More Related Content
Similar to บทที่ 2 การฟัง (20)
More from Aj.Mallika Phongphaew (12)
บทที่ 2 การฟัง
- 3. รายละเอียดเนื้อหาวิชาภาษาไทย บทที่ 2 การฟัง
• ความรู้พื้นฐานของการฟัง
• ความหมายของการฟัง
• ความสาคัญของการฟัง
• ระดับการฟัง
• ลักษณะการฟัง
• ขั้นตอนและกระบวนการฟัง
• จุดมุ่งหมายทั่วไปของการฟัง
• โอกาสของการฟัง
• ระดับของการฟังให้สัมฤทธิ์ผล
• มารยาทในการฟัง
• อุปสรรคและปัญหาในการฟัง
- 6. ความหมายของการฟัง (ต่อ)
ปรีชา ช้างขวัญยืน กล่าวว่า การฟัง คือ พฤติกรรมการใช้ภาษาที่เกิดขึ้นภายในตัว
บุคคลของบุคคลหนึ่งหลังจากได้ยินเสียงพูดหรือเสียงอ่าน ซึ่งเป็นพฤติกรรมการใช้ภาษา
ภายนอกตัวบุคคลจากอีกบุคคลหนึ่ง เมื่อเสียงนั้นมากระทบโสตประสาทของผู้รับ คือ ผู้ฟัง
แล้ว ผู้ฟังก็จะนาเสียงพูดเหล่านั้น เข้าสู่กระบวนการทางสมอง คือ การคิด ด้วยการแปล
ความ ตีความจนเกิดความเข้าใจ ทั้งนี้ถ้าเสียงดังกล่าวเป็นเสียงในภาษาเดียวกันของทั้ง
ผู้พูดและผู้ฟัง การฟังก็จะเกิดผลได้ง่าย ถูกต้องและชัดเจน (ปรีชา ช้างขวัญยืน, 2525,
หน้า 4-5)
- 17. แผนผังแสดงระดับของการฟัง
จากแผนภูมิข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า การฟังทั้ง 3 ระดับนี้ มีความเกี่ยวโยง
กันอย่างเป็นลาดับเป็นการพัฒนาจากระดับของการได้ยินจากอวัยวะรับเสียง
จากนั้นเข้าสู่การฟังตามปกติคือผ่านกระบวนการตีความและแปลความทางสมอง
แล้วจึงเข้าสู่ระดับการฟังอย่างมีวิจารณญาณที่เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์
การใคร่ครวญ การวินิจฉัย การประเมินค่าและการใช้ประโยชน์
- 19. ระดับของการฟัง (ต่อ)
2. ระดับการฟังตามปกติ เป็นระดับการได้ยินที่สูงขึ้นต่อจากการได้ยิน ผู้ฟัง
ต้องใช้สมรรถภาพทางสมองเชื่อมโยงเสียงที่ได้ยินกับประสบการณ์และความรู้
เกี่ยวกับความหมายของเสียง เพื่อให้เกิดการแปลความและตีความเสียงนั้น
จนเข้าใจสารที่ฟังและแสดงปฏิกิริยาตอบสนองสารนั้นอย่างถูกต้องและ
เหมาะสม
- 20. ระดับของการฟัง (ต่อ)
3. ระดับการฟังอย่างมีวิจารณญาณ เป็นระดับการฟังที่สูงขึ้นอีกต้องอาศัย
สมรรถภาพทางด้านการคิดวิเคราะห์ การประเมินค่า การวินิจฉัย และการ
นาไปใช้ในชีวิตจริงได้ การฟังระดับนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนและพัฒนาอย่าง
ต่อเนื่อง หากสามารถพัฒนาจนเกิดทักษะแล้ว ผู้ฟังจะได้ประโยชน์สูงสุดจากการ
ฟังสารนั้นๆ
- 21. ลักษณะการฟัง
การฟังสามารถแบ่งได้หลากหลายลักษณะ สรุปได้ดังนี้
1. การฟังอย่างเข้าใจ เป็นการฟังขั้นพื้นฐานที่ใช้ได้ทุกสถานการณ์ เช่น ฟังเพื่อให้
สามารถรับรู้เข้าใจเรื่องราว เข้าใจความคิดของบุคคล เข้าใจความหมายของสารแล้ว
สามารถนาสิ่งที่ได้ฟังไปปฏิบัติได้ ฯลฯ การฟังลักษณะนี้ผู้ฟังควรฟังโดยตลอด
ใช้ความคิดพิจารณาด้วยใจที่เป็นกลางและยอมรับความรู้ความคิดหรือมุมมองต่างๆ ของ
ผู้ส่งสาร อาจมีการจดบันทึกประเด็นสาคัญๆ ไปด้วยก็ได้
- 22. ลักษณะการฟัง (ต่อ)
2. การฟังอย่างมีจุดมุ่งหมาย เป็นการฟังที่ผู้ฟังตั้งวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์
หนึ่งไว้ล่วงหน้า เช่น ต้องการฟังเพื่อความรู้ เพื่อความบันเทิง เพื่อการตัดสินใจ
เป็นต้น การฟังอย่างไม่ได้ตั้งจุดมุ่งหมายจัดว่าเป็นการฟังแบบผ่านๆ ผู้ฟังจะไม่ได้
ประโยชน์จากสิ่งที่ได้ฟัง การฟังอย่างมีจุดมุ่งหมายจึงเป็นพื้นฐานสาคัญของการ
ฟังอย่างมีประสิทธิภาพ
- 23. ลักษณะการฟัง (ต่อ)
3. การฟังอย่างมีวิจารณญาณ จัดเป็นการฟังที่ต้องใช้ความคิดวิเคราะห์สารที่
ได้ฟัง มักดาเนินควบคู่ไปกับการวิเคราะห์สาร จัดเป็นการฟังขั้นสูง ผู้ฟังต้องจับ
ประเด็นว่าจุดมุ่งหมายของผู้พูดคืออะไร และแยกแยะว่าส่วนใดที่เป็นข้อเท็จจริง
และเป็นข้อคิดเห็น โดยใช้กระบวนการคิดใคร่ครวญด้วยเหตุผล จนนาไปสู่การ
ตอบสนองที่ถูกต้องเหมาะสม การฟังอย่างมีวิจารณญาณจะทาให้ผู้ฟังได้รับ
ประโยชน์และได้ข้อมูลที่เป็นจริง
- 24. ลักษณะการฟัง (ต่อ)
4. การฟังอย่างประเมินคุณค่า เป็นการฟังในระดับสูงต่อมาจากการฟังอย่างมี
วิจารณญาณ เป็นการฟังที่ผู้ฟังต้องประเมินหรือตัดสินคุณค่าของสารที่ฟังว่าดี
หรือไม่ มีประโยชน์หรือไม่ เหมาะแก่การนาไปปฏิบัติหรือไม่ ผู้ฟังควรฟังอย่าง
ตั้งใจและสามารถวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่ฟังได้อย่างมีเหตุผลน่าเชื่อถือ การฟังอย่าง
ประเมินคุณค่าทาให้ผู้ฟังตระหนักได้ว่าข้อมูลนั้นน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
- 25. การฟังที่ดีมีประสิทธิภาพคือ การฟังอย่าง
มีวิจารณญาณ คือ การฟังที่มีประสิทธิภาพ นอกจาก
การฟังเพื่อการรับสารแล้ว ต้องมีการวิเคราะห์
ใคร่ครวญ วินิจฉัย ประเมินค่า และเพื่อใช้ประโยชน์
ในชีวิตประจาวันอย่างแท้จริงตามจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้
ทุกประการ
ขั้นตอนและ
กระบวนการฟัง
ขั้นตอนและกระบวนการ
การฟังเพื่อรับสาร มีดังนี้
ได้ยิน รับฟัง ทาความเข้าใจ นาไปใช้ให้เกิดประโยชน์
(รับสาร)
- 27. ขั้นตอนและกระบวนการฟัง (ต่อ)
2. ขั้นรับรู้ เมื่อเสียงผ่านเข้าไปยังสมองแล้ว สมองจะจาแนกเสียงพยางค์ไปตาม
ลักษณะโครงสร้างทางไวยากรณ์ของแต่ละภาษา หากเป็นเสียงในภาษาที่ผู้ฟังรู้จัก
และเข้าใจจะเกิดการรับรู้ แต่หากผู้ฟังไม่รู้จักเสียงที่ผ่านเข้ามาก็จะไม่เกิด
ความหมายใด
- 28. ขั้นตอนและกระบวนการฟัง (ต่อ)
3. ขั้นตีความ เป็นขั้นที่ผู้ฟังแปลความหมาย หรือตีความหมายของประโยคหรือ
สิ่งที่ได้ยิน ได้ฟัง
4. ขั้นเข้าใจ เป็นขั้นการฟังซึ่งผู้ฟังสามารถเข้าใจความหมายของใจความสาคัญ
ของผู้พูดได้อย่างถูกต้อง
- 31. จุดมุ่งหมายทั่วไปของการฟัง
แบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
1. การฟังเพื่อติดต่อสื่อสารในชีวิตประจาวัน การฟังชนิดนี้เป็นพฤติกรรมปกติ
ของมนุษย์ การฟังคนอื่นที่เราติดต่อเกี่ยวข้องมีความสาคัญมิใช่น้อย เพราะทาให้
มนุษย์คงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้ตลอดไป อันทาให้ดารงชีวิตได้อย่างปกติสุข
- 32. จุดมุ่งหมายทั่วไปของการฟัง (ต่อ)
2. การฟังเพื่อความเพลิดเพลิน ได้แก่ การฟังเพลงและดนตรี ฟังเรื่องราว
สนุกสนาน เบาสมองหรือเรื่องที่ชวนให้ใช้ความนึกฝันหรือจินตนาการเป็น
การผ่อนคลายความตึงเครียดอันเนื่องมาจากกิจกรรมงานและภาวะแวดล้อม
สิ่งที่ทาให้เกิดความเพลิดเพลินได้คือเสียงของผู้พูดหรือผู้อ่านที่ชักนาให้ผู้ฟังรับรู้
ถึงความน่าสนใจของเนื้อเรื่องและแก่เรื่องในนิทานนวนิยาย ความไพเราะ
ของถ่อยคาและท่วงทานองหรือเหตุการณ์ที่เล่ามีความขาขันสบอารมณ์ของเรา
- 33. จุดมุ่งหมายทั่วไปของการฟัง (ต่อ)
3. การฟังเพื่อรับความรู้ ได้แก่ การฟังเรื่องราวเกี่ยวกับวิชาการ ข่าวสาร และ
ข้อเสนอแนะต่างๆ จะต้องฟังให้เข้าใจ และจดจาสาระสาคัญ ใช้ความคิด
วิเคราะห์ ตีความ และประเมินคุณค่าได้ตามลาดับ
อย่างไรก็ดี เราควรรู้จักจับเฉพาะสารประโยชน์ แล้วนามาประพฤติปฏิบัติให้
ได้ ก็จะเกิดผลแก่ชีวิตของเรา นั่นคือการฟังครั้งนั้นก็ว่าได้ผลคุ้มกับเวลาที่เสียไป
- 36. โอกาสของการฟัง
ประกอบด้วย 4 ลักษณะ ดังนี้
1. การฟังระหว่างบุคคล มีทั้งการฟังระหว่างที่ไม่เป็นทางการ เช่น ฟังในขณะ
ที่ทักทายกัน ระหว่างสนทนาปราศรัย การสอบถาม การขอคาแนะนาในเรื่อง
ทั่วๆ ไป และการฟังที่เป็นทางการ เช่น ฟังในระหว่างการสัมภาษณ์ การแนะนา
ตัว การแนะนาบุคคลให้รู้จักกัน
- 39. โอกาสของการฟัง (ต่อ)
4. การฟังวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นการ
ฟังอย่างไม่เป็นทางการ เช่น ฟังข่าวประจาวัน ฟังรายการความรู้ ฟัง
ประกาศของทางราชการแม้รายการที่ส่งมาจะมีลักษณะเป็นทางการก็ตาม
ยิ่งเป็นรายการที่ไม่เป็นทางการ เช่น รายการสนทนาพาเพลิน รายการ
หรรษา การฟังรายการประเภทนี้ย่อมเป็นการฟังอย่างไม่เป็นทางการมาก
ยิ่งขึ้น
- 45. มารยาทในการฟัง (ต่อ)
1. การฟังเฉพาะหน้าผู้ใหญ่ ผู้ฟังต้องสารวมกิริยาอาการ พยายามสบตากับ
ผู้พูดให้พอเหมาะ แต่ไม่ถึงกับจ้องหน้า ไม่ชิงพูดก่อนที่คู่สนทนาพูดจบความ
ถ้าฟังไม่เข้าใจ ควรถามเมื่อผู้พูดพูดจบแล้ว
2. การฟังในที่ประชุม จาเป็นต้องตั้งใจฟัง อาจจดความสาคัญไว้ ไม่ควรพูด
กระซิบกับคนที่อยู่ข้างเคียง ไม่ทากิจธุระส่วนตัวอย่างอื่น ไม่ควรพูดแซงขึ้น
ต้องฟังจนจบแล้วจึงให้สัญญาณขออนุญาตพูด เช่น ยกมือ
- 46. มารยาทในการฟัง (ต่อ)
3. การฟังในที่สาธารณะ เช่น ในโรงภาพยนตร์หรือโรงละคร หรือในที่ชุมนุมชน
ไม่ควรก่อความราคาญให้กับคนที่ฟังอยู่ ข้อควรระวังคือ
3.1 รักษาความสงบ ไม่พูดคุย ไม่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่กาลังดูหรือฟังอยู่
ไม่ส่งเสียงดัง เพราะจะรบกวนผู้อื่น
3.2 ไม่นาอาหารหรือวัตถุที่มีกลิ่นแรง หรือที่น่ารังเกียจเข้าไปในสถานที่นั้น
- 49. อุปสรรคและปัญหาในการฟัง (ต่อ)
1. สาเหตุจากผู้ฟัง สาเหตุจากผู้ฟังส่วนใหญ่เกิดมาการขาดความพร้อมของผู้ฟัง
และนิสัยการฟังที่ไม่ดี เช่น ทนฟังนานๆ ไม่ได้ ขาดสมาธิ เชื่อคนง่าย ไม่มีความรู้
เกี่ยวกับเรื่องที่ฟัง ขาดทักษะการจับใจความสาคัญ ไม่ชอบบันทึกข้อมูล มีปัญหา
สุขภาพ เป็นต้น ผู้ฟังที่ดีควรเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและนิสัยดังกล่าว และ
พยายามพัฒนาทักษะการฟังอยู่เสมอ อุปสรรคและปัญหาเหล่านี้ ผู้ฟังสามารถ
ปรับให้ดีขึ้นได้เพราะเกิดมาจากตัวผู้ฟังเอง
- 50. อุปสรรคและปัญหาในการฟัง (ต่อ)
2. สาเหตุจากผู้พูด ผู้พูดเป็นอีกฝ่ายหนึ่งที่มีส่วนสาคัญต่อกระบวนการฟังที่มี
ประสิทธิภาพ การฟังที่มีประสิทธิภาพนอกจากผู้ฟังจะต้องมีทักษะการฟังที่ดีแล้ว
ผู้พูดควรมีทักษะการพูดที่ดีด้วยเช่นกัน หากผู้พูดมีข้อบกพร่องเกี่ยวกับวิธีการพูด
การนาเสนอสาร หรือบุคลิกภาพอาจจะทาให้ผู้ฟังเข้าใจประเด็นผิด ไม่เชื่อถือ
และไม่สนใจฟังก็เป็นได้ สาเหตุจากผู้พูดพอสรุปได้ดังนี้
- 53. อุปสรรคและปัญหาในการฟัง (ต่อ)
3. สาเหตุจากสาร สาเหตุจากสารส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่ผู้ฟังไม่เข้าใจสาร
โดยเกิดได้จากหลายสาเหตุ พอสรุปสาเหตุจากสารคร่าวๆ เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
3.1 สาเหตุจากเนื้อหา ส่วนใหญ่แล้วปัญหาที่มาจากเนื้อหาของสาร
มักจะเกิดจากสารที่เข้าใจยาก สารที่มีความซับซ้อนและลึกซึ้งมาก หรือมีตาราง
แผนภูมิ กราฟที่เข้าใจยาก ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจทาให้ฟังไม่เข้าใจหรือเข้าใจสาร
ผิดก็ได้
- 54. อุปสรรคและปัญหาในการฟัง (ต่อ)
3.2 สาเหตุจากภาษา ภาษาที่ปรากฏในสารนั้นอาจทาให้เกิดปัญหา
ได้ โดยสารนั้นมีคาศัพท์เฉพาะมากเกินไป เป็นศัพท์ที่ไม่ได้ใช้อยู่ทั่วไป หรือใช้
ศัพท์ภาษาต่างประเทศมากเกินไปหรือบทกวีที่เข้าใจยากซึ่งอาจทาให้ผู้ฟังไม่
เข้าใจสาร เกิดความรู้สึกงุนงงก็เป็นได้
- 55. อุปสรรคและปัญหาในการฟัง (ต่อ)
4. สาเหตุจากสื่อ สื่อ คือ วิธีทางหรือช่องทางการนาเสนอสารของผู้ส่งสารไปยัง
ผู้รับสาร สื่อมีหลายประเภท เช่น สื่อที่เป็นบุคคล สื่ออิเล็กทรอนิกส์ สื่อทาง
ธรรมชาติ เป็นต้น หากสื่อเกิดขัดข้องหรือด้อยคุณภาพ เช่น ไมโครโฟนเสียงขาด
หายเป็นช่วงๆ หรือโทรทัศน์พร่ามัว สัญญาณไม่ดี หรือบุคคลที่ที่ฝากสารไปส่งต่อ
เข้าใจสารผิด ฯลฯ จะทาให้ผู้ฟังหรือผู้รับสารไม่เข้าใจสาร ส่งผลให้การสื่อสาร
ขาดประสิทธิภาพ