More Related Content
More from Teetut Tresirichod (20)
บทที่ 16 การประเมินค่าอัตราความเร็ว
- 2. นาฬิกาที่ใช้จับเวลาควรเป็นแบบทศนิยมของนาทีหรือชั่วโมง นั่นคือ 1 รอบ แบ่งเป็น 100 ช่อง
ดังนั้น 1 ช่อง = 0.01 นาที หรือ 0.0001 ชม. และ 1 รอบ = 1 นาที หรือ 0.01 ชม.
การจับเวลาอาจทาได้ 2 วิธี
ก) การจับเวลาแบบต่อเนื่อง (Continuous Timing)
ข) การจับเวลาแบบย้อนกลับ (Repetitive Timing หรือ Snapback Timing)
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 2
- 5. 1) ใช้วิธีหาค่าเฉลี่ย (Average) คือผลรวมเวลาทั้งหมดหารด้วยจานวนรอบ
2) ใช้วิธีหาค่าฐานนิยม (Modal Method) คือค่าที่เกิดบ่อยที่สุดเป็ นค่าเวลาััวททน
วิธีค่าเฉลี่ย
Representative Time : (12+13+12+12+11+12 +12+14+12+13) / 10 =
12.3
วิธีฐานนิยม
Representative Time : = 12
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 5
- 10. 1. การเดินด้วยความเร็วสม่าเสมอในอัตราความเร็ว 3 ไมล์ต่อชั่วโมง โดย
ก้าวเท้ายาว 27 นิ้วต่อก้าว หรือเทียบเท่าก้าวเดิน 100 ฟุต ในเวลา 0.38
นาที หรือ 44 ฟุตใน 10 วินาที
2. การแจกไพ่ 52 ใบ ออกเป็น 4 กอง เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสห่างกัน 1 ฟุต ใช้
เวลา 0.50 นาที
3. การใส่แท่งไม้ 30 แท่ง ลงในแผ่นกระดานของ Barnes โดยใช้มือทั้งสอง
พร้อมกัน เสร็จในเวลา 0.41 นาที
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 10
- 13. 1. วิธี "Skill & Effort Rating" วิธีนี้คิดขึ้นโดย Charles E. Bedaux
2. วิธี "Westinghouse System of Rating" คิดขึ้นโดย บริษัท Westinghouse
3. วิธี "Synthetic Rating" คือการประเมินค่าความเร็วโดยอาศัยวิธี
Predetermined Motion Time System
4. วิธี "Objective Rating" โดย M.E. Mundel และ D.L. Danner
5. วิธี "Physiological Evaluation of Performance Level"
6. วิธี "Performance Rating" เป็นวิธีที่นิยมที่สุด
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 13
- 14. • คิดขึ้นโดย Charles E. Bedaux
• มาตรฐานของเวลาไว้เป็นแต้มหรือเรียกว่า 'B'
• อัตราปกติเท่ากับ 60B ต่อชั่วโมง
• ค่าอัตราเฉลี่ยภายใต้ระบบจูงใจจะอยู่ประมาณ 70B ถึง 85B ต่อชั่วโมง
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 14
- 15. • คิดขึ้นโดย บริษัท Westinghouseในปี 1927
• โดยพิจารณาจากองค์ประกอบ 4 ตัว คือ
(1) ทักษะหรือความชานาญ (Skill)
(2) ความพยายาม (Effort)
(3) สภาพเงื่อนไขการทางาน (Conditions)
(4) ความสม่าเสมอ (Consistency)
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 15
- 18. จากการจับเวลาของงานย่อยงานหนึ่ง เวลาตัวแทนที่คานวณได้ = 0.50 นาที
ได้ให้คะแนนขององค์ประกอบทั้ง 4 ตัวดังนี้
Skill : Excellent = B2 + 0.08
Effort : Good = C1 + 0.05
Conditions : Good = C + 0.02
Consistency : Average = D + 0.00
รวมคะแนน + 0.15
ค่าปรับความเร็วเป็น + แสดงว่าพนักงานทางานเร็วกว่าปกติถึง 15% หรือเท่ากับ
อัตราความเร็ว 1.15
∴ เวลาปกติ = 0.50 x 1.15 = 0.575 นาที
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 18
- 21. • คิดขึ้นโดย M.E. Mundel และ D.L. Danner
• วิธีนี้ได้แบ่งการประเมินออกเป็น 2 ขั้นตอนคือ
1. ประเมินความเร็วของการทางานตามปกติ
2. เพิ่มค่าปรับความยาก (Difficulty Adjustment)
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 21
- 22. โดยดูจากองค์ประกอบในการทางานเพิ่มขึ้นใน 6 กลุ่มดังนี้
(1) การเคลื่อนที่ต้องใช้อวัยวะกลุ่มใดของร่างกาย (Amount of body used)
(2) การใช้ที่เหยียบเท้าร่วมในการทางาน (Foot pedals used)
(3) การใช้มือทั้งสองพร้อมกัน (Use of two hands simultaneously)
(4) การใช้สายตาประสานกับการทางานของมือ (Eye-hand coordination)
(5) ความระมัดระวังในการหยิบจับหรือสัมผัส (Handling or sensory requirement)
(6) น้าหนักที่ต้องยกขึ้นหรือการทางานโดยมีแรงต้านหรือแรงกด (Weight handled or
resistance encountered)
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 22
- 28. วิธีการคานวณ
1. การคานวณค่า Rated Time :
งานย่อยที่ 1 = 0.15 x 1.10 = 0.165 นาที
งานย่อยที่ 2 = 0.10 x 0.80 = 0.08 นาที
Rated cycle time = 0.245 นาที
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 28
- 31. ข้อดี : วิธีนี้ทม้วัดความทักั่างทละทปลงเป็ นค่าอััราความเร็วได้
ข้อเสีย : 1. อััราการเั้นของหัวใจของคนทั่ละคนทักั่างกันทม้ในระดับ
ปกติ และอัตราการเปลี่ยน แปลงก็แตกต่างกันทั้งก่อนและหลังการทางาน
2. ค่อนข้างยุ่งยากในการหาค่าอัตราทางานปกติที่จะใช้ แต่มี ประโยชน์
ในแง่ของการเปรียบเทียบความแตกต่างของวิธีการทางานที่ต่างกัน
3. ใช้เพื่อการศึกษาค้นคว้าผลของการทางานและแรงกระทาต่อการทางาน
ของร่างกาย
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 31
- 33. • Normal Pace หมายถึง อัตราความเร็วปกติของพนักงาน ซึ่งเทียบกับมาตรฐานที่
ได้กาหนดไว้ภายใต้สภาพการทางานที่เหมาะสม และปราศจากแรงกระตุ้นของ
เงินรางวัล
• หากมีการใช้ระบบการจ่ายเงินจูงใจ (Incentive Scheme)แล้ว โดยทั่วไประดับการ
ทางานของพนักงานเฉลี่ยจะสูงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 25-35% ระดับการทางาน
เฉลี่ยที่สูงขึ้นนี้เรียกว่า "Average Incentive Pace" หรืออัตราความเร็วเฉลี่ยภายใต้
เงินจูงใจ
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 33
- 35. Rating Scale ที่นิยมใช้มีอยู่ด้วยกัน 4 ทบบคือ
1) Scale A หรือสเกล 100-133 ประเมินค่าเป็น %
2) Scale B หรือสเกล 60-80 ประเมินค่าเป็นแต้ม
3) Scale C หรือสเกล Incentive 125%
4) Scale D หรือสเกล 0-100 ประเมินค่าเป็น%
ในประเทศไทยสเกลในการประเมินความเร็วที่นิยมใช้ที่สุดคือสเกล100-133 หรือสเกล
A เพราะใช้ง่ายและสามารถฝึกผู้ประเมินความเร็วให้คุ้นเคยได้ง่าย
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 35