SlideShare a Scribd company logo
1 of 9
Library 2.0 บทบาทใหม่ ของห้ องสมุดในยุคเว็บ 2.0

                                                                                  ศตพล ยศกรกุล
บทนา

          ห้องสมุดดำเนิ นกำรไปโดยผ่ำนกำรเปลี่ ยนแปลงทำงเทคโนโลยีเป็ นอย่ำงมำกในช่ วงนับ
พันปี ก่อนถึงศตวรรษที่ 21 กำรเปลี่ ยนแปลงด้ำนเทคโนโลยีโดยเฉพำะอย่ำงยิ่งเทคโนโลยีเว็บ ได้
ส่ งผลกระทบต่อห้องสมุดทั้งทำงตรงและทำงอ้อม กำรใช้เว็บไซต์เพื่อกำรให้บริ กำรผูใช้และสื่ อสำร
                                                                                  ้
ประชำสัมพันธ์ห้องสมุดออกสู่ สำธำรณชนเป็ นเครื่ องมือที่ช่วยอำนวยควำมสะดวกได้เป็ นอย่ำงดี
แต่ก็สำมำรถทำได้ตำมเทคโนโลยีเว็บที่มีอยู่ เมื่อเว็บ 2.0 ซึ่ งเป็ นแนวคิดของ Tim O'Reilly เข้ำมำมี
บทบำทในวงกำรต่ำง ๆ มำกขึ้น ห้องสมุดคงหลี กเลี่ยงไม่พนที่จะหันมำมองเว็บ 2.0 ว่ำจะประยุกต์
                                                             ้
                        ั
เครื่ องมือใดมำปรับใช้กบกิจกรรมของห้องสมุดได้บำง ทั้งในส่ วนที่เป็ นผูปฏิบติงำนและในส่ วนที่
                                                    ้                     ้ ั
อำนวยช่องทำงให้ผใช้เข้ำมำร่ วมกิจกรรมกับห้องสมุด ทั้งนี้ เพื่อเป็ นแนวทำงแก่ห้องสมุดที่สนใจนำ
                   ู้
แนวคิด Library 2.0 สู่ กำรปฏิบติ บทควำมนี้ กล่ำวถึงที่มำของ Library 2.0 เว็บ 2.0 บทบำทและ
                              ั
ผลกระทบของห้องสมุด กำรประยุกต์ใช้เครื่ องมือเว็บ 2.0 และควำมเป็ นไปได้ในบริ บทของไทย

ทีมาของ Library 2.0
      ่
           แนวคิด Library 2.0 เป็ นแนวคิดที่ได้รับกำรเผยแพร่ โดย Michael Casey ในเดือนกันยำยน
ปี ค.ศ. 2005 ซึ่ งในปั จจุบนเป็ นแนวคิดที่วงกำรบรรณำรักษ์และห้องสมุดให้ควำมสนใจเป็ นอย่ำง
                            ั
มำก (Miller , 2005) ปั จจัยที่เกี่ยวข้องและมีอิทธิ พลกับควำมเปลี่ยนแปลงบทบำทใหม่ของห้องสมุด
คือ เว็บ 2.0 เศรษฐศำสตร์ หำงแถวหรื อกลยุทธ์หำงยำว (The Long Tail) และSocial Capital
ควำมก้ำวหน้ำของเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่ อสำรและควำมต้องกำรที่เปลี่ยนไปของผูใช้เป็ น     ้
สิ่ งที่วงกำรห้องสมุดนำมำประยุกต์ใช้ในกำรพัฒนำวิธีกำรให้บริ กำรและกำรสื่ อสำรกับผูใช้บริ กำร
                                                                                      ้
เพือสนองตอบควำมต้องกำรที่แท้จริ ง(Crawford , 2006)
        ่
           กำรเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมกำรใช้งำนในยุคหลังๆ เริ่ มมีเพิ่มมำกขึ้น โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งยุค
หลังปี 2003 เป็ นต้นมำที่เทคโนโลยีเว็บ 2.0 เริ่ มแพร่ หลำย กำรเรี ยนรู ้ของผูใช้อินเทอร์ เน็ตเริ่ ม
                                                                             ้
เปลี่ยนแปลง จำกกำรเรี ยนรู้แบบรับเป็ นแบบรุ ก จำกกำรเรี ยนรู ้แบบแยกส่ วนเป็ นร่ วมมือกันเรี ยนรู ้
จำกกำรรับข้อมูลจำกศูนย์กลำงเป็ นรับข้อมูลจำกหลำกหลำยแหล่ง จำกกำรจำกัดบทบำทตนเป็ น
ผูรับควำมรู้ มำเป็ นกำรเป็ นทั้งผูรับและผูให้ในเวลำเดียวกัน
    ้                              ้      ้
2

         ก่อนที่จะเรี ยนรู ้ เกี่ ยวกับ Library 2.0 ควรทำควำมเข้ำใจเกี่ ยวกับแก่นของเว็บ 2.0 และ
หลักกำรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคำนิยำมของเว็บ 2.0 มีมำกมำยพอๆ กับ Library 2.0 ที่เป็ นเช่นนี้ เพรำะบ้ำงก็
ให้ควำมสำคัญกับที่มำของคำ เช่น ใน “What is Web 2.0: Design Patterns and Business Models for
the Next Generation of Software” ของ Tim O’Reilly (2005) กล่ำวว่ำเว็บ 2.0 เกิดขึ้นจำกกำรที่
บริ ษทอินเทอร์ เน็ตและวงกำรทำงธุ รกิ จต้องกำรประสบควำมสำเร็ จมำกขึ้นจึงสร้ ำงควำมต่ำงจำก
       ั
บริ ษทอื่นๆ เกิ ดเป็ นแนวคิด รู ปแบบและเทคโนโลยีต่ำงๆ ก่อให้เกิดเป็ นเว็บ 2.0 และเป็ นคำจำกัด
     ั
ควำมของ เว็บ 2.0 แท้ที่จริ งแล้ว บริ ษทต่ำงๆ กล่ำวว่ำเว็บ 2.0 เป็ นตัวนำธุ รกิ จเข้ำสู่ ระบบเว็บ
                                              ั
ในช่วงหนึ่ งผูพฒนำซอฟท์แวร์ ถูกจำกัดทำงควำมคิดในกำรพัฒนำโปรแกรมพื้นฐำน อย่ำงไรก็ตำม
               ้ ั
เทคโนโลยีเว็บ และรู ป แบบทำงธุ รกิ จใหม่ ๆ ส่ ง ผลต่ อกำรพัฒนำโปรแกรมที่ ส ำมำรถใช้ใ นเว็บ
บรำวเซอร์ และนำมำใช้ในหลักกำรของเว็บ ควำมต่ำงจำกของเดิมคือมีทำงเลือกที่มำกขึ้น O’Reilly
อธิ บำยถึ งสองหลักใหญ่ๆ ที่ต่ำงกัน คือ หนึ่ งจุดสิ้ นสุ ดของซอฟท์แวร์ เป็ นวัฏจักรและซอฟท์แวร์ มี
ควำมสำมำรถมำกกว่ำหนึ่งประกำร

เว็บ 2.0 คืออะไร
          เว็บ 2.0 เป็ นคำที่เป็ นที่พดถึงในหลำกหลำยวงกำรอย่ำงต่อเนื่อง และมีประเด็นคำถำมกันอยู่
                                      ู
บำงกลุ่มมองว่ำ เว็บ 2.0 เป็ นเพียงแค่แฟชันไม่มีสำระสำคัญต่อวงกำรอินเทอร์ เน็ต อีกกลุ่มมองว่ำ
                                                ่
เป็ นคำที่ถูกคิ ดขึ้นมำเพื่อใช้แทนคำอธิ บำยถึ งลักษณะของเทคโลยี World Wide Web และกำร
ออกแบบเว็บไซต์ใ นปั จจุ บ นที่ มี ล ักษณะส่ ง เสริ มให้เกิ ดกำรแบ่ งปั นข้อมูล และกำรสร้ ำงข้อมูล
                                  ั
ร่ วมกันในโลกของอินเทอร์ เน็ต เมื่อมองโดยรวมแล้ว แนวคิดเหล่ำนี้ กำลังนำไปสู่ กำรพัฒนำและ
กำรปฏิวติรูปแบบเทคโนโลยีที่นำไปสู่ Web Service ต่ำงๆ นันเอง นอกจำกนี้ ยงมีคนบำงกลุ่มมอง
           ั                                                    ่                  ั
ว่ำ จริ งๆ แล้ว เว็บ 2.0 คำนี้ ไม่ได้พูดถึงเรื่ องเทคโนโลยีเลยแต่เป็ นเพียงคำหนึ่ งที่ถูกหยิบยกขึ้นมำ
เพื่อใช้แทนยุคสมัยที่เปลี่ยนไปของโลกอินเทอร์ เน็ตในปั จจุบนคล้ำยๆ จำกยุคที่ 1 สู่ ยุคที่ 2 มำกกว่ำ
                                                              ั
                         ่
แต่อย่ำงไรก็ตำม แม้วำจะมีกำรให้ควำมหมำยหรื อคำจำกัดควำมที่แตกต่ำงกันออกไป แต่เมื่อศึกษำ
ถึงรำยละเอียดโดยรวมแล้ว ส่ วนใหญ่จะนำเสนอแนวคิดและคุณลักษณะของเว็บ 2.0 ออกมำใน
ทิศทำงเดียวกัน
3

           พัฒนาการของเว็บ
           เริ่ มต้นจำกยุคเว็บ 1.0 เป็ นเว็บในรู ปแบบ Static web เป็ นกำรผลิ ตเนื้ อหำต่ำงๆ จะมำจำก
เจ้ำของเว็บไซต์เท่ำนั้น ผูตองกำรข้อมูลก็เข้ำไปอ่ำนจำกเว็บไซต์หรื อค้นหำผ่ำน search engine เป็ น
                               ้้
ส่ วนใหญ่ ด้วยเหตุน้ ีเองทำให้กำรติดต่อสื่ อสำรระหว่ำงผูอ่ำนกับเจ้ำของเว็บไซต์หรื อผูพฒนำเนื้ อหำ
                                                             ้                           ้ ั
เป็ นไปในลักษณะทำงเดียว ไม่สำมำรถโต้ตอบหรื อแสดงควำมคิดเห็ นได้ สำเหตุส่วนหนึ่ งมำจำก
เว็บ 1.0 ยังเป็ นยุคแรกๆ ที่คนส่ วนใหญ่เพิ่งเริ่ มรู ้จกอินเทอร์ เน็ตทำให้กำรใช้งำนยังไม่หลำกหลำย
                                                       ั
มำกนัก ดังนั้นกำรใช้งำนส่ วนใหญ่จะเป็ นในลักษณะของกำรรับส่ งข่ำวสำรผ่ำนอีเมล์ กำรพูดคุย
โต้ตอบแบบออนไลน์ผ่ำนโปรแกรมต่ำงๆ กำรดำวน์โหลดเพลงและภำพต่ำงๆ จำกเว็บไซต์ที่
ให้บริ กำร แต่ก็ยงมีแนวโน้มกำรพัฒนำรู ปแบบบริ กำรให้กบผูใช้งำนได้ติดต่อสื่ อสำรกันมำกขึ้น ดัง
                       ั                                         ั ้
จะเห็นได้จำกควำมพยำยำมที่จะสร้ำงชุ มชนออนไลน์เพื่อให้เกิ ดกำรติดต่อสื่ อสำรระหว่ำงเจ้ำของ
เว็บไซต์และผูเ้ ข้ำชมมำกขึ้น โดยจะเห็นได้จำกหลำยเว็บไซต์เริ่ มมีกำรนำกระดำนข่ำว (webboard)
มำให้ผอ่ำนหรื อผูเ้ ข้ำชมเว็บไซต์ได้แสดงควำมคิดเห็นต่ำงๆ และแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่ งกันและกัน แต่
        ู้
ระบบของกระดำนข่ำวอำจจะยังไม่เอื้อในเรื่ องของกำรเก็บข้อมูลที่เป็ นประโยชน์ไว้เพื่อให้ผใช้คน   ู้
อื่นสำมำรถกลับเข้ำมำอ่ำนได้อีก หรื อบำงครั้งกำรจัดเก็บข้อมูลยังไม่มีกำรจัดเป็ นหมวดหมู่อย่ำง
เป็ นระบบเพื่อให้ง่ำยต่อกำรสื บค้น รวมถึ งผูใช้งำนเป็ นผูอ่ำนได้เพียงฝ่ ำยเดี ยว ยังไม่สำมำรถเพิ่ม
                                                    ้          ้
เนื้ อหำหรื อโต้ตอบกันได้มำกนัก นับได้ว่ำเป็ นข้อจำกัดที่พบในกำรใช้งำนเว็บไซต์ยุคเว็บ 1.0 ที่
ส่ ง ผลให้มี พ ฒนำคิ ด ค้นเว็บ ไซต์ใ ห้ อำนวยควำมสะดวกต่ อผูใ ช้ง ำนได้ม ำกขึ้ น จึ ง กลำยมำเป็ น
                   ั                                                 ้
เว็บไซต์ยคเว็บ 2.0 ในเวลำต่อมำ
            ุ
           ปั จจุบนได้กำวสู่ ยุคเว็บ 2.0 โดยเน้นสนับสนุนให้มีกำรแบ่งปั นควำมรู ้ ควำมคิดเห็น และ
                     ั       ้
แลกเปลี่ยนประสบกำรณ์ซ่ ึ งกันและกันมำกกว่ำจะเป็ นเพียงกำรเสนอเนื้ อหำผ่ำนเว็บไซต์ ซึ่ งเจ้ำของ
เว็บไซต์ในปั จจุบนอำจเป็ นเพียงใครก็ได้ที่ตองกำรเข้ำมำเปิ ดเว็บไซต์ไว้แล้วเชิ ญชวนให้คนทัวไป
                         ั                        ้                                              ่
เข้ำมำมี ส่วนร่ วมในกำรสร้ ำงเนื้ อหำและนำเสนอข้อมูลผ่ำนเว็บไซต์ของตนเอง รวมถึงกำรเป็ น
                                                           ่
ศูนย์กลำงในกำรแลกเปลี่ยนไฟล์ในรู ปแบบต่ำงๆ ไม่วำจะเป็ นรู ปภำพ วิดีโอ เพลง ผ่ำนเครื อข่ำย
ออนไลน์ตลอด 24 ชัวโมง เกิดเป็ นชุ มชนหรื อเครื อข่ำยสังคมออนไลน์ (Social Network) เพื่อควำม
                           ่
เข้ำใจของผูอ่ำนและเห็นภำพชัดเจนขึ้น ขอนำเสนอข้อมูลส่ วนหนึ่ งที่ Tim O’Reilly ได้ยกตัวอย่ำง
                 ้
เว็บไซต์เพื่อเปรี ยบเทียบพัฒนำกำรของเว็บ 1.0 และ เว็บ 2.0
4

                          Web 1.0                                     Web 2.0
                       DoubleClick                -->             Google AdSense
                           Ofoto                  -->                   Flickr
                          Akamai                  -->                BitTorrent
                         mp3.com                  -->                  Napster
                     Britannica Online            -->                 Wikipedia
                     personal websites            -->                 blogging
                            evite                 -->         upcoming.org and EVDB
                 domain name speculation          -->        search engine optimization
                        page views                -->               cost per click
                      screen scraping             -->               web services
                         publishing               -->               participation
               content management systems         -->                   wikis
                  directories (taxonomy)          -->          tagging ("folksonomy")
                         stickiness               -->                syndication
                    แผนภาพแสดงการเปรียบเทียบพัฒนาการของเว็บ 1.0 และ เว็บ 2.0
(ที่มำ : Tim O’Reilly, What Is Web 2.0: Design Patterns and Business Models for the Next Generation of
Software, http://www.oreillynet.com/pub/a/oreilly/tim/news/2005/09/30/what-is-web-20.html)
           คุณลักษณะของเว็บ 2.0
           เว็บ 2.0 มีคุณลักษณะที่มีควำมโดดเด่น คือ ผูใช้สำมำรถเข้ำมำจัดกำรเนื้ อหำบนหน้ำเว็บได้
                                                      ้
และสำมำรถแบ่งปั นเนื้ อหำที่ผำนกำรจัดกำรให้กบกลุ่มคนในโลกออนไลน์ได้ซ่ ึ งสิ่ งที่เกิดขึ้นถือว่ำ
                                 ่                 ั
เป็ นปรำกฏกำรณ์ อย่ำงหนึ่ งของสังคมออนไลน์สังคมออนไลน์เกิ ดควำมเป็ นรู ปเป็ นร่ ำงมำกยิ่งขึ้น
เกิดกิจกรรมบนนั้นมำกขึ้น ลักษณะเนื้ อหำมีกำรแบ่งส่ วนบนหน้ำเพจ เปลี่ยนจำกข้อมูลก้อนใหญ่
มำเป็ นก้อนเล็ก เนื้ อหำจะมีกำรจัดเรี ยงจัดกลุ่มมำกขึ้นไปกว่ำเดิม กำรพัฒนำและสร้ำงโมเดลทำง
ธุ รกิจที่หลำกหลำยมำกยิงขึ้นและทำให้ธุรกิจเว็บไซต์กลำยเป็ นธุ รกิจที่มีมูลค่ำมหำศำล กำรบริ กำร
                            ่
คือ เว็บที่มีลกษณะเด่นในกำรให้บริ กำรหลำย ๆ เว็บไซต์ที่มีแนวทำงเดียวกัน
               ั
           สุ ภำพร ชัยธัมมะปกรณ์ (2551) กล่ำวว่ำเว็บ 2.0 มีเครื่ องมือที่ เกิ ดขึ้นมำใช้ผ่ำนเว็บที่
สำมำรถให้คนกลุ่มใหญ่ที่ออนไลน์อยู่บนอินเทอร์ เน็ ตเข้ำมำร่ วมกิ จกรรมกันได้ทีละมำก ๆ และ
ไม่ได้เพียงผูใช้ท่ีเข้ำมำอ่ำนแล้วหรื อเข้ำมำใช้ขอมูลแล้วก็ออกไป แต่คนกลุ่มใหญ่น้ นมีบทบำทใน
                 ้                               ้                                  ั
กำรร่ วมกันทำงำน ร่ วมกันเขียน ร่ วมกันแบ่งปั นควำมคิด ควำมรู ้ออกสู่ โลกกว้ำงด้วยจิตสำธำรณะ
เขียนเรื่ อง ๆ หนึ่ งผ่ำน Wikipedia อีกคนหนึ่ งสำมำรถจะเข้ำไปเพิ่มเติมข้อมูลที่ตนทรำบ หรื อแก้ไข
ให้ถูกต้องจำกเดิมได้ เกิดเป็ นชุมชนออนไลน์ที่ส่งผ่ำนควำมรู ้ลงในสำรำนุกรมออนไลน์ โดยไม่ตอง     ้
รอสำนักพิมพ์ออกสำรำนุกรมมำให้อ่ำน ซึ่ งใช้เวลำนำนพอสมควร หรื อกำรใช้โปรแกรม Flickr ส่ ง
5

รู ปขึ้นไปบนเน็ตเพื่อแบ่งปั นในชุ มชนออนไลน์ได้ดูหรื อดึงไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นได้ และกำรให้
ผูคนเขียน Blog เพื่อกำรสื่ อสำรระหว่ำงเพื่อนร่ วมงำนในองค์กร หรื อเพื่อเป็ นกำรบันทึกเรื่ องรำวที่
   ้
ได้พบเห็น เปรี ยบเสมือนเป็ นไดอำรี่ ออนไลน์ เป็ นไดอำรี่ เป็ นเปิ ดเผยให้คนภำยนอกได้รับรู้ เป็ น
กำรใช้ประโยชน์จำกกำรดึ ง เอำควำมรู้ ควำมคิดเห็ นของผูคนที่ ต้องกำรเขียนออกมำ และก็ อำจ
                                                            ้
ประมวลสิ่ งเหล่ำนี้ ออกมำเป็ นควำมรู ้ ได้ เท่ำกับว่ำ สำมำรถดึ งควำมรู ้ ที่อยู่ในตัวตนออกมำได้โดย
ผ่ำน Blog ได้ดวยวิธีหนึ่ง
              ้

บทบาทและผลกระทบของห้ องสมุด
                Wellman and Haythornwaite (2002) ศึกษำพบว่ำ วัฒนธรรมที่เปลี่ยนไปรวมถึงพฤติกรรม
และนิ สัย ใน“อิ นเทอร์ เน็ ตกับชี วิตประจำวัน”กำรศึ กษำในอันดับต้นๆได้แสดงให้เห็ นว่ำกำรใช้
อิ น เตอร์ เ นตเป็ นสิ่ ง จ ำเป็ นในชี วิ ต เนื่ อ งจำกรู ป แบบเว็บ 2.0 มี ล ัก ษณะที่ เ ข้ำ กับ สั ง คมและเป็ น
หลักกำรพื้นฐำน จึงมีผลครอบคลุมถึงรู ปแบบกำรใช้ชีวิต กำรทำงำน กำรติดต่อสื่ อสำร และสังคม
ของผูใช้ จำกที่กล่ำวมำถือเป็ นประเด็นสำคัญที่ตองคำนึงถึง
              ้                                           ้
                Michael (2006) กล่ ำ วว่ำ ปั จจุ บ นบรรณำรั ก ษ์มี ค วำมพยำยำมท ำควำมคุ ้น เคยกับ Web
                                                     ั
Services รู ป แบบใหม่ ซ่ ึ งมี ค วำมคล้ำ ยกับ ห้องสมุ ดที่ เชื่ อมข้อมู ล และผูใช้ไ ว้ด้วยกันในขณะที่
                                                                                    ้
ผูเ้ ชี่ ยวชำญบำงกลุ่มได้กล่ำวว่ำบทบำทของ Web Services จะทำให้ควำมสำคัญของบรรณำรักษ์
หำยไป ซึ่ งเป็ นที่รู้จกกันดีในนำมเว็บ 2.0 กำรนำเสนอรู ปแบบและวิธีกำรใหม่ๆ รวมถึงเทคโนโลยีที่
                         ั
ช่ ว ยพัฒ นำกำรบริ ก ำรห้ อ งสมุ ด ยิ่ ง ไปกว่ ำ นั้น ผู ้ใ ช้ ส ำมำรถใช้ บ ริ ก ำรได้อ ย่ ำ งกว้ำ งขวำงด้ว ย
วัฒ นธรรมที่ เ ปลี่ ย นไปส่ ง ผลต่ อ พฤติ ก รรมกำรสื บ ค้น สำรสนเทศของผู ้ใ ช้ , รู ป แบบกำร
ติดต่อสื่ อสำรและควำมคำดหวัง ก่อให้เกิด Library 2.0 ซึ่งได้นำมำใช้ในวงกำรห้องสมุดและวงกำร
บรรณำรักษ์
                จำกผลกระทบดั ง กล่ ำ วส่ ง ผลต่ อ บทบำทของห้ อ งสมุ ด และบรรณำรั ก ษ์ กล่ ำ วคื อ
บรรณำรักษ์ตองปรับรู ปแบบกำรให้บริ กำร เพิ่มช่ องทำงกำรสื่ อสำรด้วยระบบเว็บ 2.0 ปรับระบบ
                    ้
เว็บไซต์ให้สำมำรถเพิ่มคำค้นและค้นคืนด้วย tag และ folksonomy สร้ำงเวทีกำรแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้
กับผูใช้เกิ ดเป็ น Community on-line library ที่สำคัญช่วยให้ห้องสมุดมี Local contents เป็ นของ
          ้
                                                                                           ่ ู้
องค์กรช่วยต่อยอดกำรเรี ยนรู ้และควำมคิด หัวใจของกำรเป็ น Library 2.0 อยูที่ผใช้เป็ นศูนย์กลำง
และทรัพยำกรควำมรู้ที่ห้องสมุดมีและจัด ให้บริ กำร โดย มีผูใช้ที่เข้ำมำมีบทบำทกับกิ จกรรมของ
                                                                      ้
ห้องสมุดมำกขึ้น ผูใช้เป็ นตัวกลำงที่ทำให้เกิ ดกำรเปลี่ ยนแปลง ทั้งทำงกำยภำพและกำรให้บริ กำร
                           ้
ของห้องสมุดตำมที่ผูใช้ตองกำร แนวทำงกำรทำงำนห้องสมุดเปลี่ ยนไป เน้นควำมสำคัญของ
                             ้ ้
มำตรฐำนและเกณฑ์กำรจัดกำรควำมรู ้ เน้นให้คนทัวไปเข้ำใจและสำมำรถนำไปใช้ได้ง่ำย ซึ่ งปั จจัย
                                                             ่
ที่สนับสนุนคงเป็ นกำรสร้ำงเครื อข่ำยควำมร่ วมมือ บรรณำรักษ์ บุคลำกร ผูใช้และกำรสนับสนุ น ้
จำกผูบริ หำร้
6

การประยุกต์ ใช้ เครื่ องมือเว็บ 2.0 กับงานห้ องสมุด

บุญเลิศ อรุ ณพิบูลย์(2551) แนะนำ 10 วิธีเริ่ มต้นกับ Web 2.0ซึ่ งโปรแกรมต่ำง ๆ ที่ Web 2.0 เอื้อให้
ทำงำนได้ ดังนี้

    1.    สร้ำงสรรค์แบ่งปั นควำมรู ้ดวย Wiki
                                     ้
    2.    งำนเขียนส่ วนตัว บันทึกส่ วนตัว เว็บไซต์ส่วนตัว ด้วย Blog
    3.    บันทึกเว็บไซต์โปรดด้วย Social Bookmarking
    4.    อ่ำนข่ำวทุกวันได้ดวย RSS Feeds, NewsReaders
                             ้
    5.    แบ่งปั นกันดูภำพด้วย Flickr
    6.    แบ่งปั นสไลด์ดวย Slideshare
                         ้
    7.    แบ่งปั น Video ด้วย Youtube
    8.    เอกสำรสำนักงำนออนไลน์ดวย Google Docs
                                       ้
    9.    พัฒนำเว็บไซต์ดวย Dynamic Content Management System (Joomal, Drupal)
                           ้
    10.   Internet Telephony / VOIP (Skype, MSN, ICQ)

           เว็บ 2.0 พัฒนำขึ้นเพื่ออำนวยควำมสะดวกแก่ผใช้บนโลกไซเบอร์ ซึ่งห้องสมุดสำมำรถ
                                                        ู้
นำมำประยุกต์ใช้ได้ตำมควำมเหมำะสมกับบริ บทของห้องสมุดแต่ละแห่ง
ดังตัวอย่ำงกำรประยุกต์ใช้เครื่ องมือเว็บ 2.0 กับงำนห้องสมุด ดังนี้
           Blog
           Blog หรื อ Weblog ปั จจุบนได้รับควำมนิ ยมและเป็ นที่รู้จกกันดีในโลกของชำวไซเบอร์ ซึ่ ง
                                       ั                           ั
ปฏิ วติ รูป แบบของกำรเขี ย นไดอำรี แ บบเดิ ม ให้อยู่ใ นรู ป แบบไดอำรี อ อนไลน์ แ ละเป็ นอี ก หนึ่ ง
       ั
เครื่ องมือที่ นำมำประยุกต์ใช้ในกำรจัดกำรควำมรู ้ เป็ นกำรดึ งควำมรู ้ ที่อยู่ในตัวคนออกมำจำกกำร
บันทึกเรื่ องรำว บอกเล่ำผ่ำน Blog
           ห้องสมุดสำมำรถประยุกต์ใช้ Blog เป็ นช่ องทำงกำรสื่ อสำรกับผูใช้ โดยมีกำรกำหนด tag
                                                                              ้
เพื่อเป็ นตัวแทนของสิ่ งที่เขียน เรื่ องที่ถ่ำยทอดออกมำให้ได้อ่ำน เกิดเป็ น folksonomy ซึ่ งจะต่ำงจำก
taxonomy ที่เป็ นคำที่บรรณำรักษ์จะคุ นเคยมำกกว่ำ ห้องสมุดสำมำรใช้ Blog เพื่อประชำสัมพันธ์
                                            ้
กิจกรรมห้องสมุด, กิจกรรมส่ งเสริ มกำรอ่ำน ,สร้ำงชุมชนผูใช้และส่ งเสริ มชุมชนผูใช้
                                                            ้                       ้
7

            Wiki
            Wiki หรื อ วิกิ คงเป็ นที่คุนเคยกันใน ชื่ อ วิกิพีเดียซึ่ งมีชื่อเสี ยงโด่งดังในวงกำรอินเทอร์ เน็ต
                                        ้
แท้ที่จริ งแล้ว วิกิ คือ เว็บไซต์ที่อนุญำตให้ผใช้ เพิ่มและแก้ไขเนื้ อหำได้โดยง่ำย เหมือนกับกำรเขียน
                                                ู้
บทควำมร่ วมกัน คำว่ำ "วิกิ" นี้ ยังหมำยถึงซอฟต์แวร์ ที่ใช้เพื่อสร้ำงเว็บไซต์อีกด้วย
            หน่ วยงำนต่ำงๆ มี กำรนำ Wiki มำประยุกต์ใช้ในกำรจัดกำรควำมรู้ ขององค์กร ซึ่ งเป็ น
แนวทำงที่ น่ำสนในมำก ด้วยควำมสำมำรถของซอฟท์แวร์ ที่หลำกหลำย ห้องสมุ ดสำมำรถนำมำ
ประยุกต์ใช้เพื่อให้บริ กำรทำงวิชำกำร สร้ ำงชุ มชนทำงวิชำกำรออนไลน์ ส่ งเสริ มกำรแลกเปลี่ ยน
เรี ยนรู ้ สร้ำงสรรค์แบ่งปั นกันระหว่ำงผูใช้ดวยกันเอง เกิดเป็ น “สำรำนุกรมต่อยอด”
                                            ้ ้
            Social Bookmarking
            Social Bookmarking จะเป็ นเครื่ องมือสำหรับเป็ นแหล่งรวมสำรสนเทศ รวมแหล่งเว็บไซต์
ตำมหัวข้อเรื่ อง เพื่อประโยชน์ในกำรนำไปใช้ภำยหลัง หรื อเป็ นรำยกำรอ่ำนประกอบกำรศึ กษำ
เนื่องด้วยศักยภำพของ Social Bookmarking นั้นเป็ นเครื่ องมือช่วยในกำรจัดเก็บหรื อบันทึกเว็บไซต์
ที่ ใช้บ่ อย หรื อเว็บไซต์ยอดนิ ยม เพื่อสำมำรถเรี ย กใช้ไ ด้โดยไม่จำเป็ นต้องเก็ บหรื อบันทึ ก ไว้ใ น
คอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังสำมำรถแบ่งปั นให้คนบนเน็ตใช้ร่วมกันได้อีกด้วย
            ประโยชน์อย่ำงหนึ่ งที่ห้องสมุดไม่ควรพลำดในกำรนำ Social Bookmarking มำใช้ใน ก็คือ
กำรทำเป็ นแหล่งรวมเว็บไซต์ตำมหัวข้อ หรื อ Subject Guides หรื อเป็ น Reading Lists เพื่อกำรเรี ยน
กำรสอนในวิชำใดวิชำหนึ่ง ผ่ำน delicious.com
            Media sharing
            Media sharing ด้วยควำมสำมำรถของควำมเป็ น media ที่มีท้ งภำพ เสี ยง วิดีทศน์ จึงเหมำะ
                                                                                  ั              ั
ที่ถูกนำมำใช้เพื่อเป็ นเครื่ องมือในกำรฝึ กอบรม กำรประชำสัมพันธ์ กำรตลำด กำรสอน กำรจัดกำร
สื่ ออิเล็กทรอนิกส์ นิทรรศกำรออนไลน์ รวมทั้งเพื่อประโยชน์ในกำรนำชม
                                                   ่
            ห้องสมุดใช้ประโยชน์ของช่องทำงนี้ ผำนโปรแกรม Flickr เพื่อนำชมหรื อแนะนำห้องสมุด
ตั้งแต่สภำพภำยนอก แต่ละห้อง แต่ละ collection
            IM (Instant Messenger)
            เครื่ องมือที่ได้รับควำมนิ ยม ช่วยในกำรสื่ อสำรกับผูใช้ บรรณำรักษ์นิยมใช้ซ่ ึ งรู ปแบบเดิม
                                                                       ้
เรำจะเห็นได้ที่เว็บไซต์ห้องสมุดในเมนู Ask a librarian ปั จจุบนมี ซอฟท์แวร์ ที่ช่วยบริ กำรตอบ
                                                                              ั
คำถำมและช่ วยค้นคว้ำ บริ กำรสอนกำรใช้ห้องสมุด แบบ Real-Time เช่ น Skype ซึ่ งสำมำรถ
ให้บริ กำรได้ท้ งข้อควำม ภำพและเสี ยง ตลอดจนภำพเคลื่อนไหว
                    ั
            นอกจำกตัวอย่ำงดังกล่ำวแล้วยังมีรูปแบบกำรประยุกต์ใช้เครื่ องมือเว็บ 2.0 ในงำนห้องสมุด
ยังมีอีกมำกมำย เช่น RSS and Newsreaders , Podcasting, Mashups เป็ นต้น
8

                                                                             ่
          จำกกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 กับงำนห้องสมุด กล่ำวได้วำ แนวคิด Library 2.0
หรื อ ห้องสมุด 2.0 เป็ นกำรนำเครื่ องมือเว็บ 2.0 กับ กำรบริ หำรจัดกำรห้องสมุดรวมเข้ำด้วยกันอย่ำง
ลงตัว ด้วยกำร Mashups ซึ่งห้องสมุดได้จดเตรี ยมบริ กำรที่หลำกหลำยในแบบบูรณำกำร รวมอยูใน
                                            ั                                                   ่
เว็บไซต์ เช่น IM, RSS feeds, blogs, wikis, tags เป็ นต้น ห้องสมุหดไม่เพียงแต่เป็ นที่ที่ให้บริ กำร
สื บ ค้น ทรั พ ยำกรสำรสนเทศเท่ ำ นั้น หำกแต่ เ ป็ นชุ ม ชนออนไลน์ ซ่ ึ งผู ้ใ ช้ แ ละ บรรณำรั ก ษ์ มี
ปฏิสัมพันธ์ซ่ ึ งกันและกัน มีกำรแลกเปลี่ยนข้อมูล ควำมรู ้ระหว่ำงกันซึ่ งเป็ นรู ปแบบที่เปลี่ยนแปลง
ไปจำกห้องสมุดแบบเดิมยึดผูใช้เป็ นศูนย์กลำง สร้ำงวัฒนธรรมกำรแลกเปลี่ยนกันระหว่ำง เกิดเป็ น
                              ้
เครื อข่ำยและชุ มชนออนไลน์ ( Social Network )ทำให้เกิดกำรต่อยอดควำมรู ้และควำมคิด นำไปสู่
กำรปฏิบติจริ ง และนำมำซึ่ งองค์ควำมรู้ จริ ง โดยอำศัย เว็บเป็ น Platform ทำให้เกิ ดปฏิ สัมพันธ์ใน
          ั
หลำกบริ บท โดยกำรสร้ำงองค์ควำมรู ้ใหม่ ปฏิบติให้รู้แจ้งเห็นจริ ง อีกวิธีหนึ่งในกำรใช้องค์ควำมรู้
                                                  ั
ก็คือ กำรแบ่งปั นกัน




                       ---------------------------------------------------------------
9

                                            บรรณานุกรม
ทวีศกดิ์ กออนันตกูล.(2551). บทบาทห้ องสมุดในยุค Web 2.0ค้นข้อมูลวันที่ 1 กุมภำพันธ์ 2555
     ั
         จำก http://www.stks.or.th/web/index.php?option=com_docman&task=
         doc_download&gid=190&Itemid=31
บุญเลิศ อรุ ณพิบูลย์.(2551).Social Networking ค้นข้อมูลวันที่ 3 กุมภำพันธ์ 2555 จำก
         http://www.stks.or.th/web/index.php?option=com_docman&task=doc_download&gid=7
         94&Itemid=31
สุ ภำพร ชัยธัมมะปกรณ์.(2551).Library 2.0 ค้นข้อมูลวันที่ 3 กุมภำพันธ์ 2555 จำก
         http://www.stks.or.th/web/index.php?option=com_docman&stask=doc_download&gid=
         762&Itemid=31
Anderson, C. (2004, October). The Long Tail. Wired, 12(10). Retrieved February 24, 2012, from
         : http://www.wired.com/wired/archive/12.10/tail.html.
Crawford, W. (2006). Library 2.0 and “Library 2.0”. Cites & Insights: Crawford at Large, 6(2).
         Retrieved February 24, 2012 from http://cites.boisestate.edu/v6i2a.htm
Maness, J. M. (2006). Library 2.0 Theory: Web 2.0 and Its Implications for Libraries. Webology,
         3(2). Retrieved February 24, 2012 from : http://www.webology.ir/2006/v3n2/a25.html.
Michael C. Habib.(2006)Toward Academic Library 2.0: Development and Application of a
         Library 2.0 Methodology. A Master’s Paper for the M.S. in L.S degree.,
Miller, P. (2006). Library 2.0 - The Challenge of Disruptive Innovation. Retrieved February
         24, 2012 from http://www.talis.com/resources/documents/447_Library_2_prf1.pdf
Miller, P. (2005). Web 2.0: Building the New Library. Ariadne, (45). Retrieved February 26,
         2012 from http://www.ariadne.ac.uk/issue45/miller/
O'Reilly, T. (2005a). What Is Web 2.0: Design Patterns and Business Models for the Next
         Generation of Software. Retrieved February 22, 2012, from
         http://www.oreillynet.com/pub/a/oreilly/tim/news/2005/09/30/what-is-web-20.html.
O'Reilly, T. (2005b). O'Reilly Radar > Web 2.0: Compact Definition? Retrieved February 22,
         2012 from O'Reilly Media, Inc., Sebastopol, CA. Web site:
         http://radar.oreilly.com/archives/2005/10/web_20_compact_definition.html.
Wellman, B., & Haythornthwaite, C. (Eds.) (2002). The Internet in everyday life. Malden, MA:
         Blackwell.

More Related Content

Viewers also liked

หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ
หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการหลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ
หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการSatapon Yosakonkun
 
20140521 DO-1 Baseline Report_FINAL
20140521 DO-1 Baseline Report_FINAL20140521 DO-1 Baseline Report_FINAL
20140521 DO-1 Baseline Report_FINALsbasgall
 
OSS & Freeware เพื่อการศึกษา
OSS & Freeware เพื่อการศึกษาOSS & Freeware เพื่อการศึกษา
OSS & Freeware เพื่อการศึกษาSatapon Yosakonkun
 
Dream Team Webinar Slides
Dream Team Webinar SlidesDream Team Webinar Slides
Dream Team Webinar Slidesguestbc85d0
 
香港六合彩-六合彩 » SlideShare
香港六合彩-六合彩 » SlideShare香港六合彩-六合彩 » SlideShare
香港六合彩-六合彩 » SlideShareopuqlvjf
 
Pernyataan John Lear
Pernyataan John LearPernyataan John Lear
Pernyataan John LearNur Agustinus
 
Securing Your WordPress Website - WordCamp Sydney 2012
Securing Your WordPress Website - WordCamp Sydney 2012Securing Your WordPress Website - WordCamp Sydney 2012
Securing Your WordPress Website - WordCamp Sydney 2012Vlad Lasky
 
Majalah INFO-UFO no 11
Majalah INFO-UFO no 11Majalah INFO-UFO no 11
Majalah INFO-UFO no 11Nur Agustinus
 
Kiat bekerja di tempat baru
Kiat bekerja di tempat baruKiat bekerja di tempat baru
Kiat bekerja di tempat baruNur Agustinus
 
Majalah INFO-UFO no 07
Majalah INFO-UFO no 07Majalah INFO-UFO no 07
Majalah INFO-UFO no 07Nur Agustinus
 
Introduction to Agile and SCRUM
Introduction to Agile and SCRUMIntroduction to Agile and SCRUM
Introduction to Agile and SCRUMSumeet Moghe
 
Majalah BETA-UFO no 15
Majalah BETA-UFO no 15Majalah BETA-UFO no 15
Majalah BETA-UFO no 15Nur Agustinus
 
América Latina
América LatinaAmérica Latina
América Latinapepalago
 
Consulting Challenges
Consulting ChallengesConsulting Challenges
Consulting ChallengesSumeet Moghe
 

Viewers also liked (20)

หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ
หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการหลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ
หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ
 
20080620 E Publishing
20080620 E Publishing20080620 E Publishing
20080620 E Publishing
 
20140521 DO-1 Baseline Report_FINAL
20140521 DO-1 Baseline Report_FINAL20140521 DO-1 Baseline Report_FINAL
20140521 DO-1 Baseline Report_FINAL
 
OSS & Freeware เพื่อการศึกษา
OSS & Freeware เพื่อการศึกษาOSS & Freeware เพื่อการศึกษา
OSS & Freeware เพื่อการศึกษา
 
Dream Team Webinar Slides
Dream Team Webinar SlidesDream Team Webinar Slides
Dream Team Webinar Slides
 
香港六合彩-六合彩 » SlideShare
香港六合彩-六合彩 » SlideShare香港六合彩-六合彩 » SlideShare
香港六合彩-六合彩 » SlideShare
 
Twcag2010
Twcag2010Twcag2010
Twcag2010
 
Pernyataan John Lear
Pernyataan John LearPernyataan John Lear
Pernyataan John Lear
 
Securing Your WordPress Website - WordCamp Sydney 2012
Securing Your WordPress Website - WordCamp Sydney 2012Securing Your WordPress Website - WordCamp Sydney 2012
Securing Your WordPress Website - WordCamp Sydney 2012
 
Majalah INFO-UFO no 11
Majalah INFO-UFO no 11Majalah INFO-UFO no 11
Majalah INFO-UFO no 11
 
Kiat bekerja di tempat baru
Kiat bekerja di tempat baruKiat bekerja di tempat baru
Kiat bekerja di tempat baru
 
Majalah INFO-UFO no 07
Majalah INFO-UFO no 07Majalah INFO-UFO no 07
Majalah INFO-UFO no 07
 
Introduction to Agile and SCRUM
Introduction to Agile and SCRUMIntroduction to Agile and SCRUM
Introduction to Agile and SCRUM
 
Social Networking
Social NetworkingSocial Networking
Social Networking
 
Feedback
FeedbackFeedback
Feedback
 
Majalah BETA-UFO no 15
Majalah BETA-UFO no 15Majalah BETA-UFO no 15
Majalah BETA-UFO no 15
 
América Latina
América LatinaAmérica Latina
América Latina
 
Beauty To Behold
Beauty To BeholdBeauty To Behold
Beauty To Behold
 
Consulting Challenges
Consulting ChallengesConsulting Challenges
Consulting Challenges
 
Gtd
GtdGtd
Gtd
 

Similar to library 2.0

แบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างแบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างKanistha Chudchum
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานPop Cholthicha
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานPop Cholthicha
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานShe's Mammai
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Tangkwa Tom
 
งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25
งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25
งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25Thanggwa Taemin
 
งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25
งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25
งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25Thanggwa Taemin
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำTangkwa Tom
 

Similar to library 2.0 (20)

แบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างแบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่าง
 
แบเสนอโครงงาน
แบเสนอโครงงานแบเสนอโครงงาน
แบเสนอโครงงาน
 
งาน
งานงาน
งาน
 
งาน
งานงาน
งาน
 
งาน
งานงาน
งาน
 
งาน
งานงาน
งาน
 
งาน
งานงาน
งาน
 
งาน
งานงาน
งาน
 
งาน
งานงาน
งาน
 
งาน
งานงาน
งาน
 
งาน
งานงาน
งาน
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
 
เรียนรู้เว็บ 2.0
เรียนรู้เว็บ 2.0เรียนรู้เว็บ 2.0
เรียนรู้เว็บ 2.0
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
 
022222
022222022222
022222
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25
งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25
งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25
 
งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25
งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25
งานคอมพิวเตอร์ วารุณี 5_1_25
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
 

More from Satapon Yosakonkun

กรอบแนวทางการประเมิน Ita 2563
กรอบแนวทางการประเมิน Ita 2563 กรอบแนวทางการประเมิน Ita 2563
กรอบแนวทางการประเมิน Ita 2563 Satapon Yosakonkun
 
คู่มือการแปลงนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติฉบับที่ 5
คู่มือการแปลงนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติฉบับที่ 5 คู่มือการแปลงนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติฉบับที่ 5
คู่มือการแปลงนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติฉบับที่ 5 Satapon Yosakonkun
 
นโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2559 - 2564)
นโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ 5  (พ.ศ. 2559 - 2564)นโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ 5  (พ.ศ. 2559 - 2564)
นโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2559 - 2564)Satapon Yosakonkun
 
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๓
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๓ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๓
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๓Satapon Yosakonkun
 
การจัดการข้อมูลด้วย Excel
การจัดการข้อมูลด้วย Excelการจัดการข้อมูลด้วย Excel
การจัดการข้อมูลด้วย ExcelSatapon Yosakonkun
 
คู่มือการใช้ตราสัญลักษณ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คู่มือการใช้ตราสัญลักษณ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นคู่มือการใช้ตราสัญลักษณ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คู่มือการใช้ตราสัญลักษณ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นSatapon Yosakonkun
 
PROCEEDINGS OF THE 6th INTERNATIONAL CONFERENCE ON ASIA-PACIFIC LIBRARY AND I...
PROCEEDINGS OF THE 6th INTERNATIONAL CONFERENCE ON ASIA-PACIFIC LIBRARY AND I...PROCEEDINGS OF THE 6th INTERNATIONAL CONFERENCE ON ASIA-PACIFIC LIBRARY AND I...
PROCEEDINGS OF THE 6th INTERNATIONAL CONFERENCE ON ASIA-PACIFIC LIBRARY AND I...Satapon Yosakonkun
 
คู่มือการประเมินผลข้อเสนอการวิจัยของหน่วยงานภาครัฐที่เสนอของบประมาณ ประจาปีงบ...
คู่มือการประเมินผลข้อเสนอการวิจัยของหน่วยงานภาครัฐที่เสนอของบประมาณ ประจาปีงบ...คู่มือการประเมินผลข้อเสนอการวิจัยของหน่วยงานภาครัฐที่เสนอของบประมาณ ประจาปีงบ...
คู่มือการประเมินผลข้อเสนอการวิจัยของหน่วยงานภาครัฐที่เสนอของบประมาณ ประจาปีงบ...Satapon Yosakonkun
 
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯSatapon Yosakonkun
 
มาตรฐานสื่อดิจิทัล
มาตรฐานสื่อดิจิทัลมาตรฐานสื่อดิจิทัล
มาตรฐานสื่อดิจิทัลSatapon Yosakonkun
 
การจัดการสารสนเทศด้วยโปรแกรมจัดการรายการบรรณานุกรม Zotero และมาตรฐานเอกสารดิจ...
การจัดการสารสนเทศด้วยโปรแกรมจัดการรายการบรรณานุกรม Zotero และมาตรฐานเอกสารดิจ...การจัดการสารสนเทศด้วยโปรแกรมจัดการรายการบรรณานุกรม Zotero และมาตรฐานเอกสารดิจ...
การจัดการสารสนเทศด้วยโปรแกรมจัดการรายการบรรณานุกรม Zotero และมาตรฐานเอกสารดิจ...Satapon Yosakonkun
 
การทำรายการอ้างอิงด้วย Open Source Reference Manager : Zotero
การทำรายการอ้างอิงด้วย  Open Source Reference Manager : Zoteroการทำรายการอ้างอิงด้วย  Open Source Reference Manager : Zotero
การทำรายการอ้างอิงด้วย Open Source Reference Manager : ZoteroSatapon Yosakonkun
 
การประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การใช้โปรแกรม Zotero สำหรับจัดเก็บรายการบรรณาน...
การประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การใช้โปรแกรม Zotero สำหรับจัดเก็บรายการบรรณาน...การประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การใช้โปรแกรม Zotero สำหรับจัดเก็บรายการบรรณาน...
การประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การใช้โปรแกรม Zotero สำหรับจัดเก็บรายการบรรณาน...Satapon Yosakonkun
 
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนSatapon Yosakonkun
 
หนังสือพหุสัมพันธ์คนกับไก่
หนังสือพหุสัมพันธ์คนกับไก่หนังสือพหุสัมพันธ์คนกับไก่
หนังสือพหุสัมพันธ์คนกับไก่Satapon Yosakonkun
 
Glossary of Metadata standards
Glossary of Metadata standardsGlossary of Metadata standards
Glossary of Metadata standardsSatapon Yosakonkun
 
Digital Trend 2014: Time to look forward
Digital Trend 2014: Time to look forwardDigital Trend 2014: Time to look forward
Digital Trend 2014: Time to look forwardSatapon Yosakonkun
 
เรียนรู้เรื่องลิขสิทธิ์ สำหรับงานสร้างสื่อและสิ่งพิมพ์
เรียนรู้เรื่องลิขสิทธิ์ สำหรับงานสร้างสื่อและสิ่งพิมพ์เรียนรู้เรื่องลิขสิทธิ์ สำหรับงานสร้างสื่อและสิ่งพิมพ์
เรียนรู้เรื่องลิขสิทธิ์ สำหรับงานสร้างสื่อและสิ่งพิมพ์Satapon Yosakonkun
 
การจัดการรายการบรรณานุกรมด้วย Zotero
การจัดการรายการบรรณานุกรมด้วย Zoteroการจัดการรายการบรรณานุกรมด้วย Zotero
การจัดการรายการบรรณานุกรมด้วย ZoteroSatapon Yosakonkun
 
เทคนิคการจัดการเรียน การสอนโดยใช้ Social Media
เทคนิคการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ Social Mediaเทคนิคการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ Social Media
เทคนิคการจัดการเรียน การสอนโดยใช้ Social MediaSatapon Yosakonkun
 

More from Satapon Yosakonkun (20)

กรอบแนวทางการประเมิน Ita 2563
กรอบแนวทางการประเมิน Ita 2563 กรอบแนวทางการประเมิน Ita 2563
กรอบแนวทางการประเมิน Ita 2563
 
คู่มือการแปลงนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติฉบับที่ 5
คู่มือการแปลงนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติฉบับที่ 5 คู่มือการแปลงนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติฉบับที่ 5
คู่มือการแปลงนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติฉบับที่ 5
 
นโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2559 - 2564)
นโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ 5  (พ.ศ. 2559 - 2564)นโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ 5  (พ.ศ. 2559 - 2564)
นโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2559 - 2564)
 
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๓
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๓ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๓
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๓
 
การจัดการข้อมูลด้วย Excel
การจัดการข้อมูลด้วย Excelการจัดการข้อมูลด้วย Excel
การจัดการข้อมูลด้วย Excel
 
คู่มือการใช้ตราสัญลักษณ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คู่มือการใช้ตราสัญลักษณ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นคู่มือการใช้ตราสัญลักษณ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คู่มือการใช้ตราสัญลักษณ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
 
PROCEEDINGS OF THE 6th INTERNATIONAL CONFERENCE ON ASIA-PACIFIC LIBRARY AND I...
PROCEEDINGS OF THE 6th INTERNATIONAL CONFERENCE ON ASIA-PACIFIC LIBRARY AND I...PROCEEDINGS OF THE 6th INTERNATIONAL CONFERENCE ON ASIA-PACIFIC LIBRARY AND I...
PROCEEDINGS OF THE 6th INTERNATIONAL CONFERENCE ON ASIA-PACIFIC LIBRARY AND I...
 
คู่มือการประเมินผลข้อเสนอการวิจัยของหน่วยงานภาครัฐที่เสนอของบประมาณ ประจาปีงบ...
คู่มือการประเมินผลข้อเสนอการวิจัยของหน่วยงานภาครัฐที่เสนอของบประมาณ ประจาปีงบ...คู่มือการประเมินผลข้อเสนอการวิจัยของหน่วยงานภาครัฐที่เสนอของบประมาณ ประจาปีงบ...
คู่มือการประเมินผลข้อเสนอการวิจัยของหน่วยงานภาครัฐที่เสนอของบประมาณ ประจาปีงบ...
 
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
 
มาตรฐานสื่อดิจิทัล
มาตรฐานสื่อดิจิทัลมาตรฐานสื่อดิจิทัล
มาตรฐานสื่อดิจิทัล
 
การจัดการสารสนเทศด้วยโปรแกรมจัดการรายการบรรณานุกรม Zotero และมาตรฐานเอกสารดิจ...
การจัดการสารสนเทศด้วยโปรแกรมจัดการรายการบรรณานุกรม Zotero และมาตรฐานเอกสารดิจ...การจัดการสารสนเทศด้วยโปรแกรมจัดการรายการบรรณานุกรม Zotero และมาตรฐานเอกสารดิจ...
การจัดการสารสนเทศด้วยโปรแกรมจัดการรายการบรรณานุกรม Zotero และมาตรฐานเอกสารดิจ...
 
การทำรายการอ้างอิงด้วย Open Source Reference Manager : Zotero
การทำรายการอ้างอิงด้วย  Open Source Reference Manager : Zoteroการทำรายการอ้างอิงด้วย  Open Source Reference Manager : Zotero
การทำรายการอ้างอิงด้วย Open Source Reference Manager : Zotero
 
การประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การใช้โปรแกรม Zotero สำหรับจัดเก็บรายการบรรณาน...
การประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การใช้โปรแกรม Zotero สำหรับจัดเก็บรายการบรรณาน...การประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การใช้โปรแกรม Zotero สำหรับจัดเก็บรายการบรรณาน...
การประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การใช้โปรแกรม Zotero สำหรับจัดเก็บรายการบรรณาน...
 
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
 
หนังสือพหุสัมพันธ์คนกับไก่
หนังสือพหุสัมพันธ์คนกับไก่หนังสือพหุสัมพันธ์คนกับไก่
หนังสือพหุสัมพันธ์คนกับไก่
 
Glossary of Metadata standards
Glossary of Metadata standardsGlossary of Metadata standards
Glossary of Metadata standards
 
Digital Trend 2014: Time to look forward
Digital Trend 2014: Time to look forwardDigital Trend 2014: Time to look forward
Digital Trend 2014: Time to look forward
 
เรียนรู้เรื่องลิขสิทธิ์ สำหรับงานสร้างสื่อและสิ่งพิมพ์
เรียนรู้เรื่องลิขสิทธิ์ สำหรับงานสร้างสื่อและสิ่งพิมพ์เรียนรู้เรื่องลิขสิทธิ์ สำหรับงานสร้างสื่อและสิ่งพิมพ์
เรียนรู้เรื่องลิขสิทธิ์ สำหรับงานสร้างสื่อและสิ่งพิมพ์
 
การจัดการรายการบรรณานุกรมด้วย Zotero
การจัดการรายการบรรณานุกรมด้วย Zoteroการจัดการรายการบรรณานุกรมด้วย Zotero
การจัดการรายการบรรณานุกรมด้วย Zotero
 
เทคนิคการจัดการเรียน การสอนโดยใช้ Social Media
เทคนิคการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ Social Mediaเทคนิคการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ Social Media
เทคนิคการจัดการเรียน การสอนโดยใช้ Social Media
 

library 2.0

  • 1. Library 2.0 บทบาทใหม่ ของห้ องสมุดในยุคเว็บ 2.0 ศตพล ยศกรกุล บทนา ห้องสมุดดำเนิ นกำรไปโดยผ่ำนกำรเปลี่ ยนแปลงทำงเทคโนโลยีเป็ นอย่ำงมำกในช่ วงนับ พันปี ก่อนถึงศตวรรษที่ 21 กำรเปลี่ ยนแปลงด้ำนเทคโนโลยีโดยเฉพำะอย่ำงยิ่งเทคโนโลยีเว็บ ได้ ส่ งผลกระทบต่อห้องสมุดทั้งทำงตรงและทำงอ้อม กำรใช้เว็บไซต์เพื่อกำรให้บริ กำรผูใช้และสื่ อสำร ้ ประชำสัมพันธ์ห้องสมุดออกสู่ สำธำรณชนเป็ นเครื่ องมือที่ช่วยอำนวยควำมสะดวกได้เป็ นอย่ำงดี แต่ก็สำมำรถทำได้ตำมเทคโนโลยีเว็บที่มีอยู่ เมื่อเว็บ 2.0 ซึ่ งเป็ นแนวคิดของ Tim O'Reilly เข้ำมำมี บทบำทในวงกำรต่ำง ๆ มำกขึ้น ห้องสมุดคงหลี กเลี่ยงไม่พนที่จะหันมำมองเว็บ 2.0 ว่ำจะประยุกต์ ้ ั เครื่ องมือใดมำปรับใช้กบกิจกรรมของห้องสมุดได้บำง ทั้งในส่ วนที่เป็ นผูปฏิบติงำนและในส่ วนที่ ้ ้ ั อำนวยช่องทำงให้ผใช้เข้ำมำร่ วมกิจกรรมกับห้องสมุด ทั้งนี้ เพื่อเป็ นแนวทำงแก่ห้องสมุดที่สนใจนำ ู้ แนวคิด Library 2.0 สู่ กำรปฏิบติ บทควำมนี้ กล่ำวถึงที่มำของ Library 2.0 เว็บ 2.0 บทบำทและ ั ผลกระทบของห้องสมุด กำรประยุกต์ใช้เครื่ องมือเว็บ 2.0 และควำมเป็ นไปได้ในบริ บทของไทย ทีมาของ Library 2.0 ่ แนวคิด Library 2.0 เป็ นแนวคิดที่ได้รับกำรเผยแพร่ โดย Michael Casey ในเดือนกันยำยน ปี ค.ศ. 2005 ซึ่ งในปั จจุบนเป็ นแนวคิดที่วงกำรบรรณำรักษ์และห้องสมุดให้ควำมสนใจเป็ นอย่ำง ั มำก (Miller , 2005) ปั จจัยที่เกี่ยวข้องและมีอิทธิ พลกับควำมเปลี่ยนแปลงบทบำทใหม่ของห้องสมุด คือ เว็บ 2.0 เศรษฐศำสตร์ หำงแถวหรื อกลยุทธ์หำงยำว (The Long Tail) และSocial Capital ควำมก้ำวหน้ำของเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่ อสำรและควำมต้องกำรที่เปลี่ยนไปของผูใช้เป็ น ้ สิ่ งที่วงกำรห้องสมุดนำมำประยุกต์ใช้ในกำรพัฒนำวิธีกำรให้บริ กำรและกำรสื่ อสำรกับผูใช้บริ กำร ้ เพือสนองตอบควำมต้องกำรที่แท้จริ ง(Crawford , 2006) ่ กำรเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมกำรใช้งำนในยุคหลังๆ เริ่ มมีเพิ่มมำกขึ้น โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งยุค หลังปี 2003 เป็ นต้นมำที่เทคโนโลยีเว็บ 2.0 เริ่ มแพร่ หลำย กำรเรี ยนรู ้ของผูใช้อินเทอร์ เน็ตเริ่ ม ้ เปลี่ยนแปลง จำกกำรเรี ยนรู้แบบรับเป็ นแบบรุ ก จำกกำรเรี ยนรู ้แบบแยกส่ วนเป็ นร่ วมมือกันเรี ยนรู ้ จำกกำรรับข้อมูลจำกศูนย์กลำงเป็ นรับข้อมูลจำกหลำกหลำยแหล่ง จำกกำรจำกัดบทบำทตนเป็ น ผูรับควำมรู้ มำเป็ นกำรเป็ นทั้งผูรับและผูให้ในเวลำเดียวกัน ้ ้ ้
  • 2. 2 ก่อนที่จะเรี ยนรู ้ เกี่ ยวกับ Library 2.0 ควรทำควำมเข้ำใจเกี่ ยวกับแก่นของเว็บ 2.0 และ หลักกำรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคำนิยำมของเว็บ 2.0 มีมำกมำยพอๆ กับ Library 2.0 ที่เป็ นเช่นนี้ เพรำะบ้ำงก็ ให้ควำมสำคัญกับที่มำของคำ เช่น ใน “What is Web 2.0: Design Patterns and Business Models for the Next Generation of Software” ของ Tim O’Reilly (2005) กล่ำวว่ำเว็บ 2.0 เกิดขึ้นจำกกำรที่ บริ ษทอินเทอร์ เน็ตและวงกำรทำงธุ รกิ จต้องกำรประสบควำมสำเร็ จมำกขึ้นจึงสร้ ำงควำมต่ำงจำก ั บริ ษทอื่นๆ เกิ ดเป็ นแนวคิด รู ปแบบและเทคโนโลยีต่ำงๆ ก่อให้เกิดเป็ นเว็บ 2.0 และเป็ นคำจำกัด ั ควำมของ เว็บ 2.0 แท้ที่จริ งแล้ว บริ ษทต่ำงๆ กล่ำวว่ำเว็บ 2.0 เป็ นตัวนำธุ รกิ จเข้ำสู่ ระบบเว็บ ั ในช่วงหนึ่ งผูพฒนำซอฟท์แวร์ ถูกจำกัดทำงควำมคิดในกำรพัฒนำโปรแกรมพื้นฐำน อย่ำงไรก็ตำม ้ ั เทคโนโลยีเว็บ และรู ป แบบทำงธุ รกิ จใหม่ ๆ ส่ ง ผลต่ อกำรพัฒนำโปรแกรมที่ ส ำมำรถใช้ใ นเว็บ บรำวเซอร์ และนำมำใช้ในหลักกำรของเว็บ ควำมต่ำงจำกของเดิมคือมีทำงเลือกที่มำกขึ้น O’Reilly อธิ บำยถึ งสองหลักใหญ่ๆ ที่ต่ำงกัน คือ หนึ่ งจุดสิ้ นสุ ดของซอฟท์แวร์ เป็ นวัฏจักรและซอฟท์แวร์ มี ควำมสำมำรถมำกกว่ำหนึ่งประกำร เว็บ 2.0 คืออะไร เว็บ 2.0 เป็ นคำที่เป็ นที่พดถึงในหลำกหลำยวงกำรอย่ำงต่อเนื่อง และมีประเด็นคำถำมกันอยู่ ู บำงกลุ่มมองว่ำ เว็บ 2.0 เป็ นเพียงแค่แฟชันไม่มีสำระสำคัญต่อวงกำรอินเทอร์ เน็ต อีกกลุ่มมองว่ำ ่ เป็ นคำที่ถูกคิ ดขึ้นมำเพื่อใช้แทนคำอธิ บำยถึ งลักษณะของเทคโลยี World Wide Web และกำร ออกแบบเว็บไซต์ใ นปั จจุ บ นที่ มี ล ักษณะส่ ง เสริ มให้เกิ ดกำรแบ่ งปั นข้อมูล และกำรสร้ ำงข้อมูล ั ร่ วมกันในโลกของอินเทอร์ เน็ต เมื่อมองโดยรวมแล้ว แนวคิดเหล่ำนี้ กำลังนำไปสู่ กำรพัฒนำและ กำรปฏิวติรูปแบบเทคโนโลยีที่นำไปสู่ Web Service ต่ำงๆ นันเอง นอกจำกนี้ ยงมีคนบำงกลุ่มมอง ั ่ ั ว่ำ จริ งๆ แล้ว เว็บ 2.0 คำนี้ ไม่ได้พูดถึงเรื่ องเทคโนโลยีเลยแต่เป็ นเพียงคำหนึ่ งที่ถูกหยิบยกขึ้นมำ เพื่อใช้แทนยุคสมัยที่เปลี่ยนไปของโลกอินเทอร์ เน็ตในปั จจุบนคล้ำยๆ จำกยุคที่ 1 สู่ ยุคที่ 2 มำกกว่ำ ั ่ แต่อย่ำงไรก็ตำม แม้วำจะมีกำรให้ควำมหมำยหรื อคำจำกัดควำมที่แตกต่ำงกันออกไป แต่เมื่อศึกษำ ถึงรำยละเอียดโดยรวมแล้ว ส่ วนใหญ่จะนำเสนอแนวคิดและคุณลักษณะของเว็บ 2.0 ออกมำใน ทิศทำงเดียวกัน
  • 3. 3 พัฒนาการของเว็บ เริ่ มต้นจำกยุคเว็บ 1.0 เป็ นเว็บในรู ปแบบ Static web เป็ นกำรผลิ ตเนื้ อหำต่ำงๆ จะมำจำก เจ้ำของเว็บไซต์เท่ำนั้น ผูตองกำรข้อมูลก็เข้ำไปอ่ำนจำกเว็บไซต์หรื อค้นหำผ่ำน search engine เป็ น ้้ ส่ วนใหญ่ ด้วยเหตุน้ ีเองทำให้กำรติดต่อสื่ อสำรระหว่ำงผูอ่ำนกับเจ้ำของเว็บไซต์หรื อผูพฒนำเนื้ อหำ ้ ้ ั เป็ นไปในลักษณะทำงเดียว ไม่สำมำรถโต้ตอบหรื อแสดงควำมคิดเห็ นได้ สำเหตุส่วนหนึ่ งมำจำก เว็บ 1.0 ยังเป็ นยุคแรกๆ ที่คนส่ วนใหญ่เพิ่งเริ่ มรู ้จกอินเทอร์ เน็ตทำให้กำรใช้งำนยังไม่หลำกหลำย ั มำกนัก ดังนั้นกำรใช้งำนส่ วนใหญ่จะเป็ นในลักษณะของกำรรับส่ งข่ำวสำรผ่ำนอีเมล์ กำรพูดคุย โต้ตอบแบบออนไลน์ผ่ำนโปรแกรมต่ำงๆ กำรดำวน์โหลดเพลงและภำพต่ำงๆ จำกเว็บไซต์ที่ ให้บริ กำร แต่ก็ยงมีแนวโน้มกำรพัฒนำรู ปแบบบริ กำรให้กบผูใช้งำนได้ติดต่อสื่ อสำรกันมำกขึ้น ดัง ั ั ้ จะเห็นได้จำกควำมพยำยำมที่จะสร้ำงชุ มชนออนไลน์เพื่อให้เกิ ดกำรติดต่อสื่ อสำรระหว่ำงเจ้ำของ เว็บไซต์และผูเ้ ข้ำชมมำกขึ้น โดยจะเห็นได้จำกหลำยเว็บไซต์เริ่ มมีกำรนำกระดำนข่ำว (webboard) มำให้ผอ่ำนหรื อผูเ้ ข้ำชมเว็บไซต์ได้แสดงควำมคิดเห็นต่ำงๆ และแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่ งกันและกัน แต่ ู้ ระบบของกระดำนข่ำวอำจจะยังไม่เอื้อในเรื่ องของกำรเก็บข้อมูลที่เป็ นประโยชน์ไว้เพื่อให้ผใช้คน ู้ อื่นสำมำรถกลับเข้ำมำอ่ำนได้อีก หรื อบำงครั้งกำรจัดเก็บข้อมูลยังไม่มีกำรจัดเป็ นหมวดหมู่อย่ำง เป็ นระบบเพื่อให้ง่ำยต่อกำรสื บค้น รวมถึ งผูใช้งำนเป็ นผูอ่ำนได้เพียงฝ่ ำยเดี ยว ยังไม่สำมำรถเพิ่ม ้ ้ เนื้ อหำหรื อโต้ตอบกันได้มำกนัก นับได้ว่ำเป็ นข้อจำกัดที่พบในกำรใช้งำนเว็บไซต์ยุคเว็บ 1.0 ที่ ส่ ง ผลให้มี พ ฒนำคิ ด ค้นเว็บ ไซต์ใ ห้ อำนวยควำมสะดวกต่ อผูใ ช้ง ำนได้ม ำกขึ้ น จึ ง กลำยมำเป็ น ั ้ เว็บไซต์ยคเว็บ 2.0 ในเวลำต่อมำ ุ ปั จจุบนได้กำวสู่ ยุคเว็บ 2.0 โดยเน้นสนับสนุนให้มีกำรแบ่งปั นควำมรู ้ ควำมคิดเห็น และ ั ้ แลกเปลี่ยนประสบกำรณ์ซ่ ึ งกันและกันมำกกว่ำจะเป็ นเพียงกำรเสนอเนื้ อหำผ่ำนเว็บไซต์ ซึ่ งเจ้ำของ เว็บไซต์ในปั จจุบนอำจเป็ นเพียงใครก็ได้ที่ตองกำรเข้ำมำเปิ ดเว็บไซต์ไว้แล้วเชิ ญชวนให้คนทัวไป ั ้ ่ เข้ำมำมี ส่วนร่ วมในกำรสร้ ำงเนื้ อหำและนำเสนอข้อมูลผ่ำนเว็บไซต์ของตนเอง รวมถึงกำรเป็ น ่ ศูนย์กลำงในกำรแลกเปลี่ยนไฟล์ในรู ปแบบต่ำงๆ ไม่วำจะเป็ นรู ปภำพ วิดีโอ เพลง ผ่ำนเครื อข่ำย ออนไลน์ตลอด 24 ชัวโมง เกิดเป็ นชุ มชนหรื อเครื อข่ำยสังคมออนไลน์ (Social Network) เพื่อควำม ่ เข้ำใจของผูอ่ำนและเห็นภำพชัดเจนขึ้น ขอนำเสนอข้อมูลส่ วนหนึ่ งที่ Tim O’Reilly ได้ยกตัวอย่ำง ้ เว็บไซต์เพื่อเปรี ยบเทียบพัฒนำกำรของเว็บ 1.0 และ เว็บ 2.0
  • 4. 4 Web 1.0 Web 2.0 DoubleClick --> Google AdSense Ofoto --> Flickr Akamai --> BitTorrent mp3.com --> Napster Britannica Online --> Wikipedia personal websites --> blogging evite --> upcoming.org and EVDB domain name speculation --> search engine optimization page views --> cost per click screen scraping --> web services publishing --> participation content management systems --> wikis directories (taxonomy) --> tagging ("folksonomy") stickiness --> syndication แผนภาพแสดงการเปรียบเทียบพัฒนาการของเว็บ 1.0 และ เว็บ 2.0 (ที่มำ : Tim O’Reilly, What Is Web 2.0: Design Patterns and Business Models for the Next Generation of Software, http://www.oreillynet.com/pub/a/oreilly/tim/news/2005/09/30/what-is-web-20.html) คุณลักษณะของเว็บ 2.0 เว็บ 2.0 มีคุณลักษณะที่มีควำมโดดเด่น คือ ผูใช้สำมำรถเข้ำมำจัดกำรเนื้ อหำบนหน้ำเว็บได้ ้ และสำมำรถแบ่งปั นเนื้ อหำที่ผำนกำรจัดกำรให้กบกลุ่มคนในโลกออนไลน์ได้ซ่ ึ งสิ่ งที่เกิดขึ้นถือว่ำ ่ ั เป็ นปรำกฏกำรณ์ อย่ำงหนึ่ งของสังคมออนไลน์สังคมออนไลน์เกิ ดควำมเป็ นรู ปเป็ นร่ ำงมำกยิ่งขึ้น เกิดกิจกรรมบนนั้นมำกขึ้น ลักษณะเนื้ อหำมีกำรแบ่งส่ วนบนหน้ำเพจ เปลี่ยนจำกข้อมูลก้อนใหญ่ มำเป็ นก้อนเล็ก เนื้ อหำจะมีกำรจัดเรี ยงจัดกลุ่มมำกขึ้นไปกว่ำเดิม กำรพัฒนำและสร้ำงโมเดลทำง ธุ รกิจที่หลำกหลำยมำกยิงขึ้นและทำให้ธุรกิจเว็บไซต์กลำยเป็ นธุ รกิจที่มีมูลค่ำมหำศำล กำรบริ กำร ่ คือ เว็บที่มีลกษณะเด่นในกำรให้บริ กำรหลำย ๆ เว็บไซต์ที่มีแนวทำงเดียวกัน ั สุ ภำพร ชัยธัมมะปกรณ์ (2551) กล่ำวว่ำเว็บ 2.0 มีเครื่ องมือที่ เกิ ดขึ้นมำใช้ผ่ำนเว็บที่ สำมำรถให้คนกลุ่มใหญ่ที่ออนไลน์อยู่บนอินเทอร์ เน็ ตเข้ำมำร่ วมกิ จกรรมกันได้ทีละมำก ๆ และ ไม่ได้เพียงผูใช้ท่ีเข้ำมำอ่ำนแล้วหรื อเข้ำมำใช้ขอมูลแล้วก็ออกไป แต่คนกลุ่มใหญ่น้ นมีบทบำทใน ้ ้ ั กำรร่ วมกันทำงำน ร่ วมกันเขียน ร่ วมกันแบ่งปั นควำมคิด ควำมรู ้ออกสู่ โลกกว้ำงด้วยจิตสำธำรณะ เขียนเรื่ อง ๆ หนึ่ งผ่ำน Wikipedia อีกคนหนึ่ งสำมำรถจะเข้ำไปเพิ่มเติมข้อมูลที่ตนทรำบ หรื อแก้ไข ให้ถูกต้องจำกเดิมได้ เกิดเป็ นชุมชนออนไลน์ที่ส่งผ่ำนควำมรู ้ลงในสำรำนุกรมออนไลน์ โดยไม่ตอง ้ รอสำนักพิมพ์ออกสำรำนุกรมมำให้อ่ำน ซึ่ งใช้เวลำนำนพอสมควร หรื อกำรใช้โปรแกรม Flickr ส่ ง
  • 5. 5 รู ปขึ้นไปบนเน็ตเพื่อแบ่งปั นในชุ มชนออนไลน์ได้ดูหรื อดึงไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นได้ และกำรให้ ผูคนเขียน Blog เพื่อกำรสื่ อสำรระหว่ำงเพื่อนร่ วมงำนในองค์กร หรื อเพื่อเป็ นกำรบันทึกเรื่ องรำวที่ ้ ได้พบเห็น เปรี ยบเสมือนเป็ นไดอำรี่ ออนไลน์ เป็ นไดอำรี่ เป็ นเปิ ดเผยให้คนภำยนอกได้รับรู้ เป็ น กำรใช้ประโยชน์จำกกำรดึ ง เอำควำมรู้ ควำมคิดเห็ นของผูคนที่ ต้องกำรเขียนออกมำ และก็ อำจ ้ ประมวลสิ่ งเหล่ำนี้ ออกมำเป็ นควำมรู ้ ได้ เท่ำกับว่ำ สำมำรถดึ งควำมรู ้ ที่อยู่ในตัวตนออกมำได้โดย ผ่ำน Blog ได้ดวยวิธีหนึ่ง ้ บทบาทและผลกระทบของห้ องสมุด Wellman and Haythornwaite (2002) ศึกษำพบว่ำ วัฒนธรรมที่เปลี่ยนไปรวมถึงพฤติกรรม และนิ สัย ใน“อิ นเทอร์ เน็ ตกับชี วิตประจำวัน”กำรศึ กษำในอันดับต้นๆได้แสดงให้เห็ นว่ำกำรใช้ อิ น เตอร์ เ นตเป็ นสิ่ ง จ ำเป็ นในชี วิ ต เนื่ อ งจำกรู ป แบบเว็บ 2.0 มี ล ัก ษณะที่ เ ข้ำ กับ สั ง คมและเป็ น หลักกำรพื้นฐำน จึงมีผลครอบคลุมถึงรู ปแบบกำรใช้ชีวิต กำรทำงำน กำรติดต่อสื่ อสำร และสังคม ของผูใช้ จำกที่กล่ำวมำถือเป็ นประเด็นสำคัญที่ตองคำนึงถึง ้ ้ Michael (2006) กล่ ำ วว่ำ ปั จจุ บ นบรรณำรั ก ษ์มี ค วำมพยำยำมท ำควำมคุ ้น เคยกับ Web ั Services รู ป แบบใหม่ ซ่ ึ งมี ค วำมคล้ำ ยกับ ห้องสมุ ดที่ เชื่ อมข้อมู ล และผูใช้ไ ว้ด้วยกันในขณะที่ ้ ผูเ้ ชี่ ยวชำญบำงกลุ่มได้กล่ำวว่ำบทบำทของ Web Services จะทำให้ควำมสำคัญของบรรณำรักษ์ หำยไป ซึ่ งเป็ นที่รู้จกกันดีในนำมเว็บ 2.0 กำรนำเสนอรู ปแบบและวิธีกำรใหม่ๆ รวมถึงเทคโนโลยีที่ ั ช่ ว ยพัฒ นำกำรบริ ก ำรห้ อ งสมุ ด ยิ่ ง ไปกว่ ำ นั้น ผู ้ใ ช้ ส ำมำรถใช้ บ ริ ก ำรได้อ ย่ ำ งกว้ำ งขวำงด้ว ย วัฒ นธรรมที่ เ ปลี่ ย นไปส่ ง ผลต่ อ พฤติ ก รรมกำรสื บ ค้น สำรสนเทศของผู ้ใ ช้ , รู ป แบบกำร ติดต่อสื่ อสำรและควำมคำดหวัง ก่อให้เกิด Library 2.0 ซึ่งได้นำมำใช้ในวงกำรห้องสมุดและวงกำร บรรณำรักษ์ จำกผลกระทบดั ง กล่ ำ วส่ ง ผลต่ อ บทบำทของห้ อ งสมุ ด และบรรณำรั ก ษ์ กล่ ำ วคื อ บรรณำรักษ์ตองปรับรู ปแบบกำรให้บริ กำร เพิ่มช่ องทำงกำรสื่ อสำรด้วยระบบเว็บ 2.0 ปรับระบบ ้ เว็บไซต์ให้สำมำรถเพิ่มคำค้นและค้นคืนด้วย tag และ folksonomy สร้ำงเวทีกำรแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ กับผูใช้เกิ ดเป็ น Community on-line library ที่สำคัญช่วยให้ห้องสมุดมี Local contents เป็ นของ ้ ่ ู้ องค์กรช่วยต่อยอดกำรเรี ยนรู ้และควำมคิด หัวใจของกำรเป็ น Library 2.0 อยูที่ผใช้เป็ นศูนย์กลำง และทรัพยำกรควำมรู้ที่ห้องสมุดมีและจัด ให้บริ กำร โดย มีผูใช้ที่เข้ำมำมีบทบำทกับกิ จกรรมของ ้ ห้องสมุดมำกขึ้น ผูใช้เป็ นตัวกลำงที่ทำให้เกิ ดกำรเปลี่ ยนแปลง ทั้งทำงกำยภำพและกำรให้บริ กำร ้ ของห้องสมุดตำมที่ผูใช้ตองกำร แนวทำงกำรทำงำนห้องสมุดเปลี่ ยนไป เน้นควำมสำคัญของ ้ ้ มำตรฐำนและเกณฑ์กำรจัดกำรควำมรู ้ เน้นให้คนทัวไปเข้ำใจและสำมำรถนำไปใช้ได้ง่ำย ซึ่ งปั จจัย ่ ที่สนับสนุนคงเป็ นกำรสร้ำงเครื อข่ำยควำมร่ วมมือ บรรณำรักษ์ บุคลำกร ผูใช้และกำรสนับสนุ น ้ จำกผูบริ หำร้
  • 6. 6 การประยุกต์ ใช้ เครื่ องมือเว็บ 2.0 กับงานห้ องสมุด บุญเลิศ อรุ ณพิบูลย์(2551) แนะนำ 10 วิธีเริ่ มต้นกับ Web 2.0ซึ่ งโปรแกรมต่ำง ๆ ที่ Web 2.0 เอื้อให้ ทำงำนได้ ดังนี้ 1. สร้ำงสรรค์แบ่งปั นควำมรู ้ดวย Wiki ้ 2. งำนเขียนส่ วนตัว บันทึกส่ วนตัว เว็บไซต์ส่วนตัว ด้วย Blog 3. บันทึกเว็บไซต์โปรดด้วย Social Bookmarking 4. อ่ำนข่ำวทุกวันได้ดวย RSS Feeds, NewsReaders ้ 5. แบ่งปั นกันดูภำพด้วย Flickr 6. แบ่งปั นสไลด์ดวย Slideshare ้ 7. แบ่งปั น Video ด้วย Youtube 8. เอกสำรสำนักงำนออนไลน์ดวย Google Docs ้ 9. พัฒนำเว็บไซต์ดวย Dynamic Content Management System (Joomal, Drupal) ้ 10. Internet Telephony / VOIP (Skype, MSN, ICQ) เว็บ 2.0 พัฒนำขึ้นเพื่ออำนวยควำมสะดวกแก่ผใช้บนโลกไซเบอร์ ซึ่งห้องสมุดสำมำรถ ู้ นำมำประยุกต์ใช้ได้ตำมควำมเหมำะสมกับบริ บทของห้องสมุดแต่ละแห่ง ดังตัวอย่ำงกำรประยุกต์ใช้เครื่ องมือเว็บ 2.0 กับงำนห้องสมุด ดังนี้ Blog Blog หรื อ Weblog ปั จจุบนได้รับควำมนิ ยมและเป็ นที่รู้จกกันดีในโลกของชำวไซเบอร์ ซึ่ ง ั ั ปฏิ วติ รูป แบบของกำรเขี ย นไดอำรี แ บบเดิ ม ให้อยู่ใ นรู ป แบบไดอำรี อ อนไลน์ แ ละเป็ นอี ก หนึ่ ง ั เครื่ องมือที่ นำมำประยุกต์ใช้ในกำรจัดกำรควำมรู ้ เป็ นกำรดึ งควำมรู ้ ที่อยู่ในตัวคนออกมำจำกกำร บันทึกเรื่ องรำว บอกเล่ำผ่ำน Blog ห้องสมุดสำมำรถประยุกต์ใช้ Blog เป็ นช่ องทำงกำรสื่ อสำรกับผูใช้ โดยมีกำรกำหนด tag ้ เพื่อเป็ นตัวแทนของสิ่ งที่เขียน เรื่ องที่ถ่ำยทอดออกมำให้ได้อ่ำน เกิดเป็ น folksonomy ซึ่ งจะต่ำงจำก taxonomy ที่เป็ นคำที่บรรณำรักษ์จะคุ นเคยมำกกว่ำ ห้องสมุดสำมำรใช้ Blog เพื่อประชำสัมพันธ์ ้ กิจกรรมห้องสมุด, กิจกรรมส่ งเสริ มกำรอ่ำน ,สร้ำงชุมชนผูใช้และส่ งเสริ มชุมชนผูใช้ ้ ้
  • 7. 7 Wiki Wiki หรื อ วิกิ คงเป็ นที่คุนเคยกันใน ชื่ อ วิกิพีเดียซึ่ งมีชื่อเสี ยงโด่งดังในวงกำรอินเทอร์ เน็ต ้ แท้ที่จริ งแล้ว วิกิ คือ เว็บไซต์ที่อนุญำตให้ผใช้ เพิ่มและแก้ไขเนื้ อหำได้โดยง่ำย เหมือนกับกำรเขียน ู้ บทควำมร่ วมกัน คำว่ำ "วิกิ" นี้ ยังหมำยถึงซอฟต์แวร์ ที่ใช้เพื่อสร้ำงเว็บไซต์อีกด้วย หน่ วยงำนต่ำงๆ มี กำรนำ Wiki มำประยุกต์ใช้ในกำรจัดกำรควำมรู้ ขององค์กร ซึ่ งเป็ น แนวทำงที่ น่ำสนในมำก ด้วยควำมสำมำรถของซอฟท์แวร์ ที่หลำกหลำย ห้องสมุ ดสำมำรถนำมำ ประยุกต์ใช้เพื่อให้บริ กำรทำงวิชำกำร สร้ ำงชุ มชนทำงวิชำกำรออนไลน์ ส่ งเสริ มกำรแลกเปลี่ ยน เรี ยนรู ้ สร้ำงสรรค์แบ่งปั นกันระหว่ำงผูใช้ดวยกันเอง เกิดเป็ น “สำรำนุกรมต่อยอด” ้ ้ Social Bookmarking Social Bookmarking จะเป็ นเครื่ องมือสำหรับเป็ นแหล่งรวมสำรสนเทศ รวมแหล่งเว็บไซต์ ตำมหัวข้อเรื่ อง เพื่อประโยชน์ในกำรนำไปใช้ภำยหลัง หรื อเป็ นรำยกำรอ่ำนประกอบกำรศึ กษำ เนื่องด้วยศักยภำพของ Social Bookmarking นั้นเป็ นเครื่ องมือช่วยในกำรจัดเก็บหรื อบันทึกเว็บไซต์ ที่ ใช้บ่ อย หรื อเว็บไซต์ยอดนิ ยม เพื่อสำมำรถเรี ย กใช้ไ ด้โดยไม่จำเป็ นต้องเก็ บหรื อบันทึ ก ไว้ใ น คอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังสำมำรถแบ่งปั นให้คนบนเน็ตใช้ร่วมกันได้อีกด้วย ประโยชน์อย่ำงหนึ่ งที่ห้องสมุดไม่ควรพลำดในกำรนำ Social Bookmarking มำใช้ใน ก็คือ กำรทำเป็ นแหล่งรวมเว็บไซต์ตำมหัวข้อ หรื อ Subject Guides หรื อเป็ น Reading Lists เพื่อกำรเรี ยน กำรสอนในวิชำใดวิชำหนึ่ง ผ่ำน delicious.com Media sharing Media sharing ด้วยควำมสำมำรถของควำมเป็ น media ที่มีท้ งภำพ เสี ยง วิดีทศน์ จึงเหมำะ ั ั ที่ถูกนำมำใช้เพื่อเป็ นเครื่ องมือในกำรฝึ กอบรม กำรประชำสัมพันธ์ กำรตลำด กำรสอน กำรจัดกำร สื่ ออิเล็กทรอนิกส์ นิทรรศกำรออนไลน์ รวมทั้งเพื่อประโยชน์ในกำรนำชม ่ ห้องสมุดใช้ประโยชน์ของช่องทำงนี้ ผำนโปรแกรม Flickr เพื่อนำชมหรื อแนะนำห้องสมุด ตั้งแต่สภำพภำยนอก แต่ละห้อง แต่ละ collection IM (Instant Messenger) เครื่ องมือที่ได้รับควำมนิ ยม ช่วยในกำรสื่ อสำรกับผูใช้ บรรณำรักษ์นิยมใช้ซ่ ึ งรู ปแบบเดิม ้ เรำจะเห็นได้ที่เว็บไซต์ห้องสมุดในเมนู Ask a librarian ปั จจุบนมี ซอฟท์แวร์ ที่ช่วยบริ กำรตอบ ั คำถำมและช่ วยค้นคว้ำ บริ กำรสอนกำรใช้ห้องสมุด แบบ Real-Time เช่ น Skype ซึ่ งสำมำรถ ให้บริ กำรได้ท้ งข้อควำม ภำพและเสี ยง ตลอดจนภำพเคลื่อนไหว ั นอกจำกตัวอย่ำงดังกล่ำวแล้วยังมีรูปแบบกำรประยุกต์ใช้เครื่ องมือเว็บ 2.0 ในงำนห้องสมุด ยังมีอีกมำกมำย เช่น RSS and Newsreaders , Podcasting, Mashups เป็ นต้น
  • 8. 8 ่ จำกกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 กับงำนห้องสมุด กล่ำวได้วำ แนวคิด Library 2.0 หรื อ ห้องสมุด 2.0 เป็ นกำรนำเครื่ องมือเว็บ 2.0 กับ กำรบริ หำรจัดกำรห้องสมุดรวมเข้ำด้วยกันอย่ำง ลงตัว ด้วยกำร Mashups ซึ่งห้องสมุดได้จดเตรี ยมบริ กำรที่หลำกหลำยในแบบบูรณำกำร รวมอยูใน ั ่ เว็บไซต์ เช่น IM, RSS feeds, blogs, wikis, tags เป็ นต้น ห้องสมุหดไม่เพียงแต่เป็ นที่ที่ให้บริ กำร สื บ ค้น ทรั พ ยำกรสำรสนเทศเท่ ำ นั้น หำกแต่ เ ป็ นชุ ม ชนออนไลน์ ซ่ ึ งผู ้ใ ช้ แ ละ บรรณำรั ก ษ์ มี ปฏิสัมพันธ์ซ่ ึ งกันและกัน มีกำรแลกเปลี่ยนข้อมูล ควำมรู ้ระหว่ำงกันซึ่ งเป็ นรู ปแบบที่เปลี่ยนแปลง ไปจำกห้องสมุดแบบเดิมยึดผูใช้เป็ นศูนย์กลำง สร้ำงวัฒนธรรมกำรแลกเปลี่ยนกันระหว่ำง เกิดเป็ น ้ เครื อข่ำยและชุ มชนออนไลน์ ( Social Network )ทำให้เกิดกำรต่อยอดควำมรู ้และควำมคิด นำไปสู่ กำรปฏิบติจริ ง และนำมำซึ่ งองค์ควำมรู้ จริ ง โดยอำศัย เว็บเป็ น Platform ทำให้เกิ ดปฏิ สัมพันธ์ใน ั หลำกบริ บท โดยกำรสร้ำงองค์ควำมรู ้ใหม่ ปฏิบติให้รู้แจ้งเห็นจริ ง อีกวิธีหนึ่งในกำรใช้องค์ควำมรู้ ั ก็คือ กำรแบ่งปั นกัน ---------------------------------------------------------------
  • 9. 9 บรรณานุกรม ทวีศกดิ์ กออนันตกูล.(2551). บทบาทห้ องสมุดในยุค Web 2.0ค้นข้อมูลวันที่ 1 กุมภำพันธ์ 2555 ั จำก http://www.stks.or.th/web/index.php?option=com_docman&task= doc_download&gid=190&Itemid=31 บุญเลิศ อรุ ณพิบูลย์.(2551).Social Networking ค้นข้อมูลวันที่ 3 กุมภำพันธ์ 2555 จำก http://www.stks.or.th/web/index.php?option=com_docman&task=doc_download&gid=7 94&Itemid=31 สุ ภำพร ชัยธัมมะปกรณ์.(2551).Library 2.0 ค้นข้อมูลวันที่ 3 กุมภำพันธ์ 2555 จำก http://www.stks.or.th/web/index.php?option=com_docman&stask=doc_download&gid= 762&Itemid=31 Anderson, C. (2004, October). The Long Tail. Wired, 12(10). Retrieved February 24, 2012, from : http://www.wired.com/wired/archive/12.10/tail.html. Crawford, W. (2006). Library 2.0 and “Library 2.0”. Cites & Insights: Crawford at Large, 6(2). Retrieved February 24, 2012 from http://cites.boisestate.edu/v6i2a.htm Maness, J. M. (2006). Library 2.0 Theory: Web 2.0 and Its Implications for Libraries. Webology, 3(2). Retrieved February 24, 2012 from : http://www.webology.ir/2006/v3n2/a25.html. Michael C. Habib.(2006)Toward Academic Library 2.0: Development and Application of a Library 2.0 Methodology. A Master’s Paper for the M.S. in L.S degree., Miller, P. (2006). Library 2.0 - The Challenge of Disruptive Innovation. Retrieved February 24, 2012 from http://www.talis.com/resources/documents/447_Library_2_prf1.pdf Miller, P. (2005). Web 2.0: Building the New Library. Ariadne, (45). Retrieved February 26, 2012 from http://www.ariadne.ac.uk/issue45/miller/ O'Reilly, T. (2005a). What Is Web 2.0: Design Patterns and Business Models for the Next Generation of Software. Retrieved February 22, 2012, from http://www.oreillynet.com/pub/a/oreilly/tim/news/2005/09/30/what-is-web-20.html. O'Reilly, T. (2005b). O'Reilly Radar > Web 2.0: Compact Definition? Retrieved February 22, 2012 from O'Reilly Media, Inc., Sebastopol, CA. Web site: http://radar.oreilly.com/archives/2005/10/web_20_compact_definition.html. Wellman, B., & Haythornthwaite, C. (Eds.) (2002). The Internet in everyday life. Malden, MA: Blackwell.