More Related Content Similar to บทที่ 2 พัฒนาการของแนวคิดและทฤษฎีการจัดการ (8) บทที่ 2 พัฒนาการของแนวคิดและทฤษฎีการจัดการ1. CChhaapptteerr 22
EEvvoolluuttiioonn ooff MMaannaaggeemmeenntt TThheeoorryy
พพัฒัฒนนาากกาารของแแนนวคดิแแลละะทฤษฎฎีกีกาาร
จจัดัดกกาาร
LLeeccttuurreerr :: KKoossaawwaatt RRaattaannootthhaayyaannoonn
3. CCoonntteennttss
• แนวคิดทฤษฎีดั้งเดิม
(Classical Theory)
• แนวคิดทฤษฎีเชิงพฤติกรรมศาสตร์
(Behavioral Theory)
• แนวคิดทฤษฎีสมัยใหม่
(Modern Theory)
• แนวคิดในยุคปัจจุบัน
(Contemporary Management
Perspective)
6. 11.. CCllaassssiiccaall OOrrggaanniizzaattiioonn TThheeoorryy
ทฤษฎฎีีกลลุ่มุ่มคลลาาสสสิิค
* Scientific Management
Theory
ทฤษฎีการจัดการเชิง
วิทยาศาสตร์
* Bureaucracy Theory
ทฤษฎีระบบราชการ
* Administrative Theory
ทฤษฎีการจัดการเชิงบริหาร
7. SScciieennttiiffiicc MMaannaaggeemmeenntt TThheeoorryy
ทฤษฎฎีกีกาารจจััดกกาารเเชชิงิงววิิทยยาาศศาาสตรร์์
: Frederick W. Taylor (1856-1965):
บิดาแห่งการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์
แนวคิด
งานทุกงานต้องมีการกำาหนดวิธีการทำางานและ
นำาวิธีการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาใช้ เช่น การศึกษา
เรื่องเวลาและการเคลื่อนไหวของคนงานขณะทำางาน
(Time and Motion Study) แต่ละ
งาน จะมีวิธีที่ดีที่สุดเพียงวิธีเดียว (The one
best way)
8. SScciieennttiiffiicc MMaannaaggeemmeenntt TThheeoorryy
ทฤษฎฎีกีกาารจจัดัดกกาารเเชชิิง
ววิิทยยาาศศาาสตรร์์
แนวคิด (ต่อ)
•หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกคนงานจะพิจารณา
จากความสามารถและความถนัดของแต่ละคน
และต้องมีการอบรมพัฒนา
•ทำางานร่วมกับคนงาน
•งานและความรับผิดชอบจะต้องแบ่งแยกกัน
ชัดเจนระหว่างฝ่ายบริหารและคนงาน
9. SScciieennttiiffiicc MMaannaaggeemmeenntt TThheeoorryy
ทฤษฎฎีกีกาารบรริหิหาารจจัดัดกกาารแแบบบ
ววิทิทยยาาศศาาสตรร์์
: Frank and Lilian Gilbreth (1868-1924)
แนวคิด
1. ในการทำางานนั้นจะมีหนทางที่ดีที่สุด
เพียงวิธีเดียวเท่านั้น (The one best way)
2. ให้ความสนใจในการขจัดความเมื่อยล้า
ในการทำางานและขจัดการเคลื่อนไหวที่
ไม่จำาเป็นออกไป (Time and Motion Study)
“Therbligs”
10. SScciieennttiiffiicc MMaannaaggeemmeenntt TThheeoorryy
ทฤษฎฎีกีกาารบรริหิหาารจจัดัดกกาารแแบบบ
ววิทิทยยาาศศาาสตรร์์
: Henry L. Gantt
แนวคิด
1. นำาหลักการจัดการทางวิทยาศาสตร์มาใช้โดย
นำาเสนอ “Gantt’s Chart” ตารางเวลาการปฏิบัติ
งาน
ของคนงาน ใช้ในการวางแผน, ควบคุมและ
ประเมินผลการ
ปฏิบัติงาน
2. การให้สิ่งจูงใจ (Incentives) กับคนงานโดยใช้
ระบบโบนัส
16. ทฤษฎฎีีกกาารบรริิหหาารของ FFaayyooll
เทคนิค
Technical
activities
พาณิชย์
Commercial
activities
การเงิน
Financial
activities
กิจกรรมทางธุรกิจ 6 กลุ่มงาน
การ
จัดการ
Management
activities
POCCC
ความ
มั่นคง
Security
activities
การบัญชี
Accounting
activities
(Planning, Org, Command, Coordinate, Control)
17. หลลักักกกาารจจััดกกาารของ ฟฟาาโโยยล 1144 ขข้อ้อ
FFaayyooll’’ss PPrriinncciipplleess ooff
MMaannaaggeemmeenntt
1. การแบ่งงาน (Division of Labor)
2. อำานาจหน้าที่และความรับผิดชอบ
(Authority and Responsibility)
3. เอกภาพในการบังคับบัญชา (Unity of
Command)
4. สายการบังคับบัญชา (Line of Authority)
5. การรวมอำานาจ (Centralization)
6. ความมั่นคง (Stability of tenure of
personnel)
7. เอกภาพของทิศทางการบริหาร (Unity of
18. หลลักักกกาารจจัดัดกกาารของ ฟฟาาโโยยล 1144
8. ความยุติธรรม (Equity)
9. ความเป็นระเบียบ (Order)
10.ความคิดริเริ่ม (Initiative)
11.การมีวินัย (Discipline)
12.ระบบการให้ผลตอบแทน
(Remuneration of Personal)
13.ความเข้าใจในเป้าหมายขององค์การร่วม
กัน (Interest to Common Interest)
14.ความรู้สึกร่วม/ความสามัคคี (Esprit De
Corps)
ขข้้อ
FFaayyooll’’ss PPrriinncciipplleess ooff
MMaannaaggeemmeenntt
19. เเปปรรีียบเเททียียบทฤษฎฎีีใในนกลมุ่
CCllaassssiiccaall
Scientific
เน้นที่คนงาน
จุดเด่น
- เน้นการเพิ่ม
ประสิทธิภาพใน
การผลิต โดยใช้
การทดลองเชิง
วิทยาศาสตร์ คน
งานมีหน้าที่ปฏิบัติ
ตามระบบที่ผู้
บริหารวางไว้ และ
จะสามารถปฏิบัติ
งานได้ดีขึ้นถ้าได้
Bureaucracy
เน้นที่องค์การ
โดยรวม
จุดเด่น
-เน้นเรื่อง
โครงสร้าง
อำานาจหน้าที่
การแบ่งงานกัน
ทำาและกฎ
ระเบียบข้อ
บังคับ
Administrative
เน้นที่ผู้บริหาร
จุดเด่น
- เน้นหลักการ
บริหารที่ดี
สำาหรับองค์การ
โดยรวม โดย
เน้นเรื่องการ
กำาหนดหน้าที่
ทางการจัดการ
การแบ่งงานกัน
ทำา ความเสมอ
ภาค
22. 22.. BBeehhaavviioorraall MMaannaaggeemmeenntt
TThheeoorryy
ทฤษฎฎีีบรริิหหาารจจัดัดกกาารเเชชิงิงพฤตติกิกรรม
Elton Mayo : ศศาาสตรร์์
• กรณีศึกษาที่ฮอร์ทอร์น (Hawthorne Studies)
ศึกษาทดลองเรื่อง
ความสัมพันธ์ระหว่างการเพิ่มผลผลิตกับ
แสงสว่างในขณะปฏิบัติงานของคนงาน โดย
ตั้งสมมติฐานไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงลักษณะ
ทางกายภาพ (แสงสว่าง) มีผลต่อการเพิ่ม
ผลผลิตหรือปริมาณการผลิต
ผลการทดลอง : มีปัจจัยอื่นๆที่นอกเหนือจาก
สภาพแวดล้อมทางกายภาพที่มีผลต่อการเพิ่มขึ้นหรือ
ลดลงในผลผลิตของคนงาน ได้แก่ ความสัมพันธ์ทาง
สังคมและขวัญกำาลังใจที่ดีในการทำางาน
23. BBeehhaavviioorraall MMaannaaggeemmeenntt TThheeoorryy
ทฤษฎฎีีบรริหิหาารจจัดัดกกาารเเชชิิงพฤตติิกรรมศศาาสตรร์์
Elton Mayo (ต่อ):
กรณีศึกษาที่ฮอร์ทอร์น (Hawthorne Studies)
ศึกษาทดลองเรื่อง
แรงจูงใจในการทำางานของคนงานที่ทำางาน
พันขดลวดโทรศัพท์ ตั้งสมมติฐานไว้ว่าค่า
ตอบแทนเป็นสิ่งจูงใจที่ทำาให้คนงานผลิตผล
ผลิตให้มากขึ้น
ผลการทดลอง : เงินไม่ใช่สิ่งจูงใจที่สำาคัญที่สุด
กลุ่มที่ไม่เป็นทางการมีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงาน
ของคนงาน
24. AAbbrraahhaamm HH.. MMaassllooww
Hierarchy of Needs Theory
-แบ่งความต้องการเป็น 5 ขั้นเริ่มจากระดับตำ่าไป
ระดับสูง Physiological, Safety, Social,
Esteem, Self-Actualization
เมื่อความต้องการในระดับหนึ่งได้รับการตอบ
สนองจะเกิดความต้องการในระดับที่สูงขึ้นต่อไป
ความต้องการใดได้รับการตอบสนองแล้วจะไม่
เกิดการจูงใจอีกต่อไป
26. DDoouuggllaass MMccGGrreeggoorr
Theory X : มองพนักงานในแง่ลบ
• ไม่ชอบทำางาน เลี่ยงงานถ้าทำาได้
• ต้องการการดูแลควบคุม ลงโทษ
บังคับ เพื่อให้งานเป็นไปตามเป้า
หมาย
• ไม่มีความรับผิดชอบ หลบเลี่ยง
• ทะเยอทะยานตำ่า ไม่ต้องการมีส่วน
ร่วม
Theory Y : มองพนักงานในแง่บวก
• งานเป็นเรื่องปกติ พร้อมจะทำางาน
• รู้จักตัดสินใจ ควบคุม-รับผิดชอบ
ตนเอง
• กระตือรือร้น แสวงหาความรับผิด
ชอบ
29. 2. แนวคิดเชิงทฤษฎีระบบ (System
Theory) :
โดยองค์การเป็นเสมือนกับระบบๆ หนึ่งซึ่งมี
ความสัมพันธ์กันกับสภาพแวดล้อมภายนอกที่อยู่
รอบๆองค์การ ตัวระบบเองประกอบด้วย 4 ส่วนที่
มีความเกี่ยวข้องกัน ได้แก่
- ปัจจัยนำาเข้า (Inputs)
- กระบวนการแปรสภาพในการบริหาร
(Process)
- ปัจจัยนำาออก/ผลผลิต (Outputs)
- การป้อนกลับ (Feedback)
30. Inputs
-4M
-Technology,
Information re
sources
Process Outputs
-Product&service
-Customer
satisfaction
-Financial results
Environment
System
A systems view of the organization
31. 3. แนวคิดเชิงทฤษฎีการจัดการเชิง
สถานการณ์ (Contingency Theory)
การบริหารจัดการเปลี่ยนแปลงไปตาม
สถานการณ์และสภาพแวดล้อม ไม่มีรูปแบบการ
บริหารจัดการแบบเดียวที่ดีที่สุดสำาหรับทุก
องค์การ Classical
Theory
Behavioral
Theory
Contingency
Theory
Quantitative
Theory
System
Theory
34. บทสรรุุป
1.ทฤษฎีแนวคิดทฤษฎีดั้งเดิม
1.1 ทฤษฎีการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์: Frederick W.
Taylor, Frank and Lilian Gilbreth, Henry L. Gantt
1.2 ทฤษฎีระบบราชการ: Max Weber
1.3 ทฤษฎีการจัดการเชิงบริหาร: Henry Fayol
2. แนวคิดทฤษฎีเชิงพฤติกรรมศาสตร์: Elton Mayo,
Abraham Maslow, Douglas McGregor
3. แนวคิดทฤษฎีสมัยใหม่: 3.1 แนวคิดการจัดการเชิง
ปริมาณ 3.2 แนวคิดเชิงทฤษฎีระบบ และ 3.3 แนวคิดเชิง
ทฤษฎีการจัดการเชิงสถานการณ์
4. แนวคิดในยุคปัจจุบัน: Reengineering, TQM,
Knowledge Management (KM), Learning Organization