8. 4บทที่ 1 Web Based Application
องค์ประกอบของ Web Application
ชนิดของ Open Source ที่นิยมใช้ในการพัฒนา Web Application ในปัจจุบัน ประกอบด้วย
ระบบปฏิบัติการ : Linux
Web Server : Apache
Database Server : MySQL
Programming : PHP
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ Web-Based Application
ระบบห้องสมุดออนไลน์
เทคโนโลยีที่ใช้
PHP V 5.2
MySQL 5.0
Apache V.3
Linux
9. 5บทที่ 1 Web Based Application
ระบบสั่งซื้อสินค้าออนไลน์
เทคโนโลยีที่ใช้
ASP
MSSQL
IIS
Window Server
10. 6บทที่ 1 Web Based Application
ระบบลงทะเบียนติดตามผู้ประสบภัยน้าท่วมออนไลน์
เทคโนโลยีที่ใช้
PHP
MySQL
Apache
Linux
ระบบสารสนเทศเพื่องานทะเบียนนักศึกษา
เทคโนโลยีที่ใช้
JSP
MSSQL
IIS
Window Server
11. 7บทที่ 1 Web Based Application
ระบบธนาคารออนไลน์
เทคโนโลยีที่ใช้
ASP.net
Oracle
IIS
Windows Server
ระบบทะเบียนราษฎร
เทคโนโลยีที่ใช้
PHP
MySQL
Apache
Linux
12. 8บทที่ 2 ทาความรู้จัก PHPและเตรียมความพร้อม
ทาความรู้จัก PHP และเตรียมความพร้อม
ประวัติของ PHP
ภาษา PHP นั้นถูกสร้างขึ้นประมาณกลางปี ค.ศ.1994 โดยนาย
Ramus Lerdoft ชาวเดนมาร์คเป็นผู้เริ่มต้นพัฒนา ซึ่งจุดเริ่มต้นจั้นก็มาจาก
ความต้องการที่จะบันทึกข้อมูลผู้ที่เยี่ยมชมโฮมเพจส่วนตัวของเขา โดยแนวคิด
ก็คือ การเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C แต่ต้องการแยกส่วนที่เป็น HTML ออก
จากภาษา C และนั่นเองที่ทาให้เขาได้สร้างโค๊ด HTML ขึ้นมาใหม่ และตั้งชื่อว่า
Personal Home Page Tool (PHP-Tool)
หลังจากสร้าง PHP ขึ้นมาแล้วเขาได้เริ่มแจกจ่ายโค๊ดฟรีออกไป แต่
ในช่วงแรก PHP ยังไม่มีความสามารถอะไรมากนัก
ในช่วงกลางปี ค.ศ.1995 เขาได้เพิ่มขีดความสามารถให้ PHP สามารถรับข้อมูลที่ส่งมาจากฟอร์มของ
HTML รวมทั้งสามารถติดต่อกับฐานข้อมูล MySQL ได้อีกด้วย
ในปี ค.ศ. 1997 ได้เปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมพัฒนาจึงมีผู้ร่วมพัฒนาเพิ่มอีก 2 คน คือ Zeev Suraski และ
Andi Gutmans ได้ช่วยกันปรับปรุงและพัฒนาโค๊ดขึ้นมาให้ดีขึ้นในหลาย ๆ ด้าน ทั้งแก้ไขข้อบกพร่อง เพิ่ม
ประสิทธิภาพ และเพิ่มเครื่องมือต่าง ๆ มากขึ้น เช่น เปลี่ยนแปลงไปสู่การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุที่สมบูรณ์แบบ
และสามารถใช้ได้กับ Web Server ได้หลากหลายแพลตฟอร์มจนเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
ปัจจุบัน PHP ได้ผ่านการพัฒนามาหลายเวอร์
ชั่นมีเว็บไซต์ทางการของ PHP คือ http://php.net ซึ่ง
เราสามารถเข้าไปอัพเดทตัวเวอร์ชั่นล่าสุด รวมทั้งหา
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างเว็บไซต์ด้วย PHP ได้
บทที่ 2
Rasmus Lerdorf ผู้ให้กาเนิด
PHP
34. 30บทที่ 3 เริ่มต้นกับ PHP
คาอธิบาย
คาอธิบาย (Comment) ใช้ในการอธิบายเกี่ยวกับโปรแกรมที่เราเขียน เพื่อช่วยให้เราพิจารณาโค๊ดได้
ง่ายขึ้น แต่โปรแกรมจะไม่นาส่วนที่เป็นคาอธิบายไปประมวลผลได้ใน PHP สามารถเขียนคอมเมนต์ได้หลายแบบ
ดังนี้
Single-line Comment
เป็นการเขียนคาอธิบายแบบบรรทัดเดียว โดยใช้เครื่องหมาย // หรือไม่ก็ # ซึ่งโปรแกรมจะถือว่าตั้งแต่
สัญลักษณ์เหล่านี้เป็นต้นไปทั้งบรรทัดเป็นคาอธิบายทั้งหมด และจาไม่นาบรรทัดนั้นมาประมวลผล เช่น
Multiple-line Comment
เป็นการเขียนคาอธิบายแบบหลาย ๆ บรรทัด โดยใช้สัญลักษณ์ /*……*/ ซึ่งโปรแกรมจะถือว่าตั้งแต่
สัญลักษณ์ /* เป็นต้นไปเป็นคาอธิบาย จนกว่าจะพบสัญลักษณ์ */ จึงจะถือว่าสิ้นสุดคาอธิบาย เช่น
คาสงวนของ PHP (PHP Reserved Words)
คาสงวน (Reserved Words) หมายถึงคาที่จะใช้เป็นคาสั่งเฉพาะของ PHP ดังนั้นเราต้องไม่นาคา
เหล่านี้มาตั้งเป็นชื่อตัวแปร หรือฟังก์ชัน มิฉะนันจะทาให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ โดยคาเหล่านี้คือ
and false or extends _FILE_
break for require not _METHOD_
case foreach return vitual use
class function static xor clone(5)
continue global switch while old_fuctinon(4 only)
do if this date thow(5)
else include true time protected(5)
elseif new var explode catch(5)
try(5) public nal var new
//This Program by
//John Deve
#21/03/2009
#All Right Reserved
/* This Program by
John Deve
21/03/2009
All Right Reserved
*/
35. 31บทที่ 3 เริ่มต้นกับ PHP
การเขียนสคริปต์ PHP ในเอกสาร HTML
เนื่องจาก PHP เป็นภาษาแบบสคริปต์ที่ต้องอาศัยการเขียนแทรกโค๊ดคาสั่งลงไปในเอกสาร HTML
ดังนั้นภายในเว็บเพจเดียวกันจึงอาจจะมีทั้งโค๊ดส่วนที่เป็นสคริปต์ของ PHP และโค๊ดของ HTML ทั้งนี้ก็
เนื่องจากว่า โครงสร้างหรือรูปแบบเอกสารเว็บเพจนั้น ตอ้งถูกกาหนดด้วยแท็กของ HTML เป็นหลัก ดถึงแม้ว่า
เราจะเสร้างเว็บเพจด้วย PHP แต้ก็ยังต้องใช้ HTML เป็นตัวกาหนดรูปแบบของเอกสารเสมอ ดังนั้นเพื่อเป็นการ
แยกความแตกต่างของทั้งสองส่วนนี้ โค๊ดส่วนที่เป็น HTML ก็เขียนไปตามปกติ แต่โค๊ดส่วนของ PHP จะต้อง
เขียนไว้ในแท็ก <?php …?> ซึ่งถือว่าเป็นแท็กมาตรฐานของ PHP ที่นิยมใช้กันมากที่สุด และสามารถใช้ได้เลย
โดยที่ไม่ต้องเซ็ตค่าใด ๆ เพิ่มเติม โดยในเอกสารฉบับนี้จะใช้แท็กแบบนี้เช่นเดียวกัน
ต่อไปมาดูตัวอย่างการแทรกโค๊ด PHP ลงไปในแท็ก <body>….</body> ของเอกสาร HTML กัน
<body>
</body>
และเมื่อเราเปิดดูด้วยเว็บบราวเซอร์ก็จะได้ผลลัพธ์ดังรูป
นอกจากนี้แล้ว เรายังสามารถใช้ PHP แสดงแท็ก HTML ออกไปที่บราวเซอร์ ซึ่งแท็กของ HTML ที่ถูก
ส่งออกไปนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเอกสาร HTML ไปเลยเช่น
<body>
</body>
<?php
echo “Hello World”;
?>
<?php
echo “<h3>Welcome to my website</h3>”;
?>