More Related Content
Similar to นายนพจร โคกแพ ม.4/8 เลขที่20
Similar to นายนพจร โคกแพ ม.4/8 เลขที่20 (20)
นายนพจร โคกแพ ม.4/8 เลขที่20
- 1. ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
จัดทาโดย
1. ด.ช.นที พลอยดี เลขที่ 8
2. ด.ญ. ชนากานต์ สุขถวิล เลขที่ 8
3. ด.ญ. สุทธิดา คงถาวร เลขที่ 8
4. ด.ญ.อินทิรา เอื้อบุญนา เลขที่ 8
5. ด.ญ.อุดมพร อื้อบุญนา เลขที่ 8
เสนอ
อาจาร์ย กุศล งามเนตร
วิชานี้เป็นส่วนหนึ่งของ วิชา วิยาศาสตร์เพิ่มเติม ว 20206
โรงเรียน สตรีนครสวรรค์ ตาบล บากน้า อาเภอ เมือง จังหวัด นครสวรรค์
ชั้นมัธยมศึกษา ม.3/8
- 3. 2 พลับพรึง Crinum
asiaticum Linn.
พลับพลึงเป็นพรรณไม้ล้มลุกขึ้นเป็นกอ และมีหัวอยู่ใต้ดิน ลาต้นกลมมีความกว้าง
ขอบใบจะเป็นคลื่น ตรงปลายใบจะแหลม ใบจะมีความยาวประมาณ 1 เมต
ตอนดอกยง
- 5. 5 เฟิร์นใบมะขาม Nephrolepsis
biserratacr. furcan
ต้นเป็นพรรณไม้พุ่มขนาดเล็ก ลาต้นเป็นข้อ ใบ ใบสีเขียว ส่วนปลา
6 ไผ่ฟิลิปฟินส์ Dracaenna surculosa
Lindl
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้พุ่มขนาดเล็ก ลา
- 6. 7 พลูด่าง Scindapsus aureus
เป็นไม้เลื้อยเขตร้อน ใบมีลักษณะเป็นรูปหัวใจสีเขียวสด สลับกับสีเหลืองนวล ชอบแสงสว่าง ต้นมีลักษณะอ่อนซ้อย นามาปลูก
พลูด่างเป็นพืชที่มีรากอากาศ และจะเจริญ
- 7. 8 ราชฟฤกษ์ Dracaena goldieana
ต้น เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลาต้นมีควา
เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยวแตกออกจากลาต้นส่วนยอดเรียงซ้อนกันเวียนรอบลาต้นเป็นรูปวงกลมลักษณะใบเรียวยาดอก ออกดอกเป็นช่อ
- 8. 9 กวนอิม Ribbon Plant
เป็นพรรณไม้พุ่มยืนต้นคล้ายสกุลหวายลาต้นโตประมาณ 1-2 เซนติเมตร ลาต้นสูงประมาณ 1-3 เมตร ลาต้นกลมตรงเล็ก ลาต้นเป็นข
มีกาบใบห้อหุ้มลาต้นสลับกันเป็นชั้นๆ ตามข้อของลาต
- 9. 10 กาแฟ Robusta Coffee,
Coffea canephora
Pierre ex Froehner
กาแฟ เป็นไม้พุ่ม สูง 2-4 เมตร ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปขอบขนาน กว้าง 8-12 ซม. ยาว 15-20 ซม. หูใบอยู่ระหว่างก้านใบ ดอกช่อ ออ
- 10. 11 อินทนิลน้า agerstroemia
speciosa (L.) Pers.
ไม้ต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลัดใบ แต่ผลิใบใหม่ไว สูง 5-20 เมตร ลาต้น ต้นเล็กมักคดงอ แต่พอใหญ่ขึ้นจะเปลา ตรง ทรงใบร
เป็นมันทั้งสองด้านกลีบดอกบาง รูปช้อนที่มีโคนกลีบเป็นก้านเรียว ผิวกลีบเป็นคล
- 11. 12 ตีนเป็ดฝรั่ง Cresentia alata L
ไม้ต้นสูง 4-10 เมตร ลาต้น เรือนยอดโปร่ง แผ่กว้างเปลือกต้นสีน้าตาลเข้ม ใบ เป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ ออกเป
มีลายสีม่วงแดง กลิ่นเหม็นหืน ผล
กลม เปลือกเข็งหนา ผิวเกลี้ยง มีเมล็ด
- 12. 13 มะยม Phyllanthus
acidus (L.) Skeels
ไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงประมาณ 3 – 10 เมตร ลาต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านสาขาบริเวณปลายยอใบ เป็น
ออกเป็นช่อตามกิ่ง ดอกย่อยสีเหลืองอมน้าตาลเรื่อๆ ผล เมื่ออ่อนสีเขียว เมื่อแ
- 13. 14 หวายเขียว Dracaena reflexa
หวายเขียวนี้จัดเป็นตัวต้นแบบของหวายและซองออฟทั้งหลายใบจะมีสีเขียวเข็ม ลักษณะของใบแคบ ยาวปลายใบแหลม ใบจะ
สนามหญ้าหรือจัดสวน
- 14. 15 กระทุ้มบก Anthocephalus
chinensis (Lamk.) A.
Rich. ex Walp.
ต้นขนาดกลางถึงขนาด
รูปไข่ รูปรี หรือรูปขอบขนาน ยาว 12-25 ซม. (ใบอ่อนมีขนาดใหญ่และยาวกว่าน
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-5 ซม. ก้านช่อยาว 1.5-4 ซม. ดอกเล็กอัดกันแน่น ติด
ข
- 15. 16 ต้นสาโรง Sterculia Foetida L.
ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูงได้ถึง 30เมตร ผลัดใบ
เรือนยอดรูปไข่ ถึงทรงกระบอก ลาต้นเปลาตรง โคนมีพูพอนต่าๆ
เปลือกเรียบสีน้าตาลปนเทา
ใบ ใบประกอบรูปนิ้วมือ กางแผ่ออกจาก
เรียงเวียนจากจุดเดียวกัน เรียงเวียนตอนปลายกิ่ง ใบย่อย5-7 ใบ ดอก สีแดงหรือสีแสด มีกลิ่นเหม็นมาก ออก
ผิวมันและเกลี้ยงเมื่อ แก่แตกเป็นสองซีกกว้าง
- 17. 18 รางเงิน Hippeastrum
reticulatum
(L.Herit) Harl.
ลักษณะพืช ไม้ล้มลุก มีหัวใต้ดิน ใบ ใบเดี่ยว ออกจากหัวใต้ดิน รูป แถบกว้าง 3.5 - 4 เซนติเมตร ยาว 25 - 35 เซนติเมตร ปลายแห
กลีบดอกรูประฆังโคนเชื่อมกันเป็น
ยาว 2 - 2.5 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 6 กลีบ มีลายสีเข้ม เมื่อบาน เส้นผ่าศูนย์กลาง 7 - 8
- 18. 19 ฟิโลเดนดรอน Philodendron spp
ฟิโลเดนดรอนมีถิ่นกาเนิดอยู่ตามธรรมชาติ ในอเมริกาเขตร้อนและหมู่เกาะอินเดียตะวันตก เป็นพันธ์ไม้ใบหรือไม้ปร
เป็นไม้ที่ชอบเลื้อยชอบไต่ตามสิ่งที่อยู่ใกล้เคียง โดยใช้รากอาศัยเกาะพยุงต้นไว้ลักษณะใบมีรูปร่างแปลกๆ ส่วนมาก
เมื่อใบแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวบางชนิดมีใบคล้ายใบลั่นทม เส้นใบสีแดงหรือชมพู พื้นใบสีเขียวอ่อน บางชนิดมีแฉกลึกเกือบถึงเส้น
ดังนั้นใบใหม่ที่เพิ่งผลิตออกมาจึงมีขนาดเล
- 19. 20 หวายด่าง Dracaena
sonderiana"silver"
ไม้ยืนต้น คล้ายกับสกุลหวายลาต้นโตประมาณ 1-2 เซนติเมตร ลาต้นมีความสูงประมาณ 1-3 เมตร
ลาต้นกลมตรงเล็กลาต้นเป็นข้อๆสีเขียวไม่มีกิ่งก้านสาขามีการเจริญการยืดตัวของข้อใบเป็นใบเดี่ยวแตกออกจากส่วนยอด
ของลาต้น มีกาบใบหุ้มห่อลาต้น สลับกันเป็นชั้นๆ ตามข้อของลาต้น ใบแคบเรียวยาว ปลายใบแหลม โคนใบสอบลงมาถึงกาบ
ใบพื้นใบมีสีเขียวหรืมีสีขาวพาดตามยาวของใบ ขนาดความกว้างของใบประมาณ 2-3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6-8 เซนติเมตร
- 20. 21 เล็บครุฑ Polyscias fruticosa
Harms.
ไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงราว 2 เมตร ลักษณะต้นเป็นข้อ ลาต้นอ่อนมีสีเขียวอ่อนแกมน้าตาลอ่อน เมื่อลาต้นแก่เต็มที่ก็จะเปล
ใบย่อยมีรูปร่างและขนาดแตกต่างกัน ขอบใบหยักย่อยละเอียด ปลายใบเรีย
- 21. 22 ดีปลี Piper
retrofractum Vahl
ไม้เถารากฝอยออกบริเวณข้อเพื่อใช้ยึดเกาะ ใบ เดี่ยวรูปไข่แกมขอบขนาน กว้าง 3-5 ซม. ยาว 7-10 ซม. สีเขียวเข้มเป็นมัน ดอก ช่อ ออ
- 22. 23 สัตบรรณ Blackboard Tree,
Devil Tree, Alstonia
scholaris (Linn.) R.
Br.
อบข้อ ใบเดี่ยว เรียงรอบข้อๆ ละ 6-9 ใบ รูปขอบขนานแกมใบหอกกลับหรือรูปไข่กลับ กว้าง 2-6 ซม. ยาว 5-18 ซม. ปลายทู่กลม
รูปกลมยาว
- 23. 24 ปาล์มน้ามัน Elaeis
guineensis Jacq.
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ปาล์มต้นเดี่ยว ใบ (Foliage) : ใบประกอบแบบขนนก เร
รูปขอบขนาน กว้าง 2-5 เซนติเมตร ยาว 75-90 เซนติเมตร ดอก (Flower) : สีขาว ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงร
- 24. 25 ปาล์มหางกระรอก Wodyetia
bifurcata A.K. Irvine
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ปาล์มต้นเดี่ยว ลาต้นป่องกลางเล็ก
ใบ (Foliage) : ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ทางใบยาว 2-2.50 เมตร ดอก (Flower) : สีขาว ออกเ
ผล (Fruit) : ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว ติดผลจานวนมาก ทรงกลม
- 25. 26 ฤษีผสม Coleus atropurpurrus
Benth.
เป็นพรรณไม้ที่มีอยู่หลากหลายพรรณ และยังมากด้วยสีสันอีกด้วยซึ่งก็สวยงามมาก
แต่ถ้าเราหมั่นเด็ดยอดอาจจะเป็นไม้คลุมดินหรือลักษณะคล้ายไม้เลื้อยก็ได้ ลักษณะของใบม
ฟันเลื่อย สีของใบจะมีทั้งสีแดงเข้ม แดงอ่อน ชมพู แดงทอง น้าตาล เขียวอ่อน และม่วงแด
สีขาวหรือเขียวอ่อน มีใบที่นุ่มมาก ถ้าหมั่นเด็ดยอดใบจะแตกเป็นพุ่มดกงามมาก ดอกออกเป
มีขนาดเล็กมาก และจะมีสีต่าง ๆ กันแล้วแต่พรรณของฤาษีผสมนั้น เป็นพ
27 หว้า Syzygium cumini
ลักษณะ ลาต้น ไม้ยืนต้นสูง 10-35 เมตร เปลือกต้นค่อนข้างเรียบ สีน้าตาล ใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปไข่หรือรูปรี กว้าง 3-7 เซนติเมตร
ออกที่ซอกใบหรือปลายยอด ฐานรองดอกเป็นรูปกรวย กลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบดอก 4 กลีบ เกสรตัวผู้มีจานวนมาก ออกดอกและติดผล
- 27. ที่
ชื่อสัตว์
ชนิด-
ประเภ
ท
รูป-ลักษณ์ –ของสัตว์และที่อยู่ ปริมาณที่พ
บ
1 แมลงปอ
เป็นแมลงมีปีก 4 ปีก กินแมลงเป็นอาหาร บางคนเรียกว่า นักล่าแห่งเวหา เพราะมีความสามารถในการบินสูงมาก
แมลงปอสามารถบินได้ไกลถึง 100 ก.ม. การขยับปีกขึ้น-ลง จะใช้ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 500
ครั้งต่อวินาที แมลงปอขนาดใหญ่ ซึ่งอาจจัดอยู่ในกลุ่มแมลงปอบ้าน แต่มีปีกคู่หลังเท่ากับปีกคู่หน้าและมีหนวด
1 ตัว
- 28. 2 แมว
แมว หรือ แมวบ้าน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Felis catus)
เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้านม อยู่ในตระกูล Felidae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับสิงโตและเสือดาว ต้นตระกูลแมวมาจากเสือไซบีเรีย
น (Felis tigris altaica) ซึ่งมีช่วงลาตัวตั้งแต่จมูกถึงปลายหางยาวประมาณ 4 เมตร แมวที่เลี้ยงตามบ้าน จะมีรูปร่างขนาดเล็ก
ขนาดลาตัวยาว ช่วงขาสั้นและจัดอยู่ในกลุ่มของประเภทสัตว์กินเนื้อเป็นอาหาร
มีเขี้ยวและเล็บแหลมคมสามารถหดซ่อนเล็บได้เช่นเดียวกับเสือ
1 ตัว
- 29. 3
จิ้งโจน้า
จิงโจ้น้า (Water Striders / Pond Skaters) เป็นแมลงที่จัดอยู่ในกลุ่มประเภทมวนอยู่ในอันดับ Hemiptera วงศ์ Gerridae
ชื่อสามัญ Water Striders หรือ Pond skaters มีชื่อเรียกต่างกันคือ จิงโจ้น้า มวนจิงโจ้น้า แมงกะพุ้งน้า
1 ตัว
- 30. 4 หอยเชอ
รี่
เป็นหอยน้าจืดจาพวกหอยฝาเดียว สามารถแบ่งหอยเชอรี่ได้2 พวก คือ พวกที่มีเปลือกสีเหลืองปนน้าตาล
เนื้อและหนวดสีเหลือง และพวกมีเปลือกสีเขียวเข้มปนดา และมีสีดาจาง ๆ พาดตามความยาว เนื้อและหนวดสีน้าตาลอ่อน
หอยเชอรี่เจริญเติบโตและขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ลูกหอยอายุเพียง 2 – 3 เดือน จะจับคู่ผสมพันธุ์ได้ตลอดเวลา
หลังจากผสมพันธุ์ได้1 – 2 วัน ตัวเมียจะวางไข่ในเวลากลางคืน โดยคลานไปวางไข่ตามที่แห้งเหนือน้า เช่น ตามกิ่งไม้
ต้นหญ้าริมน้า
1 ตัว
- 31. 5 มด
มด เป็นสัตว์ในวงศ์ Formicidae อันดับ Hymenoptera มีจานวนชนิดมากกว่า 12,000 ชนิด
โดยพบมากในเขตร้อนของโลก มดมีการสร้างรังเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ บางรังมีจานวนประชากรมากถึงล้านตัว
มีการแบ่งวรรณะกันทาหน้าที่คือ วรรณะมดงาน เป็นมดเพศเมียเป็นหมัน ทาหน้าที่หาอาหาร สร้างและซ่อมแซมรัง
ปกป้ องรังจากศัตรู ดูแลตัวอ่อน และงานอื่นๆ ทั่วไป เป็นวรรณะที่พบได้มากที่สุด วรรณะสืบพันธุ์ เป็นมดเพศผู้และราชินี
เพศเมีย มีหน้าที่สืบพันธุ์
1 ตัว
- 36. ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
ไห้นักเรียนจาแนกพืช ที่นักเรียนสารวจได้ที่ในสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนสตรีนครสวรรค์
ที่ division ตัวอย่างพืช ลัษณะเด่น ชนิดพืชที่พบในสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ชนิดที่พบ บริเวณที่พบ
1 Division Pterophyta พวกเฟิร์น
เป็นหนึ่งในกลุ่มของพืชที่มีราว ๆ 20,000 สปีชีส์ ที่ถูกจาแนกในไฟลัม
Pteridophyta หรือ Filicophyta[ต้องการอ้างอิง]
พืชกลุ่มนี้ยังเป็น Polypodiophyta หรือ
Polypodiopsida ด้วย
เมื่อถือตามส่วนย่อยของพืชมีท่อลาเลียง คาว่า เทอริโดไฟต์ (pteridophyte)
ใช้เพื่อกล่าวถึงพืชมีท่อลาเลียงที่ไม่มีเมล็ดทั้งหมด ทาให้มันหมายถึง
"เฟิร์นและพืชใกล้เคียงเฟิร์น"
พวกเฟิร์น หน้าตึก 1
- 38. 2 Psilopyta หวายทะนอย
ต้นหวายทะนอยที่พบทั่วไปคือ ต้นสปอร์โรไฟต์ ชอบขึ้นในที่ชุ่มชื้นมีลักษณะดังนี้
- ลาต้นเป็นเหลี่ยม ขนาดเล็กมีสีเขียว สังเคราะห์เเสงได้
- เเตกกิ่งเป็นคู่ๆ ( dichotomous branching )
- มีอับสปอร์สีออกเหลืองที่ปลายกิ่งสั้นๆ เรียกว่า sysnaning
( fused sporangia ) สร้างสปอรื ( n ) โดยการเเบ่งเซลล์เเบบไมโอซิส
- มีใบเป็นเกล็ดเล็กๆตามข้อ
- มีลาต้นใต้ดินเรียกว่า ไรโซม ( rhizoid )
- ไม่มีราก มีไรซอยด์ ( rhizoid ) ทาหน้าที่เเทนราก
หวายทะนอย หน้าตึก 1
- 39. 3 Lycophyta หญ้ารังไก่
- ต้นที่เห็นทั่วไปคือ สปอโรไฟต์ ที่เริ่มเจริญมาเป็นราก ลาต้นและใบ
- สาหรับรากและลาต้นมักแตกเป็นคู่ (dichotomous branching)
- ใบที่ยอดจะรวมตัวกันเป็นรูปคล้ายกรวยหรือกระบอง เรียกว่าstrobilus
(cone) ใบที่รวมกลุ่มเป็น strobilus แต่ละใบเรียกว่า sporophyll ทาหน้าที่สร้างสปอร์
หญ้ารังไก่ หน้าตึก 1
4
Pinophyta ปรง ปรง หน้าตึก 1
- 41. แต่เมล็ดไม่มีเปลือกหุ้ม แบ่งออกเป็น 3 sub-division คือ sub-division cycadicae
เช่น ปรง และsub-division Pinicae เช่น แป๊ ะก๊วย สนสองใบ สนสามใบ และ sub-
division Gneticae เช่น มะเมื่อย และพืชในทะเลทรายแอฟริกา
- 42. 6 Magnoliophyta พืชใบเลี้ยงคู่
ได ้แก่พืชไม ้ดอกที่มีท่อลำเลียง มีใบและรำก มีเมล็ดที่มีรังไข่หุ้ม
แบ่งเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว (monocots) และพืชใบเลี้ยงคู่ (dicots)
พืชใบเลี้ยงคู่ หน้าตึก 1
7 Lycophyta หญ้ารังไก่ หญ้ารังไก่ หน้าตึก 1
- 47. cell ) จึงเรียกว่า โคเอโนเดิร์ม (choanoderm)
โคเอโนไซท์เป็นเซลล์ที่มีรูปร่างคล้ายปลอกคอ มีแส้ (flagellum) 1
เส้นทาหน้าที่ให้น้าไหลเวียนและย่อยอาหาร ระหว่างชั้นของเซลล์ 2
ชั้นนี้จะมีสารคล้ายวุ้น (gelatinous matrix) แทรกอยู่
ซึ่งจะมีเซลล์ที่เคลื่อนที่แบบอะมีบา(amoeboid cell) หรือ อะมีโบไซท์
(amoebocyte) เรียกชั้นนี้ว่า มีโซฮิล (mesohyl) หรือมีเซนไคม์
(mesenchyme)
3. ฟองน้ามีระบบโครงร่างค้าจุนให้คงรูปอยู่ได้บางชนิดแข็งเรียกว่า
ขวาก (spicule) ซึ่งมักเป็น หินปูน และซิลิกา (silica) เช่นฟองน้าหินปูน
ฟองน้าแก้ว บางชนิดเป็นเส้นใยโปรตีน เรียกว่า สพองจิน (spongin)
ได้แก่ ฟองน้าถูตัว
4. ไม่มีระบบหมุนเวียน ระบบหายใจ ระบบขับถ่าย และระบบประสาท
ซึ่งจะอาศัยการไหลเวียนน้าเป็นตัวการสาคัญในกระบวนการเหล่านี้
ฟองน้ากินอาหารโดยกรองอาหารที่อยู่ในน้าผ่านเข้ารูพรุนรอบตัว
หายใจโดยการดูดซึมออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้าผ่านผนังลาตัว
5. มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยการสร้างสเปิร์มและไข่ผสมกัน
และจะได้ตัวอ่อนที่มี ซิเลียว่ายน้าได้
การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศโดยการแตกหน่อ (budding)
6. ตัวเต็มวัยจะเกาะอยู่กับที่ (sessile animal)
- 48. 2 Coelenterata ปะการัง
กัลปังหา
ดอกไม้ทะเล
แมงกะพรุน
1. มีสมมาตรแบบรัศมี (Radial symmetry)
2. มีเนื้อเยื่อ 2 ชั้น คือ เนื้อเยื่อชั้นนอกทาหน้าที่เป็นผิวลาตัวเรียกว่า
เอพิเดอร์มิส (Epidermis)
และเนื้อเยื่อชั้นในทาหน้าที่เป็นเยื่อบุทางเดินอาหารเรียกว่า
แกสโทรเดอร์มิส (Gastrodermis)
ระหว่างเนื้อเยื่อชั้นนอกและเนื้อเยื่อชั้นในมีสารซึ่งมีลักษณะคล้ายวุ้น
แทรกอยู่เรียกว่าชั้นโซเกลีย (Mesoglea)
3. ทางเดินอาหารเป็นแบบถุงไม่สมบูรณ์มีปากแต่ไม่มีทวารหนักช่อง
ทางเดินอาหารนี้อยู่กลางลาตัวทาหน้าที่เป็นทั้งทางเดินอาหารและ
ระบบหมุนเวียน เรียกว่าแกสโทรวาสคูลาร์ คาวิตี (Gastrovascular
ปะการัง หน้าตึก 1
- 50. 3 Nematoda นอนตัวกลม
1. มีสมมาตรแบบผ่าซีก (Bilateral symmetry)
2. มีช่องว่างในลาตัวแบบเทียม ลาตัวกลม ยาว แหลมหัวแหลมท้าย
ไม่มีข้อปล้อง ผิวลาตัวเรียบ มีสารคิวทิเคิลหนาหุ้มตัว
4. ไม่มีระบบหมุนเวียนเลือด
แต่ใช้ของเหลวในช่องว่างเทียมช่วยในการลาเลียงสาร
5. ไม่มีอวัยวะหายใจโดยเฉพาะ
พวกที่ดารงชีพวิตแบบปรสิตหายใจแบบไม่ใช้ออกซิเจน
แต่พวกที่อยู่อย่างอิสระใช้ผิวหนังเป็นส่วนแลกเปลี่ยนก็าซกับสิ่งแวดล้อ
ม
6. ระบบขับถ่ายประกอบด้วยเส้นข้างลาตัว (Lateral line)
ซึ่งภายในบรรจุท่อขับถ่าย (Excretory canal) ไว้
7. ทางเดินอาหารสมบูรณ์ประกอบด้วยปากและทวารหนัก
8. ระบบประสาท ประกอบด้วยปมประสาทรูปวงแหวน (Nerve ring)
อยู่รอบคอหอยและมีแขนงประสาทแยกออกทางด้านท้องและทางด้านห
นอนตัวกลม หน้าตึก 1
- 52. 4 Arthropoda กุ้ง
. มีสมมาตรแบบผ่าซีก
2. มีเนื้อเยื่อ 3 ชั้น และมีช่องตัวแบบแท้งจริง
3. ลาตัวมีลักษณะเป็นปล้อง และแบ่งออกเป็นส่วนๆโดยทั่วไปแล้วมี 3 ส่วน คือ
ส่วนหัว(Head) ส่วนอก( Thorax) และส่วนท้อง(Abdomen) เช่นพวกแมลง
แต่บางชนิดส่วนหัวและส่วนอกจะรวมกันเป็นส่วนเดียวแยกออกจากกันไม่ได้เรียก
ว่า เซฟาโลทอแรกซ์ (Cephalothorax) เช่น กุ้ง ปู นอกจากนี้ในพวกกิ้งกือและ
ตะขาบส่วนของอกและท้องจะมีลักษณะเหมือนกัน
4. มีรยางค์ยื่นออกจากลาตัวเป็นคู่ๆ เช่น ขาเดิน ขาว่ายน้า อวัยวะส่วนปาก
หนวด ปีก และรยางค์เหล่านี้มักมีลักษณะต่อกันเป็นข้อๆด้วย
5. มีโครงร่างภายนอก (Exoskeleton) เป็นสารจาพวกไคทิน(Chitin)
แข็งหุ้มรอบตัว ดังนั้นในขณะที่มีการเจริญเติบโต
สัตว์ในไฟลัมนี้หลายชนิดจึงต้องมีการลอกคราบ (Molting)
เพื่อเอาเปลือกเก่าซึ่งมีขนาดเล็กออกเล็กแล้วสร้างเปลือกใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าขึ้
นมาแทน
6. ทางเดินอาหารเป็นแบบสมบูรณ์ มีปากและทวารหนัก
สาหรับส่วนปากมีอวัยวะที่ช่วยในการกินอาหารและมีการดัดแปลงไปเพื่อให้เหมา
ะสมกับ สภาพของอาหาร เช่นมีปากแบบกัดกิน ดูดกิน เจาะดูด
กุ้ง หน้าตึก 1
- 53. 5 Chordata จึ้งโจ้
1. การมีโนโตคอร์ด (notochord)
พวกคอร์เดตทุกชนิดจะต้องมีโนโตคอร์ดอย่างน้อยช่วงหนึ่งของชีวิต
พวกคอร์เดตชั้นต่า เช่น แอมฟิออกซัสจะมีโนโตคอร์ด ตลอดชีวิต
พวกคอร์เดตชั้นสูงเช่นสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังจะมีโนโตคอร์ดในระยะตัวอ่อนเท่านั้
น พอเจริญเติบโตจะเกิดกระดูกสันหลังขึ้นมาแทนที่โนโตคอร์ด
ลักษณะของโนโตคอร์ดจัดเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่เจริญมาจากเนื้อเยื่อชั้นมีโซเดิร์ม
ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ที่ค่อนข้างอ่อนคล้ายวุ้น แต่มีเปลือกหุ้ม (sheath)
หุ้มอีกชั้นทาให้มีลักษณะเป็นแท่งแข็งแรง แต่ยืดหยุ่นได้ดี และไม่แบ่งเป็นปล้อง
แท่งโนโตคอร์ดเป็นโครงสร้างค้าจุนที่อยู่ทางด้านหลังใต้ระบบประสาทส่วนกลางแ
ต่อยู่เหนือทางเดินอาหาร notochord = a rod-shaped supporting axis, or
backbone
2. การมีช่องเหงือก (pharyngeal gill slits)
คอร์เดตทุกชนิดโดยเฉพาะพวกที่อยู่ในน้าจะมีช่องเหงือกตลอดชีวิต
ส่วนพวกที่อาศัยอยู่บนบกจะพบช่องเหงือกในระยะตัวอ่อนเท่านั้น
เมื่อเจริญเติบโตขึ้น ช่องเหงือกจะปิดซึ่งอาจจะพบร่องรอยเพียงเล็กน้อย
(ในคนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเป็นท่อยูสเตเชียนเชื่อมระหว่างหูส่วนกลางกับหลอ
จึ้งโจ้ หน้าตึก 1
- 55. 6 Echinodermata ปะการั้ง
1. รูปร่างในวงชีวิตของสัตว์กลุ่มนี้มีรูปร่าง 2 แบบ คือ มีสมมาตรครึ่งซีก
ซึ่งพบในระยะที่เป็นตัวอ่อน เมื่อตัวอ่อนเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยแล้ว
รูปร่างจึงค่อยเปลี่ยนไปเป็นแบบสมมาตรรัศมี ไม่มีส่วนหัวและไม่มีปล้อง
2. ร่างกายประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 3 ชั้น ชั้นนอกเป็นเอพิเดอร์มิสชั้นเดียวบาง ๆ
ปกคลุมโครงร่างภายใน (endoskeleton)
ซึ่งเป็นแผ่นหินปูนที่เจริญมาจากชั้นมีโซเดอร์ม (mesoderm)
เช่นเดียวกับระบบโครงกระดูกของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
แผ่นหินปูนบางแผ่นมีหนาม (calcareous spine) ติดอยู่ด้วย
3. ลาตัวแบ่งออกเป็น 5 ส่วนในแนวรัศมีเท่า ๆกัน มีลักษณะเป็น 5 แฉก
(pentamerous) แต่ละแฉกเรียกว่า แขนหรืออัมบูลากา (arm หรือ ambulaca)
ด้านล่างมีเท้าท่อ (tube feet) ซึ่งช่วยในการเคลื่อนที่หรือจับอาหาร
4. มีระบบท่อน้า (water vascular system)
ภายในร่างกายซึ่งเจริญมาจากช่องตัวในระยะตัวอ่อน
ภายในท่อบรรจุด้วยน้าเค็มจากภายนอก
ลักษณะภายนอกของระบบนี้ที่พอเห็นได้คือ เท้าท่อ (tube feet)
เมื่อทางานร่วมกันทาให้สามารถเคลื่อนไหวจับอาหาร หายใจและรับความรู้สึกได้
ปะการั้ง หน้าตึก 1
- 56. ระบบนี้ถือว่าเป็นระบบไฮดรอลิก (hydraulic system) ซึ่งไม่มีในสัตว์ไฟลัมอื่น
5. มีช่องตัวกว้าง และมีเยื่อบุช่องตัว (peritoneum) บุอยู่ภายใน
ภายในช่องตัวมีของเหลวและมีเซลล์อะมีโบไซต์ (amoebocyte)
ลอยเคลื่อนที่อยู่
6. การหายใจ อวัยวะที่ใช้ในการหายใจ คือ เหงือกที่ผิวหนัง