เทคนิคปฏิบัติการทางเคมี M4
- 4. www.themegallery.com
ตาแหน่งของระดับสายตาในการอ่านปริมาตร มีความสาคัญต่อค่าที่ ได้จากการอ่านปริมาตรมาก
1. ถ้าระดับสายตาอยู่เหนือส่วนโค้งเว้าต่าสุดของของเหลว ปริมาตรที่อ่านได้จะมากกว่า ปริมาตรจริง
2. ถ้าระดับสายตาอยู่ในระดับเดียวกันกับส่วนโค้งเว้าต่าสุดของของเหลว ปริมาตรที่อ่าน ได้จะมีค่าถูกต้อง
3. ถ้าระดับสายตาอยู่ต่ากว่าส่วนโค้งเว้าต่าสุดของของเหลว ปริมาตรที่อ่านได้จะน้อย กว่าปริมาตรจริง
- 9. เทคนิคการใช้บิวเรตต์ที่ถูกต้องควรปฏิบัติดังนี้
www.themegallery.com
3. ก่อนเทสารละลายลงในบิวเรตต์ต้องปิดบิวเรตต์ก่อนเสมอ และเท สารละลายลงในบิวเรตต์โดยผ่านทางกรวยกรอง ให้มีปริมาตรเหนือขีดศูนย์ เล็กน้อย และปรับให้ปริมาตรของสารละลายอยู่ที่ขีดศูนย์พอดี (ที่บริเวณ ปลายบิวเรตต์จะต้องไม่มีฟองอากาศเหลืออยู่ หากมีฟองอากาศจะต้องเปิด ก๊อกให้สารละลายไล่อากาศออกไปจนหมด)
4. ถ้าปลายบิวเรตต์มีหยดน้าของสารละลายติดอยู่ ต้องเอาออกโดย ให้ปลายบิวเรตต์แตะกับบีกเกอร์หยดน้าก็จะไหลออกไป
- 12. เทคนิคการใช้บิวเรตต์ที่ถูกต้องควรปฏิบัติดังนี้
www.themegallery.com
6. เมื่อปล่อยสารละลายออกจากบิวเรตต์จนสารละลายลดลงถึงขีด บอกปริมาตรสุดท้ายของบิวเรตต์นั้น ๆ ต้องรีบปิดบิวเรตต์ทันที หากปล่อยให้สารละลายเลยขีดบอกปริมาตรสุดท้ายลงมา จะไม่ ทราบปริมาตรที่แน่นอนของสารละลายที่ผ่านบิวเรตต์ลงมา
ในกรณีที่ต้องใช้สารละลายที่มีจานวนมาก และใช้บิวเรตต์ในการถ่ายเท?
- 14. เทคนิคการใช้ปิเปต
www.themegallery.com
2. เมื่อจะนาปิเปตที่เปียกไปใช้วัดปริมาตร ต้องล้างปิเปตด้วย สารละลายที่จะวัด 2-3 ครั้ง โดยใช้สารละลายครั้งละเล็กน้อยและให้ สารละลายถูกผิวแก้วโดยทั่วถึง แล้วเช็ดปลายปิเปตด้วยกระดาษ tissue ที่สะอาด
3. จุ่มปลายปิเปตลงในสารละลายที่จะวัดปริมาตร โดยที่ปลายปิเปตอยู่ ต่ากว่าระดับสารละลายตลอดเวลาที่ทาการดูด
- 15. เทคนิคการใช้ปิเปต
www.themegallery.com
4. ใช้เครื่องดูดหรือกระเปาะยางดูดสารละลายเข้าไปใน
ปิเปตอย่างช้าๆ จนกระทั่งสารละลายขึ้นมาอยู่เหนือขีดบอกปริมาตร และใช้นิ้วชี้ปิดปลายปิเปตให้แน่นโดยทันที จับก้านปิเปตด้วย นิ้วหัวแม่มือและนิ้วกลาง (ไม่ควรใช้ปากดูด ถ้าสารละลายนั้นเป็นสารที่ มีพิษ หรือเป็นกรดแก่ ด่างแก่ ต้องใช้เครื่องดูดหรือกระเปาะยางต่อ ตอนบนของปิเปต)
- 16. เทคนิคการใช้ปิเปต
www.themegallery.com
5. จับปิเปตให้ตั้งตรงแล้วค่อยๆ ผ่อนนิ้วชี้เพื่อให้สารละลายที่เกินขีดบอก ปริมาตรไหลออกไปจนกระทั่งส่วนเว้าต่าสุดของสารละลายแตะกับขีดบอก ปริมาตรพอดี ปิดแน่นด้วยนิ้วชี้และ แตะปลายปิเปตกับข้างภาชนะที่ใส่ สารละลาย
6. ปล่อยสารละลายที่อยู่ในปิเปตลงในภาชนะที่เตรียมไว้โดยยกนิ้วชี้ขึ้น ให้สารละลายไหลลงตามปกติตามแรงโน้มถ่วงของโลกจนหมด แล้วแตะ ปลายปิเปตกับข้างภาชนะเพื่อให้สารละลายหยดสุดท้ายไหลลงสู่ภาชนะ
- 17. เทคนิคการใช้ปิเปต
www.themegallery.com
ข้อควรจา!!!!
1. การปรับปริมาตรของสารละลายให้อยู่ตรงขีดปริมาตรพอดีนั้น จะต้องไม่มีฟองอากาศเกิดขึ้น
2. ห้ามเป่าขณะทาการปล่อยสารละลายออกจากปิเปตอย่าเด็ดดาด เพราะการ เป่าจะทาให้ผนังด้านในของปิเปตสกปรก และยังทาให้สารละลายที่ติดอยู่กับ ผนังด้านในของ ปิเปตแต่ละครั้งแตกต่างกันด้วย ทาให้การวัดปริมาตรของ สารละลายที่วัดมีค่าไม่เท่ากันเมื่อได้มีการทดลองซ้า
- 28. เทคนิคการไทเทรต
www.themegallery.com
การไทเทรตเป็นการวิเคราะห์หา ความเข้มข้นของสารละลายที่ยังไม่ ทราบความเข้มข้นจากสารละลายที่ ทราบความเข้มข้นแล้วหรือที่เรียกกันว่า สารละลายมาตรฐาน อุปกรณ์ที่ใช้ในการ ไทเทรตก็คือบิวเรตต์ ตามปกติจะบรรจุ สารละลายที่ต้องการหาความเข้มข้นลง ในบิวเรตต์ ส่วนสารละลายมาตรฐาน บรรจุอยู่ในขวดรูปชมพู่
- 29. เทคนิคการไทเทรต
www.themegallery.com
1. ล้างบิวเรตต์ให้สะอาดแล้วตั้ง บิวเรตต์ให้มีลักษณะดังภาพ
2. เติมสารละลายที่ต้องการจะหาความ เข้มข้นลงในบิวเรตต์ (ใช้กรวยกรอง) ให้ มีปริมาตรเหนือขีดศูนย์เล็กน้อย
- 30. เทคนิคการไทเทรต
www.themegallery.com
3. ปล่อยสารละลายออกทางปลายบิวเรตต์ลงในบีกเกอร์เพื่อไล่ฟองอากาศ ที่อยู่ทางปลายบิวเรตต์ออกไปให้หมด แล้วปรับระดับสารละลายในบิวเรตต์ ให้อยู่ตรงขีดศูนย์พอดี
4. ใช้ปิเปตต์ดูดสารละลายมาตรฐานตามปริมาตรที่ต้องการใส่ลงใน
ขวดรูปชมพู่ แล้วหยดอินดิเคเตอร์ 2-3 หยดเพื่อใช้เป็นตัวบอกจุดยุติ
5. หยดสารละลายในบิวเรตต์ลงในขวดรูปชมพู่อย่างช้า ๆ พร้อมทั้งแกว่ง ชวดรูปชมพู่ด้วยมือขวาให้วนไปในทิศทางเดียวกัน จนกระทั่งถึงจุดยุติ
- 32. เทคนิคการไทเทรต
www.themegallery.com
2. ขณะไทเทรตควรใช้กระดาษสีขาววางไว้ใต้ชวดรูปชมพู่ เพื่อให้สังเกตการเปลี่ยนแปลง สีได้อย่างชัดเจน
ข้อควรจา!!!!
3. ในระหว่างการไทเทรตควรมีการล้างผนังด้านในของขวดรูปชมพู่ เพื่อให้เนื้อสารที่ติดอยู่ข้าง ๆ ไหลลงไปทาปฏิกิริยากันอย่างสมบูรณ์
กระดาษสีขาว
- 36. www.themegallery.com
ข้อควรระวัง
1. ขณะให้ความร้อนหลอดทดลองจะต้องหันปาก หลอดทดลองออกจากตัวเรา และชี้ไป ในทิศทางที่ไม่มี ผู้อื่น หรือสิ่งของอยู่ใกล้ ๆ
2. อย่าก้มดูของเหลวในหลอดทดลองขณะกาลังให้ ความร้อนเป็นอันขาด เพราะถ้าของ เหลวพุ่งออกมาอาจ เป็นอันตรายต่อใบหน้าและนัยน์ตาได้
เทคนิคการให้ความร้อนของเหลวหรือ สารละลายที่ไม่ติดไฟ
- 40. เทคนิคการนาสารที่เป็นของแข็งออกจากขวด
www.themegallery.com
วิธีที่ 1 วิธีนี้ใช้กับขวดที่ด้านในของจุกปิดมีช่องว่างสามารถใส่สารได้ มีวิธีทาดังนี้
1. เอียงขวดในตาแหน่งที่เหมาะสมแล้วหมุนขวดไปมาเพื่อให้สารเข้าไปในช่องว่างของ จุกขวด ถ้าของแข็งในขวดนั้นติดแน่นอาจต้องเขย่าขวดเบา ๆ เพื่อให้พื้นผิวของ ของแข็งนั้นแตกออกหรืออาจจะเปิดฝาขวดออกก่อนแล้วใช้ช้อนที่สะอาดขูดให้พื้นผิว ของสารแตกออกก่อนก็ได้
- 44. เทคนิคการนาสารที่เป็นของแข็งออกจากขวด
www.themegallery.com
วิธีที่ 2 วิธีนี้ใช้กับขวดด้านในไม่มีช่องว่างที่จะใส่สารได้ ในกรณีนี้ จาเป็นจะต้องใช้ช้อนตวง ตักสารออกมาจากขวดมีวิธีการดังนี้
1. หมุนจุกขวดเบา ๆ เพื่อให้หลวมแล้วเปิดออก ถ้าจุกขวดมีส่วนบน แบนเรียบให้วาง หงายบนพื้นโต๊ะที่เรียบและสะอาด แต่ถ้าจุกขวดมี ลักษณะอื่นห้ามวางจุกขวดลงบนโต๊ะอย่างเด็ดขาด จะต้องถือจุกขวดไว้
2. ใช้ช้อนตวงที่สะอาดตักสารออกจากขวด
- 46. เทคนิคการนาสารที่เป็นของแข็งออกจากขวด
www.themegallery.com
วิธีที่ 3 ในกรณีที่ไม่สามารถจะใช้วิธีที่ 1 และวิธีที่ 2 เพื่อนาสารที่เป็น ของแข็งออกจากขวด ได้ก็อาจใช้วิธีที่ 3 ซึ่งมีวิธีทาเป็นขั้น ๆ ดังนี้
1. ทาให้ขวดใส่สารสะเทือนเล็กน้อย โดยการเคาะเบา ๆ กับพื้น โต๊ะเพื่อให้สารในขวดเคลื่อนไหวและเกาะกันอย่างหลวม ๆ
2. เปิดจุกขวดและวางจุกขวดหงายขึ้นบนพื้นที่เรียบและสะอาด
3. ยกขวดใส่สารขึ้นเหนือภาชนะที่จะใส่สารเอียงขวดสารแล้วหมุนขวด ไปมา เพื่อให้สารตกลงมายังภาชนะที่รองรับจนได้ปริมาณตามต้องการ
- 48. www.themegallery.com
3. เปิดจุกขวดออก ถ้าจุกขวดนั้นมีส่วนบนแบนเรียบก็วางหงายขึ้น ถ้าจุกขวดเป็นยอดแหลมหรือมีส่วนที่ยาวออกมาให้ถือโดยให้ส่วน ที่เป็นยอดแหลมหรือส่วนที่ยาวออกมานี้อยู่ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วกลาง หงายมือขึ้นใช้นิ้วทั้งสองคีบส่วนที่เป็นยอดแหลม แล้วใช้ฝ่ามือจับ ขวดไว้
เทคนิคการเทของเหลวหรือ สารละลายออกจากขวด
- 49. www.themegallery.com
4. เมื่อเทของเหลวหรือสารละลายได้ตามต้องการแล้ว ก่อนที่จะเอาขวด สารออก ควรให้ปากขวดตรงบริเวณที่สารละลายนั้นไหลออกมาแตะกับ อุปกรณ์ที่รองรับสารละลายก่อน เพื่อป้องกันมิให้สารละลายไหลลงมา ข้างขวดเพราะจะทาให้เปรอะเปื้อนได้
5. ปิดจุกขวดทันที และอย่าหลงลืมวางจุกขวดไว้บนโต๊ะอย่างเด็ดขาด
เทคนิคการเทของเหลวหรือ สารละลายออกจากขวด
- 50. เทคนิคการล้างเครื่องแก้ว ที่ใช้ในหลอดทดลอง
www.themegallery.com
1. ต้องทาความสะอาดเครื่องแก้วนั้นทันทีหลังจากนาไปใช้งานแล้ว เพื่อให้เครื่องแก้ว แห้งก่อนที่จะนาไปใช้งานในครั้งต่อไป
2.การทาความสะอาดเครื่องแก้ว ต้องทาด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่อง แก้วที่มีลักษณะเป็นก้านยาว เช่น ขวดวัด ปริมาตร ปิเปตต์ บิวเรตต์ ฯลฯ
- 51. www.themegallery.com
3. ต้องล้างสบู่ สารซักฟอกหรือสารละลายทาความสะอาดออกให้หมด
4.การล้างเครื่องแก้วที่ใช้ในห้องปฏิบัติการทั่ว ๆ ไป ในขั้นสุดท้ายต้อง ล้างด้วยน้ากลั่นอีก 1-2 ครั้ง ถ้าเครื่องแก้วนั้นสะอาดจะสังเกตเห็นน้าที่ พื้นผิวเครื่องแก้วเปียกสม่าเสมอเป็นแบบเดียวกัน แต่ถ้าเครื่องแก้วยังไม่ สะอาด จะสังเกตเห็นเป็นหยดน้ามาเกาะข้างเครื่องแก้วนั้น
เทคนิคการล้างเครื่องแก้ว ที่ใช้ในหลอดทดลอง
- 54. www.themegallery.com
ข้อควรระวัง !!!
การล้างเครื่องแก้วโดยใช้แปรงถู อย่าถูแรงเกินไป เนื่องจากก้าน แปรงเป็นโลหะเมื่อไปกระทบกับแก้วอาจทาให้แตกและเกิด อันตรายได้
เทคนิคการล้างเครื่องแก้ว ที่ใช้ในหลอดทดลอง
- 55. เทคนิคการทาความสะอาดเครื่องแก้ว ที่ใช้ในการทดลอง
www.themegallery.com
การทาความสะอาดเครื่องแก้วที่ใช้วัดปริมาตร
ให้ล้างด้วยสารละลายสารซักฟอกหรือสารละลายทาความสะอาด แล้วล้างด้วยน้ากลั่นประมาณ 3 ครั้ง
ตั้งเครื่องแก้วทิ้งไว้ให้แห้งที่อุณหภูมิห้อง อย่านาใส่ในเตาอบที่ร้อน
ลักษณะผิวของเครื่องแก้วที่เปียกน้าจะดูเรียบเมื่อเครื่องแก้วนั้นสะอาด
แต่ถ้ามีลักษณะเป็นหยดน้าแสดงว่ายังสกปรกต้องนาไปล้างใหม่