รศ.สุภัทรา นีลวัชระ วรรณพิณ

3. ประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
1.สมัยก่อนประวัติศาสตร์ (Prehistoric Age )
1.1 ยุคหินเก่า (Old Stone) 2,000,000 - 8,000 B.C.
- ภาษาพูด
- เครื่องมือ
1.2 ยุคหินใหม่ (New Stone Age) 8,000-4,000 B.C.
- การเพาะปลูก
- การทา เครื่องปั้นดินเผา
- การค้าขาย

4. ประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
1.3 ยุคโลหะ (Copper Age) 4,000-2,500 B.C.
- การใช้ทองแดงและสาริด
- การสร้างระบบชลประทาน
- เมืองเป็นศูนย์กลางขอฃการกสิกรรม
- การเกิดชนชั้น
1.4 สมัยก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย
- วัฒนธรรมบ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
- วัฒนธรรมบ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี

5. ประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
2.สมัยประวัติศาสตร์และอารยธรรมโลก
2.1 อารยธรรมตะวันตกยุคโบราณ
2.1.1 อารยธรรมอียิปต์ : ของขวัญจากแม่น้า ไนล์
2.1.2 อารยธรรมเมโสโปเตเมีย : ดินแดนพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์
2.1.3 อารยธรรมของกลุ่มชนในตะวันออกกลาง : ฟีนีเชีย ฮีบรู และเปอร์เซีย
2.1.4 อารยธรรมกรีก : นักธรรมชาตินิยมและมนุษยนิยม
2.1.5 อารยธรรมโรมัน : นักรบและนักปกครองผู้ยิ่งใหญ่

6. สมัยประวัติศาสตร์และอารยธรรมโลก (ต่อ)
2.2 อารยธรรมตะวันออกยุคโบราณ
2.2.1 อารยธรรมอินเดีย : อนุทวีปที่น่าทึ่ง
2.2.2 อารยธรรมจีน : ดินแดนแห่งลัทธิประเพณี
2.3 อารยธรรมยุคกลาง
2.3.1 อารยธรรมยุโรปยุคกลาง : ยุคแห่งศรัทธา
2.3.2 อารยธรรมอิสลาม : แหล่งความรู้และความเจริญในยุคกลาง

7. สมัยประวัติศาสตร์และอารยธรรมโลก (ต่อ)
2.4 อารยธรรมยุคใหม่
2.4.1 การฟื้นฟูศิลปวิทยา
2.4.2 การปฏิรูปศาสนา
2.4.3 การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
2.4.4 การปฏิวัติอุตสาหกรรม
2.4.5 การปฏิวัติประชาธิปไตย
2.4.6 สงครามโลกครั้งที่ 1
2.5 อารยธรรมยุคปัจจุบัน (โลกร่วมสมัย)
2.5.1 สงครามโลกครั้งที่ 2
2.5.2 โลกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

8. สมัยประวัติศาสตร์
1.ยุคโบราณ (Early Civilizations)
3,500 ปีก่อนค.ศ. - ค.ศ.476
2.ยุคกลาง (Middle Ages)
ค.ศ.800 - ศตวรรษที่ 15
3.ยุคใหม่ (Modern Times)
ศตวรรษที่ 15 - ต้นศตวรรษที่ 20 (World War I)
4.ยุคปัจจุบัน (Contemporary World)
กลางศตวรรษที่ 20 (หลังWorld War II) - ปัจจุบัน

9. ยุคโบราณ
จีน
กลุ่มชนใน
ตะวันออกกลาง
โรมัน
อารยธรรม
ตะวันออก
อารยธรรม
ตะวันตก
กรีก
อียิปต์
อินเดีย
เมโสโปเตเมีย

10. อารยธรรม
ยุคกลาง
ยุโรปยุคกลาง อิสลาม

11. อารยธรรม
ยุคใหม่ การปฏิวัติทาง
วิทยาศาสตร์
การปฏิวัติ
อุตสาหกรรม
การปฏิรูป
ศาสนา
การฟื้นฟู
ศิลปวิทยา
สงครามโลกครั้ง
ที่1
การปฏิวัติ
ประชาธิปไตย

12. โลกร่วมสมัย
(ยุคปัจจุบัน)
โลกหลังสงครามโลก
ครั้งที่2
สงครามโลกครั้งที่2
เกิดภาวะสงคราม
เย็น
ทุกประเทศในยุโรป
ร่วมมือกันสร้าง
สันติภาพ

13. อารยธรรมตะวันตกยุคโบราณ
อารยธรรมอียิปต์ : ของขวัญจากแม่น้า ไนล์

14. แม่น้า ไนล์ยาว 500 ไมล์ อยู่ท่ามกลางทะเลทรายที่ร้อนและแห้งแล้ง

15. อียิปต์โบราณประกอบด้วยอียิปต์บนและอียิปต์ล่าง
อารยธรรมอียิปต์เจริญขึ้นในบริเวณเดลต้าซึ่งมีความยาว 100 ไมล์

16. แผนที่ปัจจุบันของแม่น้า ไนล์ ซึ่งมีต้นกา เนิดในเอธิโอเปีย
ไหลผ่านซูดาน อียิปต์ ลงสู่ทะเลเมดิเตอเรเนียน

17. อียิปต์โบราณแบ่งออกเป็น 3 สมัย
1.สมัยอาณาจักรเก่า
2,700-2,200 B.C.
2.สมัยอาณาจักรกลาง
2,050-1,800 B.C.
3.สมัยอาณาจักรใหม่ หรือสมัยจักรวรรดิ
1,580-1,090 B.C.

18. อารยธรรมอียิปต์ : ของขวัญจากแม่น้า ไนล์
1.สมัยอาณาจักรเก่า 2,700-2,200 B.C.
ฟาโรห์มีอา นาจสูงสุด วิญญาณเป็นอมตะ (เมมฟิส)
2.สมัยอาณาจักรกลาง 2,050-1,800 B.C. ชลประทาน ขุดคลอง
ทา เกษตรกรรม และการเดินเรือค้าขาย ถูกรุกรานจากพวกฮิกซอส
(ธีบส์)
3.สมัยอาณาจักรใหม่ หรือสมัยจักรวรรดิ ขยายอาณาเขตทางซีเรีย แม่น้า
ไทกริส ยูเฟรติส รุ่งเรืองด้านการค้าขาย และสูญเสียอา นาจแก่อัสซีเรีย
เปอร์เซีย กรีก โรมัน ในเวลาต่อมา

19. สมัยอาณาจักรเก่า (The Old Kingdom)
The Great Sphinx and the Pyramids of Giza.
สูง 481 ฟุต ฐานแต่ละด้านยาว 750 ฟุต คลุมพื้นที่ 32 ไร่ครึ่ง สร้างเมื่อ 2,500 B.C. ประกอบด้วย
หิน 2 ล้านก้อน แต่ละก้อนหนัก 1.5 - 2 ตัน ใช้เวลาสร้าง 20 ปี โดยแรงงานทาส หนึ่งแสนคน

20. หมู่พีระมิดที่เมืองGiza ประกอบด้วย พีระมิดของฟาโรห์Cheops ,
Khafre หรือ Chephren และ Menkure

21. ฟาโรห์คูฟู
พีระมิดคูฟู

22. พีระมิดคูฟู

23. พีระมิดคูฟู

24. The Pyramids of Giza

27. ฟาโรห์จะต้องนา Book of the dead ไปแสดงต่อเทพโอซิริส
เพื่อจะได้ตัดสินว่าผู้ใดควรรับรางวัลหรือผู้ใดควรถูกลงโทษ

28. Book of the Dead

29. คา สาปเป็นอักษรภาพใน Book of the Dead

30. คัมภีร์ของผู้ตาย หรือ Book of the Dead ซึ่งจารึกที่ผนังพีระมิด

31. เทพโอซิริส เทพเจ้าแห่งชีวิตและความตาย
เทพโอซิริส เทพโอซิริสและมเหสีไอซิส

32. เทพฮอรัส เทพเจ้าแห่งท้องฟ้า
เทพเหล่านี้จะมีรูปร่างครึ่งมนุษย์ ครึ่งสัตว์

33. เทพโทท (Thoth) เทพแห่งภาษา

34. เทพรา (Ra) เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์

35. เทพเจ้าของอียิปต์บางองค์มีรูปร่างเป็นคนมีหัวเป็นสัตว์

36. “ชับติ” (Shabti) หรือรูปแกะสลักที่ทา จากหลากหลายวัสดุทั้ง ขี้ผึ้ง
ไม้ ดินเหนียว หิน แก้ว ดินเผา และสัมฤทธ์ิโดยทา หน้าที่เหมือนคน
รับใช้ลงไปฝังในสุสานแทนชีวิตของคนเป็น ๆ

37. การทา มัมมี่

38. การทา มัมมี่ แสดงถึงความเชื่อในเรื่องวญิญาณเป็นอมตะ

40. สมัยอาณาจักรกลาง (The Middle Kingdom)
แผนที่สมัยอาณาจักรกลาง

42. การทา เกษตรกรรม

44. Ancient Egyptian Irrigation

46. การประกอบอาชีพของชาวอียิปต์

47. การติดต่อค้าขาย

48. ถูกรุกรานจากพวกฮิกซอส

49. สมัยอาณาจักรใหม่ (The New Kingdom)

51. ประติมากรรมหินสลักขนาดมหึมาของฟาโรห์Akhnaton พบที่
Karnak

52. Thutmose III Queen Hatshepsut

53. Ramesses II

54. แท่งหินโอเบลิสก์ (Obelisk)
เป็นเสาหินแท่งเดียว สลักจารึกเรื่องราวต่างๆ

55. Obelisk of Queen Hatshepsut
in the Temple of Karnak Luxor,
Egypt

56. ข้าวของเครื่องใช้ที่มีค่าของฟาโรห์
เครื่องประดับ ข้าวของเครื่องใช้ของฟาโรห์ตุตันคามุน

57. หน้ากากทองคา เครื่องประดับ(สร้อยคอ) และบัลลังก์ไม้ปิดด้วยทองคา ของฟาโรห์ตุตันคามุน

59. Valley of the Kings

60. ชาวอียิปต์บูชาเทพ Aton

61. ชาวอียิปต์ได้สูญเสียอา นาจแก่พวกอัสซีเรีย เปอร์เซีย กรีก และ
โรมันตามลา ดับ จนในที่สุดได้หันไปนับถือศาสนาอิสลาม ในปลาย
คริสต์ศตวรรษที่ 7

62. แผนที่ทวีปแอฟริกาเหนือในปัจจุบัน

63. มรดกของอียิปต์
1.ศาสนาและการฟื้นคืนชีพของฟาโรห์
2.สถาปัตยกรรม
3.การประดิษฐ์ตัวอักษร
4.วิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ เรขาคณิต และการแพทย์
5.การค้าขาย

64. 1.ศาสนา
เทพโอซิริสและไอซิส เทพโอซิริสและฮอรัส

65. Heritage of Egyptian Civilization
Book of the Dead

66. 2.สถาปัตยกรรม

67. ที่เก็บศพสมัยแรกเริ่ม เรียกว่า Mastaba รูปร่างคล้ายพีระมิดขนาด
เล็ก ยอดตัดแบน เป็นที่เก็บศพของฟาโรห์ พระราชวงศ์ และขุนนาง

68. พีระมิดในสมัยต่อมาเป็นขั้นๆ เรียกว่า Step Pyramid ภาพนี้คือ
พีระมิดที่เมือง Sakkara

69. สฟิงซ์รูปแกะสลักหินที่ใหญ่โต หน้าเป็นคน ตัวเป็นสิงโตหมอบ
สร้างไว้บูชาแทนสุริยเทพ และปกปักรักษาปิรามิด

70. Obelisk that stands in Washington DC

71. วิหารเทพเจ้า Horus ที่เมือง Edfu จะเห็น Pylon ด้านหน้า ซึ่งทา
หน้าที่เป็นกา แพงและประตู

72. Temple of Karnak

73. Temple of Abu Simbel

74. 3.การประดิษฐ์ตัวอักษร
อักษร Hieroglyph

75. Hieroglyphics, Hieratic, Phoenician (as used on the Moabite stone and
Siloam inscription), with Hebrew

76. Papyrus Plant

77. The Rosetta Stone

78. Rosetta Stone
พบในสมัยนโปเลียน
ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19
พระเจ้านโปเลียนที่ 1

79. Champollion
เป็นนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส
ได้ศึกษาค้นคว้าจารึกโรเซตตา
จนสามารถถอดความอักษร
ฮีโรกริฟ ของอียิปต์ได้

80. 4.วิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ เรขาคณิต และการแพทย์
-สร้างปิรามิด
-การชลประทาน
-การนับเลข
-การบวกลบและหาร
-หาพื้นที่ปริมาตร
-คิดค้นปฏิทินทางสุริยคติ
-เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์
เก็บรักษาศพหรือมัมมี่ไม่ให้เน่าเปื่อย
Ancient Egyptian Alchemy and Science

81. Egyptian Calendar

82. Geometry of Ancient Egypt

83. 5.การค้าขาย
ชาวอียิปต์ค้าขายทางเรือกับเมืองต่างๆแทบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลแดง
และได้ขุดคลองเชื่อมแม่น้า ไนล์กับทะเลแดง

84. ปัจจุบันคลองสุเอช ระยะทาง 120 ไมล์ เชื่อมระหว่าง
ทะเลแดงกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สร้างขึ้นในตอนกลางศตวรรษที่ 19

85. การค้าขายทางบกด้วยกองคาราวาน โดยใช้ลาและอูฐบรรทุกสินค้าไปยังดินแดนต่างๆ
ในแอฟริกา คาบสมุทรอาระเบีย ซีเรีย และปาเลสไตน์ไปจนถึงอ่าวเปอร์เซีย

86. อารยธรรมเมโสโปเตเมีย : ดินแดนพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์
คา ว่า “เมโสโปเตเมีย” แปลว่า ดินแดนระหว่างแม่น้า ไทกริสและยูเฟรทีส

87. ดินแดนซูเมอร์ : กา เนิดของอารยธรรมเมโสโปเตเมีย
ชาวซุเมเรียน
- กา เนิด “นครรัฐ” แห่งแรกของโลก
- การประดิษฐ์ตัวอักษร
- การค้าขาย
- การสร้างเทคโนโลยี เช่น ล้อเกวียน ซุ้มโค้ง นับหน่วยเป็น 60
ปฏิทินจันทรคติ เรขาคณิต สมการกา ลังสาม แบ่งวงกลม
ออกเป็น 360 องศา
- การทา สา ริด
- การนับถือเทพเจ้าหลายองค์

88. ซูเมอร์ คือ แหล่งกา เนิด “นครรัฐ” แห่งแรกของโลก

90. กษัตริย์-นักบวช Gudea ศิลปะสุเมเรียน

91. การประดิษฐ์ตัวอักษรของชาวซูเมอร์ เรียกว่า
อักษรรูปลิ่ม หรือ อักษรคูนิฟอร์ม (Cuneiform) เพื่อการค้าขาย

92. อักษรคูนิฟอร์มบันทึกลงบนแผ่นดินเหนียว

93. การค้าขาย
Sumerian Seals

94. การสร้างซุ้มโค้ง (Arch)

95. การสร้างล้อเกวียน

96. การสร้างแป้นหมุนที่ใช้ในการทา เครื่องปั้นดินเผา

97. Sumerian sundial diagrams and examples

98. ปฏิทินจันทรคติ ใช้ดิถีของดวงจันทร์
เพื่อบอกข้างขึ้นข้างแรมบอกเดือน ปฏิทิน
จันทรคติในหนึ่งเดือนจะนับตามการ
โคจรรอบโลกของดวงจันทร์ ซึ่งประมาณ
29 วันครึ่ง ซึ่งในหนึ่งปีจะแบ่งเป็น 12
เดือนซึ่งมีทั้งหมด 354 วัน โดยวันจะน้อย
กว่าปฏิทินสุริยคติ 10 วันเศษ

99. แบ่งวงกลมเป็น 360 องศา (60 x 60)

100. คา นวณหาพื้นที่สามเหลี่ยม

101. การคิดสมการกา ลังสาม

102. weapons and tools the Sumerians used

103. ซิกกูแรต (Ziggurat)
เป็นที่ประทับของเทพเจ้าประจา นครรัฐ

104. Ziggurat แห่งนครรัฐ Ur

105. Dur-Untash, or Choqa Zanbil, built in the 13th century BC by Untash
Napirisha and located near Susa, Iran, is one of the world's best-preserved
ziggurats.

106. เทพมาร์ดุก เทพเจ้าสูงสุดของชาวซุเมเรียน

107. เทพี Ishtar เทพีแห่งความรักและความอุดมสมบูรณ์

108. เทพเอนลิล เทพเจ้าแห่งลมและการกสิกรรม

109. มหากาพย์กิลกาเมซ
วรรณกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

111. จักรวรรดิบาบิโลเนีย : ประมวลกฎหมายฮัมบูราบี
- 2,350 B.C. ชาวแอคเคเดียนซึ่งมายึดดินแดนของชาวสุเมเรียน
ได้รับความเจริญของชาวซุเมเรียนไปปรับใช้ แต่ในที่สุดชาวสุเม
เรียนก็ได้ยึดดินแดนของตนคืนมาได้
- 1,800 B.C.ชาวอมอร์ไรต์ ยึดครองดินแดนของชาวซุเมเรียน ขยาย
อาณาเขต และรวบรวมนครรัฐเป็นอันหนึ่งเดียวกัน แล้ว
สถาปนาจักรวรรดิบาบิโลเนีย มีนครบาบิโลนเป็นเมืองหลวง ที่
มั่นคงทางการเมือง การปกครองและการค้าขาย

112. Babylon, Ancient Iraq
Babylon was the capital city
of Babylonia in Mesopotamia.

113. สร้างประมวลกฎหมายฮัมบูราบี (Hammurabi’s Code) ฉบับแรกของโลก
จารึกด้วยอักษรคูนิฟอร์ม ได้ชื่อว่า กฎหมายแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน

115. เมโสโปเตเมียยุคสุดท้าย : จักรวรรดิอัสซีเรียและแคลเดีย
- 1,700 B.C. จักรวรรดิบาบิโลเนีย พ่ายแพ้แก่ชาวคัสไซต์
- 1,300 B.C. ชาวคัสไซต์พ่ายแพ้ต่อชาวอัสซีเรีย มีเมืองหลวงอยู่ที่
นิวเนเวห์ จักรวรรดิอัสซีเรียเจริญสูงสุดในสมัยพระเจ้าอัสซูร์บานิปาล
- 612 B.C. จักรวรรดิอัสซีเรียพ่ายแพ้ต่อชาวแคลเดีย ชาวแคลเดียสถาปนา
นครบาบิโลนขึ้นเป็นเมืองหลวงอีกครั้ง เรียกว่า “บาบิโลเนียใหม่ (The
New Babylonia)” เจริญรุ่งเรืองในสมัยพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์
- 539 B.C. จักรวรรดิบาบิโลเนียใหม่ถูกรุกรานโดยจักรวรรดิเปอร์เซีย นา
โดยพระเจ้าไซรัสมหาราช ทา ให้อารยธรรมเมโสโปเตเมียสิ้นสุดลง

116. จักรวรรดิอัสซีเรีย

117. ชาวอัสซีเรีย - การใช้อาวุธเหล็ก ทา สงคราม

118. พระเจ้าอัสซูร์บานิปาล แห่งจักรวรรดิอัสซีเรีย
ซึ่งเป็นยุคที่ศิลปวิทยาการเจริญสูงสุด

119. ภาพสลักนูนต่า ซึ่งชาวอัสซีเรียเป็นผู้ริเริ่มภาพสลักนูนต่า

120. ภาพสลักนูนต่า ของชาวอัสซีเรีย

121. The Chaldean Account of Genesis

122. ชาวแคลเดียมีความสนใจด้านดาราศาสตร์

123. พระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ ชาวแคลเดีย
ผู้สถาปนาอาณาจักร New Babylonia

124. Hanging Gardens of Babylon

125. Hanging Gardens of Babylon

126. The New Babylonia

128. อารยธรรมของกลุ่มชนในตะวันออกกลาง :
ฟีนีเซีย ฮีบรู และเปอร์เซีย

129. Empires of the Middle East

130. ฟีนีเชีย : พ่อค้าและผู้สร้างพยัญชนะ
- เป็นพ่อค้า ชา นาญในการผลิตสินค้า และเริ่มทา สัญญาค้าขาย
- เป็นนักเดินเรือที่เชี่ยวชาญ
- ตั้งสถานีการค้าหรืออาณานิคมตามชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ที่มีชื่อว่า “อาณานิคมคาร์เทจ”
- สร้างตัวอักษร Alphabet

132. The Commercial Network of the Phoenicians

133. Trading Ship of the Phoenician

134. The Phoenician City of Carthage

135. Phoenician Colonies and Trade

136. Ruins of Carthage

137. Phoenician Alphabet

138. Phoenician Alphabet

139. ฮีบรู : ผู้ให้กา เนิดศาสนาที่นับถือพระเจ้าองค์เดียว
- ฮีบรูนับถือพระเจ้าแต่เพียงองค์เดียว เรียกว่า เอกเทวนิยม
- เป็นที่มาของศาสนายูดาห์ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม
- โมเสสปลดแอกชาวอิสราเอลจากการเป็นทาสของอียิปต์
พาชาวอิสราเอลอพยพไปตั้งถิ่นฐานในดินแดนแห่งพันธสัญญา
และได้รับบัญญัติ 10 ประการจากพระยะโฮวาห์
- กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของชาวฮีบรูคือกษัตริย์เดวิด และ
พระเจ้าโซโลมอน

142. SOLOMON AND DAVID, SAINT MARK'S, VENICE

143. The Promised Land

144. God gave the ten commandments to Moses

145. บัญญัติ 10 ประการ

146. Temple of the Rock in Jerusalem, Israel

147. เปอร์เซีย : จักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ในสมัยโบราณ
- ชา นาญการรบและการเลี้ยงสัตว์
- พระเจ้าไซรัสมหาราชเป็นผู้นา
- มีการสร้างถนนหรือทางหลวง
- แบ่งจักรวรรดิ ออกเป็นมณฑล 26 มณฑล
- นับถือเทพเจ้าหลายองค์ ลัทธิโซโรแอสเตอร์
- จักรวรรดิเปอร์เซียถูกพิชิตโดยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช
(วัฒนธรรมหลายอย่างของเปอร์เซียจึงตกทอดและผสมผสานเข้ากับ
อารยธรรมกรีกในเวลาต่อมา)

152. Cyrus the Great of Persian Empire
ผู้นาในการสร้างจักรวรรดิเปอร์เซียให้เข้มแข็ง
ผู้ปลดปล่อยชาวฮีบรูให้เป็นอิสระจากการตกเป็นเชลยในบาบิโลเนีย

153. Persian Empire under Cyrus, 550 – 540 B.C.

154. Darius the Great of Persia
กษัตริย์ผู้มีความสามารถอย่างยิ่งในด้านการปกครอง

155. พระเจ้า Xerxes โอรสของ Darius แห่งจักรวรรดิเปอร์เซีย

156. Persian Empire under Darius, 521-486 B.C.E.
จักรวรรดิเปอร์เซียมีอาณาเขตตั้งแต่อนาโตเลีย อียิปต์ เมโสโปเตเมีย อิหร่าน
ไปจนถึงอินเดียตะวันตก นับเป็นจักรวรรดิแรกของโลก

157. Map of the Royal Road

158. ลัทธิโซโรแอสเตอร์ (Zoroaster) นับถือเทพเจ้าหลายองค์

159. Alexander the Great Conquered the Persian Empire, 300 B.C.

160. The Persian Army

161. Persian Empire Army