SlideShare a Scribd company logo
1 of 20
Download to read offline
พันเอก มารวย ส่งทานินทร์ maruays@hotmail.com
16 สิงหาคม 2557
Despite 30 years of experimentation and study, we are only starting to
understand that some managerial knowledge is universal and some is
specific to a market or a culture.
Harvard Business Review, September 2014, pages 59-68
 Tarun Khanna is the Jorge
Paulo Lemann Professor at
Harvard Business School and
the director of Harvard
University’s South Asia
Institute.
Conclusion from chart : what you
learn in your home market about a
particular industry may have very
little to do with what you’ll need to
succeed in a new market.
 ความพยายามที่จะใช้วิธีการบริหารจัดการให้เหมือนกันทั่วภูมิภาค
ของโลก เป็นการไม่ฉลาดเลย นั่นเป็นเพราะเงื่อนไขที่แตกต่างกัน
อย่างมากมายของแต่ละสถานที่
 ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายที่จะประมวลทุกเงื่อนไข ไม่เพียงแต่ด้านการพัฒนา
ด้านเศรษฐกิจ สถาบัน ภูมิศาสตร์ทางกายภาพ บรรทัดฐานการศึกษา
ภาษา และวัฒนธรรม
 นักเรียนด้านการจัดการเคยคิดว่า ในการนาการปฏิบัติที่เป็นเลิศไปใช้
เพียงแค่ปรับให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่นก็พอเพียง แต่บ่อยครั้งที่
พวกเขาต้องการออกแบบกระบวนการใหม่ ไม่ใช่เพราะเทคโนโลยี
เป็นสิ่งที่ผิด แต่เพราะทุกอย่างรอบด้านเทคโนโลยี ทาให้มีการ
เปลี่ยนแปลงวิธีการที่มันจะทางาน
 ไม่มีอะไรผิดปกติกับเครื่องมือในการวิเคราะห์ที่เรามี แต่การ
ประยุกต์ใช้เครื่องมือของพวกเขาต้องใช้ความคิดอย่างรอบคอบ
ต้องมี ความฉลาดด้านบริบท (contextual intelligence) : คือ
ความสามารถในการเข้าใจข้อจากัดของความรู้ของเรา เพื่อ
ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
 จนกว่าเราจะมีความฉลาดด้านบริบท อัตราความล้มเหลวสาหรับ
ธุรกิจข้ามพรมแดนจะยังคงอยู่ในระดับสูง ความสามารถของเรา
ที่จะเรียนรู้จากการทดลองทั่วโลกจะยังคงมีอยู่อย่างจากัด และ
การเจริญเติบโตขยายตัวไปทั่วโลกจะยังคงไม่ได้ผล
 งานทางวิชาการได้ให้ความสาคัญอย่างมากกับบริบทของสถาบัน
 ความฉลาดด้านบริบท จึงต้องขยายออกไปไกลกว่าการวิเคราะห์
บริบทของสถาบัน ในพื้นที่ที่มีความหลากหลาย ตามสิทธิ
ทรัพย์สินทางปัญญา การให้คุณค่าของความงาม ทัศนคติเรื่อง
ของอานาจ ความเชื่อเกี่ยวกับตลาดเสรี และแม้กระทั่งความ
แตกต่างทางศาสนา
 งานที่ยากลาบากมากที่สุดมักจะเป็นงาน "อ่อน (soft)" ของการ
ปรับรูปแบบแนวคิด ที่จะแยกความแตกต่างระหว่างหลักการ
สากลและหลักการที่เฉพาะเจาะจง และการเปิดรับความคิดใหม่
 ธุรกิจที่ประสบความสาเร็จในตลาดหนึ่ง มีรูปแบบการดาเนินงาน
และวัฒนธรรมที่มีระเบียบวินัยสูง เหมาะสมกับตลาดตามบริบท
ของพวกเขา บางครั้งจึงพบว่ามันยากมากที่จะดึงสิ่งเหล่านั้นออก
จากกัน แล้วนามาสร้างใหม่
 การขยับเข้าสู่บริบทใหม่อาจจะตรงไปตรงมา ถ้าเพียงหนึ่งหรือ
สองส่วนของรูปแบบจาเป็นต้องเปลี่ยน แต่โดยทั่วไปแล้ว การ
ปรับตัวที่จาเป็นซับซ้อนกว่านั้น นอกจากนี้ ผู้บริหารที่ไม่ค่อย
เข้าใจเหตุผลอย่างแม่นยาของรูปแบบการดาเนินงานของพวก
เขา จะทาให้การทาวิศวกรรมย้อนกลับทั้งหมดยากมากขึ้น แม้ใน
บริษัทที่ประสบความสาเร็จสูง
 วิธีการที่จะมีความฉลาดด้านบริบท จะเห็นได้ชัดว่าไม่ง่ายและ
ราคาไม่ถูก: เช่น การจ้างบุคลากรที่เข้าใจในวัฒนธรรมมากกว่า
หนึ่ง การเป็นพันธมิตรกับบริษัทท้องถิ่น การพัฒนาคนเก่งของ
ท้องถิ่น การทาวิจัยมากขึ้น และการทางานสหสาขาวิชาชีพมาก
ขึ้นทั้งในโรงเรียนธุรกิจและให้นักเรียนทาแบบเดียวกัน รวมถึง
การสละเวลาในการทาความเข้าใจธรรมชาติและความ
หลากหลายของรูปแบบของท้องถิ่น
Highlight Points
 1. สิ่งแข็งเป็นเรื่องง่าย (The hard stuff is easy)
 2. สิ่งอ่อนเป็นเรื่องยาก (The soft stuff is hard)
 3. การทดสอบแม้จะยุ่งแต่จาเป็น (Experimentation is messy—
and essential)
 4. แนวคิดทั่วไปได้ผลกว่า (General ideas travel; specific
dimensions may not)
 5. อนาคตยากจะทานาย (The future can’t be telescoped)
 6. สร้างข้อมูลเอง (Generate your own data)
 7. อดทนจึงจะสาเร็จ (Success requires patience)
1. สิ่งแข็งเป็นเรื่องง่าย
 เมื่อคุณยอมรับว่าคุณรู้น้อยกว่าที่คุณคิด รูปแบบการดาเนินงานของ
คุณจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสาคัญในตลาดใหม่
 ในความเป็นจริง ข้อมูลทั่วไปมักจะใช้ได้ มันจะมีประโยชน์ในการทา
ขั้นตอนหรือทารายการตรวจสอบ รวมถึงเครื่องมือเชิงกลยุทธ์อื่น ๆ
ที่คุณนิยมใช้ จะช่วยให้คุณรู้จักประเภทและปรากฏการณ์ที่ไม่คุ้นเคย
 ข้อด้อยของประเทศกาลังพัฒนาคือ การพัฒนาเศรษฐกิจที่มักจะขาด
การลงทะเบียนข้อมูลแหล่งที่มา บริษัทวิจัยตลาดและนักวิเคราะห์
ทางการเงิน จะต้องมีเรียนรู้โดยการลงทุนของพวกเขาเอง
2. สิ่งอ่อนเป็นเรื่องยาก
 เรามักจะมีรูปแบบทางความคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ
ตลาดเกิดใหม่ ที่ไม่ได้มีพื้นฐานของข้อเท็จจริง
 หนึ่งในนั้นคือ มุมมองที่ทุกประเทศในที่สุดก็จะมาบรรจบกันที่
เศรษฐกิจตลาดเสรี แต่หลักฐานแสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เสมอไป เช่นตลาดที่รัฐจัดการของจีน
 และแรงกระตุ้นที่จะพึ่งพาคาอธิบายที่ง่ายสาหรับปรากฏการณ์ที่
ซับซ้อน ของผู้บริหารระดับสูงที่อ่านกรณีได้อย่างยากลาบาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังมีอคติคิดว่า มีหนึ่งปัญหาที่จะต้องได้รับ
การแก้ไข ในขณะที่ในความจริงเป็นกลุ่มของปัญหา
3. การทดสอบแม้จะยุ่งแต่จาเป็น
 ยังไม่เพียงพอที่เราจะต้องละกรอบความคิดและอคติ
 เราจะต้องพัฒนากรอบและรูปแบบใหม่ แม้จะไม่สมบูรณ์ แต่เรา
สามารถสร้างฐานความรู้ที่ดีขึ้นได้ โดยประมวลสิ่งที่เราได้เรียนรู้
จากการทดลองไปพร้อมกัน ว่าสิ่งใดถูกหรือไม่ถูก
 บริษัท ไม่ควรวิเคราะห์ผลการทดลองจนเกิดความอ่อนล้า แต่
ควรพัฒนาขีดความสามารถ ในการทาหน้าที่ให้เห็นผลอย่าง
รวดเร็ว
4. แนวคิดทั่วไปได้ผลกว่า
 การเรียนรู้ที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมทั้งสอง
ว่าคือกุญแจสาคัญ (เช่น การสร้างคุณค่า (value) และแรงจูงใจ
(motivation) ให้กับบุคลลากร เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง แต่
ความหมายของ คุณค่า และ แรงจูงใจ“ จะมีความแตกต่างกัน
อย่างมากระหว่างวัฒนธรรม)
 การปรับเปลี่ยนที่สาคัญ จึงเป็นสิ่งที่จาเป็น เพื่อให้การทางานมี
ความหมายในบริบทที่แตกต่างกันออกไป
5. อนาคตยากจะทานาย
 เราทุกคนมักจะคิดว่าการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มากกว่าที่เป็นจริง (ยกเว้นการเปลี่ยนแปลง
ทางเทคโนโลยีที่มีผลกระทบทันที เช่นโทรศัพท์มือถือ ที่เผยแพร่
อย่างรวดเร็วในตลาดเกิดใหม่)
 ผลจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่า ประเทศใช้เวลาเป็นทศวรรษโดย
เฉลี่ย ในการนาเทคโนโลยีใหม่คิดค้นจากที่อื่น ๆ มาใช้
 การเปลี่ยนแปลงทางสถาบันยิ่งช้าไปกว่านั้นในการสร้างองค์กร
ใหม่และกฎใหม่ รวมถึงในระดับบุคคลที่ต้องมีการปรับ
พฤติกรรมของพวกเขา ให้เข้ากับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป
6. สร้างข้อมูลเอง
 เพื่อที่จะช่วยให้มุ่งเน้นไปที่ข้อเท็จจริงของบริบท บริษัทควรที่จะ
มีข้อมูลเป็นของตัวเองตามที่เป็นไปได้ มากกว่าการคาดเดาว่า
ควรจะเป็นอย่างไร
 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อผู้จัดการตะวันตกเริ่มต้นที่จะทางานนอก
ทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป
 ดังนั้นแทนการว่าจ้างบุคคลภายนอกในการทาวิจัยตลาดและ
รวบรวมข้อมูล ผู้จัดการควรดาเนินการทดลองของตัวเอง เพื่อ
เรียนรู้เกี่ยวกับบริบทของท้องถิ่น และสิ่งที่บริษัทของพวกเขามี
ความสามารถ ในการบรรลุผลสาเร็จ
7. อดทนจึงจะสาเร็จ
 จากการสังเกต การเปลี่ยนแปลงของสถาบันหรือองค์กร ไม่
สามารถทาได้อย่างรวดเร็ว
 บริษัท จะต้องอดทน และยินดีลงทุนในพนักงานท้องถิ่นที่มี
ศักยภาพสูงของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของท้องถิ่น
ที่บริษัทเข้าไปตั้งฐาน
 ความเข้าใจเกี่ยวกับขอบเขตที่จากัดของความรู้ที่เรามี เป็นหัวใจ
สาคัญของความฉลาดด้านบริบท (contextual intelligence)
Albert Einstein

More Related Content

Viewers also liked

Viewers also liked (20)

Human centered productivity
Human centered productivityHuman centered productivity
Human centered productivity
 
Work vs life
Work vs lifeWork vs life
Work vs life
 
Baldrige criteria 2015 2016 thai
Baldrige criteria 2015 2016 thaiBaldrige criteria 2015 2016 thai
Baldrige criteria 2015 2016 thai
 
Decoding leadership
Decoding leadershipDecoding leadership
Decoding leadership
 
Service management
Service managementService management
Service management
 
Blazey's scoring guidlines
Blazey's scoring guidlinesBlazey's scoring guidlines
Blazey's scoring guidlines
 
Learning from spectacular failures
Learning from spectacular failuresLearning from spectacular failures
Learning from spectacular failures
 
Pmk internal assessor 7
Pmk internal assessor 7Pmk internal assessor 7
Pmk internal assessor 7
 
2014 baldrige comment writing
2014 baldrige comment writing2014 baldrige comment writing
2014 baldrige comment writing
 
How to write application report (part 1 of 4)
How to write application report (part 1 of 4)How to write application report (part 1 of 4)
How to write application report (part 1 of 4)
 
7 leadership lessons
7 leadership lessons7 leadership lessons
7 leadership lessons
 
Quiet leadership
Quiet leadershipQuiet leadership
Quiet leadership
 
6 powerful communication tips
6 powerful communication tips6 powerful communication tips
6 powerful communication tips
 
Pmk internal assessor 9
Pmk internal assessor 9Pmk internal assessor 9
Pmk internal assessor 9
 
Pmk internal assessor 1
Pmk internal assessor 1Pmk internal assessor 1
Pmk internal assessor 1
 
Human capital analytics
Human capital analyticsHuman capital analytics
Human capital analytics
 
Practical sustainability
Practical sustainabilityPractical sustainability
Practical sustainability
 
Tips on journey to excellence
Tips on journey to excellenceTips on journey to excellence
Tips on journey to excellence
 
Pmk internal assessor 6
Pmk internal assessor 6Pmk internal assessor 6
Pmk internal assessor 6
 
Pmk internal assessor 8
Pmk internal assessor 8Pmk internal assessor 8
Pmk internal assessor 8
 

Similar to Managing across borders

Problem 8 11
Problem 8 11Problem 8 11
Problem 8 11nilobon66
 
แนวการเขียนรายงายเชิงวิจัย
แนวการเขียนรายงายเชิงวิจัยแนวการเขียนรายงายเชิงวิจัย
แนวการเขียนรายงายเชิงวิจัยwitthaya601
 
เทคนิคการสอน
เทคนิคการสอนเทคนิคการสอน
เทคนิคการสอนkittitach06709
 
Ppt Charuaypon 124
Ppt Charuaypon 124Ppt Charuaypon 124
Ppt Charuaypon 124guest417609
 
Slideshare
SlideshareSlideshare
Slidesharepaewwaew
 
โครงงานอาชีพ
โครงงานอาชีพโครงงานอาชีพ
โครงงานอาชีพratchadaphun
 
หลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdoc
หลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdocหลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdoc
หลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdockrupornpana55
 
Cแนะแนว
CแนะแนวCแนะแนว
Cแนะแนวyutict
 
วิจัยคืออะไร
วิจัยคืออะไรวิจัยคืออะไร
วิจัยคืออะไรrujirapyo1
 
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554Nattapon
 
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัยการวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัยsudaphud
 
บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553Nattapon
 
Study success
Study successStudy success
Study successkruthai40
 
วิเคราะห์ผู้เรียน
วิเคราะห์ผู้เรียนวิเคราะห์ผู้เรียน
วิเคราะห์ผู้เรียนguestabb00
 
จะทำโครงงานอะไรดี
จะทำโครงงานอะไรดีจะทำโครงงานอะไรดี
จะทำโครงงานอะไรดีkorakate
 

Similar to Managing across borders (20)

Problem 8 11
Problem 8 11Problem 8 11
Problem 8 11
 
แนวการเขียนรายงายเชิงวิจัย
แนวการเขียนรายงายเชิงวิจัยแนวการเขียนรายงายเชิงวิจัย
แนวการเขียนรายงายเชิงวิจัย
 
เทคนิคการสอน
เทคนิคการสอนเทคนิคการสอน
เทคนิคการสอน
 
Ppt Charuaypon 124
Ppt Charuaypon 124Ppt Charuaypon 124
Ppt Charuaypon 124
 
Slideshare
SlideshareSlideshare
Slideshare
 
โครงงานอาชีพ
โครงงานอาชีพโครงงานอาชีพ
โครงงานอาชีพ
 
หลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdoc
หลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdocหลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdoc
หลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdoc
 
Cแนะแนว
CแนะแนวCแนะแนว
Cแนะแนว
 
อาม
อามอาม
อาม
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
Tl 620719 n_1
Tl 620719 n_1Tl 620719 n_1
Tl 620719 n_1
 
วิจัยคืออะไร
วิจัยคืออะไรวิจัยคืออะไร
วิจัยคืออะไร
 
วิชา 4472141
วิชา 4472141วิชา 4472141
วิชา 4472141
 
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554
 
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัยการวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
 
บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
 
Study success
Study successStudy success
Study success
 
วิเคราะห์ผู้เรียน
วิเคราะห์ผู้เรียนวิเคราะห์ผู้เรียน
วิเคราะห์ผู้เรียน
 
Narumon
NarumonNarumon
Narumon
 
จะทำโครงงานอะไรดี
จะทำโครงงานอะไรดีจะทำโครงงานอะไรดี
จะทำโครงงานอะไรดี
 

More from maruay songtanin

๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...maruay songtanin
 
๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....maruay songtanin
 
๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...
๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...
๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...maruay songtanin
 
๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...maruay songtanin
 
๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...maruay songtanin
 
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....maruay songtanin
 
๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...maruay songtanin
 
๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...maruay songtanin
 
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...maruay songtanin
 
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....maruay songtanin
 
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docxmaruay songtanin
 
Operational Resilience ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
Operational Resilience  ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdfOperational Resilience  ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
Operational Resilience ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdfmaruay songtanin
 
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...maruay songtanin
 
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...maruay songtanin
 
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...maruay songtanin
 
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...maruay songtanin
 
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...maruay songtanin
 
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...maruay songtanin
 
๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....maruay songtanin
 
๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...maruay songtanin
 

More from maruay songtanin (20)

๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
 
๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๙. วิธุรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
 
๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...
๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...
๐๘. มหานารทกัสสปชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจ...
 
๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๗. จันทกุมารชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๐๖. ภูริทัตตชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
 
๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๐๔. เนมิราชชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
๐๓. สุวรรณสามชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
 
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
 
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
 
Operational Resilience ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
Operational Resilience  ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdfOperational Resilience  ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
Operational Resilience ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
 
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
 
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
 
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
 
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
 
๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
 
๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 

Managing across borders

  • 1. พันเอก มารวย ส่งทานินทร์ maruays@hotmail.com 16 สิงหาคม 2557
  • 2. Despite 30 years of experimentation and study, we are only starting to understand that some managerial knowledge is universal and some is specific to a market or a culture. Harvard Business Review, September 2014, pages 59-68
  • 3.  Tarun Khanna is the Jorge Paulo Lemann Professor at Harvard Business School and the director of Harvard University’s South Asia Institute.
  • 4. Conclusion from chart : what you learn in your home market about a particular industry may have very little to do with what you’ll need to succeed in a new market.
  • 5.
  • 6.  ความพยายามที่จะใช้วิธีการบริหารจัดการให้เหมือนกันทั่วภูมิภาค ของโลก เป็นการไม่ฉลาดเลย นั่นเป็นเพราะเงื่อนไขที่แตกต่างกัน อย่างมากมายของแต่ละสถานที่  ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายที่จะประมวลทุกเงื่อนไข ไม่เพียงแต่ด้านการพัฒนา ด้านเศรษฐกิจ สถาบัน ภูมิศาสตร์ทางกายภาพ บรรทัดฐานการศึกษา ภาษา และวัฒนธรรม  นักเรียนด้านการจัดการเคยคิดว่า ในการนาการปฏิบัติที่เป็นเลิศไปใช้ เพียงแค่ปรับให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่นก็พอเพียง แต่บ่อยครั้งที่ พวกเขาต้องการออกแบบกระบวนการใหม่ ไม่ใช่เพราะเทคโนโลยี เป็นสิ่งที่ผิด แต่เพราะทุกอย่างรอบด้านเทคโนโลยี ทาให้มีการ เปลี่ยนแปลงวิธีการที่มันจะทางาน
  • 7.  ไม่มีอะไรผิดปกติกับเครื่องมือในการวิเคราะห์ที่เรามี แต่การ ประยุกต์ใช้เครื่องมือของพวกเขาต้องใช้ความคิดอย่างรอบคอบ ต้องมี ความฉลาดด้านบริบท (contextual intelligence) : คือ ความสามารถในการเข้าใจข้อจากัดของความรู้ของเรา เพื่อ ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน  จนกว่าเราจะมีความฉลาดด้านบริบท อัตราความล้มเหลวสาหรับ ธุรกิจข้ามพรมแดนจะยังคงอยู่ในระดับสูง ความสามารถของเรา ที่จะเรียนรู้จากการทดลองทั่วโลกจะยังคงมีอยู่อย่างจากัด และ การเจริญเติบโตขยายตัวไปทั่วโลกจะยังคงไม่ได้ผล
  • 8.  งานทางวิชาการได้ให้ความสาคัญอย่างมากกับบริบทของสถาบัน  ความฉลาดด้านบริบท จึงต้องขยายออกไปไกลกว่าการวิเคราะห์ บริบทของสถาบัน ในพื้นที่ที่มีความหลากหลาย ตามสิทธิ ทรัพย์สินทางปัญญา การให้คุณค่าของความงาม ทัศนคติเรื่อง ของอานาจ ความเชื่อเกี่ยวกับตลาดเสรี และแม้กระทั่งความ แตกต่างทางศาสนา  งานที่ยากลาบากมากที่สุดมักจะเป็นงาน "อ่อน (soft)" ของการ ปรับรูปแบบแนวคิด ที่จะแยกความแตกต่างระหว่างหลักการ สากลและหลักการที่เฉพาะเจาะจง และการเปิดรับความคิดใหม่
  • 9.  ธุรกิจที่ประสบความสาเร็จในตลาดหนึ่ง มีรูปแบบการดาเนินงาน และวัฒนธรรมที่มีระเบียบวินัยสูง เหมาะสมกับตลาดตามบริบท ของพวกเขา บางครั้งจึงพบว่ามันยากมากที่จะดึงสิ่งเหล่านั้นออก จากกัน แล้วนามาสร้างใหม่  การขยับเข้าสู่บริบทใหม่อาจจะตรงไปตรงมา ถ้าเพียงหนึ่งหรือ สองส่วนของรูปแบบจาเป็นต้องเปลี่ยน แต่โดยทั่วไปแล้ว การ ปรับตัวที่จาเป็นซับซ้อนกว่านั้น นอกจากนี้ ผู้บริหารที่ไม่ค่อย เข้าใจเหตุผลอย่างแม่นยาของรูปแบบการดาเนินงานของพวก เขา จะทาให้การทาวิศวกรรมย้อนกลับทั้งหมดยากมากขึ้น แม้ใน บริษัทที่ประสบความสาเร็จสูง
  • 10.  วิธีการที่จะมีความฉลาดด้านบริบท จะเห็นได้ชัดว่าไม่ง่ายและ ราคาไม่ถูก: เช่น การจ้างบุคลากรที่เข้าใจในวัฒนธรรมมากกว่า หนึ่ง การเป็นพันธมิตรกับบริษัทท้องถิ่น การพัฒนาคนเก่งของ ท้องถิ่น การทาวิจัยมากขึ้น และการทางานสหสาขาวิชาชีพมาก ขึ้นทั้งในโรงเรียนธุรกิจและให้นักเรียนทาแบบเดียวกัน รวมถึง การสละเวลาในการทาความเข้าใจธรรมชาติและความ หลากหลายของรูปแบบของท้องถิ่น
  • 11. Highlight Points  1. สิ่งแข็งเป็นเรื่องง่าย (The hard stuff is easy)  2. สิ่งอ่อนเป็นเรื่องยาก (The soft stuff is hard)  3. การทดสอบแม้จะยุ่งแต่จาเป็น (Experimentation is messy— and essential)  4. แนวคิดทั่วไปได้ผลกว่า (General ideas travel; specific dimensions may not)  5. อนาคตยากจะทานาย (The future can’t be telescoped)  6. สร้างข้อมูลเอง (Generate your own data)  7. อดทนจึงจะสาเร็จ (Success requires patience)
  • 12. 1. สิ่งแข็งเป็นเรื่องง่าย  เมื่อคุณยอมรับว่าคุณรู้น้อยกว่าที่คุณคิด รูปแบบการดาเนินงานของ คุณจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสาคัญในตลาดใหม่  ในความเป็นจริง ข้อมูลทั่วไปมักจะใช้ได้ มันจะมีประโยชน์ในการทา ขั้นตอนหรือทารายการตรวจสอบ รวมถึงเครื่องมือเชิงกลยุทธ์อื่น ๆ ที่คุณนิยมใช้ จะช่วยให้คุณรู้จักประเภทและปรากฏการณ์ที่ไม่คุ้นเคย  ข้อด้อยของประเทศกาลังพัฒนาคือ การพัฒนาเศรษฐกิจที่มักจะขาด การลงทะเบียนข้อมูลแหล่งที่มา บริษัทวิจัยตลาดและนักวิเคราะห์ ทางการเงิน จะต้องมีเรียนรู้โดยการลงทุนของพวกเขาเอง
  • 13. 2. สิ่งอ่อนเป็นเรื่องยาก  เรามักจะมีรูปแบบทางความคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ ตลาดเกิดใหม่ ที่ไม่ได้มีพื้นฐานของข้อเท็จจริง  หนึ่งในนั้นคือ มุมมองที่ทุกประเทศในที่สุดก็จะมาบรรจบกันที่ เศรษฐกิจตลาดเสรี แต่หลักฐานแสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น เสมอไป เช่นตลาดที่รัฐจัดการของจีน  และแรงกระตุ้นที่จะพึ่งพาคาอธิบายที่ง่ายสาหรับปรากฏการณ์ที่ ซับซ้อน ของผู้บริหารระดับสูงที่อ่านกรณีได้อย่างยากลาบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังมีอคติคิดว่า มีหนึ่งปัญหาที่จะต้องได้รับ การแก้ไข ในขณะที่ในความจริงเป็นกลุ่มของปัญหา
  • 14. 3. การทดสอบแม้จะยุ่งแต่จาเป็น  ยังไม่เพียงพอที่เราจะต้องละกรอบความคิดและอคติ  เราจะต้องพัฒนากรอบและรูปแบบใหม่ แม้จะไม่สมบูรณ์ แต่เรา สามารถสร้างฐานความรู้ที่ดีขึ้นได้ โดยประมวลสิ่งที่เราได้เรียนรู้ จากการทดลองไปพร้อมกัน ว่าสิ่งใดถูกหรือไม่ถูก  บริษัท ไม่ควรวิเคราะห์ผลการทดลองจนเกิดความอ่อนล้า แต่ ควรพัฒนาขีดความสามารถ ในการทาหน้าที่ให้เห็นผลอย่าง รวดเร็ว
  • 15. 4. แนวคิดทั่วไปได้ผลกว่า  การเรียนรู้ที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมทั้งสอง ว่าคือกุญแจสาคัญ (เช่น การสร้างคุณค่า (value) และแรงจูงใจ (motivation) ให้กับบุคลลากร เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง แต่ ความหมายของ คุณค่า และ แรงจูงใจ“ จะมีความแตกต่างกัน อย่างมากระหว่างวัฒนธรรม)  การปรับเปลี่ยนที่สาคัญ จึงเป็นสิ่งที่จาเป็น เพื่อให้การทางานมี ความหมายในบริบทที่แตกต่างกันออกไป
  • 16. 5. อนาคตยากจะทานาย  เราทุกคนมักจะคิดว่าการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มากกว่าที่เป็นจริง (ยกเว้นการเปลี่ยนแปลง ทางเทคโนโลยีที่มีผลกระทบทันที เช่นโทรศัพท์มือถือ ที่เผยแพร่ อย่างรวดเร็วในตลาดเกิดใหม่)  ผลจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่า ประเทศใช้เวลาเป็นทศวรรษโดย เฉลี่ย ในการนาเทคโนโลยีใหม่คิดค้นจากที่อื่น ๆ มาใช้  การเปลี่ยนแปลงทางสถาบันยิ่งช้าไปกว่านั้นในการสร้างองค์กร ใหม่และกฎใหม่ รวมถึงในระดับบุคคลที่ต้องมีการปรับ พฤติกรรมของพวกเขา ให้เข้ากับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป
  • 17. 6. สร้างข้อมูลเอง  เพื่อที่จะช่วยให้มุ่งเน้นไปที่ข้อเท็จจริงของบริบท บริษัทควรที่จะ มีข้อมูลเป็นของตัวเองตามที่เป็นไปได้ มากกว่าการคาดเดาว่า ควรจะเป็นอย่างไร  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อผู้จัดการตะวันตกเริ่มต้นที่จะทางานนอก ทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป  ดังนั้นแทนการว่าจ้างบุคคลภายนอกในการทาวิจัยตลาดและ รวบรวมข้อมูล ผู้จัดการควรดาเนินการทดลองของตัวเอง เพื่อ เรียนรู้เกี่ยวกับบริบทของท้องถิ่น และสิ่งที่บริษัทของพวกเขามี ความสามารถ ในการบรรลุผลสาเร็จ
  • 18. 7. อดทนจึงจะสาเร็จ  จากการสังเกต การเปลี่ยนแปลงของสถาบันหรือองค์กร ไม่ สามารถทาได้อย่างรวดเร็ว  บริษัท จะต้องอดทน และยินดีลงทุนในพนักงานท้องถิ่นที่มี ศักยภาพสูงของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของท้องถิ่น ที่บริษัทเข้าไปตั้งฐาน