More Related Content
Similar to ศิลปะตะวันออก (ของวันนี้)
Similar to ศิลปะตะวันออก (ของวันนี้) (20)
More from Heritagecivil Kasetsart
More from Heritagecivil Kasetsart (20)
ศิลปะตะวันออก (ของวันนี้)
- 3. การแบ่ง ยุค สมัย ในศิล ปะอิน เดีย
สมัย
อิน เดีย N
สมัยที่ 1
สมัยที่ 2
สมัยที่ 3
สมัยที่ 4
อิน เดีย S
ศ. อินเดียโบราณ
(พศว. 3 -6)
ศ. คัน
ธาระ
(พศว. 6 9)
ศ. มถุรา
(พศว. 6
-9)
ศ. อมราวดี
(พศว. 7 - 10)
ศ. คุปตะ (พศว. 9 - 11)
ศ. หลังคุปตะ (พศว. 11 - 13)
•ศ.อินเดีย N
•ศ. อินเดีย S
- 5. ปูพื้นฐานศาสนาฮินดู
ประวัต ิศ าสนาฮิน ดู
ระ ศาสนา คัม ภี
พัฒ นาการ
ยะ
ร์
1 พระเวท
พระเ นับถือเทพเจ้าธรรมชาติ
วท (พระอินทร์,พระวรุณ,พระอัคนี)
2 เกิดศาสนา คนหันไปนับถือพุทธศาสนามาก
พุทธ
3 ฮินดู
ปุรา ยกตรีมรติขึ้นเป็นพระเจ้าสูงสุด
ู
ณะ (พระพรหม,พระวิษณุ,พระศิวะ)
กดเทพเจ้าเดิมเป็นเทพชั้นรอง
เกิด 2 นิกาย (แต่ไม่มนิกายของ
ี
- 6. ปูพื้นฐานความรู้พุทธศาสนา
นิก า
ย
เถรว
าท
มหา
ยาน
นิก ายในพุท ธศาสนา
ลัก ษณะสำา คัญ
ศิล ปะที่
เจริญ
นับถือพระพุทธเจ้าองค์เดียว อินเดีย
โบราณ
อมราวดี
นับถือพระพุทธเจ้าหลาย
คันธาระ
องค์
+มถุรา
นับถือพระโพธิสัตว์หลาย
คุปตะ
องค์
ตันต นับถือพระพุทธเจ้า+ พระ
ปาละ
ระยะที่
เจริญ
พศว.
1-10
พศว.
6-13
พศว.
- 7. ความรู้เ บื้อ งต้น เกี่ย วกับ
พระพุท ธรูป (อาสนะ -มุท รา )
พระพุทธรูป → ประกอบไปด้วย”อาสนะ” และ
“มุทรา”
อาสนะ = ท่าประทับนั่ง, มุทรา อาสนะ
= การแสดง
พระหัตถ์
ขัดสมาธิราบ (วีรา
อาสนะ = ท่า
สนะ)
ประทับนัง → ใน
่
ศิลปะอินเดียมี 3
ขัดสมาธิเพชร (วัช
อาสนะสำาคัญ
ราสนะ)
ประทับนั่งห้อย
- 10. ความรู้เ บื้อ งต้น เกีย วกับ มุท รา
่
มุทรา = การแสดงพระหัตถ์ → ในศิลปะอินเดีย
มี 6 มุทราสำาคัญ
ปางประทานอภัย
ปางประทานพร
ปางประทานอภัย
(อภัยมุทรา)
ปางสมาธิ
(ธยานมุทรา)
ปางประทาน
ธรรม/สังสอน
่
(วิตรรกมุทรา)
ปางประทานพร
(วรทมุทรา)
ปางมารวิชย
ั
(ภูมิศปรรศมุทรา)
ปางปฐมเทศนา
(ธรรมจักรมุทรา)
- 13. เสริม
พระนาคปรก =
อินเดีย S เสมอ
พระหัตถ์ขวา
จีบเป็นวง
นิยมเฉพาะอินดีย S
วิตรรก
พระหัตถ์ขวา
จีบเป็นวง
พระหัตถ์ซ้ายชี้ไป
ยังพระหัตถ์ขวา
นิยมเฉพาะอินดีย N
ธรรมจักร
- 15. ระบบอาทิพุทธ-ธยานิพุทธ (พุทธ
ตันตระ)
1. อาทิพทธ
ุ
สร้างโลก + สร้างธยานิพุทธ
ไม่มีรูป
2. ธยานิพทธ (มี 5 องค์)
ุ
พระพุทธเจ้าประจำาทิศ (CESWN) + ผู้ดูแลแต่ละกัปป์
ประทับบนสวรรค์ + มีกายทิพย์
3. มานุษิพุทธ (มี 5 องค์)
พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้+สั่งสอนบนโลก
ประทับบนโลก กายเนื้อ
4. ธยานิโพธิสัตว์ (มี 5 องค์)
พระโพธิสัตว์ประจำากัปป์
ดูแลโลกในระหว่างที่มนุษิพุทธปรินิพพานไปแล้ว
- 20. ศิลปะอินเดียโบราณ
พศว. 3-6
เป็นศิลปะของพวกอารยัน→ ลุ่มนำ้าคงคา-ยมุนา (ต่อมาขยายไปแคว้นมหาษฏร์)
ราชวงศ์เมารยะ-ศุงคะ
สมัย
ศาสนา
สมัยอารยันระยะแรก
ศาสนาพระเวท
พุทธกาล
เกิดศาสนาพุทธ
พระเจ้าอโศก
เดิม = ขยายอาณาจักร
ด้วยสงคราม
K สำาคัญสุดของ ร.เมา
รยะ
อินเดียโบราณตอนต้น
พศว.3
ยังไม่มการสร้างสถาปัตยก
ี
รม+ประติมากรรมด้วยถาวรวัตถุ
-
ต่อมา = ศรัทธา + อุปถัมป์
พุทธเถรวาท
ศาสนาพราหมณ์ แต่ก็อุป
อินเดียโบราณตอนปลาย ถัมป์ศาสนาพุทธ
พศว.5-6
ร.ศุงคะ
ศิล ปกรรม
สถูป+ประตู(โตรณะ)+
รั้วรอบ(เวทิกา)
ทีภารหุต +สาญจี
่
- 22. → มีลักษณะเป็น
“คานตั้ง+คานนอน”
ประตูทางเข้า
เรียกว่า
“โตรณะ”
มีทั้ง 4 ทิศ
เวทิกา โตรณะ และความนิยม
เลียนแบบเครื่องไม้ในศิลปะ
อินเดียโบราณ
หรรมิกา
2
โตรณะ,หรรมิกา, เวทิกา
→ คานตั้ง + คานนอน
= “เลียนแบบเครื่องไม้”
ลานประทักษิณ
ภายในเวทิกา
=
ลานประทักษิณ
สถูป
1
รั้ว รอบสถูป =
เรีย กว่า “เวทิก า”
→แสดงเขตศักดิสิทธิ์
์
→ มีลักษณะเป็น
“คานตั้ง+คานนอน”
- 26. พุท ธประวัต ิ
ตอนสุบ ิน นิม ต
ิ
(ฝัน ของพระนาง
มหามายา )
พระนาง
มหามายา
กำาลังบรรทม
“ช้าง” =พระโพธิสัตว์
เสด็จลงสู่พระครรภ์
สมัย อิน เดีย โบราณ
Perspective อย่า งง่า ยๆ
บุคคล/สิ่งอื่น = วางซ้อนอยู่
ด้านบนโดยที่ไม่ได้มีขนาด
เล็กลง
- 28. พุท ธประวัต ิต อนตรัส รู้
ต้นโพธิ์ตรัสรู้
อาคารคลุมต้นโพธิ์
“โพธิฆระ”
เทวดาแสดง
ความยินดี
บัลลังก์ตรัสรู้
“โพธิบัลังก์”
มารพ่ายหนี
- 29. ตัว อย่า งพุท ธ
ประวัต ิต อนอื่น ๆ
พระพุทธบาท
ด้านบน
= เริมเสด็จลง
่
แทนด้วยธรรมจักร
(ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร)
1
ปฐมเทศนา
“เสด็จลงจากดาวดึงส์”
แทนด้วยบันไดเปล่า
3
บัลลังก์เปล่า =
ประทับ+เทศน์
บนโลกมนุษย์
2
พระพุทธบาทด้านล่าง =
เสด็จถึงโลกมนุษย์
พระบาทหลายพระบาท
= แสดงการเคลื่อนไหว
แทนด้วยสถูป
ปรินิพพาน
- 32. ยักษิณเหนียวกิงไม้
ี
่
่
เหนี่ยวกิ่งไม้
ยักษิณี = เทวีประจำาต้นไม้
มักแสดงการเหนี่ยวกิ่งไม้
ประดับอยู่
บนเวทิกา
เท้ากระแทกต้นไม้ = ทำาให้
ต้นไม้ออกผล
ใส่กำาไล
ผ้านุ่งอินเดียโบราณ
ผ้าหนา → มอง
ไม่เห็นองคเพศ
ข้อมือ+ข้อเท้า
จำานวนมาก
เดิม → คนนับถือ
ยักษ์ + ยักษิณี (เทพพื้นเมือง)
ต่อมา → เกิดศาสนาพุทธ →
ต้องการที่จะผนวกลัทธิ
นับถือยักษ์ + ยักษิณี
เหยียบสัตว์พาหนะ
ยักษ์ + ยักษิณี ถูกนำามาสลักไว้ที่
เวทิกา ≈ เป็นบริวารของ
พระพุทธเจ้า
- 34. ศิลปะอินเดียสมัยที่ 2 กับการ
ประดิษฐ์พระพุทธรูป
ปรากฏพระพุทธรูปเป็นรูปมนุษย์ทั้ง 3 ศิลปะ
เกิดข้อถกเถียงว่า ระหว่าง ศิลปะคันธาระ vs ศิลปะมถุรา →
ศิลปะใดเกิดพระพุทธรูปก่อนกัน (ใน Class นี้ เราจะเรียน
เฉพาะทฤษฎีคันธาระเกิดพระพุทธรูปก่อน)
ศิลปะอมราวดี = sure ว่าเกิดพระพุทธรูปทีหลังสุด เพราะ
อมราวดีตอนต้น = ไม่
กล้าสร้างพระพุทธรูป
= อิทธิพลอินเดีย
โบราณ
อมราวดีตอนปลาย = เริ่ม
เกิดพระพุทธรูป = อิทธิพล
คันธาระ-มถุรา
- 43. ศิลปะอมราวดี (พศว.7-10)
ศูนย์กลางศิลปกรรมหลัก = อมราวดี + นาคาร
ชุนโกณฑะ (อานธรประเทศ)
เดิม = ราชวงศ์ศาตวาหนะ (ศูนย์กลางศิลปกรรม
หลัก = อมราวดี) ต่อมา = ราชวงศ์อิกษวากุ
(ศูนย์กลางศิลปกรรมหลัก = นาคารชุนโกณฑะ)
สืบมาจากศิลปะอินเดียโบราณ
อมราวดีตอนต้น = ใช้สัญลักษณ์แทน
พระพุทธเจ้า (สืบมาจากอินเดียโบราณ)→
อมราวดีตอนปลาย = ปรากฏพระพุทธรูปเป็นรูป
มนุษย์ แต่บางครั้งก็ยังใช้สญลักษณ์ควบคูอยู่
ั
่
- 46. ภาพเล่า เรื่อ งในศิล ปะอมราวดี
อมราวดีตอนต้น = ใช้สัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้า (สืบ
มาจากอินเดียโบราณ)
เมืองกบิล
เมื
อมราวดีตอนปลาย = ปรากฏพระพุทธเจ้าเป็นรูป องกบิล
ม้า + ฉัตร
พัสดุ์
พัสดุ์
= สืบมา
มนุษย์
ม้า + ฉัตร
ม้าเปล่า
การแสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์
(อมราวดีตอนต้น)
ม้ามีคนขี่
การแสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์
(อมราวดีตอนปลาย)
- 52. อุษณีษะ & พระเกศา =
คันธาระ + อมราวดี
(ต่อมาปูพื้นฐานให้ทุก
ศิลปะ)
“มวย
ณีษะแบบ
อุษ
ว
ขม
้นห
ดก
พระเนตรเหลือบตำ่า
→ ดูสงบ
ลักษณะเฉพาะคุปตะ
า
กศ
ะเ
พร
อุณาโลมหายไป
ลักษณะเฉพาะคุปตะ
ผม”
พระพุทธรูปคัน
ธาระ
อย
เศียรพระพุทธรูป
คุปตะ (ทั้ง 2
พระพุทธรูปอมราว
- 57. ปรินิพพาน ที่กสินารา
ุ
(ด้านบนสุดเสมอ)
พระแปดปาง
ในศิลปะปาละ
เสด็จลง
จากดาวดึงส์
สังกัสสะ
ศิลปะปาละ → ปรากฏการทำา
ปราบช้างนาฬาคีรี
พุทธประวัติ 8 ตอน ในแผ่น
เมืองราชคฤห์
เดียวกัน
8 ตอน เรียกว่า อัษฏมหาปาฏิหาริย์ (สังเวชนียสถาน 4 +
แสดงยมก- มหาปาฏิหาริย์ 4)
ปาฏิหาริย์
สาวัตถี สังเวชนียสถาน 4 →
ประสูติ,ตรัสรู้,ปฐมเทศนา,ปรินิ
พพาน
ปฐมเทศนา
สารนาถ
ประสูติ
สวนลุมพินี
ตรัสรู้ ที่พทธคยา
ุ
(เป็นประธานเสมอ)
มหาปาฏิหาริย์ 4 → ปราบ
ช้างนาฬาคีรี,แสดงยมก
ปาฏิหาริย์,เสด็จลงจาก
ดาวดึงส์,รับบาตรจากพญา
วานร
รับบาตรจาก
พญาวานร
ป่าเลไลยก์
- 63. มีอุณาโลม
= ปาละ
≠ หลังคุปตะ
ธรรมจักรมุทรา
= อินเดีย N
่
แต
ง
ี
เฉีย ยจวร
่
หม ีชา
ย
ซ้า ละ
่ม
ไม อังสา ปา
ะ
ี่พร ุปตะ ≠
ท ค
ัง
หล
=
ไม่มีอุณาโลม
คุปตะ+หลังคุปตะ
ธรรมจักรมุทรา
= อินเดีย N
นั่งห้อยพระบาท
= อินเดีย N
ชายจีวร
ด้านล่างเป็น
เขี้ยวตะขาบ
= ปาละ
≠ หลังคุปตะ
พระพุทธรูป
ภายในจันทิ
เมนดุต
่
แต
ง
ี
เฉีย ยจวร
่
หม ีชา
้าย
่
ม
าซ
ไม อังส
ะ
ี่พร
ท
นั่งพระชานุแยก
แต่พระบาทชิด
เช่นกัน
พระพุท ธรูป ประธานที่
จัน ทิเ มนดุต = พระพุท ธ
รูป แสดงธรรมจัก รมุท รา
นั่งห้อยพระบาท
= อินเดีย N
พระพุท ธรูป ที่ถ ำ้า เอลโลร่า
- 65. อุณาโลม
= ปาละ
อุษณีษะ+พระเกศา
= คุปตะ-ปาละ
มีอุณาโลม = ปาละ
พระยืนห่มคลุม
แต่พระนั่งห่มเฉียง
อิทธิพลปาละ
จีวรเรียบไม่มริ้ว
ี
เหมือนทังคุปตะ,หลังคุปตะ
้
& ปาละกลุ่มหนึ่ง
ชายจีวรด้านล่าง
เขียวตะขาบ
้
= ปาละ
ขัดสมาธิเพชร
อินเดีย N
ั้น
ั่ง
ะน จวรส
พร าย ี า
ี
ช
ส
ม่ม ระอัง ตะ
ไ
ถ้า ที่พ คุป ะ)
ัง
ล
หล = ปา
= ี
ม
(ถ้า
- 67. ยุค สมัย ในศิล ปะขอม
สมัย
ก่อนเมืองพระนคร
(พศว. 12 - 14)
ชื่อ ศิล ปะ
พนมดา, ถาลาบริวัติ,
สมโบร์ไพรกุก,ไพรเกมง,
กำาพงพระ
หัวเลี้ยวหัวต่อ
(พศว. 14 - 15)
กุเลน, พระโค
เมืองพระนคร
(พศว. 14 - 18)
บาแค็ง, เกาะแกร์, แปรรูป,
บันทายสรี, คลัง, นครวัด, บายน
- 71. สมัย
มิเซิน E1
มิเซิน (ภัทเรศวร)
ดงเดือง
อมราวดี/อินทรปุระ
ป.ฮุงถาญ
วิชัย
อาณาจักรจามปา
แบ่งได้ 3 แคว้น
โพกลวงการาย,โพโรเม
ปาณฑุรังค์
พศว.
13
หัวล่าย
14
ดงเดือง
(อินทรปุ
ระ
มิเซิน)A1
15
ต้น
(อินทรปุ
ระ)
บิญดิ่น
(วิชัย)
สมัยหลัง
15
ปลาย
– 16
17-18
อิทธิพ
ล
อินเดี
ย
ชวา
จีน
พืน
้
เมือง
ชวา
ประวัติศาสตร์
ศิวลึงค์ประจำา
อาณาจักรทีมิเซิน
่
(ภักเรศวร)
ชวาบุทรุก (พร้อม
ขอม) ิ
เมืองหลวงที่อนทร
ปุระ
พุทปะเจริญสูงสุด
ศิลธมหายานจาก
จีน
จีน
เวียดนามเริ่ม
บายน โจมตี→ ย้ายเมือง
หลวงไปวิชัย
บุกรุกขอม + ขอม
บุกรุกกลับ
19 ลง จีน
เวียดนามโจมตี →
มา
ถอยไปปาณฑุรังค์
→ ต่อมาเวียดนาม
กลืน
- 74. อังวะ
พม่า
ปยู
ตองอู
หงสาว
ดี
มอญ
ศิล ปะพม่า แบ่ง ได้ 4 สมัย
สมัยที่
พม่า N
พม่า S
1
ศรีเกษตร (ปยู) สุธรรมวดี /
(12 สะเทิม
16)
(มอญ)
2
(16 19)
พุกาม (พม่า)
พระเจ้าอโนรธาตีมอญ + รับ
พุทธเถรวาท
3
(19 23)
อังวะ (พม่า)
ตองอู (พม่า)
หงสาวดี
(มอญ)
พระเจ้า
ธรรมเจดีย์
4
(23 25)
ราชวงศ์คองบอง (พม่า)
อังวะ – อมรปุระ – มัณฑเล
พระเจ้าอลองพญา + มังระ
พระเจ้ามินดง