root stem structure

1. Structure and Function of the Root
โครงสร้างและหน้าที่ของราก

2. โครงสร้าง หน้าที่และชนิดของราก

3. Zone of maturation
Zone of elongation
Zone of cell
division
Root cap
1. การแบ่งบริเวณของราก

5. 2. โครงสร้างภายในของราก

9. ระบบราก
ระบบรากฝอย
(fibrous root)
ระบบรากแก้ว
(tap root)

12. รากแก้ว (Tap Root) และ
รากแขนง (Lateral Root หรือ branch root)

13. รากฝอย (Fibrous root)

14. รากพิเศษ (adventitious root)
รากที่ไม่ได้กําเนิดมาจากรากแรกเกิด รากที่ไม่ได้เกิดมาจากการเพาะเมล็ด
แตเจริญเติบโตออกมาจากลําต้น หรือ ใบ เชน รากที่เกิดจากการขยาย
พันธุโดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การตอน การปกชํา การแยกหนอ
หรือรากที่เปลี่ยนแปลงไปทําหน้าที่พิเศษ

15. รากค้้าจุน หรือ รากอากาศ
ส้าหรับค้้าจุน (Prop root)
รากค้้าจุน , รากปีก
(Buttress root)

16. รากเกาะเลื้อย
(Climbing root)
รากหายใจ
(aerating root; breathing root;
Pneumatophore Root)

17. รากทุนลอย (floating root)
รากสังเคราะห์แสง
(Photosynthetic root)

18. รากอากาศ (aerial root)
รากเบียน หรือ รากปรสิต
(haustorium; Parasitic root)

19. รากสะสมอาหาร
(Food storage root)

20. โครงสร้างและหน้าที่ของล้าต้น

21. ระบบยอด
ระบบราก

23. ล้าต้น (stem)
เป็นโครงสร้างของพืชที่อยู่ถัดจากรากขึ้นมาเหนือดิน ลักษณะล้าต้น
จะมีข้อ (node) และปล้อง (internode)

24. โครงสร้างภายในของล้าต้นพืชใบเลี้ยงคู่

25. โครงสร้างตัดขวางของล้าต้น
Pith
Vascular
bundle
Epidermis
Cortex
Stele

27. ลาต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและใบเลี้ยงคู่

28. การเจริญเติบโตของ
ล้าต้นพืชใบเลี้ยงคู่
• ในล้าต้นสามารถเกิดการเจริญขั้นทุติยภูมิ
(secondary growth)
• เป็นการเจริญเติบโตเพื่อขยายขนาดออก
ด้านข้าง
• เกิดจากการแบ่งเซลล์ของเนื้อเยื่อเจริญ
ด้านข้าง 2 กลุ่ม คือ
- Vascular cambium
- Cork camcium

29. Vascular cambium
Vascular cambium
Secondary phloem
Secondary xylem
• เมื่อมีการแบ่งเซลล์ออกด้านนอก ล้าต้นจะเจริญไปเป็น secondary phloem
• เมื่อมีการแบ่งเซลล์เข้าด้านใน ล้าต้นจะเจริญไปเป็น secondary xylem
• การแบ่งของ vascular cambium เพื่อสร้างไซเลมจะเกิดได้เร็วกว่าโฟลเอม
* เนื้อไม้ของพืชยืนต้น จึงเป็น secondary xylem เป็นหลัก *

30. Cork cambium
Cork cambium (Phellogen)
Cork (phellem)
Phelloderm
• Cork cambium เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของ parenchyma ใน cortex
• ท้าให้เกิดส่วนของเปลือกไม้เรียงจากด้านนอก เข้าด้านใน ได้ดังนี้
cork cork cambium phelloderm phloem

31. ชั้นเปลือกไม้ (bark) และชั้นเนื้อไม้ (wood)

32. ชั้นเปลือกไม้ (bark) และชั้นเนื้อไม้ (wood)
•ชั้นเปลือกไม้
•ชั้นเนื้อไม้
secondary xylem
•วงปี
(annual ring) สามารถใช้
คาดคะเนอายุของไม้ยืนต้น
(1 รอบ = 1 ปี)
Spring wood เกิดในช่วงน้้าอุดม
สมบูรณ์ เกิดเป็นแถบสีจาง
Summer wood เกิดในช่วงน้้า
น้อย เกิดเป็นแถบสีเข้ม

33. จุดรอยแตก (Lenticel)
หน้าที่ : แลกเปลี่ยนแก๊สกับอากาศ
ภายนอกล้าต้น

34. ล้าต้นที่เปลี่ยนแปลงไปท้าหน้าที่พิเศษ
1. ล้าต้นที่อยู่ใต้ดิน * แตกต่างจากราก คือ มีข้อ ปล้อง หรือตา *
แบ่งออกได้แป็น
เหง้า (Rhizome) ล้าต้นใต้ดินขนานกับผิวดิน เห็นข้อปล้องชัดเจน

35. ล้าต้นที่เปลี่ยนแปลงไปท้าหน้าที่พิเศษ
Tuber ล้าต้นใต้ดินที่งอกมาจากปลายไรโซม ตามข้อไม่มีใบเกล็ด
และราก บริเวณตาบุ๋มลงไป
ตา (eye)

36. ล้าต้นที่เปลี่ยนแปลงไปท้าหน้าที่พิเศษ
หัวกลีบ (Bulb)
ล้าต้นใต้ดินที่ตั้งตรง ล้าต้นมีขนาดเล็ก มีใบเกล็ดซ้อน
หลายชั้นจนเห็นเป็นหัว ใบเกล็ดเก็บสะสมอาหาร

37. ลาต้นที่เปลี่ยนแปลงไปทาหน้าที่พิเศษ
1. ลาต้นที่อยู่ใต้ดิน * แตกต่างจากราก คือ มีข้อ ปล้อง หรือตา *
แบ่งออกได้แป็น
คอร์ม (Corm) ลาต้นใต้ดินที่ตั้งตรง ลาต้นทาหน้าที่เก็บอาหาร

38. ล้าต้นที่เปลี่ยนแปลงไปท้าหน้าที่พิเศษ
2. ล้าต้นที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อท้าหน้าที่สังเคราะห์ด้วยแสง
ลักษณะล้าต้นคล้ายใบ (cladophyll)

39. ล้าต้นที่เปลี่ยนแปลงไปท้าหน้าที่พิเศษ
3. ล้าต้นที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อเกาะกับสิ่งอื่นๆ
ล้าต้นพันเลื้อย (twining stem)

40. ล้าต้นที่เปลี่ยนแปลงไปท้าหน้าที่พิเศษ
3. ล้าต้นที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อเกาะกับสิ่งอื่นๆ
ล้าต้นเปลี่ยนเป็นมือเกาะ (tendril stem)

41. ล้าต้นที่เปลี่ยนแปลงไปท้าหน้าที่พิเศษ
ล้าต้นที่ใช้รากพัน (root climber)

42. ล้าต้นที่เปลี่ยนแปลงไปท้าหน้าที่พิเศษ
ล้าต้นเปลี่ยนเป็นหนาม (stem spine/ stem thorn)

43. ล้าต้นที่เปลี่ยนแปลงไปท้าหน้าที่พิเศษ
ล้าต้นทอดเลื้อย (Stolon)
ล้าต้นที่ทอดไปตามพื้นดินและพื้นน้้า มีปล้องยาว ใบ ดอก
และรากที่ข้อเช่น บัวบก จอก ผักแว่น ผักตบชวา