SlideShare a Scribd company logo
1 of 44
Download to read offline
อาจารย์ ฐาพล สมสกุล (อ.ตุ๊ ก)


          Face book : Tuk Diving
ความสําคัญของการศึกษาสรีรวิทยา
  พฤติกรรมของมนุษย์มีความสัมพันธ์
กับระบบสรีรวิทยาโดยตรง
  ชีววิทยาและจิตวิทยาจึงเป็ นศาสตร์ที่เกี่ยว
สัมพันธ์กนั
  ระบบของอวัยวะมีการทํางานอย่างสมดุลกัน
  ระบบภายในร่างกาย
กับสิ่งแวดล้อมภายนอก ต่างก็มีอิทธิพลต่อกัน
ระบบการทํางานของร่างกาย
            ที่ส่งผลต่อพฤติกรรม
๑. ระบบประสาท (Nervous System)
   ควบคุมอวัยวะ เป็ นศูนย์กลางความรู้สึกนึ กคิด
๒. ระบบต่อม (Gland System)
   มีผลต่อการเติบโต พฤติกรรมและบุคลิกภาพ
๓. ระบบกล้ามเนื้ อ (Muscular System)
   การเคลื่อนไหวของร่างกาย
โครงสร้างของระบบประสาท
   แบ่งเป็ น 2 ส่วน ได้แก่
๑. เซลล์ประสาท(Nerve Cell) ประกอบด้วย
   Axon ใยส่งความรู้สึกออกจาก cell body
   Dendrite ใยรับความรู้สึกเข้าสู่ cell body
๒. เส้นประสาท(Motor Nerve Fibers) ใยประสาท
ทําหน้ าที่นําสัญญาณจาก receptors เข้าสู่ระบบ
ประสาทส่วนกลาง
ภาพที่ แสดงส่ วนประกอบของเซลล์ ได้ แก่ ตัวเซลล์ เดนไดรต์ แอกซอน และ
                            ซิแนปส์
๑. ระบบประสาท (Nervous System)
    รวบรวมข้อมูล ทังจากภายนอกและภายใน
                    ้
ร่างกาย (sensory function) นําส่งข้อมูลไปยัง
ระบบประสาทกลางเพื่อทําการวิเคราะห์ข้อมูล
    เพื่อให้มีการตอบสนองที่เหมาะสมและสังงาน ่
ไปยังระบบต่างๆเช่น กล้ามเนื้ อ ต่อมต่าง ๆ หรือ
อวัยวะอื่นๆ ให้มีการตอบสนอง
    ระบบประสาทแบ่งเป็ น ๒ ประเภท
ประเภทระบบประสาท (Nervous System)
๑. ประสาทส่ วนกลาง Central Nervous System
   สมอง (Brain)
   ไขสันหลัง (Spinal Cord)
๒. ประสาทส่ วนปลาย Peripheral Nervous System
       ประสาทรับสัมผัส (Somatic System)
       ประสาทอัตโนมัติ
ประเภทระบบประสาท (Nervous System)
๒. ประสาทส่ วนปลาย Peripheral Nervous System
๒.๑ ระบบประสาทรับสัมผัส (Somatic System)
๒.๒ ระบบประสาทอัตโนมัติ แบ่ งเป็ น ๒ ระบบ
    ๒.๒.๑ ระบบประสาทซิมพาเธติก
    ๒.๒.๒ ระบบประสาทพาราซิมพาเธติก
ประเภทระบบประสาท         1. Central Nervous System


แบ่ งเป็ น 3 ส่ วน
1. Forebrain
    2. Midbrain
          3. Hindbrain
ประเภทระบบประสาท        1. Central Nervous System


  1. Forebrain ประกอบด้ วย
      1.1 Cerebrum มีขนาดใหญ่ ท่ สุด มีรอยหยัก
                                   ี
เป็ นจํานวนมาก แบ่ งเป็ น ๒ ซีก คือ ซ้ าย ขวา
      1.2 Thalamus
      1.3 Hypothalamus
      1.4 Limbic system
ประเภทระบบ ฯ       1. Central Nervous System Brain
 2. Midbrain เชื่อมกับ Cerebrum เป็ นสถานีรับส่ ง
ความรู้ สึก ไปยังสมองส่ วนหน้ า
 3. Hindbrain
      3.1 Cerebellum ประสานการทํางานของ
กล้ ามเนือต่ าง ๆ เช่ น มือและขาประสานกัน
          ้
      3.2 Medulla ติดไขสันหลัง ควบคุมระบบ
ประสาทอัตโนมัติ เช่ น หายใจ ควบคุมความดัน
      3.3 Pons
การทํางานของสมอง
ประเภทระบบประสาท 1.Central Nervous System
ไขสันหลัง (Spinal Cord)
    เป็ นทางเดินของกระแสประสาทที่ตดต่ อระหว่ าง
                                           ิ
ไขสันหลังและสมอง มีความยาวประมาณ ๑๘ นิว             ้
    ไขสันหลัง บรรจุอยู่ในโพรงกระดูกสันหลัง มี
ทังหมด ๓๑ ปล้ อง
  ้
    ทําหน้ าที่รับส่ งความรู้สึกผ่ านไปยังสมอง เป็ น
ศูนย์ กลางของระบบปฏิกริยาสะท้ อน(Reflex action)
                             ิ
ภาพ
แสดงระบบประสาท
   ส่ วนกลาง
ประเภทระบบประสาท 2. Peripheral Nervous System
๒.๑ ระบบประสาทรับสัมผัส (Somatic System)
๒.๒ ระบบประสาทอัตโนมัติ แบ่ งเป็ น ๒ ระบบ
  ๒.๒.๑ ระบบประสาทซิมพาเธติก
  ๒.๒.๒ ระบบประสาทพาราซิมพาเธติก
ประเภทระบบประสาท 2 .Peripheral Nervous System
  ทําหน้ าที่รับและนําความรู้ สึกเข้ าสู่ระบบประสาท
 ส่ วนกลางไปยังหน่ วยปฏิบตงาน ซึ่งประกอบด้ วย
                           ั ิ
 หน่ วยรั บความรู้สึกและอวัยวะรั บสัมผัส
 ๒.๑ ระบบประสาทรั บสัมผัส (Somatic)
 ๒.๒ ระบบประสาทอัตโนมัติ แบ่ งเป็ น ๒ ระบบ
ประเภทระบบประสาท 2. Peripheral Nervous System
๒.๑ ระบบประสาทรั บสัมผัส (Somatic)
   อยู่ภายใต้ อานาจจิตใจ ควบคุมกล้ ามเนือ
                ํ                              ้
และรั บสัมผัสสิ่งเร้ า ซึ่งแบ่ งเป็ น ๒ ลักษณะ
      ๑. อวัยวะสัมผัสเฉพาะด้ าน ตา หู จมูก ลิน   ้
      ๒. อวัยวะสัมผัสทั่วไป คือ การสัมผัสทาง
ผิวหนัง หรื อความรู้สึกต่ าง ๆ จากการสัมผัส
   ระบบนีมีอทธิพลต่ ออารมณ์ เจตคติ
            ้ ิ
ประเภทระบบประสาท 2 .Peripheral Nervous System
๒.๑ ระบบประสาทรั บสัมผัส (Somatic)
๑. นัยน์ ตา (Eye)
    - ตารั บสัมผัสสิ่งเร้ าที่มีลักษณะเป็ นคลื่นแสงที่
กระทบวัตถุ แล้ วสะท้ อนเข้ าสู่นัยน์ ตา
    - เซลประสาทที่ตา จะเปลี่ยนคลื่นแสงเป็ น
กระแสประสาทส่ งไปยังสมองส่ วนที่ควบคุมการ
มองเห็น
๑.๑ กระจกตา (cornea) เป็ น
                              ส่ วนหนึ่งของตาดํา ทําให้ แสง ที่
                              สะท้ อนจากวัตถุผ่านเข้ าสู่เลนส์
                              ตา (lens) ไปตกที่จอตา (retina)
๑.๒ ม่ านตา (iris) ประกอบด้ วยเซลล์ เม็ดสีทาให้ ม่านตาของ
                                              ํ
มนุษย์ มีสีท่ แตกต่ างกัน
              ี
๑.๓ แก้ วตาหรื อเลนส์ ตา (lens) มีหน้ าที่รับแสงที่สะท้ อนจาก
วัตถุ แล้ วโฟกัสภาพที่ได้ รับมา เพื่อให้ ไปตกที่จอรั บภาพ
ถ้ าวัตถุอยู่ไกล เลนส์ จะปรั บตัวให้ มีลักษณะบาง
ถ้ าวัตถุอยู่ใกล้ เลนส์ กจะนูนและหนา
                         ็
ประเภทระบบประสาท 2.Peripheral Nervous System
 ๒.๑ ระบบประสาทรั บสัมผัส (Somatic)
๒. หู (Ear)
การได้ ยนเสียงของคนเราจะเกิดขึนเมื่อวัตถุเกิด
          ิ                      ้
การสั่นสะเทือนและส่ งเป็ นคลื่นเสียงออกมาเข้ า
สู่ช่องหู และสมองจึงแปลความหมายอีกครังว่ า
                                        ้
เสียงที่ได้ ยนนันเป็ นเสียงอะไร
             ิ ้
* ส่ วนประกอบสําคัญของหู *
                     ๑. หูชันนอก (external ear)
                             ้
                          -ใบหู ช่ องหู และชันใน
                                               ้
                     สุดได้ แก่ เยื่อแก้ วหู
                         - เมื่อคลื่นเสียงผ่ านเข้ า
                     ช่ องหูไปกระทบเยื่อแก้ วหู
                     ทําให้ เยื่อแก้ วหูเกิดการ
                     สั่นสะเทือนเพื่อส่ งคลื่น
                     เสียงนันไปยังหูชันต่ อไป
                               ้          ้
* ส่ วนประกอบสําคัญของหู *
                   ๒. หูชันกลาง (middle ear)
                            ้
                        ช่ องเล็กๆ ติดกับลําคอ
                   เรี ยกว่ าอูสตาเชียน (Eustachian)
                   ทําหน้ าที่ปรั บความกดดันของ
                   อากาศระหว่ างภายในกับ
                   ภายนอกหูให้ เท่ ากัน
                   ประกอบด้ วยกระดูก ๓ ชินทํา    ้
                   หน้ าที่รับคลื่นเสียงที่ส่งมาจาก
                   เยื่อแก้ วหูเพื่อส่ งต่ อไปยังหูชันใน
                                                     ้
* ส่ วนประกอบสําคัญของหู *
                   ๓. หูชันใน (inner ear)
                           ้
                       คล้ ายหอยโข่ ง ประกอบด้ วย
                   ของเหลวและเส้ นประสาท คลื่น
                   เสียงจะทําให้ ของเหลวกระเพื่อม
                   เป็ นคลื่นซึ่งจะมีเซลล์ ประสาทรั บ
                   ความรู้ สกทําหน้ าที่เปลี่ยนคลื่น
                             ึ
                   เสียงเป็ นกระแสประสาท เพื่อ
                   ส่ งไปยังสมอง ทําให้ เกิดการได้
                   ยินเสียง
หูตง หูอือ หูหนวก อาจเกิดจากการได้ รับอุบตเหตุ
            ึ    ้                                ั ิ
หรือเป็ นผลจากเชือไวรัสบางชนิดที่ทาให้ เยื่อแก้ วหูถก
                   ้                 ํ                ู
ทําลาย จนไม่ สามารถส่ งคลื่นเสียงไปยังหูชันกลางและ
                                             ้
ชันในได้
  ้
       การได้ รับความสั่นสะเทือนจากคลื่นเสียงที่มีความ
ดังเกินกว่ าระดับ 90 เดซิเบล เป็ นเวลานานเกินไป
       เมื่อบุคคลอายุมากขึน ทําให้ การได้ ยนบกพร่ อง
                           ้               ิ
๑.๒.๑ ประสาทรั บสัมผัส       การได้ กลิ่นเกิดจากการทํา
                         ปฏิกริยาทางเคมีของสิ่งเร้ า
                                ิ
๓. จมูก (nose)               ภายในช่ องจมูกจะมีขน
                         จมูกประกอบไปด้ วยเยื่อ
                         บางๆ และมีเซลล์ ประสาท
                            เมื่อกลิ่นถูกสูดเข้ าไปเซลล์
                         ประสาทจะแปลงกลิ่นให้ เป็ น
                         กระแสประสาทเพื่อส่ งไปยัง
                         สมองเขตควบคุมการได้ กลิ่น
                         ทําให้ ร้ ู สกว่ าได้ กลิ่น
                                      ึ
๔. ลิน (Gustatory)
     ้                   รสพืนฐานมีอยู่ ๔ รส
                               ้
                     เค็ม หวาน เปรี ยว ขม
                                       ้
                           ตุ่มรั บรสเล็ก ๆ บน
                     ลินเรียกว่ า พาพิลลา
                       ้
                     ภายในจะมีเซลล์ ประสาท
                     คล้ ายเส้ นขนมัดรวมกัน
                     เป็ นตุ่ม ตายและเกิดใหม่
                     ได้ ตลอดเวลา และจะมี
                     ปริมาณลดลงเรื่ อยๆ เมื่อ
                     อายุมากขึน    ้
๒.๑ ระบบประสาทรั บสัมผัส (Somatic)


     เป็ นอวัยวะรั บสัมผัสที่รับการกระตุ้นจากสิ่งเร้ าคือ แรงกด
ความร้ อน ความเย็น ความเจ็บปวด
     ใต้ ผิวหนังประกอบด้ วยเซลล์ ประสาทรั บความรู้ สึก ซึ่งจะมี
มากน้ อยไม่ เท่ ากัน จึงทําให้ แต่ ละส่ วนของร่ างกายจึงมีจุดที่ไว
ต่ อการรั บสัมผัสได้ ดีแตกต่ างกัน
     บริเวณปลายนิวและริมฝี ปากจะไวต่ อการรั บสัมผัส
                      ้
มากกว่ าบริเวณฝ่ าเท้ าและหลังเท้ า
        แบ่ งออกได้ เป็ น 3 ชัน คือ
                              ้
๑. ผิวหนังชันนอกสุดหรื อ
                   ้
       หนังกําพร้ า (Epidermis)
ประกอบด้ วยเซลล์ ผิวหนัง
ที่เรี ยงตัวซ้ อนกันเป็ นชันๆ
                           ้
โดยเซลล์ ชันบนสุดจะตาย
               ้
และหลุดลอกออกไปก่ อน
เซลล์ ใหม่ ชันล่ างจึงเลื่อน
                 ้
ขึนมาแทนที่ ผิวหนัง
     ้
ชันนอกนียังประกอบด้ วย
   ้         ้
เซลล์ เม็ดสี
๒. ผิวหนังชันใน (Dermis)
               ้
    หรื อหนังแท้ ประกอบไป
ด้ วยเนือเยื่อ เส้ นใย เส้ น
         ้
โลหิต เส้ นปลายประสาท
ต่ อมเหงื่อ รู ขุมขน และต่ อม
ไขมัน
๓. ชันไขมัน (Sub
       ้
Cuteness Fat)
     เป็ นชันล่ างสุด อยู่ตด
            ้                ิ
กับส่ วนที่เป็ นกล้ ามเนือ ้
ชันนีประกอบไปด้ วย
   ้ ้
ไขมัน พังผืด เส้ นเลือด
ฝอยในบางส่ วนของ
ร่ างกาย
ประเภทระบบประสาท 2.Peripheral Nervous System
๒.๒ ระบบประสาทอัตโนมัติ
   ทํางานนอกอํานาจจิตใจ คือทํางานอัตโนมัติ
มีศูนย์ กลางควบคุมอยู่ในสมองและไขสันหลัง
แบ่ งเป็ น ๒ ระบบย่ อย
  ๒.๒.๑ ระบบประสาทซิมพาเธติก
  ๒.๒.๒ ระบบประสาทพาราซิมพาเธติก
ระบบประสาท
                              Nervous system


  ระบบประสาทส่ วนกลาง                               ระบบประสาทส่ วนนอก
  Central nervous system                          Peripheral nervous system



สมอง             ไขสั นหลัง        ระบบประสาทสั มผัส          ระบบประสาทอัตโนมัติ
Brian           Spinal cord           Somatic NS                 Autonomic NS


                                    Sympathetic NS             Parasympathetic NS
                                  ฮอร์ โมน อะดรีนาลีน     การทํางานของกล้ ามเนือเรียบ
                                                                                 ้
                                  ความดันโลหิต            กล้ ามเนือหัวใจ และต่ อมต่ าง ๆ
                                                                   ้

ภาพแสดงโครงสร้ างของระบบประสาททีเ่ ป็ นกลไกสํ าคัญของพฤติกรรม
๒. ระบบต่ อม (Glands)
   ประกอบด้ วยเซลล์ พเศษที่สามารถสร้ างสาร
                        ิ
เหลวที่มีคุณสมบัตทางเคมี เพื่อรั กษาสภาพสมดุล
                  ิ
ของร่ างกาย มีอิทธิพลต่ อการเติบโต พฤติกรรมและ
บุคลิกภาพ ต่ อมในร่ างกายแบ่ งเป็ น ๒ ชนิด
     ต่ อมมีท่อ
     ต่ อมไร้ ท่อ
๒. ระบบต่ อม (Glands)          ๒.๑ ต่ อมมีท่อ
 ผลิตสารเคมีท่ เป็ นของเหลว ไปส่ วนต่ าง ๆ ของร่ างกาย
                 ี
ต่ อมมีท่อมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด โดยแต่ ละต่ อมทําหน้ าที่
ผลิตสารต่ างชนิดกัน ได้ แก่
    ๑ ต่ อมนําลาย
             ้                 ๓ ต่ อมนําตา
                                        ้
    ๒ ต่ อมเหงื่อ              ๔ ต่ อมใต้ ผิวหนัง
                  ๕ ต่ อมนํานม
                           ้
๒. ระบบต่ อม                    ๒.๒ ต่ อมไร้ ท่อ
     ไม่ มีท่อผลิตสารเคมี อาศัยการดูดซึมผ่ านกระแสหิต
โดยตรง สารเคมีนีเ้ รี ยกว่ า ฮอร์ โมน ซึ่งมีอทธิพลต่ อ
                                             ิ
ร่ างกายและพฤติกรรมอย่ างมาก ฮอร์ โมนจะรั กษาความ
สมดุลของร่ างกายให้ คงที่ โดยมีหน้ าที่สาคัญ
                                           ํ
  ๑. ควบคุมระบบพลังงานของร่ างกายรั กษา
  ๒. ควบคุมปริมาณนําและเกลือแร่ ในร่ างกาย
                       ้
  ๓. ควบคุมการเจริญเติบโตของร่ างกาย
  ๔. ควบคุมระบบสืบพันธ์ และต่ อมนํานม ้
๓. ระบบกล้ ามเนือ
                ้
    การทํางานของกล้ ามเนือ ต้ องสัมพันธ์ กับระบบ
                            ้
อื่น ๆ
     ระบบกล้ ามเนือ เป็ นระบบหลักที่ช่วยให้ ร่างกาย
                   ้
เกิดการเคลื่อนไหว
     กล้ ามเนือของร่ างกายแบ่ งได้ เป็ น ๓ ประเภท
              ้
       ๓.๑ กล้ ามเนือหัวใจ (Cardiac Muscles)
                     ้
       ๓.๒ กล้ ามเนือลาย ้
       ๓.๓ กล้ ามเนือเรี ยบ
                       ้
๓.๑ กล้ ามเนือหัวใจ (Cardiac Muscles)
             ้
      เป็ นกล้ ามเนือพิเศษที่จะพบเฉพาะบริเวณ
                    ้
หัวใจเท่ านัน
            ้
      การทํางานของกล้ ามเนือหัวใจจะถูกควบคุม
                              ้
โดยระบบประสาทอัตโนมัติ ปฏิบตตามคําสั่งของ
                                 ั ิ
สมอง
      ทํางานด้ วยการยืดและหดตัวเพียงอย่ างเดียว
เพื่อสูบฉีดโลหิต และจะหดตัวเป็ นจังหวะเดียวกัน
ไปตลอดชีวต อยู่นอกอํานาจจิตใจ
              ิ
๓.๒ กล้ ามเนือลาย (Striated Muscles)
             ้
     ประกอบด้ วยเส้ นใยเล็ก ๆ ปรากฏอยู่บริเวณแขน
และขาเป็ นส่ วนใหญ่
     คนที่ออกกําลังเสมอเส้ นใยกล้ ามเนือจะโตขึน และ
                                            ้       ้
หนาขึน แต่ จานวนไม่ เพิ่มขึน
      ้       ํ              ้
     มีหน้ าที่เคลื่อนไหวร่ างกายที่ข้อต่ อต่ างๆ ควบคุม
การขับถ่ ายปั สสาวะและอุจจาระ มีประมาณ ๔๐%
        อยู่ในอํานาจจิตใจภายใต้ การควบคุมของระบบ
ประสาทส่ วนกลาง
๓.๓ กล้ ามเนือเรี ยบ (Smooth Muscles)
             ้
      บุอยู่ท่ อวัยวะต่ างๆภายในของร่ างกายมีหน้ าที่
               ี
ควบคุมการทํางานของอวัยวะย่ อยอาหารอวัยวะสืบ
พันธ์ หลอดลม หลอดอาหาร ลําไส้ มดลูก
กระเพาะปั สสาวะ เป็ นต้ น
      อยู่นอกอํานาจจิตใจแต่ อยู่ภายใต้ การควบคุม
ของระบบประสาทอัตโนมัติ
สรี รวิทยา เป็ นการศึกษาการทํางานของระบบ
ต่ างๆ ในร่ างกายของมนุษย์ ท่ ส่งผลต่ อพฤติกรรม
                              ี
      ซึ่งระบบต่ าง ๆ จะต้ องทํางานประสาน
สัมพันธ์ กัน
      การที่ร่างกายจะแสดงพฤติกรรมใด ๆ ได้ นัน   ้
จะต้ องอาศัยระบบกล้ ามเนือซึ่งจะช่ วยให้ ร่างกาย
                            ้
เกิดการเคลื่อนไหว
แต่ การที่ร่างกายจะรั บรู้ ถงสิ่งเร้ าต่ างๆ ที่มา
                                    ึ
กระตุ้นแล้ วเกิดการสั่งการให้ กล้ ามเนือหดและ ้
คลายตัว เพื่อแสดงปฏิกริยาตอบสนองต่ อสิ่งเร้ า
                           ิ
ได้ นันจําเป็ นต้ องอาศัยระบบประสาทเป็ นตัวสั่งการ
      ้
        ฮอร์ โมนที่ถูกผลิตจากต่ อมไร้ ท่อทังหลาย จะ้
ช่ วยให้ การทํางานของร่ างกายเป็ นไปตามปกติ
        การแสดงพฤติกรรมของมนุษย์ ทงหลายจะ       ั้
เป็ นเช่ นไร ส่ วนหนึ่งมาจากความสมบูรณ์ หรือ
ความบกพร่ องในการทํางานของระบบทังหลาย                ้

More Related Content

What's hot

3.ศูนย์กลางประสาท
3.ศูนย์กลางประสาท3.ศูนย์กลางประสาท
3.ศูนย์กลางประสาท
Wichai Likitponrak
 
2.ทำงานเซลล์ประสาท
2.ทำงานเซลล์ประสาท2.ทำงานเซลล์ประสาท
2.ทำงานเซลล์ประสาท
Wichai Likitponrak
 
ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึกระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
bosston Duangtip
 
ระบบประสาทPart1blank
ระบบประสาทPart1blankระบบประสาทPart1blank
ระบบประสาทPart1blank
Thanyamon Chat.
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
auttapornkotsuk
 
การรับรู้และตอบสนอง2012
การรับรู้และตอบสนอง2012การรับรู้และตอบสนอง2012
การรับรู้และตอบสนอง2012
Namthip Theangtrong
 

What's hot (12)

บทท 8 ระบบประสาท (1)
บทท   8 ระบบประสาท (1)บทท   8 ระบบประสาท (1)
บทท 8 ระบบประสาท (1)
 
3.ศูนย์กลางประสาท
3.ศูนย์กลางประสาท3.ศูนย์กลางประสาท
3.ศูนย์กลางประสาท
 
เทคนิคการจำระบบประสาทและสมอง
เทคนิคการจำระบบประสาทและสมองเทคนิคการจำระบบประสาทและสมอง
เทคนิคการจำระบบประสาทและสมอง
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
 
Nervous system
Nervous systemNervous system
Nervous system
 
ไขสันหลัง
ไขสันหลังไขสันหลัง
ไขสันหลัง
 
2.ทำงานเซลล์ประสาท
2.ทำงานเซลล์ประสาท2.ทำงานเซลล์ประสาท
2.ทำงานเซลล์ประสาท
 
ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึกระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
 
ระบบประสาทPart1blank
ระบบประสาทPart1blankระบบประสาทPart1blank
ระบบประสาทPart1blank
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
 
ปราณายามะ ขั้นพื้นฐาน - Pranayama
ปราณายามะ ขั้นพื้นฐาน - Pranayamaปราณายามะ ขั้นพื้นฐาน - Pranayama
ปราณายามะ ขั้นพื้นฐาน - Pranayama
 
การรับรู้และตอบสนอง2012
การรับรู้และตอบสนอง2012การรับรู้และตอบสนอง2012
การรับรู้และตอบสนอง2012
 

Similar to บทที่ 3 Basic Of Physiological

บทที่3 Basic Of Physiological
บทที่3  Basic Of  Physiologicalบทที่3  Basic Of  Physiological
บทที่3 Basic Of Physiological
Tuk Diving
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
Pok Tanti
 
โครงสร้างของระบบประสาท
โครงสร้างของระบบประสาทโครงสร้างของระบบประสาท
โครงสร้างของระบบประสาท
Wan Ngamwongwan
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
yangclang22
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
bowpp
 
กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา
กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา
กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา
Angkana Chongjarearn
 
ศ นย ควบค_มระประสาท (ต_อ)
ศ นย ควบค_มระประสาท (ต_อ)ศ นย ควบค_มระประสาท (ต_อ)
ศ นย ควบค_มระประสาท (ต_อ)
Natthaya Khaothong
 
Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5
Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5
Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5
สำเร็จ นางสีคุณ
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
flimgold
 
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอก
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอกระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอก
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอก
Thanyamon Chat.
 
โครงสร้างของระบบประสาท
โครงสร้างของระบบประสาทโครงสร้างของระบบประสาท
โครงสร้างของระบบประสาท
nokbiology
 

Similar to บทที่ 3 Basic Of Physiological (20)

บทที่3 Basic Of Physiological
บทที่3  Basic Of  Physiologicalบทที่3  Basic Of  Physiological
บทที่3 Basic Of Physiological
 
พื้นฐานทางชีววิทยาที่เกี่ยวข้องกับ
พื้นฐานทางชีววิทยาที่เกี่ยวข้องกับพื้นฐานทางชีววิทยาที่เกี่ยวข้องกับ
พื้นฐานทางชีววิทยาที่เกี่ยวข้องกับ
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
 
โครงสร้างของระบบประสาท
โครงสร้างของระบบประสาทโครงสร้างของระบบประสาท
โครงสร้างของระบบประสาท
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
 
หู
หูหู
หู
 
กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา
กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา
กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา
 
ศ นย ควบค_มระประสาท (ต_อ)
ศ นย ควบค_มระประสาท (ต_อ)ศ นย ควบค_มระประสาท (ต_อ)
ศ นย ควบค_มระประสาท (ต_อ)
 
การรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนองการรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนอง
 
Nervous
NervousNervous
Nervous
 
รื่องSensory and-motor-mechanismน้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด...
รื่องSensory and-motor-mechanismน้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด...รื่องSensory and-motor-mechanismน้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด...
รื่องSensory and-motor-mechanismน้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด...
 
Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5
Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5
Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
 
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอก
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอกระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอก
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอก
 
โครงสร้างของระบบประสาท
โครงสร้างของระบบประสาทโครงสร้างของระบบประสาท
โครงสร้างของระบบประสาท
 
พื้นฐานทางชีววิทยาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและการรับรู้
พื้นฐานทางชีววิทยาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและการรับรู้พื้นฐานทางชีววิทยาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและการรับรู้
พื้นฐานทางชีววิทยาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและการรับรู้
 

More from Tuk Diving (8)

บทที่8
บทที่8บทที่8
บทที่8
 
บทที่8
บทที่8บทที่8
บทที่8
 
ความสำคัญของพฤติกรรมภาวะผู้นำ
ความสำคัญของพฤติกรรมภาวะผู้นำความสำคัญของพฤติกรรมภาวะผู้นำ
ความสำคัญของพฤติกรรมภาวะผู้นำ
 
ความสำคัญของพฤติกรรมภาวะผู้นำ
ความสำคัญของพฤติกรรมภาวะผู้นำความสำคัญของพฤติกรรมภาวะผู้นำ
ความสำคัญของพฤติกรรมภาวะผู้นำ
 
C
CC
C
 
Que sera sera
Que sera seraQue sera sera
Que sera sera
 
บทที่5 (ต่อ)
บทที่5 (ต่อ)บทที่5 (ต่อ)
บทที่5 (ต่อ)
 
บทที่5 ส่วนที่ ๑
บทที่5 ส่วนที่ ๑บทที่5 ส่วนที่ ๑
บทที่5 ส่วนที่ ๑
 

บทที่ 3 Basic Of Physiological

  • 1. อาจารย์ ฐาพล สมสกุล (อ.ตุ๊ ก) Face book : Tuk Diving
  • 2. ความสําคัญของการศึกษาสรีรวิทยา พฤติกรรมของมนุษย์มีความสัมพันธ์ กับระบบสรีรวิทยาโดยตรง ชีววิทยาและจิตวิทยาจึงเป็ นศาสตร์ที่เกี่ยว สัมพันธ์กนั ระบบของอวัยวะมีการทํางานอย่างสมดุลกัน ระบบภายในร่างกาย กับสิ่งแวดล้อมภายนอก ต่างก็มีอิทธิพลต่อกัน
  • 3. ระบบการทํางานของร่างกาย ที่ส่งผลต่อพฤติกรรม ๑. ระบบประสาท (Nervous System) ควบคุมอวัยวะ เป็ นศูนย์กลางความรู้สึกนึ กคิด ๒. ระบบต่อม (Gland System) มีผลต่อการเติบโต พฤติกรรมและบุคลิกภาพ ๓. ระบบกล้ามเนื้ อ (Muscular System) การเคลื่อนไหวของร่างกาย
  • 4. โครงสร้างของระบบประสาท แบ่งเป็ น 2 ส่วน ได้แก่ ๑. เซลล์ประสาท(Nerve Cell) ประกอบด้วย Axon ใยส่งความรู้สึกออกจาก cell body Dendrite ใยรับความรู้สึกเข้าสู่ cell body ๒. เส้นประสาท(Motor Nerve Fibers) ใยประสาท ทําหน้ าที่นําสัญญาณจาก receptors เข้าสู่ระบบ ประสาทส่วนกลาง
  • 5. ภาพที่ แสดงส่ วนประกอบของเซลล์ ได้ แก่ ตัวเซลล์ เดนไดรต์ แอกซอน และ ซิแนปส์
  • 6. ๑. ระบบประสาท (Nervous System) รวบรวมข้อมูล ทังจากภายนอกและภายใน ้ ร่างกาย (sensory function) นําส่งข้อมูลไปยัง ระบบประสาทกลางเพื่อทําการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้มีการตอบสนองที่เหมาะสมและสังงาน ่ ไปยังระบบต่างๆเช่น กล้ามเนื้ อ ต่อมต่าง ๆ หรือ อวัยวะอื่นๆ ให้มีการตอบสนอง ระบบประสาทแบ่งเป็ น ๒ ประเภท
  • 7. ประเภทระบบประสาท (Nervous System) ๑. ประสาทส่ วนกลาง Central Nervous System สมอง (Brain) ไขสันหลัง (Spinal Cord) ๒. ประสาทส่ วนปลาย Peripheral Nervous System ประสาทรับสัมผัส (Somatic System) ประสาทอัตโนมัติ
  • 8. ประเภทระบบประสาท (Nervous System) ๒. ประสาทส่ วนปลาย Peripheral Nervous System ๒.๑ ระบบประสาทรับสัมผัส (Somatic System) ๒.๒ ระบบประสาทอัตโนมัติ แบ่ งเป็ น ๒ ระบบ ๒.๒.๑ ระบบประสาทซิมพาเธติก ๒.๒.๒ ระบบประสาทพาราซิมพาเธติก
  • 9. ประเภทระบบประสาท 1. Central Nervous System แบ่ งเป็ น 3 ส่ วน 1. Forebrain 2. Midbrain 3. Hindbrain
  • 10. ประเภทระบบประสาท 1. Central Nervous System 1. Forebrain ประกอบด้ วย 1.1 Cerebrum มีขนาดใหญ่ ท่ สุด มีรอยหยัก ี เป็ นจํานวนมาก แบ่ งเป็ น ๒ ซีก คือ ซ้ าย ขวา 1.2 Thalamus 1.3 Hypothalamus 1.4 Limbic system
  • 11.
  • 12. ประเภทระบบ ฯ 1. Central Nervous System Brain 2. Midbrain เชื่อมกับ Cerebrum เป็ นสถานีรับส่ ง ความรู้ สึก ไปยังสมองส่ วนหน้ า 3. Hindbrain 3.1 Cerebellum ประสานการทํางานของ กล้ ามเนือต่ าง ๆ เช่ น มือและขาประสานกัน ้ 3.2 Medulla ติดไขสันหลัง ควบคุมระบบ ประสาทอัตโนมัติ เช่ น หายใจ ควบคุมความดัน 3.3 Pons
  • 14. ประเภทระบบประสาท 1.Central Nervous System ไขสันหลัง (Spinal Cord) เป็ นทางเดินของกระแสประสาทที่ตดต่ อระหว่ าง ิ ไขสันหลังและสมอง มีความยาวประมาณ ๑๘ นิว ้ ไขสันหลัง บรรจุอยู่ในโพรงกระดูกสันหลัง มี ทังหมด ๓๑ ปล้ อง ้ ทําหน้ าที่รับส่ งความรู้สึกผ่ านไปยังสมอง เป็ น ศูนย์ กลางของระบบปฏิกริยาสะท้ อน(Reflex action) ิ
  • 16. ประเภทระบบประสาท 2. Peripheral Nervous System ๒.๑ ระบบประสาทรับสัมผัส (Somatic System) ๒.๒ ระบบประสาทอัตโนมัติ แบ่ งเป็ น ๒ ระบบ ๒.๒.๑ ระบบประสาทซิมพาเธติก ๒.๒.๒ ระบบประสาทพาราซิมพาเธติก
  • 17. ประเภทระบบประสาท 2 .Peripheral Nervous System ทําหน้ าที่รับและนําความรู้ สึกเข้ าสู่ระบบประสาท ส่ วนกลางไปยังหน่ วยปฏิบตงาน ซึ่งประกอบด้ วย ั ิ หน่ วยรั บความรู้สึกและอวัยวะรั บสัมผัส ๒.๑ ระบบประสาทรั บสัมผัส (Somatic) ๒.๒ ระบบประสาทอัตโนมัติ แบ่ งเป็ น ๒ ระบบ
  • 18. ประเภทระบบประสาท 2. Peripheral Nervous System ๒.๑ ระบบประสาทรั บสัมผัส (Somatic) อยู่ภายใต้ อานาจจิตใจ ควบคุมกล้ ามเนือ ํ ้ และรั บสัมผัสสิ่งเร้ า ซึ่งแบ่ งเป็ น ๒ ลักษณะ ๑. อวัยวะสัมผัสเฉพาะด้ าน ตา หู จมูก ลิน ้ ๒. อวัยวะสัมผัสทั่วไป คือ การสัมผัสทาง ผิวหนัง หรื อความรู้สึกต่ าง ๆ จากการสัมผัส ระบบนีมีอทธิพลต่ ออารมณ์ เจตคติ ้ ิ
  • 19. ประเภทระบบประสาท 2 .Peripheral Nervous System ๒.๑ ระบบประสาทรั บสัมผัส (Somatic) ๑. นัยน์ ตา (Eye) - ตารั บสัมผัสสิ่งเร้ าที่มีลักษณะเป็ นคลื่นแสงที่ กระทบวัตถุ แล้ วสะท้ อนเข้ าสู่นัยน์ ตา - เซลประสาทที่ตา จะเปลี่ยนคลื่นแสงเป็ น กระแสประสาทส่ งไปยังสมองส่ วนที่ควบคุมการ มองเห็น
  • 20. ๑.๑ กระจกตา (cornea) เป็ น ส่ วนหนึ่งของตาดํา ทําให้ แสง ที่ สะท้ อนจากวัตถุผ่านเข้ าสู่เลนส์ ตา (lens) ไปตกที่จอตา (retina) ๑.๒ ม่ านตา (iris) ประกอบด้ วยเซลล์ เม็ดสีทาให้ ม่านตาของ ํ มนุษย์ มีสีท่ แตกต่ างกัน ี ๑.๓ แก้ วตาหรื อเลนส์ ตา (lens) มีหน้ าที่รับแสงที่สะท้ อนจาก วัตถุ แล้ วโฟกัสภาพที่ได้ รับมา เพื่อให้ ไปตกที่จอรั บภาพ ถ้ าวัตถุอยู่ไกล เลนส์ จะปรั บตัวให้ มีลักษณะบาง ถ้ าวัตถุอยู่ใกล้ เลนส์ กจะนูนและหนา ็
  • 21. ประเภทระบบประสาท 2.Peripheral Nervous System ๒.๑ ระบบประสาทรั บสัมผัส (Somatic) ๒. หู (Ear) การได้ ยนเสียงของคนเราจะเกิดขึนเมื่อวัตถุเกิด ิ ้ การสั่นสะเทือนและส่ งเป็ นคลื่นเสียงออกมาเข้ า สู่ช่องหู และสมองจึงแปลความหมายอีกครังว่ า ้ เสียงที่ได้ ยนนันเป็ นเสียงอะไร ิ ้
  • 22. * ส่ วนประกอบสําคัญของหู * ๑. หูชันนอก (external ear) ้ -ใบหู ช่ องหู และชันใน ้ สุดได้ แก่ เยื่อแก้ วหู - เมื่อคลื่นเสียงผ่ านเข้ า ช่ องหูไปกระทบเยื่อแก้ วหู ทําให้ เยื่อแก้ วหูเกิดการ สั่นสะเทือนเพื่อส่ งคลื่น เสียงนันไปยังหูชันต่ อไป ้ ้
  • 23. * ส่ วนประกอบสําคัญของหู * ๒. หูชันกลาง (middle ear) ้ ช่ องเล็กๆ ติดกับลําคอ เรี ยกว่ าอูสตาเชียน (Eustachian) ทําหน้ าที่ปรั บความกดดันของ อากาศระหว่ างภายในกับ ภายนอกหูให้ เท่ ากัน ประกอบด้ วยกระดูก ๓ ชินทํา ้ หน้ าที่รับคลื่นเสียงที่ส่งมาจาก เยื่อแก้ วหูเพื่อส่ งต่ อไปยังหูชันใน ้
  • 24. * ส่ วนประกอบสําคัญของหู * ๓. หูชันใน (inner ear) ้ คล้ ายหอยโข่ ง ประกอบด้ วย ของเหลวและเส้ นประสาท คลื่น เสียงจะทําให้ ของเหลวกระเพื่อม เป็ นคลื่นซึ่งจะมีเซลล์ ประสาทรั บ ความรู้ สกทําหน้ าที่เปลี่ยนคลื่น ึ เสียงเป็ นกระแสประสาท เพื่อ ส่ งไปยังสมอง ทําให้ เกิดการได้ ยินเสียง
  • 25.
  • 26. หูตง หูอือ หูหนวก อาจเกิดจากการได้ รับอุบตเหตุ ึ ้ ั ิ หรือเป็ นผลจากเชือไวรัสบางชนิดที่ทาให้ เยื่อแก้ วหูถก ้ ํ ู ทําลาย จนไม่ สามารถส่ งคลื่นเสียงไปยังหูชันกลางและ ้ ชันในได้ ้ การได้ รับความสั่นสะเทือนจากคลื่นเสียงที่มีความ ดังเกินกว่ าระดับ 90 เดซิเบล เป็ นเวลานานเกินไป เมื่อบุคคลอายุมากขึน ทําให้ การได้ ยนบกพร่ อง ้ ิ
  • 27. ๑.๒.๑ ประสาทรั บสัมผัส การได้ กลิ่นเกิดจากการทํา ปฏิกริยาทางเคมีของสิ่งเร้ า ิ ๓. จมูก (nose) ภายในช่ องจมูกจะมีขน จมูกประกอบไปด้ วยเยื่อ บางๆ และมีเซลล์ ประสาท เมื่อกลิ่นถูกสูดเข้ าไปเซลล์ ประสาทจะแปลงกลิ่นให้ เป็ น กระแสประสาทเพื่อส่ งไปยัง สมองเขตควบคุมการได้ กลิ่น ทําให้ ร้ ู สกว่ าได้ กลิ่น ึ
  • 28. ๔. ลิน (Gustatory) ้ รสพืนฐานมีอยู่ ๔ รส ้ เค็ม หวาน เปรี ยว ขม ้ ตุ่มรั บรสเล็ก ๆ บน ลินเรียกว่ า พาพิลลา ้ ภายในจะมีเซลล์ ประสาท คล้ ายเส้ นขนมัดรวมกัน เป็ นตุ่ม ตายและเกิดใหม่ ได้ ตลอดเวลา และจะมี ปริมาณลดลงเรื่ อยๆ เมื่อ อายุมากขึน ้
  • 29. ๒.๑ ระบบประสาทรั บสัมผัส (Somatic) เป็ นอวัยวะรั บสัมผัสที่รับการกระตุ้นจากสิ่งเร้ าคือ แรงกด ความร้ อน ความเย็น ความเจ็บปวด ใต้ ผิวหนังประกอบด้ วยเซลล์ ประสาทรั บความรู้ สึก ซึ่งจะมี มากน้ อยไม่ เท่ ากัน จึงทําให้ แต่ ละส่ วนของร่ างกายจึงมีจุดที่ไว ต่ อการรั บสัมผัสได้ ดีแตกต่ างกัน บริเวณปลายนิวและริมฝี ปากจะไวต่ อการรั บสัมผัส ้ มากกว่ าบริเวณฝ่ าเท้ าและหลังเท้ า แบ่ งออกได้ เป็ น 3 ชัน คือ ้
  • 30. ๑. ผิวหนังชันนอกสุดหรื อ ้ หนังกําพร้ า (Epidermis) ประกอบด้ วยเซลล์ ผิวหนัง ที่เรี ยงตัวซ้ อนกันเป็ นชันๆ ้ โดยเซลล์ ชันบนสุดจะตาย ้ และหลุดลอกออกไปก่ อน เซลล์ ใหม่ ชันล่ างจึงเลื่อน ้ ขึนมาแทนที่ ผิวหนัง ้ ชันนอกนียังประกอบด้ วย ้ ้ เซลล์ เม็ดสี
  • 31. ๒. ผิวหนังชันใน (Dermis) ้ หรื อหนังแท้ ประกอบไป ด้ วยเนือเยื่อ เส้ นใย เส้ น ้ โลหิต เส้ นปลายประสาท ต่ อมเหงื่อ รู ขุมขน และต่ อม ไขมัน
  • 32. ๓. ชันไขมัน (Sub ้ Cuteness Fat) เป็ นชันล่ างสุด อยู่ตด ้ ิ กับส่ วนที่เป็ นกล้ ามเนือ ้ ชันนีประกอบไปด้ วย ้ ้ ไขมัน พังผืด เส้ นเลือด ฝอยในบางส่ วนของ ร่ างกาย
  • 33. ประเภทระบบประสาท 2.Peripheral Nervous System ๒.๒ ระบบประสาทอัตโนมัติ ทํางานนอกอํานาจจิตใจ คือทํางานอัตโนมัติ มีศูนย์ กลางควบคุมอยู่ในสมองและไขสันหลัง แบ่ งเป็ น ๒ ระบบย่ อย ๒.๒.๑ ระบบประสาทซิมพาเธติก ๒.๒.๒ ระบบประสาทพาราซิมพาเธติก
  • 34. ระบบประสาท Nervous system ระบบประสาทส่ วนกลาง ระบบประสาทส่ วนนอก Central nervous system Peripheral nervous system สมอง ไขสั นหลัง ระบบประสาทสั มผัส ระบบประสาทอัตโนมัติ Brian Spinal cord Somatic NS Autonomic NS Sympathetic NS Parasympathetic NS ฮอร์ โมน อะดรีนาลีน การทํางานของกล้ ามเนือเรียบ ้ ความดันโลหิต กล้ ามเนือหัวใจ และต่ อมต่ าง ๆ ้ ภาพแสดงโครงสร้ างของระบบประสาททีเ่ ป็ นกลไกสํ าคัญของพฤติกรรม
  • 35. ๒. ระบบต่ อม (Glands) ประกอบด้ วยเซลล์ พเศษที่สามารถสร้ างสาร ิ เหลวที่มีคุณสมบัตทางเคมี เพื่อรั กษาสภาพสมดุล ิ ของร่ างกาย มีอิทธิพลต่ อการเติบโต พฤติกรรมและ บุคลิกภาพ ต่ อมในร่ างกายแบ่ งเป็ น ๒ ชนิด ต่ อมมีท่อ ต่ อมไร้ ท่อ
  • 36. ๒. ระบบต่ อม (Glands) ๒.๑ ต่ อมมีท่อ ผลิตสารเคมีท่ เป็ นของเหลว ไปส่ วนต่ าง ๆ ของร่ างกาย ี ต่ อมมีท่อมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด โดยแต่ ละต่ อมทําหน้ าที่ ผลิตสารต่ างชนิดกัน ได้ แก่ ๑ ต่ อมนําลาย ้ ๓ ต่ อมนําตา ้ ๒ ต่ อมเหงื่อ ๔ ต่ อมใต้ ผิวหนัง ๕ ต่ อมนํานม ้
  • 37. ๒. ระบบต่ อม ๒.๒ ต่ อมไร้ ท่อ ไม่ มีท่อผลิตสารเคมี อาศัยการดูดซึมผ่ านกระแสหิต โดยตรง สารเคมีนีเ้ รี ยกว่ า ฮอร์ โมน ซึ่งมีอทธิพลต่ อ ิ ร่ างกายและพฤติกรรมอย่ างมาก ฮอร์ โมนจะรั กษาความ สมดุลของร่ างกายให้ คงที่ โดยมีหน้ าที่สาคัญ ํ ๑. ควบคุมระบบพลังงานของร่ างกายรั กษา ๒. ควบคุมปริมาณนําและเกลือแร่ ในร่ างกาย ้ ๓. ควบคุมการเจริญเติบโตของร่ างกาย ๔. ควบคุมระบบสืบพันธ์ และต่ อมนํานม ้
  • 38. ๓. ระบบกล้ ามเนือ ้ การทํางานของกล้ ามเนือ ต้ องสัมพันธ์ กับระบบ ้ อื่น ๆ ระบบกล้ ามเนือ เป็ นระบบหลักที่ช่วยให้ ร่างกาย ้ เกิดการเคลื่อนไหว กล้ ามเนือของร่ างกายแบ่ งได้ เป็ น ๓ ประเภท ้ ๓.๑ กล้ ามเนือหัวใจ (Cardiac Muscles) ้ ๓.๒ กล้ ามเนือลาย ้ ๓.๓ กล้ ามเนือเรี ยบ ้
  • 39.
  • 40. ๓.๑ กล้ ามเนือหัวใจ (Cardiac Muscles) ้ เป็ นกล้ ามเนือพิเศษที่จะพบเฉพาะบริเวณ ้ หัวใจเท่ านัน ้ การทํางานของกล้ ามเนือหัวใจจะถูกควบคุม ้ โดยระบบประสาทอัตโนมัติ ปฏิบตตามคําสั่งของ ั ิ สมอง ทํางานด้ วยการยืดและหดตัวเพียงอย่ างเดียว เพื่อสูบฉีดโลหิต และจะหดตัวเป็ นจังหวะเดียวกัน ไปตลอดชีวต อยู่นอกอํานาจจิตใจ ิ
  • 41. ๓.๒ กล้ ามเนือลาย (Striated Muscles) ้ ประกอบด้ วยเส้ นใยเล็ก ๆ ปรากฏอยู่บริเวณแขน และขาเป็ นส่ วนใหญ่ คนที่ออกกําลังเสมอเส้ นใยกล้ ามเนือจะโตขึน และ ้ ้ หนาขึน แต่ จานวนไม่ เพิ่มขึน ้ ํ ้ มีหน้ าที่เคลื่อนไหวร่ างกายที่ข้อต่ อต่ างๆ ควบคุม การขับถ่ ายปั สสาวะและอุจจาระ มีประมาณ ๔๐% อยู่ในอํานาจจิตใจภายใต้ การควบคุมของระบบ ประสาทส่ วนกลาง
  • 42. ๓.๓ กล้ ามเนือเรี ยบ (Smooth Muscles) ้ บุอยู่ท่ อวัยวะต่ างๆภายในของร่ างกายมีหน้ าที่ ี ควบคุมการทํางานของอวัยวะย่ อยอาหารอวัยวะสืบ พันธ์ หลอดลม หลอดอาหาร ลําไส้ มดลูก กระเพาะปั สสาวะ เป็ นต้ น อยู่นอกอํานาจจิตใจแต่ อยู่ภายใต้ การควบคุม ของระบบประสาทอัตโนมัติ
  • 43. สรี รวิทยา เป็ นการศึกษาการทํางานของระบบ ต่ างๆ ในร่ างกายของมนุษย์ ท่ ส่งผลต่ อพฤติกรรม ี ซึ่งระบบต่ าง ๆ จะต้ องทํางานประสาน สัมพันธ์ กัน การที่ร่างกายจะแสดงพฤติกรรมใด ๆ ได้ นัน ้ จะต้ องอาศัยระบบกล้ ามเนือซึ่งจะช่ วยให้ ร่างกาย ้ เกิดการเคลื่อนไหว
  • 44. แต่ การที่ร่างกายจะรั บรู้ ถงสิ่งเร้ าต่ างๆ ที่มา ึ กระตุ้นแล้ วเกิดการสั่งการให้ กล้ ามเนือหดและ ้ คลายตัว เพื่อแสดงปฏิกริยาตอบสนองต่ อสิ่งเร้ า ิ ได้ นันจําเป็ นต้ องอาศัยระบบประสาทเป็ นตัวสั่งการ ้ ฮอร์ โมนที่ถูกผลิตจากต่ อมไร้ ท่อทังหลาย จะ้ ช่ วยให้ การทํางานของร่ างกายเป็ นไปตามปกติ การแสดงพฤติกรรมของมนุษย์ ทงหลายจะ ั้ เป็ นเช่ นไร ส่ วนหนึ่งมาจากความสมบูรณ์ หรือ ความบกพร่ องในการทํางานของระบบทังหลาย ้