เรื่อง การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ จัดทำโดย 1.นางสาวพอเพียง ภคไพบูลย์ ม.5/9 เลขที่ 1 2.นายณัชนนท์ คำดวง ม.5/9 เลขที่ 4 3.นางสาวนิศามณี ธิมาบุตร ม.5/9 เลขที่ 5 4.นายสุรสิทธิ์ เหมาะชาติ ม.5/9 เลขที่ 8 5.นางสาวอนุธิดา เหรียญเจริญ ม.5/9 เลขที่ 13 6.นายพงศธร ฉาบสุวรรณ ม.5/9 เลขที่ 14 นำเสนอ คุณครูจิรายุ ทองดี

1. การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยี
สารสนเทศ

2.  กระบวนการเทอคโนโลยีสารสนเทศ คือ ขั้นตอนการแก้ปัญหา
หรือตอบสนองต่อความต้องการซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
จากทรัพยากรให้เป็นผลผลิตหรือผลลัพธ์ระบบเทคโนโลยี
ประกอบด้วยกระบวนการเทคโนโลยีก่อให้เกิดประโยชน์ใช้
สอย ตามที่มนุษย์ต้องการ
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ (Technological
Process)

3.  1.เป็นพื้นฐานปัจจัยใจจาเป็นในการดาเนินชีวิตของมนุษย์
2.เป็นปัจจัยหลักที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนา
3.เป็นเรื่องราวของมนุษย์และธรรมชาติ
ความสาคัญของกระบวนการทางเทคโนโลยี

4.  1.การรวบรวมข้อมูล
 2.การตรวจสอบข้อมูล
 3.การประมวลผลข้อมูล
 4.การจัดเก็บข้อมูล
 5.การประมวลผลข้อมูล
 6.การนาข้อมูลไปใช้
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ มี 6 ขั้นตอน

5.  มี 4 วิธีเบื้องต้น
1. การจัดเรียง คือ การนาข้อมูลหลาย ๆ ข้อมูลมาจัดเรียงลาดับตามเกณฑ์ที่
กาหนด
2. การหาค่าเฉลี่ย คือ การนาเอาข้อมูลมาเฉลี่ย
3. การเปรียบเทียบ คือ การนาเอาข้อมูลประเภทเดียวกันมาเปรียบเทียบเพื่อหา
ค่าแตกต่างหรือความเหมือนกัน
4. การหาแนวโน้ม คือ การนาเอาข้อมูลประเภทเดียวกันมาเปรียบเทียบตาม
ระยะเวลา เช่นนาคะแนนของนักเรียนคนหนึ่งมาเปรียบเทียบกับคะแนน
ของตนเองในช่วงการสอบย่อยในช่วงของการสอบย่อยต่างๆ
การนาข้อมูลไปใช้ในลักษณะต่างๆ

6. การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยี
สารสนเทศ
การเเก้ปัญหามี 4 ขั้นตอน

7.  การทาความเข้าใจกับปัญหาเพื่อแยกให้ออกว่าข้อมูลที่กาหนดมาในปัญหา
หรือเงื่อนไขของปัญหาคืออะไร อีกทั้งวิธีการที่ใช้ประมวลผลกล่าวโดย
สรุปมีองค์ประกอบในการวิเคราะห์ดังนี้
- ระบุข้อมูลเข้า
- ระบุข้อมูลออก
- กาหนดวิธีประมวลผล
1.การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา
State The Problem

8.  ขั้นตอนนี้จะเริ่มจากการเลือกเครื่องมือที่ใช้ในการแก้ปัญหา โดยพิจารณา
ความเหมาะสมระหว่างเครื่องมือกับเงื่อนไขต่างๆ ของปัญหาซึ่งหมาย
รวมถึงความสามารถของเครื่องมือในการแก้ปัญหาดังกล่าวและสิ่งที่สาคัญ
ที่สุดคือความคุ้นเคยในการใช้งานเครื่องมือนั้นๆ ของผู้แก้ปัญหาอีกสิ่ง
หนึ่งที่ สาคัญในการแก้ปัญหา คือยุทธวิธีที่ใช้ในการแก้ปัญหา หรือที่เรา
เรียกว่า “ขั้นตอนวิธี” (Algorithm) ในการแก้ปัญหาหลังจากที่เรา
ได้เครื่องมือช่วยแก้ปัญหา
2. การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้น
Tools And Algorithm Development

9.  ขั้นตอนนี้ก็เป็นการใช้โปรแกรมสาเร็จหรือใช้ภาษาคอมพิวเตอร์
เขียนโปรแกรมแก้ปัญหาขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับ
เครื่องมือที่เลือกใช้ซึ่งผู้แก้ปัญหาต้องศึกษาให้เข้าใจและ
เชี่ยวชาญ ในขณะดาเนินการหากพบแนวทางที่ดีกว่าที่ออกแบบ
ไว้ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้
3.การดาเนินการแก้ปัญหา
Implementation

10.  หลังจากที่ลงมือแก้ปัญหาแล้วต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า วิธีการนี้
ให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องโดยผู้แก้ปัญหาต้องตรวจสอบว่าขั้นตอนวิธีที่
สร้างขึ้นสอดคล้องกับรายละเอียดของปัญหา ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเข้า
และข้อมูลออกเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถรองรับข้อมูลเข้าได้ทุก
กรณีอย่างถูกต้องสมบูรณ์ ในขณะเดียวกันก็ต้องปรับปรุงวิธีการ
เพื่อให้การแก้ปัญหานี้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
4.การตรวจสอบและปรับปรุง
Refinement

11.  อัลกอริทึม (Algorithm) คือ กระบวนการ การทางานที่ใช้
การตัดสินใจ โดยนาหลักเหตุผลและคณิตศาสตร์มาช่วยเลือก
วิธีการหรือขั้นตอนการดาเนินงานต่อไป จนกระทั่งถึงขั้นตอน
สุดท้าย เป็นวิธีการที่ใช้แยกย่อยและเรียงลาดับขั้นตอนของ
กระบวนการในการทางานต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการ
ค้นหาและแก้ไขปัญหา
การถ่ายทอดความคิดในการแก้ปัญหาด้วย "อัลกอริทึม"

12. 1.การจาลองความคิดเป็นข้อความหรือคาบรรยาย
(Algorithm)
เขียนเค้าโครงด้วยการบรรยายเป็นภาษาที่มนุษย์ใช้สื่อสารกัน
เพื่อให้ทราบถึงขั้นตอนการทางานของการแก้ปัญหาแต่ละตอน
เครื่องมือที่ใช้ในการจาลองความคิด

13. 2.การจาลองความคิดเป็นสัญลักษณ์หรือผังงาน
(Flowchart)
รหัสจาลองหรือ Pseudo Code เป็นคาบรรยายที่เขียนแสดงขั้นตอนวิธี

14. ผังงาน(Flowchart)
 คือ แผนภาพซึ่งแสดงลาดับขั้นตอนของการทางาน

15. ผังงานโปรแกรม ( Program Flowchart )

16. ผังงานกับชีวิตประจาวัน

17. โครงสร้างการทางานแบบมีการเลือก ( Selection )

18. โครงสร้างการทางานแบบมีการทางานซ้า

19. DO WHILE
 เป็นโครงสร้างที่มีการทดสอบเงื่อนไขก่อน ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงก็จะเข้ามาทางานใน
กลุ่มคาสั่งที่ต้องทาซ้า ซึ่งเรียกว่าการเข้าลูป

20. DO UNTIL
 เป็นโครงสร้างการทางานแบบทางานซ้าเช่นกัน แต่มีการทางานที่แตกต่างจาก DO
WHILE คือจะมีการเข้าทางานกลุ่มคาสั่งที่อยู่ภายในลูปก่อนอย่างน้อย 1 ครั้ง
แล้วจึงจะไปทดสอบเงื่อนไข

21.  DO WHILE ในการทางานครั้งแรกจะต้องมีการตรวจสอบเงื่อนไขก่อนทุก
ครั้ง ก่อนที่จะมีการงาน
 DO UNTILการทางานครั้งแรกจะยังไม่มีการตรวจสอบเงื่อนไข แต่จะเข้าไป
ทางานในลูปก่อนอย่างน้อย 1 ครั้งแล้วจึงจะไปตรวจสอบเงื่อนไข
 DO WHILE จะมีการเข้าไปทางานในลูปก็ต่อเมื่อตรวจสอบเงื่อนไขแล้ว
พบว่า เงื่อนไขเป็นจริง แต่เมื่อพบว่าเงื่อนไขเป็นเท็จ ก็จะออกจากลูปทันที
 DO UNTIL จะมีการเข้าไปทางานในลูปก็ต่อเมื่อตรวจสอบเงื่อนไขแล้ว
พบว่า เงื่อนไขเป็นเท็จ แต่เมื่อพบว่าเงื่อนไขเป็นจริง ก็จะออกจากลูปทันที
สรุปข้อแตกต่างระหว่าง DO WHILE และ DO UNTIL

22.  จัดทาโดย
 1.นางสาวพอเพียง ภคไพบูลย์ ม.5/9 เลขที่ 1
 2.นายณัชนนท์ คาดวง ม.5/9 เลขที่ 4
 3.นางสาวนิศามณี ธิมาบุตร ม.5/9 เลขที่ 5
 4.นายสุรสิทธิ์ เหมาะชาติ ม.5/9 เลขที่ 8
 5.นางสาวอนุธิดา เหรียญเจริญ ม.5/9 เลขที่ 13
 6.นายพงศธร ฉาบสุวรรณ ม.5/9 เลขที่ 14
 นาเสนอ
 คุณครูจิรายุ ทองดี
ขอบคุณที่รับชม