More Related Content
Similar to ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท (20)
More from Justice MengKing (7)
ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท
- 1. ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”
--------------------------------------------------------------
ให้ นั กเรี ย นเปิ ดเครื่ องคอมพิว เตอร์ แล้ ว ค้นหาความหมายและตัวอย่า งหัวข้อโครงงานประเภทการ
ประยุกต์ใช้งาน จากแหล่งข้อมูล (ห้องสมุด / อินเทอร์เน็ต) อย่างน้อย 5 โครงงาน แล้วบันทึกลงกระดาษ
ขนาด A4 ที่เตรียมมาพร้อมเขียน แหล่งที่มา หรือ Address ของ website ที่นักเรียนค้นหาข้อมูลเหล่านั้นด้วย
ความหมายโครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประยุกต์ใช้งาน เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประ
จาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และ
ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือ
อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี
ประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่
ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพ
ของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
มีการนาเอามัลติมีเดียไปประยุกต์ใช้งานในหลายๆ ด้าน เช่น
ด้านการศึกษา - ด้านการศึกษานั้นได้นาเอามัลติมีเดียไปพัฒนาใช้และขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทาให้เกิด
เครื่องมือช่วยสอนต่างๆ มากมาย และเกิดสื่ออิเล็กทรอนิกส์ช่วยสอนในรูปแบบต่างๆ - สนับสนุนและส่งเสริม
การศึกษา โดยเป็นเครื่องมือช่วยรวบรวม วิเคราะห์ ออกแบบ สร้าง จัดการ ใช้งานและประเมินผล -
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ลักษณะมัลติมีเดีย - เผยแพร่การเรียนบนเว็บ เช่น e-Learning เป็นต้น - เกิดการ
เรียนรู้ทางไกล
ด้านการฝึกอบรม - มีการใช้คอมพิวเตอร์ในการช่วยสอน เรียกว่า e-Training มีส่วนช่วยให้พัฒนา
ศักยภาพทางบุคลากรเป็นอย่างมาก - ปัจจุบัน มีการพัฒนาเว็บสาหรับอบรมของสถาบันฝึกอบรมหลายแห่ง
เช่น สถาบันพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา http://www.guruonline.in.th
ด้านความบันเทิง - มัลติมีเดียได้รับความแพร่หลายในวงการบันเทิงเป็นอย่างมาก เช่น ภาพยนต์ คาราโอ
เกะ เกมส์ ข่าว ละคร เป็นต้น
- เว็บไซต์ทีวี - เกมส์ออนไลน์
ด้านธุรกิจ มีความสะดวกเป็นอย่างมาก ในการ - นาเสนองาน นาเสนอสินค้า - ประชุมทางไกล ทาให้การ
ดาเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้านการประชาสัมพันธ์ มัลติมีเดียได้เป็นปัจจัยหลักสาคัญ ในการ - นาเสนอ และเผยแพร่ข่าวสาร - การ
โฆษณาและการถ่ายทอด - ตู้ประชาสัมพันธ์
ด้านความเป็นจริงเสมือน - ความจริงเสมือนเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของวงการเทคโนโลยีมัลติมีเดีย สามารถ
เลียนแบบการเรียนรู้ และสัมผัสผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงเสมือน
ด้านโมบายเทคโนโลยี ได้ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เช่น - เทคโนโลยีมัลติมีเดียในโทรศัพท์เคลื่อนที่
รูปแบบการใช้โมบายเทคโนโลยี M-Billing M-Commerce M-Banking M-Entertainment M-Messaging
ที่มา : http://chalad.wordpress.com/subject/20209-2/20209-lesson-3/
- 2. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประ
จาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และ
ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือ
อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี
ประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่
ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพ
ของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ที่มา : http://kruoong.blogspot.com/2011/07/blog-post_25.html
- 3. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจาวันอาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายใน
อาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการ
ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความ
ต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการ
ทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภท
นี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โปรแกรม
ระบบงานการกีฬา โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001
ที่มา : http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7
ตัวอย่างโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
ชื่อโครงการ การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์(ด้านการศึกษา)
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาววาสนา ขุนบุญจันทร์ และ นางสาวสุวดี ทวีสิทธิ์ นักศึกษาสาขาคอมพิวเตอร์
ธุรกิจ
หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสมัยใหม่ทาให้คนเราจาเป็นต้องเรียนรู้และก้าวให้ทันกับความ
เปลี่ยนแปลงต่างๆ ของยุคของโลกเทคโนโลยีไม่ว่าจะทาอะไรล้วนมีการนาเอาเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ
จะเห็นได้จากการเรียนการสอนมีการนาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ
ของโปรแกรม Microsoft Word ,PowerPoint ,Microsoft Excel,Macromedia Authorware และเพื่อให้
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสอดคล้องกับเทคโนโลยีปัจจุบัน การเรียนรู้ในสถานศึกษาและหน่วยงานที่
เกี่ยวข้องดาเนินการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียน และอานวย
ความสะดวกเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และมีความรอบรู้ ทั้งนี้ ผู้สอนและผู้เรียนอาจเรียนรู้ไปพร้อมกันจาก
สื่อการเรียนการสอน และแหล่งวิทยาการประเภทต่างๆ การจัดการเรียนการสอน ได้จัดการเรียนการสอนกลุ่ม
สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามความเหมาะสมของนักเรียน ดังนั้นคณะผู้จัดทาจึงได้จัดทา
โครงการเรื่องการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ขึ้นมา
วัตถุประสงค์
1.เพื่อการพัฒนาสื่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2.เพื่อปรับการเรียนการสอนให้เข้าทันกับ
3.เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์
ที่มา : http://samooksasa.blogspot.com/2009/01/blog-post.html
- 4. ที่มา : http://www.genedu.msu.ac.th/2553/admin/news/detail.php?id=12
ด้านการฝึกอบรม
e-Training
e-Training คือ กระบวนการฝึกอบรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เป็นกระบวนการจัดการฝึกทักษะเพิ่มพูนสาระ
ความรู้ ที่เน้นให้ผู้เข้ารับการอบรมเรียนรู้ด้วยตนเอง ผู้เข้าอบรมมีอิสระในการเข้าศึกษาเพื่อเรียนรู้ตามเวลา
และโอกาสที่ผู้เข้าฝึกอบรมได้ตามต้องการ โดยเนื้อหาขององค์ความรู้จะถูกออกแบบมาให้ศึกษาเรียนรู้ได้
โดยง่ายในรูปแบบมัลติมีเดีย ซึ่งประกอบด้วยสื่อที่เป็นข้อความ รูปภาพหรืออาจจะมีเสียง รวมถึง
ภาพเคลื่อนไหวระบบ e-Training นี้ ผู้เข้าฝึกอบรมจะมีเจ้าหน้าที่ประจาศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้เป็นผู้ให้คา
ปรึกษาในการอบรมตลอดหลักสูตร นอกจากนี้ผู้เข้าอบรมยังสามารถติดต่อและปรึกษาแลกเปลี่ยนความ
คิดเห็นกับอาจารย์และผู้เรียนอื่นได้ เช่นเดียวกับการอบรมในห้องอบรม หัวข้อที่จัดเป็น e-Training มีดังนี้
- การเรียนการสอนแบบ Case Based
- การเรียนการสอนแบบ Child-Centered
- การเรียนการสอนแบบ Problem Based
- 5. - การเรียนการสอนแบบ Critical Thinking
- การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment)
ที่มา :
http://www.lic.chula.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=48&Itemid=59
ที่มา : http://ubonsci.nfe.go.th/etraining/
- 6. ชื่อเรื่อง การพัฒนาบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรื่องโครงงานคอมพิวเตอร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้วิจัย นายชนารัตน์ คาอ่อน
โรงเรียน โรงเรียนระยองวิทยาคม
ปีที่วิจัย พ.ศ.2552
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีความมุ่งหมายดังนี้ (1) เพื่อพัฒนาบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรื่องโครงงานคอมพิวเตอร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2)
เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (3) เพื่อ
ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนระยองวิทยาคม จังหวัดระยอง
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 จานวน 40 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
ประกอบด้วย บทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรื่องโครงงานคอมพิวเตอร์ จานวน 6 หน่วยการเรียน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สถิติที่ใช้ในการ
วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t (t-test )
ผลการวิจัยครั้งนี้ พบว่า
1. บทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรื่องโครงงานคอมพิวเตอร์ ที่พัฒนาขึ้น มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ
87.28/85.79 สูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนดไว้คือ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อยู่ในระดับมากที่สุด
ทีมา : http://kchanarat.multiply.com/journal?&show_interstitial=1&u=%2Fjournal
่
- 7. WHOLIS : ฐานข้อมูลวัสดุตีพิมพ์และไม่ตีพิมพ์ของห้องสมุดองค์การ
อนามัยโลกทั้ง 2 แห่ง คือ ห้องสมุดองค์การอนามัยโลกที่ประเทศ
อินเดีย และที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ (ซึ่งเป็นห้องสมุดหลัก Head
Quarter) ซึ่งเปิดให้บริการสาธารณะแก่ผู้สนใจทั่วโลกได้สืบค้น จัด
ทาขึ้น 3 ภาษา ประกอบด้วยภาษาอังกฤษ ภาษาสเปน และภาษา
ฝรั่งเศส สิ่งพิมพ์ต่างๆ ที่มีในฐานข้อมูลส่วนใหญ่เป็นสิ่งพิมพ์ที่จัดทา
โดยองค์การอนามัยโลกประจาภูมิภาคต่างๆ ที่มีการแปลเป็นภาษา
ต่างๆ มากถึง 19 ภาษา เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี เยอรมัน
รัสเซีย โปรตุเกส เป็นต้น นอกเหนือจากนั้นยังมีหนังสือจากสานัก
พิมพ์ต่างๆ และจากองค์กรต่างประเทศอื่นๆ ทั้งของรัฐบาล
(Intergovernmental Agencies) และองค์กรเอกชนที่ไม่หวังผลกาไร (NGOs) วัสดุตีพิมพ์และไม่ตีพิมพ์ของ
ห้องสมุด ประกอบด้วย
รายงานการวิจัย รายงานการประชุม
เอกสารวิชาการที่เกี่ยวข้องด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ตั้งแต่ปี 1948 (Technical Document)
บทความจากวารสารทั้งจากวารสารอื่นๆและวารสารที่องค์การอนามัยโลกจัดทาขึ้นมา ตั้งแต่ปี 1985 เช่น
บทความจากวารสาร
Bulletin of the World Health Organization
Weekly Epidemiological Record
WHO Newsletter
Press Release
ม้วนวีดีโอ แผ่นซีดีรอม เป็นต้น
ฐานข้อมูลประกอบด้วยระเบียนบรรณานุกรมพร้อมสาระสังเขป (Abstract) กว่า 70,000 ระเบียน และ
ระเบียนบรรณานุกรมพร้อมเอกสารฉบับเต็ม (Full text) กว่า 13,000 ระเบียน โดยใช้โปรแกรม WEBSIS ใน
การจัดทา รวบรวม และนาเสนอเพื่อเปิดให้สาธารณะเข้าสืบค้นด้วยระบบออนไลน์
WHOLIS ได้แบ่งประเภทเอกสารตีพิมพ์และไม่ตีพิมพ์ไว้ 7 ประเภทในฐานข้อมูลดังนี้
(1) ANALYTIC: บทความที่อยู่ในวารสารของ WHO
(2) AV: ม้วนวีดีโอ แผ่นซีดีรอม
(3) E-FILE: แฟ้มข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
(4) DOCUMENT: เอกสารวิชาการ
(5) MONOGRAPH: หนังสือ
(6) PERIODICAL: บทความจากวารสารอื่นๆ
(7) E-JOURNAL : วารสารอิเล็กทรอนิกส์
ที่มา : http://www.car.chula.ac.th/culib/v21n2y2548/article5.html
- 8. รฟท. ก้าวล้า น้าหน้า พัฒนาคุณภาพการบริการ เปิดทดลองระบบจองตั๋วโดยสารผ่านระบบ Internet
(e-STARS) 6 เดือน
นางสาวมณฑกาญจน์ ศรีวิลาศ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ แจ้งว่า เพื่อเป็นการอานวยความสะดวกให้กับ
ผู้โดยสารที่เลือกใช้บริการรถไฟเป็นยานพาหนะในการเดินทาง รฟท. จึงเพิ่มช่องทางการจัดจาหน่ายตั๋วเพื่อให้
เข้าถึงประชาชนโดยการนาเอาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยมามาพัฒนาใช้ในการจองตั๋วล่วงหน้าก่อนวัน
เดินทาง 60 วัน โดยผู้โดยสารสามารถจองตั๋วหรือสารองที่นั่งผ่านระบบ Internet และชาระค่าโดยสารด้วย
วิธีการหักบัญชีบัตรเครดิตทุกธนาคาร ในระบบ Visa และ Master Card ในการพัฒนาระบบครั้งนี้นับว่าเป็น
อีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ที่สามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์ด้านการบริการของการรถไฟฯ ให้ก้าวล้า ทันสมัย ไปตาม
กาลเวลาและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง โดย บริษัท ปรีดาปราโมทย์ จากัด ให้ความร่วมมือในการพัฒนาระบบ
ดังกล่าว อนึ่ง การรถไฟฯ เริ่มทดลองใช้ระบบ e – STARS ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ถึงวันที่ 1 สิงหาคม
2552 รวม 6 เดือน เฉพาะรถนอนปรับอากาศชั้น 2 ขบวนรถด่วน/ด่วนพิเศษ รวม 16 ขบวน ดังนี้
- ขบวนที่ 1/2 (กรุงเทพ – เชียงใหม่ - กรุงเทพ)
- ขบวนที่ 13/14 (กรุงเทพ – เชียงใหม่ – กรุงเทพ)
- ขบวนที่ 67/68 (กรุงเทพ – อุบลราชธานี - กรุงเทพ)
- ขบวนที่ 69/70 (กรุงเทพ – หนองคาย - กรุงเทพ)
- ขบวนที่ 35/36 (กรุงเทพ – บัตเตอร์เวอร์ธ - กรุงเทพ)
- ขบวนที่ 37/38 (กรุงเทพ – สุไหงโกลก - กรุงเทพ)
- ขบวนที่ 83/84 (กรุงเทพ – ตรัง - กรุงเทพ)
- ขบวนที่ 85/86 (กรุงเทพ – นครศรีธรรมราช - กรุงเทพ)
ทั้งนี้ เพื่อนาข้อมูลจากช่วงทดลองมาปรับปรุงให้ระบบมีความสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพสมบูรณ์ รายละเอียด
เพิ่มเติมติดต่อได้ที่ โทรศัพท์สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
http://www.railway.co.th/seatcheck/guest/news1/viewshownew.asp?id=393 ข่าวประชาสัมพันธ์
การรถไฟแห่งประเทศไทย