More Related Content
More from Prachaya Sriswang
More from Prachaya Sriswang (15)
Ppt.ha
- 3. • Hospital Accreditation (HA)
– เป็นเสมือนกระบวนการส่องกระจก
– เพื่อการตรวจสอบและปรับปรุงตนเองของสถานพยาบาล
– อาศัยมาตรฐานและมุมมองของเพื่อนจากภายนอก (external
peer) เป็นเครื่องช่วยกระตุ้น
– มีการรับรองเป็นแรงจูงใจ
- 4. • มุ่งเน้นว่า HA เป็นกระบวนการเรียนรู้ มิใช่การตรวจสอบ
• มีการบูรณาการแนวคิดและข้อกาหนดต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น
– การสร้างเสริมสุขภาพ
– การบริหารองค์กรสู่ความเป็นเลิศตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ
– การส่งเสริมให้นามิติด้านจิตวิญญาณมาใช้ในการให้บริการที่มี
คุณภาพ
– ส่งเสริมการพัฒนาเป็นลาดับขั้น
– ส่งเสริมเครือข่ายที่ช่วยเหลือกันและกัน
- 5. • มีทิศทางในการพัฒนา เรียนรู้ ไม่หลงทาง สู่เป้ าหมายที่ต้องการ
• องค์กรที่จะเข้าถึงคุณภาพแบบ HA และได้ประโยชน์จากการใช้ HA
มากที่สุด
HA ไม่ใช่เป้ าหมาย แต่เป็นเครื่องมือ
แผนที่เดินทาง หรือเข็มทิศ
- 8. • ทา HA เพื่อคุณภาพ มิได้มุ่งหวังแค่ใบรับรอง
• มีพลังสามัคคีสามประสาน คือ ผู้นา ผู้หล่อเลี้ยง (facilitator)
ผู้ปฏิบัติ
• มีอิสระที่จะพัฒนาตามบริบทของตนเอง
• เน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือทาและใคร่ครวญในผลที่เกิดขึ้น
• ใช้มุมมองเชิงระบบมองอย่างเป็นองค์รวมและเห็นความสัมพันธ์ของ
องค์ประกอบต่างๆ ในระบบ/องค์กร
- 10. • Spirituality ฐานด้านจิตวิญญาณ:
– ใคร่ครวญความหมายและคุณค่าในทุกสิ่งที่ทาหรือผ่านเข้ามา
– นึกถึงช่วงเวลาที่เราดูแลผู้ป่วยด้วยจิตใจที่อ่อนโยนที่สุดและน้อม
นาเข้ามาอยู่ในจิตใจของเราบ่อยๆ
– ฝึกอยู่กับปัจจุบันและแบ่งปันพลังบวกให้ผู้ป่ วย
- 11. • Science ฐานด้านความรู้และวิชาการ:
– ทบทวนว่าเราและเพื่อนของเราสะสมความรู้เชิงปฏิบัติอะไรไว้บ้าง
มีการแบ่งปันกันหรือไม่ อย่างไร
– ทบทวนว่าข้อมูลวิชาการที่ทันสมัยได้รับการนามาปฏิบัติอย่าง
เหมาะสมหรือไม่
– หมั่นตั้งคาถามหรือข้อสงสัยกับงานที่ทากับข้อมูลที่มีอยู่ และพัฒนา
ความสามารถในการหาคาตอบ
- 12. • System ฐานด้านการออกแบบระบบงาน:
– ใช้visual management ออกแบบระบบงานที่ง่ายใน
การปฏิบัติ
– ใช้หลัก simplicity ออกแบบระบบงานให้เรียบง่าย ไม่
ซับซ้อน
– นาวิธีการทางานใหม่ที่ได้จากการวิเคราะห์อุบัติการณ์ การพัฒนา
คุณภาพ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มาปรับคู่มือการปฏิบัติงานอยู่
ตลอดเวลา
- 20. • การตอบสนองปัญหาอย่างมีคุณภาพ ควรพิจารณา
– การรับรู้เหตุการณ์ที่มีความไว เช่น กราฟบันทึกสัญญาณชีพที่มีสี โซนที่ต้อง
ระวังหรือลงมือปฏิบัติการบางอย่าง (early warning chart)
– การสื่อสารให้ผู้เกี่ยวข้องรับรู้โดยเร็ว
– การเตรียมพร้อมและร่วมมือกันแก้ไขปัญหา
– การเก็บหลักฐานอย่างครบถ้วนเพื่อให้พิสูจน์ความจริงได้
– การขอโทษและเปิดเผยข้อมูล (open disclosure)
– การเยียวยาผู้เสียหาย
- 23. • ถามคาถามหลักทั่วไป เช่น ทาไมต้องมีหน่วยงานของเรา เราทางานกัน
อย่างไร
• ถามคาถามเชิงปฏิบัติในชีวิตประจาวัน เช่น จะทาให้งานของเราง่ายขึ้น
อย่างไร
• ถามคาถามตาม PDCA เช่น อะไรคือปัญหาสาคัญของเรา
- 24. • ใช้การทบทวนเพื่อหาโอกาสพัฒนา เช่น การทบทวนข้างเตียง ทบทวน
เวชระเบียน ทบทวนตัวชี้วัด
• เรียนรู้จากอุบัติการณ์เพื่อนามาสู่การปรับปรุงระบบ
• วัดผลลัพธ์ตามมิติคุณภาพที่เหมาะสมและวิเคราะห์เปรียบเทียบ
• เรียนรู้โดยการเทียบเคียงกับเพื่อน (benchmark)
- 26. • มีสติตื่นรู้ในทุกกิจที่ทา (mindfulness) สร้างวัฒนธรรมความ
ปลอดภัย นาไปสู่ระบบบริการที่น่าไว้วางใจ
• ร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อมในที่ทางานที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี สุนทรียภาพ
(healing environment)
• มองเห็นตัวเองในบริบทของเป้าหมายที่สูงขึ้น ทาอะไรได้มากขึ้น โดย
เป้าหมายสูงสุดคือ เพื่อยกระดับความเป็นมนุษย์ในตัวเองและสังคม
- 32. • Plan-Do-Check-Act หรือ Plan-Do-Study-Act
เป็นวงล้อแห่งการพัฒนา คุณภาพหรือวงล้อแห่งการเรียนรู้
• PDCA ในการดูแลผู้ป่ วย
– P คือการประเมิน การวินิจฉัยโรค และวางแผน การดูแล
– D คือการให้การดูแลตามแผน
– C คือการ monitor และประเมินซ้า
– A คือการปรับแผนเมื่อผู้ป่วยยังไม่ดี หรือจาหน่ายเมื่อผู้ป่วยดีขึ้น
- 34. • 3P
– Purpose
– Process
– Performance
• การถามคาถามพื้นฐานว่า Why? How? How well?
ทาไปเพื่ออะไร ทาอย่างไรให้บรรลุเป้าหมาย ผลลัพธ์ใกล้กับเป้าหมาย
เพียงใด?
- 35. • Purpose ตามระดับชั้น อาจจะเป็นการตอบคาถามว่าทาไมต้องมี
เรา (เป้ าหมายขององค์กร เป้ าหมายของหน่วยงาน) หรือการตอบว่าเรา
กาลังทาสิ่งนี้ เพื่ออะไร (เป้ าหมายของงาน เป้ าหมายของการพัฒนา)
• Purpose ตามแนวคิด 3C-PDSA คือเอา 3C มาพิจารณา
ร่วมกัน ได้แก่
• Core values (ตามค่านิยมหลัก)
• Context (ตามบริบท)
• Criteria/Standards (ตามข้อกาหนด)
- 36. • Process การพิจารณากระบวนการว่าเหมาะสม หรือไม่
– ขั้นตอนที่สาคัญมีอะไรบ้าง แต่ละขั้นตอน มีเป้าหมายอะไร
– ประเด็นคุณภาพและความเสี่ยงที่สาคัญในแต่ละขั้นตอนมีอะไรบ้าง
– มีวิธีการอย่างไร เพื่อให้เกิดคุณภาพสูงสุดและปิดกั้นความเสี่ยงให้น้อยที่สุด
– เตรียมสิ่งสนับสนุนอย่างไรเพื่อให้มีการปฏิบัติตามแนวทางที่ต้องการ
– จัดทาแนวทางการปฏิบัติที่เป็นมาตรฐาน สื่อสารและให้ความรู้แก่ผู้เกี่ยวข้อง
อย่างไร
– มีระบบกากับติดตามอย่างไร เพื่อรับรู้ปัญหาและมั่นใจว่ามีการปฏิบัติตาม
แนวทางที่ออกแบบไว้
- 37. • Performance
– การรับรู้ performance อาจรับรู้ได้ทั้งในเชิง subjective
และ objective
– การรับรู้ performance ควรสัมพันธ์กับ purpose เมื่อ
เป้าหมายชัด ก็วัดผล ได้ง่าย
– การข้ามไปสู่ KPI โดยไม่คุยกันถึงเป้าหมายให้ชัด ทาให้ติดกับตัว
วัดที่ไม่ตรงความต้องการที่แท้จริง
- 39. • เน้นการมีเป้ าหมายของงาน
• ทบทวนปัญหา/ความเสี่ยงการให้บริการและการดูแลผู้ป่ วย
• หามาตรการป้ องกัน
• ดาเนินการต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน
• ต้องไม่มีความเสี่ยงด้านโครงสร้างกายภาพและกาลังคนที่ชัดเจน
- 43. • เชื่อมโยง การบริหารความเสี่ยง การประกันคุณภาพ และการ
พัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เข้าด้วยกัน ในทุกระดับ
• เน้นการนาข้อมูลวิชาการและมาตรฐานวิชาชีพมาสู่การปฏิบัติ
• ติดตามเครื่องชี้วัด โดยเฉพาะทางคลินิก
• บริการที่เน้นผู้ป่ วยเป็นศูนย์กลางอย่างเป็นรูปธรรมระหว่างทีม
วิชาชีพ
- 49. • ทาไมต้องพิจารณาการพัฒนาคุณภาพในลักษณะ 4 วง
• วงกลมที่ซ้อนกันสื่อให้เราต้องพิจารณาในเรื่องอะไร
• 4 วงมีความสัมพันธ์กับทีมงานที่รับผิดชอบอย่างไร
• 4 วงมีความสัมพันธ์กับมาตรฐาน HA อย่างไร
• ใครควรเป็นผู้ monitor ความก้าวหน้าของการพัฒนาทั้ง 4 วงใน
ภาพรวม
• โรงพยาบาลมักให้ความสาคัญกับวงไหน และวงไหนที่ได้รับความสาคัญ
น้อยกว่าที่ควร
- 78. คิดถึงเป้ าหมายของมาตรฐานเรื่องที่จะตามรอย
คิดถึง object หรือข้อมูล หรือเนื้อหาที่สามารถใช้เป็นตัวเชื่อมโยง หรือ
ตามรอยได้ (ถ้ามี) เช่น ผู้ป่ วย ยา ข้อมูลข่าวสาร
คิดถึงหน่วยงาน/ บุคคลที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง (ผู้
วางแผน ผู้ปฏิบัติ ผู้รับผลงาน)
- 93. สามารถแสดงให้เห็นการบรรลุเป้ าประสงค์ขององค์กร
สามารถแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะ clinical outcome
มีการประเมินประสิทธิภาพของระบบหลักๆ
มีการใช้นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์
มีวัฒนธรรมคุณภาพ ความปลอดภัย การเรียนรู้
มีบูรณาการของการพัฒนา
มีการพัฒนาที่สามารถใช้เป็นแบบอย่างให้แก่รพ.อื่น