมารยาทในการประชุม
6.12 รวมกันอานซูเราะฮฺ อัล-อัศรฺ และดุอาอฺกีฟารัต
7.7.7.7. สื่อการเรียนรูสื่อการเรียนรูสื่อการเรียนรูสื่อการเรียนรู
7.1 ใบความรู เรืองการประชุมในอิสลาม
7.2 ใบงาน
8.8.8.8. การวัดและประเมินผลการเรียนรูการวัดและประเมินผลการเรียนรูการวัดและประเมินผลการเรียนรูการวัดและประเมินผลการเรียนรู
- 19. วิธีการประเมินวิธีการประเมินวิธีการประเมินวิธีการประเมิน
8.1 สังเกตจากการรวมกิจกรรม(การตอบคําถาม)
8.2 การอานและทองจํา
8.3 ตรวจใบงาน
เครื่องมือประเมินผลเครื่องมือประเมินผลเครื่องมือประเมินผลเครื่องมือประเมินผล
8.4 แบบสังเกตพฤติกรรม
8.5 แบบประเมินการอานและทองจํา
8.6 แบบประเมินชิ้นงาน
9.9.9.9. บันทึกหลังการจัดการเรียนรูบันทึกหลังการจัดการเรียนรูบันทึกหลังการจัดการเรียนรูบันทึกหลังการจัดการเรียนรู
คาบที วัน/เดือน/ปี
ผลการจัดกิจกรรมการจัดการ
เรียนรู้
ปัญหาทีประสบใน
การจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
10.10.10.10.ขอเสนอแนขอเสนอแนขอเสนอแนขอเสนอแนะะะะ
ลงชือ ...........................................................ผู้สอน
( นายมูหัมหมัดรุสดี อัลมะอาริฟีย์)
- 21. 1.1.1.1.มาตรฐานการเรียนรูมาตรฐานการเรียนรูมาตรฐานการเรียนรูมาตรฐานการเรียนรู
สจ 2.1 เขาใจ จริยธรรมอิสลามและนําไปใชในการพัฒนาตน บําเพ็ญประโยชนตอครอบครัว
สังคม และสิ่งแวดลอม เพื่อการอยูรวมกันไดอยางสันติสุข
สจ 2.2 ยึดมั่นและปฏิบัติตามจริยธรรมในการดําเนินชีวิต
2.2.2.2. สาระสําคัญสาระสําคัญสาระสําคัญสาระสําคัญ
ชูรอ คือ การเสนอความคิดเห็นที่แตกตางกันตอเรื่องใด เรื่องหนึ่งโดยที่มีการตรวจสอบ
พิจารณาโดยนักคิด ผูเชี่ยวชาญ จนกระทั่งคนพบความจริง หรือทัศนะที่สูงสุดและถูกตองสําหรับการ
นําไปประยุกตใชในกิจการนั้น اﻟﺷورى ﻣﺟﻠس คือ สภาชูรอ /สํานักชูรอ
3.... ผลการเรียนรูที่คาดหวังผลการเรียนรูที่คาดหวังผลการเรียนรูที่คาดหวังผลการเรียนรูที่คาดหวัง
3.1 รูและเขาใจเกี่ยวกับความสําคัญของการประชุม
3.2 เห็นความสําคัญของการประชุม
3.3 บอกและปฏิบัติตนเกี่ยวกับการประชุมในชีวิตประจําวัน
4.4.4.4. จุดประสงคการเรียนรูจุดประสงคการเรียนรูจุดประสงคการเรียนรูจุดประสงคการเรียนรู
4.1 บอกและอธิบายความหมายของการประชุมได
4.2 บอกและอธิบายความสําคัญของการประชุมได
4.3 บอกและปฏิบัติตนเกี่ยวกับการประชุมในชีวิตประจําวันได
5.5.5.5. สาระการเรียนรูสาระการเรียนรูสาระการเรียนรูสาระการเรียนรู
5.1 การประชุม(ชูรอ)
- คุณสมบัติสมาชิกการประชุม
- เปาหมายของการประชุม
6.6.6.6.กิจกรรมการเรียนรูกิจกรรมการเรียนรูกิจกรรมการเรียนรูกิจกรรมการเรียนรู
ขั้นเริ่มเรียนขั้นเริ่มเรียนขั้นเริ่มเรียนขั้นเริ่มเรียน
6.1 ครูกลาวสะลาม
6.2 รวมกันอานซูเราะฮฺ อัล- ฟาตีฮะห และอานดุอาอฺ พรอมกัน
ขั้นนําเขาสูบทเรียนขั้นนําเขาสูบทเรียนขั้นนําเขาสูบทเรียนขั้นนําเขาสูบทเรียน
6.3 ครูเลาประวัติศาสตรอิสลามเกี่ยวกับคุณสมบัติสมาชิกการประชุมใหนักเรียนฟง
6.4 ทดสอบความรูของนักเรียนเกี่ยวกับการประชุมในอิสลาม
6.5 ซักถามนักเรียนเกี่ยวกับการประชุมในอิสลาม
ขั้นสอนขั้นสอนขั้นสอนขั้นสอน
6.6 ครูแจกใบความรูใหนักเรียนทุกคนอาน
6.7 สุมนักเรียน2-3คนเพื่ออานใบความรูใหเพื่อนๆรวมหองฟง
6.8 อธิบายคุณสมบัติสมาชิกและเปาหมายการประชุมในอิสลามใหนักเรียนเขาใจ
6.9 สุมนักเรียน2-3คนเพื่อบอกคุณสมบัติสมาชิกและเปาหมายของประชุมใหเพื่อนๆรวม
หองฟง
6.10 แจกใบงานใหนักเรียนทุกคนตอบคําถามเกี่ยวกับมารยาทในการประชุม
ขั้นสรุปขั้นสรุปขั้นสรุปขั้นสรุป
6.11 รวมกันสรุปเนื้อหาเกี่ยวกับมารยาทในการประชุม
- 22. 6.12 รวมกันอานซูเราะฮฺ อัล-อัศรฺ และดุอาอฺกีฟารัต
7.7.7.7. สื่อกาสื่อกาสื่อกาสื่อการเรียนรูรเรียนรูรเรียนรูรเรียนรู
7.1 ใบความรู เรืองการประชุมในอิสลาม
7.2 ใบงาน
8.8.8.8. การวัดและประเมินผลการเรียนรูการวัดและประเมินผลการเรียนรูการวัดและประเมินผลการเรียนรูการวัดและประเมินผลการเรียนรู
วิธีการประเมินวิธีการประเมินวิธีการประเมินวิธีการประเมิน
8.1 สังเกตจากการรวมกิจกรรม(การตอบคําถาม)
8.2 การอานและทองจํา
8.3 ตรวจใบงาน
เครื่องมือประเมินผลเครื่องมือประเมินผลเครื่องมือประเมินผลเครื่องมือประเมินผล
8.4 แบบสังเกตพฤติกรรม
8.5 แบบประเมินการอานและทองจํา
8.6 แบบประเมินชิ้นงาน
9.9.9.9. บันทึกหลังการจัดการเรียนรูบันทึกหลังการจัดการเรียนรูบันทึกหลังการจัดการเรียนรูบันทึกหลังการจัดการเรียนรู
คาบที วัน/เดือน/ปี
ผลการจัดกิจกรรมการจัดการ
เรียนรู้
ปัญหาทีประสบใน
การจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข
- 24. 6
อัลอัคลาก
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมและจริยธรรม
ชันอิสลามศึกษาปีที 4 เวลาเรียน 4 ชัวโมง
มาตรฐานการเรียนรู้
สจ 2.1 เขาใจ จริยธรรมอิสลามและนําไปใชในการพัฒนาตน บําเพ็ญประโยชนตอครอบครัว
สังคม และสิ่งแวดลอม เพื่อการอยูรวมกันไดอยางสันติสุข
สจ 2.2 ยึดมั่นและปฏิบัติตามจริยธรรมในการพัฒนาดําเนินชีวิต
สาระสําคัญ
การใหความชวยเหลือกันระหวางผูศรัทธานั้น จะตองดูใหครบทุกๆดาน ทุกๆเรื่อง ไมวาจะ
เปนเรื่องในทางโลกอาคิเราะห หรือการดําเนินชีวิตในดุนยา เปรียบไดกับอาคาร ทุกชิ้นสวนของมัน
จะตองยึดเหนี่ยวซึ่งกันและกัน จึงจะทําใหอาคารนั้นแข็งแรงมั่นคง
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง/ตัวชีวัด
3.1 รูและเขาใจเกี่ยวกับความสําคัญของการชวยเหลือ
3.2 เห็นความสําคัญ หลักฐานและปจจัยเกื้อหนุนของการชวยเหลือ
3.3 บอกและปฏิบัติตนเกี่ยวกับการชวยเหลือในชีวิตประจําวัน
จุดประสงค์การเรียนรู้
4.1 บอกและอธิบายความหมายของการชวยเหลือได
4.2 บอกและอธิบายความสําคัญ หลักฐานและปจจัยเกื้อหนุนของการชวยเหลือได
4.3 บอกและปฏิบัติตนเกี่ยวกับการชวยเหลือในชีวิตประจําวันได
สาระการเรียนรู้
5.1 การชวยเหลือ
- ความหมายและความสําคัญของการชวยเหลือ
- หลักฐาน
- 25. - ปจจัยเกื้อหนุน
กิจกรรมการเรียนรู้
กิจกรรมการจัดการเรียนรู ดังนี้
ขั้นนําขั้นนําขั้นนําขั้นนํา
1. อุสตาษสนทนาซักถามนักเรียนวา การชวยเหลือพี่นองมนุษยชาติมีอะไรบาง และเพราะเหตุ
ใดจําเปนตองมีการชวยเหลือ ใหนักเรียนผลัดกันตอบตามความคิดเห็นของตน
2. อุสตาษเฉลยกลไกสําคัญในการชวยเหลือพี่นองในอิสลามใหนักเรียนฟง แลวอธิบายวา การ
ชวยเหลือมีความสําคัญตอการดําเนินชีวิตของมนุษยเพราะเปนการเสียสละและแสดงความรักภายใต
หลักอิสลาม
3. อุสตาษสุมถามนักเรียน 4-5 คนวา ชุมชนใครบางที่เคยชวยเหลือพี่นองบาง ใหนักเรียน
ผลัดกันเลาใหเพื่อนๆ ฟง
ขั้นสอนขั้นสอนขั้นสอนขั้นสอน
1. อุสตาษใหนักเรียนเปดหนังสือ (หนา 37-39) แลวใหอาสาสมัคร 2-3 คน อานใหเพื่อนๆ
ฟง
2. อุสตาษและนักเรียนรวมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสําคัญของการ
ชวยเหลือพี่นองและสรุปผลการเรียนรูลงในสมุด
3. อุสตาษตั้งประเด็นคําถามเกี่ยวกับการชวยเหลือพี่นองใหนักเรียนชวยกันตอบ (แนวคําถาม)
เชน
1) นักเรียนเคยเห็นการชวยเหลือพี่นองอะไรบาง
2) การชวยเหลือพี่นองมีความสําคัญอยางไร
3) การชวยเหลือพี่นองมีรูปแบบใดบาง
4) ถานักเรียนมีทรัพยสินมากๆ นักเรียนจะชวยเหลือผูอื่นหรือไมเพราะเหตุใด
5) นักเรียนคิดวาการชวยเหลือพี่นองเกิดผลเสียอยางไรบาง
4. อุสตาษใหนักเรียนสมมุติการลงคะแนนการชวยเหลือพี่นองยางใดอยางหนึ่ง แลวสรุป
ขั้นตอนการชวยเหลือพี่นองเปนขอๆ ลงในสมุด เพื่อสงอุสตาษตรวจ
5. นักเรียนศึกษาใบความรูที่ 2 และสรุปเพื่อสงอุสตาษตรวจ
ขั้นสรุปขั้นสรุปขั้นสรุปขั้นสรุป
1. อุสตาษและนักเรียนรวมกันอภิปรายและสรุปความรูที่ไดจากการเรียนเรื่องการชวยเหลือพี่
นองจากนั้นอุสตาษเปดโอกาสใหนักเรียนซักถามเพิ่มเติมในสวนที่นักเรียนยังมีขอสงสัย โดยอุสตาษคอย
อธิบายใหนักเรียนเขาใจ
2. นักเรียนนําความรูไปใชในการทําใบงานที่ 2 เพื่อสงอุสตาษตรวจและเก็บเปนผลงาน
3. อุสตาษใหนักเรียนศึกษาคนควาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการชวยเหลือพี่นองจากแหลงเรียนรู
อื่นๆ เชน หนังสือ อินเทอรเน็ตและหองสมุด
- 26. 4. เมื่อเรียนจบ อุสตาษแจกแบบทดสอบหลังเรียนเมื่อทําเสร็จ แลวสงอุสตาษ เพื่อใชเปน
คะแนนการประเมินผล
การวัดและการประเมินผล
ประเด็นทีประเมิน วิธีการวัดและประเมินผล เครืองมือวัดและประเมินผล
- ความรู้ความเข้าใจเรือง
•••• การช่วยเหลือ ดังนี
นิยาม
หลักฐาน
หุกุม
ความสําคัญ
วิธีการ
- สังเกตจากการร่วมอภิปรายใน
ร ะ ห ว่ า ง
เรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
- สังเกตการณ์บันทึกผลการเรียนรู้
- ตรวจแบบบันทึกชินงาน
- แบบประเมินการร่วมอภิปราย
- แบบทดสอบที 2
- แบบบันทึกผลการเรียนรู้
- แบบบันทึกชินงานนักเรียน
- ทักษะ / กระบวนการ - สังเกตทักษะ/กระบวนการใน
การทํางาน โดยดูในด้านต่อไปนี
• การสืบค้นข้อมูล
• การปฏิบัติกิจกรรม
• การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
• การนําความรู้ไปใช้
- กิจกรรมฝึกปฏิบัติ
- กิจกรรมประเมิน
- แบบประเมินด้านทักษะ/
กระบวนการ
- กิจกรรมเสนอแนะ
- ทักษะการทํางานกลุ่ม - สังเกตการทํางานกลุ่มในขณะร่วม
กิจกรรมในชันเรียน
- แบบประเมินการปฏิบัติงานกลุ่ม
- ทักษะการคิดวิเคราะห์ - สังเกตการให้เหตุผลทีเหมาะสม
สนับสนุนความคิดในการตอบ
คําถาม
- สังเกตการให้เหตุผลของคําตอบ
ในกิจกรรมประเมิน
- การตังประเด็นคําถามของครู
ทีกระตุ้นความคิด
- กิจกรรมประเมิน
- แบบประเมินทักษะการคิด
วิเคราะห์
- คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม - สังเกตจากพฤติกรรมการเรียนและ
การร่วมกิจกรรมในชันเรียน
- แบบประเมินพฤติกรรมการเรียน
2
- 27. อิสลามสนับสนุนการติดต่อสัมพันธ์กันระหว่างตัวเรากับเพือนมนุษย์ การติดต่อสัมพันธ์นันต้องเริมด้วย
ความบริสุทธิใจเพือให้อัลลอฮ์ ทรงตอบรับและให้ความจําเริญแก่งานนี ดังนันเราจึงสามารถคบหากับเพือน
มนุษย์ได้ด้วยความบริสุทธิใจและสนิทใจ ดังจากโองการจากอัลกุอานทีมีความว่า
“ในวันกิยามะฮ์นัน บรรดาผู้ทีเคยเป็นเพือนกัน ต่างก็จะกลายเป็นศัตรูกัน นอกจากบรรดาผู้ทีมีความยํา
เกรงต่ออัลลอฮ์เท่านัน”
ซูเราะฮ์ อัซ ซุครุฟ: 67
อิสลามสนับสนุนการอยู่อย่างสันโดษ เพือทีเราจะได้ใช้ความคิดตรึกตรองสิงต่างๆในโลกนีหรือเพือหาความ
สงบทางกายและจิตใจ แต่อิสลามก็ไม่ได้ห้ามการติดต่อหรือคบค้าสมาคมกับเพือนมนุษย์ แต่ในทางตรงกันข้าม
กลับได้ชือว่าเป็นมุสลิมทีมีความดี ดังฮะดีสทีมีความว่า
“มุอฺมินทีคบค้าสมาคมกับเพือนมนุษย์ และมีความอดทนต่อการทําร้ายของพวกเขานัน
ย่อมดีกว่ามุอฺมินทีมิได้คบค้าสมาคมกับเพือนมนุษย์ และไม่มีความอดทนต่อการทําร้ายของพวก
เขา”
บันทึกโดย อัตติรมีซีย์
อิสลามเน้นอยู่เสมอถึงการแสดงสัญลักษณ์แห่งความยิงใหญ่โดยสนับสนุนการรวมตัวของมุสลิม และอยู่
ร่วมกันอย่างมีความสุข ยิงจํานวนมุสลิมมีมากขึนเท่าใดก็ยิงเพิมความจําเริญจากอัลลอฮ์ มากเพียงนัน ดังฮะ
ดีสทีท่านเราะซูล กล่าวไว้มีความว่า
“การละหมาดของคนคนหนึงร่วมกับอีกคนหนึงนัน ดียิงกว่าการละหมาดของคนๆนันคนเดียว
- 28. และการทีเขาละหมาดร่วมกับคนสองคนนันย่อมดีกว่าการละหมาดกับคนคนเดียว
และถ้ายิงมีคนเพิมมากขึนเท่าใด นันก็คือความโปรดปรานของอัลลอฮ์ อัซซะวะญัลมากเท่านัน”
บันทึกโดย อัตติรมีซีย์
ถ้ามุสลิมอยู่อย่างโดดเดียว โดยตีตัวออกห่างจากผู้คนมากเท่าใดก็จะยิงพลาดโอกาสทีจะต่อสู้ในงานทีเป็น
ความดี หรือมีโอกาสน้อยทีจะยืนหยัดต่อสู้เพืออิสลาม และเขาก็จะกลายเป็นผู้ทีไม่ให้ความช่วยเหลือเพือนของเขา
ในยามคับขัน แต่โดยธรรมชาติของมนุษย์แล้วมักชอบสมาคม บางคนถึงกับวิงเข้าไปหา และสนทนากับผู้คนด้วย
ใบหน้าทียิมแย้มแจ่มใส
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทังสองลักษณะนีอิสลามได้ชีแนวทางไว้ให้โดยคํากล่าวทีว่า
“จงคบค้าสมาคมกับเพือน แต่อย่าให้กระทบกระเทือนกับศาสนา”
และคํากล่าวทีว่า “มุอฺมินคือผู้ทีอ่อนน้อม เป็นมิตรสนิทสนมกัน”
การอยู่อย่างสันโดษ และการอยู่โดยร่วมสังคมกับผู้อืน นับเป็นสองลักษณะทีมุสลิมควรรู้จักเลือกว่า เวลาใด
ควรจะอยู่ในลักษณะใดจึงจะเหมาะสม เพือทีจะให้สองลักษณะนี มีประโยชน์แก่ตัวของเขาเอง และแก่สังคมรอบ
ข้างด้วย
ในการคบค้ากับเพือนฝูง ขอให้มีรากฐานสําคัญคือความบริสุทธิใจ และให้ทุกอย่างก้าวไปในหนทางของอี
มาน และนันคือความหมายทีว่า “รักกันเพืออัลลอฮ์ ไม่รักกันกันเพืออัลลอฮ์” และนีคือความรักในแบบอิสลามที
แท้จริง เมือความปราถนาของมุสลิมในการคบเพือนเพืออัลลอฮ์ นัน เขาก็จะได้รับผลตอบแทนอย่างมหาศาล
ดังฮะดีสกุดซีย์ ท่านเราะซูล กล่าวว่า อัลลอฮ์ ตรัสไว้มีความว่า
“บรรดาผู้ทีรักกันอันเนืองจากความยิงใหญ่และเดชานุภาพของข้านัน
เขาจะอยู่ภายใต้ร่มเงาแห่งอะรัชของข้า ในวันทีไม่มีร่มเงาใดๆนอกจากร่มเงาของข้าเท่านัน”
บันทึกโดย อะหฺมัด
มุสลิมนันจะต้องรักกันเพืออัลลอฮ์ และเช่นกันการไม่รักกันนันก็เพืออัลลอฮ์ เพือทีเขาจะได้ลิมรส
ความหวานชืนแห่งการศรัทธา ดังฮะดีสรายงานโดย ท่านอนัส อิบนิ มาลิก เราะฏิยัลลอฮุอันฮุ แจ้งว่า ท่าน
เราะซูล กล่าวว่า
“มีอยู่สามอย่าง ถ้าผู้ใดมีลักษณะทังสามอย่างดังต่อไปนีอยู่ในตัวของเขาแล้ว เขาก็จะต้องพบและลิมรส
กับความหวานชืนของการศรัทธา กล่าวคือ
1. ให้อัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์เป็นทีรักยิงแก่เขายิงกว่าสิงอืนใด
- 29. 2. ให้รักเพือนมนุษย์เพราะอัลลอฮ์ และเกลียดกันเพืออัลลอฮ์
3. ให้เกลียดชังทีจะกลับไปสู่การกุฟรฺ ประดุจดังเกลียดชังทีจะถูกโยนเข้าสู่ไฟนรก”
บันทึกโดย มุสลิม อัตติรมีซีย์ และอันนะซาอีย์
เมือคนสองคนรักกันเพือทีจะเป็นเพือนกันในหนทางของอัลลอฮ์ ดังจะเห็นได้จากฮะดีสกุดซีย์ มีรายงาน
จากท่านเราะซูล แจ้งว่า อัลลอฮ์ ตรัสว่า
“ความรักของข้านันจะปรากฏแก่บรรดาผู้ทีรักกันเพือข้า และผู้ทีเยียมเยือนกันเพือข้า และผู้ทีให้กันเพือ
ข้า และผู้ทีเป็นมิตรกันเพือข้า”
บันทึกโดย อะหฺมัด และอัฏฏ็อบรอนีย์
เพือนทีดีนันย่อมจะนําพาเพือนของเขาสู่ชัยชนะทังในโลกนีและโลกหน้า ส่วนเพือนทีไม่ดีนัน กีมากน้อยแล้ว
ทีสร้างความเจ็บปวดให้แก่เพือนของเขา เพราะทังสองนันได้ตกอยู่ภายใต้การชักนําของชัยฏอน ดัง
ทีอัลลอฮ์ ได้ตรัสไว้มีความว่า
“ในวันทีผู้อธรรมต่อตนเองจะกัดมือของเขา (วันกิยามะฮ์) แล้วกล่าวว่า หวังว่าฉันจะได้อยู่ในหนทางของ
ท่านเราะซูลเหลือเกิน
โอ้ความวิบัติเอ๋ย หวังว่าฉันจะไม่เอาคนๆนันมาเป็นเพือนอีก เพราะเขาทําให้ฉันหันเหออกจากอัลกุ
รอาน ภายหลังจากทีอัลกุรอานได้มีมายังฉันแล้ว
และแท้จริงมันนันเป็นผู้หลอกลวง”
ซูเราะฮ์ อัลฟุรกอน: 27-29
ท่านเราะซูล ได้เตือนเกียวกับการเลือกคบเพือน โดยทีเราเลือกทีจะนําตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มบุคคลเหล่านัน
ดังทีท่านเราะซูล กล่าวว่า
“อุปมาเพือนทีดี อุปมัยดังคนทีมีของหอม(ชะมดเชียง) แม้ว่าจะไม่มีสิงใดจากของหอมนันมาถูกท่านเลย
แต่กลินของมันก็จะมาถูกท่านด้วย
และอุปมัยเพือนทีเลว อุปมัยดังช่างหลอมเหล็ก แม้ว่าสิงสกปรกจากเตาฟืนจะไม่ถูกท่าน แต่เถ้าถ่านของ
มันก็จะถูกท่าน”
รายงานโดย อบูดาวู๊ด
- 30. ในกลุ่มเพือนทีเราเข้าไปอยู่นัน ถ้าเป็นคนไม่ดีแล้วก็จะเป็นอันตรายแก่เรา ส่วนเพือนทีดีทีฉลาดปราดเปรือง
เขาก็จะยกฐานะของเพือนให้อยู่ในระดับสูงด้วยเช่นกันเพือนทีดีนันจะต้องตังมันอยู่บนหลักการศรัทธา และ
ปฏิบัติงานตามทีเขาศรัทธาคือเป็นมุสลิมทีดีทังดุนยาและอาคิเราะฮ์ เขามีความดีอยู่ในตัวทุกด้าน ไม่ว่าทางกาย
หรือวาจาทีเปล่งออกมา หรือความนึกคิดก็จะเต็มไปด้วยความยุติธรรม ดังคํากล่าวทีว่า
“ใครทีทําธุรกิจร่วมกับเพือนมนุษย์ โดยทีเขาไม่ขมเหง เมือพูดกับเขาก็ไม่โกหกเขา
เมือสัญญากับเขาก็ไม่ผิดสัญญา นับว่าเขาผู้นันเป็นผู้ทีมีเกียรติอย่างสมบูรณ์ มีความเป็นธรรมอย่างบริสุทธิ”
ท่านนบี ยังได้สอนแก่เราว่า ถ้ารักเพือนคนใดก็ให้บอกแก่เขาว่าเรารักเขา ทังนีเพือทีจะเป็นการเชือม
ความสัมพันธ์ให้กระชับยิงขึน ดังฮะดีสของท่านบี ซึงมีความว่า
“เมือคนหนึงคนใดในพวกเจ้ารักพีน้องของเขา ก็จงบอกให้เขารู้ว่ารักเขา”
บันทึกโดย อะหฺมัด
ท่านนบี ยังได้เสริมอีกว่า ถ้าเราจะคบเพือนคนใดก็ให้ถามชือ สกุล และควรจะรู้ว่าเขามาจากไหน เป็นใคร
กัน
“เมือคนหนึงคนใดเป็นมิตรกัน ก็จงถามถึงชือของเขา และชือบิดาของเขา ว่าเป็นใคร เพราะจะทําให้
กระชับความสัมพันธ์กันมากขึน”
บันทึกโดย อัตติรมีซีย์
ท่านนบี ได้ส่งเสริมให้เราผูกมัดจิตใจของเพือน เพือให้ความรักนันยาวนานโดยการให้ของขวัญ ซึง
ของขวัญนันไม่จําเป็นต้องมีค่าเป็นวัตถุ หรือใหญ่โต เพียงแต่ให้รู้ว่ามีค่าแห่งนําใจระหว่างเพือนก็เพียงพอแล้ว ดัง
ถ้อยคําของท่านเราะซูล ทีว่า
“จงให้ของขวัญกันเถิด เพราะการให้ของขวัญกันนัน จะเป็นการขจัดความขุ่นข้องหมองใจกัน”
บันทึกโดย อัตติรมีซีย์
อิสลามสนับสนุนการคบค้าสมาคมกัน ดังนัน คําว่า “เพือน” จึงมีความสําคัญต่อมนุษย์ แต่ก่อนทีเราจะคบ
เพือนคนใดก็ขอให้เราพิจารณา ตรึกตรองให้ดี แล้วเราก็จะมีความสุขอยู่ในหมู่เพือนฝูงเหล่านัน คือเขาและเราต่างก็
เป็นผู้ศรัทธาซึงกันและกัน เมือจะทําอะไรก็จะคิดอยู่เสมอว่าสิงนีอยู่ในหนทางของศาสนาหรือไม่ เมือบุคคลกลุ่มใด
มีความคิดเช่นนีแล้ว อินชาอัลลอฮ์ พระองค์อัลลอฮ์คงจะโปรดให้เขาปลอดภัยจากมารร้ายต่างๆ และให้เขาเป็นมุอฺ
มินทีศรัทธาอย่างแท้จริง
- 31. ใบงานที 2
หน่วยการเรียนรู้ที 6 เรือง การช่วยเหลือเพือนมนุษย์ ชัน( อป )
ปีที 4/2
การช่วยเหลือในอิสลาม
คําสังที : ให้นักเรียนตอบคําถามต่อไปนีให้ถูกต้อง
1.ให้นักเรียนสรุปการช่วยเหลือในอิสลาม?
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
..............................
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
..............................
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
..............................
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
..............................
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................