More Related Content
Similar to พัฒนาการของมนุษย์
Similar to พัฒนาการของมนุษย์ (20)
พัฒนาการของมนุษย์
- 3. พัฒนาการ
(Development)
การเปลี่ยนแปลงของบุคคล
ในทุก ๆ ด้านตามระยะเวลา
ที่เปลี่ยนไป การ
เปลี่ยนแปลงนั้นเป็นผลมา
จาก ระบบชีววิทยาในตัว
การเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม
- 5. วุฒภาวะ
ิ
(Maturation)
หมายถึง รูปแบบพฤติกรรมในเชิงชีววิทยาที่
มีความสัมพันธ์กับอายุ โดยการเปลี่ยนแปลง
ในแบบพฤติกรรมเหล่านี้จะได้รับการตั้งโปรม
แกรมโดยยีนส์ ซึ่งได้รวมถึงควาสามารถทาง
กายและความสามารถทางด้านความคิด
- 7. การเปลี่ยนแปลงเนื่องมา
จากพัฒนาการ
1. การเปลี่ยนแปลงด้าน
ขนาด
2. การเปลี่ยนแปลงด้าน
สัดส่วน
3. การเปลียนแปลงที่เกิด
่
ขึ้นทำาให้ลกษณะเก่า ๆหาย
ั
- 9. หลักของพัฒนาการ Principle of
Development
อาร์โนลด์ จีเซลล์ ได้สรุปหลักของ
พัฒนาการของมนุษย์
1.พัฒนาการของมนุษย์มีทิศทาง (Principle of
Directions)
- ทิศทางจากส่วนบนลงสู่สวนกลาง
่
(Cephalocaudal Law) เป็นการพัฒนาใน
แนวดิง โดยยึดศีรษะเป็นอวัยวะหลัก
่
คือ อวัยวะใดที่อยู่ใกล้ศรษะมากที่สด
ี ุ
บุคคลก็จะสามารถควบคุมการ
ทำางานของอวัยวะส่วนนั้นได้ก่อน
- 10. หลักของพัฒนาการ Principle of
Development
ทิศทางจากส่วนใกล้ไปสู่ส่วนไกล
(Proximodistal Law) เป็นการพัฒนา
ในแนวขวาง โดยยึดลำาตัวเป็น
อวัยวะหลัก คืออวัยวะใดก็ตามที่
อยูใกล้ร่างกายมากทีสุดจะ
่ ่
สามารถควบคุมได้ก่อนส่วนอื่น ๆ
ดังนันเด็กจึงขยับร่างกายได้ก่อน
้
ส่วนอื่น ๆ
- 11. 2. พัฒนาการของมนุษย์มี
ลักษณะต่อเนื่อง (Principle of
Continuity)
พัฒนาการใดด้านใดก็ตามต้อง
อาศัยระยะเวลาและความต่อ
เนืองอย่างค่อยเป็นค่อย ไป
่
ไม่ใช่เกิดได้โดยฉับพลันทันที
ทันใด โดยเริ่มพัฒนาการ
ตั้งแต่วัยเด็ก และพัฒนาการ
ถึงขีดสุดในวัยผู้ใหญ่ และ
เสื่อมลงเมื่อถึงวัยชราตาม
- 12. 3. พัฒนาการของมนุษย์เป็นไป
ตามลำาดับขั้น
(Principle of Developmental Sequence)
พัฒนาการของสิ่งต่าง ๆ ทั้ง
หลายต่างก็มีแบบแผนเฉพาะ
ของตน เมื่อพัฒนาการมี
ลักษณะต่อเนื่อง ดังนั้นจึงไม่
สามารถที่จะข้ามขั้นได้ และเป็น
ไปตามลำาดับขั้นตอนตาม
ธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น เด็กจะ
- 13. 4. พัฒนาการของมนุษย์ต้องอาศัย
วุฒิภาวะและการเรียนรู้
(Principle of Maturation and Learning)
วุฒิภาวะนั้นเป็นความพยายามขั้น
ต้นของสิ่งมีชีวิตในการจัดระบบ
เพื่อเตรียม ให้ได้มาซึ่ง
ประสบการณ์ตาง ๆ อันยัง
่
ประโยชน์ให้กับตนเอง ส่วนการ
เรียนรู้เป็นการเพิ่มความชำานาญ
- 14. 5. พัฒนาการของมนุษย์แต่ละบุคคล
มีอัตราแตกต่างกัน
(Principle of Individual Growth Rate)
ช่วงชีวิตของแต่ ละบุคคลนั้น
จะมีความถึงพร้อมซึงวุฒิ
่
ภาวะแตกต่างกัน เช่น ในเด็ก
หญิงจะถึงวุฒิภาวะของความ
เป็นสาวเร็วกว่าการถึงวุฒิ
ภาวะความเป็นหนุ่ม ของเด็ก
- 17. พัฒนาการในวัย
ต่าง ๆ
วัยทารก
จะมีชวงเวลาตั้งแต่แรกเกิด – 2 ปี
่
วัยทารกยังเป็นวัยที่ยงช่วยเหลือตัว
ั
เองไม่ได้ ต้องอาศัยความช่วยเหลือ
จากบุคคลอื่น วัยนี้มการเจริญเติบโต
ี
อย่างรวดเร็ว และเห็นพัฒนาการทาง
ด้านร่างกายอย่างชัดเจน สิงที่สำาคัญ
่
คือการพัฒนากล้ามเนื้อ
- 20. วัยเด็ก
วัยเด็ก เป็นวัยที่อยู่ในช่วงอายุ 2 – 11 ปี มี
การพัฒนากล้ามเนื้อทีใช้ในการเล่นมักมี
่
พฤติกรรมเลียนแบบผู้ใหญ่ทอยู่ใกล้ตัว
ี่
พัฒนาการทางสติปัญญาจะก้าวหน้าอย่าง
รวดเร็วในตอนปลายของวัย
วัยเด็กจะมีการพัฒนาเอกลักษณ์ของตนเอง
(Identification) เด็กจะรับเอาทัศนคติและ
พฤติกรรมจากพ่อแม่
พฤติกรรมทางสังคม เด็กจะมีความสัมพันธ์
- 22. วัยรุ่น
การเข้าสู่วยรุนของเด็กชายและเด็กหญิงแตก
ั ่
ต่างกัน เด็กชายจะมีอายุประมาณ 13 ปี ส่วน
เด็กหญิงจะมีอายุประมาณ 11 ปี ทั้งนี้เพราะผู้
หญิงโตเร็วกว่าผู้ชาย กว่า 2 ปี และจะสิ้นสุด
เมื่ออายุ 18-20 ปี
พัฒนาการทางกายมีการเจริญเติบโตอย่าง
รวดเร็ว เด็กผู้หญิงเริ่มมีประจำาเดือน เด็กผู้ชาย
เริ่มฝันเปียก มีลักษณะเป็นวัยหนุ่มวัยสาว
- 23. วัยรุ่น
การสร้างมิตรภาพ วัยรุ่นมักชอบเพื่อน
ทีมีบุคลิกภาพและความสนใจเดียวกัน วัย
่
รุ่นชายจะพัฒนาความสัมพันธ์โดยการทำา
กิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ผูหญิงพัฒนา
้
ความสัมพันธ์โดยการติดต่อสื่อสารซึ่งกัน
และกัน
วัยรุนเป็นวัยหนึ่งเป็นวัยทีมีปัญหา ซึ่ง
่ ่
อาจจะพบปัญหาการฆ่าตัวตายในวัยรุ่น
อันเป็นมาจากการซึมเศร้า และความรู้สก ึ
- 25. วัยผูใหญ่
้
วัยผู้ใหญ่แบ่งออกเป็น 3 ช่วง
อายุ คือ
1 วัยผู้ใหญ่ตอนต้น อายุ 18-45 ปี
2 วัยกลางคน อายุ 45-65 ปี
3 วัยชรา หรือผู้ใหญ่ตอนปลาย
อายุ 65 ปีขึ้นไป
- 27. พัฒนาการทางกาย
วัยผู้ใหญ่ตอนต้น จัดว่าเป็นระยะที่ดีที่สด
ุ
ของชีวต ร่างกายมีการเจริญเติบโตมากที่สดตอน
ิ ุ
อายุ 20 ปี มีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
วัยกลางคน ร่างกายจะเริ่มค่อย ๆ เสื่อมลง
จากวัยผู้ใหญ่ตอนต้น
วัยชรา กระบวนการเสือมในร่างกายเมกปราก
่
ฎอย่างรวดเร็ว ร่างกายจะสูญเสียความสามารถที่
ปกป้องตนเองจากโรคต่าง ๆ
- 28. พัฒนาการทางสังคมและ
บุคลิกภาพของผู้ใหญ่
วัยผู้ใหญ่เป็นวัยที่ประสบ
ความสำาเร็จในงานอาชีพ
จะเพิ่มมากขึนในระหว่าง
้
20-40 ปี บุคคลจะมี
ประสบการณ์ในการจัดการ
กับสถานการณ์ต่าง ๆ ใน
ชีวตประจำาวันและการงาน
ิ
อาชีพสิงเหล่านี้จะมีผลต่อ
่
บุคลิกภาพของบุคคลในวัย
- 29. การแต่งงานและการมี
ครอบครัว
ผู้ใหญ่ตอนต้น
เป็นวัยที่จัดว่าเป็น
ช่วงของการสร้าง
ความสนิทสนมกับ
เพือนต่างเพศคนใด
่
คนหนึ่ง ซึงมักจะนำา
่
มาสูการแต่งงาน
่
และต่อมาก็คือการมี
- 30. การเกษียณอายุ
การเกษียณอายุมีอยู่ 6 ระยะด้วยกัน
1 ระยะก่อนการเกษียณอายุ
2 ระยะของการมีความสุข
3 ระยะของการหมดความสุข
4 ระยะการปรับตัวอีกครั้ง
5 ระยะความมั่นคง
6 ระยะสุดท้าย
- 32. จุดจบของชีวิต (การ
ตาย)
1 การปฏิเสธ
2 ความโกรธ
3 อาการที่บุคคลคาดหวังว่าจะ
ต่อรองได้
4 ความซึมเศร้า
5 การยอมรับ
- 34. ทฤษฎีการพัฒนา
ของฟรอยด์
พัฒนาการความต้องการทาง
เพศและบุคลิกภาพของบุคคล
ต้องอาศัยการพัฒนาที่ตอเนื่อง
่
อย่างเป็นลำาดับขั้นจนกลายเป็น
บุคลิกภาพที่ถาวรในที่สุด
พัฒนาการแต่ละขั้นเป็นการ
ตอบสนองความสุขความพึง
- 36. ตังแต่แรกเกิดถึงประมาณ
้
1-2 ปี เด็กจะชอบ ดูด กัด
อม เช่น ดูดนม กัดแทะของ
เล่น ดูดนิ้ว เล่นนำ้าลาย และ
ทำาเสียงต่าง ๆ
ถ้าถูกขัดขวางจะเกิด Oral
- 37. อยู่ในช่วงอายุ 2-3 ปี ระยะนี้
เด็กจะพึงพอใจกับการขับ
ถ่าย การฝึกการขับถ่ายควร
ทำาค่อยเป็นค่อยไปด้วย
ความอ่อนโยนอย่าบังคับ ถ้า
เกิดการติดตรึงจะทำาให้ เป็น
พวกชอบสะสมของ หวงของ
- 38. อยูระหว่าง 3-5 ปี เด็กจะมีความ
่
พึงพอใจกับการได้สมผัสอวัยวะ
ั
เพศของตนเองถ้าไม่ได้รับการ
ตอบสนองจะเกิดความแปรปรวน
ทางเพศขึ้นในวัยผูใหญ่
้
ชาย = ปมออดิปุส หญิง
= ปมอิเล็กตรา
- 39. อายุ 6 -12 ปี ระยะนี้จะเป็น
ระยะพักเด็กจะเริ่มแสวงหา
บทบาทที่เหมาะสมให้กับ
ตนเอง ชอบเล่นในกลุม ่
เพศเดียวกัน เล่นกีฬา เล่น
เกม และกิจกรรมต่าง ๆที่
- 40. อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป ถ้า
เด็กผ่านขั้นอวัยวะเพศ
ไปได้อย่างราบรื่น เด็กจะ
แสดงบทบาทความเป็น
ชายและหญิงตรงตาม
เพศของตน
- 42. ตั้งแต่แรกเกิดถึง 2 ปี เป็นวัยทีเริ่ม
่
เรียนรู้โดยใช้ประสาทสัมผัสและ
การเคลื่อนไหวของร่างกายเพื่อ
ตอบสนองสิ่งแวดล้อมเด็กที่
สามารถใช้ประสาทสัมผัสกับสิง ่
แวดล้อมได้มากเท่าใดก็จะช่วย
พัฒนาเชาวน์ปัญญาของเด็กได้
- 44. อายุ 4 -7 ปี เชือตัวเองไม่ยอม
่
เปลี่ยนความคิด หรือเชื่อใน
เรื่องการทรงภาวะเดิมของ
วัตถุ
ก ข
- 45. อายุ 7 – 11 ปี เป็นระยะทีเด็ก
่
สามารถคิดอย่างมีเหตุผลใน
เรื่องทีเป็นรูปธรรม ถ้าให้วาด
่
ภาพครอบครัวของฉัน เด็กใน
วัยนีจะสามารถวางภาพได้ใกล้
้
เคียงความเป็นจริง จัดหมวด
หมู่ได้ เรียงลำาดับได้
- 46. เด็กอายุระหว่าง 11 ถึง 15 ปี
เด็กจะเริ่มคิดได้แบบผู้ใหญ่
สามารถเข้าใจสิ่งที่เป็น
นามธรรมได้ คิดตั้ง
สมมติฐานและสร้างทฤษฎี
แบบนักวิทยาศาสตร์ได้ เป็น
ตัวของตนเอง ต้องการความ
- 47. ทฤษฎีการพัฒนาของ
อีริคสัน
1. ขันไว้ใจกับไม่ไว้ใจผูอื่น
้ ้
2. ขันทีมีความอิสระกับความ
้ ่
สงสัย
3. ขั้นความคิดริเริ่มกับความ
รู้สึกผิด
4. ขันขยันหมั่นเพียรกับความ
้
รู้สึกมีปมด้อย
5. ขันเข้าใจเอกลักษณ์ของ
้
- 48. ตังแต่แรกเกิดจนถึง 1 ปี ถ้าเด็ก
้
ได้รับความรัก ความอบอุ่น และ
การดูแลจากคนใกล้ชิด เด็กโต
ขึ้นก็จะเกิดความรู้สึกไว้วางใจ
สังคม แต่ถ้าไม่ไเด็รับพ่อแม่ ก ้
ผู้ที่มีบทบาทกับ ด้ ก ความรัผู
ความอบอุ่น เมื่อโตขึ้นก็จะหลีก
ปกครอง หรือพี่เลี้ยง
หนีสังคม
- 49. อายุ 2-3 ปี เด็กจะเรียนรู้การ
เดิน การพูด และทำาอะไรตาม
อิสระ พ่อแม่ควรให้อิสระกับ
เด็กในการทำากิจกรรมต่าง ๆ
ด้วยตนเองพยายามให้เด็ก
ช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด
ไม่ข่มขู่ลงโทษเมื่อเด็กทำาผิด
ผู้มีบทบาท พ่อเด็กจะเกิ้เลี้ยงดู
อย่างรุนแรง แม่และผูดความ
- 50. อายุ 3 - 5 ปี เด็กจะใช้ของเล่น
ทดแทนจินตนาการ โดยนำา
ของเล่นรวมกันแล้วสร้างเป็น
เรื่องราวขึ้นมา เด็กพอใจที่จะ
เลียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่ที่
ใกล้ชิด ดังนั้นหากพ่อแม่
ผู้ทมีบทบาทคือ้ยงดูยอมรับผลงาน
ี่ และคนเลี บุคคลในครอบครัว
- 51. อายุ 6-11 ปี เด็กในวัยนีไม่อยูนง
้ ่ ิ่
ชอบเขียน อ่าน ทำาในสิ่งทีตน ่
อยากทำาขยันในการทำางานต่าง ๆ
และภาคภูมิใจในผลงานทีได้รับ
่
ความสำาเร็จเนืองจากความ
่
พยายามของตน ผูใหญ่ต้องไม่
้
คาดหวัทบาท เด็กสูงเกินไป จน
ผู้มีบ งในตัว พ่อแม่ ครู และ
- 52. อายุ 12-18 ปี ช่วงนีถือเป็นช่วง
้
วิกฤตมากที่สด เมือเด็กเกิด
ุ ่
ปัญหาใด ๆ ขึ้น เขาจะเกิด
ความสับสนว่าควรจะเชื่อใครดี
ระหว่างพ่อแม่ ตนเอง หรือ
เพื่อน เด็กวัยนีคือการแสวงหา
้
ตนเองเพื่อให้รู้จักตนเองในแง่
มุมต่าง ๆ
- 53. วัยผูใหญ่ตอนต้น เริ่มนัดหมาย
้
การแต่งงานและชีวิตครอบครัว
ถ้าหากว่าแต่ละคนได้พัฒนา
ความเข้าใจเอกลักษณ์ตนเองดี
พอ แต่ถ้าบุคคลใดไม่สามารถ
ผ่านขั้นนีไปได้ จะกลายเป็นคน
้
รักตนเองและไม่สามารถจะ
แสดงความรักต่อผู้อื่นได้
- 55. วัยชรา เขาจะมีความไว้วางใจ
เพื่อนร่วมโลกและตัวเองถ้า
เขามีความทรงจำาในด้านความ
สุขความสบายใจ แต่ถ้าเขามี
ความทรงจำาเกี่ยวกับความผิด
หวังตลอดเวลาเขาก็ไม่มีความ
สุขในชีวิต
- 56. ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรม
ของโคห์ลเบิร์ก
(Kohlberg’s Moral Development)
เป็นทฤษฎีทมีแนวคิดพื้นฐาน
ี่
มาจากทฤษฎีพัฒนาการทาง
เชาวน์ปัญญาของเพียเจต์ โดย
ได้ขยายขอบเขตงานวิจัยให้
ครอบคลุมกว้างขวางมากยิงขึ้น
่
โคห์ลเบิร์กได้สรุปทฤษฎี
พัฒนาการทางจริยธรรมของ
- 57. ระดับที่ 1 ระดับก่อนเกณฑ์ทาง
สังคม
(Pre-conventional Level)
เด็กจะรับรู้ถึงกฎเกณฑ์ที่ดีและไม่ดีจากคนที่มี
อิทธิพลเหนือตน เช่น พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู หรือ
เด็กที่โตกว่า และจะนึกถึงรางวัลและการลงโทษ
เป็นส่วนประกอบในการแสดงพฤติกรรม
ขั้นของการลงโทษและเชือฟัง (Punishment and
่
obedience orientation)
แรกเกิดถึง 7 ปี เป็นหลักของการใช้เหตุผลของการแสดงพฤติกรรมเป็น
เครื่องช่วยตัดสินว่าถูกหรือ
2. ขั้นการแสวงหารางวัล (Naively egoistic orientation)
- 58. ระดับที่ 2 ระดับแสดงจริยธรรมตาม
กฎเกณฑ์ของสังคม (Conventional
Level)
การแสดงออกของพฤติกรรมทีเป็นไป ่
ตามความคาดหวัง ของสังคมที่เป็น
สมาชิกอยู่ โดยในขั้นนี้เด็กจะไม่คำานึง
ถึงรางวัลหรือการลงโทษแล้ว แต่จะ
ยึดถือมาตรฐานที่สังคมกำาหนด
1.ขั้นทำาตามเพื่อเพื่อนและสิงทีสังคม
่ ่
ยอมรับ
(Interpersonalconcordance of “Goodboy-Nicegirl” orientation)
- 59. ระดับที่ 3 ระดับจริยธรรมเหนือกฎ
เกณฑ์ทางสังคม (Post-conventional
Level)
พฤติกรรมเกิดจากการใชวิจารณญาณของ
ตนเป็นมาตรฐานในการตัดสิน การปฏิบัติ
โดยปราศจากอิทธิพลของบุคคลและสิ่ง
แวดล้อมในสังคมเข้ามาเกี่ยวข้อง
ขั้นทำาตามสัญญา (Social contract orientation)
เป็นขั้นหลักการมีเหตุผลและเคารพตนเอง
อยู่ในช่วงอายุ 16 ปีขึ้นไป
2. ขั้นอุดมคติสากล (Universal ethical principle orient
ation)กฎระเบียบของสังคม และทำาหน้าที่