เรียงความเรื่องการแก้ปัญหาความขัดแย้ง (Conflict resolution)
- 1. เรียงความเรืองการแก้ ปัญหาความขัดแย้ ง (Conflict Resolution)
ความขัดแย้งคือความรู้สึกของบุคคลหรื อกลุ่มบุคคลตังแต่ คนขึนไป ทีมีความคิดเห็น
หรื อความเข้าใจว่าเป้ าหมายหรื อผลประโยชน์ของตนเองนันถูกขัดขวางสกัดกันหรื อไม่ลงรอย
กัน( Incompatible Goal ) กับบุคคลหรื อกลุ่มบุคคลอืน เมือความขัดแย้งเกิดขึน ไม่ว่าจะเป็ น
ระดับบุคคล องค์กร สังคมหรื อระดับประเทศในเกือบทุกหนทุกแห่งได้ใช้สนติวิธีเข้าช่วย
ั
คลีคลายความขัดแย้งมากกว่าการใช้ความรุ นแรง เพราะการใช้ความรุ นแรงก็เหมือนกับเรากําลัง
ล่อเลียงความโกรธ ความเกลียดความทุกข์ร้อนของทุกฝ่ าย สะสมเป็ นพลังดันทีแรงขึนเรื อยๆจน
นําไปสู่การใช้ความรุ นแรงโต้ตอบในทีสุด และปัญหาความขัดแย้งทีเกิดขึนภายในโรงเรี ยนก็
เช่นเดียวกัน เมือเกิดความขัดแย้งขึนมาไม่ว่าจะเป็ นความขัดแย้งระหว่างนักเรี ยนด้วย
กันเอง นักเรี ยนกับคุณครู คุณครู กบคุณครู หรื อคุณครู กบผูปกครอง ทางโรงเรี ยนมีวิธีการหรื อ
ั ั ้
กระบวนการคลีคลายความขัดแย้งโดยใช้หลักการประนีประนอม
วิธีการหรื อกระบวนการคลีคลายความขัดแย้งโดยใช้หลักการประนีประนอม ได้แก่
.วิเคราะห์สาเหตุของความขัดแย้งทีเกิดขึนโดยบุคคลกลาง (ครู , นักเรี ยน, ผูปกครอง) เป็ นคนที
้
ช่วยคลีคลายความขัดแย้ง
. บุคคลกลางหรื อผูทีช่วยคลีคลายความขัดแย้ง เป็ นผูพูดคุยกับทัง ฝ่ ายถึงสาเหตุทีละคน เพือ
้ ้
จะได้ เรี ยนรู้ถึงความเหมือนและความแตกต่างของความรู้สึกนึกคิดของแต่ละคน
. บุคคลกลางก็จะคิดพิจารณาถึงลักษณะของข้อขัดแย้ง สาเหตุของความขัดแย้งเกิดจากอะไร
. เมือทราบสาเหตุทีก่อให้เกิดความขัดแย้งแล้ว ก็จะเรี ยกบุคคลทัง ฝ่ ายมาพูดคุยพร้อมกัน
โดยบุคคลกลางจะเป็ นผูพูดชีให้เห็นถึงสาเหตุของปัญหาทีเกิดขึนและผลทีจะได้รับเมือเกิดความ
้
ขัดแย้ง
- 2. . ให้ทง ฝ่ ายพูดคุยปรับความเข้าใจกัน ใส่ใจรับฟังกันอย่างมีสติ อดทน ระมัดระวังเรื อง
ั
อารมณ์ ความรู้สึก หรื ออาจจะเป็ นการเจรจาต่อรอง และสามารถตกลงกันได้โดยการพบกันครึ ง
ทาง เพือให้ได้ขอยุติของปัญหาความขัดแย้งทีเกิดขึนโดยต้องสร้างบรรยากาศให้เกิดความรู้สึก
้
เป็ นกันเองและฉันท์มิตร
นอกจากการแก้ปัญหาด้วยวิธีการประนีประนอมแล้ว ยังมีวิธีการต่างๆมาจัดการกับความ
ขัดแย้งทีเกิดขึนโดยจําแนกตามพฤติกรรมเป็ นสําคัญซึ งได้แก่
.การหลีกเลียง ( Avoidance ) เป็ นการหลบเลียงปัญหา พยายามให้ตนเองหนีไปจากเหตุการณ์ที
เป็ นปัญหาขัดแย้ง โดยไม่ยงเกียวกับฝ่ ายตรงข้ามทีจะนําข้อโต้แย้งมาหาตน โดยอาจจะเปลียน
ุ่
ประเด็นการสนทนา วิธีนีจะใช้ได้ดีสาหรับประเด็นทีไม่ค่อยสําคัญนัก
ํ
. การปรองดอง ( Accommodation ) เป็ นวิธีการแก้ปัญหาโดยการยอมเสี ยสละความต้องการ
ของตนเองเพือให้ฝ่ายตรงข้ามบรรลุความต้องการของตนเอง ซึ งทําให้บรรเทาความขัดแย้งได้ใน
เวลาอันรวดเร็ว เพราะคูกรณี ทีได้รับประโยชน์เกิดความพึงพอใจและยุติขอขัดแย้ง แต่อีกฝ่ ายที
่ ้
เสี ยประโยชน์ก็จะรอวันทีแก้แค้น
. การแข่ งขัน ( Competition ) เป็ นการใช้วิธีเอาแพ้เอาชนะ อาจจะต้องใช้อานาจหรื อแสดงความ
ํ
ก้าวร้าวรุ นแรงเมือมีสิ งกีดขวางมิให้บรรลุเป้ าหมาย จึงใช้วิธีการทีอาจจะต้องทําลายอีกฝ่ ายหนึง
เพือให้ได้ในสิ งทีตนเองหวังไว้ วิธีการแก้ปัญหาความขัดแย้งวิธีนีใช้ได้ผลเมือทัง ฝ่ ายมี
ความสัมพันธ์เกียวข้องกันเพียงเวลาสันๆ ไม่มีความจําเป็ นต้องรักษาสัมพันธภาพในระยะยาว
การแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยวิธีการพบหน้ากัน เจรจาและทําความตกลงร่ วมกันจะมี
ประสิ ทธิภาพมากแค่ไหน แต่วิธีนีจะใช้ได้ผลเพียงใดก็ขึนอยูกบความสามารถและความชํานาญ
่ ั
ของผูเ้ กียวข้องทีจะต้องสร้างทักษะทีจําเป็ นในการแก้ไขความขัดแย้ง ดังนี ความสามารถในการ
พิจารณาลักษณะของข้อขัดแย้ง,การจําแนกประเด็นของข้อขัดแย้ง,การเริ มต้นเจรจาแก้ไขข้อ
ขัดแย้ง,การรับฟัง,การให้เหตุผลและใช้เหตุผล,การรู้จกปฏิกิริยาทางอารมณ์ของผูอืนและรู้จก
ั ้ ั
ควบคุมอารมณ์ของตนเอง