More Related Content
More from Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
More from Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand (20)
กำแพงเบอร์ลิน
- 3. ในเยอรมนีตะวันออก กาแพงเบอร์ลิน คือ แนวเขตแดนที่มั่นคง และ
สัญลักษณ์ของการต่อต้านทุนนิยม แต่สาหรับโลกเสรีแล้ว มันคือ สัญลักษณ์
ของความขัดแย้งระหว่างระบบทุนนิยมของยุโรปตะวันตก ภายใต้การนาของ
สหรัฐอเมริกา กับระบบคอมมิวนิสต์ของยุโรปตะวันออก ภายใต้การปกครอง
ของสหภาพโซเวียต หรือที่เรียกกันว่า สงครามเย็น นั่นเอง กาแพงเบอร์ลิน ทาให้
กรุงเบอร์ลินฝั่งตะวันตก กลายเป็นเสมือน หน้าต่างสู่เสรีภาพ
นับตั้งแต่การสร้างกาแพงเบอร์ลิน การข้ามผ่านแดนจากเยอรมนี
ตะวันออก ไปยังเยอรมนีตะวันตก กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หากมีการฝ่าฝืน
และถูกพบเห็น มีโทษสถานเดียว คือ การยิงทิ้ง ณ บริเวณกาแพงนั่นเอง ตลอด
ระยะเวลา 28 ปี คาดว่ามีผู้เสียชีวิตที่กาแพงเบอร์ลินขณะหลบหนีระหว่าง 136
ถึง 206 คน
- 5. กำเนิดกำแพงเบอร์ลิน
ผลจากการย้ายออกของชาวเยอรมันตะวันออก ที่มีมากเกินการ
ควบคุม รัฐบาลเยอรมนีตะวันออกในขณะนั้น จึงได้สร้างกาแพงกั้นระหว่าง
ประเทศเยอรมนีตะวันออกกับเยอรมนีตะวันตก ว่ากันว่า แนวกาแพงที่กั้น
ระหว่างสองประเทศนี้ยาวเป็นอันดับสองรองจากกาแพงเมืองจีนทีเดียว
ในส่วนของกรุงเบอร์ลิน นครหลวงของประเทศทั้งสอง มีที่ตั้งอยู่ใจ
กลางประเทศเยอรมนีตะวันออก ดังนั้น นครเบอร์ลินฝั่งตะวันตก จึงถูกปิด
ล้อมด้วยเยอรมนีตะวันออกรอบด้าน ในระยะแรก การเดินทางเข้าออก
ระหว่างเบอร์ลินตะวันออก และเบอร์ลินตะวันตก เป็นไปโดยเสรี กระทั่งเมื่อ
มีการอพยพของชาวเยอรมันตะวันออกจานวนมาก เป็นเหตุให้รัฐบาล
เยอรมนีตะวันออกเร่งสร้างกาแพงเพื่อปิดกั้นการย้ายถิ่นของ
ชาวเยอรมัน
- 6. ในวันที่13 สิงหาคม พ.ศ. 2507 เป็นวันแรกที่มีการสร้างกาแพง
เพื่อปิดล้อมกรุงเบอร์ลินตะวันตก และเป็นจุดเริ่มต้นของ
สงครามเย็นในยุคนั้น
- 7. กาแพงเบอร์ลิน ถูกใช้งานเป็นเวลา 28 ปี ในช่วงเวลานี้มีการ
ปรับเปลี่ยนโครงสร้างและรูปแบบของกาแพงถึง 4 ครั้ง แต่ละ
ครั้งจะเพิ่มความแข็งแรง และความสูงของกาแพงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เพื่อป้องกันการหลบหนีของชาวเยอรมันตะวันออก เนื่องจาก
กาแพงกันระหว่างเยอรมนีตะวันออก และเยอรมนีตะวันตก มีจุด
เปราะบางที่สุดที่กรุงเบอร์ลินนี่เอง กาแพงเบอร์ลินทั้ง 4 รุ่นมี
พัฒนาการดังนี้
- 9. กำแพงรุ่นที่ 2 เป็นกาแพงก่ออิฐถือปูน ถูกสร้างขึ้นแทนกาแพงรั้วลวด
หนามทันทีที่กาแพงรั้วลวดหนามเสร็จสมบูรณ์ แต่กาแพงก่ออิฐถือปูนนี้
ก็ไม่แข็งแรงพอที่ปิดกั้นความปรารถนาในการแสวงหาเสรีภาพของ
ประชาชน มีความพยายามในการหลบหนีด้วยการทาลายกาแพงเกิดขึ้น
หลายครั้ง
- 11. กำแพงรุ่นที่ 4 ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1975 เป็นแผ่นคอนกรีตสาเร็จรูปขนาดกว้าง 1.2
เมตร สูง 3.6 เมตร จานวนกว่า 45,000 แผ่นถูกต่อเป็นแนวรอบกรุงเบอร์ลิน
ตะวันตกเชื่อมต่อด้วยท่อคอนกรีตที่ด้านบนกาแพง กาแพงรุ่นนี้ถูกใช้งาน
จนกระทั่งถึงการล่มสลายในปี ค.ศ. 1989 และเป็นกาแพงเบอร์ลินรุ่นที่ถูกนาไป
แสดงในพิพิธภัณฑ์และสถานที่ต่าง ๆ ในปัจจุบัน ในการก่อสร้างกาแพง
เบอร์ลินรุ่นที่ 4 ใช้งบประมาณสูงถึงกว่า 1,650 ล้านมาร์ก ณ ขณะนั้นทีเดียว
- 12. สาหรับประชาชนเยอรมันทั้งตะวันตก และตะวันออก และ
ประชาคมโลกในระบบประชาธิปไตย กาแพงเบอร์ลิน เปรียบเสมือน
การปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน ว่ากันว่า กาแพงเบอร์ลิน เป็น
กาแพงแห่งเดียวในโลกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อปิดกั้นประชาชนในประเทศ
ของตนจากโลกภายนอก ในขณะที่กาแพงเมืองอื่น ๆ ทั่วโลกนั้น มีไว้
เพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูเข้ามารุกรานเสรีภาพของชาวเมือง ในทาง
กลับกัน สหภาพโซเวียต ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างกาแพงเบอร์ลิน กลับ
มองว่า กาแพงเบอร์ลิน คือ นวัตกรรมของชนชาติ
- 14. หากการสร้างกาแพงเบอร์ลิน คือ นวัตกรรมของชนชาติ การลอบ
ข้ามกาแพงเบอร์ลินย่อมเป็นนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่กว่า มีการลอบข้ามกาแพง
เบอร์ลินหลายต่อหลายครั้งที่แสดงถึงความสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ เช่น การ
ข้ามกาแพงด้วยบอลลูน การสร้างสลิงข้ามแนวกาแพงด้วยเวลาไม่ถึง 2
นาที การขุดอุโมงค์ลอดใต้กาแพง ซึ่งสามารถช่วยชาวเบอร์ลินตะวันออก
หลบหนีได้มากถึงกว่าร้อยคน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีจุดข้ามแดนบาง
จุดที่ได้รับการช่วยเหลือจากกองทัพสัมพันธมิตร อาทิ จุดข้ามแดนโดยการ
ว่ายข้ามแม่น้ากองทัพอังกฤษได้หย่อนบันไดลิงไว้ในฝั่งตรงข้ามเพื่อให้ผู้ที่
ว่ายน้าข้ามไปสามารถปีนขึ้นฝั่งได้
- 16. เหตุการณ์เสียชีวิต ณ กาแพงเบอร์ลิน ครั้งที่โด่งดังที่สุด เกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2505(ค.ศ. 1962) เมื่อนายปีเตอร์ เฟตช์
เตอร์ (Peter Fechter)เด็กหนุ่มที่ลอบข้ามกาแพงเบอร์ลินถูกยิง และ
ปล่อยให้เลือดไหลจนตายต่อหน้าสื่อมวลชนตะวันตก เป็นจุดเริ่มต้นของ
การดาเนินการต่อต้านกาแพงเบอร์ลินอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อวัน ผู้
หลบหนีรายสุดท้ายที่ถูกยิงตายคือนาย Chris Gueffroy เมื่อวันที่ 6
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 ( ค.ศ. 1989 )
- 17. กำรล่มสลำยของกำแพงเบอร์ลิน
ในปี ค.ศ. 1989 ตรงกับยุคที่ เป็นประธานาธิบดีของสหภาพโซเวียต ได้มีการ
ทดลองการปฏิรูปการปกครองไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ในเยอรมนีตะวันออกได้มีการ
ชุมนุมประท้วงใหญ่อย่างสงบขึ้นโดยเฉพาะในเมืองโพสต์ดัม ไลพ์ซิจและเดรส
เดน เริ่มต้นในวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 1989 และดาเนินเรื่อยมา เป็นเหตุให้รัฐบาล
เยอรมนีตะวันออกได้รับความกดดันเป็นอย่างมาก กระทั่งได้มีการประกาศว่าจะเปิด
พรมแดนให้ชาวเยอรมันสามารถเดินทางผ่านแดนได้อย่างอิสระ ในวันที่ 9
พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989) ในวันดังกล่าวชาวเยอรมัน
ตะวันออกจานวนมากได้มารวมตัวกัน
ณ กาแพงเบอร์ลิน เพื่อข้ามผ่านแดนไปยัง
เบอร์ลินตะวันตกครั้งแรกในรอบ 28 ปี
จึงถือเอาวันดังกล่าว เป็นวันล่มสลาย
ของกาแพงเบอร์ลิน
- 19. น.ส.สุธิษา เพิ่มอุตสาห์ เลขที่ 22 ม.6/1
http://chuta136.blogspot.com/2013/10/blog-
post_7033.html
http://www.thairath.co.th/content/458775
http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?id=50
579
จัดทำโดย
บรรณำนุกรม