นิยาม Creative Economy และบริบทประเทศไทย

1. No big deal. Just 3 stories.

2. 1. Creative Economy : นิยาม ที่ยังไม่ลงตัว ในช่วง “ปฏิวัติอตสาหกรรม” หรือ “ปฏิวัติเทคโนโลยีสารสนเทศ” ก็คงไม่มีใครรู้ถึงปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จล้มเหลว High Risk. High Return หากรอให้ทุกอย่างสมบูรณ์พร้อม “ไทย” ย่อมพลาดโอกาสแห่งความมั่งคั่ง

3. เคล็ดลับ Creative Economy ในมุมมองของผม "Bad artists copy. Great artists steal." -- Pablo Picasso

5. “ ผมอยู่ตามลำพังในพิพิธภัณฑ์ที่มีบรรยากาศน่ากลัว แวดล้อมด้วยหน้ากากตุ๊กตาอินเดียนแดง และหุ่นกายวิภาคเปื้อนฝุ่น ที่จริงภาพ Les Demoiselles d'Avignon ซึ่งเป็นภาพเขียนแบบเอกซอร์ซิสม์ภาพแรกของผมนั้น ผมคิดออกตั้งนานแล้ว แต่มาติดอยู่ตรงรูปแบบ แต่เมื่อมาอยู่ในพิพิธภัณฑ์โทรคาเดโร มันเป็นที่ที่น่าขยะแขยง มันเต็มไปด้วยตัวเห็บและกลิ่นเหม็น ผมยืนอยู่ตามลำพังและอยากออกไปเสียให้พ้น แต่ไม่ ผมต้องอยู่และอยู่ต่อไป เพราะรู้ว่ามันสำคัญสำหรับผมมาก” สมการ Creative = ศิลปะไอบีเรียน + ศิลปะอียิปต์ + ปรัชญาที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

6. Picasso กับ Creative Society เขามาเรียนรู้ “ศิลปะ” อย่างยากไร้ในปารีส ได้รู้จักเพื่อนศิลปินมากหน้าหลายตา Matisse ( คู่แข่ง ) Braque ( คู่ขา ) และพ่อค้าศิลปะ

7. Creative Society คือ รากฐานของ Creative Economy “ รัฐบาล” ควรสร้างบรรยากาศที่ช่วยทำให้ Creative Conversation

8. นักสร้างสรรค์ จะได้เปิดโลกทัศน์อันหลากหลาย “หยิบยืม” ความคิดจาก Creative Society “ Creative individuals are embedded in informal networks of collaboration, expertise and influence.”

9. Informal เป็นเรื่องสำคัญ เพราะมนุษย์จะถอดหัวโขนของความเป็นศิลปิน ความเป็นนักธูรกิจ ความเป็นผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้าง Creative Conversation

10. รัฐบาล จัดหา Creative Space ซึ่งเป็นสถานที่อันรื่นรมย์ โดยมี “เจ้าหน้าที่สร้างสรรค์” (Creative Staff) เพื่อคอยพูดคุยกับผู้คนที่แวะมาเยี่ยมเยือน และเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงให้เกิด Creative Society เอกชน เปิดใจกว้าง (Open Mind) เพื่อเรียนรู้จากคนที่แตกต่าง และนำมาสร้าง Creative Product

11. “ ความรู้” สามารถค้นหาจาก Google และหนังสือ แต่ยุ่งยากเกินไป ไม่ซึมลึกเท่ากับ Creative Experience การได้พูดคุย ได้สัมผัส ได้เกิด Creative Dialogue จึงเป็นธรรมชาติและยั่งยืนกว่า Inspiration

12. 2. Management and Marketing Problem “ ผู้ประกอบการไทย” ขาดแนวคิดเชิงระบบและการจัดการที่ดี

13. Management and Creative Staff (Creative Space) Venture Capital ( เชื่อมั่น ) ผู้ประกอบการ ( วิสัยทัศน์ , ความสนุก , เวลาว่าง ) Creative Society เงิน ความเชื่อถือ (Trust)

14. Economics of Creative ทุกอย่างมี “ต้นทุน” การสร้าง Creative Society ไม่ใช่เรื่องง่าย ยังไม่นับว่าต้อง “หยิบยืม” ความรู้จากนานาประเทศ Creative Network

15. Creative Research วิจัยความต้องการลูกค้า ( สวย + ถูกใจ ) ภาพยนตร์เกาหลี จ้างคนไทยไปช่วยวิจัย เพื่อกลับมาขายคนไทย

17. International Thai Food ต้มยำกุ้ง + ผัดไทย = ฝรั่งชอบ

18. นโยบายรัฐบาล ( Thailand ) Creative Society ( ระยะยาว ) Vs Creative Business ( อัดเงิน )

19. SMEs ( นวัตกรรม ) Vs Large Entreprises ( การตลาด )

20. Psychology of Creative Customer ชอบความตื่นเต้น สดใหม่ (SMEs) แต่ก็ต้องการความเรียบง่าย น่าเชื่อถือ ไม่หลากหลายจนสับสน (Large Enterprises)

21. Starbucks ประสบการณ์สุนทรียะ ที่พบได้ทุกมุมเมือง ( ทำเล ) เอกลักษณ์โดดเด่น ไม่สับสน Vs. ความแตกต่างหลากหลายไม่ซ้ำแบบ

23. “ Found a starbysss yayy! God bless gps!!!”. “ helplessly and hopelessly wondering around ny trying to find a starbucks.”

24. Louis Vuitton สร้างสมดุลระหว่างความหรูหรา Vs ยอดขาย (Mass)

25. As he appears using one of their bags, the label is instantly associated with high-power, great thinkers, and everything classy. A high-class sector of powerful men, and those whose intent is to become one of them, will probably be attracted by Louis Vuitton, and they will more likely start using them. Because after all, for most great thinkers, Gorbachev is like the Kate Moss of politics.

26. 3. ความพร้อมของประเทศไทย “ กลับตัวก็ไม่ได้ ให้ เดินต่อไป ก็อาจจะถึง”

27. “ The trend is your Friend.” “ ญี่ปุ่น” ปิดประเทศมา 200 ปี แต่เมื่อฝรั่งบุกเข้ามา ไม่พร้อมก็ต้องพร้อม เราออกเดินทางช้าไปในคลื่นอุตสาหกรรม Creative Economy เราจะลังเลอีกไม่ได้

28. Creative is not Enough ประเทศไทย “เสียเปรียบ” ทั้งในเรื่องเทคโนโลยี อารยธรรมเก่าแก่ และความรู้ “ หยิบยืม” โดยการ แปล ให้เข้ากับบริบท “ความเป็นไทย” เติมเต็ม “ Comparative Advantage” เพื่อให้เหนือกว่า

29. Kamanita Model “ กามนิตยอดชายจะไปค้าขายที่โกสัมพี โชคและบุญหนุนนำมาเจอ สาวงามกำลังกวนหยี”

30. " ท่านโสมทัตต์ ท่านเข้าใจผิดถนัด ความรักของฉันจะเปรียบด้วยสีดอกไม้ไรๆ ไม่ได้ เพราะว่าฉันได้ยินกล่าวกันว่า ความรักที่แท้จริง ไม่ใช่สี แดง ย่อมมีสี ดำ ดั่งสีนิลเหมือนดั่งสีศอพระศิวะ เมื่อทรงดื่มพิษร้ายเพื่อรักษาโลกไว้ให้พ้นภัย ความรักแท้จริงต้องสามารถต้านทานพิษแห่งชีวิต และต้องเต็มใจยอมลิ้มรสที่ขมขื่นที่สุด เพื่อเสียสละให้ผู้ที่เรารักคงชีพอยู่ และเพราะความขมขื่นที่สุดนี้ ความรักย่อมเต็มใจเลือกเอาสีนิลคือความขมขื่นไว้ดีกว่าจะเลือกเอาสีอื่น คือมุ่งแต่จะหาความบันเทิงสุขอย่างเดียว

31. Creative Thailand ต้องขาย “ความรัก” ไม่ใช่ Sex “ เสน่ห์” ของสาวไทย ไม่ต้อง สูง จมูกโด่ง นมโตเหมือนฝรั่ง ขายความเป็น “ตัวเรา (Originality)” ที่ไม่มีชาติอื่นเลียนแบบ แต่ ความรัก ต้องรู้จัก “เรียนรู้” และ “ปรับตัว” ซึ่งกันและกัน Love Conversation Sexy เป็นตัวดึงดูดในช่วงแรก เพื่อสร้าง First Impression ทำอย่างไรให้ “ลูกค้า” รู้จักและประทับใจ Marketing

32. Thailand Advantage “ สนุกสนาน เบิกบาน มีน้ำใจ” ฝรั่งร่ำรวยจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม เพราะมีความเป็น “ ปัจเจกชน” เมื่อวัตถุได้รับการเติมเต็มแล้ว จึงโหยหาจิตใจ การเอาใจใส่

33. Green Travel เกาะกระแสโลกร้อน ลูกค้าไม่ได้ต้องการ Green แต่ต้องการ สุนทรียะ จาก Green สร้างสรรค์ Story Teller ประวัติศาสตร์ 76 จังหวัด โดยสนับสนุนนักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ฟื้นฟูเรื่องราวตำนานโบราณมาเล่าใหม่ (Pai Model) Eco Luxury Travel ใส่ความหรูหราให้ธรรมชาติและสถานที่ประวัติศาสตร์

34. สรุป www.siamintelligence.com

35. “ Creative Economy = Journey to love” One More Thing