SlideShare a Scribd company logo
1 of 17
Download to read offline
บทที่ 1
แคลคูลัส ( Calculus )
1. ลิมิตของฟังก์ชัน
1.1 ลิมิตซ้ายและลิมิตขวา
ถ้า )(lim xf
ax 

= L และ )(lim xf
ax 

= L
ดังนั้น )(lim xf
ax 
= L
เอกสารแนะแนวทางที่ 1.1
จากฟังก์ชัน y = x + 4 เมื่อ x มีค่าเข้าใกล้3 ค่าของ f(x) จะเป็นอย่างไร
ก. ค่าของ x เพิ่มขึ้นเข้าใกล้ 3 ข. ค่าของ x ลดลงเข้าใกล้ 3
x f(x) x f(x)
2 6 4 8
2.4 6.4 3.7 7.7
2.7 6.7 3.4 7.7
2.9 6.9 3.1 7.1
2.99 6.99 3.01 7.01
2.999 6.999 3.001 7.001
. . . . . . . . . . . .
ตาราง 1 ตาราง 2
เอกสารแนะแนวทางที่ 1.2
จากฟังก์ชัน y = x + 4 เมื่อ x มีค่าเข้าใกล้3 ค่าของ f(x) จะเป็นอย่างไร
เมื่อเขียนกราฟของฟังก์ชัน y = x + 4
หาจุดตัดแกน X ( แทนค่า y = 0 )
y = x + 4
0 = x + 4
- 4 = x
จุดตัดแกน X คือ ( - 4 , 0 )
หาจุดตัดแกน Y ( แทนค่า x = 0 )
y = 0 + 4
y = 4
จุดตัดแกน Y คือ ( 0 , 4 )
รูปที่ 1
การสรุปลิมิตซ้ายและลิมิตขวา
จากตารางที่ 1 และกราฟในรูปที่ 1 จะเห็นว่าขณะที่ x เข้าใกล้3 ทางด้านซ้าย ค่าของ f(x)
จะเพิ่มขึ้นและเข้าใกล้7 เรียก 7 ว่าลิมิตซ้ายของฟังก์ชัน f(x) = x + 4 เมื่อ x เข้าใกล้3 ทางด้านซ้าย
และเขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ )(lim
3
xf
x 

= 7
จากตารางที่ 2 และกราฟในรูปที่ 1 จะเห็นว่าขณะที่ x เข้าใกล้3 ทางด้านขวา ค่าของ f(x)
จะลดลงจาก 8 จนเข้าใกล้7 เรียก 7 ว่าลิมิตขวาของฟังก์ชัน f(x) = x + 4 เมื่อ x เข้าใกล้3 ทางด้านขวา
และเขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ )(lim
3
xf
x 

= 7
ลิมิตซ้าย = ลิมิตขวา
)(lim
3
xf
x 

= )(lim
3
xf
x 

= 7
ดังนั้น )(lim
3
xf
x
= 7
ใบงานที่ 1
จากฟังก์ชัน y = 2x - 3 เมื่อ x มีค่าเข้าใกล้ 4 ค่าของ f(x) จะเป็นอย่างไร
ก. ค่าของ x เพิ่มขึ้นเข้าใกล้ 4 ข. ค่าของ x ลดลงเข้าใกล้ 4
x f(x) x f(x)
3 5
3.4 4.7
3.7 4.4
3.9 4.1
3.99 4.01
3.999 4.001
. . . . . . . . . . . .
ตาราง 1 ตาราง 2
จากฟังก์ชัน y = 2x - 3 เมื่อ x มีค่าเข้าใกล้4 ค่าของ f(x) จะเป็นอย่างไร
0
1
2
3
4
5
6
7
-6 -4 -2 0 2 4
เมื่อเขียนกราฟของฟังก์ชัน y = 2x - 3
จุดตัดแกน X หาจุดตัดแกน Y
รูปที่ 2
การสรุปลิมิตซ้ายและลิมิตขวา
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
ทฤษฎีบทเกี่ยวกับลิมิต ในการหาลิมิตของฟังก์ชันโดยใช้ทฤษฎีของลิมิต
ทฤษฎีบท 1 เมื่อ a , L และ M เป็นจานวนจริงใด ๆ ถ้า f และ g เป็นฟังก์ชัน
1. ถ้าลิมิตของ f(x) เมื่อ x เข้าใกล้a หาค่าได้แล้วจะได้ว่า ลิมิตมีเพียงค่าเดียวเท่านั้น
นั่นคือ )(lim xf
ax 
= L1 และ )(lim xf
ax 
= L2 จะได้ว่า L1 = L2
2. ถ้า f(x) = c โดยที่ c เป็นค่าคงที่แล้ว จะได้ว่า )(lim xf
ax 
= c
เช่น 3lim
1x
= 3 3lim
2x
= 3
3. ถ้า f(x) = x จะได้ว่า )(lim xf
ax 
= a
เช่น x
x 2
lim

= 2 x
x 5
lim

= 5
4. ถ้า )(lim xf
ax 
= L1 และ )(lim xf
ax 
= L2 จะได้ว่า
1) )]()([lim xgxf
ax


= )(lim xf
ax 
 )(lim xg
ax 
= L1 + L2
เช่น 3
lim
x
(x+2) = 3
lim
x
x + 3
lim
x
2 = 3 + 2 = 5
2) )]()([lim xgxf
ax


= )(lim xf
ax 
 )(lim xg
ax 
= L1  L2
เช่น 3
lim
x
(x+2)(x+3) = 3
lim
x
(x + 2) + 3
lim
x
(x+3) = 5 x 6 = 30
3)
)(
)(
lim
xg
xf
ax 
=
)(lim
)(lim
xg
xf
ax
ax


=
2
1
L
L
เช่น
)3(
)2(
lim
2 

 x
x
x
=
)3(lim
)2(lim
3
3




x
x
x
x
=
6
5
5. ax 
lim f(x) = L แล้วจะได้ว่า ax 
lim [f(x)]n
= [ ax 
lim f(x)]n
= Ln
เช่น 3
lim
x
(x+2)2
= [ 3
lim
x
(x+2)]2
= 52
= 25
6. ถ้า n  I+
และ ax 
lim f(x) = L จะได้ว่า ax 
lim n xf )( = n
ax
xf )(lim

= n
L
เช่น 3lim
1


x
x
= )3(lim
1


x
x
= 31  = 2
ทฤษฎีบท 2 ถ้า p(x) เป็นฟังก์ชันพหุนาม แล้ว สาหรับจานวนจริง a ใดๆ
)x(plim
ax
= p(a)
ทฤษฎีบท 3 ถ้า f(x) เป็นฟังก์ชันตรรกยะโดยที่
)x(q
)x(p
เมื่อ p(x) และ q(x) เป็นฟังก์ชันพหุนาม แล้ว
)(lim xf
ax 
=
)a(q
)a(p
สาหรับจานวนจริง a ใดๆ ที่ q(x)  0
การหาลิมิตของฟังก์ชัน
แบบที่ 1 ฟังก์ชันพหุนาม
ตัวอย่างที่ 1 จงหาค่าของ 3
lim
x
(2x - 1)
วิธีทา 3
lim
x
(2x - 1) = 3
lim
x
2x - 3
lim
x
1
= 2 3
lim
x
x - 3
lim
x
1
= 2(3) - 1 = 5
ตัวอย่างที่ 2 จงหาค่าของ 2
lim
x
(x2
+ 4x - 5)
วิธีทา
2
lim
x
(x2
+ 4x - 5) = 2
lim
x
x2
+4 2
lim
x
x - 2
lim
x
5
= (-2)2
+ 4(-2)-5
= 4 – 8 – 5 = - 9
ตัวอย่างที่ 3 จงหาค่าของ 3
lim
x
15 x
วิธีทา
3
lim
x
15 x = )15(lim
3


x
x
= 1)3(5 
= 16
= 4
1. ครูทบทวน ไม่นิยามตัวหารด้วย 0 โดยให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1)
5
5
= 1 2)
5
0
= 0
3)
0
5
= หาค่าไม่ได้ 4)
0
0
= หาค่าไม่ได้
2. ครูทบทวนผลคูณของ
( x + h )2
= x2
+ 2xh + h2
3 ( x + h )2
= 3x2
+ 6xh + 3h2
( 2x + h )2
= 4 x2
+ 4xh + h2
แบบที่ 2 ฟังก์ชันในรูปเศษส่วน
การคานวณค่าลิมิตของฟังก์ชันในรูป
)(
)(
lim
xg
xf
ax 
=
0
0
ต้องอาศัยหลักทางพีชคณิต ดาเนินการจัดรูป ให้อยู่ในรูปที่ตัวส่วนไม่เป็นศูนย์เพราะไม่นิยามตัวหารด้วย 0
เช่น
0
5
= หาค่าไม่ได้
0
0
= หาค่าไม่ได้
ถ้า
2
1
x
; x  2
ตัวอย่างที่ 4 ให้ f(x) =
2
2x x
x

จงหา 0
lim ( )
x
f x

วิธีทา ถ้า f(0) =
0
0
= หาค่าไม่ได้
จัดรูป ดึงตัวร่วม
f(x) =
2
2x x
x

= ( 2)x x
x

; x  0
= x + 2
ดังนั้น
2
0
2
lim
x
x x
x

= 0
lim 2
x
x


= 0 + 2 = 2
ตัวอย่างที่ 5 จงหาค่าของ
)2(
)4(
lim
2
2 

 x
x
x
วิธีทา ถ้า f(2) =
0
0
= หาค่าไม่ได้
จาก f(x) =
)2(
)4( 2


x
x
ผลต่างกาลังสอง =
)2(
)2)(2(


x
xx
; x  2
= x + 2
ดังนั้น
)2(
)4(
lim
2
2 

 x
x
x
= 2
lim
x
(x+2)
= 2 + 2 = 4
ตัวอย่างที่ 6 จงหาค่าของ 1
lim
x 1
32 2


x
xx
วิธีทา ถ้า f(1) =
0
0
= หาค่าไม่ได้
จาก f(x) =
1
32 2


x
xx
แยกตัวประกอบ =
)1(
)1)(32(


x
xx
; x  1
= 2x + 3
ดังนั้น 1
lim
x 1
32 2


x
xx
= 2
lim
x
(2x+3)
= 2(1) + 3 = 5
ตัวอย่างที่ 7 จงหาค่าของ 1
lim
x 1
13


x
x
วิธีทา ถ้า f(1) =
0
0
= หาค่าไม่ได้
จาก f(x) =
1
13


x
x
ผลต่างกาลังสาม =
)1(
)1)(1( 2


x
xxx
; x  1
= x2
+ x + 1
ดังนั้น 1
lim
x 1
13


x
x
= 2
lim
x
(x2
+ x + 1 )
= (1)2
+ 1 + 1 = 3
แบบที่ 2 ฟังก์ชันในรูปเศษส่วน (ต่อ)
ทบทวนผลคูณของ
( x + h )2
= x2
+ 2xh + h2
3 ( x + h )2
= 3x2
+ 6xh + 3h2
( 2x + h )2
= 4 x2
+ 4xh + h2
ตัวอย่างที่ 8 ให้ f(x) =
2 2
2( ) 2x h x
h
 
จงหา )x(flim
0h
วิธีทา ถ้า f(0) =
0
0
= หาค่าไม่ได้
จาก ( x + h )2
= x2
+ 2xh + h2
จะได้ 2 ( x + h )2
= 2 ( x2
+ 2xh + h2
) = = 2x2
+ 4xh + 2h2
จัดรูป ดึงตัวร่วม f(x) =
2 2
2( ) 2x h x
h
 
=
2 2 2
2 4 2 2x xh h x
h
  
;
=
2
4 2 (4 2 )xh h h x h
h h
 
 ; h  0
= 4x + 2h
ดังนั้น )x(flim
0h
2 2
2( ) 2x h x
h
 
= )x(flim
0h
4x + 2h
= 4x + 2 ( 0 ) = 4x
แบบที่ 3 ฟังก์ชันที่อยู่ในรูปเศษส่วนและมีค่ารากที่สอง
นาคอนจุเกต ( conjugate) คูณทั้งเศษและส่วน ในรูปผลต่างกาลังสอง
เช่น 5 + 3 คอนจุเกต 5 - 3 ซึ่ง ( 5 + 3 )( 5 - 3 ) = 5 – 3 = 2
x - y คอนจุเกต x + y ซึ่ง ( x - y )( x + y ) = x – y
1x + 2 คอนจุเกต 1x - 2 ซึ่ง ( 1x + 2) ( 1x - 2) = x – 5
ตัวอย่างที่ 9 จงหาลิมิตของ 0
lim
x x
x 11 
วิธีทา ใช้คอนจุเกตจัดรูป 11 x คอนจุเกตคือ 11 x
จาก f(x) =
)11(
)11)(11(


xx
xx
=
)11(
1)1( 22


xx
x
=
)11(
11


xx
x
=
)11( xx
x
; x  0
=
11
1
x
ดังนั้น 0
lim
x x
x 11 
= 0
lim
x
11
1
x
=
110
1

=
2
1
ตัวอย่างที่ 10 จงหาลิมิตของ 3
lim
x
21
3


x
x
วิธีทา ใช้คอนจุเกตจัดรูป 1x - 2 คอนจุเกตคือ 1x + 2
จาก f(x) =
)21)(21(
)21)(3(


xx
xx
= 22
2)1(
)21)(3(


x
xx
=
41
)21)(3(


x
xx
=
)3(
)21)(3(


x
xx
; x  3
= 21 x
ดังนั้น 3
lim
x
21
3


x
x
= 3
lim
x
21 x
= 213 
= 4
แบบที่ 4 ฟังก์ชันที่มีหลายเงื่อนไข
ตัวอย่างที่ 4.1 ให้ f (x) =


 
3
1x
2;
2;


x
x
จงหา 2
lim
x
f(x)
วิธีทา หาลิมิต
1.1 ลิมิตซ้าย 
2
lim
x
f(x) = 
2
lim
x
3 = 3
1.2 ลิมิตขวา 
2
lim
x
f(x) = 
2
lim
x
x+1 = 2 + 1 = 3
ดังนั้น 2
lim
x
f(x) = 3
ตัวอย่างที่ 4.2 ให้ f (x) =



 2
2
x
x
2;
2;


x
x
จงหา f(2) และ 2
lim
x
f(x)
วิธีทา f(x) = x + 2
f(2) = 2 + 2 = 4
2
lim
x
f(x) = 2
lim
x
x2
= 22
= 4
ดังนั้น 2
lim
x
f(x) = 4
แบบที่ 5 ลิมิตของฟังก์ชันในรูปค่าสัมบูรณ์
นิยาม ค่าสัมบูรณ์
| x | =



 x
x
0;
0;


x
x
เช่น | 5 | = | - 5 | = 5 เป็นค่าสัมบูรณ์ ของ 5 และ – 5
ตัวอย่างที่ 5.1 จงพิจารณาว่า
.
f(x) =
x
x ||
มีลิมิตที่ x = 0 หรือไม่
วิธีทา f(x) = x
x ||
=







1
x
x
1
x
x
0;
0;


x
x
นั่นคือ 
0
lim
x
f(x) = - 1

0
lim
x
f(x) = 1
เนื่องจาก 
0
lim
x
f(x)  
0
lim
x
f(x)
ดังนั้น f(x) =
x
x ||
ไม่มีลิมิตที่ x = 0
ตัวอย่างที่ 5.2 กาหนดให้ f(x) = | x2
– 4 |
จงหา 1) 
2
lim
x
f(x) 2) 
2
lim
x
f(x)
วิธีทา จาก f(x) = | x2
– 4 |
จะได้ f (x) =





2
2
4
4
x
x
22;
22;


x
orxx
จะได้
1) 
2
lim
x
f(x) = 
2
lim
x
( 4-x2
) = 0
2) 
2
lim
x
f(x) = 
2
lim
x
x2
– 1 = 0
แบบที่ 6 หาลิมิตของฟังก์ชันจากกราฟ
8
6
4
2
-2
-4
-6
-8
-15 -10 -5 5 10 15
f x  =
x
x
8
6
4
2
-2
-4
-6
-8
-15 -10 -5 5 10 15
f x  = x2-4
รูปที่ )(lim xf
ax 
f (a) หมายเหตุ
1.2 ก
1.2 ข
1.2 ค
1.2 ง
จากรูป 1.2 ก – 1.2 ง
สรุปได้ว่า ...............................................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………
นิยาม ให้ f เป็นฟังก์ชันซึ่งนิยามบนช่วงเปิด (a , b) และ c  (a , b) จะกล่าวว่า
f เป็นฟังก์ชันต่อเนื่องที่ x = c ก็ต่อเมื่อ
1) f(c) หาค่าได้
2) )x(flim
cx
หาค่าได้
และ 3) )x(flim
cx
= f(c) หาค่าได้
ตัวอย่างที่ 1 กาหนดให้ f(x) = x2
– 9
จงพิจารณาว่าf เป็นฟังก์ชัน ต่อเนื่องที่ x = 3
หรือไม่
วิธีทา 1) f (3) = 32
– 9 = 0
2) 3
lim
x
( x2
– 9 ) = 3
lim
x
x2
– 3
lim
x
9
= 32
– 9 = 0
3) จากข้อ 1) และ ข้อ 2) จะได้ว่า
3
lim
x
f (x) = f(3)
ดังนั้น ฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชันต่อเนื่องที่ x = 3
ตัวอย่างที่ 2 กาหนดให้ f(x) =
2
42


x
x
จงพิจารณาว่าฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชัน
ต่อเนื่องที่ x = 2 หรือไม่
วิธีทา 1) f (2) =
22
422


=
0
0
= หาค่าไม่ได้
( ไม่ต้องหาลิมิต )
ดังนั้น ฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชันไม่ต่อเนื่องที่ x = 2
ตัวอย่างที่ 3 กาหนดให้ f (x) =






4
2
42
x
x
2;
2;


x
x
จงพิจารณาว่าฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชัน ต่อเนื่องที่ x = 2 หรือไม่
วิธีทา 1) f (2) = 4
2 ) 2
lim
x 2
42


x
x
= 2
lim
x 2
)2)(2(


x
xx
เมื่อ x  0
= 2
lim
x
( x+ 2 ) = 2 + 2 = 4
นั่นคือ 2
lim
x
f (x) = f(2)
ดังนั้น ฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชันต่อเนื่องที่ x = 2 ดังรูป
8
6
4
2
-2
-4
-6
-8
-10 -5 5 10
f x  =
x2-4
x-2
ตัวอย่างที่ 4 กาหนดให้ f (x) =



1
2
x
0;
0;


x
x
จงพิจารณาว่าฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชัน ต่อเนื่องที่ x = 0 หรือไม่
วิธีทา 1) f (0) = 1
2) 0
lim
x
f (x)
2.1 
0
lim
x
f (x) = 
0
lim
x
x2
= 0
2.2 
0
lim
x
f (x) = 
0
lim
x
1 = 1

0
lim
x
f (x)  
0
lim
x
f (x)
0
lim
x
f (x) = หาค่าไม่ได้
นั่นคือ 0
lim
x
f (x)  f(0)
ดังนั้น ฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชันไม่ต่อเนื่องที่ x = 0 ดังรูป
8
6
4
2
-2
-4
-6
-8
-10 -5 5 10
g x  = 1
f x  = x2
ตัวอย่างที่ 5 กาหนดให้ f (x) =




0
||
x
x
0;
0;


x
x
จงพิจารณาว่าฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชัน ต่อเนื่องที่ x = 0 หรือไม่
วิธีทา 1) f (0) = 0
2) จาก f(x) = x
x ||
นิยามของค่าสัมบูรณ์
จะได้ f(x) =






x
x
x
x
0;
0;


x
x
=



1
1
0;
0;


x
x
นั่นคือ 
0
lim
x
f(x) = - 1

0
lim
x
f(x) = 1
เนื่องจาก 
0
lim
x
f(x)  
0
lim
x
f(x)
จะได้ว่า 0
lim
x
f (x) = หาค่าไม่ได้
นั่นคือ 0
lim
x
f (x)  f(0)
ดังนั้น ฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชันไม่ต่อเนื่องที่ x = 0 ดังรูป
แบบฝึกหัด 1.1 ลิมิตของฟังก์ชัน
8
6
4
2
-2
-4
-6
-8
-10 -5 5 10
f x  =
x
x
แบบที่ 1 ฟังก์ชันของพหุนาม
1. 3
lim
x
x2
+ 5x – 3
2. 3
lim
x
2x2
– x – 7
3. 1
lim
x
(x+3) (x-4) (x2
– 1 )
4. 4
lim
x
52
 xx
5. 3
lim
x
852
 xx
6. 4
lim
x
3 23
203 xx 
แบบที่ 2 ฟังก์ชันที่มีเศษส่วน
7. 0
lim
x x
xx 2
8. 0
lim
x x
xx 63 2

9. 2
lim
x 6
4
2
2


xx
x
10. 4
lim
x 4
162


x
x
11. 3
lim
x 3
273


x
x
12. 0
lim
h h
xhx 22
4)(4 
13. 0
lim
h h
xhx 22
12)2(3 
แบบที่ 3 ฟังก์ชันอยู่ในรูปเศษส่วน
14. 25
lim
x
x
x


5
25
15. 0
lim
x x
x 416 
16. 3
lim
x
21
3


x
x
17. 1
lim
x
23
1


x
x
18. 0
lim
x x
x 2
1
2
1


19. 0
lim
x x
x

4
1
2
1
20. 0
lim
x x
x
cos1
sin2

แบบที่ 4 ฟังก์ชันที่มีค่าสัมบูรณ์
21. ให้ f (x) = | x2
– 9 |
1) )(lim
3
xf
x 

2) )(lim
3
xf
x 

3) )(lim
3
xf
x 
22. ให้ f (x) =
x
x ||
1) )(lim
0
xf
x 

2) )(lim
0
xf
x 

3) )(lim
0
xf
x 
23. ให้ f (x) =
2
|4| 2


x
x
1) )(lim
2
xf
x 

2) )(lim
2
xf
x 

3) )(lim
2
xf
x 
แบบฝึกหัดระคน
24. (มช. ปี 37 ) จงหา
32
1
lim
21



xx
x
x
25. (มช. ปี 38 ) จงหา
33
9
3
lim
3



x
x
x
26. จงหา
1
1
lim 2
23
1 

 x
xxx
x
27. (มช. ปี 39 ) จงหา 4
23
2 )3(1
22
lim
x
xxx
x 


28.
x4x
4x12x3x
lim 3
23
2x 


29.
2x
26x
lim
3
2x 


30.
x
21x3
lim
0x


แบบฝึกหัด 1.2
แบบที่ 5 ฟังก์ชันมีหลายเงื่อนไข
26. ให้ f (x) =



 2
2
x
x
2;
2;


x
x
จงหา 2
lim
x
27. ให้ f (x) =


 
2
32
x
x
3;
3;


x
x
จงหา 3
lim
x
28. ให้ f (x) =


 
3
42
x
22;
22;


x
orxx
จงหา 2
lim
x
29. ให้ f (x) =


 
5
4x
1;
1;


x
x
จงหา 1
lim
x
30. ให้ f (x) =



 
0
x4 2
2;
2;


x
x
จงหา 2
lim
x
2. ความต่อเนื่องของฟังก์ชัน
จงพิจารณาว่าฟังก์ชันที่กาหนดให้ต่อไปนี้ต่อเนื่อง
ที่จุดที่กาหนดให้หรือไม่
1. f(x) = 2x – 5 เมื่อ x = 0
2. f(x) =
1
12


x
x
เมื่อ x = - 1
3. f(x) =
x
xx 42

เมื่อ x = 0
4. f(x) =
6xx
4x
2
2


เมื่อ x = 2
5. f(x) =
1
12


x
x
เมื่อ x = 1
6. f(x) = | x + 3 | เมื่อ x = - 3
7. f(x) =
|3|
)3( 2


x
x
เมื่อ x = 3
8. f(x) =
||
2
x
x
เมื่อ x = 0
9. ให้ f (x) =


 
2
32
x
x
3;
3;


x
x
10. ให้ f (x) =


 
0
x4 2
2;
2;


x
x
3. พิจารณาลิมิตของฟังก์ชันจากกราฟ
1. 
 1
lim
x
f(x) 2. 
 1
lim
x
f(x) 3. 
1
lim
x
f(x) 4. 
1
lim
x
f(x) 5. 
2
lim
x
f(x)
6. 
2
lim
x
f(x) 7. f (- 1 ) 8. f ( 1 ) 9. f (- 2 ) 10. f (- 3 )
8
6
4
2
-2
-4
-6
-8
-10 -5 5 10
ลิมิต
ลิมิต

More Related Content

What's hot

เอกสารแคลคูลัส
เอกสารแคลคูลัสเอกสารแคลคูลัส
เอกสารแคลคูลัสkrurutsamee
 
เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2
เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2
เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2นายเค ครูกาย
 
เฉลยแคลคูลัส
เฉลยแคลคูลัสเฉลยแคลคูลัส
เฉลยแคลคูลัสkrurutsamee
 
ระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้นระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้นRitthinarongron School
 
ข้อสอบเรื่องการคูณและการหารเลขยกกำลัง
ข้อสอบเรื่องการคูณและการหารเลขยกกำลังข้อสอบเรื่องการคูณและการหารเลขยกกำลัง
ข้อสอบเรื่องการคูณและการหารเลขยกกำลังทับทิม เจริญตา
 
ชุดที่ 1 แบบรูปและความสัมพันธ์
ชุดที่ 1  แบบรูปและความสัมพันธ์ ชุดที่ 1  แบบรูปและความสัมพันธ์
ชุดที่ 1 แบบรูปและความสัมพันธ์ Aobinta In
 
เฉลยอนุพันธ์
เฉลยอนุพันธ์เฉลยอนุพันธ์
เฉลยอนุพันธ์krurutsamee
 
การแยกตัวประกอบของพหุนาม
การแยกตัวประกอบของพหุนามการแยกตัวประกอบของพหุนาม
การแยกตัวประกอบของพหุนามPiyanouch Suwong
 
แบบทดสอบก่อนเรียนเลขยกกำลัง
แบบทดสอบก่อนเรียนเลขยกกำลังแบบทดสอบก่อนเรียนเลขยกกำลัง
แบบทดสอบก่อนเรียนเลขยกกำลังทับทิม เจริญตา
 
การบวกและการลบเศษส่วนของพหุนาม
การบวกและการลบเศษส่วนของพหุนามการบวกและการลบเศษส่วนของพหุนาม
การบวกและการลบเศษส่วนของพหุนามkroojaja
 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว Somporn Amornwech
 
แบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
แบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชันแบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
แบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชันphaephae
 
พื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตรพื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตรamnesiacbend
 
ฟังก์ชันเชิงเส้น
ฟังก์ชันเชิงเส้นฟังก์ชันเชิงเส้น
ฟังก์ชันเชิงเส้นY'Yuyee Raksaya
 
การจัดหมู่
การจัดหมู่การจัดหมู่
การจัดหมู่supamit jandeewong
 
คณิตศาสตร์ ม.3 พาราโบลา
คณิตศาสตร์ ม.3 พาราโบลาคณิตศาสตร์ ม.3 พาราโบลา
คณิตศาสตร์ ม.3 พาราโบลาพัน พัน
 
แบบฝึกทักษะเรื่องเลขยกกำลัง
แบบฝึกทักษะเรื่องเลขยกกำลังแบบฝึกทักษะเรื่องเลขยกกำลัง
แบบฝึกทักษะเรื่องเลขยกกำลังทับทิม เจริญตา
 

What's hot (20)

เอกสารแคลคูลัส
เอกสารแคลคูลัสเอกสารแคลคูลัส
เอกสารแคลคูลัส
 
เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2
เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2
เอกสารประกอบการเรียน พหุนาม ม.2
 
เฉลยแคลคูลัส
เฉลยแคลคูลัสเฉลยแคลคูลัส
เฉลยแคลคูลัส
 
ระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้นระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้น
 
16 จำนวนจริง ตอนที่3_ทฤษฎีบทตัวประกอบ
16 จำนวนจริง ตอนที่3_ทฤษฎีบทตัวประกอบ16 จำนวนจริง ตอนที่3_ทฤษฎีบทตัวประกอบ
16 จำนวนจริง ตอนที่3_ทฤษฎีบทตัวประกอบ
 
ข้อสอบเรื่องการคูณและการหารเลขยกกำลัง
ข้อสอบเรื่องการคูณและการหารเลขยกกำลังข้อสอบเรื่องการคูณและการหารเลขยกกำลัง
ข้อสอบเรื่องการคูณและการหารเลขยกกำลัง
 
ชุดที่ 1 แบบรูปและความสัมพันธ์
ชุดที่ 1  แบบรูปและความสัมพันธ์ ชุดที่ 1  แบบรูปและความสัมพันธ์
ชุดที่ 1 แบบรูปและความสัมพันธ์
 
เฉลยอนุพันธ์
เฉลยอนุพันธ์เฉลยอนุพันธ์
เฉลยอนุพันธ์
 
การแยกตัวประกอบของพหุนาม
การแยกตัวประกอบของพหุนามการแยกตัวประกอบของพหุนาม
การแยกตัวประกอบของพหุนาม
 
แบบทดสอบก่อนเรียนเลขยกกำลัง
แบบทดสอบก่อนเรียนเลขยกกำลังแบบทดสอบก่อนเรียนเลขยกกำลัง
แบบทดสอบก่อนเรียนเลขยกกำลัง
 
การบวกและการลบเศษส่วนของพหุนาม
การบวกและการลบเศษส่วนของพหุนามการบวกและการลบเศษส่วนของพหุนาม
การบวกและการลบเศษส่วนของพหุนาม
 
แบบทดสอบ เรื่องพหุนาม
แบบทดสอบ เรื่องพหุนามแบบทดสอบ เรื่องพหุนาม
แบบทดสอบ เรื่องพหุนาม
 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
 
แบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
แบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชันแบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
แบบทดสอบ พร้อมเฉลย ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
 
พื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตรพื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตร
 
ฟังก์ชันเชิงเส้น
ฟังก์ชันเชิงเส้นฟังก์ชันเชิงเส้น
ฟังก์ชันเชิงเส้น
 
การจัดหมู่
การจัดหมู่การจัดหมู่
การจัดหมู่
 
แบบฝึกการคูณและหารพหุนาม
แบบฝึกการคูณและหารพหุนามแบบฝึกการคูณและหารพหุนาม
แบบฝึกการคูณและหารพหุนาม
 
คณิตศาสตร์ ม.3 พาราโบลา
คณิตศาสตร์ ม.3 พาราโบลาคณิตศาสตร์ ม.3 พาราโบลา
คณิตศาสตร์ ม.3 พาราโบลา
 
แบบฝึกทักษะเรื่องเลขยกกำลัง
แบบฝึกทักษะเรื่องเลขยกกำลังแบบฝึกทักษะเรื่องเลขยกกำลัง
แบบฝึกทักษะเรื่องเลขยกกำลัง
 

Similar to ลิมิต

Chapter 4 ลิมิตของฟังก์ชัน
Chapter 4 ลิมิตของฟังก์ชันChapter 4 ลิมิตของฟังก์ชัน
Chapter 4 ลิมิตของฟังก์ชันPumPui Oranuch
 
ประวัติ แคลคูลัส
ประวัติ แคลคูลัสประวัติ แคลคูลัส
ประวัติ แคลคูลัสPloy Purr
 
Exponential and logarithm function
Exponential and logarithm functionExponential and logarithm function
Exponential and logarithm functionThanuphong Ngoapm
 
ระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้นระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้นkruthanapornkodnara
 
การแก้สมการ
การแก้สมการการแก้สมการ
การแก้สมการAon Narinchoti
 
การอินทีเกรต
การอินทีเกรตการอินทีเกรต
การอินทีเกรตANNRockART
 
อินทิเกรต
อินทิเกรตอินทิเกรต
อินทิเกรตkrurutsamee
 
พาราโบลา2
พาราโบลา2พาราโบลา2
พาราโบลา2kru na Swkj
 
M17 cal 1
M17 cal 1M17 cal 1
M17 cal 14315609
 
9789740331131
97897403311319789740331131
9789740331131CUPress
 
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือการแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือSomporn Amornwech
 
สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3krutew Sudarat
 

Similar to ลิมิต (20)

Chapter 4 ลิมิตของฟังก์ชัน
Chapter 4 ลิมิตของฟังก์ชันChapter 4 ลิมิตของฟังก์ชัน
Chapter 4 ลิมิตของฟังก์ชัน
 
Calculus
CalculusCalculus
Calculus
 
Cal
CalCal
Cal
 
ประวัติ แคลคูลัส
ประวัติ แคลคูลัสประวัติ แคลคูลัส
ประวัติ แคลคูลัส
 
linear function
linear functionlinear function
linear function
 
Exponential and logarithm function
Exponential and logarithm functionExponential and logarithm function
Exponential and logarithm function
 
1ลิมิต2ไว้สอนจริง
1ลิมิต2ไว้สอนจริง1ลิมิต2ไว้สอนจริง
1ลิมิต2ไว้สอนจริง
 
1ลิมิต2ไว้สอนจริง
1ลิมิต2ไว้สอนจริง1ลิมิต2ไว้สอนจริง
1ลิมิต2ไว้สอนจริง
 
ระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้นระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้น
 
การแก้สมการ
การแก้สมการการแก้สมการ
การแก้สมการ
 
การอินทีเกรต
การอินทีเกรตการอินทีเกรต
การอินทีเกรต
 
Function3
Function3Function3
Function3
 
อินทิเกรต
อินทิเกรตอินทิเกรต
อินทิเกรต
 
1.pdf
1.pdf1.pdf
1.pdf
 
พาราโบลา2
พาราโบลา2พาราโบลา2
พาราโบลา2
 
M17 cal 1
M17 cal 1M17 cal 1
M17 cal 1
 
Math1 new
Math1 newMath1 new
Math1 new
 
9789740331131
97897403311319789740331131
9789740331131
 
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือการแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
 
สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3
 

More from krurutsamee

คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน krurutsamee
 
รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข
รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข
รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข krurutsamee
 
งานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียน
งานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียนงานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียน
งานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียนkrurutsamee
 
ชุดที่ 1
ชุดที่ 1 ชุดที่ 1
ชุดที่ 1 krurutsamee
 
ชุดที่ 2
ชุดที่ 2 ชุดที่ 2
ชุดที่ 2 krurutsamee
 
ชุดที่ 3
ชุดที่ 3 ชุดที่ 3
ชุดที่ 3 krurutsamee
 
ชุดที่ 4
ชุดที่ 4 ชุดที่ 4
ชุดที่ 4 krurutsamee
 
ชุดที่ 5
ชุดที่ 5 ชุดที่ 5
ชุดที่ 5 krurutsamee
 
ชุดที่ 6
ชุดที่ 6 ชุดที่ 6
ชุดที่ 6 krurutsamee
 
ชุดที่1
ชุดที่1 ชุดที่1
ชุดที่1 krurutsamee
 
ชุดที่2
ชุดที่2 ชุดที่2
ชุดที่2 krurutsamee
 
ชุดที่3
ชุดที่3 ชุดที่3
ชุดที่3 krurutsamee
 
ชุดที่4
ชุดที่4 ชุดที่4
ชุดที่4 krurutsamee
 
ชุดที่5
ชุดที่5 ชุดที่5
ชุดที่5 krurutsamee
 
1. เศรษฐกิจพอเพียง
1. เศรษฐกิจพอเพียง1. เศรษฐกิจพอเพียง
1. เศรษฐกิจพอเพียงkrurutsamee
 
2. บันได 5 ขั้นqsccs
2. บันได 5 ขั้นqsccs2. บันได 5 ขั้นqsccs
2. บันได 5 ขั้นqsccskrurutsamee
 
3. กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา
3. กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา3. กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา
3. กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยาkrurutsamee
 
4. กลวิธี star
4. กลวิธี star4. กลวิธี star
4. กลวิธี starkrurutsamee
 
ประวัติครูรัมี ธัญน้อม
ประวัติครูรัมี  ธัญน้อมประวัติครูรัมี  ธัญน้อม
ประวัติครูรัมี ธัญน้อมkrurutsamee
 
เฉลยพื้นที่ใต้โค้ง
เฉลยพื้นที่ใต้โค้งเฉลยพื้นที่ใต้โค้ง
เฉลยพื้นที่ใต้โค้งkrurutsamee
 

More from krurutsamee (20)

คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
 
รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข
รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข
รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข
 
งานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียน
งานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียนงานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียน
งานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียน
 
ชุดที่ 1
ชุดที่ 1 ชุดที่ 1
ชุดที่ 1
 
ชุดที่ 2
ชุดที่ 2 ชุดที่ 2
ชุดที่ 2
 
ชุดที่ 3
ชุดที่ 3 ชุดที่ 3
ชุดที่ 3
 
ชุดที่ 4
ชุดที่ 4 ชุดที่ 4
ชุดที่ 4
 
ชุดที่ 5
ชุดที่ 5 ชุดที่ 5
ชุดที่ 5
 
ชุดที่ 6
ชุดที่ 6 ชุดที่ 6
ชุดที่ 6
 
ชุดที่1
ชุดที่1 ชุดที่1
ชุดที่1
 
ชุดที่2
ชุดที่2 ชุดที่2
ชุดที่2
 
ชุดที่3
ชุดที่3 ชุดที่3
ชุดที่3
 
ชุดที่4
ชุดที่4 ชุดที่4
ชุดที่4
 
ชุดที่5
ชุดที่5 ชุดที่5
ชุดที่5
 
1. เศรษฐกิจพอเพียง
1. เศรษฐกิจพอเพียง1. เศรษฐกิจพอเพียง
1. เศรษฐกิจพอเพียง
 
2. บันได 5 ขั้นqsccs
2. บันได 5 ขั้นqsccs2. บันได 5 ขั้นqsccs
2. บันได 5 ขั้นqsccs
 
3. กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา
3. กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา3. กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา
3. กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา
 
4. กลวิธี star
4. กลวิธี star4. กลวิธี star
4. กลวิธี star
 
ประวัติครูรัมี ธัญน้อม
ประวัติครูรัมี  ธัญน้อมประวัติครูรัมี  ธัญน้อม
ประวัติครูรัมี ธัญน้อม
 
เฉลยพื้นที่ใต้โค้ง
เฉลยพื้นที่ใต้โค้งเฉลยพื้นที่ใต้โค้ง
เฉลยพื้นที่ใต้โค้ง
 

ลิมิต

  • 1. บทที่ 1 แคลคูลัส ( Calculus ) 1. ลิมิตของฟังก์ชัน 1.1 ลิมิตซ้ายและลิมิตขวา ถ้า )(lim xf ax   = L และ )(lim xf ax   = L ดังนั้น )(lim xf ax  = L เอกสารแนะแนวทางที่ 1.1 จากฟังก์ชัน y = x + 4 เมื่อ x มีค่าเข้าใกล้3 ค่าของ f(x) จะเป็นอย่างไร ก. ค่าของ x เพิ่มขึ้นเข้าใกล้ 3 ข. ค่าของ x ลดลงเข้าใกล้ 3 x f(x) x f(x) 2 6 4 8 2.4 6.4 3.7 7.7 2.7 6.7 3.4 7.7 2.9 6.9 3.1 7.1 2.99 6.99 3.01 7.01 2.999 6.999 3.001 7.001 . . . . . . . . . . . . ตาราง 1 ตาราง 2 เอกสารแนะแนวทางที่ 1.2 จากฟังก์ชัน y = x + 4 เมื่อ x มีค่าเข้าใกล้3 ค่าของ f(x) จะเป็นอย่างไร เมื่อเขียนกราฟของฟังก์ชัน y = x + 4 หาจุดตัดแกน X ( แทนค่า y = 0 ) y = x + 4 0 = x + 4 - 4 = x จุดตัดแกน X คือ ( - 4 , 0 ) หาจุดตัดแกน Y ( แทนค่า x = 0 ) y = 0 + 4 y = 4 จุดตัดแกน Y คือ ( 0 , 4 )
  • 2. รูปที่ 1 การสรุปลิมิตซ้ายและลิมิตขวา จากตารางที่ 1 และกราฟในรูปที่ 1 จะเห็นว่าขณะที่ x เข้าใกล้3 ทางด้านซ้าย ค่าของ f(x) จะเพิ่มขึ้นและเข้าใกล้7 เรียก 7 ว่าลิมิตซ้ายของฟังก์ชัน f(x) = x + 4 เมื่อ x เข้าใกล้3 ทางด้านซ้าย และเขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ )(lim 3 xf x   = 7 จากตารางที่ 2 และกราฟในรูปที่ 1 จะเห็นว่าขณะที่ x เข้าใกล้3 ทางด้านขวา ค่าของ f(x) จะลดลงจาก 8 จนเข้าใกล้7 เรียก 7 ว่าลิมิตขวาของฟังก์ชัน f(x) = x + 4 เมื่อ x เข้าใกล้3 ทางด้านขวา และเขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ )(lim 3 xf x   = 7 ลิมิตซ้าย = ลิมิตขวา )(lim 3 xf x   = )(lim 3 xf x   = 7 ดังนั้น )(lim 3 xf x = 7 ใบงานที่ 1 จากฟังก์ชัน y = 2x - 3 เมื่อ x มีค่าเข้าใกล้ 4 ค่าของ f(x) จะเป็นอย่างไร ก. ค่าของ x เพิ่มขึ้นเข้าใกล้ 4 ข. ค่าของ x ลดลงเข้าใกล้ 4 x f(x) x f(x) 3 5 3.4 4.7 3.7 4.4 3.9 4.1 3.99 4.01 3.999 4.001 . . . . . . . . . . . . ตาราง 1 ตาราง 2 จากฟังก์ชัน y = 2x - 3 เมื่อ x มีค่าเข้าใกล้4 ค่าของ f(x) จะเป็นอย่างไร 0 1 2 3 4 5 6 7 -6 -4 -2 0 2 4
  • 3. เมื่อเขียนกราฟของฟังก์ชัน y = 2x - 3 จุดตัดแกน X หาจุดตัดแกน Y รูปที่ 2 การสรุปลิมิตซ้ายและลิมิตขวา …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ทฤษฎีบทเกี่ยวกับลิมิต ในการหาลิมิตของฟังก์ชันโดยใช้ทฤษฎีของลิมิต ทฤษฎีบท 1 เมื่อ a , L และ M เป็นจานวนจริงใด ๆ ถ้า f และ g เป็นฟังก์ชัน 1. ถ้าลิมิตของ f(x) เมื่อ x เข้าใกล้a หาค่าได้แล้วจะได้ว่า ลิมิตมีเพียงค่าเดียวเท่านั้น นั่นคือ )(lim xf ax  = L1 และ )(lim xf ax  = L2 จะได้ว่า L1 = L2 2. ถ้า f(x) = c โดยที่ c เป็นค่าคงที่แล้ว จะได้ว่า )(lim xf ax  = c เช่น 3lim 1x = 3 3lim 2x = 3 3. ถ้า f(x) = x จะได้ว่า )(lim xf ax  = a เช่น x x 2 lim  = 2 x x 5 lim  = 5 4. ถ้า )(lim xf ax  = L1 และ )(lim xf ax  = L2 จะได้ว่า 1) )]()([lim xgxf ax   = )(lim xf ax   )(lim xg ax  = L1 + L2 เช่น 3 lim x (x+2) = 3 lim x x + 3 lim x 2 = 3 + 2 = 5 2) )]()([lim xgxf ax   = )(lim xf ax   )(lim xg ax  = L1  L2 เช่น 3 lim x (x+2)(x+3) = 3 lim x (x + 2) + 3 lim x (x+3) = 5 x 6 = 30
  • 4. 3) )( )( lim xg xf ax  = )(lim )(lim xg xf ax ax   = 2 1 L L เช่น )3( )2( lim 2    x x x = )3(lim )2(lim 3 3     x x x x = 6 5 5. ax  lim f(x) = L แล้วจะได้ว่า ax  lim [f(x)]n = [ ax  lim f(x)]n = Ln เช่น 3 lim x (x+2)2 = [ 3 lim x (x+2)]2 = 52 = 25 6. ถ้า n  I+ และ ax  lim f(x) = L จะได้ว่า ax  lim n xf )( = n ax xf )(lim  = n L เช่น 3lim 1   x x = )3(lim 1   x x = 31  = 2 ทฤษฎีบท 2 ถ้า p(x) เป็นฟังก์ชันพหุนาม แล้ว สาหรับจานวนจริง a ใดๆ )x(plim ax = p(a) ทฤษฎีบท 3 ถ้า f(x) เป็นฟังก์ชันตรรกยะโดยที่ )x(q )x(p เมื่อ p(x) และ q(x) เป็นฟังก์ชันพหุนาม แล้ว )(lim xf ax  = )a(q )a(p สาหรับจานวนจริง a ใดๆ ที่ q(x)  0 การหาลิมิตของฟังก์ชัน แบบที่ 1 ฟังก์ชันพหุนาม ตัวอย่างที่ 1 จงหาค่าของ 3 lim x (2x - 1) วิธีทา 3 lim x (2x - 1) = 3 lim x 2x - 3 lim x 1 = 2 3 lim x x - 3 lim x 1 = 2(3) - 1 = 5 ตัวอย่างที่ 2 จงหาค่าของ 2 lim x (x2 + 4x - 5) วิธีทา 2 lim x (x2 + 4x - 5) = 2 lim x x2 +4 2 lim x x - 2 lim x 5 = (-2)2 + 4(-2)-5 = 4 – 8 – 5 = - 9 ตัวอย่างที่ 3 จงหาค่าของ 3 lim x 15 x วิธีทา 3 lim x 15 x = )15(lim 3   x x = 1)3(5  = 16 = 4 1. ครูทบทวน ไม่นิยามตัวหารด้วย 0 โดยให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้ 1) 5 5 = 1 2) 5 0 = 0 3) 0 5 = หาค่าไม่ได้ 4) 0 0 = หาค่าไม่ได้ 2. ครูทบทวนผลคูณของ ( x + h )2 = x2 + 2xh + h2
  • 5. 3 ( x + h )2 = 3x2 + 6xh + 3h2 ( 2x + h )2 = 4 x2 + 4xh + h2 แบบที่ 2 ฟังก์ชันในรูปเศษส่วน การคานวณค่าลิมิตของฟังก์ชันในรูป )( )( lim xg xf ax  = 0 0 ต้องอาศัยหลักทางพีชคณิต ดาเนินการจัดรูป ให้อยู่ในรูปที่ตัวส่วนไม่เป็นศูนย์เพราะไม่นิยามตัวหารด้วย 0 เช่น 0 5 = หาค่าไม่ได้ 0 0 = หาค่าไม่ได้ ถ้า 2 1 x ; x  2 ตัวอย่างที่ 4 ให้ f(x) = 2 2x x x  จงหา 0 lim ( ) x f x  วิธีทา ถ้า f(0) = 0 0 = หาค่าไม่ได้ จัดรูป ดึงตัวร่วม f(x) = 2 2x x x  = ( 2)x x x  ; x  0 = x + 2 ดังนั้น 2 0 2 lim x x x x  = 0 lim 2 x x   = 0 + 2 = 2 ตัวอย่างที่ 5 จงหาค่าของ )2( )4( lim 2 2    x x x วิธีทา ถ้า f(2) = 0 0 = หาค่าไม่ได้ จาก f(x) = )2( )4( 2   x x ผลต่างกาลังสอง = )2( )2)(2(   x xx ; x  2 = x + 2 ดังนั้น )2( )4( lim 2 2    x x x = 2 lim x (x+2) = 2 + 2 = 4 ตัวอย่างที่ 6 จงหาค่าของ 1 lim x 1 32 2   x xx วิธีทา ถ้า f(1) = 0 0 = หาค่าไม่ได้ จาก f(x) = 1 32 2   x xx แยกตัวประกอบ = )1( )1)(32(   x xx ; x  1 = 2x + 3 ดังนั้น 1 lim x 1 32 2   x xx = 2 lim x (2x+3) = 2(1) + 3 = 5 ตัวอย่างที่ 7 จงหาค่าของ 1 lim x 1 13   x x วิธีทา ถ้า f(1) = 0 0 = หาค่าไม่ได้ จาก f(x) = 1 13   x x ผลต่างกาลังสาม = )1( )1)(1( 2   x xxx ; x  1 = x2 + x + 1 ดังนั้น 1 lim x 1 13   x x = 2 lim x (x2 + x + 1 ) = (1)2 + 1 + 1 = 3 แบบที่ 2 ฟังก์ชันในรูปเศษส่วน (ต่อ) ทบทวนผลคูณของ ( x + h )2 = x2 + 2xh + h2
  • 6. 3 ( x + h )2 = 3x2 + 6xh + 3h2 ( 2x + h )2 = 4 x2 + 4xh + h2 ตัวอย่างที่ 8 ให้ f(x) = 2 2 2( ) 2x h x h   จงหา )x(flim 0h วิธีทา ถ้า f(0) = 0 0 = หาค่าไม่ได้ จาก ( x + h )2 = x2 + 2xh + h2 จะได้ 2 ( x + h )2 = 2 ( x2 + 2xh + h2 ) = = 2x2 + 4xh + 2h2 จัดรูป ดึงตัวร่วม f(x) = 2 2 2( ) 2x h x h   = 2 2 2 2 4 2 2x xh h x h    ; = 2 4 2 (4 2 )xh h h x h h h    ; h  0 = 4x + 2h ดังนั้น )x(flim 0h 2 2 2( ) 2x h x h   = )x(flim 0h 4x + 2h = 4x + 2 ( 0 ) = 4x แบบที่ 3 ฟังก์ชันที่อยู่ในรูปเศษส่วนและมีค่ารากที่สอง นาคอนจุเกต ( conjugate) คูณทั้งเศษและส่วน ในรูปผลต่างกาลังสอง เช่น 5 + 3 คอนจุเกต 5 - 3 ซึ่ง ( 5 + 3 )( 5 - 3 ) = 5 – 3 = 2 x - y คอนจุเกต x + y ซึ่ง ( x - y )( x + y ) = x – y 1x + 2 คอนจุเกต 1x - 2 ซึ่ง ( 1x + 2) ( 1x - 2) = x – 5 ตัวอย่างที่ 9 จงหาลิมิตของ 0 lim x x x 11  วิธีทา ใช้คอนจุเกตจัดรูป 11 x คอนจุเกตคือ 11 x จาก f(x) = )11( )11)(11(   xx xx = )11( 1)1( 22   xx x = )11( 11   xx x = )11( xx x ; x  0 = 11 1 x ดังนั้น 0 lim x x x 11  = 0 lim x 11 1 x
  • 7. = 110 1  = 2 1 ตัวอย่างที่ 10 จงหาลิมิตของ 3 lim x 21 3   x x วิธีทา ใช้คอนจุเกตจัดรูป 1x - 2 คอนจุเกตคือ 1x + 2 จาก f(x) = )21)(21( )21)(3(   xx xx = 22 2)1( )21)(3(   x xx = 41 )21)(3(   x xx = )3( )21)(3(   x xx ; x  3 = 21 x ดังนั้น 3 lim x 21 3   x x = 3 lim x 21 x = 213  = 4 แบบที่ 4 ฟังก์ชันที่มีหลายเงื่อนไข ตัวอย่างที่ 4.1 ให้ f (x) =     3 1x 2; 2;   x x จงหา 2 lim x f(x) วิธีทา หาลิมิต 1.1 ลิมิตซ้าย  2 lim x f(x) =  2 lim x 3 = 3 1.2 ลิมิตขวา  2 lim x f(x) =  2 lim x x+1 = 2 + 1 = 3 ดังนั้น 2 lim x f(x) = 3 ตัวอย่างที่ 4.2 ให้ f (x) =     2 2 x x 2; 2;   x x จงหา f(2) และ 2 lim x f(x) วิธีทา f(x) = x + 2 f(2) = 2 + 2 = 4 2 lim x f(x) = 2 lim x x2 = 22 = 4 ดังนั้น 2 lim x f(x) = 4 แบบที่ 5 ลิมิตของฟังก์ชันในรูปค่าสัมบูรณ์ นิยาม ค่าสัมบูรณ์ | x | =     x x 0; 0;   x x
  • 8. เช่น | 5 | = | - 5 | = 5 เป็นค่าสัมบูรณ์ ของ 5 และ – 5 ตัวอย่างที่ 5.1 จงพิจารณาว่า . f(x) = x x || มีลิมิตที่ x = 0 หรือไม่ วิธีทา f(x) = x x || =        1 x x 1 x x 0; 0;   x x นั่นคือ  0 lim x f(x) = - 1  0 lim x f(x) = 1 เนื่องจาก  0 lim x f(x)   0 lim x f(x) ดังนั้น f(x) = x x || ไม่มีลิมิตที่ x = 0 ตัวอย่างที่ 5.2 กาหนดให้ f(x) = | x2 – 4 | จงหา 1)  2 lim x f(x) 2)  2 lim x f(x) วิธีทา จาก f(x) = | x2 – 4 | จะได้ f (x) =      2 2 4 4 x x 22; 22;   x orxx จะได้ 1)  2 lim x f(x) =  2 lim x ( 4-x2 ) = 0 2)  2 lim x f(x) =  2 lim x x2 – 1 = 0 แบบที่ 6 หาลิมิตของฟังก์ชันจากกราฟ 8 6 4 2 -2 -4 -6 -8 -15 -10 -5 5 10 15 f x  = x x 8 6 4 2 -2 -4 -6 -8 -15 -10 -5 5 10 15 f x  = x2-4
  • 9.
  • 10. รูปที่ )(lim xf ax  f (a) หมายเหตุ 1.2 ก 1.2 ข 1.2 ค 1.2 ง จากรูป 1.2 ก – 1.2 ง สรุปได้ว่า ............................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………
  • 11. นิยาม ให้ f เป็นฟังก์ชันซึ่งนิยามบนช่วงเปิด (a , b) และ c  (a , b) จะกล่าวว่า f เป็นฟังก์ชันต่อเนื่องที่ x = c ก็ต่อเมื่อ 1) f(c) หาค่าได้ 2) )x(flim cx หาค่าได้ และ 3) )x(flim cx = f(c) หาค่าได้ ตัวอย่างที่ 1 กาหนดให้ f(x) = x2 – 9 จงพิจารณาว่าf เป็นฟังก์ชัน ต่อเนื่องที่ x = 3 หรือไม่ วิธีทา 1) f (3) = 32 – 9 = 0 2) 3 lim x ( x2 – 9 ) = 3 lim x x2 – 3 lim x 9 = 32 – 9 = 0 3) จากข้อ 1) และ ข้อ 2) จะได้ว่า 3 lim x f (x) = f(3) ดังนั้น ฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชันต่อเนื่องที่ x = 3 ตัวอย่างที่ 2 กาหนดให้ f(x) = 2 42   x x จงพิจารณาว่าฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชัน ต่อเนื่องที่ x = 2 หรือไม่ วิธีทา 1) f (2) = 22 422   = 0 0 = หาค่าไม่ได้ ( ไม่ต้องหาลิมิต ) ดังนั้น ฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชันไม่ต่อเนื่องที่ x = 2 ตัวอย่างที่ 3 กาหนดให้ f (x) =       4 2 42 x x 2; 2;   x x จงพิจารณาว่าฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชัน ต่อเนื่องที่ x = 2 หรือไม่ วิธีทา 1) f (2) = 4 2 ) 2 lim x 2 42   x x = 2 lim x 2 )2)(2(   x xx เมื่อ x  0 = 2 lim x ( x+ 2 ) = 2 + 2 = 4 นั่นคือ 2 lim x f (x) = f(2) ดังนั้น ฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชันต่อเนื่องที่ x = 2 ดังรูป 8 6 4 2 -2 -4 -6 -8 -10 -5 5 10 f x  = x2-4 x-2
  • 12. ตัวอย่างที่ 4 กาหนดให้ f (x) =    1 2 x 0; 0;   x x จงพิจารณาว่าฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชัน ต่อเนื่องที่ x = 0 หรือไม่ วิธีทา 1) f (0) = 1 2) 0 lim x f (x) 2.1  0 lim x f (x) =  0 lim x x2 = 0 2.2  0 lim x f (x) =  0 lim x 1 = 1  0 lim x f (x)   0 lim x f (x) 0 lim x f (x) = หาค่าไม่ได้ นั่นคือ 0 lim x f (x)  f(0) ดังนั้น ฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชันไม่ต่อเนื่องที่ x = 0 ดังรูป 8 6 4 2 -2 -4 -6 -8 -10 -5 5 10 g x  = 1 f x  = x2
  • 13. ตัวอย่างที่ 5 กาหนดให้ f (x) =     0 || x x 0; 0;   x x จงพิจารณาว่าฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชัน ต่อเนื่องที่ x = 0 หรือไม่ วิธีทา 1) f (0) = 0 2) จาก f(x) = x x || นิยามของค่าสัมบูรณ์ จะได้ f(x) =       x x x x 0; 0;   x x =    1 1 0; 0;   x x นั่นคือ  0 lim x f(x) = - 1  0 lim x f(x) = 1 เนื่องจาก  0 lim x f(x)   0 lim x f(x) จะได้ว่า 0 lim x f (x) = หาค่าไม่ได้ นั่นคือ 0 lim x f (x)  f(0) ดังนั้น ฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชันไม่ต่อเนื่องที่ x = 0 ดังรูป แบบฝึกหัด 1.1 ลิมิตของฟังก์ชัน 8 6 4 2 -2 -4 -6 -8 -10 -5 5 10 f x  = x x
  • 14. แบบที่ 1 ฟังก์ชันของพหุนาม 1. 3 lim x x2 + 5x – 3 2. 3 lim x 2x2 – x – 7 3. 1 lim x (x+3) (x-4) (x2 – 1 ) 4. 4 lim x 52  xx 5. 3 lim x 852  xx 6. 4 lim x 3 23 203 xx  แบบที่ 2 ฟังก์ชันที่มีเศษส่วน 7. 0 lim x x xx 2 8. 0 lim x x xx 63 2  9. 2 lim x 6 4 2 2   xx x 10. 4 lim x 4 162   x x 11. 3 lim x 3 273   x x 12. 0 lim h h xhx 22 4)(4  13. 0 lim h h xhx 22 12)2(3  แบบที่ 3 ฟังก์ชันอยู่ในรูปเศษส่วน 14. 25 lim x x x   5 25 15. 0 lim x x x 416  16. 3 lim x 21 3   x x 17. 1 lim x 23 1   x x 18. 0 lim x x x 2 1 2 1   19. 0 lim x x x  4 1 2 1 20. 0 lim x x x cos1 sin2  แบบที่ 4 ฟังก์ชันที่มีค่าสัมบูรณ์ 21. ให้ f (x) = | x2 – 9 | 1) )(lim 3 xf x   2) )(lim 3 xf x   3) )(lim 3 xf x  22. ให้ f (x) = x x || 1) )(lim 0 xf x   2) )(lim 0 xf x   3) )(lim 0 xf x  23. ให้ f (x) = 2 |4| 2   x x 1) )(lim 2 xf x   2) )(lim 2 xf x   3) )(lim 2 xf x  แบบฝึกหัดระคน 24. (มช. ปี 37 ) จงหา 32 1 lim 21    xx x x 25. (มช. ปี 38 ) จงหา 33 9 3 lim 3    x x x 26. จงหา 1 1 lim 2 23 1    x xxx x 27. (มช. ปี 39 ) จงหา 4 23 2 )3(1 22 lim x xxx x    28. x4x 4x12x3x lim 3 23 2x    29. 2x 26x lim 3 2x    30. x 21x3 lim 0x   แบบฝึกหัด 1.2
  • 15. แบบที่ 5 ฟังก์ชันมีหลายเงื่อนไข 26. ให้ f (x) =     2 2 x x 2; 2;   x x จงหา 2 lim x 27. ให้ f (x) =     2 32 x x 3; 3;   x x จงหา 3 lim x 28. ให้ f (x) =     3 42 x 22; 22;   x orxx จงหา 2 lim x 29. ให้ f (x) =     5 4x 1; 1;   x x จงหา 1 lim x 30. ให้ f (x) =      0 x4 2 2; 2;   x x จงหา 2 lim x 2. ความต่อเนื่องของฟังก์ชัน จงพิจารณาว่าฟังก์ชันที่กาหนดให้ต่อไปนี้ต่อเนื่อง ที่จุดที่กาหนดให้หรือไม่ 1. f(x) = 2x – 5 เมื่อ x = 0 2. f(x) = 1 12   x x เมื่อ x = - 1 3. f(x) = x xx 42  เมื่อ x = 0 4. f(x) = 6xx 4x 2 2   เมื่อ x = 2 5. f(x) = 1 12   x x เมื่อ x = 1 6. f(x) = | x + 3 | เมื่อ x = - 3 7. f(x) = |3| )3( 2   x x เมื่อ x = 3 8. f(x) = || 2 x x เมื่อ x = 0 9. ให้ f (x) =     2 32 x x 3; 3;   x x 10. ให้ f (x) =     0 x4 2 2; 2;   x x 3. พิจารณาลิมิตของฟังก์ชันจากกราฟ 1.   1 lim x f(x) 2.   1 lim x f(x) 3.  1 lim x f(x) 4.  1 lim x f(x) 5.  2 lim x f(x) 6.  2 lim x f(x) 7. f (- 1 ) 8. f ( 1 ) 9. f (- 2 ) 10. f (- 3 ) 8 6 4 2 -2 -4 -6 -8 -10 -5 5 10