Submit Search
Upload
การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ นางสาวอลิศา รักญาติ น้องเอื้อย
•
3 likes
•
22,049 views
Alisa Rakyart
Follow
การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
Read less
Read more
Education
Report
Share
Report
Share
1 of 58
Download Now
Download to read offline
Recommended
บฝ.การกำหนดเพศและยีนที่เกี่ยวเนื่องกับเพศ
บฝ.การกำหนดเพศและยีนที่เกี่ยวเนื่องกับเพศ
Maikeed Tawun
โครงงานวิชา Is2
โครงงานวิชา Is2
LeoBlack1017
Pigment
Pigment
sukanya petin
สารคดีท่องเที่ยว แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาว
สารคดีท่องเที่ยว แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาว
waraporny
หลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าว
หลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าว
Chainarong Maharak
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
Thitaree Samphao
หน่วยที่ 2 ค่านิยมเรื่องเพศตามวัฒนธรรม
หน่วยที่ 2 ค่านิยมเรื่องเพศตามวัฒนธรรม
Terapong Piriyapan
เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์
เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์
Phattarawan Wai
More Related Content
What's hot
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ดีโด้ ดีโด้
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
Warodom Techasrisutee
การศึกษารายกรณี ครูธัญญา ซื่อตรง
การศึกษารายกรณี ครูธัญญา ซื่อตรง
Kru Tew Suetrong
เพาเวอร์เซต
เพาเวอร์เซต
Aon Narinchoti
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
Wann Rattiya
เล่มที่ 6 คำอุทาน
เล่มที่ 6 คำอุทาน
สุกัญญา สุวรรณรัตน์
กิตติกรรมประกาศ
กิตติกรรมประกาศ
ศุภกรณ์ วัฒนศรี
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
krupornpana55
อจท. แผน 1 1 สุขศึกษาฯ ป.5
อจท. แผน 1 1 สุขศึกษาฯ ป.5
สุขใจ สุขกาย
กาพย์เห่เรือ บทชมปลา ภาษาไทย ม.6
กาพย์เห่เรือ บทชมปลา ภาษาไทย ม.6
Bom Anuchit
โครงงานศึกษาดินที่ปลูกพืชได้ดีที่สุด
โครงงานศึกษาดินที่ปลูกพืชได้ดีที่สุด
Joy Jantima
เฉลยชีววิทยาหน้า52- 59
เฉลยชีววิทยาหน้า52- 59
Wan Ngamwongwan
เพลงนันทนาการ
เพลงนันทนาการ
สุวิทย์ สารีแ้ก้ว
บทบาทหน้าที่ของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ
บทบาทหน้าที่ของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ
Suwannaphum Charoensiri
การทำงานของเซลล์ประสาท
การทำงานของเซลล์ประสาท
สุรินทร์ ดีแก้วเกษ
ข้อตกลงของห้องเรียน
ข้อตกลงของห้องเรียน
นฤมล ลุ้ยอุไร
5.สูตรการหาความน่าจะเป็น
5.สูตรการหาความน่าจะเป็น
ทับทิม เจริญตา
1principletest
1principletest
fon_parichat
แรงในชีวิตประจำวัน
แรงในชีวิตประจำวัน
website22556
วิจัยในชั้นเรียนไม่ส่งการบ้าน
วิจัยในชั้นเรียนไม่ส่งการบ้าน
thkitiya
What's hot
(20)
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
การศึกษารายกรณี ครูธัญญา ซื่อตรง
การศึกษารายกรณี ครูธัญญา ซื่อตรง
เพาเวอร์เซต
เพาเวอร์เซต
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
เล่มที่ 6 คำอุทาน
เล่มที่ 6 คำอุทาน
กิตติกรรมประกาศ
กิตติกรรมประกาศ
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
อจท. แผน 1 1 สุขศึกษาฯ ป.5
อจท. แผน 1 1 สุขศึกษาฯ ป.5
กาพย์เห่เรือ บทชมปลา ภาษาไทย ม.6
กาพย์เห่เรือ บทชมปลา ภาษาไทย ม.6
โครงงานศึกษาดินที่ปลูกพืชได้ดีที่สุด
โครงงานศึกษาดินที่ปลูกพืชได้ดีที่สุด
เฉลยชีววิทยาหน้า52- 59
เฉลยชีววิทยาหน้า52- 59
เพลงนันทนาการ
เพลงนันทนาการ
บทบาทหน้าที่ของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ
บทบาทหน้าที่ของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ
การทำงานของเซลล์ประสาท
การทำงานของเซลล์ประสาท
ข้อตกลงของห้องเรียน
ข้อตกลงของห้องเรียน
5.สูตรการหาความน่าจะเป็น
5.สูตรการหาความน่าจะเป็น
1principletest
1principletest
แรงในชีวิตประจำวัน
แรงในชีวิตประจำวัน
วิจัยในชั้นเรียนไม่ส่งการบ้าน
วิจัยในชั้นเรียนไม่ส่งการบ้าน
Similar to การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ นางสาวอลิศา รักญาติ น้องเอื้อย
1principletest
1principletest
Parishat Tanteng
บทที่8
บทที่8
josodaza
การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้
การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้
aumkpru45
แนวคิด
แนวคิด
TupPee Zhouyongfang
นาว1
นาว1
521120941
การสร้างและหาคุณภาพศูนย์วิทย์(ดร.จันทิมา)
การสร้างและหาคุณภาพศูนย์วิทย์(ดร.จันทิมา)
kaew393
การสร้างและหาคุณภาพศูนย์วิทย์(ดร.จันทิมา)
การสร้างและหาคุณภาพศูนย์วิทย์(ดร.จันทิมา)
kaew393
ppt
ppt
Cola Kku
02 สัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ
02 สัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ
kruannchem
การสร้างเครื่องมือและการเก็บข้อมูล
การสร้างเครื่องมือและการเก็บข้อมูล
Ultraman Taro
บทที่8
บทที่8
honeylamon
การเขียนข้อสอบ
การเขียนข้อสอบ
Nona Khet
งานเมย์บทที่8นะ
งานเมย์บทที่8นะ
nwichunee
ข้อสอบความคิดสร้างสรรค์
ข้อสอบความคิดสร้างสรรค์
Jirathorn Buenglee
บทที่ 2 การสร้างและการใช้เครื่องมือและประเมินการเรียนรู้
บทที่ 2 การสร้างและการใช้เครื่องมือและประเมินการเรียนรู้
ืnattakamon thongprung
การออกแบบหน่วยพอเพียง-มีเหตุุผลบนความพอเพียง
การออกแบบหน่วยพอเพียง-มีเหตุุผลบนความพอเพียง
คุณครูพี่อั๋น
เบญ2
เบญ2
ben_za
บทที่ 8 การวัดผลและประเมินการเรียนรู้
บทที่ 8 การวัดผลและประเมินการเรียนรู้
onnichabee
การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้
การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้
tuphung
การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้
การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้
tuphung
Similar to การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ นางสาวอลิศา รักญาติ น้องเอื้อย
(20)
1principletest
1principletest
บทที่8
บทที่8
การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้
การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้
แนวคิด
แนวคิด
นาว1
นาว1
การสร้างและหาคุณภาพศูนย์วิทย์(ดร.จันทิมา)
การสร้างและหาคุณภาพศูนย์วิทย์(ดร.จันทิมา)
การสร้างและหาคุณภาพศูนย์วิทย์(ดร.จันทิมา)
การสร้างและหาคุณภาพศูนย์วิทย์(ดร.จันทิมา)
ppt
ppt
02 สัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ
02 สัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ
การสร้างเครื่องมือและการเก็บข้อมูล
การสร้างเครื่องมือและการเก็บข้อมูล
บทที่8
บทที่8
การเขียนข้อสอบ
การเขียนข้อสอบ
งานเมย์บทที่8นะ
งานเมย์บทที่8นะ
ข้อสอบความคิดสร้างสรรค์
ข้อสอบความคิดสร้างสรรค์
บทที่ 2 การสร้างและการใช้เครื่องมือและประเมินการเรียนรู้
บทที่ 2 การสร้างและการใช้เครื่องมือและประเมินการเรียนรู้
การออกแบบหน่วยพอเพียง-มีเหตุุผลบนความพอเพียง
การออกแบบหน่วยพอเพียง-มีเหตุุผลบนความพอเพียง
เบญ2
เบญ2
บทที่ 8 การวัดผลและประเมินการเรียนรู้
บทที่ 8 การวัดผลและประเมินการเรียนรู้
การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้
การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้
การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้
การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้
การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ นางสาวอลิศา รักญาติ น้องเอื้อย
1.
การสร้างแบบทดสอบวัด ผลสัมฤทธิ์
2.
แบบทดสอบคือ ? คือ เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผลอย่างหนึ่งโดยการใช้ แบบทดสอบ
เป็ นเครื่องมือเรียกว่า การทดสอบหรือการสอบ ผลที่ได้ คือตัวแทนความรู้ ความสามารถในเรื่องนั้น และถูกนามาตีค่าเป็ นตัวเลข คือ คะแนน
3.
ประเภทของแบบทดสอบ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ แบบทดสอบมีอยู่ด้วยกันหลายประเภทขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ในการ จาแนกดังนี้ จาแนกตามพฤติกรรมที่ต้องการวัด จาแนกตามลักษณะของการใช้ประโยชน์ จาแนกตามระยะเวลาที่กาหนดให้ตอบ
4.
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้กันมากสาหรับวัดพฤติกรรมพุทธิ หรือวัดความรู้ความสามารถทางสมอง และทักษะที่เกิดขึ้นกับ ในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่เกิดจากผลการจัดการเรียนรู้ จาแนกตามพฤติกรรมที่ต้องการวัด
5.
แบบทดสอบวัดความถนัด คือ มุ่งวัดสมรรถภาพสูงสุดทางสมองของมนุษย์ เพื่อหา ถนัด
แบบทดสอบชนิดนี้ใช้เพื่อพยากรณ์ หรือทานายในอนาคตของ ผู้เรียน โดยอาศัยข้อเท็จจริงในสภาพปัจจุบันเป็นรากฐาน โดย แบบทดสอบนี้แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ แบบทดสอบวัดความถนัดทางการเรียน เช่น ภาษา การ คานวณ เป็นต้น แบบทดสอบวัดความถนัดพิเศษ หรือความถนัดเฉพาะอย่าง เช่น ดนตรี ศิลปะ จาแนกตามพฤติกรรมที่ต้องการวัด
6.
แบบทดสอบวัดความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับสังคม หรือ แบบวัดบุคคลกับสังคม เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัด ภายในตัวบุคคล
โดยเก็บรวบรวมความรู้สึกที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น ความสนใจ จริยธรรม เจตคติ บุคลิกภาพเป็นต้น เครื่องมือที่ใช้วัดคุณลักษณะนี้ เรียกว่า แบบวัด เป็น ของแบบวัดเชิงสถานการณ์หรือมาตราส่วนประมาณค่า เป็นต้น จาแนกตามพฤติกรรมที่ต้องการวัด
7.
1 แบบทดสอบเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นเครื่องมือวัดความรู้ความสามารถ หลังจากที่จบการเรียนการ 2
แบบทดสอบเพื่อการวินิจฉัย ใช้เพื่อหาจุดเด่น จุดด้อย ในการเรียน โดยมีจานวนข้อมาก แบบทดสอบชนิดนี้มีประโยชน์มากโดยเฉพาะการแก้ปัญหาด้าน เรียนให้กับผู้เรียน จาแนกตามลักษณะของการใช้ประโยชน์
8.
3 แบบทดสอบเพื่อวัดความพร้อม เป็นแบบทดสอบเพื่อการวัดความพร้อมก่อนเรียน เช่น
การวัดความ พร้อมก่อนเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที 1 4 แบบทดสอบเพื่อการทานาย ใช้เพื่อทานายความสามารถเฉพาะ โดยเฉพาะความสามารถที่จะ เกิดขึ้นภายหลัง ดังนั้นจึงมีการวิจัยว่าแบบทดสอบชนิดนี้เที่ยงตรง หรือไม่ เช่นแบบทดสอบวัดความถนัดชนิดต่างๆ จาแนกตามลักษณะของการใช้ประโยชน์
9.
5 แบบทดสอบเพื่อวัดเชาว์ปัญญา คือ แบบทดสอบที่ใช้วัดความสามารถทั่วๆ
ไป เช่น วัดความสามารถในการ คิด การเรียนรู้และประสบการณ์มาใช้กับสถานการณ์ เช่น การแก้ปัญหา คณิตศาสตร์ 6 แบบทดสอบเพื่อวัดบุคลิกภาพ เป็ นแบบทดสอบที่ใช้วัดบุคลิกภาพ หรือการปรับตนเองของบุคคลในสังคม 7 แบบทดสอบเพื่อวัดความสนใจในอาชีพ ใช้วัดความสนใจในอาชีพ รวมถึงความสนใจที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวัน ของคน จาแนกตามลักษณะของการใช้ประโยชน์
10.
1 แบบทดสอบที่ใช้วัดความเร็ว แบบทดสอบนี้จะให้ตอบภายในเวลาที่กาหนด ข้อสอบค่อนข้างง่าย
เช่น การบวกเลข การใช้มือ เป็ นต้น 2 แบบทดสอบที่ใช้ความสามารถ เป็ นแบบทดสอบที่ไม่กาหนดเวลา มุ่งวัดความสารถของบุคคล เช่น ผลงาน การค้นคว้า เป้ นต้น แบ่งตามระยะเวลาที่กาหนดให้ตอบ
11.
คือเครื่องมือ ที่สามารถวัดได้ครอบคลุมพฤติกรรมทั้ง 6
ด้าน คือ ด้านความรู้ความจา ความเข้าใจ การนาไปใช้ การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการประเมิน แบบทดสอบชนิดนี้มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ใน จาแนก แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ?
12.
1 แบบทดสอบที่ครูสร้างขึ้นเอง แบบทดสอบที่ใช้ระหว่างการเรียน เพื่อตรวจสอบความก้าวหน้า ของผู้เรียนและนาผลมาปรับปรุงการสอน แบบทดสอบหลังสิ้นสุดการเรียน
เพื่อนาผลการวัดไปใช้ใน การสรุปรวบรวม หรือตัดสินผลการเรียนของผู้เรียน จาแนกตามลักษณะการสร้าง
13.
2 แบบทดสอบมาตรฐาน มาตรฐานในการสร้าง คือผ่านการตรวจสอบคุณภาพและพัฒนาแล้ว จนเชื่อถือได้
มักออกข้อสอบเนื้อหาสาระกว้างๆ ที่สอนในหลักสูตรนั้น มาตรฐานในการดาเนินการสอบ จะมีคู่มือในการสอบใครที่นาไป ดาเนินการสอบก็จะมีผลเหมือนกัน มาตรฐานในการให้คะแนนและแปลความหมายของคะแนน ไม่ว่าใคร ให้คะแนนก็เหมือนกัน มีเกณฑ์ปกติ สาหรับแปลคะแนนของผู้เข้าสอบ จาแนกตามลักษณะการสร้าง
14.
• แบบทดสอบปากเปล่า อาศัยการถาม
- ตอบ • แบบทดสอบให้เขียน เช่น แบบจากัดคาตอบ และไม่จากัด คาตอบ • แบบทดสอบให้ปฏิบัติ เช่น การประดิษฐ์ งานบ้าน เป็ นต้น จาแนกตามรูปแบบการตอบ
15.
แบบทดสอบปรนัย เป็
นแบบทดสอบที่มีกฎเกณฑ์ตายตัว มีการกาหนด คาตอบมาล่วงหน้า ใครตรวจก็มีผลคะแนนเท่ากัน โดยวัดความสามารถ เพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพียงเรื่องเดียวกัน แบบทดสอบอัตนัย การตรวจให้คะแนนขึ้นอยู่กับความรู้สึก ความคิดเห็น ของผู้ตรวจเป็ นสาคัญ เหมาะสาหรับวัดความสามารถทางสมองขั้นสูง จาแนกตามลักษณะของการตรวจให้คะแนน
16.
การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบถูกผิด ประกอบด้วยจ้อความหรือประโยคที่ต้องการให้ผู้ตอบตัดสินว่า ถูก หรือ ผิด
ใช่ หรือไม่ จริงหรือเท็จ นาไปใช้ วัดการเรียนรู้ ขั้นความจา โดยเฉพาะในเรื่องของ ความจริง นิยาม สามารถใช้วัดความสัมพันธ์ในเชิงเหตุผล ของสิ่งสอง สิ่ง การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ชนิดต่างๆ
17.
ข้อเสนอแนะ วัดเฉพาะแนวคิดหรือประเด็นสาคัญ หลีกเลี่ยงคาถามที่เป็นความคิดเห็น
หลีกเลี่ยงคาถามที่มีข้อความปฏิเสธ หรือมีการเน้นที่ข้อความนั้น ใช้คาถามที่ชัดเจน ใช้ข้อสอบผิดมากกว่าถูกเพราะแนวโน้มผู้เรียนจะยอมรับมากกว่าปฏิเสธ จัดเรียงข้อสอบแบบสุ่ม หลีกเลี่ยงการใช้คาชี้แนะ เช่น ทั้งหมด เสมอๆ ทุกครั้ง เพราะคาเหล่านี้ ให้เป็นประโยคที่ผิด การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบถูกผิด
18.
การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบถูกผิด ตัวอย่างการสร้างแบบทดสอบปรนัยแบบถูกผิด คาชี้แจง โปรดพิจารณาว่าข้อความต่อไปนี้กล่าวถูกหรือกล่าวผิด
โดยทา ✓ หน้าข้อความที่กล่าวถูกและทาเครื่องหมาย ✖ หน้าข้อความที่กล่าวผิด ............................ 1. เครื่องมือวัดที่มีความเที่ยงจะทาให้เครื่องมือวัด ชนิด นั้นส่งผลต่อความตรงด้วย ............................ 2. ความตรงเป็นคุณภาพที่สาคัญที่สุดของเครื่องมือที่ ใช้ใน การวัดผล
19.
ข้อดี เหมาะสาหรับใช้วัดความรู้
ความเข้าใจในเนื้อหา สร้างง่าย ถ้าผู้สร้างระมัดระวังในการสร้างและตรวจสอบดีแล้ว ข้อสอบนั้นจะมี ความเที่ยงสูง และตรงเชิงเนื้อหา การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบถูกผิด
20.
ข้อจากัด ผู้สอบมีโอกาสสูงในการเดาข้อสอบให้ถูก
มีแนวโน้มในการวัดเล็กๆน้อยๆ และวัดในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับ พฤติกรรมการเรียนรู้ที่สาคัญ การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบถูกผิด
21.
• เป็นข้อสอบเลือกตอบประเภทหนึ่ง ประกอบด้วยสอง
คอลัมภ์ ทาง ซ้ายมือมักเป็นกลุ่มคา โดยมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับทางขวามือ • เหมาะสาหรับวัดพฤติกรรมขั้น ความรู้ความจา เกี่ยวกับข้อเท็จจริง เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกัน การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบจับคู่
22.
การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบจับคู่
23.
ข้อเสนอแนะ เนื้อหาที่นามาสร้างควรเป็ นเอกพันธ์คือเป้
นเรื่องราวเดียวกันหมด คาถามกับคาตอบควรเกี่ยวข้องกัน คาถามกับคาตอบควรมีจานวนไม่เท่ากัน ใช้ข้อความที่สั้นกะทัดรัด ในแต่ละตอนควรมีคาถามอย่างน้อย 6 ข้อ และไม่เกิน 12 ข้อ คอลัมภ์คาถามและคาตอบควรอยู่ในหน้าเดียวกัน การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบจับคู่
24.
ข้อดี เหมาะสาหรับเนื้อหาที่ต้องการสร้างความจา สร้างง่ายและใช้สะดวก
สร้างความสนใจให้ผู้สอบ ใช้เนื้อที่ในการสร้างน้อย เป็ นการประหยัดกระดาษ ผู้ตอบมีโอกาสเดาได้น้อย การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบจับคู่
25.
ข้อจากัด มักนาไปใช้ได้ในเนื้อหาที่มีขอบเขตจากัด มักจะวัดพฤติกรรมการเรียนรู้ขั้นความรู้
ความจาส่วนใหญ่ เนื้อหาที่นามาถาม ถ้าสร้างไม่ดีจะทาให้เดาได้ง่าย การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบจับคู่
26.
เป็ นข้อสอบที่มีคาตอบตายตัว
ผู้สอบต้องคาและนาคาตอบสั้นๆ มาตอบ เช่น และ หรือ และคาศัพท์ต่างๆ เป็ นต้น เหมาะสาหรับการวัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัยขั้นความรู้ ความจา การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเติมคา หรือเติมคาตอบสั้น
27.
การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเติมคา หรือเติมคาตอบสั้น
28.
ข้อเสนอแนะ ควรใช้คาถามที่มุ่งให้คาตอบที่ตอบด้วยวลี กลุ่มคา
เป็ นคาตอบสั้นๆ ตายตัว ลีกเลี่ยงการใช้กลุ่มคาจากตารา ข้อคาถามควรวัดเฉพาะเนื้อหาที่สาคัญและวัดเพียงประเด็นเดียว คาถามที่ถามต้องชัดเจน ควรเว้นช่องว่างให้ตอบอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงคาถามที่ชี้แนะคาตอบ การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเติมคา หรือเติมคาตอบสั้น
29.
ข้อดี ลดการเดาได้ สร้างง่ายและรวดเร็ว
สามารถสร้างได้ครอบคลุมเนื้อหา เหมาะสาหรับวัดการแก้ปัญหาในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเติมคา หรือเติมคาตอบสั้น
30.
ข้อจากัด วัดพฤติกรรมการเรียนรู้ในขอบเขตที่จากัด ไม่เหมาะสาหรับการวัด พฤติกรรมการเรียนรู้ที่ซับซ้อน
หากคาถามไม่ชัดเจนจะทาให้คาตอบเป็ นไปได้หลายทาง มีความเป็ นปรนัยในการตรวจให้คะแนนน้อยกว่าข้อสอบปรนัยแบบ อื่นๆ การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเติมคา หรือเติมคาตอบสั้น
31.
โดยมีการกาหนดให้มีส่วนสาคัญสองส่วนคือ ตัวคาถาม
และส่วนที่ เป็ นคาตอบหรือตัวเลือก โดยคาตอบจะเพียงตาเลือกเดียว ส่วนที่ เหลือจะเป็ นตัวเลือกที่ผิด หรือตัวลวง ซึ่งมีมากกว่าหนึ่งคาตอบ สามารถวัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัยในระดับต่างๆ ตั้งแต่ง่ายจนถึงขั้น ซับซ้อน การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเลือกตอบ
32.
แบบคาถามเดี่ยว แบบให้เลือกคาตอบถูก การสร้างแบบทดสอบปรนัย
แบบเลือกตอบ
33.
แบบให้ เลือกคาตอบผิด ตัวอย่างเช่น
ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ก. เมาส์ ข. หน้าจอ ค.แป้ นพิมพ์ ( ง.) แผ่นรองเมาส์ การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเลือกตอบ
34.
แบบให้เลือกคาตอบที่ดีที่สุด ตัวอย่างเช่น
ข้อใดคือสิ่งที่สาคัญที่สุดในการดารงชีวิตของมนุษย์ การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเลือกตอบ ตัวอย่างการสร้างแบบทดสอบปรนัยแบบเลือกตอบ แบบให้เลือกคาตอบที่ดีที่สด คาชี้แจง จงเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สด 1. ข้อใดเป็นคณภาพที่สาคัญที่สดของเครื่องมือที่ใช้ในการวัดผล (ก.) ความตรง ข. ความเที่ยง ค. ความยากง่าย ง. อานาจจาแนก จ. ความเป็นปรนัย
35.
แบบให้เรียงลาดับคาตอบ การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเลือกตอบ
36.
แบบให้เลือกคาตอบเปรียบเทียบ การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเลือกตอบ
37.
แบบให้เลือกคาตอบรวม การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเลือกตอบ
38.
2 แบบคาถามเป็
นชุดแต่ตัวเลือกคงที่ การสร้างแบบทดสอบปรนัย แบบเลือกตอบ
39.
3 คาถามแบบบทความหรือสถานการณ์ การสร้างแบบทดสอบปรนัย
แบบเลือกตอบ ข้อที่ คนตอบถูกในกลุ่มสูง คนตอบถูกในกลุ่มต่ำ ควำมยำกง่ำย อำนำจจำแยก 1 30 15 ................... . ................... .. 2 10 2 ................... . ................... ..
40.
ข้อเสนอแนะในการสร้างข้อสอบแบบเลือกตอบ กรณีการเขียนข้อความ รูปแบบคาถามต้องเป็
นประโยคที่สมบูรณ์ มีใจความในตัวประโยค ใช้คาที่มีความหมายชัดเจน ไม่ควรใช้ประโยคปฏิเสธในตัวคาถาม หรือไม่ก็ควรเน้นให้ชัดเจน ใช้ภาษาที่เหมาะสมกับระดับผู้ตอบ ไม่ใช้คาถามที่แนะนาคาตอบ กรณีที่คาถามมีคาตอบที่ถูกหลายคาตอบ ให้ผู้ตอบเลือกคาตอบที่ถูกที่สุด อย่าให้ข้อสอบข้อหนึ่งชี้แนะคาตอบในข้ออื่นๆ ไม่ลอกประโยคจากตารามาเขียนเป็ นข้อสอบแต่ควรเรียงใหม่ รูปแบบคาถามของข้อสอบแบบเลือกตอบ คาถามแบบบทความหรือสถานการณ์
41.
ข้อเสนอแนะในการสร้างข้อสอบแบบเลือกตอบ กรณีการเขียนตัวเลือก ควรมีคาตอบถูกเพียงคาตอบเดียว
และผู้เชี่ยวชาญในวิชานั้นเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ ตัวเลือกทุกตัวต้องมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคาตอบถูกต้องสมเหตุสมผล ข้อความในตัวเลือกทุกตัว ควรมีอิสระจากกัน ตัวเลือกใช้คาซ้ากันควรนามาไว้ในคาถาม ใช้ตัวเลือกปลายเปิดให้เหมาะสม เช่น ถูกทุกข้อ เพราะจะทาให้ง่ายต่อการค้นหา จริง ตาแหน่งของตัวถูกควรมีจานวนเท่าๆ กัน และไม่ควรจัดเรียงเป็นระบบ พยายามเขียนตัวเลือกให้ยาวพอๆกัน รูปแบบคาถามของข้อสอบแบบเลือกตอบ คาถามแบบบทความหรือสถานการณ์
42.
ข้อดีของข้อสอบแบบเลือกตอบ วัดความสามารถ หรือพฤติกรรมของผู้เรียนได้อย่างกว้างขวาง
สามารถวัดได้ ครอบคลุมเนื้อหาที่ต้องการวัด แบบทดสอบจะมีความตรงเชิงเนื้อหาได้ดี มีความเป็นปรนัยในการตรวจให้คะแนน ใช้เวลาในการตรวจข้อสอบน้อย เหมาะสาหรับการสอบที่มีผู้สอบจานวนมาก คะแนนที่ได้ในการสอบจะมีความเที่ยงตรง รูปแบบคาถามของข้อสอบแบบเลือกตอบ คาถามแบบบทความหรือสถานการณ์
43.
ข้อจากัดของข้อสอบแบบเลือกตอบ เปิ ดโอกาสให้ผู้สอบเดาคาตอบได้
ข้อสอบออกยากและเสียเวลาในการออกข้อสอบมาก ผู้ออกข้อสอบควรมีความรู้ความสามารถในการออกข้อสอบ ผู้ออกข้อสอบต้องมีความรู้ในเนื้อหานั้นๆ ไม่เหมาะสาหรับการวัดความคิดสร้างสรรค์ หรือการวักการปฏิบัติต่างๆ สิ้นเปลืองงบประมาณมากกว่าข้อสอบชนิดอื่นๆ รูปแบบคาถามของข้อสอบแบบเลือกตอบ คาถามแบบบทความหรือสถานการณ์
44.
เป็ นข้อสอบที่ให้ผู้ตอบได้แสดงความคิดเห็น จึงเหมาะสาหรับ วัดความรู้ขั้นสูงกว่าความจา
และความเข้าใจ ข้อสอบแบบเขียนตอบ แบ่งได้เป็ น 2 ลักษณะ คือ แบบไม่จากัดคาตอบ แบบจากัดคาตอบ การสร้างแบบทดสอบอัตนัย
45.
ตัวอย่างการสร้างแบบทดสอบอัตนัย คาชี้แจง จงตอบคำถำมต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. จงสรุปประเด็นสำคัญของเป้
ำหมำยกำรจัดกำรเรียนรู้ 2. จงวิเครำะห์ข้อดีของข้อสอบปรนัย 3. จงแสดงควำมคิดเห็นที่มีต่อแบบทดสอบที่ดี ว่ำท่ำนมีเห็นด้วยหรือไม่ หรือไม่ อย่ำงไร การสร้างแบบทดสอบอัตนัย
46.
เป็ นข้อสอบที่เปิ ดโอกาสให้ผู้เรียนมีอิสระในการตอบ เหมาะสาหรับใช้วัดความรู้ความสามารถทางสมองชั้นสูง
วัด ความสามารถของผู้เรียนทั้งในแง่ของความรู้ ความสามารถในการ ประเมินความรู้ ความสัมพันธ์ด้านต่างๆ และความสามารถในการ ถ่ายทอดแนวคิดเชิงเหตุผล การสร้างแบบทดสอบอัตนัย แบบไม่จากัดคาตอบ
47.
เป็ นข้อสอบที่มีการกาจัดเนื้อหาและความยาวของคาตอบ คาตอบจึงสั้นและแคบกว่าข้อสอบอัตนัยแบบไม่จากัดคาตอบ เหมาะสาหรับใช้วัดความรู้ความสามารถในการอธิบายถึง ความสัมพันธ์ในเชิงเหตุและผล การสร้างแบบทดสอบอัตนัย แบบจากัดคาตอบ
48.
เป็ นข้อสอบที่มีการกาจัดเนื้อหาและความยาวของคาตอบ คาตอบจึงสั้นและแคบกว่าข้อสอบอัตนัยแบบไม่จากัดคาตอบ เหมาะสาหรับใช้วัดความรู้ความสามารถในการอธิบายถึง ความสัมพันธ์ในเชิงเหตุและผล การสร้างแบบทดสอบอัตนัย แบบจากัดคาตอบ
49.
ข้อเสนอแนะในการสร้างข้อสอบอัตนัย ไม่ใช้คาถามกว้างเกินไปและไม่เกี่ยวกับการเรียนรู้ คาถามสามารถล้วงพฤติกรรมที่ต้องการวัดในตัวผู้เรียนได้
ชัดเจนว่าต้องการให้ อะไร จากัดของเขตของการตอบในตัวคาถามให้ชัดเจน ใช้คาที่มองเห็นแนวทางในการตอบที่ชัดเจน ไม่ควรใช้คาถามที่เริ่มด้วย ใคร อะไร ที่ไหน เป็นต้น ออกข้อสอบให้คาตอบสั้น จานวนข้อมาก กาหนดคะแนนและเวลาให้เหมาะสมในการตอบคาถามของแต่ละข้อ ไม่ควรให้ผู้เรียนเลือกทาข้อสอบเพียงบางข้อ จะทาให้ข้อสรุปแต่ละข้อมีความ เท่ากัน การสร้างแบบทดสอบอัตนัยแบบจากัดคาตอบ
50.
ข้อเสนอแนะในการสร้างข้อสอบอัตนัย (ต่อ) เตรียมเฉลยและเกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสินไว้ล่วงหน้า กาหนดความซับซ้อนของคาถามหรือแนวการตอบให้เหมาะสมกับ ระดับความรู้ของผู้เรียน การสร้างแบบทดสอบอัตนัย แบบจากัดคาตอบ
51.
ข้อเสนอแนะในการตรวจข้อสอบอัตนัย กาหนดของเขตของคาตอบไว้ล่วงหน้า อ่านคาตอบของนักเรียนเพื่อกาหนดเกณฑ์การให้คะแนนที่
ปิดชื่อนักเรียน เพื่อไม่ให้เกิดอัคติต่อการให้คะแนน ตรวจข้อสอบทีละข้อ และให้เสร็จในคราวเดียว ใช้วิธีการตรวจให้คะแนนที่เหมาะสมที่สุด คือตรวจแบบวิเคราะห์ แบบสรุปรวม การสร้างแบบทดสอบอัตนัย แบบจากัดคาตอบ
52.
ข้อดีของข้อสอบอัตนัย ใช้วัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัยขั้นสูงได้ดี เหมาะสาหรับใช้วัดความสามรถในการคิดกระบวนการต่างๆ
ได้ดี เหมาะสาหรับวัดผลการเรียนรู้ ให้สิทธิเสรีภาพแก่ผู้เรียนในการตอบ ใช้เวลาในการตรวจข้อสอบน้อย ลดการคาดเดาข้อสอบของผู้ทาแบบทดสอบได้ การสร้างแบบทดสอบอัตนัย แบบจากัดคาตอบ
53.
ข้อจากัดของข้อสอบอัตนัย ความตรงของแบบทดสอบต่ากว่าข้อสอบชนิดอื่น ขาดความเที่ยงตรงในการตรวจให้คะแนน
เสียเวลาในการตรวจให้คะแนน การสร้างแบบทดสอบอัตนัย แบบจากัดคาตอบ
54.
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีลาดับขั้นตอนของการสร้าง ดังนี้
การกาหนดจุดมุ่งหมายในการทดสอบ กาหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ กาหนดเนื้อหาหรือสาระการเรียนรู้ที่ต้องการวัด ทาตารางวิเคราะห์หลักสูตรหรือตารางวิเคราะห์เนื้อหา ขั้นตอนการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
55.
ทาตารางวิเคราะห์หลักสูตรหรือตารางวิเคราะห์เนื้อหา
56.
การกาหนดรูปแบบของข้อคาถาม เขียนข้อสอบ
ตรวจสอบคุณภาพของข้อสอบและปรับปรุงแก้ไข จัดพิมพ์เป็ นฉบับสมบูรณ์และจัดทาคู่มือการนาไปใช้ ขั้นตอนการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
57.
จัดทาโดย นางสาวอลิศา รักญาติ รหัสนักศึกษา 5581135054
คณะครุศาสตร์ สาขา คอมพิวเตอร์
58.
จบการนาเสนอ
Download Now