More Related Content Similar to อารยธรรมตะวันตกกรีกโรมัน(อัพเดท2557) (20) More from Heritagecivil Kasetsart (20) อารยธรรมตะวันตกกรีกโรมัน(อัพเดท2557)4. ประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
1.3 ยุคโลหะ (Copper Age)
4,000-2,500 B.C.
- การใช้ทองแดงและสำาริด
- การสร้างระบบชลประทาน
- เมืองเป็นศูนย์กลางขอฃการกสิกรรม
- การเกิดชนชั้น
1.4 สมัยก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย
- วัฒนธรรมบ้านเก่า อ.เมือง
จ.กาญจนบุรี
- วัฒนธรรมบ้านเชียง อ.หนองหาน
5. ประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
2.สมัยประวัติศาสตร์และอารยธรรมโลก
2.1 อารยธรรมตะวันตกยุคโบราณ
2.1.1 อารยธรรมอียิปต์ : ของขวัญจากแมน่ำ้าไนล์
2.1.2 อารยธรรมเมโสโปเตเมยี : ดินแดน
พระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์
2.1.3 อารยธรรมของกลุ่มชนในตะวันออกกลาง :
ฟีนีเชีย ฮีบรู และเปอร์เซีย
2.1.4 อารยธรรมกรีก : นักธรรมชาตินิยมและ
มนุษยนิยม
2.1.5 อารยธรรมโรมนั : นักรบและนักปกครองผู้
ยิ่งใหญ่
6. สมัยประวัติศาสตร์และอารยธรรม
โลก (ต่อ)
2.2 อารยธรรมตะวันออกยุคโบราณ
2.2.1 อารยธรรมอินเดีย : อนุทวีป
ที่น่าทึ่ง
2.2.2 อารยธรรมจีน : ดินแดนแห่ง
ลัทธิประเพณี
2.3 อารยธรรมยุคกลาง
2.3.1 อารยธรรมยุโรปยุคกลาง :
ยุคแห่งศรัทธา
2.3.2 อารยธรรมอิสลาม : แหล่ง
ความรู้และความเจริญในยุคกลาง
7. สมัยประวัติศาสตร์และอารยธรรม
โลก (ต่อ)
2.4 อารยธรรมยุคใหม่
2.4.1 การฟื้นฟูศิลปวิทยา
2.4.2 การปฏิรูปศาสนา
2.4.3 การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
2.4.4 การปฏิวัติอุตสาหกรรม
2.4.5 การปฏิวัติประชาธิปไตย
2.4.6 สงครามโลกครั้งที่ 1
2.5 อารยธรรมยุคปัจจุบัน (โลกร่วม
สมัย)
2.5.1 สงครามโลกครั้งที่ 2
2.5.2 โลกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
8. สมัยประวัติศาสตร์
1.ยุคโบราณ (Early
Civilizations)
3,500 ปีก่อนค.ศ. - ค.ศ.476
2.ยุคกลาง (Middle Ages)
ค.ศ.800 - ศตวรรษที่ 15
3.ยุคใหม่ (Modern Times)
ศตวรรษที่ 15 - ตน้ศตวรรษที่
20 (World War I)
4.ยุคปจัจุบัน (Contemporary
World)
กลางศตวรรษที่ 20
(หลังWorld War II) - ปัจจุบัน
9. ยุค
โบราณ
จีน
กลุ่มชนใน
ตะวันออก
กลาง
โรมัน
อารยธ
รรม
ตะวัน
ออก
อารยธ
รรม
ตะวัน
ตก
กรีก
อียิปต์
อินเดีย
เมโสโป
เตเมีย
11. อารยธรร
ม
ยุคใหม่
การปฏิวัติ
ทาง
วิทยาศาส
ตร์
การ
ปฏิวัติ
อุตสาหก
รรม
การ
ปฏิรูป
ศาสนา
การฟื้นฟู
ศิลปวิทย
า
สงครามโ
ลกครั้งที่
1
การปฏิวัติ
ประชาธิป
ไตย
12. โลกร่วม
สมัย
(ยุค
ปัจจุบัน)
โลกหลัง
สงครามโลก
ครั้งที่ 2
สงครามโล
กครั้งที่ 2
เกิดภาวะ
สงคราม
เย็น
ทุกประเทศ
ในยุโรป
ร่วมมือกัน
สร้าง
สันติภาพ
15. อารยธรรมอีเจียน : ที่มาของ
อารยธรรมกรีก
- มีศูนย์กลางอยู่ที่เกาะครีต ในทะเลอีเจียน
- หลักฐานสว่นใหญ่พบที่เมืองคนอสซัสและ เฟเอ
สตัส บนเกาะครีต
- มีการเดินเรือค้าขายกับอียิปต์และเมโสโปเตเมีย
- เป็นอารยธรรมที่คำานึงถึงมนุษย์และสังคม
- รักความสะดวกสบาย ชอบงานศิลปะ สนใจชีวิต
รักธรรมชาติ
และเสรีภาพ
- เกิดวรรณกรรมมุขปาฐะ เรื่องมหากาพย์อีเลียด
และโอดิสซี
26. - ยุคเฮลเลนิก มีอีกชื่อคือ ยุคคลาสสิค 500 B.C.
– คศ.500
- ปกครองแบบนครรัฐ (city state) หรือโพลิส
(polis) มีจุดสงูสดุของเมือง เรียกว่า อโครโพ
ลิส (acropolis) เป็นที่ตั้งของป้องปราการและ
วิหารของเทพหรือเทวี ใจกลางเมืองเรียกว่า อะ
กอรา (agora)
- เมืองสำาคัญคือ เอเธนส์ (Athens) กับสปาตาร์
(Spatar) โดยมีเอเธนส์เป็นศูนย์กลาง
- มีอาณานิคมโพ้นทะเล ทำาให้เกิดความมั่งคั่งทาง
เศรษฐกิจ
27. - มีการใช้เงินตราแทนการแลกเปลี่ยนสิ่งของ
- ประชาธิปไตยโดยตรง (direct democracy)
- ราษฎรชายมีหน้าที่ปกครองและบริการบ้านเมือง
- สภาประชาชนทำาหน้าที่ออกกฏหมายและเป็น
ศาลสูงสุด
- สภาบริหาร เรียกว่า สภาห้าร้อย ใช้วิธีจับสลาก
เป็นประจำาทุกปี
- มีความเจริญรุ่งเรืองด้านศาสนา ปรัชญา
วิทยาศาสตร์ และ
ศิลปะแขนงต่างๆ
28. อุปนิสัยของชาวกรีก
1. คำานึงถึงมนุษย์และสงัคม สนใจในชีวิตปัจจุบัน
รักษาสขุอนามัย
และชอบความสะดวกสบาย
2. รักธรรมชาติ ศิลปะ และความงาม
3. นิยมความเรียบง่าย ได้สัดสว่น ผสมกลมกลืน
4. สนใจใฝ่รู้ ชอบค้นคว้าหาความจริง ศึกษาโดย
การใช้เหตุและผล ชอบการ
อภิปรายโต้เถียง
5. รักในเสรีภาพ และเชอื่มั่นในปัจเจกบุคคล
29. อุปนิสัยของชาวกรีก (ต่อ)
6. นิยมเล่นกีฬาเพื่ออุทิศแด่เทพเจ้า และเพื่อความ
สมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจ
7. สนใจโลกนี้มากกว่าชีวิตหลังความตาย
8. ชาวกรีกตระหนักว่าทุกคนเป็นเชื้อชาติเดียวกัน
ผูกพันกันด้วยภาษาและศาสนา
9. เอเธนสม์ีวัฒนธรรมที่ผู้ชายเป็นใหญ่
10. สปาตาร์มีความเข้มแข็งทางทหารแต่ล้าหลัง
ในด้านศิลปวิทยาการ
37. Athens dominated the Olympic games (held in honor of Olympian
Zeus), pan-Hellenic chariot races and the performing arts. Playwrights and
poets, alongside sociopolitical plays.
39. วิธีการศึกษาของชาวเอเธนส์
ที่ทำาให้ชาวเอเธนส์เป็นทั้งนักปรัชญา นัก
วิทยาศาสตร์
ศิลปิน และนักประวัติศาสตร์
1.ชาวกรีกนิยมการโต้เถียงอภิปรายและสนทนา
ในสิ่งที่เป็นสาระต่างๆ
2.มีความกระหายใคร่รู้เกี่ยวกับชีวิตและโลก
3.มีเหตุผลและมีระบบในการค้นคว้าหาความจริง
ในสิ่งต่างๆ
4.มีความอยากรู้อยากเห็นในทุกสิ่งทุกอย่าง
5.มีความเชื่อมั่นในตนเองและนิยมใช้สติปัญญา
คิดค้นหาข้อมูล
88. Greek Theater of
Halicarnassus
โรงละครกรีก อัฒจันทร์ผู้ดูสร้ำงเปน็
ชั้นๆตำมไหล่เขำ
91. อำรยธรรมเฮลเลนิสติก :
สมัยพระเจ้ำอะเล็กซำนเดอร์
มหำรำช 300 B.C.
1. อำรยธรรมเฮลเลนิกสนิ้สุดลง เพรำะ สงครำม
เพโลโพนีเซียน
2. กำรขึ้นสู่อำำนำจของอเล็กซำนเดอร์และขยำย
อำณำเขต
3.กำรเผยแพร่อำรยธรรมกรีก
3.1 มีลักษณะเป็นสำกล ทำงเศรษฐกิจและ
ศิลปวิทยำกำร
3.2 ศูนย์กลำงอยู่ที่เมือง Alexandria ใน
อียิปต์
92. 3.3 ด้ำนศิลปกรรม มักมีขนำดใหญ่ วิจิตร
พิสดำรเกินพอดี และ
ประติมำกรรมนิยมรูปคนครึ่งตัว
3.4 มีกำรติดต่อค้ำขำย ระหว่ำงโลกตะวันออก
กับโลกตะวันตก
3.5 กำรผสมผสำนควำมรู้ตะวันตกกับ
ตะวันออกกลำงและโลกตะวันออก
97. อำรยธรรมโรมัน : นักรบและนัก
ปกครองผู้ยิ่งใหญ่
1.ประวัติและกำรปกครองของชำวโรมัน
2.กำรขยำยอำำนำจของจักรวรรดิโรมัน
3.มรดกอำรยธรรมของชำวโรมัน
- กำรปกครองและกฎหมำย
- สถำปัตยกรรม
- ศิลปะ ภำษำ และวรรณคดี
- กำรยอมรับนับถือคริสต์ศำสนำ
98. 1.ประวัติและกำรปกครองของชำว
โรมัน
- ชำวโรมันเป็นผู้สืบทอดอำรยธรรมกรีกในด้ำน
สังคม วัฒนธรรม และศิลปวิทยำกำร
- ถิ่นฐำนของชำวโรมันอยู่ในแถบที่รำบละติอุม
ริมฝงั่แม่นำ้ำไทเบอร์ ตกอยู่ใต้อิทธพิลของชำวอิ
ทรัสกัน
- ต่อมำสถำปนำเป็นสำธำรณรัฐอิสระ (republic)
มีผู้นำำที่ประชำชนเป็นผู้เลือก
- โรมประกอบด้วยคน 2 ชนชนั้คือ Patrician
และ Plebeian
- มีกำรเกษตรกรรมเป็นอำชีพหลัก
100. Capitoline Wolf is a 5th century BC Etruscan bronze statue. Approximately
lifesize, it depicts a she-wolf suckling a pair of human twin infant boys,
representing the legendary founders of the city of Rome, Romulus and Remus.
105. 2.กำรขยำยอำำนำจของจักรวรรดิ
โรมัน
ครอบคลุม 3 ทวีป คือ ยุโรปตะวันตก แอฟริกำ
เหนือ
เอเชียตะวันตก และตะวันออกกลำง
- ได้คำบสมุทรอิตำลีทั้งหมด ปรำบปรำมกลุ่มต่ำงๆ
ในแหลมอิตำลี เช่น อิทรัสกัน และกรีก
- ขยำยอำำนำจสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ปรำบปรำม
คำร์เทจได้สำำเร็จ
ทำำให้ได้ชื่อว่ำ โรม เป็น “เจ้ำแห่งทะเล
เมดิเตอร์เรเนียน”
- ขยำยพรมแดนทิศเหนือไปจรดแม่นำ้ำไรน์ และ
แม่นำ้ำดำนูบ ไปจนถึงเกำะอังกฤษ
108. The Roman Navy operated between the First Punic war and the
end of the Western Roman Empire.
120. จูเลียส ซีซำร์
- ผู้เผด็จกำรแห่งโรม และทำำให้อำณำจักรโรม
มีชื่อเสียง มี
ส่วนสำำคัญอย่ำงมำกในกำรขยำยอำำนำจจน
เป็นจักรวรรดิโรมัน
- มีชอื่เสยีงจำกกำรปรำบแคว้นโกล หรือ
ฝรั่งเศสปัจจุบัน
- ดินแดนที่พิชิตได้มี โกล และ อียิปต์ ไป
จนถึงอังกฤษ
- ถูกลอบสงัหำรในสภำซีเนต เมื่อ 44 B.C.
ถือว่ำสนิ้สุดกำรปกครอง
แบบสำธำรณรัฐ
121. Augustus and the Early Roman Empire
Octavian became Augustus Caesar in 27 BC
123. ออกัสตัส(ออกุสตุส) ซีซำร์
(Augustus Caesar)
- เป็นจุดเริ่มต้นควำมเจริญรุ่งเรืองใน 2 ศตวรรษ
แรกของจักรวรรดิโรมัน
เรียกว่ำ สมัยสันติภำพโรมัน (Pax Romana)
27 B.C. - ค.ศ.180
ยังเป็นยุคทองของจักรวรรดิโรมันด้วย ค.ศ.
96 - ค.ศ.180 เป็นช่วงมี
จักรพรรดิที่ทรงคุณงำมควำมดีปกครองติดต่อ
กัน 5 องค์
- มีผู้กล่ำวถึงควำมรุ่งเรืองของโรมในสมัยออกุส
ตุส ซีซำร์ไว้ว่ำ “He had founded Rome a
city of brick and left it a city of
125. กำรปกครองและกฎหมำย
- กฎหมำยสิบสองโต๊ะ (Law of the Twelve
Tables) เป็นกฎหมำยโบรำณอันเป็นรำกฐำน
ของกฎหมำยโรมัน กฎหมำยสิบสองโต๊ะเป็น
หัวใจของรัฐธรรมนูญสำธำรณรัฐโรมันและแกน
กลำงของ "ธรรมเนียมบรรพชน" เป็นที่มำของ
กฎหมำยในปัจจุบันฃ
- ประมวลกฎหมำยโรมนั ยึดหลักควำมยุติธรรม
ควำมเสมอภำค สอดคล้องกับเหตุผลและ
มนุษยธรรม ใช้ได้เป็นสำกล และปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงให้เข้ำกับยุคสมัยได้
126. กำรปกครองและกฎหมำย (ต่อ)
- วำงโครงร่ำงกำรปกครองที่ใช้อยู่ในยุโรป
อเมริกำ และประเทศต่ำงๆ ปัจจุบัน โดยแบ่ง
กำรปกครองเป็นมณฑล จังหวัด และอำำเภอ
- เป็นที่มำของทฤษฎีกำรเมืองแบบเสรีนิยม เช่น
ทฤษฎีสญัญำประชำคม (social contract)
อธิปไตยเป็นของปวงชน (popular
sovereignty) และกำรแบ่งแยกอำำนำจเป็น 3
ฝ่ำย (seperation of powers) รวมทั้ง
กฎหมำยต้องเป็นหลักสูงสดุในกำรปกครอง
(rule of law)
- ศัพท์ทำงด้ำนกำรปกครองของชำวโรมัน ได้แก่
129. สถำปัตยกรรม
- สร้ำงถนนหลวงเชอื่มส่วนต่ำงๆของจักรวรรดิ
จนได้ชื่อว่ำ
“ถนนทุกสำยมุ่งสู่กรุงโรม”
- สร้ำงสถำนที่สำธำรณะต่ำงๆในเมือง เช่น สนำม
แข่งรถศึกเทียมม้ำ ประตูชัย โรงอำบนำ้ำ
สำธำรณะ และวิหำร รวมทั้งสงิ่อำำนวยควำม
สะดวก เช่น สะพำน ท่อส่งนำ้ำขนำดใหญ่
- ใช้โครงสร้ำงสถำปัตยกรรมแบบกรีก แต่เพิ่ม
หลังคำโค้งทรงอุโมงค์ (barrel vault) เพื่อใช้
คลุมบริเวณกว้ำงๆ และโครงหลังคำสนัไขว้
(cross vault)
138. ancient Roman Aqueduct at Pont du Gard
ทางส่งนำ้าของโรมนั ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส สร้างในคริสต์ศตวรรลำาเลียงนำ้าคือสว่นบนสุด
146. Colosseum was the largest arena in the world for public entertainment,
seating 50,000 spectators with numbered tickets.
148. ศิลปะ ภาษา และวรรณคดี
- มีชอื่เสยีงด้านจิตรกรรมปูนเปียก (fresco) และ
ภาพแกะสลักนูนตำ่า
(bas relief)
- ด้านการประพันธ์ ได้ชอื่ว่า “ยุคทองของ
วรรณคดีภาษาละติน”
นักประพันธ์ที่สำาคัญ ได้แก่ เวอร์จิล (Virgil)
ซิเซโร (Cicero)
ฮอเรซ (Horace) และโอวิด (Ovid)
- ภาษาละตินเป็นภาษาของยุโรปในสมัยจักรวรรดิ
และเป็นที่มาของภาษาโรมานซ์ ได้แก่ ภาษา
164. อุปนิสัยของชาวโรมัน
1. มรีะเบียบวินัย เป็นนักรบที่กล้าหาญ เชื่อฟังผู้
บังคับบัญชา
2. ชนื่ชมในอารยธรรมกรีก และถ่ายทอดไปยัง
โลกตะวันตกในสมัย
จักรวรรดิ
3. เป็นต้นแบบการปกครองแบบสาธารณรัฐและ
แนวคิดแบบเสรีนิยม
4. ขณะเดียวกันก็สร้างภาษา วรรณคดี และ
สถาปัตยกรรมของตนเอง
5. สนใจสร้างสิ่งก่อสร้างสาธารณะเพื่อความสขุ
สขุภาพ และความยิ่งใหญ่
165. สาเหตุการล่มสลายของจักรวรรดิ
โรมัน
- การแก่งแย่งชิงอำานาจกันเองระหว่างแม่ทัพ
นายกองที่รบชนะใน
ดินแดนต่างๆ
- ค.ศ.476 จักรวรรดิโรมันตะวันตล่มสลาย ถูก
อนารยชนเผ่าเยอรมัน
รุกราน เช่น เผ่าวิซิกอท แวนดัล เบอร์กันดี
แฟรงค์ แองโกลแซกซอน และ
ออสโตรกอท
- ส่วนจักรวรรดิไบแซนไทน์ หรือโรมันตะวันออก
ซึ่งมีศูนย์กลางที่เมือง
166. มหาวิหาร Hagia Sophia สร้างเสร็จ
ในสมัยจักรพรรดิจัสติเนียน ซึ่งถือว่าเป็นวิหารที่
ใหญ่ที่สดุในยุโรปขณะนั้น ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์
อยู่ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
169. Mosaic ที่ Sant : Aplollinare
Nuavo ถอืวา่เปน็ Mosaic ทสี่วยงาม
ทสี่ดุแห่งหนึ่ง สร้างสมัยจักรพรรดจัส
ติเนียน
170. Constantinople, on a peninsula between
Europe and Asia, was the empire’s most important
city. Its habor was a major port for trade.
171. The subject and style of this painting are typical of religious art
throughtout the Byzantime Empire