More Related Content
More from Teetut Tresirichod (20)
บทที่ 6 การออกแบบกระบวนการใหม่
- 4. 1. จัดหาและติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์สิ่งอานวยความสะดวกต่าง ๆ
2. ทดสอบเครื่องจักร อุปกรณ์และวัสดุต่างๆที่ใช้ในการผลิต
3. กาหนดเส้นทางในการผลิตและออกแบบเอกสารต่าง ๆ ที่ใช้ในการ
ควบคุมการผลิต
4. กาหนดจุดควบคุมและมอบหมายผู้รับผิดชอบ
5. เลือกและฝึกหัดพนักงานให้ปฏิบัติงานตามวิธีที่กาหนดไว้
6. ทวนสอบวิธีการและความสัมพันธ์กับเวลามาตรฐานที่กาหนดไว้
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 4
- 8. อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 8
1. พื้นที่ในการทางานที่มีจากัด ส่งผลให้การ
เลือกใช้อุปกรณ์การเคลื่อนย้ายที่จากัด
2. ระยะเวลาในการทางานที่จะต้องเป็นไปตาม
กาหนดการ
3. การบริหารจัดการและการประสานงานเพื่อให้
กลุ่มงานต่าง ๆ และวัสดุอุปกรณ์สามารถ
เคลื่อนย้ายเข้าพื้นที่เพื่อการทางานได้อย่าง
รวดเร็ว
- 9. อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 9
• ใช้กับผลิตภัณฑ์ตามสั่ง(Customized) ที่มีปริมาณการผลิตไม่มาก แม้มีความหลากหลาย ของ
ผลิตภัณฑ์
• กระบวนการในการทางานคล้ายคลึงกัน เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ ของเด็กเล่น งานพิมพ์ เป็นต้น
• กลุ่มของกระบวนการอาจเป็นการรวม กลุ่มของเครื่องจักรอุปกรณ์ (Machine Process)ที่ทางาน
อย่างเดียวกัน หรือเป็นการรวมกลุ่มตามหน้าที่งาน(Functional)
• วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้ทางานที่หลากหลายได้โดยสะดวก งานบริการบางกลุ่ม ที่มีการจัดการผังการ
ให้บริการเป็นแบบนี้เช่น โรงพยาบาล ธนาคาร ห้องสมุด อู่ซ่อมรถ เป็นต้น
- 12. • มีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนตารางการผลิต เพื่อรองรับความต้องการของ
ลูกค้า
• การใช้เครื่องมือที่มีความคล้ายคลึงกันรวมกลุ่มด้วยกัน ทาให้สามารถเลือกใช้
เครื่องจักรให้ตรงตามลักษณะงานได้ ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตโดยรวม
• พนักงานส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานมีฝีมือและมีทักษะหลากหลาย
• ลักษณะงานที่แบ่งตามกระบวนการ เอื้ออานวยให้สามารถใช้ระบบค่าแรงจูง ใจ
แบบเดี่ยวได้
• การหยุดชะงักของงาน เนื่องจากปัญหาเครื่องจักรตัวใดตัวหนึ่งไม่ส่งผลต่อ
กระบวนการทั้งหมด เนื่องจากยังมีเครื่องจักรตัวอื่น ๆ ที่สามารถทาหน้าที่ชดเชย
กันได้
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 12
- 14. อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 14
• เป็นลักษณะการวางผังที่เน้นการผลิตผลิตภัณฑ์ใน
ปริมาณสูง
• เครื่องจักรเครื่องมือในการผลิตจะเรียงตามขั้นตอนการ
ผลิตของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ตั้งแต่วัตถุดิบป้ อนเข้าจนเป็น
ผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป
• สายการผลิตจะถูกออกแบบมา เพื่อให้การป้ อนของ
ชิ้นส่วนและวัตถุดิบเป็นไปอย่างต่อเนื่องและไม่ขาดตอน
• ชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์มักต้องเคลื่อนย้ายไปบนสายพาน
เพื่อให้เกิดความรวด เร็วในการผลิต
• เหมาะสาหรับการผลิตสินค้าแบบต่อเนื่องเป็นจานวน
มาก เช่น การผลิตรถยนต์ อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้ ารองเท้า
กีฬา เป็นต้น การวางผังในลักษณะนี้บางครั้งเรียกว่า Flow
Shop หรือ Assembly Line
- 17. อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 17
1. การวางผังแบบเซล (Cellular) เป็นการ
รวมกลุ่มเครื่องจักรที่ทาหน้าที่คล้าย คลึง
กันเพื่อการผลิตชิ้นส่วนบางตัว หรือกลุ่ม
ชิ้นส่วนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
2. การวางผังแบบปรับเปลี่ยน (Flexible
Manufacturing Systems) เป็นการใช้
เครื่องจักรและระบบลาเลียงอัตโนมัติ ที่
สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับผลิต-
ภัณฑ์ที่หลากหลาย
3. การวางผังแบบผลิตภัณฑ์ผสม (Mixed
Model Assembly-lines) เป็นการวางผังที่
รวมกลุ่มผลิตภัณฑ์บางกลุ่มเข้าด้วยกัน
บนสายการผลิตเดียวกัน เพื่อลดเวลาใน
การปรับเปลี่ยน
- 18. 1. เพื่ออานวยความสะดวกแก่กระบวนการผลิต
2. เพื่อลดต้นทุนการขนย้ายให้น้อยที่สุด
3. เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีอยู่อย่างเต็มที่
4. เพื่อให้สายการผลิตมีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง
5. เพื่อเอื้ออานวยให้การสื่อสารระหว่างหัวหน้างานและพนักงานมี
ประสิทธิภาพสูงสุด และแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
6. การวางผังเพื่อก่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
7. ผังที่ดีต้องออกแบบเพื่อให้คนงานทางานได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และ
ถูกหลักการยศาสตร์
8. ช่วยลดรอบเวลาในการผลิต
9. รองรับแผนการซ่อมบารุงต่าง ๆ
10. สนับสนุนการควบคุมการผลิตโดยวิสัย (Visual Control)
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 18
- 19. 1. ประเภทของเครื่องจักรและเครื่องมือในการผลิต โดยคานึงถึงผลิตภัณฑ์ที่ต้อง การผลิต
เป็นหลัก
2. จานวนเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต ซึ่งต้องสัมพันธ์กับปริมาณการขายและการเติบโตใน
อนาคต
3. เนื้อที่สาหรับการติดตั้งเครื่องจักรและพื้นที่ในการทางาน
4. เนื้อที่สาหรับวางวัสดุ ซึ่งรวมถึงวัตถุดิบ วัสดุระหว่างผลิต และผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป
รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการขนถ่ายวัสดุตลอดกระบวนการ
5. เนื้อที่สาหรับการให้บริการ เช่น ห้องทางาน ห้องอาหาร ห้องพยาบาลห้องน้า เป็นต้น
6. เนื้อที่สาหรับพนักงานและการปฏิบัติงานของคนงาน
7. การติดต่อกับแผนกงานอื่น ๆ ภายในโรงงาน
8. ผังของตัวอาคารและเนื้อที่ปฏิบัติงาน
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 19
- 21. • การลดระยะทางในการขนถ่ายวัสดุ จากการวิเคราะห์โดยแผนภูมิการเคลื่อนย้าย
(Flow
Process Chart) เช่น ระยะทางการขนย้ายยาวเกินไป วัสดุที่ขนถ่ายหนักเกินไป มี
อุบัติเหตุเนื่องจากการขนย้าย มีความเสียหายเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์จากการขนย้าย
• แนวทางในการแก้ไขสามารถอาศัยแผนภูมิกระบวนการผลิต และแผนภาพการ
เคลื่อนย้ายช่วยในการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุง ร่วมกับเทคนิคการตั้งคาถามต่าง ๆ ดัง
แสดงขั้นตอนการวิเคราะห์ในบทที่ 7 การขจัดและการลดระยะทางในการขนถ่ายมัก
เกิดขึ้นควบคู่ไปกับการพัฒนาการวางผังโรงงาน
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 21
- 22. การปรับปรุงประสิทธิภาพของการขนถ่ายวัสดุอาจพิจารณาโดยอาศัย Check list ต่อนี้คือ
1. บรรจุให้เต็มภาชนะขนย้ายทุกครั้ง
2. อุปกรณ์ขนถ่ายเคลื่อนย้ายได้สะดวกและรวดเร็ว
3. ขนถ่ายโดยอาศัยแรงโน้มถ่วงของโลก
4. เครื่องมือขนถ่ายควรใช้งานได้หลากหลายหน้าที่ และขนถ่ายได้หลายประเภท
5. เคลื่อนย้ายในระยะทางตรงเสมอ
6. จัดให้มีอุปกรณ์เก็บของขนาดใหญ่ เช่น คอนเทนเนอร์ หรือหีบขนาดใหญ่เพื่อความ
สะดวกในการขนย้าย
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 22
- 27. 1. คุณสมบัติของวัสดุ เช่น เป็นของแข็ง ของเหลว ชิ้นส่วนประกอบ รูปร่าง
ขนาดและน้าหนัก
2. ผังโรงงานและลักษณะของอาคาร ควรคานึงว่ามีเนื้อที่ในการขนถ่าย
วัสดุ
เพียงใด ซึ่งจะไม่ไปกีดขวางการทางานของพนักงานในบริเวณนั้น
3. ลักษณะของสายการผลิตเป็นแบบต่อเนื่องหรือเป็นกลุ่ม
4. การพิจารณาด้านต้นทุนค่าใช้จ่ายและความคุ้มค่า
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 27
- 28. สินค้าที่ผลิตคือ สินค้า A
จานวนสินค้าที่ต้องผลิต (จากการพยากรณ์) 48,000 หน่วย/ปี
เวลาทาการ ( 8 ชั่วโมง/วัน ปีละ 300 วัน) 2,400 ชั่วโมง/ปี
สินค้าที่ต้องการ เผื่อความเสียหาย 10%
ขั้นตอนการผลิต 3 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1,2 และ 3
ชนิดของเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต ขั้นที่ 1 ใช้เครื่องจักร ก
ขั้นที่ 2 ใช้เครื่องจักร ข
ขั้นที่ 3 ใช้เครื่องจักร ค
เวลาในการผลิตโดยใช้
เครื่องจักร ก. 5 นาที/หน่วย
เครื่องจักร ข. 2.5 นาที/หน่วย
เครื่องจักร ค. 15 นาที/หน่วย
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 28
- 31. เครื่องจักร ก. = 60 นาที/นาที/หน่วย
5
= 12 หน่วย/ชั่วโมง
เครื่องจักร ข. = 60 นาที/นาที/หน่วย
2.5
= 24 หน่วย/ชั่วโมง
เครื่องจักร ค. = 60 นาที/นาที/หน่วย
15
= 4 หน่วย/ชั่วโมง
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 31
- 32. เครื่องจักร ก. = 22 หน่วย/ชั่วโมง/หน่วย/ชั่วโมง
12
ต้องการเครื่องจักร ก. = 1.83 เครื่อง
เครื่องจักร ข. = 22 หน่วย/ชั่วโมง/หน่วย/ชั่วโมง
24
ต้องการเครื่องจักร ข. = 0.92 เครื่อง
เครื่องจักร ค. = 22 หน่วย/ชั่วโมง/หน่วย/ชั่วโมง
4
ต้องการเครื่องจักร ค. = 5.5 เครื่อง
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 32
- 33. รายละเอียดของการผลิตสินค้า 1 2 3
เวลาในการตั้งเครื่อง 30 50 10
เวลามาตรฐาน (หน่วย/นาที) 1 0.60 0.20
ความต้องการ (หน่วย/สัปดาห์) 1,000 5,000 2,500
จานวนครั้งของการตั้งเครื่อง (ครั้ง/สัปดาห์) 1 4 6
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 33
เวลาทางาน/สัปดาห์ 48 ชั่วโมงทางาน
เผื่อสินค้าเสียหาย 10%
จานวนเครื่องจักรที่ต้องการ = เวลาตั้งเครื่องจักร + เวลาที่ใช้ในการผลิตสินค้า 1,2,3
เวลาทางาน/สัปดาห์
- 34. สินค้า 1 อัตราการผลิต = 110 x 1,000 = 1,100 หน่วย/สัปดาห์
100
สินค้า 2 อัตราการผลิต = 110 x 5,000 = 5,500 หน่วย/สัปดาห์
100
สินค้า 3 อัตราการผลิต = 110 x 2,500 = 2,750 หน่วย/สัปดาห์
100
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 34
- 35. = จานวนเวลาตั้งเครื่อง x จานวนครั้งตั้งเครื่อง/สัปดาห์
60 นาที
สินค้า 1 = 30 x 1 = 0.50 ชั่วโมง/สัปดาห์
60
สินค้า 2 = 50 x 4 = 3.33 ชั่วโมง/สัปดาห์
60
สินค้า 3 = 10 x 6 = 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
60
ดังนั้น เวลาตั้งเครื่อง = 0.50 + 3.33 + 1 = 4.83 ชั่วโมง
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 35
- 36. เวลาที่ใช้ในการผลิต = เวลามาตรฐานต่อหน่วย x อัตราการผลิต
60 นาที
เวลาที่ใช้ในการผลิตสินค้า 1 = 1x1100 = 18.33 ชั่วโมง/สัปดาห์
60
เวลาที่ใช้ในการผลิตสินค้า 2 = 0.60x5500 = 55 ชั่วโมง/สัปดาห์
60
เวลาที่ใช้ในการผลิตสินค้า 3 = 0.20x2750 = 9.16 ชั่วโมง/สัปดาห์
60
ดังนั้นเวลาที่ใช้ในการผลิตสินค้า 1,2,3 เท่ากับ 18.33 + 55 + 9.16 = 82.49
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 36
- 37. จานวนเครื่องจักร ที่ต้องการ = เวลาตั้งเครื่องจักร + เวลาที่ใช้ในการผลิต
48 ชั่วโมง/สัปดาห์
= 4.83+82.49 = 87.32 = 1.81
48 48
เครื่องจักรที่ต้องการ = 2 เครื่อง
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 37