More Related Content
Similar to Ppt immunity ชีววิทยา ม.5
Similar to Ppt immunity ชีววิทยา ม.5 (18)
More from สำเร็จ นางสีคุณ
More from สำเร็จ นางสีคุณ (20)
Ppt immunity ชีววิทยา ม.5
- 2. ภูมิต้านทาน ร่างกายการภูมิต้านทาน ร่างกายการ
กำาจัดสิ่งแปลกปลอมกำาจัดสิ่งแปลกปลอม
• ภูมิชีวิตภูมิชีวิต:: Immune SystemImmune System
คือระบบภูมิคุ้มกันทั้งหมดคือระบบภูมิคุ้มกันทั้งหมด
ของร่างกายที่ทำาหน้าที่คอยของร่างกายที่ทำาหน้าที่คอย
ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหรือสิ่งป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหรือสิ่ง
แปลกปลอมที่เป็นอันตรายเข้าแปลกปลอมที่เป็นอันตรายเข้า
มาทำาอันตรายต่อร่างกายหรือมาทำาอันตรายต่อร่างกายหรือ
เมื่อหลุดเข้ามาแล้ว ระบบเมื่อหลุดเข้ามาแล้ว ระบบ
ภูมิคุ้มกันก็จะพยายามทำาลายภูมิคุ้มกันก็จะพยายามทำาลาย
กำาจัดสิ่งแปลกปลอมให้หมดไปกำาจัดสิ่งแปลกปลอมให้หมดไป
- 4. กลไกการป้องกันการติดเชื้อกลไกการป้องกันการติดเชื้อ
ของร่างกายของร่างกาย
11.. ผิวหนังผิวหนัง ((SkinSkin))
22.. เยื่อชุ่มเยื่อชุ่ม ((mucous membranesmucous membranes))
33.. ขบวนการกลืนทำาลายขบวนการกลืนทำาลาย ((PhagocytosisPhagocytosis))
44.. เซลล์ที่มีหน้าที่กลืนทำาลายตามอวัยวะต่างๆเซลล์ที่มีหน้าที่กลืนทำาลายตามอวัยวะต่างๆ
((Reticuloendothelial systemReticuloendothelial system))
55.. ส่วนประกอบทางเคมีของเนื้อเยื่อส่วนประกอบทางเคมีของเนื้อเยื่อ
66.. การเกิดการอักเสบการเกิดการอักเสบ ((InflammatoryInflammatory))
77.. การขับถ่ายการขับถ่าย ((ExcretionExcretion))
88.. การไอ และจามการไอ และจาม ((Cough reflexCough reflex))
- 10. การเกิดการอักเสบ
(INFLAMMATORY)
เป็นการเคลื่อนย้ายของ phagocytic cell
(neutrophilic granulocyte และ
macrophage) มายังบริเวณที่มีสิ่งแปลก
ปลอม
ซึ่งผลของการติดเชื้อจะทำาให้บริเวณนั้นมี
ลักษณะจำาเพาะคือ ปวด บวม แดง ร้อน
เส้นเลือดฝอยจะมีการขยายตัวและพลาสมา
จะซึมออกมาและคั่งตามบริเวณที่มีการ
อักเสบ แล้วกลายเป็นเส้นไฟบริน (fibrin)
สานตัวเป็นตาข่ายดักจับจุลินทรีย์
ต่อมามีเม็ดเลือดขาวจำาพวกที่มีหลาย
- 14. ระบบภูมิคุ้มกัน (IMMUNE
SYSTEM)
คือ ระบบภูมิคุ้มกันทั้งหมดของร่างกายที่ทำา
หน้าที่คอยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหรือสิ่ง
แปลกปลอมที่เป็นอันตรายเข้ามาทำา
อันตรายต่อร่างกาย
หรือเมื่อเชื้อโรคหลุดเข้ามาแล้ว ระบบ
ภูมิคุ้มกันก็จะพยายามทำาลายกำาจัดสิ่งแปลก
ปลอมให้หมดไปจากร่างกายโดยเร็วและมี
ประสิทธิภาพ
ภูมิคุ้มกันโรคแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ
ภูมิคุ้มกันโรคที่สัตว์มีมาตั้งแต่กำาเนิด (innate
immunity)
ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นภายหลัง (acquired
- 20. Lymphocyte มีนิวเคลียสกลม แบ่งออก
เป็น B-Lymphocyte, T-Lymphocyte และ
Null-cell (non-B, non-T Lymphocyte)
Monocyte นิวเคลียสรูปไต ทำาหน้าที่ทำาลายสิ่ง
แปลกปลอม เมื่ออยู่ในเนื้อเยื่ออื่นๆจะเปลี่ยนแปลงไปเป็น
แมโครเฟจ
- 21. Neutrophil มีนิวเคลียสมี 2-5 พู ซึ่งมีสาย
โครมาตินบางๆเชื่อมให้ติดกัน ภายในไซโต
พลาสซึมมีแกรนูลพิเศษขนาดเล็กมาก
neutrophil มีประมาณ 50-70 % ของเม็ด
เลือดขาวทั้งหมด
- 24. แอนติเจน (ANTIGEN)
หมายถึง สารที่เมื่อนำาเข้าสู่ร่างกายแล้วสามารถ
กระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี และถ้านำา
แอนติบอดีที่เกิดขึ้นมารวมกับแอนติเจนจะเกิด
ปฏิกิริยาที่สามารถสังเกตได้
แอนติเจนเป็นสารพวกโปรตีนหรือสารอื่นๆเช่น โปลี
แซคคาไรด์ ซึ่งแบคทีเรียหรือท็อกซินจากแบคทีเรีย
และไวรัสหลายชนิดก็มีคุณสมบัติเป็นแอนติเจนได้
เหมือนกัน
- 25. คุณสมบัติของสารแอนติเจน
มีความแปลกปลอม (foreigness)
สารที่เป็นแอนติเจนได้ดีคือ โปรตีน รองลง
มาคือพวก โพลีแซคคาไรด์ ไขมัน และกรด
นิวคลิกอิค ตามลำาดับ
มีขนาดที่ใหญ่ โดยสารที่มีขนาดใหญ่เป็น
แอนติเจนที่ดีกว่าสารขนาดเล็ก
มีความสามารถ กระตุ้นให้เกิดการตอบ
สนองทางภูมิคุ้มกัน (immunogenicity)
เรียกว่าเป็น immunogen
สามารถทำาปฏิกิริยากับภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น
แบบจำาเพาะ คือทำาปฏิกิริยากับ antibody
- 26. แอนติบอดี (ANTIBODY)
• หมายถึง สารที่เกิดขึ้นในร่างกาย อยู่ตามกระแส
เลือดและส่วนที่เป็นของเหลวในร่างกาย ซึ่งเกิด
ขึ้นโดยการกระตุ้นของแอนติเจนที่ถูกนำาเข้า
ร่างกายโดยวิธีการฉีดหรือวิธีอื่นๆ และเมื่อนำามา
ผสมกับแอนติเจนจะเกิดปฏิกิริยาที่สามารถ
สังเกตได้
• แอนติบอดีมีคุณสมบัติทางเคมีเป็นโปรตีน
(immunoglobulins) ซึ่งอวัยวะที่สำาคัญในการ
สร้างแอนติบอดีได้แก่ ต่อมนำ้าเหลือง ต่อม
ทอนซิล ม้าม ต่อมไธมัส เป็นต้น
- 27. การทำางานของแอนติบอดีการทำางานของแอนติบอดี
ทำาลายจุลินทรีย์โดยตรง เคลือบเกาะทำาลายจุลินทรีย์โดยตรง เคลือบเกาะ
จุลินทรีย์ทำาให้มีประสิทธิภาพของจุลินทรีย์ทำาให้มีประสิทธิภาพของ
กระบวนการกลืนทำาลายสูงขึ้นกระบวนการกลืนทำาลายสูงขึ้น
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ที่ทำาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ที่ทำา
หน้าที่กลืนทำาลายตามอวัยวะต่าหน้าที่กลืนทำาลายตามอวัยวะต่า
ช่วยให้จุลินทรีย์ไม่กระจัดกระจายทั่วไปช่วยให้จุลินทรีย์ไม่กระจัดกระจายทั่วไป
ทำาให้คุณสมบัติของเนื้อเยื่อเปลี่ยนแปลงทำาให้คุณสมบัติของเนื้อเยื่อเปลี่ยนแปลง
ไปไม่เหมาะต่อการขยายจำานวนจุลินทรีย์ไปไม่เหมาะต่อการขยายจำานวนจุลินทรีย์
- 28. แอนติซีรัมแอนติซีรัม ((AntiserumAntiserum))
หมายถึง ซีรัมที่มีส่วนประกอบของของหมายถึง ซีรัมที่มีส่วนประกอบของของ
สารแอนติบอดีสารแอนติบอดี
เตรียมโดยฉีดแอนติเจนให้สัตว์ครั้งละเตรียมโดยฉีดแอนติเจนให้สัตว์ครั้งละ
น้อยๆซำ้าหลายๆครั้ง เพื่อให้สัตว์ที่ถูกฉีดน้อยๆซำ้าหลายๆครั้ง เพื่อให้สัตว์ที่ถูกฉีด
แอนติเจนสร้างแอนติบอดีขึ้นในกระแสแอนติเจนสร้างแอนติบอดีขึ้นในกระแส
เลือดเลือด
เมื่อแยกซีรัมที่มีแอนติบอดีออกมาฉีดให้เมื่อแยกซีรัมที่มีแอนติบอดีออกมาฉีดให้
กับสัตว์อื่น จะมีคุณสมบัติป้องกันไม่ให้กับสัตว์อื่น จะมีคุณสมบัติป้องกันไม่ให้
สัตว์มีการติดเชื้อชนิดเดียวกับแอนติเจนที่สัตว์มีการติดเชื้อชนิดเดียวกับแอนติเจนที่
ใช้ฉีดเข้าไปได้ใช้ฉีดเข้าไปได้
- 31. วัคซีนเชื้อเป็น (LIVE VACCINE)
หมายถึง วัคซีนที่ทำาจากเชื้อโรคที่ทำาให้อ่อนฤทธิ์
ลง เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไม่ทำาให้เกิดโรค แต่มีความ
สามารถในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน
- วัคซีนเชื้อเป็นชนิดที่เชื้อหมดความรุนแรง
แล้ว
- วัตซีนที่เชื้อยังคงความรุนแรงอยู่
- 32. วัคซีนเชื้อตาย (KILLED
VACCINE)
หมายถึง วัคซีนที่ทำาจากเชื้อโรคที่ถูกฆ่าให้ตาย
แล้วหรือทำาจากสารพิษ แต่สามารถกระตุ้นระบบ
ภูมิคุ้มกันให้สร้างแอนติบอดีได้
- วัคซีนที่ทำาจากเชื้อแบคทีเรีย เช่น วัคซีนที่ใช้ป้องกัน
โรคแอนแทรกซ์
- วัคซีนที่ทำาจากไวรัส เช่น วัคซีน
สำาหรับป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
- วัคซีนประเภททอกซอยด์ (Toxoid )
เช่น วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก
ทอกซอยด์ หมายถึง สารพิษของเชื้อ
แบคทีเรียที่ทำาให้หมดพิษแล้ว โดยใช้ความ
ร้อนหรือสารเคมี สามารถนำาไปกระตุ้น
- 38. SUBPOPULATION ของ T-LYMPHOCYTE
helper T
cell
ทำาหน้าที่ช่วยกระตุ้น B-lymphocyte ในการ
สร้างแอนติบอดี
และการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันชนิดผ่าน
เซลล์
suppres
sor T
cell
ทำาหน้าที่ควบคุมการทำางานของ B
lymphocyte และ T lymphocyte
ไม่ให้ทำางานมากเกินไป
killer T
cell
(cytotoxic
T-cell)
ทำาหน้าที่ฆ่าเซลล์มะเร็งและเซลล์ที่ติดเชื้อ
T
lympho
หลั่ง lymphokines เพื่อใช้ในระบบ cell
mediated immunity
- 39. HUMORAL IMMUNE RESPONSE
คือการตอบสนองโดยแอนติบอดี (antibody) เรียกว่า
อิมมูโนโกลบูลิน Immunoglobulin (Ig) ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน
5 ชนิดคือ IgG, IgA, IgM, IgD และ IgE
ซึ่งเซลล์ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้คือ B-Lymphocyte และ
plasma cell
โดย ถ้า B-Lymphocyte ถูกกระตุ้นโดยเชื้อโรคหรือสิ่ง
แปลกปลอม จะแบ่งเซลล์ได้ plasma cell และ memory
cell
- 40. IMMUNOGLOBULIN (IG)
IgG เป็นอิมมูโนโกลบูลินที่มีมากที่สุดในซีรัม ทำาหน้าที่
ต่อสู้กับ bacteria / virus / toxinเ ป็นส่วนใหญ่
IgA - เป็นอิมมูโนโกลบูลินหรือแอนติบอดีที่พบในซีรั่ม
และในสารคัดหลั่งต่างๆ
ของร่างกาย
- ช่วยป้องกันการติดเชื้อในบริเวณเยื่อเมือก
(mucosal surface) ของระบบทางเดิน
อาหาร/ระบบทางเดินหายใจ
IgM เป็นสารอิมมูโนโกลบูลินตัวเรกที่สร้างขึ้นเมื่อพบกับ
แอนติเจน เป็นสารอิมมูโนโกลบูลินที่มีความจำาเพาะ
พิเศษต่อ lipopolysaccharide ของแบคทีเรียชนิด
แกรมลบ
IgD พบที่ผิวของ B-lymphocyte ทำาหน้าที่เป็นตัวรับ