SlideShare a Scribd company logo
1 of 32
Download to read offline
โครงงาน
ผู้จัดทำ
นำยศำนติบูรณ์ สถิตธีรธรรม ม.6/10 เลขที่9
นำยวิวัฒน์ เลิศลำภยศ ม.6/10 เลขที่10
ความหมาย
• โครงงำนอำชีพ หมำยถึง กิจกรรมศึกษำวิชำกำรงำนที่ส่งเสริมสนับสนุน
ให้ผู้เรียนได้เลือกศึกษำค้นคว้ำ ริเริ่มสร้ำงสรรค์ผลงำน ตำมที่ตนเองมี
ควำมถนัด มีควำมพร้อม และสนใจ แล้วลงมือปฏิบัติให้บรรลุตำม
จุดมุ่งหมำยที่กำหนดไว้ โดยมีรำยละเอียดของงำนที่จะจัดทำไว้ล่วงหน้ำ
เป็นขั้นตอนพร้อมทั้งคำดกำรณ์ผลที่จะเกิดขึ้น ทั้งที่โดยได้รับคำแนะนำ
จำกผู้รู้ และครู-อำจำรย์ ที่ทำหน้ำที่เป็นที่ปรึกษำของกลุ่ม
ความสาคัญ
• 1. ด้ำนผู้เรียน ก่อให้เกิดคุณค่ำต่ำงๆ ได้แก่ ช่วยสร้ำงควำมหวังใหม่ในกำร
ริเริ่มงำน สร้ำงเสริมประสบกำรณ์จำกกำรปฏิบัติจริง ได้มีโอกำสทดสอบควำมถนัด
ของตนเอง ก่อให้เกิดควำมรักควำมเข้ำใจและควำมสัมพันธ์อันดีภำยในกลุ่ม พร้อม
ทั้งเกิดควำมรู้ทำงวิชำกำรที่กว้ำงขวำงขึ้นและเกิดควำมภำคภูมิใจในควำมสำเร็จของ
งำน
2. ด้ำนสถำบันและครูอำจำรย์ที่ปรึกษำกลุ่ม ก่อให้เกิดคุณค่ำทำงกำร
ประสำนงำน โดยเกิดควำมเข้ำใจที่ตรงกันว่ำกำรเรียนกำรสอนในปัจจุบันขึ้นอยู่กับ
กำรปฏิบัติจริงในโครงงำนของผู้เรียนมำกกว่ำที่จะเรียนอยู่ในห้องเรียนเท่ำนั้น
3. ด้ำนชุมชน / ท้องถิ่น ก่อให้เกิดคุณค่ำทำงกำรเผยแพร่และ
ประชำสัมพันธ์ชุมชน อีกทั้งชุมชนได้มีส่วนร่วมในกำรขยำยผลทำงควำมรู้
ควำมสำมำรถที่มีอยู่ ให้แก่ผู้เรียนรุ่นต่อไป โดยสร้ำงนิสัยรักกำรทำงำนเกิดงำนอำชีพ
ที่หลำกหลำยและมีกำรพัฒนำอำชีพในชุมชนด้วย
การเขียนโครงงาน
• ส่วนประกอบและวิธีเขียนโครงงำน มีรำยละเอียดดังต่อไปนี้
1. ชื่อโครงงาน ควรตั้งชื่อโครงงำนอำชีพให้สื่อควำมหมำยได้ชัดเจน ครอบคลุมควำมหมำยของกิจกรรมอำชีพที่ทำให้
ชัดเจนว่ำทำอะไร ไม่ควรตั้งชื่อโครงงำนที่มีควำมหมำยกว้ำงเกินไปตัวอย่ำงเช่น โครงงำนปลูกมะละกอ โครงงำนทำโคมไฟฟ้ ำ
2. ชื่อผู้ดาเนินโครงงาน ระบุชื่อผู้ดำเนินโครงงำนในกรณีที่เป็นงำนกลุ่มต้องระบุหน้ำที่ควำมรับผิดชอบของแต่ละคน
และกำรลงทุนของแต่ละคนไว้ให้ชัดเจน ซึ่งทั้งนี้ควรพิจำรณำควำมเหมำะสมในด้ำนควำมสำมำรถ โอกำสในกำรทำงำนและ
กำลังทุนทรัพย์สิน ของแต่ละบุคคล
3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ
4. หลักการและเหตุผลหรือควำมสำคัญของโครงงำน ควรกล่ำวถึงสภำพชุมชนและควำมต้องกำรของตลำดที่
เกี่ยวข้องกับอำชีพตำมที่ได้ศึกษำมำ และอธิบำยว่ำโครงงำนนี้จะสนองควำมต้องกำรของชุมชนได้อย่ำงไร
5. วัตถุประสงค์ จะต้องกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนว่ำ โครงงำนอำชีพนี้ผู้เรียนจะทำอะไรโดยเขียนให้เห็นว่ำ
กิจกรรมหรือพฤติกรรมที่จะดำเนินกำรมีอะไรบ้ำง หำกมีวัตถุประสงค์หลำยประกำรก็ควรเขียนเป็นข้อ ๆ ตำมลำดับควำมสำคัญ
6. เป้ าหมาย กำหนดเป้ ำหมำยของผลผลิตในช่วงเวลำให้ชัดเจนคือ อะไร มีปริมำณเท่ำใดและคุณภำพเป็นอย่ำงไร
7. ระยะเวลา กำหนดระยะเวลำตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกำรดำเนินโครงงำน
8. งบประมาณ จัดทำรำยละเอียดรำยจ่ำยที่เกิดขึ้นในกำรดำเนินโครงงำน ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ำย ซึ่ง
ประกอบด้วยตัววัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เป็นต้น
9. ขั้นตอนวิธีดาเนินงาน เขียนเป็นรำยละเอียดขั้นตอนของกำรทำงำน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงงำนโดยเขียนเป็น
แผนปฏิบัติงำน ซึ่งประกอบด้วยหัวข้อ กิจกรรม ระยะเวลำ สถำนศึกษำ ทรัพยำกร/ปัจจัยเป็นต้น รำยละเอียดดังกล่ำวจะทำให้ผู้ที่
ปรึกษำหรือผู้ดำเนินงำนติดตำมกำกับงำนได้อย่ำงมีระบบแก้ไขปัญหำได้ทันท่วงที
8. การติดตามและการประเมินผล เป็นวิธีกำรหรือเทคนิคในกำรดูแลและควบคุมกำรปฏิบัติงำนให้บรรลุ
วัตถุประสงค์ ทั้งนี้ต้องบอกให้ชัดเจนว่ำก่อนเริ่มทำโครงงำน ระหว่ำงทำโครงงำนและหลังกำรทำโครงงำน จะมีกำรติดตำมและ
ประเมินผลอย่ำงไร
9. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ให้ระบุผลที่จะเกิดขึ้นเมื่อเสร็จสิ้นโครงงำน เป็นผลที่ได้รับโดยตรงและผลพลอยได้หรือ
ผลกระทบจำกโครงงำนเป็นผลในด้ำนดีที่คำดว่ำจะได้รับจะต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์และเป้ ำหมำย
ขอบข่าย
- ดำเนินงำนโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้ำงสรรค์ และครูอำจำรย์ เป็นผู้ให้คำแนะนำปรึกษำ
มีองค์ประกอบดังนี้
• 1. เป็นกิจกรรมกำรเยนให้นักเรียนศึกษำ ค้นคว้ำ ปฏิบัติด้วยตนเองอำศัยหลักวิชำกำร
ทำงทฤษฎีตำมเนื้อหำโครงงำนนั้นๆ หรือจำกประสบกำรณ์และกิจกรรมต่ำงๆที่ได้พบเห็น
มำกแล้ว
• 2. นักเรียนทุกคนพิจำรณำจัดทำโครงงำนด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้เวลำสั้นๆ เป็น
ภำคเรียน หรือมำกกว่ำก็ได้ แล้วแต่โครงงำนเล็กหรือใหญ่
• 3. นักเรียนเป็นผู้พิจำรณำริเริ่มสร้ำงสรรค์ คัดเลือกโครงงำนที่จะศึกษำค้นคว้ำปฎิบัติ
ด้วยตนเองควำมภวำมถนัด สนใจ ควำมพร้อม
• 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงำน รำยละเอียดของโครงงำน แผนปฎิบัติงำนและกำรแปล
ผล รำยงำนผลต่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ เพื่อดำเนินงำนร่วมกันให้บรรลุผลตำมจุดหมำยที่
กำหนดไว้
• 5. เป็นโครงำนที่เหมำะสมกับควำมรู้ ควำมสำมำรถของนักเรียนตำมวัยและสติปัญญำ
รวมทั้งกำรใช้จ่ำยเงินดำเนินงำนด้วย
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
1. โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ
ลักษณะเด่นของโครงงำนประเภทนี้คือ เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ใน
กำรผลิตสื่อเพื่อกำรศึกษำ โดยกำรสร้ำงโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยกำร
เรียน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ซึ่งอำจเป็นกำรพัฒนำบทเรียนแบบ
ออนไลน์ให้ผู้เรียนเข้ำมำศึกษำด้วยตนเองก็ได้ โครงงำนประเภทนี้สำมำรถ
พัฒนำขึ้นเพื่อใช้ประกอบกำรสอนในวิชำต่ำงๆ โดยอำจคัดเลือกเนื้อหำที่
เข้ำใจยำก มำเป็นหัวข้อในกำรพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ เช่น กำรเคลื่อนที่
แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวำล ฯลฯ
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
2.โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ใช้งำน
โครงงำนประยุกต์ใช้งำนเป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำร สร้ำงผลงำนเพื่อ
ประยุกต์ใช้งำนจริงในชีวิตประจำวัน อำทิเช่น ซอฟต์แวร์สำหรับกำรออกแบบและตกแต่ง
ภำยในอำคำร ซอฟต์แวร์สำหรับกำรผสมสี และซอฟต์แวร์สำหรับกำรระบุคนร้ำย เป็นต้น
โครงงำนประเภทนี้จะมีกำรประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่ำงๆ ซึ่ง
อำจเป็นกำรคิดสร้ำงสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี
ประสิทธิภำพสูงขึ้น โครงงำนลักษณะนี้จะต้องศึกษำและวิเครำะห์ควำมต้องกำรของผู้ใช้
ก่อน แล้วนำข้อมูลที่ได้มำใช้ในกำรออกแบบ และพัฒนำสิ่งของนั้นๆ ต่อจำกนั้นต้องมี
กำรทดสอบกำรทำงำนหรือทดสอบคุณภำพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีควำม
สมบูรณ์ โครงงำนประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ควำมรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภำษำ
โปรแกรม และเครื่องมือต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้อง
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
3.โครงงำนพัฒนำเกม
โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนพัฒนำซอฟต์แวร์เกมเพื่อควำมรู้หรือเพื่อ
ควำม เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนำควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นกำรใช้สมอง
เพื่อฝึกคิดอย่ำงมีหลักกำร โครงงำนประเภทนี้จะมีกำรออกแบบลักษณะ
และกฎเกณฑ์กำรเล่น เพื่อให้น่ำสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ควำมรู้
สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนำควรจะได้ทำกำรสำรวจและรวบรวมข้อมูล
เกี่ยวกับเกมต่ำงๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนำมำปรับปรุงหรือพัฒนำขึ้นใหม่
เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่ำสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่ำงๆ
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
4.โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ
โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนเพื่อพัฒนำเครื่องมือช่วย สร้ำงงำนประยุกต์
ต่ำงๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วำดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์
งำน และซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุมต่ำงๆ เป็นต้น สำหรับซอฟต์แวร์เพื่อ
กำรพิมพ์งำนนั้นสร้ำงขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคำ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เรำใช้
ในกำรพิมพ์งำนต่ำงๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์กำรวำดรูป
พัฒนำขึ้นเพื่ออำนวยควำมสะดวกให้กำรวำดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไป
ได้ โดยง่ำย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุมต่ำงๆ ใช้สำหรับช่วยกำร
ออกแบบสิ่งของ อำทิเช่น ผู้ใช้วำดแจกันด้ำนหน้ำ และต้องกำรจะดูว่ำด้ำนบน
และด้ำนข้ำงเป็นอย่ำงไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คำนวณค่ำและภำพที่ควรจะเป็นมำให้
เพื่อพิจำรณำและแก้ไขภำพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่ำงสะดวก
5. โครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี
โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในกำร จำลองกำรทดลอง
ของสำขำต่ำงๆ ซึ่งเป็นงำนที่ไม่สำมำรถทดลองด้วยสถำนกำรณ์จริงได้ เช่น กำรจุด
ระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงำนที่ผู้ทำต้องศึกษำรวบรวมควำมรู้ หลักกำร
ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่ำงๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำแล้วเสนอเป็น
แนวคิด แบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยู่ในรูปของสูตร สมกำร หรือคำอธิบำย
พร้อมทั้งำรจำลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมำเป็นภำพ ภำพที่ได้ก็จะ
เปลี่ยนไปตำมสูตรหรือสมกำรนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีควำมเข้ำใจได้ดียิ่งขึ้น กำรทำ
โครงงำนประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่ำงดี
ตัวอย่ำงโครงงำนจำลองทฤษฎี เช่น กำรทดลองเรื่องกำรไหลของของเหลว กำร
ทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลำปิรันย่ำ และกำรทดลองเรื่องกำรมองเห็นวัตถุแบบ
สำมมิติ เป็นต้น
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 4 เรื่องโครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อ
การศึกษา”
• เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรผลิตสื่อเพื่อกำรศึกษำโดยกำรสร้ำง
โปรแกรม บทเรียนหรือหน่วยกำรเรียน ซึ่งอำจจะต้องมีภำคแบบฝึกหัด บท
ทบทวน และคำถำมคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสำมำรถเรียนแบบรำยบุคคลหรือรำยกลุ่ม
กำรสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ถือว่ำคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์กำรสอน ซึ่ง
อำจเป็นกำรพัฒนำบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ำมำศึกษำด้วยตนเองก็
ได้ โครงงำนประเภทนี้สำมำรถพัฒนำขึ้นเพื่อใช้ประกอบกำรสอนในวิชำต่ำงๆ โดย
ผู้เรียนอำจคัดเลือกเนื้อหำที่เข้ำใจยำก มำเป็นหัวข้อในกำรพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ
เช่น กำรเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวำล หลักภำษำไทย และสถำนที่
สำคัญของประเทศไทย โครงงำนเกี่ยวกับกำรพัฒนำเว็บไซต์ วิถีชีวิตของคนไทยพวน
โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก โปรแกรม ควำมหลำกหลำยของสิ่งมีชีวิต โปรแกรม
สำนวนไทยพำสนุก โปรแกรมฝึกอ่ำนออกเสียงภำษำอังกฤษ โปรแกรมเรียนรู้
คณิตศำสตร์
ตัวอย่างชื่อโครงงาน
• สำรำนุกรมไทยฉบับมัลติมีเดีย
• สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
• พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย
• โปรแกรมช่วยสอนกำรถ่ำยภำพ
• 76 จังหวัดของไทย
• โปรแกรมช่วยสอนกำรทำงำนของทรำนซิสเตอร์
• คอมพิวเตอร์สอนพิมพ์ดีด
• ยำไทยและยำจีน
• สูตรขนมไทยอร่อยทั่วโลก
ตัวอย่างโครงงาน
• ชื่อโครงงาน ระบบคาถามคาตอบสาหรับวิกิพีเดียภาษาไทย
• ชื่อผู้ทาโครงงาน วิทวัส จิตกฤตธรรม
• ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา รศ. ดร. ธนำรักษ์ ธีระมั่นคง
• สถาบันการศึกษา สถำบันเทคโนโลยีนำนำชำติสิรินธร
มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์
• ระดับชั้น ปริญญำตรี
• หมวดวิชา คอมพิวเตอร์
• วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน ไม่ระบุ
• บทคัดย่อ เครื่องมือช่วยค้นหำข้อมูล (Search engine) ในปัจจุบันไม่ได้ตอบสนอง
คำค้นของผู้ใช้โดยตรง เพียงแต่แสดงให้ผู้ใช้เห็นว่ำ คำค้นของผู้ใช้นั้นเกี่ยวข้องและพบมำกใน
เอกสำรใดบ้ำง ซึ่งผู้ใช้ต้องนำผลลัพธ์รำยกำรเอกสำรที่ได้มำอ่ำนและกรองข้อมูลด้วยตนเอง
เพื่อหำคำตอบที่ต้องกำร ระบบคำถำมคำตอบเป็นระบบที่รับคำถำมที่อยู่ในรูปของประโยค
ภำษำมนุษย์จำกผู้ใช้และคืนคำตอบที่กระชับ ในระบบที่พัฒนำขึ้นนี้ได้ใช้สำรำนุกรมออนไลน์
วิกิพีเดียภำษำไทยเป็นฐำนควำมรู้สำหรับตอบคำถำม โดยระบบสำมำรถสกัดข้อมูลที่มี
โครงสร้ำงจำกเอกสำรต่ำงๆ ที่อยู่ในสำรำนุกรมและนำมำเก็บอยู่ในรูปของResource
Description Framework (RDF) ระบบใช้วิธีค้นคืนคำตอบ 2 วิธี คือ 1. แปลง
คำถำมให้อยู่ในรูปคำค้นภำษำ SPARQL โดยเทียบคำถำมกับรูปแบบที่มีอยู่แล้วและดึง
ข้อมูลจำกฐำน RDF โดยตรง ซึ่งคำตอบที่ได้มักจะเป็นคำสั้นๆ 2. ใช้เทคนิคกำรค้นคืน
สำรสนเทศ (Information Retrieval) เมื่อไม่สำมำรถแปลงคำถำมให้เป็น
คำค้น SPARQLได้ ระบบจะสกัดคำสำคัญ (keyword) จำกคำถำมของผู้ใช้ และค้นคืน
จำกดัชนี (index)ของเอกสำรวิกิพีเดียที่เตรียมไว้แล้ว โดยจะพยำยำมเลือกช่วงข้อควำมที่
สั้นที่สุดและมีคำสำคัญในประโยคคำถำมมำเป็นคำตอบ คำตอบที่ได้จำกวิธีที่สองมักจะเป็น
ช่วงข้อควำมสั้นๆ ระบบที่พัฒนำขึ้นสนับสนุนคำถำม 5 ประเภท คือ คำถำมเกี่ยวกับบุคคล
คำถำมเกี่ยวกับองค์กร คำถำมเกี่ยวกับสถำนที่ คำถำมเกี่ยวกับตัวเลขเชิงปริมำณ และ
คำถำมเกี่ยวกับเวลำ
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
• โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนเพื่อพัฒนำเครื่องมือช่วย สร้ำงงำนประยุกต์
ต่ำงๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วำดรูป ซอฟต์แวร์
พิมพ์งำน และซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุมต่ำงๆ เป็นต้น สำหรับ
ซอฟต์แวร์เพื่อกำรพิมพ์งำนนั้นสร้ำงขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคำ ซึ่งจะเป็น
เครื่องมือให้เรำใช้ในกำรพิมพ์งำนต่ำงๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วน
ซอฟต์แวร์กำรวำดรูป พัฒนำขึ้นเพื่ออำนวยควำมสะดวกให้กำรวำดรูปบน
เครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่ำย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุ
ในมุมต่ำงๆ ใช้สำหรับช่วยกำรออกแบบสิ่งของ อำทิเช่น ผู้ใช้วำดแจกัน
ด้ำนหน้ำ และต้องกำรจะดูว่ำด้ำนบนและด้ำนข้ำงเป็นอย่ำงไร ก็ให้
ซอฟต์แวร์คำนวณค่ำและภำพที่ควรจะเป็นมำให้ เพื่อพิจำรณำและแก้ไข
ภำพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่ำงสะดวก
ตัวอย่างชื่อโครงงาน
• โปรแกรมกำรค้นหำคำภำษำไทย
• โปรแกรมอ่ำนอักษรไทย
• โปรแกรมวำดภำพสำมมิติ
• โปรแกรมเข้ำและถอดรหัสข้อมูล
• โปรแกรมบีบอัดข้อมูล
• โปรแกรมประมวลผลคำไทยบนระบบปฏิบัติกำรลีนุกซ์
• โปรแกรมกำรออกแบบผังงำน
• พอร์ตแบบขนำนของไทย
• กำรส่งสัญญำณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ตัวอย่างโครงงาน
• ชื่อโครงงาน ระบบบาร์โค้ดบนโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อการดาเนิน
ธุรกิจ
• ชื่อผู้ทาโครงงาน นำยฑีฆวัฒน์ เทพำนวล,นำยปวีณวัช สุรินทร์,นำย
ปิยะพงษ์ บุญมี
• ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา ผศ. ดร. สุขุมำล กิติสิน
• สถาบันการศึกษา มหำวิทยำลัยเกษตรศำสตร์
• ระดับชั้น ปริญญำตรี
• หมวดวิชา คอมพิวเตอร์
• วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน 1/1/2549
• บทคัดย่อ โครงกำรนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเทคนิคกำรสร้ำงบำร์โค้ดบนจอภำพโทรศัพท์เคลื่อนที่ มำใช้ใน
กำรพัฒนำ
• ระบบที่ประกอบด้วยโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่และเว็บเซอร์วิส เพื่อรองรับกำรทำงำนดังนี้คือ
• กำรขอรับใบแจ้งค่ำบริกำร กำรขอทำบัตรสมำชิก กำรจองและกำรซื้อตั๋วต่ำงๆ จำกเว็บเซอร์วิสผู้ให้บริกำรคือ
• หน่วยงำนของรัฐและเอกชนที่มีกำรใช้ใบแจ้งค่ำบริกำรหรือบัตรสมำชิก ผู้ให้บริกำรในระบบธุรกิจที่มีกำรใช้
ตั๋ว ตำมลำดับ ผ่ำนโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อใช้โปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่
แทนใบแจ้งค่ำบริกำร บัตรสมำชิก ตั๋วต่ำงๆและใช้ในกำรยืนยันกำรออกตั๋วจริงจำกจองตั๋วต่ำงๆ โดยระบบมี
กำรทำงำนดังนี้คือ เว็บเซอร์วิสของระบบจะทำหน้ำที่รวบรวมบริกำรและเป็นตัวกลำงในกำรเชื่อมต่อประสำน
กำรทำงำนเพื่อส่งผ่ำนข้อมูลใบแจ้งค่ำบริกำร ข้อมูลบัตรสมำชิก ข้อมูลหมำยเลขเฉพำะหรือข้อมูลหมำยกำร
จองของตั๋วต่ำงๆ ระหว่ำงเว็บเซอร์วิสผู้ให้บริกำรกับโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยลักษณะ
ข้อมูลที่ใช้ในกำรแลกเปลี่ยนเป็นรูปแบบเอกสำร XML ซึ่งโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ของระบบ
สำมำรถนำข้อมูลหมำยเลขบำร์โค้ดบนใบแจ้งค่ำบริกำร หมำยเลขบำร์โค้ดบนบัตรสมำชิก และหมำยเลข
เฉพำะหรือหมำยเลขกำรจองของตั๋วต่ำงๆ ทั้งจำกกำรเชื่อมต่อกับเว็บเซอร์วิสของระบบ กำรรับ
ข้อควำม SMS จำกผู้ให้บริกำรและกำรพิมพ์ข้อมูลโดยตรง มำทำกำรสร้ำงเป็นบำร์โค้ดบนจอภำพ
โทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อรองรับกำรอ่ำนจำกเครื่องอ่ำนบำร์โค้ดในกำรใช้งำนต่อไป โดยระบบที่พัฒนำขึ้นจะเป็น
นวัตกรรมใหม่ซึ่งช่วยอำนวยควำมสะดวกและช่วยให้เกิดควำมรวดเร็วในกำรดำเนินธุรกิจ โดยทำให้ผู้ใช้
ระบบในส่วนโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ของระบบสำมำรถลดภำระกำรเก็บดูแลรักษำบัตร
สมำชิก ใบแจ้งค่ำบริกำรและตั๋วต่ำงๆ เพิ่มควำมสะดวกรวดเร็วในกำรยืนยันออกตั๋วจริงจำกกำรจองตั๋วต่ำงๆ
ด้ำนผู้ให้บริกำรต่ำงๆ สำมำรถลดกำรใช้ต้นทุนและทรัพยำกรธรรมชำติจำกกำรผลิตบัตรสมำชิก ใบแจ้ง
ค่ำบริกำร และตั๋วต่ำงๆ เช่น พลำสติก กระดำษ หมึกพิมพ์ เป็นต้น โครงกำรนี้ได้มีกำรสร้ำงส่วนจำลองเพื่อใช้
ในกำรทดสอบระบบสองส่วน ส่วนแรกคือส่วนเว็บเซอร์วิสและโปรแกรมประยุกต์สำขำของผู้ให้บริกำร ส่วนที่
สองคือส่วนโปรแกรมประยุกต์ของบริษัทตัวแทนรับชำระเงิน
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
• เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรจำลองกำรทดลองของสำขำต่ำงๆ ซึ่ง
เป็นงำนที่ไม่สำมำรถทดลองด้วยสถำนกำรณ์จริงได้ เช่น กำรจุดระเบิด เป็น
ต้น และเป็นโครงงำนที่ผู้ทำต้องศึกษำรวบรวมควำมรู้ หลักกำร ข้อเท็จจริง
และแนวคิดต่ำงๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำแล้วเสนอเป็นแนวคิด
แบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยู่ในรูปของสูตร สมกำร หรือคำอธิบำย พร้อม
ทั้งำรจำลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมำเป็นภำพ ภำพที่ได้ก็จะ
เปลี่ยนไปตำมสูตรหรือสมกำรนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีควำมเข้ำใจได้ดี
ยิ่งขึ้น กำรทำโครงงำนประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้ในเรื่อง
นั้นๆ เป็นอย่ำงดี ตัวอย่ำงโครงงำนจำลองทฤษฎี เช่น กำรทดลองเรื่องกำร
ไหลของของเหลว กำรทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลำปิรันย่ำ และกำร
ทดลองเรื่องกำรมองเห็นวัตถุแบบสำมมิติ เป็นต้น
ตัวอย่างชื่อโครงงาน
• กำรทดลองปัจจัยต่ำงๆ ในกำรเลี้ยงปลำนิลด้วยคอมพิวเตอร์
• กำรทดลองปัจจัยต่ำงๆ ในกำรเพำะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
• กำรทำนำยอุณหภูมิจำกข้อมูลที่ผ่ำนมำ
• กำรทดลองผสมสำรเคมีต่ำงๆ ด้วยคอมพิวเตอร์
• ปัจจัยต่ำงๆ กับกำรเคลื่อนที่ของเครื่องบิน
• ผลกำรปลูกข้ำวในสภำวะแวดล้อมที่ต่ำงกัน
• กำรเปรียบเทียบเทคนิคของกำรย่อขนำดแฟ้ มข้อมูล
• โปรแกรมสังเครำะห์เสียงพูดเบื้องต้น
• โปรแกรมจำลองกำรทำงำนของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ตัวอย่างโครงงาน
• ชื่อโครงงาน การศึกษาการผลิตกระดาษหนัง จากพืชท้องถิ่น โดย
Acetobacter xylinum
• ชื่อผู้ทาโครงงาน เด็กหญิงรัชมังคลำ ผลค้ำ, เด็กหญิงภัทรสุดำ ฉำยำ
ภักดี ,เด็กหญิงอภิลักษมี ศรีไพรวรรณ
• ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา นำงพัชรินทร์ รุ่งรัศมี
• สถาบันการศึกษา โรงเรียนสำรคำมพิทยำคม จังหวัดมหำสำรคำม
• ระดับชั้น อื่นๆ
• หมวดวิชา คอมพิวเตอร์
• วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน 1/1/2541
• บทคัดย่อ กำรศึกษำกำรผลิตกระดำษหนัง (Parchment) จำกพืชท้องถิ่น โดย Acetobacter
xylinum ในนำพืชท้องถิ่นทั้ง 11 ชนิด เพื่อเป็นกำรนำเอำพืชที่มีอยู่ในท้องถิ่นซึ่งหำง่ำย และรำคำแพงมำ
ดัดแปลงให้เกิดมูลค่ำ ในกำรทดลองครั้งนี้ได้นำ Acetobacter xylinumที่มีอยู่ในห้องปฏิบัติกำรทำกำร
เลี้ยงและแยกเชื้อให้บริสุทธิ์เพื่อที่จะเก็บไว้เป็นหัวเชื้อในกำรทำกระดำษหนัง (Parchment) ตลอดจน
ศึกษำระดับ pH และควำมหวำนของพืชแต่ละชนิดก่อนที่จะนำมำทำอำหำรเลี้ยงเชื้อ โดยผลกำรศึกษำแบ่ง
ออกเป็น ดังนี้ตอน 1กำรศึกษำระดับ pH และควำมหวำนของพืชท้องถิ่น 11 ชนิด พืชที่มีระดับ pH สูงสุด คือ
ผักโขม รองลงมำคือ แห้วหมูและต่ำสุดคือ น้ำลูกเม่ำ เท่ำกับ 6.73 6.68 3.32 ตำมลำดับ ส่วนควำมหวำนพบว่ำ
พืชที่มีควำมหวำนสูงสุดคือ สับปะรด แตงโม ต่ำสุดคือ แห้วหมู เท่ำกับ 11 Brix 8 Brix 0.4 Brix
ตำมลำดับ จำกนั้นทำกรปรับระดับ pH ของพืชให้อยู่ที่ 3.5 – 4.5 และควำมหวำนให้อยู่ในระดับ 11 Brix -
12 Brix
ก่อนที่จะนำมำทำอำหำรเลี้ยงเชื้อ ตอน 2 กำรศึกษำกำรสร้ำงผลผลิตของ Acetobacter xylinum ใน
ระยะเวลำ 5 , 10 , 15 วัน ซึ่งจำกกำรทดลองในพืชทั้ง 11 ชนิด ภำยในเวลำ5 วัน พบว่ำพืชที่ให้ผลผลิตสูงสุด
คือ กะพังโหม รองลงมำคือ แตงโม มีควำมหนำเท่ำกับ0.9 cm 0.7 cm และพืชที่ให้ผลผลิตต่ำที่สุด คือ ผัก
โขมและแห้วหมู มีควำมหนำเท่ำกัน คือ 0.1 cm เมื่อเลี้ยงภำยในเวลำ 10 วัน พบว่ำพืชที่ให้ผลผลิตสูงสุดคือ
กะพังโหม รองลงมำคือ แตงโม และพืชที่ให้ผลผลติต่ำสุดคือ ย่ำนำง เท่ำกับ 1.1 cm 0.9 cm 0.2 cm
ตำมลำดับ และเมื่อเลี้ยงภำยใน 15 วัน พบว่ำพืชที่ให้ผลผลิตสูงสุดคือ กะพังโหม รองลงมำคือ แตงโม และพืชที่
ให้ผลผลิตต่ำสุดคือ ย่ำนำง มีควำมหนำเท่ำกับ 1.5 cm 1.2 cmและ 0.2 cm ตำมลำดับ
จำกนั้นนำผลผลติที่ได้ไปทดสอบว่ำเป็นคำร์โบไฮเดรตประเภทแป้ งหรือเซลลูโลสโดยวิธีกำรทดสอบด้วย
สำรละลำยไอโอดีนและสำรละลำยเบเนดิกส์ โดยนำผลผลติที่ได้ไปปั่นด้วยเครื่องปั่นไฟฟ้ ำ และแบ่งชุดทดลอง
ออกเป็นสองชุด ให้ชุดทดลองที่ 1 นำไปหยดด้วยสำรละลำยไอโอดีนไม่เกิดกำรเปลี่ยนแปลงแสดงว่ำผลผลิตที่
ได้นี้ไม่ใช่คำร์โบไฮเดรตประเภทแป้ ง ส่วนในชุดทดลองที่ 2 นำผลผลิตที่ปั่นด้วยเครื่องปั่นไฟฟ้ ำแล้ว ไปต้มกับ
กรดซัลฟัวริก แล้วนำสำรละลำยเบเนดิกส์มำหยด จะเกิดตะกอนสีแดงอิฐ จึงสำมำรถสรุปได้ว่ำเป็น
คำร์โบไฮเดรตประเภทเซลลูโลส
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรม
ประยุกต์”
• โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนพัฒนำซอฟต์แวร์เกมเพื่อควำมรู้หรือ
เพื่อควำม เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนำควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นกำร
ใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่ำงมีหลักกำร โครงงำนประเภทนี้จะมีกำรออกแบบ
ลักษณะและกฎเกณฑ์กำรเล่น เพื่อให้น่ำสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้
ควำมรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนำควรจะได้ทำกำรสำรวจและรวบรวม
ข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่ำงๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนำมำปรับปรุงหรือพัฒนำขึ้น
ใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่ำสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่ำงๆ
ตัวอย่างชื่อโครงงาน
• เกมผจญภัยกับพระอภัยมณี
• เกมอักษรเขำวงกต
• เกมเลือกตั้งสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร
• เกมผจญภัย
ตัวอย่างโครงงาน
• โครงการ "การแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย (National
Software Contest : NSC)“
• คอมพิวเตอร์มีบทบำทสำคัญมำกในชีวิตประจำวันและนับวันยิ่งมีบทบำทยิ่งขึ้นในทุกขณะ กำรพัฒนำ
ทักษะในกำรเขียนโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์นั้น ประเทศไทยมีศักยภำพในกำรแข่งขันกับ
ต่ำงประเทศได้ แต่กำรผลิตบุคลำกรที่จะมำพัฒนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้เพียงพอนั้น จำต้องอำศัย
บุคลำกรจำนวนมำกเพื่อเพิ่มศักยภำพในกำรแข่งขันให้กับประเทศ จำกควำมจำเป็นดังกล่ำว ศูนย์
เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชำติ (เนคเทค) จึงได้จัดทำโครงกำรกำรแข่งขันพัฒนำ
โปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทยนี้เพื่อเป็นกำรกระตุ้นให้นักเรียน นิสิต นักศึกษำได้มีโอกำสพัฒนำ
ทักษะกำรพัฒนำซอฟต์แวร์และนำเอำควำมรู้ที่ได้เรียนมำประยุกต์ใช้ในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำน โดย
สนับสนุนเงินทุนเพื่อเป็นแรงจูงใจและกระตุ้นให้นักเรียน นิสิต นักศึกษำทำกำรพัฒนำซอฟต์แวร์ด้วย
ตนเองและเปิดโอกำสให้มีกำรประกวดแข่งขันชิงเงินรำงวัลในระดับประเทศ อันจะเป็นกำรสร้ำงเวที
สำหรับเยำวชนและผู้ที่สนใจในกำรพัฒนำควำมรู้สู่กำรเป็นนักวิจัยระดับอำชีพต่อไปจำก “โครงกำร
สนับสนุนกำรพัฒนำซอฟต์แวร์ขนำดเล็ก” ซึ่งได้เริ่มดำเนินกำรครั้งแรกตั้งแต่ปีงบประมำณ2537 เนคเทค
ได้ปรับกลยุทธ์ในกำรดำเนินโครงกำรโดยจัดให้มีเวทีกำรแข่งขันในระดับประเทศและเปลี่ยนชื่อเป็น “กำร
แข่งขันพัฒนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย (National Software Contest :
NSC)” ในปี พ.ศ. 2542 ซึ่งผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทจะได้รับถ้วยพระรำชทำนจำกสมเด็จพระเทพ
รัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี
• นอกจำกนั้น เนคเทค ยังได้ร่วมกับ SIPA และสมำคมอุตสำหกรรม
เทคโนโลยีสำรสนเทศไทย ส่งผลงำนซอฟต์แวร์ที่ได้รับรำงวัลชนะเลิศเข้ำ
ร่วมกำรประกวดในงำน Asia Pacific ICT Awards
(APICTA) ในประเภทนักเรียน และนิสิต นักศึกษำ ซึ่ง
งำน APICTA นี้เป็นกำรประกวดผลงำนด้ำนซอฟต์แวร์ในด้ำนต่ำงๆ
สำหรับประเทศในภูมิภำคเอเชีย-แปซิฟิกที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริม
ผู้ประกอบกำรและอุตสำหกรรมด้ำนไอซีทีของประเทศในภูมิภำค เปิด
โอกำสให้มีกำรนำเสนอผลงำนซอฟต์แวร์ที่มีคุณภำพ และศักยภำพทำง
ธุรกิจและกำรตลำดจำกผู้ประกอบกำร ผู้เชี่ยวชำญ ภำคกำรศึกษำ และ
นักเรียน นิสิต นักศึกษำ โดยประเทศในภูมิภำคผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน
เป็นเจ้ำภำพ โดยประเทศไทยสำมำรถคว้ำรำงวัลจำกเวทีดังกล่ำวอย่ำง
ต่อเนื่องทุกปีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
โครงกำร link: www.nectec.or.th/nsc
ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”
• โครงงำนประยุกต์ใช้งำนเป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำร สร้ำงผลงำน
เพื่อประยุกต์ใช้งำนจริงในชีวิตประจำวัน อำทิเช่น ซอฟต์แวร์สำหรับกำร
ออกแบบและตกแต่งภำยในอำคำร ซอฟต์แวร์สำหรับกำรผสมสี และ
ซอฟต์แวร์สำหรับกำรระบุคนร้ำย เป็นต้น โครงงำนประเภทนี้จะมีกำร
ประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่ำงๆ ซึ่งอำจเป็นกำรคิด
สร้ำงสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี
ประสิทธิภำพสูงขึ้น โครงงำนลักษณะนี้จะต้องศึกษำและวิเครำะห์ควำม
ต้องกำรของผู้ใช้ก่อน แล้วนำข้อมูลที่ได้มำใช้ในกำรออกแบบ และพัฒนำ
สิ่งของนั้นๆ ต่อจำกนั้นต้องมีกำรทดสอบกำรทำงำนหรือทดสอบคุณภำพของ
สิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีควำมสมบูรณ์ โครงงำนประเภทนี้ผู้เรียน
ต้องใช้ควำมรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภำษำโปรแกรม และเครื่องมือ
ต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่างชื่อโครงงาน
• ระบบบริหำรจัดกำรข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน
• ระบบจัดกำรข้อมูลกำรเงินส่วนบุคคล
• ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต
• ระบบแนะนำเส้นทำงเดินรถประจำทำง
• โปรแกรมสังเครำะห์เสียงสำหรับคนตำบอดบนรถประจำทำง
• โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ
• โฮมเพจส่วนบุคคล
• โปรแกรมช่วยปฐมพยำบำลเบื้องต้น
• โปรแกรมพจนำนุกรมไทย-อังกฤษ
ตัวอย่างโครงงาน
• ชื่อโครงงาน ซียูเท็กซ์ไทล์: ซอฟต์แวร์ออกแบบลายผ้าสามมิติ CU
Textile Design
• ชื่อผู้ทาโครงงาน นำงสำวอัจฉริยำ วิเศษเกษม , นำยณัฐ ศรีกฤษณ
พล , นำยอำชว์ สรรพอำษำ
• ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์.ดร. พิษณุ คนองชัยยศ
• สถาบันการศึกษา คณะวิศวกรรมศำสตร์ ภำควิชำวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย
• ระดับชั้น ปริญญำตรี
• หมวดวิชา คอมพิวเตอร์
• วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน 1/1/2541
• บทคัดย่อ อุตสำหกรรมแฟชัน ประกอบไปด้วย อุตสำหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสำหกรรมรองเท้ำ
และเครื่องหนัง และอุตสำหกรรมอัญมณี และเครื่องประดับ ตำมรำยงำนของกระทรวงอุตสำหกรรมแล้ว
ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงำนแฟชัน ไม่ต่ำกว่ำ 10,207 โรงงำน คนงำน ประมำณ 1.58 ล้ำนคน และมี
มูลค่ำกำรส่งออกในปี 2545 ประมำณ 346,822.3ล้ำนบำท คิดเป็นร้อยละ 6.2 ของ GDP
ปัญหำที่ประสบของอุตสำหกรรมแฟชันในปัจจุบัน คือ ปัญหำแนวโน้มกำรส่งออกที่ลดลงอย่ำงต่อเนื่อง
ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2545 โดยปัจจัยของกำรถดถอย ได้แก่ ผู้ประกอบกำรของไทยส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้รับจ้ำงผลิต
หรือ
โออีเอ็ม (Original Equipment Manufacture: OEM)
ผลิตสินค้ำคุณภำพระดับล่ำง และไม่สร้ำงมูลค่ำเพิ่ม รวมทั้งมีกำรแข่งขันสูงขึ้นจำกประเทศที่มีต้นทุนและ
ค่ำจ้ำงแรงงำนต่ำ เช่น จีน เวียดนำมและอินโดนีเซีย เป็นเหตุให้คณะรัฐมนตรีตระหนักถึงควำมสำคัญของ
กำรส่งเสริมอุตสำหกรรมแฟชัน จึงได้มีมติเห็นชอบในกิจกรรมกำรเปิดตัวโครงกำรกรุงเทพฯเมืองแฟชัน
โดยคำสั่งจำกกระทรวงอุตสำหกรรม เพื่อสร้ำงธุรกิจ จำกกำรที่ประเทศไทยมีภำพลักษณ์โดดเด่นด้ำนแฟ
ชัน และเพื่อให้ตรำสินค้ำไทยเป็นที่ยอมรับ รวมทั้งสร้ำงมูลค่ำเพิ่มในกำรส่งออก งบประมำณและรำยได้
รวมทั้งเป็นศูนย์กลำงแฟชันอย่ำงแท้จริง
หนึ่งในกิจกรรมที่สำมำรถส่งเสริมอุตสำหกรรมดังกล่ำว คือกำรวิจัยและพัฒนำ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อ
เพิ่มมูลค่ำของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งอุตสำหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มนั้น กำรเพิ่มศักยภำพของ
ขั้นตอนกำรออกแบบลำยผ้ำสำมำรถเพิ่มมูลค่ำของผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มได้อย่ำงสูง จึงเกิดแนวคิดในกำร
พัฒนำเครื่องมือในลักษณะโปรแกรมจำลองลำยผ้ำสำมมิติขึ้น เพื่อช่วยพัฒนำขีดควำมสำมำรถในกำร
ออกแบบลำยผ้ำสำหรับนักออกแบบหรือดีไซเนอร์ ให้ผลิตสินค้ำที่มีรูปแบบและคุณภำพระดับสำกล อีกทั้ง
ยังลดระยะเวลำ ค้นทุน และควำมผิดพลำดในกำรผลิต
• กำรออกแบบลำยผ้ำ (Textile design) เป็นกำรผสมผสำนกันระหว่ำงเทคนิค กำรผลิต และควำมคิด
สร้ำงสรรค์ ให้ตรงกับ ควำมต้องกำรของผู้บริโภค ซึ่งลวดลำยผ้ำในปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ลวดลำยที่เกิด
จำกสี และลวดลำยที่เกิดจำกกำรขัดกันของเส้นด้ำย หำกลวดลำยที่เกิดจำกสีนั้นหลุดไป ผ้ำก็ยังคงเป็นผืนผ้ำและใช้
ประโยชน์ได้ เรียกลวดลำยประเภทนี้ว่ำ ลวดลำยตกแต่ง (Decorative design) เกิดจำกกำรย้อม และพิมพ์
พลิกแพลงแบบต่ำงๆ ส่วนลวดลำยที่เกิดจำกกำรขัดกันของเส้นด้ำย หำกดึงเอำเส้นด้ำย ที่เป็นลวดลำยออก ลำยผ้ำ
บริเวณนั้นจะเสื่อมสภำพไป ไม่สำมำรถใช้ประโยชน์ได้ เรียกว่ำลวดลำยโครงสร้ำง (Structural) ซึ่งเกิดจำกกำร
ทอ
กำรออกแบบสิ่งทอนี้เริ่มต้นจำกกำรพิจำรณำวัตถุดิบ อันได้แก่ เส้นใย เส้นด้ำย ผ้ำ และกำรตกแต่ง แล้วจึงเริ่ม
ออกแบบลวดลำยผ้ำซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพรำะเป็นขั้นตอนที่จะตัดสินว่ำ ผ้ำจะสวยงำมและตรงตำม
ควำมต้องกำรของผู้บริโภคหรือไม่ กำรปฏิบัติงำนแต่ละขั้นตอน จึงต้องอำศัยผู้ชำนำญเพื่อให้เกิดควำมผิดพลำด
น้อยที่สุด ซึ่งโปรแกรมจำลองลำยผ้ำสำมมิติ จะช่วยให้ผู้ผลิตเห็นโครงร่ำงของลำยผ้ำที่ออกแบบไว้ ในลักษณะ
เสมือนจริง เป็น สำมมิติ เพื่อให้เห็นจุดบกพร่องของกำรออกแบบนั้นๆ อย่ำงชัดเจน และสำมำรถแก้ไขได้โดยสะดวก
ก่อนนำเข้ำสู่กระบวนกำรผลิต ซึ่งเป็นกำรลดค่ำใช้จ่ำยของผู้ประกอบกำร และยังสนับสนุนกำรเชื่อมโยงวงจรกำร
ผลิตให้มีศักยภำพในภำคธุรกิจอุตสำหกรรมมำกขึ้น
ในปัจจุบัน มีซอฟต์แวร์ซึ่งสำมำรถใช้งำนในกำรออกแบบลำยผ้ำได้ เช่น Photoshop หรือกำรจำลองสำมมิติ
โดยโปรแกรมมำยำ (Maya) หรือ ทรีดีสตูดิโอแม๊กซ์ (3D Studio Max) รวมทั้ง อรำห์วีฟ แคด แคม
(Aearah Weave CAD CAM) ซึ่งเป็นโปรแกรมจำลองลำยผ้ำโดยเฉพำะ แต่โปรแกรมดังกล่ำวอำจทำให้
ผู้ผลิตต้องใช้ต้นทุนทำงด้ำนเวลำสูงยิ่งขึ้น เพื่อจัดกำรศึกษำและอบรบโปรแกรมหลำยโปรแกรมประกอบกัน รวมทั้ง
ต้องอำศัยควำมชำนำญมำกกว่ำ เนื่องจำกไม่มีเครื่องมือ ที่อำนวยควำมสะดวก ในกำรออกแบบลำยผ้ำโดยเฉพำะ
อีกทั้งมีปัญหำทำงด้ำนลิขสิทธิ์ (license) ทำให้มีต้นทุนในกำรผลิตสูงขึ้น จะเห็นได้ว่ำ โปรแกรมออกแบบลำยผ้ำ
สำมมิติ สำมำรถแก้ปัญหำดังกล่ำวได้อย่ำงครบถ้วน และนอกจำกนี้ยังเป็นกำรส่งเสริมวงกำรอุตสำหกรรมแฟชัน
ของประเทศไทยซึ่งเป็นอุตสำหกรรมที่สำคัญของเมืองไทยให้ก้ำวหน้ำยิ่งขึ้นอีกด้วย
บรรณานุกรม
• http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7
• http://namkwanmay.wordpress.com/2011/02/08/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%
80%E0%B8%A0%E0%B8%97%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%
B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%
E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7/
• https://sites.google.com/site/luksaduankhorngnganthekhnoloyi/tawxyang-khorng-ngan-
khxmphiwtexr
• http://dekwachi.makewebeasy.com/content-
%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8
%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0
%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%8
7%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B
8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E-4-2527-48429-1.html
• http://luckystarsw.wordpress.com/category/โครงงำนคอมพิวเตอร์
• http://namkwanmay.wordpress.com
• http://www.slideshare.net/Phkphoom/3-13694340 http://sw6653.files.wordpress.com/2011/01
• http://krudarin.wordpress.com
• http://projectzeed.blogspot.com/2011/08/blog-post.html
• http://www.lks.ac.th/kuanjit/s4.htm

More Related Content

What's hot

ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
Mind Kyn
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
kimaira99
 
ใบงานที่ 3 แบงค์
ใบงานที่ 3 แบงค์ใบงานที่ 3 แบงค์
ใบงานที่ 3 แบงค์
ValenKung
 
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
Preeyaporn Wannamanee
 
โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
cartoon656
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
Meaw Sukee
 
โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8
JoyCe Zii Zii
 
โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8
Aungkana Na Na
 
โครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
โครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์โครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
โครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
Thitinun Phoawleeklee
 

What's hot (15)

Ch3
Ch3Ch3
Ch3
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่ 3 แบงค์
ใบงานที่ 3 แบงค์ใบงานที่ 3 แบงค์
ใบงานที่ 3 แบงค์
 
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
 
งาน3
งาน3งาน3
งาน3
 
K7
K7K7
K7
 
โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
 
โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8
 
ใบงานที่ 8
ใบงานที่ 8ใบงานที่ 8
ใบงานที่ 8
 
โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8
 
STKS internship 2552
STKS internship 2552STKS internship 2552
STKS internship 2552
 
โครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
โครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์โครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
โครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
 

Viewers also liked

E learning management system
E learning management systemE learning management system
E learning management system
chrt222
 
Խաղ Անուշադիրների համար
Խաղ Անուշադիրների համարԽաղ Անուշադիրների համար
Խաղ Անուշադիրների համար
Rafo Mnacakanyan
 
ใบงานสำรวจตนเอง M6 10 ฟะฟแฟกนส
ใบงานสำรวจตนเอง M6 10 ฟะฟแฟกนสใบงานสำรวจตนเอง M6 10 ฟะฟแฟกนส
ใบงานสำรวจตนเอง M6 10 ฟะฟแฟกนส
Natachadol Yinsoad
 
ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6
Fam Santiboon
 
Classroom procedures
Classroom proceduresClassroom procedures
Classroom procedures
Alona Alcala
 
Ix564 design of learning environments unit 1 intro
Ix564 design of learning environments  unit 1 introIx564 design of learning environments  unit 1 intro
Ix564 design of learning environments unit 1 intro
nails26
 
الجريمة الانتخابية
الجريمة الانتخابيةالجريمة الانتخابية
الجريمة الانتخابية
IHEC2013
 
如何做報告 (How to make a presentation?)
如何做報告 (How to make a presentation?)如何做報告 (How to make a presentation?)
如何做報告 (How to make a presentation?)
Frank Fang Kuo Yu
 
Ix535 unit 1 wiki
Ix535 unit 1 wikiIx535 unit 1 wiki
Ix535 unit 1 wiki
nails26
 

Viewers also liked (20)

Sangregorio
SangregorioSangregorio
Sangregorio
 
E learning management system
E learning management systemE learning management system
E learning management system
 
Խաղ Անուշադիրների համար
Խաղ Անուշադիրների համարԽաղ Անուշադիրների համար
Խաղ Անուշադիրների համար
 
David
DavidDavid
David
 
Sectoreseconmicos
SectoreseconmicosSectoreseconmicos
Sectoreseconmicos
 
Radichi maria emilia
Radichi maria emiliaRadichi maria emilia
Radichi maria emilia
 
Miishell trabajo
Miishell trabajoMiishell trabajo
Miishell trabajo
 
ใบงานสำรวจตนเอง M6 10 ฟะฟแฟกนส
ใบงานสำรวจตนเอง M6 10 ฟะฟแฟกนสใบงานสำรวจตนเอง M6 10 ฟะฟแฟกนส
ใบงานสำรวจตนเอง M6 10 ฟะฟแฟกนส
 
ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6
 
Classroom procedures
Classroom proceduresClassroom procedures
Classroom procedures
 
Ix564 design of learning environments unit 1 intro
Ix564 design of learning environments  unit 1 introIx564 design of learning environments  unit 1 intro
Ix564 design of learning environments unit 1 intro
 
WebRTC and the Codec War
WebRTC and the Codec WarWebRTC and the Codec War
WebRTC and the Codec War
 
الجريمة الانتخابية
الجريمة الانتخابيةالجريمة الانتخابية
الجريمة الانتخابية
 
如何做報告 (How to make a presentation?)
如何做報告 (How to make a presentation?)如何做報告 (How to make a presentation?)
如何做報告 (How to make a presentation?)
 
Pride workshop: LMBQ fiatalként az iskolában
Pride workshop: LMBQ fiatalként az iskolábanPride workshop: LMBQ fiatalként az iskolában
Pride workshop: LMBQ fiatalként az iskolában
 
Using Video For Business
Using Video For Business Using Video For Business
Using Video For Business
 
Samir
SamirSamir
Samir
 
Ix535 unit 1 wiki
Ix535 unit 1 wikiIx535 unit 1 wiki
Ix535 unit 1 wiki
 
Dibujos animados
Dibujos animadosDibujos animados
Dibujos animados
 
Sectores económicos
Sectores económicosSectores económicos
Sectores económicos
 

Similar to โครงงาน 2

ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
suparada
 
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
siratanap
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
Aoy Amm Mee
 
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษาความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
สุชาติ องค์มิ้น
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่  3ใบงานที่  3
ใบงานที่ 3
nampeungnsc
 

Similar to โครงงาน 2 (20)

K3
K3K3
K3
 
แบบทดสอบที่ 1
แบบทดสอบที่ 1แบบทดสอบที่ 1
แบบทดสอบที่ 1
 
Work.com3
Work.com3Work.com3
Work.com3
 
K3
K3K3
K3
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
K3
K3K3
K3
 
K3
K3K3
K3
 
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Com3com
Com3comCom3com
Com3com
 
กิจกรรมที่ 2 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 2 โครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 2 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 2 โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2
 
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษาความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Computer Project
Computer ProjectComputer Project
Computer Project
 
2 3-4
2 3-42 3-4
2 3-4
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่  3ใบงานที่  3
ใบงานที่ 3
 

โครงงาน 2

  • 1. โครงงาน ผู้จัดทำ นำยศำนติบูรณ์ สถิตธีรธรรม ม.6/10 เลขที่9 นำยวิวัฒน์ เลิศลำภยศ ม.6/10 เลขที่10
  • 2. ความหมาย • โครงงำนอำชีพ หมำยถึง กิจกรรมศึกษำวิชำกำรงำนที่ส่งเสริมสนับสนุน ให้ผู้เรียนได้เลือกศึกษำค้นคว้ำ ริเริ่มสร้ำงสรรค์ผลงำน ตำมที่ตนเองมี ควำมถนัด มีควำมพร้อม และสนใจ แล้วลงมือปฏิบัติให้บรรลุตำม จุดมุ่งหมำยที่กำหนดไว้ โดยมีรำยละเอียดของงำนที่จะจัดทำไว้ล่วงหน้ำ เป็นขั้นตอนพร้อมทั้งคำดกำรณ์ผลที่จะเกิดขึ้น ทั้งที่โดยได้รับคำแนะนำ จำกผู้รู้ และครู-อำจำรย์ ที่ทำหน้ำที่เป็นที่ปรึกษำของกลุ่ม
  • 3. ความสาคัญ • 1. ด้ำนผู้เรียน ก่อให้เกิดคุณค่ำต่ำงๆ ได้แก่ ช่วยสร้ำงควำมหวังใหม่ในกำร ริเริ่มงำน สร้ำงเสริมประสบกำรณ์จำกกำรปฏิบัติจริง ได้มีโอกำสทดสอบควำมถนัด ของตนเอง ก่อให้เกิดควำมรักควำมเข้ำใจและควำมสัมพันธ์อันดีภำยในกลุ่ม พร้อม ทั้งเกิดควำมรู้ทำงวิชำกำรที่กว้ำงขวำงขึ้นและเกิดควำมภำคภูมิใจในควำมสำเร็จของ งำน 2. ด้ำนสถำบันและครูอำจำรย์ที่ปรึกษำกลุ่ม ก่อให้เกิดคุณค่ำทำงกำร ประสำนงำน โดยเกิดควำมเข้ำใจที่ตรงกันว่ำกำรเรียนกำรสอนในปัจจุบันขึ้นอยู่กับ กำรปฏิบัติจริงในโครงงำนของผู้เรียนมำกกว่ำที่จะเรียนอยู่ในห้องเรียนเท่ำนั้น 3. ด้ำนชุมชน / ท้องถิ่น ก่อให้เกิดคุณค่ำทำงกำรเผยแพร่และ ประชำสัมพันธ์ชุมชน อีกทั้งชุมชนได้มีส่วนร่วมในกำรขยำยผลทำงควำมรู้ ควำมสำมำรถที่มีอยู่ ให้แก่ผู้เรียนรุ่นต่อไป โดยสร้ำงนิสัยรักกำรทำงำนเกิดงำนอำชีพ ที่หลำกหลำยและมีกำรพัฒนำอำชีพในชุมชนด้วย
  • 4. การเขียนโครงงาน • ส่วนประกอบและวิธีเขียนโครงงำน มีรำยละเอียดดังต่อไปนี้ 1. ชื่อโครงงาน ควรตั้งชื่อโครงงำนอำชีพให้สื่อควำมหมำยได้ชัดเจน ครอบคลุมควำมหมำยของกิจกรรมอำชีพที่ทำให้ ชัดเจนว่ำทำอะไร ไม่ควรตั้งชื่อโครงงำนที่มีควำมหมำยกว้ำงเกินไปตัวอย่ำงเช่น โครงงำนปลูกมะละกอ โครงงำนทำโคมไฟฟ้ ำ 2. ชื่อผู้ดาเนินโครงงาน ระบุชื่อผู้ดำเนินโครงงำนในกรณีที่เป็นงำนกลุ่มต้องระบุหน้ำที่ควำมรับผิดชอบของแต่ละคน และกำรลงทุนของแต่ละคนไว้ให้ชัดเจน ซึ่งทั้งนี้ควรพิจำรณำควำมเหมำะสมในด้ำนควำมสำมำรถ โอกำสในกำรทำงำนและ กำลังทุนทรัพย์สิน ของแต่ละบุคคล 3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ 4. หลักการและเหตุผลหรือควำมสำคัญของโครงงำน ควรกล่ำวถึงสภำพชุมชนและควำมต้องกำรของตลำดที่ เกี่ยวข้องกับอำชีพตำมที่ได้ศึกษำมำ และอธิบำยว่ำโครงงำนนี้จะสนองควำมต้องกำรของชุมชนได้อย่ำงไร 5. วัตถุประสงค์ จะต้องกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนว่ำ โครงงำนอำชีพนี้ผู้เรียนจะทำอะไรโดยเขียนให้เห็นว่ำ กิจกรรมหรือพฤติกรรมที่จะดำเนินกำรมีอะไรบ้ำง หำกมีวัตถุประสงค์หลำยประกำรก็ควรเขียนเป็นข้อ ๆ ตำมลำดับควำมสำคัญ 6. เป้ าหมาย กำหนดเป้ ำหมำยของผลผลิตในช่วงเวลำให้ชัดเจนคือ อะไร มีปริมำณเท่ำใดและคุณภำพเป็นอย่ำงไร 7. ระยะเวลา กำหนดระยะเวลำตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกำรดำเนินโครงงำน 8. งบประมาณ จัดทำรำยละเอียดรำยจ่ำยที่เกิดขึ้นในกำรดำเนินโครงงำน ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ำย ซึ่ง ประกอบด้วยตัววัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เป็นต้น 9. ขั้นตอนวิธีดาเนินงาน เขียนเป็นรำยละเอียดขั้นตอนของกำรทำงำน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงงำนโดยเขียนเป็น แผนปฏิบัติงำน ซึ่งประกอบด้วยหัวข้อ กิจกรรม ระยะเวลำ สถำนศึกษำ ทรัพยำกร/ปัจจัยเป็นต้น รำยละเอียดดังกล่ำวจะทำให้ผู้ที่ ปรึกษำหรือผู้ดำเนินงำนติดตำมกำกับงำนได้อย่ำงมีระบบแก้ไขปัญหำได้ทันท่วงที 8. การติดตามและการประเมินผล เป็นวิธีกำรหรือเทคนิคในกำรดูแลและควบคุมกำรปฏิบัติงำนให้บรรลุ วัตถุประสงค์ ทั้งนี้ต้องบอกให้ชัดเจนว่ำก่อนเริ่มทำโครงงำน ระหว่ำงทำโครงงำนและหลังกำรทำโครงงำน จะมีกำรติดตำมและ ประเมินผลอย่ำงไร 9. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ให้ระบุผลที่จะเกิดขึ้นเมื่อเสร็จสิ้นโครงงำน เป็นผลที่ได้รับโดยตรงและผลพลอยได้หรือ ผลกระทบจำกโครงงำนเป็นผลในด้ำนดีที่คำดว่ำจะได้รับจะต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์และเป้ ำหมำย
  • 5. ขอบข่าย - ดำเนินงำนโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้ำงสรรค์ และครูอำจำรย์ เป็นผู้ให้คำแนะนำปรึกษำ มีองค์ประกอบดังนี้ • 1. เป็นกิจกรรมกำรเยนให้นักเรียนศึกษำ ค้นคว้ำ ปฏิบัติด้วยตนเองอำศัยหลักวิชำกำร ทำงทฤษฎีตำมเนื้อหำโครงงำนนั้นๆ หรือจำกประสบกำรณ์และกิจกรรมต่ำงๆที่ได้พบเห็น มำกแล้ว • 2. นักเรียนทุกคนพิจำรณำจัดทำโครงงำนด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้เวลำสั้นๆ เป็น ภำคเรียน หรือมำกกว่ำก็ได้ แล้วแต่โครงงำนเล็กหรือใหญ่ • 3. นักเรียนเป็นผู้พิจำรณำริเริ่มสร้ำงสรรค์ คัดเลือกโครงงำนที่จะศึกษำค้นคว้ำปฎิบัติ ด้วยตนเองควำมภวำมถนัด สนใจ ควำมพร้อม • 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงำน รำยละเอียดของโครงงำน แผนปฎิบัติงำนและกำรแปล ผล รำยงำนผลต่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ เพื่อดำเนินงำนร่วมกันให้บรรลุผลตำมจุดหมำยที่ กำหนดไว้ • 5. เป็นโครงำนที่เหมำะสมกับควำมรู้ ควำมสำมำรถของนักเรียนตำมวัยและสติปัญญำ รวมทั้งกำรใช้จ่ำยเงินดำเนินงำนด้วย
  • 6. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ 1. โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ ลักษณะเด่นของโครงงำนประเภทนี้คือ เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ใน กำรผลิตสื่อเพื่อกำรศึกษำ โดยกำรสร้ำงโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยกำร เรียน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ซึ่งอำจเป็นกำรพัฒนำบทเรียนแบบ ออนไลน์ให้ผู้เรียนเข้ำมำศึกษำด้วยตนเองก็ได้ โครงงำนประเภทนี้สำมำรถ พัฒนำขึ้นเพื่อใช้ประกอบกำรสอนในวิชำต่ำงๆ โดยอำจคัดเลือกเนื้อหำที่ เข้ำใจยำก มำเป็นหัวข้อในกำรพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ เช่น กำรเคลื่อนที่ แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวำล ฯลฯ
  • 7. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ 2.โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ใช้งำน โครงงำนประยุกต์ใช้งำนเป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำร สร้ำงผลงำนเพื่อ ประยุกต์ใช้งำนจริงในชีวิตประจำวัน อำทิเช่น ซอฟต์แวร์สำหรับกำรออกแบบและตกแต่ง ภำยในอำคำร ซอฟต์แวร์สำหรับกำรผสมสี และซอฟต์แวร์สำหรับกำรระบุคนร้ำย เป็นต้น โครงงำนประเภทนี้จะมีกำรประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่ำงๆ ซึ่ง อำจเป็นกำรคิดสร้ำงสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภำพสูงขึ้น โครงงำนลักษณะนี้จะต้องศึกษำและวิเครำะห์ควำมต้องกำรของผู้ใช้ ก่อน แล้วนำข้อมูลที่ได้มำใช้ในกำรออกแบบ และพัฒนำสิ่งของนั้นๆ ต่อจำกนั้นต้องมี กำรทดสอบกำรทำงำนหรือทดสอบคุณภำพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีควำม สมบูรณ์ โครงงำนประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ควำมรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภำษำ โปรแกรม และเครื่องมือต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • 8. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ 3.โครงงำนพัฒนำเกม โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนพัฒนำซอฟต์แวร์เกมเพื่อควำมรู้หรือเพื่อ ควำม เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนำควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นกำรใช้สมอง เพื่อฝึกคิดอย่ำงมีหลักกำร โครงงำนประเภทนี้จะมีกำรออกแบบลักษณะ และกฎเกณฑ์กำรเล่น เพื่อให้น่ำสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ควำมรู้ สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนำควรจะได้ทำกำรสำรวจและรวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับเกมต่ำงๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนำมำปรับปรุงหรือพัฒนำขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่ำสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่ำงๆ
  • 9. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ 4.โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนเพื่อพัฒนำเครื่องมือช่วย สร้ำงงำนประยุกต์ ต่ำงๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วำดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์ งำน และซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุมต่ำงๆ เป็นต้น สำหรับซอฟต์แวร์เพื่อ กำรพิมพ์งำนนั้นสร้ำงขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคำ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เรำใช้ ในกำรพิมพ์งำนต่ำงๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์กำรวำดรูป พัฒนำขึ้นเพื่ออำนวยควำมสะดวกให้กำรวำดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไป ได้ โดยง่ำย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุมต่ำงๆ ใช้สำหรับช่วยกำร ออกแบบสิ่งของ อำทิเช่น ผู้ใช้วำดแจกันด้ำนหน้ำ และต้องกำรจะดูว่ำด้ำนบน และด้ำนข้ำงเป็นอย่ำงไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คำนวณค่ำและภำพที่ควรจะเป็นมำให้ เพื่อพิจำรณำและแก้ไขภำพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่ำงสะดวก
  • 10. 5. โครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในกำร จำลองกำรทดลอง ของสำขำต่ำงๆ ซึ่งเป็นงำนที่ไม่สำมำรถทดลองด้วยสถำนกำรณ์จริงได้ เช่น กำรจุด ระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงำนที่ผู้ทำต้องศึกษำรวบรวมควำมรู้ หลักกำร ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่ำงๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำแล้วเสนอเป็น แนวคิด แบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยู่ในรูปของสูตร สมกำร หรือคำอธิบำย พร้อมทั้งำรจำลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมำเป็นภำพ ภำพที่ได้ก็จะ เปลี่ยนไปตำมสูตรหรือสมกำรนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีควำมเข้ำใจได้ดียิ่งขึ้น กำรทำ โครงงำนประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่ำงดี ตัวอย่ำงโครงงำนจำลองทฤษฎี เช่น กำรทดลองเรื่องกำรไหลของของเหลว กำร ทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลำปิรันย่ำ และกำรทดลองเรื่องกำรมองเห็นวัตถุแบบ สำมมิติ เป็นต้น ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
  • 11. ใบงานที่ 4 เรื่องโครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อ การศึกษา” • เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรผลิตสื่อเพื่อกำรศึกษำโดยกำรสร้ำง โปรแกรม บทเรียนหรือหน่วยกำรเรียน ซึ่งอำจจะต้องมีภำคแบบฝึกหัด บท ทบทวน และคำถำมคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสำมำรถเรียนแบบรำยบุคคลหรือรำยกลุ่ม กำรสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ถือว่ำคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์กำรสอน ซึ่ง อำจเป็นกำรพัฒนำบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ำมำศึกษำด้วยตนเองก็ ได้ โครงงำนประเภทนี้สำมำรถพัฒนำขึ้นเพื่อใช้ประกอบกำรสอนในวิชำต่ำงๆ โดย ผู้เรียนอำจคัดเลือกเนื้อหำที่เข้ำใจยำก มำเป็นหัวข้อในกำรพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ เช่น กำรเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวำล หลักภำษำไทย และสถำนที่ สำคัญของประเทศไทย โครงงำนเกี่ยวกับกำรพัฒนำเว็บไซต์ วิถีชีวิตของคนไทยพวน โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก โปรแกรม ควำมหลำกหลำยของสิ่งมีชีวิต โปรแกรม สำนวนไทยพำสนุก โปรแกรมฝึกอ่ำนออกเสียงภำษำอังกฤษ โปรแกรมเรียนรู้ คณิตศำสตร์
  • 12. ตัวอย่างชื่อโครงงาน • สำรำนุกรมไทยฉบับมัลติมีเดีย • สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล • พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย • โปรแกรมช่วยสอนกำรถ่ำยภำพ • 76 จังหวัดของไทย • โปรแกรมช่วยสอนกำรทำงำนของทรำนซิสเตอร์ • คอมพิวเตอร์สอนพิมพ์ดีด • ยำไทยและยำจีน • สูตรขนมไทยอร่อยทั่วโลก
  • 13. ตัวอย่างโครงงาน • ชื่อโครงงาน ระบบคาถามคาตอบสาหรับวิกิพีเดียภาษาไทย • ชื่อผู้ทาโครงงาน วิทวัส จิตกฤตธรรม • ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา รศ. ดร. ธนำรักษ์ ธีระมั่นคง • สถาบันการศึกษา สถำบันเทคโนโลยีนำนำชำติสิรินธร มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์ • ระดับชั้น ปริญญำตรี • หมวดวิชา คอมพิวเตอร์ • วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน ไม่ระบุ
  • 14. • บทคัดย่อ เครื่องมือช่วยค้นหำข้อมูล (Search engine) ในปัจจุบันไม่ได้ตอบสนอง คำค้นของผู้ใช้โดยตรง เพียงแต่แสดงให้ผู้ใช้เห็นว่ำ คำค้นของผู้ใช้นั้นเกี่ยวข้องและพบมำกใน เอกสำรใดบ้ำง ซึ่งผู้ใช้ต้องนำผลลัพธ์รำยกำรเอกสำรที่ได้มำอ่ำนและกรองข้อมูลด้วยตนเอง เพื่อหำคำตอบที่ต้องกำร ระบบคำถำมคำตอบเป็นระบบที่รับคำถำมที่อยู่ในรูปของประโยค ภำษำมนุษย์จำกผู้ใช้และคืนคำตอบที่กระชับ ในระบบที่พัฒนำขึ้นนี้ได้ใช้สำรำนุกรมออนไลน์ วิกิพีเดียภำษำไทยเป็นฐำนควำมรู้สำหรับตอบคำถำม โดยระบบสำมำรถสกัดข้อมูลที่มี โครงสร้ำงจำกเอกสำรต่ำงๆ ที่อยู่ในสำรำนุกรมและนำมำเก็บอยู่ในรูปของResource Description Framework (RDF) ระบบใช้วิธีค้นคืนคำตอบ 2 วิธี คือ 1. แปลง คำถำมให้อยู่ในรูปคำค้นภำษำ SPARQL โดยเทียบคำถำมกับรูปแบบที่มีอยู่แล้วและดึง ข้อมูลจำกฐำน RDF โดยตรง ซึ่งคำตอบที่ได้มักจะเป็นคำสั้นๆ 2. ใช้เทคนิคกำรค้นคืน สำรสนเทศ (Information Retrieval) เมื่อไม่สำมำรถแปลงคำถำมให้เป็น คำค้น SPARQLได้ ระบบจะสกัดคำสำคัญ (keyword) จำกคำถำมของผู้ใช้ และค้นคืน จำกดัชนี (index)ของเอกสำรวิกิพีเดียที่เตรียมไว้แล้ว โดยจะพยำยำมเลือกช่วงข้อควำมที่ สั้นที่สุดและมีคำสำคัญในประโยคคำถำมมำเป็นคำตอบ คำตอบที่ได้จำกวิธีที่สองมักจะเป็น ช่วงข้อควำมสั้นๆ ระบบที่พัฒนำขึ้นสนับสนุนคำถำม 5 ประเภท คือ คำถำมเกี่ยวกับบุคคล คำถำมเกี่ยวกับองค์กร คำถำมเกี่ยวกับสถำนที่ คำถำมเกี่ยวกับตัวเลขเชิงปริมำณ และ คำถำมเกี่ยวกับเวลำ
  • 15. ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ” • โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนเพื่อพัฒนำเครื่องมือช่วย สร้ำงงำนประยุกต์ ต่ำงๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วำดรูป ซอฟต์แวร์ พิมพ์งำน และซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุมต่ำงๆ เป็นต้น สำหรับ ซอฟต์แวร์เพื่อกำรพิมพ์งำนนั้นสร้ำงขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคำ ซึ่งจะเป็น เครื่องมือให้เรำใช้ในกำรพิมพ์งำนต่ำงๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วน ซอฟต์แวร์กำรวำดรูป พัฒนำขึ้นเพื่ออำนวยควำมสะดวกให้กำรวำดรูปบน เครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่ำย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุ ในมุมต่ำงๆ ใช้สำหรับช่วยกำรออกแบบสิ่งของ อำทิเช่น ผู้ใช้วำดแจกัน ด้ำนหน้ำ และต้องกำรจะดูว่ำด้ำนบนและด้ำนข้ำงเป็นอย่ำงไร ก็ให้ ซอฟต์แวร์คำนวณค่ำและภำพที่ควรจะเป็นมำให้ เพื่อพิจำรณำและแก้ไข ภำพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่ำงสะดวก
  • 16. ตัวอย่างชื่อโครงงาน • โปรแกรมกำรค้นหำคำภำษำไทย • โปรแกรมอ่ำนอักษรไทย • โปรแกรมวำดภำพสำมมิติ • โปรแกรมเข้ำและถอดรหัสข้อมูล • โปรแกรมบีบอัดข้อมูล • โปรแกรมประมวลผลคำไทยบนระบบปฏิบัติกำรลีนุกซ์ • โปรแกรมกำรออกแบบผังงำน • พอร์ตแบบขนำนของไทย • กำรส่งสัญญำณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • 17. ตัวอย่างโครงงาน • ชื่อโครงงาน ระบบบาร์โค้ดบนโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อการดาเนิน ธุรกิจ • ชื่อผู้ทาโครงงาน นำยฑีฆวัฒน์ เทพำนวล,นำยปวีณวัช สุรินทร์,นำย ปิยะพงษ์ บุญมี • ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา ผศ. ดร. สุขุมำล กิติสิน • สถาบันการศึกษา มหำวิทยำลัยเกษตรศำสตร์ • ระดับชั้น ปริญญำตรี • หมวดวิชา คอมพิวเตอร์ • วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน 1/1/2549
  • 18. • บทคัดย่อ โครงกำรนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเทคนิคกำรสร้ำงบำร์โค้ดบนจอภำพโทรศัพท์เคลื่อนที่ มำใช้ใน กำรพัฒนำ • ระบบที่ประกอบด้วยโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่และเว็บเซอร์วิส เพื่อรองรับกำรทำงำนดังนี้คือ • กำรขอรับใบแจ้งค่ำบริกำร กำรขอทำบัตรสมำชิก กำรจองและกำรซื้อตั๋วต่ำงๆ จำกเว็บเซอร์วิสผู้ให้บริกำรคือ • หน่วยงำนของรัฐและเอกชนที่มีกำรใช้ใบแจ้งค่ำบริกำรหรือบัตรสมำชิก ผู้ให้บริกำรในระบบธุรกิจที่มีกำรใช้ ตั๋ว ตำมลำดับ ผ่ำนโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อใช้โปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ แทนใบแจ้งค่ำบริกำร บัตรสมำชิก ตั๋วต่ำงๆและใช้ในกำรยืนยันกำรออกตั๋วจริงจำกจองตั๋วต่ำงๆ โดยระบบมี กำรทำงำนดังนี้คือ เว็บเซอร์วิสของระบบจะทำหน้ำที่รวบรวมบริกำรและเป็นตัวกลำงในกำรเชื่อมต่อประสำน กำรทำงำนเพื่อส่งผ่ำนข้อมูลใบแจ้งค่ำบริกำร ข้อมูลบัตรสมำชิก ข้อมูลหมำยเลขเฉพำะหรือข้อมูลหมำยกำร จองของตั๋วต่ำงๆ ระหว่ำงเว็บเซอร์วิสผู้ให้บริกำรกับโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยลักษณะ ข้อมูลที่ใช้ในกำรแลกเปลี่ยนเป็นรูปแบบเอกสำร XML ซึ่งโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ของระบบ สำมำรถนำข้อมูลหมำยเลขบำร์โค้ดบนใบแจ้งค่ำบริกำร หมำยเลขบำร์โค้ดบนบัตรสมำชิก และหมำยเลข เฉพำะหรือหมำยเลขกำรจองของตั๋วต่ำงๆ ทั้งจำกกำรเชื่อมต่อกับเว็บเซอร์วิสของระบบ กำรรับ ข้อควำม SMS จำกผู้ให้บริกำรและกำรพิมพ์ข้อมูลโดยตรง มำทำกำรสร้ำงเป็นบำร์โค้ดบนจอภำพ โทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อรองรับกำรอ่ำนจำกเครื่องอ่ำนบำร์โค้ดในกำรใช้งำนต่อไป โดยระบบที่พัฒนำขึ้นจะเป็น นวัตกรรมใหม่ซึ่งช่วยอำนวยควำมสะดวกและช่วยให้เกิดควำมรวดเร็วในกำรดำเนินธุรกิจ โดยทำให้ผู้ใช้ ระบบในส่วนโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ของระบบสำมำรถลดภำระกำรเก็บดูแลรักษำบัตร สมำชิก ใบแจ้งค่ำบริกำรและตั๋วต่ำงๆ เพิ่มควำมสะดวกรวดเร็วในกำรยืนยันออกตั๋วจริงจำกกำรจองตั๋วต่ำงๆ ด้ำนผู้ให้บริกำรต่ำงๆ สำมำรถลดกำรใช้ต้นทุนและทรัพยำกรธรรมชำติจำกกำรผลิตบัตรสมำชิก ใบแจ้ง ค่ำบริกำร และตั๋วต่ำงๆ เช่น พลำสติก กระดำษ หมึกพิมพ์ เป็นต้น โครงกำรนี้ได้มีกำรสร้ำงส่วนจำลองเพื่อใช้ ในกำรทดสอบระบบสองส่วน ส่วนแรกคือส่วนเว็บเซอร์วิสและโปรแกรมประยุกต์สำขำของผู้ให้บริกำร ส่วนที่ สองคือส่วนโปรแกรมประยุกต์ของบริษัทตัวแทนรับชำระเงิน
  • 19. ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี” • เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรจำลองกำรทดลองของสำขำต่ำงๆ ซึ่ง เป็นงำนที่ไม่สำมำรถทดลองด้วยสถำนกำรณ์จริงได้ เช่น กำรจุดระเบิด เป็น ต้น และเป็นโครงงำนที่ผู้ทำต้องศึกษำรวบรวมควำมรู้ หลักกำร ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่ำงๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยู่ในรูปของสูตร สมกำร หรือคำอธิบำย พร้อม ทั้งำรจำลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมำเป็นภำพ ภำพที่ได้ก็จะ เปลี่ยนไปตำมสูตรหรือสมกำรนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีควำมเข้ำใจได้ดี ยิ่งขึ้น กำรทำโครงงำนประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้ในเรื่อง นั้นๆ เป็นอย่ำงดี ตัวอย่ำงโครงงำนจำลองทฤษฎี เช่น กำรทดลองเรื่องกำร ไหลของของเหลว กำรทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลำปิรันย่ำ และกำร ทดลองเรื่องกำรมองเห็นวัตถุแบบสำมมิติ เป็นต้น
  • 20. ตัวอย่างชื่อโครงงาน • กำรทดลองปัจจัยต่ำงๆ ในกำรเลี้ยงปลำนิลด้วยคอมพิวเตอร์ • กำรทดลองปัจจัยต่ำงๆ ในกำรเพำะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์ • กำรทำนำยอุณหภูมิจำกข้อมูลที่ผ่ำนมำ • กำรทดลองผสมสำรเคมีต่ำงๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ • ปัจจัยต่ำงๆ กับกำรเคลื่อนที่ของเครื่องบิน • ผลกำรปลูกข้ำวในสภำวะแวดล้อมที่ต่ำงกัน • กำรเปรียบเทียบเทคนิคของกำรย่อขนำดแฟ้ มข้อมูล • โปรแกรมสังเครำะห์เสียงพูดเบื้องต้น • โปรแกรมจำลองกำรทำงำนของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
  • 21. ตัวอย่างโครงงาน • ชื่อโครงงาน การศึกษาการผลิตกระดาษหนัง จากพืชท้องถิ่น โดย Acetobacter xylinum • ชื่อผู้ทาโครงงาน เด็กหญิงรัชมังคลำ ผลค้ำ, เด็กหญิงภัทรสุดำ ฉำยำ ภักดี ,เด็กหญิงอภิลักษมี ศรีไพรวรรณ • ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา นำงพัชรินทร์ รุ่งรัศมี • สถาบันการศึกษา โรงเรียนสำรคำมพิทยำคม จังหวัดมหำสำรคำม • ระดับชั้น อื่นๆ • หมวดวิชา คอมพิวเตอร์ • วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน 1/1/2541
  • 22. • บทคัดย่อ กำรศึกษำกำรผลิตกระดำษหนัง (Parchment) จำกพืชท้องถิ่น โดย Acetobacter xylinum ในนำพืชท้องถิ่นทั้ง 11 ชนิด เพื่อเป็นกำรนำเอำพืชที่มีอยู่ในท้องถิ่นซึ่งหำง่ำย และรำคำแพงมำ ดัดแปลงให้เกิดมูลค่ำ ในกำรทดลองครั้งนี้ได้นำ Acetobacter xylinumที่มีอยู่ในห้องปฏิบัติกำรทำกำร เลี้ยงและแยกเชื้อให้บริสุทธิ์เพื่อที่จะเก็บไว้เป็นหัวเชื้อในกำรทำกระดำษหนัง (Parchment) ตลอดจน ศึกษำระดับ pH และควำมหวำนของพืชแต่ละชนิดก่อนที่จะนำมำทำอำหำรเลี้ยงเชื้อ โดยผลกำรศึกษำแบ่ง ออกเป็น ดังนี้ตอน 1กำรศึกษำระดับ pH และควำมหวำนของพืชท้องถิ่น 11 ชนิด พืชที่มีระดับ pH สูงสุด คือ ผักโขม รองลงมำคือ แห้วหมูและต่ำสุดคือ น้ำลูกเม่ำ เท่ำกับ 6.73 6.68 3.32 ตำมลำดับ ส่วนควำมหวำนพบว่ำ พืชที่มีควำมหวำนสูงสุดคือ สับปะรด แตงโม ต่ำสุดคือ แห้วหมู เท่ำกับ 11 Brix 8 Brix 0.4 Brix ตำมลำดับ จำกนั้นทำกรปรับระดับ pH ของพืชให้อยู่ที่ 3.5 – 4.5 และควำมหวำนให้อยู่ในระดับ 11 Brix - 12 Brix ก่อนที่จะนำมำทำอำหำรเลี้ยงเชื้อ ตอน 2 กำรศึกษำกำรสร้ำงผลผลิตของ Acetobacter xylinum ใน ระยะเวลำ 5 , 10 , 15 วัน ซึ่งจำกกำรทดลองในพืชทั้ง 11 ชนิด ภำยในเวลำ5 วัน พบว่ำพืชที่ให้ผลผลิตสูงสุด คือ กะพังโหม รองลงมำคือ แตงโม มีควำมหนำเท่ำกับ0.9 cm 0.7 cm และพืชที่ให้ผลผลิตต่ำที่สุด คือ ผัก โขมและแห้วหมู มีควำมหนำเท่ำกัน คือ 0.1 cm เมื่อเลี้ยงภำยในเวลำ 10 วัน พบว่ำพืชที่ให้ผลผลิตสูงสุดคือ กะพังโหม รองลงมำคือ แตงโม และพืชที่ให้ผลผลติต่ำสุดคือ ย่ำนำง เท่ำกับ 1.1 cm 0.9 cm 0.2 cm ตำมลำดับ และเมื่อเลี้ยงภำยใน 15 วัน พบว่ำพืชที่ให้ผลผลิตสูงสุดคือ กะพังโหม รองลงมำคือ แตงโม และพืชที่ ให้ผลผลิตต่ำสุดคือ ย่ำนำง มีควำมหนำเท่ำกับ 1.5 cm 1.2 cmและ 0.2 cm ตำมลำดับ จำกนั้นนำผลผลติที่ได้ไปทดสอบว่ำเป็นคำร์โบไฮเดรตประเภทแป้ งหรือเซลลูโลสโดยวิธีกำรทดสอบด้วย สำรละลำยไอโอดีนและสำรละลำยเบเนดิกส์ โดยนำผลผลติที่ได้ไปปั่นด้วยเครื่องปั่นไฟฟ้ ำ และแบ่งชุดทดลอง ออกเป็นสองชุด ให้ชุดทดลองที่ 1 นำไปหยดด้วยสำรละลำยไอโอดีนไม่เกิดกำรเปลี่ยนแปลงแสดงว่ำผลผลิตที่ ได้นี้ไม่ใช่คำร์โบไฮเดรตประเภทแป้ ง ส่วนในชุดทดลองที่ 2 นำผลผลิตที่ปั่นด้วยเครื่องปั่นไฟฟ้ ำแล้ว ไปต้มกับ กรดซัลฟัวริก แล้วนำสำรละลำยเบเนดิกส์มำหยด จะเกิดตะกอนสีแดงอิฐ จึงสำมำรถสรุปได้ว่ำเป็น คำร์โบไฮเดรตประเภทเซลลูโลส
  • 23. ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรม ประยุกต์” • โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนพัฒนำซอฟต์แวร์เกมเพื่อควำมรู้หรือ เพื่อควำม เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนำควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นกำร ใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่ำงมีหลักกำร โครงงำนประเภทนี้จะมีกำรออกแบบ ลักษณะและกฎเกณฑ์กำรเล่น เพื่อให้น่ำสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ ควำมรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนำควรจะได้ทำกำรสำรวจและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่ำงๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนำมำปรับปรุงหรือพัฒนำขึ้น ใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่ำสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่ำงๆ
  • 24. ตัวอย่างชื่อโครงงาน • เกมผจญภัยกับพระอภัยมณี • เกมอักษรเขำวงกต • เกมเลือกตั้งสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร • เกมผจญภัย
  • 25. ตัวอย่างโครงงาน • โครงการ "การแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย (National Software Contest : NSC)“ • คอมพิวเตอร์มีบทบำทสำคัญมำกในชีวิตประจำวันและนับวันยิ่งมีบทบำทยิ่งขึ้นในทุกขณะ กำรพัฒนำ ทักษะในกำรเขียนโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์นั้น ประเทศไทยมีศักยภำพในกำรแข่งขันกับ ต่ำงประเทศได้ แต่กำรผลิตบุคลำกรที่จะมำพัฒนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้เพียงพอนั้น จำต้องอำศัย บุคลำกรจำนวนมำกเพื่อเพิ่มศักยภำพในกำรแข่งขันให้กับประเทศ จำกควำมจำเป็นดังกล่ำว ศูนย์ เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชำติ (เนคเทค) จึงได้จัดทำโครงกำรกำรแข่งขันพัฒนำ โปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทยนี้เพื่อเป็นกำรกระตุ้นให้นักเรียน นิสิต นักศึกษำได้มีโอกำสพัฒนำ ทักษะกำรพัฒนำซอฟต์แวร์และนำเอำควำมรู้ที่ได้เรียนมำประยุกต์ใช้ในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำน โดย สนับสนุนเงินทุนเพื่อเป็นแรงจูงใจและกระตุ้นให้นักเรียน นิสิต นักศึกษำทำกำรพัฒนำซอฟต์แวร์ด้วย ตนเองและเปิดโอกำสให้มีกำรประกวดแข่งขันชิงเงินรำงวัลในระดับประเทศ อันจะเป็นกำรสร้ำงเวที สำหรับเยำวชนและผู้ที่สนใจในกำรพัฒนำควำมรู้สู่กำรเป็นนักวิจัยระดับอำชีพต่อไปจำก “โครงกำร สนับสนุนกำรพัฒนำซอฟต์แวร์ขนำดเล็ก” ซึ่งได้เริ่มดำเนินกำรครั้งแรกตั้งแต่ปีงบประมำณ2537 เนคเทค ได้ปรับกลยุทธ์ในกำรดำเนินโครงกำรโดยจัดให้มีเวทีกำรแข่งขันในระดับประเทศและเปลี่ยนชื่อเป็น “กำร แข่งขันพัฒนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย (National Software Contest : NSC)” ในปี พ.ศ. 2542 ซึ่งผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทจะได้รับถ้วยพระรำชทำนจำกสมเด็จพระเทพ รัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี
  • 26. • นอกจำกนั้น เนคเทค ยังได้ร่วมกับ SIPA และสมำคมอุตสำหกรรม เทคโนโลยีสำรสนเทศไทย ส่งผลงำนซอฟต์แวร์ที่ได้รับรำงวัลชนะเลิศเข้ำ ร่วมกำรประกวดในงำน Asia Pacific ICT Awards (APICTA) ในประเภทนักเรียน และนิสิต นักศึกษำ ซึ่ง งำน APICTA นี้เป็นกำรประกวดผลงำนด้ำนซอฟต์แวร์ในด้ำนต่ำงๆ สำหรับประเทศในภูมิภำคเอเชีย-แปซิฟิกที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริม ผู้ประกอบกำรและอุตสำหกรรมด้ำนไอซีทีของประเทศในภูมิภำค เปิด โอกำสให้มีกำรนำเสนอผลงำนซอฟต์แวร์ที่มีคุณภำพ และศักยภำพทำง ธุรกิจและกำรตลำดจำกผู้ประกอบกำร ผู้เชี่ยวชำญ ภำคกำรศึกษำ และ นักเรียน นิสิต นักศึกษำ โดยประเทศในภูมิภำคผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน เป็นเจ้ำภำพ โดยประเทศไทยสำมำรถคว้ำรำงวัลจำกเวทีดังกล่ำวอย่ำง ต่อเนื่องทุกปีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โครงกำร link: www.nectec.or.th/nsc
  • 27. ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน” • โครงงำนประยุกต์ใช้งำนเป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำร สร้ำงผลงำน เพื่อประยุกต์ใช้งำนจริงในชีวิตประจำวัน อำทิเช่น ซอฟต์แวร์สำหรับกำร ออกแบบและตกแต่งภำยในอำคำร ซอฟต์แวร์สำหรับกำรผสมสี และ ซอฟต์แวร์สำหรับกำรระบุคนร้ำย เป็นต้น โครงงำนประเภทนี้จะมีกำร ประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่ำงๆ ซึ่งอำจเป็นกำรคิด สร้ำงสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภำพสูงขึ้น โครงงำนลักษณะนี้จะต้องศึกษำและวิเครำะห์ควำม ต้องกำรของผู้ใช้ก่อน แล้วนำข้อมูลที่ได้มำใช้ในกำรออกแบบ และพัฒนำ สิ่งของนั้นๆ ต่อจำกนั้นต้องมีกำรทดสอบกำรทำงำนหรือทดสอบคุณภำพของ สิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีควำมสมบูรณ์ โครงงำนประเภทนี้ผู้เรียน ต้องใช้ควำมรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภำษำโปรแกรม และเครื่องมือ ต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • 28. ตัวอย่างชื่อโครงงาน • ระบบบริหำรจัดกำรข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน • ระบบจัดกำรข้อมูลกำรเงินส่วนบุคคล • ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต • ระบบแนะนำเส้นทำงเดินรถประจำทำง • โปรแกรมสังเครำะห์เสียงสำหรับคนตำบอดบนรถประจำทำง • โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ • โฮมเพจส่วนบุคคล • โปรแกรมช่วยปฐมพยำบำลเบื้องต้น • โปรแกรมพจนำนุกรมไทย-อังกฤษ
  • 29. ตัวอย่างโครงงาน • ชื่อโครงงาน ซียูเท็กซ์ไทล์: ซอฟต์แวร์ออกแบบลายผ้าสามมิติ CU Textile Design • ชื่อผู้ทาโครงงาน นำงสำวอัจฉริยำ วิเศษเกษม , นำยณัฐ ศรีกฤษณ พล , นำยอำชว์ สรรพอำษำ • ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์.ดร. พิษณุ คนองชัยยศ • สถาบันการศึกษา คณะวิศวกรรมศำสตร์ ภำควิชำวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย • ระดับชั้น ปริญญำตรี • หมวดวิชา คอมพิวเตอร์ • วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน 1/1/2541
  • 30. • บทคัดย่อ อุตสำหกรรมแฟชัน ประกอบไปด้วย อุตสำหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสำหกรรมรองเท้ำ และเครื่องหนัง และอุตสำหกรรมอัญมณี และเครื่องประดับ ตำมรำยงำนของกระทรวงอุตสำหกรรมแล้ว ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงำนแฟชัน ไม่ต่ำกว่ำ 10,207 โรงงำน คนงำน ประมำณ 1.58 ล้ำนคน และมี มูลค่ำกำรส่งออกในปี 2545 ประมำณ 346,822.3ล้ำนบำท คิดเป็นร้อยละ 6.2 ของ GDP ปัญหำที่ประสบของอุตสำหกรรมแฟชันในปัจจุบัน คือ ปัญหำแนวโน้มกำรส่งออกที่ลดลงอย่ำงต่อเนื่อง ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2545 โดยปัจจัยของกำรถดถอย ได้แก่ ผู้ประกอบกำรของไทยส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้รับจ้ำงผลิต หรือ โออีเอ็ม (Original Equipment Manufacture: OEM) ผลิตสินค้ำคุณภำพระดับล่ำง และไม่สร้ำงมูลค่ำเพิ่ม รวมทั้งมีกำรแข่งขันสูงขึ้นจำกประเทศที่มีต้นทุนและ ค่ำจ้ำงแรงงำนต่ำ เช่น จีน เวียดนำมและอินโดนีเซีย เป็นเหตุให้คณะรัฐมนตรีตระหนักถึงควำมสำคัญของ กำรส่งเสริมอุตสำหกรรมแฟชัน จึงได้มีมติเห็นชอบในกิจกรรมกำรเปิดตัวโครงกำรกรุงเทพฯเมืองแฟชัน โดยคำสั่งจำกกระทรวงอุตสำหกรรม เพื่อสร้ำงธุรกิจ จำกกำรที่ประเทศไทยมีภำพลักษณ์โดดเด่นด้ำนแฟ ชัน และเพื่อให้ตรำสินค้ำไทยเป็นที่ยอมรับ รวมทั้งสร้ำงมูลค่ำเพิ่มในกำรส่งออก งบประมำณและรำยได้ รวมทั้งเป็นศูนย์กลำงแฟชันอย่ำงแท้จริง หนึ่งในกิจกรรมที่สำมำรถส่งเสริมอุตสำหกรรมดังกล่ำว คือกำรวิจัยและพัฒนำ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อ เพิ่มมูลค่ำของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งอุตสำหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มนั้น กำรเพิ่มศักยภำพของ ขั้นตอนกำรออกแบบลำยผ้ำสำมำรถเพิ่มมูลค่ำของผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มได้อย่ำงสูง จึงเกิดแนวคิดในกำร พัฒนำเครื่องมือในลักษณะโปรแกรมจำลองลำยผ้ำสำมมิติขึ้น เพื่อช่วยพัฒนำขีดควำมสำมำรถในกำร ออกแบบลำยผ้ำสำหรับนักออกแบบหรือดีไซเนอร์ ให้ผลิตสินค้ำที่มีรูปแบบและคุณภำพระดับสำกล อีกทั้ง ยังลดระยะเวลำ ค้นทุน และควำมผิดพลำดในกำรผลิต
  • 31. • กำรออกแบบลำยผ้ำ (Textile design) เป็นกำรผสมผสำนกันระหว่ำงเทคนิค กำรผลิต และควำมคิด สร้ำงสรรค์ ให้ตรงกับ ควำมต้องกำรของผู้บริโภค ซึ่งลวดลำยผ้ำในปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ลวดลำยที่เกิด จำกสี และลวดลำยที่เกิดจำกกำรขัดกันของเส้นด้ำย หำกลวดลำยที่เกิดจำกสีนั้นหลุดไป ผ้ำก็ยังคงเป็นผืนผ้ำและใช้ ประโยชน์ได้ เรียกลวดลำยประเภทนี้ว่ำ ลวดลำยตกแต่ง (Decorative design) เกิดจำกกำรย้อม และพิมพ์ พลิกแพลงแบบต่ำงๆ ส่วนลวดลำยที่เกิดจำกกำรขัดกันของเส้นด้ำย หำกดึงเอำเส้นด้ำย ที่เป็นลวดลำยออก ลำยผ้ำ บริเวณนั้นจะเสื่อมสภำพไป ไม่สำมำรถใช้ประโยชน์ได้ เรียกว่ำลวดลำยโครงสร้ำง (Structural) ซึ่งเกิดจำกกำร ทอ กำรออกแบบสิ่งทอนี้เริ่มต้นจำกกำรพิจำรณำวัตถุดิบ อันได้แก่ เส้นใย เส้นด้ำย ผ้ำ และกำรตกแต่ง แล้วจึงเริ่ม ออกแบบลวดลำยผ้ำซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพรำะเป็นขั้นตอนที่จะตัดสินว่ำ ผ้ำจะสวยงำมและตรงตำม ควำมต้องกำรของผู้บริโภคหรือไม่ กำรปฏิบัติงำนแต่ละขั้นตอน จึงต้องอำศัยผู้ชำนำญเพื่อให้เกิดควำมผิดพลำด น้อยที่สุด ซึ่งโปรแกรมจำลองลำยผ้ำสำมมิติ จะช่วยให้ผู้ผลิตเห็นโครงร่ำงของลำยผ้ำที่ออกแบบไว้ ในลักษณะ เสมือนจริง เป็น สำมมิติ เพื่อให้เห็นจุดบกพร่องของกำรออกแบบนั้นๆ อย่ำงชัดเจน และสำมำรถแก้ไขได้โดยสะดวก ก่อนนำเข้ำสู่กระบวนกำรผลิต ซึ่งเป็นกำรลดค่ำใช้จ่ำยของผู้ประกอบกำร และยังสนับสนุนกำรเชื่อมโยงวงจรกำร ผลิตให้มีศักยภำพในภำคธุรกิจอุตสำหกรรมมำกขึ้น ในปัจจุบัน มีซอฟต์แวร์ซึ่งสำมำรถใช้งำนในกำรออกแบบลำยผ้ำได้ เช่น Photoshop หรือกำรจำลองสำมมิติ โดยโปรแกรมมำยำ (Maya) หรือ ทรีดีสตูดิโอแม๊กซ์ (3D Studio Max) รวมทั้ง อรำห์วีฟ แคด แคม (Aearah Weave CAD CAM) ซึ่งเป็นโปรแกรมจำลองลำยผ้ำโดยเฉพำะ แต่โปรแกรมดังกล่ำวอำจทำให้ ผู้ผลิตต้องใช้ต้นทุนทำงด้ำนเวลำสูงยิ่งขึ้น เพื่อจัดกำรศึกษำและอบรบโปรแกรมหลำยโปรแกรมประกอบกัน รวมทั้ง ต้องอำศัยควำมชำนำญมำกกว่ำ เนื่องจำกไม่มีเครื่องมือ ที่อำนวยควำมสะดวก ในกำรออกแบบลำยผ้ำโดยเฉพำะ อีกทั้งมีปัญหำทำงด้ำนลิขสิทธิ์ (license) ทำให้มีต้นทุนในกำรผลิตสูงขึ้น จะเห็นได้ว่ำ โปรแกรมออกแบบลำยผ้ำ สำมมิติ สำมำรถแก้ปัญหำดังกล่ำวได้อย่ำงครบถ้วน และนอกจำกนี้ยังเป็นกำรส่งเสริมวงกำรอุตสำหกรรมแฟชัน ของประเทศไทยซึ่งเป็นอุตสำหกรรมที่สำคัญของเมืองไทยให้ก้ำวหน้ำยิ่งขึ้นอีกด้วย
  • 32. บรรณานุกรม • http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7 • http://namkwanmay.wordpress.com/2011/02/08/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9% 80%E0%B8%A0%E0%B8%97%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0% B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1% E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7/ • https://sites.google.com/site/luksaduankhorngnganthekhnoloyi/tawxyang-khorng-ngan- khxmphiwtexr • http://dekwachi.makewebeasy.com/content- %E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8 %A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0 %B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%8 7%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B 8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E-4-2527-48429-1.html • http://luckystarsw.wordpress.com/category/โครงงำนคอมพิวเตอร์ • http://namkwanmay.wordpress.com • http://www.slideshare.net/Phkphoom/3-13694340 http://sw6653.files.wordpress.com/2011/01 • http://krudarin.wordpress.com • http://projectzeed.blogspot.com/2011/08/blog-post.html • http://www.lks.ac.th/kuanjit/s4.htm