More Related Content
More from Sakulsri Srisaracam (20)
Transmedia Storytelling การเล่าเรื่องยุคดิจิตอล
- 1. Transmedia Story Telling
“ถึงเวลา...เล่าเรื่องหลากสื่อ”
อาจารย์สกุลศรี ศรีสารคาม อาจารย์จาก
คณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
ได้กรุณาให้สัมภาษณ์กับกองบรรณาธิการ 4PM ถึง
วิธีการประยุกต์ใช้สื่อที่มีอยู่อย่างหลากหลายให้เกิด
ประโยขน์และก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
การสื่อสาร ทั้งด้านพฤติกรรมผู้รับสาร เนื้อหา รูปแบบ
การนำ�เสนอ และจำ�นวนช่องทางการสื่อสารที่ถูก
พัฒนาให้หลากหลายมากขึ้น
อาจารย์สกุลศรี ศรีสารคาม (อาจารย์ไอซ์)
คณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
Q: ในปัจจุบันเรามักได้ยินคำ�ว่า Transmedia Story
Telling อยู่บ่อยๆ สิ่งนี้คืออะไร
Transmedia Story Telling คือการเล่าเรื่องๆ
หนึ่งบนสื่อหลายๆ สื่อแต่ไม่ใช่การทำ�ซํ้าแต่เป็นการหยิบ
ชิ้นส่วนเรื่องราวแต่ละมุมมองมาเล่าบนสื่อที่แตกต่างกัน
มีวิธีการเล่าเรื่องที่หลากหลายเพื่อที่จะเชื่อมโยงให้คนจาก
สื่อหนึ่งไปดูอีกสื่อหนึ่งต่อเนื่องกันไปและเมื่อดูครบทุกสื่อ
แล้วผู้ชมจะได้เนื้อหาที่มีความรอบด้านมากขึ้นมีอรรถรส
และประสบการณ์ในการรับรู้เรื่องราวที่หลากหลายมากขึ้น
Q: Transmedia Story Telling ควรถูกนำ�ไปใช้
อย่างไร
เนื่องจากในยุคทีวีดิจิตอลนั้นผู้ชมมีพฤติกรรมใน
การรับข้อมูลข่าวสารที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนี้
1. ผู้ชมไม่ได้ต้องการเพียงชมรายการเท่านั้น แต่
สิ่งที่เพิ่มมากขึ้นคือความต้องการที่จะมีส่วนร่วม เช่น
การมีปฏิสัมพันธ์กับทางรายการในระหว่างออกอากาศ
การแสดงความคิดเห็น การได้พูดคุยกับกลุ่มคนที่มีความ
ชื่นชอบเหมือนๆ กัน
2.ผู้ชมไม่ได้นั่งชมอยู่หน้าจอโทรทัศน์เพียงอย่าง
เดียว แต่ทำ�กิจกรรมอย่างอื่นไปด้วยขณะรับชม และ
รับข้อมูลข่าวสารผ่านหน้าจอที่หลากหลาย (Multiple
Screen) เช่น คอมพิวเตอร์ แท็ปเล็ต สมาร์ทโฟน เพราะ
ฉะนั้นจะต้องทำ�ให้ผู้ชมสามารถรับข้อมูลเกี่ยวกับรายการ
ได้จากทุกช่องทาง
- 2. 3. ผู้ชมไม่ได้อยากรับชมเพียงลำ�พัง แต่อยากที่
จะมีสังคม มีความเชื่อมโยงกับบุคคลอื่นๆ สังเกตได้จาก
พฤติกรรมการโพสข้อคิดเห็นหรือพูดคุยเกี่ยวกับรายการ
ลงในเฟสบุ๊ค
จากพฤติกรรมของผู้ชมในข้างต้น Transmedia
Story Telling สามารถตอบโจทย์นี้ได้ โดยการใช้สื่อ
ประเภทต่างๆให้สามารถเล่าเรื่องได้หลากหลายมีความ
สอดคล้องและเชื่อมโยงกันเช่นการทำ�เว็บไซต์ที่สามารถ
โต้ตอบกับผู้ชมได้(interactive)เกมหรือวิดีโอตอนพิเศษ
บนสังคมออนไลน์ แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ หรือ
แม้แต่รายการทำ�อาหารบางรายการที่ใช้สื่อประเภทอื่น
เข้ามาเสริมเช่นขณะที่ผู้ชมดูรายการทางโทรทัศน์อยู่นั้น
สามารถดูสูตรอาหาร เคล็ดลับ แสดงความคิดเห็นหรือ
ตอบปัญหาชิงรางวัลกับทางรายการผ่านแอพพลิเคชั่น
ไปพร้อมกัน สิ่งเหล่านี้จะทำ�ให้การรับรู้ของผู้ชมมีความ
สนุกสนานมากขึ้น
นอกจากการนำ�สื่อหลายประเภทมาใช้ให้
สอดคล้องกันแล้ว สื่อจะต้องมีวิธีการเล่าเรื่องที่ทรงพลัง
และมีมุมมองของเรื่องที่หลากหลาย นอกเหนือไปจาก
เนื้อหาเดิมที่มีอยู่ ซึ่งสื่อยังคงสามารถใช้วิธีการเดิมได้อยู่
แต่จำ�เป็นที่จะต้องหาวิธีการนำ�เสนอที่แปลกใหม่มีลูกเล่น
ที่สามารถดึงดูดใจผู้ชมให้ได้มากกว่าเดิม
สารคดีเรื่อง The Code ช่อง BBC มีเนื้อหาที่
อยากจะสื่อไปยังผู้ชมว่าบางสิ่งบนโลกใบนี้ที่ไม่สามารถ
หาคำ�ตอบได้นั้น วิทยาศาสตร์สามารถที่จะแกะเป็น
รหัสลับและอธิบายสิ่งเหล่านั้นออกมาได้ซึ่งสารคดีเรื่องนี้
มีวิธีการทำ� TransmediaStoryTellingได้อย่างน่าสนใจ
คือ มีการทำ�เว็บไซต์ของสารคดีเรื่องนี้ขึ้น โดยในเว็บไซต์
จะมีบล็อก วิดีโอตอนพิเศษที่ไม่ได้ออกฉายทางโทรทัศน์
รวมทั้งเกมที่ให้ผู้ชมแกะรหัส ซึ่งการที่ผู้ชมจะสามารถ
หาโค้ดมาถอดรหัสในเกมได้นั้น จะต้องดูรายการทาง
โทรทัศน์ เล่นเกมในเว็บไซต์ อ่านข้อมูลในบล็อกแล้วนำ�
โค้ดที่ได้ทั้งหมดมาเรียงกันผู้ชมก็จะได้คำ�ตอบในสัปดาห์
นั้น และเมื่อถึงตอนสุดท้ายของรายการผู้ชมจะต้องนำ�
โค้ดคำ�ตอบของทุกสัปดาห์มารวมกันเพื่อที่จะได้ไปร่วม
ปาร์ตี้ที่ทางรายการจัดขึ้น
จะเห็นได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นกลยุทธ์ที่สามารถดึงดูด
ความสนใจชองผู้ชมให้ติดตามรายการตั้งแต่ต้นจนจบ
และเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ จากสื่อหลายประเภท ซึ่ง
เนื้อหาที่ทางรายการใช้จะแบ่งย่อยออกเป็นส่วนๆ แล้ว
กระจายไปยังสื่อแต่ละประเภทให้มีความแตกต่างกันแต่
มีจุดที่เชื่อมโยงกันอยู่ นี่คือลักษณะของการเล่าเรื่องราว
ผ่านสื่อที่หลากหลายซึ่งจะมีประโยชน์มากในการทำ�ให้
ผู้ชมมีปฏิสัมพันธ์ ดึงผู้ชมเอาไว้กับรายการและในขณะ
เดียวกันก็สร้างสังคมของผู้ชมที่ดูรายการขึ้นมา
Q: ผู้ผลิตรายการจะมีวิธีการคัดเลือกเนื้อหาที่มีไปนำ�
เสนอผ่านสื่อแต่ละประเภทให้เหมาะสมได้อย่างไรบ้าง
สำ�หรับหลักในการคัดเลือกในหาแต่ละส่วนให้
สอดคล้องกับสื่อแต่ละประเภทนั้น ผู้ผลิตต้องพิจารณา
เนื้อหาให้เหมาะสมกับประเภทของสื่อและลักษณะการ
รับชมของผู้รับสาร หากเป็นการนำ�เสนอเรื่องราวบน
เว็บไซต์ต้องพิจารณาธรรมชาติและคุณสมบัติของเว็บไซต์
ว่าสามารถใช้ประโยชน์นในรูปแบบใดได้บ้างตัวอย่างเช่น
การทำ�รายการท่องเที่ยวและใช้เว็บไซต์เป็นองค์ประกอบ
เสริม ผู้ผลิตสามารถทำ�เว็บไซต์ท่องเที่ยวของรายการที่มี
ปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมได้ โดยการทำ�แผนที่ท่องเที่ยว เมื่อ
ผู้ชมกดเข้าไปยังสถานที่บนแผนที่ จะปรากฎข้อมูล ภาพ
วิดีโอท่องเที่ยวหรือแม้แต่สูตรอาหารท้องถิ่น ซึ่งจะช่วย
- 3. สร้างปฏิสัมพันธ์และความสนุกสนานให้กับผู้ชมมากขึ้น
ซึ่งผู้ผลิตรายการในปัจจุบันนิยมนำ�วิดีโอย้อน
หลังไปโพสบนโซเชียลมีเดียหรือการโปรโมทก่อนเข้า
รายการเท่านั้นแต่ผู้ผลิตต้องคำ�นึงว่าโซเชียลมีเดียคือการ
สร้างสังคม ดังนั้นจะต้องทำ�อย่างไรให้ผู้ชมเข้ามาพูดคุย
กัน เข้ามามีส่วนร่วม และมีความรู้สึกว่าผู้ชมเป็นเจ้าของ
รายการ
ในส่วนของการเลือกเนื้อหาให้เหมาะสมกับแต่ละ
สื่อนั้น จะต้องพิจารณาจากผู้ชมและแก่นเนื้อหาหลักที่
ต้องการจะนำ�เสนอ ให้ดูว่าสื่อหลักที่ใช้นำ�เสนอนั้นมีขีด
จำ�กัดใดบ้าง เช่น พื้นที่ไม่พอหรือถ้านำ�เสนอบนสื่อหลัก
แล้วไม่สร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจ ผู้ผลิตก็สามารถ
นำ�ไปพัฒนาและเชื่อมโยงกับสื่อรูปแบบอื่นแทนได้
ข้อแนะนำ� แนวคิด สำ�หรับคนทำ�สื่อในยุคดิจิตอล
ยุคดิจิตอล คือยุคของสื่อที่มีความหลากหลาย
มีลูกเล่นมาก สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการมี
ปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมได้ ดังนั้นผู้ผลิตจึงควรเน้นเรื่องนี้เป็น
สำ�คัญ เพราะเมื่อผู้ชมรู้สึกตนเองมีส่วนร่วมแล้ว ก็จะ
เกิดความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของรายการ เมื่อผู้ชมมีความ
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับรายการแล้ว จะมีผลต่อการปรับ
เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ชมตามที่รายการนำ�เสนอซึ่งจะมี
ประโยชน์มากต่อรายการที่เป็นสาระความรู้ ซึ่งจากเดิม
บทบาทของสื่อคือการให้ความรู้และให้ความบันเทิง แต่
ในยุคดิจิตอลสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือการทำ�ให้ผู้ชมมีส่วนร่วม
ผู้ชมจะรู้สึกว่าตนเองสามารถมีบทบาทเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ
ทำ�ให้เรื่องไกลตัวกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว แล้วสร้างความ
เปลี่ยนแปลงให้กับสังคม
ข้อแตกต่างของ Multiplatform กับ Transme-
dia Story Telling
- Multiplatform: การเล่าเรื่องใดเรื่อง
หนึ่งผ่านสื่อหลายประเภท เช่น การนำ�วิดีโอที่ออก
อากาศแล้วไปโพสขึ้นเฟสบุ๊ค อัพขึ้นยูทูป โดยใช้
วิดีโออันเดียวกัน
- Transmedia Story Telling: ในแต่ละสื่อ
จะต้องมีลูกเล่นของเนื้อหาที่แตกต่างกัน แยกส่วน
กัน และเมื่อดูครบทุกสื่อแล้วจะได้เนื้อหาในภาพรวม
ทั้งหมดอีกทีหนึ่ง แต่ผู้ผลิตต้องเลือกด้วยว่า
เนื้อหาส่วนหลักจะอยู่บนสื่อไหน แล้วใช้อื่นๆ เป็น
องค์ประกอบเสริมเพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับผู้ชม
“สิ่งสำ�คัญคือการรู้จักธรรมชาติของสื่อที่
นำ�มาใช้และดูว่าผู้ชมที่อยู่ในแต่ละสื่อทำ�
กิจกรรมใดบ้างบนสื่อเหล่านั้น จากนั้นผู้ผลิต
จะต้องสร้างแก่นเนื้อหาหลักและรูปแบบการ
เล่าเรื่องที่ตอบโจทย์ประสบการณ์ในการรับรู้
ในแต่ละสื่อ แล้วพยายามดึงให้เชื่อมโยงกลับ
มายังสื่อหลักให้ได้”