More Related Content Similar to ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 ชั้น ม.6 Similar to ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 ชั้น ม.6 (20) More from Nattapong Boonpong More from Nattapong Boonpong (20) ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 ชั้น ม.61. โรงเรียนพลับพลาชัยพิทยาคม หน้า 1/14
ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
วิชา ชีววิทยา 4 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
คาสั่ง 1. ข้อสอบทั้งหมด 80 ข้อ (ปรนัย)
2. เลือกคาตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว
3. ให้ใช้ตารางรหัสพันธุกรรม หน้าที่ 3 เพื่อตอบคาถามบางข้อ
1. ข้อมูลใดของโมเลกุล DNA ที่ทำให้นักวิทยำศำสตร์ลงควำมเห็นว่ำ DNA มีลักษณะเป็นเกลียว?
1. ปริมำณเบสคู่สม 2. ปริมำณนิวคลีโอไทด์
3. กำรหักเหของรังสีเอ็กซ์ผ่ำนโมเลกุล DNA 4. ภำพถ่ำย DNA จำกกล้องจุลทรรศน์
จากแผนภาพ จงตอบคาถามข้อ 2-4
2. ภำพที่เป็นสำรพันธุกรรมชนิดใด?
1. RNA 2. DNA
3. RNA และ DNA 4. ไม่มีข้อถูก
3. จำกภำพนี้มีนิวคลีโอไทด์ทั้งหมดเท่ำใด?
1. 4 2. 8
3. 12 4. 16
4. หมำยเลข 1 เป็น nitrogenous base ชนิดใด?
1. ไพริมีดีน 2. พิวรีน
3. ทั้งไพริมีดีนและพิวรีน 4. ไม่มีข้อถูก
5. นิวคลีโอไทด์ของ DNA และ RNA ต่ำงกันในข้อใด?
1. จำนวนของเบส 2. ชนิดของน้ำตำล
3. ชนิดของหมู่ฟอสเฟต 4. ข้อ 1 และ 2 ถูก
6. พันธะไฮโดรเจน (Hydrogen bond) ระหว่ำงเบสคู่ใดจะไม่พบใน DNA?
1. A กับ T 2. A กับ U
3. G กับ C 4. C กับ G
7. จำกแผนภำพ ข้อใดระบุขั้นตอนได้ถูกต้อง ตำมลำดับ?
DNA RNA Protein
1. Translation Replication Transcription
2. Transcription Translation Replication
3. Replication Transcription Translation
4. Replication Translation Transcription
2. โรงเรียนพลับพลาชัยพิทยาคม หน้า 2/14
ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
วิชา ชีววิทยา 4 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
8. แผนภำพนี้แสดง DNA 1 โมเลกุล ข้อใดแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกำรจำลอง DNA แบบกึ่งอนุรักษ์
(Semiconservative)?
1. 2. 3. 4.
9. แผนภำพนี้แสดงโมเลกุลของ anticodon อยำกทรำบว่ำ W, X และ Y แทนโมเลกุลใด ตำมลำดับ?
W X
Y
ตัวเลือก W X Y
1. deoxyribose base phosphate
2. deoxyribose phosphate base
3. ribose base phosphate
4. ribose phosphate base
10. กำรเปลี่ยนแปลงของยีนในระดับโมเลกุล จะเกิดขึ้นที่ส่วนใดของโมเลกุล DNA?
1. หมู่น้ำตำล 2. หมู่ฟอสเฟต
3. หมู่เบส 4. หมู่ไฮโดรคำร์บอน
11. กำหนดให้ m-RNA สำยหนึ่งมีลำดับเบส ดังนี้
3’ - AAAGGCGAUAGGUUUGUACGAAAACCC – 5’
DNA template (DNA ต้นแบบ) ในกำรสังเครำะห์ m-RNA สำยนี้จะสร้ำง hydrogen bond
ทั้งหมดกี่พันธะ?
1. 81 2. 69 3. 66 4. 48
3. โรงเรียนพลับพลาชัยพิทยาคม หน้า 3/14
ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
วิชา ชีววิทยา 4 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
จงศึกษาตารางข้างล่างนี้ซ่งแสดงถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีน และตารางรหัส
ึ
พันธุกรรม ประกอบการตอบคาถาม ข้อ 12-14
กระบวนการสังเคราะห์โปรตีน
DNA ต้นแบบ
Codon ของ RNA
เบสตำแหน่งที่ 1
Anti-codon ของ t-RNA UAC UUA CCG UCU
เบสตำแหน่งที่ 3
กรดอะมิโน
12. ข้อใดแสดง DNA ต้นแบบ ได้ถูกต้อง?
1. TCA AUU GGC TCT 2. TAC TTA CCG TCT
3. TAC UUA GGC AGA 4. AUG UUA CCG TCT
13. ข้อใดแสดง Codon ของ RNA ได้ถูกต้อง?
1. TAC UUA GGG UCU 2. TAC AAU GGC UCC
3. AUG AAU GGC AGA 4. AUG UUA CCG UCU
14. ข้อใดแสดงสำยโพลีเปปไทด์ (Polypeptide) ที่ได้จำกกำรสังเครำะห์ได้ถูกต้อง?
1. Met - Asn - Leu - Glu 2. Met - Arg - Ala - Gly
3. Met - Ser - Asn - Arg 4. Met - Asn - Gly - Arg
15. แผนภำพใดแสดงกำรเข้ำคู่ระหว่ำงเบสของ DNA และ RNA ในกระบวนกำร transcription ได้ถูกต้อง?
1. 2.
3. 4.
4. โรงเรียนพลับพลาชัยพิทยาคม หน้า 4/14
ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
วิชา ชีววิทยา 4 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
16. ถ้ำลำดับกรดอะมิโนในโมเลกุลของ
ฮีโมโกลบินปกติ ฮีโมโกลบินของผู้ป่วยโรค Sickle cell anemia
Thr - Pro - Glu - Glu Thr - Pro - Val – Glu
tRNA โมเลกุลใดที่นำกรดอะมิโนมำสร้ำงฮีโมโกลบินที่ผิดปกตินี้?
1. 2. 3. 4.
17. จำกสำย DNA แม่แบบในกำรสังเครำะห์โปรตีน ถ้ำกำรสังเครำะห์โปรตีนเสร็จสมบูรณ์ จะปรำกฏโมเลกุล
ของกรดอะมิโนชนิด Alanine ในสำยพอลิเพปไทด์จำนวนกี่โมเลกุล?
3’ - T C G G C C T A C C G G G C C C A T G C C A A T - 5'
1. 1 2. 2 3. 3 4. 4
18. ในกระบวนกำรพันธุวิศวกรรมครั้งหนึ่งใช้ชิ้น DNA ซึ่งประกอบด้วยนิวคลีโอไทด์ 6,000 โมเลกุล
เมื่อสิ้นสุดกำรสร้ำงโปรตีนจำก DNA ชิ้นนี้จะได้โปรตีนที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนกี่โมเลกุล?
1. 500 2. 1,000 3. 2,000 4. 3,000
19. ส่วนที่เปรียบได้กับขั้นบันไดของโมเลกุล DNA คือส่วนใด?
1. ฟอสเฟต - น้ำตำล 2. เบส - น้ำตำล
3. เบส - เบส 4. พันธะคู่ระหว่ำง H กับ O
20. ข้อใดไม่ใช่สำเหตุที่ทำให้เกิดมิวเทชัน?
1. กำรเปลี่ยนแปลงชนิดของเบส 2. กำรเปลี่ยนแปลงจำนวนโครโมโซม
3. กำรเปลี่ยนแปลงโครงสร้ำงของหมู่ฟอสเฟต 4. กำรเปลี่ยนแปลงสัณฐำนของโครโมโซม
21. แผนภำพนี้แสดงกำรเกิดมิวเทชั่นของเบสด้วยวิธีกำรแบบใด?
CGATTACCTGCATA
CGATTACCATGCATA
(ลำดับเบสปกติ) CGATTACCATTGCATA
ตัวเลือก
1 substitution deletion
2 insertion deletion
3 deletion insertion
4 insertion substitution
5. โรงเรียนพลับพลาชัยพิทยาคม หน้า 5/14
ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
วิชา ชีววิทยา 4 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
22. มิวเทชันที่เกิดกับ DNA กรณีใดอำจทำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงลำดับของกรดอะมิโนที่ได้จำก
กำรสังเครำะห์โปรตีนน้อยที่สุด?
1. กำรแทนที่เบส 1 ตำแหน่ง
2. กำรแทรกเบส 1 ตำแหน่ง
3. กำรหำยไปของเบส 1 ตำแหน่ง
4. กำรกลับลำดับเบสของสำยจำกต้นถึงปลำย
23. ถ้ำลูกศรแสดงทิศทำงกำรจำลองสำย DNA ในขั้นตอนกำรแบ่งเซลล์ นิวคลีโอไทด์สายใด ที่ต้องใช้
เอนไซม์ไลเกส (DNA ligase) ในกำรสร้ำงนิวคลีโอไทด์สำยใหม่?
1. สำย ก.
2. สำย ข.
3. สำย ค.
4. สำย ง.
24. สำย mRNA ข้ำงล่ำงนี้เกิดกระบวนกำรสังเครำะห์โปรตีน จะได้สำยพอลีเพปไทด์ที่ประกอบด้วย
กรดอะมิโนกี่โมเลกุล?
1. 2 2. 4
3. 5 4. 6
25. ข้อใดเปรียบเทียบขนำดโมเลกุลของกรดนิวคลีอิกได้ถูกต้องที่สุด?
1. DNA mRNA tRNA 2. DNA mRNA tRNA
2. DNA mRNA tRNA 4. DNA mRNA = tRNA
26. กำรสังเครำะห์ tRNA และ mRNA เกิดในโครงสร้ำงใดของเซลล์?
1. ร่ำงแหเอนโดพลำสซึม (ER) 2. ไรโบโซม
3. นิวเคลียส 4. ไมโทคอนเดรีย
27. กำรสังเครำะห์โปรตีนเกิดขึ้นที่โครงสร้ำงใด?
1. ไมโทคอนเดรีย 2. ไรโบโซม
3. กอลจิ บอดี 4. ไลโซโซม
6. โรงเรียนพลับพลาชัยพิทยาคม หน้า 6/14
ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
วิชา ชีววิทยา 4 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
28. ในกำรสังเครำะห์โปรตีน รหัสใดใน tRNA ที่จะทำหน้ำที่จับกับรหัส G A U ในสำย mRNA?
1. C U A 2. C T A
3. A G C 4. T C A
29. ถ้ำ DNA สำยหนึ่งประกอบด้วยนิวคลีโอไทด์จำนวน 909 คู่ ในสำย DNA จะสำมำรถควบคุม
กำรสังเครำะห์โปรตีนที่มีกรดอะมิโนได้กี่โมเลกุล?
1. 99 2. 101
3. 303 4. 606
30. รหัสพันธุกรรม Codon และ Anticodon จะพบในกรดนิวคลีอิกชนิดใด ตำมลำดับ?
1. DNA และ mRNA 2. mRNA และ DNA
3. mRNA และ tRNA 4. tRNA และ mRNA
กาหนดให้ mRNA สายหนึ่งมีลาดับเบสดังนี้ ใใ้้ตอบคาถามข้อ 31-33)
31. จงเรียงลำดับกรดอะมิโนจำกตำรำงที่กำหนดให้?
1. Phe-Leu-Ser-Tyr-Cys-Trp-Pro-Gly
2. Gln-Ser-Asp-Met-Gln-Arg-Leu-Tyr-Pro-Asp
3. Met-Thr-Asn-Lys-Val-Ala-Asp
4. Met-Gln-Ser-Asp-Gln-Arg-Leu-Asp-STOP
32. DNA ที่เป็นต้นแบบที่ทำให้เกิด mRNA นี้มีพันธะไฮโดรเจนกี่พันธะ?
1. 48 2. 56 3. 68 4. 76
33. ถ้ำเกิดมิวเทชันทำให้เบสตัวที่ 7 จำกทำงด้ำน 5’ เปลี่ยนจำก U เป็น A กำรสร้ำงโปรตีนใหม่นี้จะมี
กรดอะมิโนกี่ตัว?
1. 7 2. 6 3. 5 4. 4
34. จงเรียงลำดับกำรสังเครำะห์โปรตีนให้ถูกต้อง?
ก. DNA ต้นแบบ
ข. m-RNA ถูกสังเครำะห์ขึ้นในนิวเคลียส
ค. t-RNA นำกรดอะมิโนมำยังบริเวณที่มีไรโบโซมเกำะอยู่
ง. เกิดสำย polypeptide
จ. ไรโบโซมเคลื่อนที่ไปบนสำย m-RNA
1. ข ก จ ค ง 2. ก ข จ ค ง
3. ข ก ค จ ง 4. ก ข ค จ ง
7. โรงเรียนพลับพลาชัยพิทยาคม หน้า 7/14
ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
วิชา ชีววิทยา 4 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
พิจารณาจากรูปข้างล่างแล้วตอบคาถามข้อ 35-36
A
35. ข้อควำมเกี่ยวกับภำพดังกล่ำว ข้อใดไม่ถูกต้อง?
1. กระบวนกำรนี้เรียกว่ำ Translation 2. ปลำย A คือ ปลำย 3’
3. หมำยเลข 4 คือ ไรโบโซมหน่วยย่อยขนำดใหญ่ 4. หมำยเลข 8 คือ mRNA
36. ควำมสัมพันธ์ข้อใดไม่ถูกต้อง?
1. หมำยเลข 1 คือ เมไธโอนีน 2. หมำยเลข 2 คือ พันธะไฮโดรเจน
3. หมำยเลข 5 คือ Anticodon 4. หมำยเลข 7 คือ ทิศทำงจำก 5’ 3’
37. ถ้ำลำดับของเบสบน DNA เป็นดังนี้ 5’ - ATCGTGTACC - 3’ ลำดับเบสของ m-RNA จะเป็นแบบใด?
1. 5’ - TAGCACATGG - 3’ 2. 5’ - GGUACACGAU - 3’
3. 5’ - AUCGUGUACC - 3’ 4. 5’ - UAGCACAUGG - 3’
ใ้้คาตอบต่อไปนี้ ประกอบการตอบคาถามข้อ 38-41
1. กลุ่มอำกำรดำวน์ (Down’s syndrome)
2. กลุ่มอำกำรคริดูชำต์ (Cri-du-chat syndrome)
3. กลุ่มอำกำรเทอร์เนอร์ (Turner’s syndrome)
4. กลุ่มอำกำรไคลน์เฟลเตอร์ (Klinefelter’s syndrome)
38. ผู้ป่วยหญิงที่มีจำนวนโครโมโซมเท่ำกับ 45 แท่ง ตัวเตี้ย ที่บริเวณคอเป็นฟังผืดกำงเป็นปีก
ไม่มีประจำเดือน เป็นลักษณะควำมผิดปกติข้อใด?
39. เด็กชำยที่มีศีรษะเล็ก ใบหน้ำกลม ตำเล็กอยู่ห่ำงกันและเอียง มีเสียงร้องคล้ำยแมว ปัญญำอ่อน
เป็นลักษณะของควำมผิดปกติข้อใด?
40. ผู้ป่วยที่มีรูปร่ำงเตี้น ตำห่ำง หำงตำชี้ขึ้น ลิ้นโตคับปำก คอสั้นกว้ำง นิ้วมือนิ้วเท้ำสั้น ปัญญำอ่อน
เป็นลักษณะควำมผิดปกติข้อใด?
41. ชำยที่มีแขนขำยำว สูงกว่ำเพศชำยปกติ หน้ำอกใหญ่คล้ำยเพศหญิง สะโพกผำย มักเป็นหมัน
เป็นลักษณะควำมผิดปกติข้อใด?
8. โรงเรียนพลับพลาชัยพิทยาคม หน้า 8/14
ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
วิชา ชีววิทยา 4 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
42. ข้อควำมในข้อใดไม่ถูกต้อง?
1. เอนไซม์ตัดจำเพำะแต่ละชนิดมีลำดับเบสจำเพำะเท่ำกันเสมอ
2. ลำดับเบสจำเพำะของเอนไซม์ตัดจ ำเพำะแต่ละชนิดมีลักษณะร่วมกันคือ กำรเรียงลำดับเบสใน
ทิศทำงจำก 5’ 3’ จะเหมือนกันทั้งสองสำยของสำย DNA เสมอ
3. ในกำรสร้ำง plasmid ที่มี DNA สำยผสมจะต้องใช้ทั้ง restriction enzyme และ DNA ligase
4. ทั้งข้อ 1, 2 และ 3
จงพิจารณาตารางข้างล่าง ใ้้ตอบคาถามข้อ 43
เอนไซม์ตัดจาเพาะ ลาดับเบสจาเพาะ จุดตัดจาเพาะ
5’…G-A-A-T-T-C…3’
EcoRI G และ A
3’…C-T-T-A-A-G…5’
5’…G-G-C-C…3’
HaeIII G และ C
3’…C-C-G-G…5’
5’…A-A-G-C-T-T…3’
Hind III A และ A
3’…T-T-C-G-A-A…3’
5’…G-T-C-G-A-C…3’
SalI G และ T
3’…C-A-G-C-T-G…5’
พิจำรณำข้อควำมต่อไปนี้
1. เอนไซม์ตัดจำเพำะแต่ละชนิดผลิตจำกไวรัสต่ำงชนิดกัน
2. เอนไซม์ตัดจำเพำะแต่ละชนิดมีบริเวณลำดับเบสจำเพำะและจุดตัดที่แตกต่ำงกัน
3. จำนวนเบสจำเพำะของเอนไซม์ EcoRI และ HaeIII มีจำนวนไม่เท่ำกัน
4. เมื่อมีกำรตัดด้วยเอนไซม์ SalI จะเกิด blunt end
5. เมื่อมีกำรตัดด้วยเอนไซม์ Hind III จะเกิด sticky end
43. ข้อใดถูกต้อง?
1. 1, 2, 3 2. 1, 2, 6
3. 2, 3, 4 4. 3, 4, 5
44. เอนไซม์ตัดจำเพำะ (Restriction enzyme) ชนิด EcoRI มีจุดตัดอยู่ระหว่ำง G และ A ดังแผนภำพ
ทำให้ได้ปลำยเดี่ยวชนิดใด ทั้งสองปลำย และมีทิศทำงอย่ำงไร?
1. ปลำยเหนียว จำก 5’ 3’
2. ปลำยเหนียว จำก 3’ 5’
3. ปลำยทู่ จำก 3’ 5’
4. ปลำยทู่ จำก 5’ 3’
9. โรงเรียนพลับพลาชัยพิทยาคม หน้า 9/14
ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
วิชา ชีววิทยา 4 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
45. ข้อใดจัดเป็นเวกเตอร์ (vector) ที่นิยมใช้ในกำรสร้ำง Recombinant DNA (DNA สำยผสม)?
1. DNA ของพืช 2. DNA ของสัตว์
3. Plasmid ของแบคทีเรีย 4. DNA ของไวรัส
46. กำหนดให้ A. นำยีนที่ควบคุมกำรสร้ำงฮอร์โมนในคนไปต่อเข้ำกับพลำสมิดของแบคทีเรียได้
B. เซลล์แบคทีเรียแบ่งเซลล์เพิ่มจำนวนมำกขึ้น
C. แบคทีเรียสำมำรถสร้ำงอินซูลินมำกขึ้น
D. แบคทีเรียไม่สำมำรถสร้ำงอินซูลินได้
ข้อใดแสดงลำดับขั้นตอนในกำรสร้ำงฮอร์โมนอินซูลิน?
1. A B C D 2. B A D C
3. C A B D 4. D A B C
47. ควำมสัมพันธ์ข้อใดไม่ถูกต้อง?
1. กำรเพิ่มปริมำณ DNA - Gel electrophoresis
2. Thermocycler - DNA สำยคู่แยกออกจำกกันเป็น DNA สำยเดี่ยว
3. Ethidium bromide - สีที่ใช้ย้อม DNA ซึ่งเมื่อจับกับ DNA จะเรืองแสงเป็นสีชมพูเมื่อรับรังสี
อัลตรำไวโอเลต
4. กำรหำลำดับนิวคลีโอไทด์ - automated sequence
48. ข้อใดจัดเป็นเทคนิค PCR (Polymerase chain reaction) ต้องใช้เอนไซม์ DNA polymerase
ชนิดพิเศษ ซึ่งทนอุณหภูมิสูงที่แยกได้จำกแบคทีเรียในน้ำพุร้อน?
1. กำรโคลนยีนในหลอดทดลอง 2. กำรโคลนยีนในแบคทีเรีย
3. กำรโคลนยีนในเซลล์พืช 4. กำรโคลนยีนในเซลล์สัตว์
49. ในครอบครัวหนึ่งประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูก 4 คน ให้นักเรียนพิจำรณำลำยพิมพ์ DNA ข้ำงล่ำง
ของบุคคลดังกล่ำว?
พ่อ แม่ ลูกคนที่ 1 ลูกคนที่ 2 ลูกคนที่ 3 ลูกคนที่ 4
ข้อใดกล่ำวไม่ถูกต้อง?
1. ลูกคนที่ 1 เป็นลูกบุญธรรม 2. ลูกคนที่ 2 เป็นลูกติดแม่
3. ลูกคนที่ 3 เป็นลูกที่ติดพ่อ 4. ลูกคนที่ 4 เป็นลูกที่แท้จริง
10. โรงเรียนพลับพลาชัยพิทยาคม หน้า 10/14
ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
วิชา ชีววิทยา 4 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
50. ข้อใดกล่ำวถูกต้องเกี่ยวกับ Gel electrophoresis?
1. เป็นวิธีกำรแยกโมเลกุลของ DNA ที่มีขนำดแตกต่ำงกันออกจำกกันภำยใต้สนำมแม่เหล็ก
2. ตัวกลำงที่ DNA เคลื่อนที่ผ่ำนไปเป็น polyacrylamind gel
3. โมเลกุล DNA จะเป็นโมเลกุลที่มีประจุบวก เคลื่อนที่เข้ำหำขั้วลบ (Cathod)
4. โมเลกุล DNA ขนำดใหญ่ จะเคลื่อนที่ได้เร็วกว่ำโมเลกุล DNA ที่มีขนำดเล็ก
1. ข้อ 1, 2 2. ข้อ 1, 2 และ 3
3. ข้อ 1, 3 และ 4 4. ข้อ 2, 3 และ 4
51. กำรตรวจสอบ DNA ในเจลอิเล็คโทรโฟริซิส ไม่สำมำรถมองเห็นได้จำเป็นต้องต้องย้อมด้วยสีอะไร
และเรืองแสงฟลูออเรสเซนซ์จะเป็นสีอะไร?
1. Methylene blue เรืองแสงเป็นสีน้ำเงิน 2. Ethidium bromide เรืองแสงเป็นสีชมพู
3. Iodine เรืองแสงเป็นสีเหลือง 4. Fast green เรืองแสงเป็นสีเขียว
52. เรสทริกชัน แฟรกเมนท์ เลจท์ พอลิเมอร์ฟิซึม (Restriction fragment length polymorphism:
RFLP) หมำยถึงควำมแตกต่ำงของรูปแบบในข้อใด?
1. จำนวนยีน 2. แถบ DNA
3. ลำดับของเบส 4. จำนวน Nucleotide
53. ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้อง?
1. เจลอิเล็กโทรโฟริซิส (gel electrophoresis) เป็นเทคนิคกำรแยกโมเลกุล DNA ที่มีขนำดประจุ
และรูปร่ำงต่ำงกันออกจำกกันในสนำมไฟฟ้ำผ่ำนตัวกลำงที่เป็นแผ่นวุ้น
2. กำรโคลน DNA เป็นกำรเพิ่มจำนวนของ DNA สำยผสมที่เหมือน ๆ กันเป็นจำนวนมำก
3. PCR เป็นเทคนิคในกำรโคลนยีนโดยอำศัยพลำสมิดของแบคทีเรีย
4. ถูกทั้ง 1, 2 และ 3
54. ข้อควำมต่อไปนี้ข้อใดไม่ถูกต้อง?
1. ข้ำวสีทองเป็นข้ำวที่เกิดจำกกำรนำยีนจำกแดฟโฟดิลและยีนจำกแบคทีเรีย ถ่ำยฝำกให้ข้ำว ทำให้
ข้ำวสำมำรถสร้ำงวิตำมินเอได้
2. ฝ้ำย Bt เป็นฝ้ำยที่ได้รับกำรโคลนจำกแบคทีเรีย Bacillus thuringensis ทำให้สำมำรถผลิตสำรพิษ
ทำลำยตัวหนอนที่มำกัดกินได้
3. มนุษย์นำ Coat protein gene ถ่ำยฝำกเข้ำไปในเซลล์มะละกอ ทำให้สำมำรถต้ำนทำนต่อไวรัส
ที่ทำให้เกิดโรคใบด่ำงจุดวงแหวนได้
4. มะเขือเทศที่ดัดแปลงพันธุกรรม ทำให้สุกช้ำลง เนื่องจำกมีกำรนำยีนที่มีผลิตเอนไซม์ที่สังเครำะห์
ไซโทไคนินใส่เข้ำไป ทำให้สำมำรถเก็บรักษำได้นำนขึ้น
11. โรงเรียนพลับพลาชัยพิทยาคม หน้า 11/14
ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
วิชา ชีววิทยา 4 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
55. ข้อใดจัดเป็นกระบวนกำรนำยีนที่สร้ำงโปรตีนเรืองแสงสีเขียวของแมงกะพรุนไปใส่ในแบคทีเรีย
Enterobacter amnigenus?
1. DNA Leading strand (DNA สำยหลัก)
2. Translation (กำรแปลรหัส)
3. DNA cloning (กำรทำโคลนนิ่ง DNA)
4. Recombinant DNA (DNA สำยผสม)
56. ข้อใดแสดงถึงพืช GMOs?
1. พืชที่ได้รับกำรดัดแปลงยีน โดยกำรก่อกลำยพันธุ์
2. พืชที่ได้รับกำรดัดแปลงโดยกำรนำยีนจำกสิ่งมีชีวิตหนึ่งไปฝำกให้อีกสิ่งมีชีวิตหนึ่ง
3. พืชที่ผ่ำนกระบวนกำรผสมพันธุ์และคัดเลือกพันธุ์จนเป็นพันธุ์ใหม่
4. พืชที่เกิดจำกกำรเพำะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ทำให้กลำยพันธุ์ไป
57. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ลักษณะพิเศษของพืชดัดแปลงพันธุกรรม?
1. ควำมสำมำรถในกำรต้ำนทำนโรค
2. ควำมสำมำรถในกำรต้ำนทำนยำปรำบศัตรูพืช
3. มีรูปแบบสำรอำหำรเปลี่ยนไปในทำงที่ต้องกำร
4. มีอำยุกำรเก็บเกี่ยวสั้น
58. พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่ต้นแบบที่นักวิทยำศำสตร์ได้ร่วมกันศึกษำจีโนม เนื่องจำก
มีจีโนมเล็กที่สุด คือข้อใด ตำมลำดับ?
1. ข้ำวและผักบุ้ง 2. ข้ำวและผักกำด
3. ไผ่และผักกำด 4. ข้ำวและถั่วลันเตำ
59. กำรรักษำโรคด้วยยีนบำบัด (Gene therapy) จะใช้สิ่งมีชีวิตในข้อใดเป็นตัวนำยีนที่ต้องกำรถ่ำยเข้ำสู่
เซลล์คน?
1. ยีสต์ 2. ไวรัส 3. เชื้อรำ 4. แบคทีเรีย
60. เทคโนโลยีชีวภำพ (Biotechnology) จะใช้ควำมรู้เกี่ยวกับชีววิทยำสำขำใดมำกที่สุด?
1. จุลชีววิทยำ 2. สัตววิทยำ
3. กำยวิภำคศำสตร์ 4. พฤกษศำสตร์
61. พืชชนิดใดเป็นพืชต้นแบบของพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่สำมำรถศึกษำจีโนมได้ โดยเป็นโครงกำรร่วมมือ
กับนำนำชำติ?
1. ข้ำว 2. ข้ำวโพด
3. มะละกอ 4. ส้ม
62. กำรประยุกต์เทคโนโลยีเกี่ยวกับ DNA มำใช้เชิงเภสัชกรรม ส่วนใหญ่เป็นกำรผลิตโปรตีน
ที่เกี่ยวข้องกับกำรรักษำโรค โรคใดเป็นโรคแรกที่ประสบควำมสำเร็จเกี่ยวกับเรื่องนี้?
1. โรคเบำหวำน 2. โรคเอดส์
3. โรคดำวน์ซินโดรม 4. โรคควำมดันโลหิตสูง
12. โรงเรียนพลับพลาชัยพิทยาคม หน้า 12/14
ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
วิชา ชีววิทยา 4 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
63. กำรรักษำด้วยยีนบำบัด (Gene therapy) ต้องคำนึงควำมปลอดภัยของผู้ป่วยอย่ำงมำก เช่น โรค SCID
เป็นโรคทำงพันธุกรรมมีอาการของโรคเป็นอย่ำงไร?
1. ร่ำงกำยไม่สำมำรถสร้ำงอินซูลินได้
2. ร่ำงกำยไม่สำมำรถสร้ำงภูมิคุ้มกันได้
3. ร่ำงกำยผลิตน้ำย่อยมำกเกินไป
4. ร่ำงกำยสูญเสียน้ำมำกจนเสียชีวิต
64. Gene therapy ยังไม่เป็นที่นิยมในกำรรักษำ เพรำะยังมีข้อโต้แย้งเชิงจริยธรรมในสังคม
เรำควรทำอย่ำงไร จึงจะเหมำะสมที่สุดที่อำจมีผลต่อวิวัฒนำกำรมนุษย์ได้?
1. กำรแทรกยีนเข้ำสู่จีโนมของคน
2. กำรเลือกไวรัสที่จะเป็นพำหะในกำรนำยีนเข้ำสู่จีโนม
3. ศึกษำเทคนิคกำรรักษำโดยกำรตัดต่อยีนให้ดี
4. บำบัดยีนที่บกพร่องในเซลล์ตั้งต้นที่จะสร้ำงเซลล์สืบพันธุ์
65. ยีน Bt (Bacillus thuringensis) เป็นยีนที่ใส่ในเซลล์พืช เพื่อประโยชน์ด้ำนใดทำงพันธุวิศวกรรมพืช?
1. พืชเจริญเติบโตรวดเร็ว มีขนำดใหญ่
2. พืชมีกำรผลิตวิตำมิน และแร่ธำตุมำกกว่ำเดิม
3. พืชสร้ำงสำรพิษทำลำยตัวหนอนที่มำกัดกิน
4. พืชมีควำมต้ำนทำนโรคมำกขึ้น
66. ผลจำกกำรทำ GMOs ในพืชซึ่งดำเนินกำรวิจัยโดยนักวิทยำศำสตร์ไทยมีหลำยชนิด
ข้อใดไม่ใช่ผลของกำรสร้ำงพืช GMOs?
1. พืชที่ทนทำนต่อสภำพดินเค็ม
2. ยีนที่สร้ำงสำรควำมหอมของเมล็ดข้ำว
3. ยีนที่สร้ำงสีน้ำเงินในดอกอัญชันที่ถ่ำยลงในยีนของดอกกล้วยไม้สีขำว
4. ยีนที่สร้ำงวิตำมินซีในเมล็ดข้ำวสีแดง
67. ควำมปลอดภัยของเทคโนโลยี DNA หน่วยงำนใดเป็นผู้ออกระเบียบปฏิบัติงำนวิจัย เช่น
ระบบกำรกำจัดสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม กำรดื้อยำปฏิชีวนะ เป็นต้น?
1. สภำวิจัยแห่งชำติ
2. คณะวิทยำศำสตร์ มหำวิทยำลัยมหิดล
3. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภำพแห่งชำติ
4. ศูนย์เพำะเลี้ยงเนื้อเยื่อและกำรตัดต่อ DNA
68. ทฤษฏีวิวัฒนำกำรแต่ละทฤษฎีตั้งขึ้นมำโดยมีจุดมุ่งหมำยหลักในข้อใด?
1. เพื่ออธิบำยว่ำสิ่งมีชีวิตเกิดมำได้อย่ำงไร
2. เพื่ออธิบำยว่ำวิวัฒนำกำรเกิดขึ้นได้อย่ำงไร
3. เพื่ออธิบำยลักษณะของสิ่งมชีวิตพวกแรกที่เกิดขึ้นบนโลก
4. เพื่อเปรียบเทียบควำมแตกต่ำงลักษณะของสิ่งมีชีวิตในอดีตและปัจจุบัน
13. โรงเรียนพลับพลาชัยพิทยาคม หน้า 13/14
ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
วิชา ชีววิทยา 4 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
69. ข้อใดเป็นตัวอย่ำงของ Analogous structure?
1. แขนคนกับปีกนก 2. ปีกนกกับปีผีเสื้อ
3. ปีกค้ำงคำวกับปีกนก 4. ขำของแมวกับค่ำของฝน
70. กำรคัดเลือกตำมธรรมชำติเกิดขึ้นเพรำะสมบัติข้อใดของสิ่งมีชีวิต?
1. กำรเกิดมิวเทชันของยีน
2. ควำมแตกต่ำงแปรผันทำงพันธุกรรม
3. ครอสซิงโอเวอร์ในไมโอซิส
4. กำรปรับตัวตำมกำรเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม
71. “วิวัฒนำกำรเป็นผลจำกกำรเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของยีนในธรรมชำติ” จำกข้อเท็จจริงนี้ ข้อควำมใด
ต่อไปนี้เป็นไปได้น้อยที่สุด?
1. สิ่งมีชีวิตมีกำรปรับพันธุ์อยู่เสมอ
2. เผ่ำพันธุ์มนุษย์คงวิวัฒนำกำรต่อไป
3. แมลงแต่ละชนิดมีสมบัติดื้อยำมำกบ้ำงน้อยบ้ำง
4. มนุษย์สำมำรถใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ กำจัดแมลงศัตรูพืชให้หมดได้ในเวลำอีกไม่กี่ปี
72. หลักฐำนข้อใดใที่สนับสนุนสำยสัมพันธ์ทำงวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตต่ำง ๆ ได้อย่ำงน่ำเชื่อถือมำกที่สุด?
1. ซำกดึกดำบรรพ์
2. กำรเจริญเติบโตของเอ็มบริโอ
ค. ควำมแตกต่ำงของกรดอะมิโนในโปรตีนชนิดเดียวกัน
ง. ควำมคล้ำยคลึงกันของอวัยวะที่เรียกว่ำ โฮโมโลกัส (homologous structure)
73. วิวัฒนำกำรเกิดขึ้นได้เร็วในสิ่งมีชีวิตที่สืบพันธุ์แบบอำศัยเพศมำกกว่ำพวกสืบพันธุ์แบบไม่อำศัยเพศเป็น
เพรำะเหตุใด?
1. ผลิตลูกหลำนได้มำกกว่ำ
2. มีโอกำสอยู่รอดได้มำกกว่ำ
3. ก่อให้เกิดควำมแปรผันทำงพันธุกรรมได้มำกกว่ำ
4. ก่อให้เกิดยีนรีคอมบิเนชันได้มำกกว่ำ
74. ผีเสื้อกลำงคืนลักษณะขนสีเทำควบคุมโดยยีน b ลักษณะขนสีดำควบคุมโดยยีน B ในกำรสำรวจผีเสื้อ
กลำงคืนในบริเวณหนึ่งพบสีเทำ 360 ตัว และสีดำ 640 ตัว ถ้ำประชำกรนี้อยู่ในสมดุลของฮำร์ดี-
ไวน์เบิร์ก จำนวนผีเสื้อกลำงคืนสีดำที่เป็นเฮเทอโรไซกัส (heterozygous) มีค่ำเท่ำใด?
1. 180 ตัว 2. 320 ตัว
3. 360 ตัว 4. 480 ตัว
75. อำกำร Galactosemia ควบคุมโดยยีนด้อยในออโตโซม ในประชำกรจำนวน 40,000 คน มีอุบัติกำรของ
โรคนี้ 1 คน คำดว่ำประชำกรกลุ่มนี้จะมีคนที่เป็นพำหะของโรคนี้อยู่ประมำณกี่คน?
1. 199 คน 2. 200 คน
3. 398 คน 4. 400 คน
14. โรงเรียนพลับพลาชัยพิทยาคม หน้า 14/14
ข้อสอบปลายภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
วิชา ชีววิทยา 4 (ว30244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
76. ประชำกรแห่งหนึ่งจะพบผู้ที่ห่อลิ้นได้ (ลักษณะเด่น) 51 คน ในทุก ๆ 100 คน ในจำนวนนี้ควรมีคนที่มี
ยีนด้อยแฝงกี่คน?
1. 9 คน 2. 14 คน
3. 42 คน 4. 49 คน
77. กลไกกีดกันทำงกำรสืบพันธุ์แบบใดที่ทำให้ม้ำและลำยังคงสภำพของสปีชีส์ที่ต่ำงกันได้?
1. โครงสร้ำงอวัยวะสืบพันธุ์แตกต่ำงกัน (mechanical isolation)
2. ลูกผสมตำย (hybrid inviability)
3. ลูกผสมเป็นหมัน (hybrid sterility)
4. ลูกผสมล้มเหลว (hybrid breakdown)
78. มนุษย์ทุกเผ่ำในโลกจัดอยู่ใน Homo sapiens ทั้งสิ้น เพรำะอะไร?
1. มีโครงสร้ำงเหมือนกัน
2. มีลักษณะกะโหลกศีรษะเหมือนกัน
3. มีจำนวนโครโมโซมเท่ำกันจึงต่ำงจำกสปีชีส์อื่น
4. สำมำรถผสมพันธุ์กันได้ และลูกออกมำไม่เป็นหมัน
79. กำรแตกแขนงของประชำกรมนุษย์จนถึงขั้นแบ่งแยกออกเป็นสองหรือสำมสปีชีส์ คงไม่เกิดขึ้นในอนำคต
เพรำะเหตุใด?
1. ควำมหลำกหลำยทำงพันธุกรรมของมนุษย์มีไม่มำกนัก
2. มนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงมำถึงจุดสุดยอดแล้ว
3. มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีกำรปรับตัวสมบูรณ์แบบที่สุด
4. ประชำกรมนุษย์ส่วนมำกมีขนำดใหญ่และไม่ได้แบ่งแยกตัดขำดออกจำกกันอย่ำงชัดเจน จึงยังมี
กำรถ่ำยทอดยีนระหว่ำงประชำกร
80. กำรสูญพันธุ์ของสปีชีส์ใดสปีชีส์หนึ่งเกิดจำกสำเหตุใด?
1. ปริมำณดีเอ็นเอคงที่
2. ประชำกรมีจำนวนมำกเกินไป
3. กำรเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อม
4. ขำดควำมหลำกหลำยทำงพันธุกรรมที่จะปรับให้สอดคล้องกับกำรเปลี่ยนแปลงของสภำวะแวดล้อม
ไม่ต้องเก่งไปหมดทุกอย่ำง ใช้คำวิพำกษ์เป็นเครื่องกระตุ้นให้ใจฮึกเหิม มีมำนะสู้ต่อไป
ไม่ต้องเป็นที่หนึ่งในทุกเรื่อง ใช้คำวิจำรณ์เป็นกำรเตือนสติตัวเอง แก้จุดอ่อนที่ผู้อื่นชี้ให้เห็น
แต่จงสนุกกับงำนทุกชิ้นที่ทำ จงพร้อมรับคำชมและคำตำหนิด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกัน
พ่ำยแพ้แล้วไม่ยอมรับควำมพ่ำยแพ้ คือกำรพ่ำยแพ้ถึงสองต่อ
วินทร์ เลียวารินทร์: ชีวิตออกแบบเอง
ผู้ออกข้อสอบ คุณครูณัฐพงษ์ บุญปอง