SlideShare a Scribd company logo
1 of 45
Download to read offline
คู่มือการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ 
โดย 
ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 
หน่วยศึกษานิเทศก์ 
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 
กระทรวงศึกษาธิการ
คำนำ 
คู่มือการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ ฉบับนี้ได้ดา เนินการจัดทา ขึ้นโดย ศูนย์ส่งเสริมและ 
พัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สา นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในลักษณะ 
ของคู่มือเกี่ยวกับขั้นตอนในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ประกอบด้วยขั้นตอนการวิเคราะห์ 
หลักสูตรรายวิชา การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ การสร้างใบช่วยสอน (Instruction Sheet) และ 
แบบฝึกหัดการปฏิบัติการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ คู่มือฉบับนี้เน้นองค์ประกอบที่สา คัญของการ 
เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ข้อความ หรือประโยคที่กระชับและสั้นได้ใจความเพื่อให้ครู 
สามารถศึกษาค้นคว้าและพัฒนาการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง 
เอกสารฉบับนี้สา เร็จลงได้ด้วยความร่วมมืออย่างยิ่งจาก คณะผู้บริหาร ครูผู้สอน 
ศึกษานิเทศก์ นักวิชาการ ซึ่งได้อุทิศ สติปัญญา ความรู้และประสบการณ์ ตลอดจนสละเวลามา 
ช่วยเพื่อพัฒนาคู่มือการเขียนแผนการเรียนรู้ จึงขอขอบคุณผู้มีส่วนร่วมทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ 
ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 
พ.ศ. 2556 
ก 
สำรบัญ 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เรื่อง หน้ำ 
คา นา ก 
สารบัญ ข 
ขั้นตอนการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ 1 
หลักสูตรการอาชีวศึกษา 2 
การวิเคราะห์หลักสูตรรายวิชา 4 
ทฤษฎีการเรียนรู้ของบลูม 10 
แผนการจัดการเรียนรู้ 16 
องค์ประกอบสา คัญของแผนการจัดการเรียนรู้ 17 
ใบช่วยสอน (Instruction Sheets) 29 
รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้ 33 
บรรณานุกรม 34 
ภาคผนวก 
- คา สั่งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ 24/2554 
เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตร : กาจัดทา คู่มือแผนการเรียนรู้สมรรถนะการ 
ประเมินหลักสูตร ปวช. 2545/ 2546 และ ปวส.2546 
- คา สั่งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ 11/2555 
เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองรูปแบบการพัฒนานิเทศภายในเชิงระบบและคู่มือการ 
จัดทา แผนการเรียนรู้ของสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 
ข 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขั้นตอนการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ 
เริ่มต้น 
หลักสูตรรายวิชา (สอศ.) 
*จุดประสงค์รายวิชา 
*มาตรฐานรายวิชา 
*คา อธิบายรายวิชา 
1.วิเคราะห์หลักสูตรรายวิชา 
*วิเคราะห์หัวข้อเรื่อง 
*รายละเอียดหัวข้อเรื่อง 
วิเคราะห์ เนื้อหาวิชา จุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานรายวิชา 
วิเคราะห์ระดับ พุทธิพิสัย ทักษะพิสัย จิตพิสัย 
กา หนดการเรียนรู้ 
2.เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ 
1. สาระสาคัญ 
2.จุดประสงค์การเรียนรู้ 
3.สาระการเรียนรู้ 
4.สื่อการเรียนรู้ 
5.กระบวนการเรียนรู้ 
6.การวัดผลและประเมินผล 
7.แหล่งการเรียนรู้ 
8.บันทึกหลังการเรียนรู้ 
3.ใบช่วยสอน 
1.ใบความรู้ 
2.ใบงาน 
3.ใบปฏิบัติงาน 
4.ใบมอบหมายงาน 
ประเมิน 
ผ่าน 
แผนการจัดการเรียนรู้ 
สิ้นสุด 
ไม่ผ่าน 
1 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
2 
หลักสูตรการอาชีวศึกษา 
สา นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีหน้าที่โดยตรงในการจัดการศึกษาวิชาชีพเพื่อพัฒนา 
กา ลังคนระดับฝีมือ ระดับผู้ชา นาญการเฉพาะสาขาวิชาชีพ(ระดับเทคนิค)และระดับเทคโนโลยีสายปฏิบัติการ 
ให้สอดคล้องกับตลาดแรงงาน สภาพเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม สามารถเป็น 
ผู้ปฏิบัติงาน หัวหน้างานนักเทคโนโลยีสายปฏิบัติการหรือเป็นผู้ประกอบการและประกอบอาชีพอิสระได้ 
โดยเป็นการแก้ปัญหาสร้างองค์ความรู้ในอาชีพ มีบุคลิกภาพ คุณธรรม จริยธรรมที่ดี 
การพัฒนาหลักสูตรการอาชีวศึกษาเป็นการนา มาตรฐานอาชีพหรือมาตรฐานสมรรถนะไปพัฒนาสู่ 
มาตรฐานการศึกษาวิชาชีพในรูปของกรอบคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพ แล้วพัฒนาเป็นหลักสูตรการอาชีวศึกษา 
และจาการที่สา นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้มีกา หนดกรอบมาตรฐานคุณวุฒิการอาชีวศึกษา พ.ศ. 
2554 เพื่อเป็นกรอบมาตรฐานในการกา หนดกรอบคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพ ระดับสาขาวิชาให้สถานศึกษา 
หรือสถาบันการอาชีวศึกษาใช้เป็นกรอบในการพัฒนาหรือปรับปรุงหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนและ 
พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้สามารถผลิตผู้สา เร็จการศึกษาที่มีคุณภาพและเพื่อประโยชน์ต่อการรับรอง 
มาตรฐานคุณวุฒิผู้สา เร็จการศึกษา ประกอบด้วย คุณวุฒิระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพระยะสั้น ระดับ 
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นสูง และระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสาย 
ปฏิบัติการ โดยคุณภาพผู้สา เร็จการศึกษาทุกระดับคุณวุฒิ ต้องครอบคลุมอย่างน้อย 3 ด้าน คือ ด้าน 
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ได้แก่ คุณธรรม จริยธรรม จรยาบรรณวิชาชีพ พฤติกรรมลักษณะนิสัยและทักษะ 
ทางปัญญา ด้านสมรรถนะหลักและสมรรถนะทั่วไป ได้แก่ ความรู้และทักษะการสื่อสารการใช้เทคโนโลยี 
สารสนเทศ การพัฒนาการเรียนรู้และการปฏิบัติงาน การทา งานร่วมกับผู้อื่น การใช้กระบวนการทาง 
วิทยาศาสตร์ การประยุกต์ใช้ตัวเลข การจัดการและการพัฒนางาน และด้านสมรถนะวิชาชีพ ได้แก่ 
ความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะในสาขาวิชาชีพสู่การปฏิบัติจริง รวมทั้งประยุกต์สู่อาชีพ 
ทั้งนี้ สา นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจะนา กรอบมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ ไป 
พัฒนาเป็นกรอบคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพสาขาวิชาแต่ละระดับคุณวุฒิ เพื่อสถานศึกษาหรือสถาบันการ 
อาชีวศึกษาจะได้ใช้แนวทางในการพัฒนาหรือปรับปรุงรายละเอียดของหลักสูตร และจัดการเรียนการสอน 
เพื่อให้คุณภาพของผู้สา เร็จการศึกษาในสาขาวิชาของระดับคุณวุฒิเดียวกันมีมาตรฐานที่เทียบเคียงกันได้ โดย 
มีขั้นตอนในการดา เนินการตามแผนภาพดังนี้ 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
3 
ผู้รับผิดชอบ ภารกิจ/กิจกรรม เอกสารทเี่กยี่วข้อง/เอกสารทไี่ด้ 
การกาหนดสาขา 
ที่จะพัฒนาหลักสูตร 
- ข้อมูลอาชีพและความต้องการกา ลังคนจาก 
ผลการวิจัย/ผลสา รวจ/BOI/สภาอุตสาหกรรม 
สภาวิชาชีพ ฯลฯ 
- ข้อมูลความต้องการและจา นวนผู้เรียน 
- ความพร้อมของสถานศึกษา/สถาบัน 
กรอบคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพ 
ระดับ.....สาขาวิชา........ 
การพัฒนา 
หลักสูตรการอาชีวศึกษา 
- มาตรฐานอาชีพ/มาตรฐานสมรรถนะ 
- มาตรฐานการศึกษาวิชาชีพ 
- จา นวนหน่วยกิตและโครงสร้างหลักสูตร 
- เนื้อหาสาระสา คัญของหลักสูตร 
- การนา กรอบคุณวุฒิ ฯ สู่การปฏิบัติ 
- กรอบมาตรฐานหลักสูตร 
- กรอบคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพ ระดับ 
- จุดประสงค์สาขาวิชา 
- โครงสร้างหลักสูตร ระดับ สาขาวิชา 
- รายวิชาแต่ละหมวดวิชาตามโครงสร้าง 
- ร่างหลักสูตร พร้อมแผ่นบันทึกข้อมูล 
- เอกสารประกอบการขออนุมัติหลักสูตร 
การขออนุมัติหลักสูตร 
ขั้นตอนการดา เนินการพัฒนาหลักสูตรการอาชีวศึกษา 
สานักงานคณะกรรมการ 
การอาชีวศึกษา และ 
สถานศึกษา/สถาบัน 
คณะกรรมการที่แต่งตั้ง 
โดย สอศ. 
และผู้เชี่ยวชาญในอาชีพ 
คณะกรรมการ 
พัฒนาหลักสูตร 
ของสถานศึกษา/สถาบัน 
สอศ./คณะกรรมการ 
การอาชีวศึกษา 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
4 
การวิเคราะห์หลักสูตรรายวิชา 
การเขียนแผนการเรียนรู้จะต้องนา ข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ มาทา การวิเคราะห์เพื่อหาหัวข้อ 
เรื่อง จากนั้นทา การวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง ซึ่งจะทา ในรูปขอบเขตของเนื้อหาที่ต้องการเรียนรู้ 
แหล่งข้อมูล 
หัวข้อเรื่อง 
หัวข้อเรื่อง 
หัวข้อเรื่อง 
ขอบเขตและรายละเอียดของเนื้อหา 
แหล่งข้อมูลที่ครูไปสืบค้น คือ หลักสูตรรายวิชา ซึ่งประกอบด้วยจุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานวิชา 
คา อธิบายรายวิชา ในทางปฏิบัติครูจึงต้องนา เอาคา อธิบายรายวิชามาทา การวิเคราะห์เนื้อหา หัวข้อเรื่อง 
(Topic) ที่ต้องจัดการเรียนรู้ ฉะนั้นต้องทา การวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง (Topic Analysis) หรือวิเคราะห์โครงสร้าง 
ของวิชา ซึ่งจะทา ให้ทราบขอบเขตและรายละเอียดของเนื้อหาวิชาที่ต้องจัดการเรียนรู้ 
ความจาเป็นในการวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง 
การเขียนแผนการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสิ่งที่จะต้องทา คือ จะต้องแยก 
ย่อยเนื้อหาต่างๆ ให้ชัดเจนและจัดแบ่งหัวข้อเรื่องตามลา ดับความยากง่ายของเนื้อหา ต้องคา นึงกับความ 
เปลี่ยนแปลงของหัวข้อเรื่องและรายละเอียดของเนื้อหาอยู่ตลอดเวลา เนื้อหาข้อมูลที่ทันสมัยเป็นปัจจุบันมา 
จัดการเรียนรู้ 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
5 
แหล่งข้อมูลที่ช่วยในการวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง 
คา อธิบายรายวิชาเป็นแหล่งข้อมูลหลักที่จะทา ให้ทราบว่าวิชานั้นๆ ต้องเรียนรู้อะไรบ้าง แต่ก็ยังไม่ 
เพียงพอจา เป็นต้องใช้แหล่งข้อมูลให้มากที่สุดมาช่วยในการวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง บางครั้งอาจต้องเพิ่มหัวข้อ 
เรื่องที่สา คัญและต้องสู่เป้าไปอีก ซึ่งแหล่งข้อมูลต่างๆที่ใช้ในการวิเคราะห์มีดังนี้ 
1. คา อธิบายรายวิชา 
2. ผู้เชี่ยวชาญ 
3. ผู้ชา นาญงาน 
4. ประสบการณ์ของครูผู้สอน 
5. หนังสือ ตา ราและเอกสารต่างๆ 
การวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง (Topic Analysis) 
การวิเคราะห์แยกย่อยหัวข้อเรื่อง(ชื่อวิชา) เพื่อกา หนดรายละเอียดเนื้อหาที่จะใช้ในการเรียนรู้ในการ 
แยกย่อยหัวข้อเรื่องเพื่อกา หนดรายการเนื้อหาสา คัญจะแบ่งการแยกออกเป็น หัวข้อหลัก ( Main Element)และ 
จากหัวข้อหลักแยกย่อยเป็นหัวข้อย่อย (Element) 
หัวข้อหลัก (Main Element) ความรู้หลัก (Main Knowledge) 
= 
= 
หัวข้อย่อย (Element) ความรู้ย่อย (Knowledge) 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
6 
การวิเคราะห์หัวข้อเรื่องโดยทั่วไปสามารถวิเคราะห์ได้ 2 แบบ คือ 
1. การวิเคราะห์หัวข้อเรื่องแบบแผนภูมิลา ดับ (Scalar Pattern) 
หัวข้อเรื่อง 
(รหัส ชื่อวิชา) 
หัวข้อหลัก 
(หน่วย) 
หัวข้อหลัก 
(หน่วย) 
หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย 
2. การวิเคราะห์หัวข้อเรื่องแบบแผนภูมิปะการัง (Coral Pattern) 
หัวข้อหลัก 
(หน่วย) 
หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย 
หัวข้อเรื่อง 
(รหัส ชื่อวิชา) 
หัวข้อหลัก 
หัวข้อหลัก 
หัวข้อหลัก 
หัวข้อหลัก 
ย่อยย่อย 
ย่อย 
หัวข้อหลัก หัวข้อหลัก 
หัวข้อย่อย 
หัวข้อย่อย 
หัวข้อย่อย 
หัวข้อย่อย 
หัวข้อย่อย 
หัวข้อย่อย 
หัวข้อย่อย 
หัวข้อย่อย 
หัวข้อย่อย 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
7 
หลักจากการวิเคราะห์หัวข้อเรื่องเสร็จสิ้น โดยใช้แผนภูมิลา ดับ (Scalar Pattern) หรือแผนภูมิปะการัง 
(Coral Pattern) จะได้รายละเอียดของหัวข้อในรูปของหัวข้อหลัก ( Main Element) และหัวข้อย่อย ( Element) 
ซึ่งถ้าจะให้เห็นภาพได้ง่ายควรนา มาเขียนเรียบเรียงใหม่ในรูปแบบตามตรง ดังนี้ 
ตารางรายละเอียดหัวข้อเรื่อง 
หัวข้อหลัก (Main Element) หัวข้อย่อย (Element) 
1. ……….…………………………………….... 
……….…………………………………….... 
……….…………………………………….... 
……….…………………………………….... 
……….…………………………………….... 
2. ……….…………………………………….... 
……….…………………………………….... 
……….…………………………………….... 
……….…………………………………….... 
……….…………………………………….... 
3. ……….…………………………………….... 
……….…………………………………….... 
……….…………………………………….... 
……….…………………………………….... 
……….…………………………………….... 
1.1 ……….…………………………………….. 
1.2 ……….…………………………………….. 
1.3 ……….…………………………………….. 
1.4 ……….…………………………………….. 
1.5 ……….…………………………………….. 
2.1 ……….…………………………………….. 
2.2 ……….…………………………………….. 
2.3 ……….…………………………………….. 
2.4 ……….…………………………………….. 
2.5 ……….…………………………………….. 
3.1 ……….…………………………………….. 
3.2 ……….…………………………………….. 
3.3 ……….…………………………………….. 
3.4 ……….…………………………………….. 
3.5 ……….…………………………………….. 
การวิเคราะห์หัวข้อเรื่องนา ไปเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมนั้น โดยปกติจะนา หัวข้อย่อย ( Element) 
มาเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ถ้านาหัวข้อย่อยมาเขียนแล้ว ละเอียดมากเกินไปก็จะใช้หัวข้อหลัก 
(Main Element) มาเขียนแทน 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
8 
ขั้นตอนการวิเคราะห์หัวข้อเรื่องเพื่อเขียนจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 
หัวข้อเรื่อง 
(รหัส วิชา) 
หัวข้อหลัก หัวข้อหลัก หัวข้อหลัก 
หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย 
จุดประสงค์ 
เชิงพฤติกรรม 
จุดประสงค์ 
เชิงพฤติกรรม 
ประโยชน์ในการวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง 
จุดประสงค์ 
เชิงพฤติกรรม 
1) เขียนจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมได้ชัดเจน 
2) รวมเนื้อหาและขอบเขตได้ชัดเจน 
3) ค้นคว้าเนื้อหาได้ตรงจุดและสะดวก 
4) ออกแบบและเขียนแผนการเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น 
5) เลือกวิธีการเรียนรู้ได้ง่ายและเหมาะสม 
6) สามารถสรุปความคิดรวบยอดสา คัญได้ดี 
7) การวัดและประเมินผลมีความเที่ยงตรง 
จุดประสงค์ 
เชิงพฤติกรรม 
จุดประสงค์ 
เชิงพฤติกรรม 
จุดประสงค์ 
เชิงพฤติกรรม 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
9 
สรุปขั้นตอนการวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง 
13 
หัวข้อเรื่อง 
วิเคราะห์หัวข้อเรื่อง 
เขียน Pattern 
เขียนตารางรายละเอียดหัวข้อเรื่อง 
ออกแบบและวางแผนการเรียนรู้ 
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 
เนื้อหา 
วิธีการสอน สื่อการสอน 
วัดผลและประเมินผล 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
10 
ทฤษฎีการเรียนรู้ของบลูม 
ทฤษฎีการเรียนรู้ เบนจามิน บลูมและคณะ (Bloom et al, 1956) 
ได้จา แนกจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ออกเป็น 3 ด้าน คือ 
1. ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) 
2. ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) 
3. ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) 
พุทธิพิสัย (Cognitive Domain) 
พฤติกรรมด้านสมองเป็นพฤติกรรมเกี่ยวกับสติปัญญา ความรู้ ความคิด ความเฉลียวฉลาด 
ความสามารถในการคิดเรื่องราวต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นความสามารถทางสติปัญญา 
การเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) 
แบ่งการเรียนรู้เป็น 6 ระดับ 
การประเมินค่า 
การสังเคราะห์ 
การวิเคราะห์ 
การนาไปใช้ 
ความเข้าใจ 
ความรู้ที่เกิดจากความจา 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
11 
ด้านพุทธิพิสัย (พฤติกรรมด้านสมอง) (Cognitive Domain) 
ความรู้ 
(Knowledge) 
สามารถในการจา ความรู้ต่างๆที่ได้เรียนรู้มา 
ความเข้าใจ 
(Comprehension) 
สามารถในการแปลความ ขยายความในสิ่งที่ได้เรียนรู้ 
การนาไปใช้ 
(Application) 
สามารถในการใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้มาก่อให้เกิดสิ่งใหม่ 
การวิเคราะห์ 
(Analysis) 
สามารถในการแยกความรู้ออกเป็นส่วน 
ทา ความเข้าใจแต่ละส่วน 
ว่าสัมพันธ์ หรือแตกต่างกันอย่างไร 
การสังเคราะห์ 
(Synthesis) 
สามารถในการรวมความรู้ต่างๆ 
หรือประสบการณ์ต่างๆให้เกิดเป็นสิ่งแปลกใหม่ 
การประเมินค่า 
(Evaluation) 
สามารถในการตัดสินคุณค่าอย่างมีเหตุผล 
พฤติกรรมทางพุทธิพิสัย 6 ระดับ ได้ 
1. ความรู้ ความสามารถในการเก็บรักษามวลประสบการณ์ต่างๆ จากการที่ได้รับรู้ไว้และระลึกสิ่งนั้น 
ได้เมื่อต้องการเปรียบดังเทปบันทึกเสียงหรือวีดิทัศน์ที่สามารถเก็บเสียงและภาพของเรื่องราวต่างๆ 
ได้ สามารถเปิดฟังหรือดูภาพเหล่านั้นได้ เมื่อต้องการ 
2. ความเข้าใจ เป็นความสามารถในการจับใจความสา คัญของสื่อ และสามารถแสดงออกมาในรูปของ 
การแปลความ ตีความ คาดคะเน ขยายความหรือการกระทา อื่นๆ 
3. การนาความรู้ไปใช้เป็นขั้นที่ผู้เรียนสามารถนา ความรู้ ประสบการณ์ไปใช้ในการแก้ปัญหาใน 
สถานการณ์ต่างๆได้ ซึ่งจะต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ จึงจะสามารถนา ไปใช้ได้ 
4. การวิเคราะห์ ผู้เรียนสามารถคิดหรือแยกแยะเรื่องราวสิ่งต่างๆ ออกเป็นส่วนย่อยเป็นองค์ประกอบที่ 
สา คัญได้และมองเห็นความสัมพันธ์ของส่วนที่เกี่ยวข้องกัน ความสามารถในการวิเคราะห์จะ 
แตกต่างกันไปแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
12 
5. การสังเคราะห์ ความสามารถในการที่ผสมผสานส่วนย่อยๆ เข้าเป็นเรื่องราวเดียวกันอย่างมีระบบ 
เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ที่สมบูรณ์และดีกว่าเดิม อาจเป็นการถ่ายทอดความคิดออกมาให้ผู้อื่นเข้าใจได้ง่าย 
การกา หนดวางแผนวิธีการดา เนินงานขึ้นใหม่ หรืออาจจะเกิดความคิดในอันที่จะสร้างความสัมพันธ์ 
ของสิ่งที่เป็นนามธรรมขึ้นมาในรูปแบบหรือแนวคิดใหม่ 
6. การประเมินค่า เป็นความสามารถในการตัดสิน ตีราคา หรือสรุปเกี่ยวกับคุณค่าของสิ่งต่างๆออกมา 
ในรูปของคุณธรรมอย่างมีกฎเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นไปตามเนื้อหาสาระในเรื่องนั้นๆ หรือ 
อาจเป็นกฎเกณฑ์ที่สังคมยอมรับก็ได้ 
ตัวอย่างคากริยา พุทธิพิสัย 
ระดับ จุดประสงค์ทั่วไป จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 
ความรู้ รู้ศัพท์ รู้ข้อเท็จจริง รู้กฎเกณฑ์ 
รู้ลา ดับขั้น รู้ความสา คัญ รู้วิธีการ 
บรรยาย ชี้แจง เขียน บอก เลือก ชี้บ่ง จัด 
จา แนก ระบุ ค้นหา วิธีปฏิบัติ 
ความเข้าใจ เข้าใจข้อเท็จจริง ตีความหมาย 
คาดการณ์ที่เกิดขึ้น 
เรียบเรียง แปลง แปล เปลี่ยน อธิบาย 
ขยายความ เขียนใหม่ สรุป 
การนาไปใช้ แก้ปัญหา คา นวณ ตรวจสอบ 
ประมาณการ พิจารณา เลือก 
เลือก เปลี่ยนวิธีการ คา นวณ ปรับปรุง ใช้ 
เขียนแผนงาน แก้ปัญหา ผลิต แต่ง 
วิเคราะห์ วิเคราะห์ จา แนก ชี้บ่ง เปรียบเทียบ จัดประเภท ระบุ 
หาความสัมพันธ์ 
สังเคราะห์ สังเคราะห์ เขียนแผนผัง วางแผน กา หนด ขอบข่าย ประเมิน 
พิจารณา 
ประเมินค่า ประเมิน ตัดสิน เปรียบเทียบกับมาตรฐาน 
เปรียบเทียบกับเกณฑ์ 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
13 
การเรียนรู้ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) 
แบ่งการเรียนรู้เป็น 5 ระดับ 
ทาได้อย่างเป็นธรรมชาติ 
ทาได้ต่อเนื่องประสนกัน 
ทาได้ถูกต้องแม่นยา 
ทาได้ตามแบบ 
เลียนแบบ 
ทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) (พฤติกรรมด้านกล้ามเนื้อประสาท) 
พฤติกรรมที่บ่งถึงความสามารถในการปฏิบัติงานได้อย่างคล่องแคล่วชา นิชา นาญ ซึ่งแสดงออกมาได้ 
โดยตรงมีเวลาและคุณภาพของงานเป็นตัวชี้ระดับของทักษะ 
พฤติกรรมด้านทักษะพิสัย ประกอบด้วย พฤติกรรมย่อยๆ 5 ขั้น ดังนี้ 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
14 
ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) 
เลียนแบบ 
(Imitiation) 
สังเกตและทา ตาม 
ทา ได้ตามแบบ 
(Manipulation) 
ทา ตามได้ 
ทา ได้ถูกต้องแม่นยา 
(Precision) 
ทา ได้ถูกต้อง ควบคุมและลดความผิดพลาด 
ทา ได้ต่อเนื่องประสานกัน 
(Articulation) 
เรียนรู้วิธีการถูกต้องตามขั้นตอน 
ทา ได้อย่างเป็นธรรมชาติ 
(Naturalization) 
แสดงพฤติกรรมเป็นประจา เป็นอัตโนมัติจนกลายเป็นธรรมชาติ 
1. เลียนแบบ เป็นการให้ผู้เรียนได้รับรู้หลักการปฏิบัติที่ถูกต้อง หรือเป็นการเลือกหาตัวแบบที่สนใจ 
2. ทา ได้ตามแบบ เป็นพฤติกรรมที่ผู้เรียนพยายามฝึกตามแบบที่ตนสนในและพยายามทา ซ้า 
เพื่อที่จะให้เกิดทักษะตามแบบที่ตนสนใจให้ได้ หรือสามารถปฏิบัติงานได้ตามข้อเสนอแนะ 
3. ทา ได้ถูกต้องแม่นยา พฤติกรรมสามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องชี้แนะเมื่อได้ 
กระทา ซ้า แล้ว ก็พยายามหาความถูกต้องในการปฏิบัติ 
4. ทา ได้ต่อเนื่องประสานกัน หลังจากตัดสินใจเลือกรูปแบบที่เป็นของตัวเองจะกระทา ตามรูปแบบนั้น 
อย่างต่อเนื่อง จนปฏิบัติงานที่ยุ่งยากซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง คล่องแคล่ว การที่ผู้เรียนเกิด 
ทักษะได้ ต้องอาศัยการฝึกฝนและกระทา อย่างสม่า เสมอ 
5. ทา ได้อย่างเป็นธรรมชาติ พฤตกรรมที่ได้จากการฝึกอย่างต่อเนื่อง จนสามารถปฏิบัติได้คล่องแคล่ว 
ว่องไวโดยอัตโนมัติ เป็นไปอย่างธรรมชาติ 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
15 
การเรียนรู้ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) (พฤติกรรมด้านจิตใจ) 
แบ่งการเรียนรู้เป็น 5 ระดับ 
พัฒนาเป็นลักษณะนิสัย 
จัดระบบคุณค่า 
เห็นคุณค่า 
ตอบสนอง 
รับรู้ 
ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) 
รับรู้ 
(Receive) 
ตั้งใจสนในสิ่งเร้า 
ตอบสนอง 
(Respond) 
มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่จัดขึ้น 
เห็นคุณค่า 
(Value) 
รู้สึกชอบซึ้งยินดีและมีเจตคติที่ดีต่อสิ่งนั้น 
จัดระบบคุณค่า 
(Organize) 
เห็นความแตกต่างในคุณค่า แก้ไขความขัดแย้ง 
สร้างปรัชญาหรือเป้าหมายให้กับตนเอง 
พัฒนาเป็นลักษณะนิสัย 
(Characterize) 
ทา ให้เป็นคุณลักษณะหนึ่งของชีวิต 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
16 
ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) (พฤติกรรมด้านจิตใจ) 
ค่านิยม ความรู้สึก ความซาบซึ้ง ทัศนคติ ความเชื่อ ความสนใจและคุณธรรม พฤติกรรมด้านนี้อาจ 
ไม่เกิดขึ้นทันที ดังนั้น การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และสอดแทรกสิ่ง 
ที่ดีงามอยู่ตลอดเวลา จะทา ให้พฤติกรรมของผู้เรียนเปลี่ยนไปในแนวทางที่พึงประสงค์ได้ 
จะประกอบด้วย พฤติกรรมย่อยๆ 5 ระดับ ได้ 
1. รับรู้ เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นต่อปรากฏการณ์หรือสิ่งเร้าอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นไปในลักษณะ 
ของการแปลความหมายของสิ่งเร้านั้นว่าคืออะไร แล้วจะแสดงออกมาในรูปของความรู้สึกที่ 
เกิดขึ้น 
2. ตอบสนอง เป็นการกระทา ที่แสดงออกมาในรูปของความเต็มใจ ยินยอมและพอใจต่อสิ่งเร้านั้น 
ซึ่งเป็นการตอบสนองที่เกิดจากการเลือกสรรแล้ว 
3. เห็นคุณค่า การเลือกปฏิบัติในสิ่งที่เป็นที่ยอมรับกันในสังคมการยอมรับนับถือในคุณค่านั้นๆ 
หรือปฏิบัติตามในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนกลายเป็นความเชื่อ แล้วจึงเกิดทัศนคติที่ดีในสิ่งนั้น 
4. จัดระบบคุณค่า การสร้างแนวคิด จัดระบบของค่านิยมที่เกิดขึ้นโดยอาศัยความสัมพันธ์ ถ้าเข้า 
กันได้ก็จะยึดต่อไปแต่ถ้าขัดกันอาจไม่ยอมรับอาจจะยอมรับค่านิยมใหม่โดยยกเลิกค่านิยมเก่า 
5. พัฒนาเป็นลักษณะนิสัย การนา ค่านิยมที่ยึดถือมาแสดงพฤติกรรมที่เป็นนิสัยประจา ตัว ให้ 
ประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่ถูกต้องดีงามพฤติกรรมด้านนี้ จะเกี่ยวกับความรู้สึกและจิตใจ ซึ่งจะเริ่ม 
จากการได้รับรู้จากสิ่งแวดล้อม แล้วจึงเกิดปฏิกิริยาโต้ตอบ ขยายกลายเป็นความรู้สึกด้านต่างๆ 
จนกลายเป็นค่านิยมและยังพัฒนาต่อไปเป็นความคิด อุดมคติ ซึ่งจะควบคุมทิศทางพฤติกรรม 
แผนการเรียนรู้ 
แผนการเรียนรู้ หมายถึง การจัดเตรียมการสอนไว้ล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรโดยผู้สอนจะกา หนด 
ขั้นตอนการพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม สอดคล้องและเป็นไปตามจุดมุ่งหมายของ 
หลักสูตรตามสภาพของผู้เรียน เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์และท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ 
ในการออกแบบการเขียนแบบการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสา คัญ ครูผู้สอนควรคา นึงถึงหลักสูตร โดย 
มีการวิเคราะห์หลักสูตรรายวิชา ลักษณะรายวิชา ซึ่งประกอบด้วย จุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานรายวิชา 
คา อธิบายรายวิชา เพื่อจัดทา แผนการเรียนรู้และกา หนดจุดประสงค์การเรียนรู้ในแต่ละครั้งที่จัดการเรียนรู้ 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
17 
นอกจากนี้จะต้องคา นึงถึงผู้เรียน การพัฒนาประสบการณ์ในการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ การประเมินผลที่ 
สอดคล้องและครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้ 
องค์ประกอบสาคัญของแผนการเรียนรู้ 
1. สาระสา คัญ 
2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (มาตรฐานการเรียนรู้) 
- จุดประสงค์ทั่วไป 
- จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 
3. สาระการรับรู้ 
4. สื่อการเรียนรู้ 
5. กระบวนการจัดการรับรู้ 
6. กระบวนการวัดผลและประเมินผล 
7. แหล่งการเรียนรู้ 
8. บันทึกหลังการสอน 
1. สาระสาคัญ 
สาระสา คัญหรือแนวคิดหลัก หมายถึง ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับเนื้อหา หลักการ วิธีการ ที่ต้องการ 
จะให้ผู้เรียนได้รับหลังจากเรียนรู้ในหน่วยหรือเรื่องนั้นๆทั้งในด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการและเจต 
คติ 
วัฒนาพร (2543 : 88) ได้ระบุวิธีเขียนสาระสา คัญไว้ดังนี้ 
1) พิจารณาจุดประสงค์การเรียนรู้ว่าต้องการให้ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมหรือความรู้ ความสามารถด้าน 
ใด 
2) พิจารณาเนื้อหา เป็นการเรียนการสอนเกี่ยวกับเรื่องอะไร เรียนรู้แล้วจะได้รับความรู้ความเข้าใจ 
ความคิดรวบยอดอะไร หรือได้รับประโยชน์คุณค่าใดจาการเรียนเนื้อหานั้น 
3) นา ผลการเรียนพิจารณาจุดประสงค์การเรียนรู้มาประกอบกับการพิจารณาเนื้อหาแล้วเขียนเป็น 
ข้อสรุปเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้เรียนจะเรียนรู้หรือสิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับจากการเรียน 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
18 
2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 
ในกระบวนการเรียนรู้สิ่งที่สา คัญที่สุดคือ การให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม 
โดยให้ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมนั้นๆออกมา ซึ่งจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมมีความจา เป็นดังนี้ 
1) เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ 
2) วัดผลและประเมินผลผู้เรียนว่าได้บรรลุตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ 
3) ผู้เรียนได้รู้ว่าหลังจากผ่านการเรียนรู้แล้ว เขาจะรู้อะไรและปฏิบัติได้ 
4) ผู้สอนได้สอนบรรลุตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ 
จุดประสงค์การเรียนรู้ แบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ (พิสิฐ,2550:79-81) 
1. จุดประสงค์ทั่วไป ( General Objectives) เป็นจุดประสงค์ที่ตั้งขึ้นในแนวกว้างๆว่าเมื่อมีการ 
เรียนรู้แล้ว ผู้เรียนจะรู้อะไรบ้างเข้าใจนา ไปใช้อะไรได้บ้าง 
2. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ( Behavioral Objectives) เป็นจุดประสงค์ที่ตั้งขึ้นเพื่อแสดงให้เห็น 
อย่างชัดเจนว่า หลังจากมีการเรียนรู้แล้ว ผู้เรียนจะสามารถแสดงพฤติกรรมที่วัดได้ สังเกตได้ 
ออกมาอย่างไรบ้าง ภายใต้เงื่อนไขอย่างไร 
ส่วนประกอบของจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ประกอบด้วยสาระสาคัญ 3 ส่วน ดังนี้ 
1. พฤติกรรมขั้นสุดท้ายหรือพฤติกรรมที่คาดหวัง (Terminal Behavior or Expected Behavior) 
2. เงื่อนไขหรือสถานการณ์ (Condition or Situation) 
3. เกณฑ์หรือมาตรฐาน (Criteria or Standard) 
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 
พฤติกรรมที่คาดหวัง เงื่อนไขหรือสถานการณ์ เกณฑ์หรือมาตรฐาน 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
19 
พฤติกรรมขั้นสุดท้ายหรือพฤติกรรมที่คาดหวัง (Terminal Behavior or Expected Behavior) 
พฤติกรรมขั้นสุดท้ายหรือพฤติกรรมที่คาดหวัง หมายถึง การแสดงออกของผู้เรียนเมื่อสิ้นสุด 
บทเรียนแล้วผู้เรียนแสดงพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาก ซึ่งพฤติกรรมที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องวัดได้ หรือ 
สังเกตได้การระบุพฤติกรรมที่คาดหวังจึงต้องใช้คา กิริยาที่บ่งถึง การกระทา ( Action Verb) เช่น บอกอธิบาย 
สร้าง คา นวณ แก้ไข อ่าน วาด วัด จา แนก เป็นต้น 
พฤติกรรมที่คาดหวังนี้ บางครั้งจะเรียกว่า Task ซึ่งหมายถึงงานหรือภารกิจที่ผู้เรียนแสดงออกมาใน 
รูปของความสามารถ 
ตัวอย่าง 
- บอกส่วนประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้อง 
- อธิบายความหมายของบทเรียนคอมพิวเตอร์ได้ 
- จา แนกหน่วยความจา ที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ได้ คา นวณค่ากระแสไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านได้ 
- พิมพ์ดีดภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้ไม่น้อยกว่า 70 คา ต่อนาที 
- วิเคราะห์ส่วนประกอบของไมโครโพรเซสเซอร์ได้ 
เงื่อนไขหรือสถานการณ์ (Condition or Situation) 
เป็นข้อความที่บ่งถึงสิ่งแวดล้อมสถานการณ์หรือเงื่อนไขที่จะให้ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมที่คาดหวัง 
ออกมา สามารถกา หนด เงื่อนไขได้ 3 ลักษณะ ดังนี้ 
1. ลักษณะที่เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาบทเรียน เช่น 
1.1 อธิบายหลักการทา งานของ UPS 
1.2 จา แนกส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ 
2. ลักษณะของสิ่งเร้าเพื่อให้ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมที่คาดหวังออกมา เช่น 
2.1 เมื่อกา หนดฟลอมชนิดต่างๆให้ สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการถ่ายรูปได้ 
2.2 เมื่อกา หนดวงจรไฟฟ้ามาให้ สามารถอ่านแบบไม่ถูกต้อง 
3. ลักษณะที่เป็นเงื่อนไขของการกระทา เช่น 
3.1 คา นวณเลขเศษส่วน โดยใช้เครื่องคิดเลขได้ 
3.2 ต่อวงจรไฟฟ้าแสงสว่างในบ้านได้ โดยไม่ต้องดูแบบ 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
20 
เกณฑ์หรือมาตรฐาน (Criteria or Standard) 
เป็นส่วนที่ใช้ระบุความสามารถขั้นต่า ของผู้เรียนว่าจะต้องทา ได้เพียงใด จึงจะยอมรับได้ว่าผู้เรียน 
บรรลุตามวัตถุประสงค์แล้ว การกา หนด เกณฑ์สามารถทา ได้หลายลักษณะดังนี้ 
1. ลักษณะความเร็วหรือการบ่งเวลาลักษณะนี้เป็นการวัดระดับความชา นาญมากกว่าความรู้ เช่น 
1.1 ท่องสูตรคูณตั้งแต่แม่ 1 ถึงแม่ 12 ได้จบภายในเวลา 3 นาที 
1.2 ต่อมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับเข้ากับระบบไฟฟ้าได้ภายใน 5 นาที 
2. ลักษณะปริมาณที่ต่า ที่สุด เช่น 
2.1 คา นวณโจทย์เรื่องบัญญัติไตรยางศ์ได้ 8 ใน 10 ข้อ 
2.2 บอกอาการของคอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัสได้อย่างน้อย 5 อาการ 
3. เป็นเกณฑ์ที่ไม่สามารถระบุในเชิงความเร็วหรือปริมาณได้ เช่น 
3.1 อธิบายความหมายของบทเรียนคอมพิวเตอร์ได้ 
3.2 ระบุองค์ประกอบที่มีผลต่อความเร็วในการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ได้ 
3. สาระการเรียนรู้ 
สาระการเรียนรู้หรือเนื้อหาสาระเป็นส่วนรายละเอียดที่เชื่อมโยงกับสาระสา คัญและสอดคล้องกับ 
จุดประสงค์การเรียนรู้ ประกอบกับทฤษฎี หลักการ วิธีการ แนวปฏิบัติ ครูจะต้องศึกษาจากแหล่งความรู้ 
ต่างๆ มาพิจารณาให้เหมาะสมกับระดับของผู้เรียนการเขียนเนื้อสาระการเรียนรู้ ตามหัวข้อเรื่อง หากมีเนื้อหา 
มากเกินไปควรเขียนเฉพาะหัวข้อหลักในเรื่องที่ตั้งไว้ ส่วนรายละเอียดให้นา ไปใส่ในภาคผนวกท้ายแผนการ 
เรียนรู้ หรือจะจะแยกไว้เป็นเอกสารประกอบการวัดการเรียนรู้ก็ได้ สาระการเรียนรู้จะต้องครอบคลุม 
จุดประสงค์การเรียนรู้ทั้ง 3 ด้าน (Taxonomy of Educational Objectives : Bloom and others) 
1) ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) เป็นจุดประสงค์ที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนด้านสติปัญญา 
(Intellectual Outcome) คือความรู้ ความเข้าใจ ทักษะการใช้ความคิด (Thinking Skill) 
2) ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) เป็นจุดประสงค์ที่มุ่งพัฒนาพฤติกรรมที่เกี่ยวกับการ 
กระทา (Doing) ของผู้เรียนเกี่ยวกับทักษะความชา นาญ โดยมุ่งพัฒนากล้ามเนื้อหรืออวัยวะต่างๆ 
ของร่างกาย 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
21 
3) ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) เป็นจุดประสงค์ที่มุ่งพัฒนาพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในจิตใจของ 
ผู้เรียนเกี่ยวข้องกับความรู้สึกหรืออารมณ์ เช่น เจตคติ ( Attitude) ค่านิยม ( Value) ความสนใจ 
(Interest) และความซาบซึ้ง (Appreciation) ซึ่งอาจสังเกตได้จากท่าทีที่แสดงออกมา 
4. สื่อการเรียนรู้ 
ประสาทการรับรู้ข้อมูลของมนุษย์ (ไพโรจน์ และอัคครัตน์,2552) 
อื่น ๆ 
10 % 0 % 
การมองเห็น 
75 % 
การฟัง 
15 % 
ประสาทการรับรู้ของมนุษย์ 
ประสาทการรับรู้ของมนุษย์ จะสามารถรับรู้ข้อมูลได้จาก 
- การมองเห็น ประมาณ 75 % 
- การฟัง ประมาณ 15 % 
- อื่นๆ เช่น ดมกลิ่น ชิม และสัมผัส ประมาณ 10 % 
ดังนั้นการเรียนรู้ จึงมีความจา เป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ผู้เรียนได้รับเนื้อหาในการเรียนมากที่สุด สื่อ 
การเรียนรู้จึงมีความจา เป็นอย่างยิ่งต่อกระบวนการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ จะนา ให้เกิดการ 
เรียนรู้ได้มากทั้งนี้เพราะว่า สื่อการเรียนรู้ ช่วยให้ผู้เรียนรับเนื้อหาเข้าไปจดจา ในสมองเป็นคนรู้ได้มากขึ้น 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
22 
สื่อการเรียนรู้ (Instructional media) 
สื่อการเรียนรู้ หมายถึง สิ่งต่างๆที่ใช้เป็นเครื่องมือหรือช่องทางสา หรับทา ให้การสอนของครูถึง 
ผู้เรียนและทา ให้ผู้เรียนเรียนรู้ตามจุดประสงค์ได้เป็นอย่างดี 
การจาแนกชนิดของสื่อต่างๆ 
สื่อการสอนที่นิยมใช้สา หรับการเรียนรู้ในปัจจุบัน สามารถสรุปได้ดังนี้ 
- คอมพิวเตอร์ 
- เครื่องขยายภาพจากคอมพิวเตอร์ ( LCD) 
- เครื่องขยายเสียง/เทปบันทึกเสียง 
- ไวท์บอร์ด 
- โทรทัศน์/วีดีทัศน์/ภาพยนตร์ 
- ของจริง 
- หนังสือ/ตา รา/ใบเนื้อหา/คู่มือต่างๆ 
- หุ่นจา ลอง 
ข้อมูลย้อนกลับ 
ว(งFeedback) 
จรสื่อ 
ผู้ส่งสาร 
(Sender) 
สื่อ 
(Media) 
ช่องทาง 
(Channel) 
ผู้รับสาร 
(Receiver) 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
23 
ขั้นตอนในการออกแบบสื่อการเรียนรู้ 
คาพูด(อธิบาย) รูปภาพนิ่ง รูปภาพเคลื่อนไหว ของจริง 
- คาบรรยาย 
- ไวท์บอร์ด 
- ใบเนื้อหา 
- เครื่องบันทักเสียง 
- คอมพิวเตอร์ 
- ข้อความ 
จุดประสงค์ 
ประเด็นสาคัญของเนื้อหา 
สื่อการเรียนรู้ 
- ภาพนิ่ง 
- ใบเนื้อหา 
- คอมพิวเตอร์ 
- แผ่นภาพ 
- แผ่นภาพ 
- โมเดล 
พลาสติก 
- วีดิโอ 
- ภาพยนตร์ 
- คอมพิวเตอร์ 
ภาพเคลื่อนไหว 
- ของจริง 
- วีดิโอ 
- ภาพยนตร์ 
- On demand 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
24 
การออกแบบ การสร้าง และวิธีการใช้สื่อการสอนแต่ละประเภท 
สื่อการสอน การออกแบบ การสร้าง วิธีการใช้สื่อ 
ของจริง - พิจารณาของจริงที่จะ 
นาไปใช้สอน 
- ขนย้ายง่าย 
- เป็นอุปกรณ์ที่ไม่เกิด 
อันตรายต่อผู้เรียน 
- หาได้ง่ายไม่ต้องลงทุน 
ใหม่ 
- จัดหาด้วยการซื้อ 
- จัดหาจากของที่มีอยู่ 
และสอดคล้องกับ 
จุดประสงค์ 
- จัดหาให้มีจา นวนมาก 
และเพียงพอ 
- เลือกขนาด และ 
น้า หนักที่เหมาะสม 
- ให้เห็นและสัมผัสได้จริง 
- แจกให้ผู้เรียนได้ 
ทดลองและมีปริมาณ 
เพียงพอ 
- เก็บทันทีหลังจากใช้ 
งานเสร็จ 
ใบเนื้อหา/ตา รา - เน้นให้มีรูปภาพที่แสดง 
รายละเอียดเพียงพอ 
- ข้อความต้องสอดคล้อง 
กับจุดประสงค์หรือเนื้อหา 
ที่สอน 
- มีแบบฝึกหัดทุกบทเรียน 
- จัดพิมพ์ต้นฉบับ 
- ถ่ายเอกสาร/Off SET 
- จัดทา รูปเล่ม 
- จัดทา ให้มีเนื้อหาครบ 
ตามวัตถุประสงค์ 
การสอน 
- แจกก่อน/ขณะสอน/ 
หลังสอน 
- แจกผู้เรียนให้ครบทุกคน 
- หากมีกิจกรรมให้ 
แจกหลังการสอน 
- หลังการสอน ควรมี 
แบบฝึกหัดให้ทา 
ไวท์บอร์ด - วางแผนการสอนล่วงหน้า 
ที่จะเขียนข้อความลงบน 
ไวท์บอร์ด 
- จัดแบ่งพื้นที่กระดาษให้ 
เหมาะสม 
- วางแผนการลบและการ 
เขียนใหม่ที่สอดคล้องกัน 
- มีรูปภาพที่ต้องเขียน 
ซับซ้อนจะต้องเตรียม 
ไว้ก่อน 
- เขียนข้อความให้ 
ชัดเจน อ่านง่าย 
- เน้นใช้ปากกาสีต่างๆ 
จา แนกเนื้อหา 
- รูปภาพที่วาดไว้ก่อน 
จะต้องปิดบังไว้ก่อน 
- ใช้เสริมให้ผู้เรียนมี 
กิจกรรมในการเรียน 
การสอน 
- ไม่ยืนบังผู้เรียน 
- หันหน้าไปทางผู้เรียน 
- การเขียนขณะสอน 
แต่ละครั้งไม่เกิน 
2–3 นาที 
หุ่นจา ลอง - ออกแบบให้ใช้วัสดุที่หา 
ง่ายในท้องถิ่น 
- ใช้วัสดุเหลือใช้ หรือ 
Recycle 
- เลือกซื้อที่มีขายใน 
ท้องตลาด 
- การจัดทา จะต้อง 
ลงทุนไม่มากและ 
- ต้องแสดงให้เห็นถึก 
ส่วนที่จา เป็น และ 
อธิบายส่วนที่ซับซ้อน 
ได้ชัดเจน 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
25 
สื่อการสอน การออกแบบ การสร้าง วิธีการใช้สื่อ 
- ต้องออกแบบให้ครอบคลุม 
จุดประสงค์การสอน 
- ใช้เป็นตัวแทนของจริง 
จา แนกสาระที่ 
สา คัญได้หลาย 
จุดประสงค์ 
- สามารถใช้งานได้ 
ต่อเนื่องและถอด 
ประกอบได้ 
- สามารถจา แนกและ 
ถอดชิ้นส่วน แล้ว 
จะต้องประกอบเข้าที่ 
เดิมได้ 
แผ่นภาพ - พิจาณาจากเนื้อหาที่ 
ซับซ้อนและมองเห็น 
ภายนอกไม่ได้ 
- ภาพที่ใช้เกิดจากคู่มือ 
อุปกรณ์เครื่องมือที่แสดง 
ภาพ ตัดแสดงภายในได้ 
ชัดเจน 
- จา แนกชิ้นส่วนภายในได้ 
ชัดเจนและสื่ออย่างอื่น 
ทา ไม่ได้ 
- แผ่นภาพที่เป็นกระดาษ 
ควรอัดกรอบใส่แผ่น 
พลาสติกใส เพื่อความ 
คงทน 
- ชิ้นส่วนที่แสดงภายใน 
ของรูปภาพควรเน้น 
จา แนกเป็นสีที่ชัดเจน 
- ครอบคลุมจุดประสงค์ 
การสอนที่จา เป็น 
- ใช้สถานการณ์ที่ไม่มีสื่อ 
อื่นหรือสื่ออื่นแสดงได้ไม่ 
ชัดเจน 
- ใช้แขวนที่มั่นคงและมีไม้ชี้ 
ขณะสอน 
- ให้ผู้เรียนมีกิจกรรมในการ 
สอนได้ดีขึ้น 
ทีวี วีดิทัศน์และ 
ภาพยนตร์ 
- จัดทา บท SCRIP ให้ 
สอดคล้องกับจุดประสงค์ 
- เชื่อมโยงและการจัดต่อ 
VDO.TAPE ให้ได้เนื้อหา 
ที่สอดคล้องความต้องการ 
- การสร้างบทเรียนต้องมี 
กิจกรรมให้ผู้เรียนได้แสดง 
ความคิดเห็น 
- การใช้กล้องถ่าย VDO 
จะต้องเน้นความชัดเจน 
ของภาพ 
- จะต้องลา ดับภาพตาม 
ขั้นตอนของเนื้อหา 
- จัดหา VDO.TAPE ที่มีไว้ 
แล้วจะต้องเลือกมาตัดต่อ 
ให้เหมาะสมเวลาหรือ 
บรรยายกับจา นวนคน ๆ 
มากๆ 
- ใช้กับเครื่องเล่น VDO 
และ TV 
- ก่อนเปิดฉาย VDO 
จะต้องชี้แจงจุดประสงค์ 
ให้ชัดเจน 
- ไม่ควรให้ดูตลอด ควร 
หยุดแล้วซักถาม 
- การเลือก VDO ที่มีอยู่ 
แล้วจะต้องตรวจสอบและ 
เตรียมการไว้ล่วงหน้า 
คอมพิวเตอร์ - ออกแบบบทเรียนที่จะใช้ 
สร้างโปรแกรมต่างๆ เช่น 
- Power Point 
- ผู้สร้างบทเรียนจะต้อง 
เข้าใจโปรแกรมที่ใช้เป็น 
อย่างดี 
- ใช้แสดงบนจอ Monitor 
สา หรับผู้สอนและขยาย 
ภาพโดย LCD 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
26 
- Auto wear 
- Tool Book 
- Movie 
- Photoshop 
- Flash 
- การออกแบบบทเรียนที่ 
เลือกโปรแกรมที่ 
สอดคล้องกับ Version ที่ 
สามารถใช้ร่วมกับ 
คอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ 
- ผู้สร้างกับผู้สอนบทเรียน 
จะต้องเข้าใจโปรแกรม 
การสร้างและคัดเลือก 
ข้อความ 
และรูปภาพได้เหมาะสม 
- การสร้างจะต้องคา นึงถึง 
บทเรียนที่เรียงลา ดับและ 
ครอบคลุม 
- การสร้างจะต้องคา นึงถึง 
บทเรียนที่เรียงลา ดับและ 
ครอบคลุมจุดประสงค์ได้ 
ทั้งหมด 
- ผู้ใช้จะต้องจัดเตรียม 
โปรแกรมและเรียกใช้ 
ล่วงหน้าให้พร้อมก่อน 
- ผู้ใช้จะต้องสามารถใช้งาน 
กับเครื่องคอมพิวเตอร์ 
และเครื่อง LCD เป็น 
อย่างดี 
- การชี้ภาพหรือบทความ 
จะต้องใช้ Laser ชี้ 
5. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 
กระบวนการจัดการเรียนรู้ คือกระบวนการเรียนรู้หรือประสบการณ์ต่างๆที่ผู้สอนจัดให้ผู้เรียนเกิด 
การเรียนรู้ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กา หนดไว้ การจัดกระบวนการเรียนรู้นอกจากจะเน้นผู้เรียนเป็นสา คัญ 
แล้วจะต้องคา นึงถึงวิธีการจัดการเรียนรู้ตามธรรมชาติของแต่ละกลุ่มสาระ รวมทั้งทักษะกระบวนการและ 
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ลักษณะของกิจกรรมหรือกระบวนการจัดการเรียนรู้ สรุปได้ดังนี้ 
1) สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และสาระการเรียนรู้ 
2) ฝึกกระบวนการสา คัญให้ผู้เรียน 
3) เหมาะสมกับธรรมชาติของวัยของผู้เรียน 
4) เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาของชีวิตจริง 
5) เน้นผู้เรียนเป็นสา คัญ 
6. กระบวนการวัดผลและประเมินผล 
กระบวนการวัดผลและประเมินผล เป็นการตรวจสอบว่าผู้เรียนบรรลุจุดประสงค์ในการเรียนรู้ที่ 
กา หนดไว้ในแผนการเรียนรู้หรือไม่ 
การวัดผล หมายถึง กระบวนการให้ได้มาซึ่งตัวเลขหรือสัญลักษณ์ที่มีความหมายแทนคุณลักษณะ 
ของสิ่งที่วัด โดยใช้เครื่องมือที่มีความเหมาะสมและมีคุณภาพ 
การประเมินผล หมายถึง การวินิจฉัยตัดสินคุณค่าของบุคคล สิ่งของหรืออื่นๆอย่างมีหลักเกณฑ์ 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
27 
วิธีการวัดผลที่เหมาะสมกับนิสัยแบบต่างๆ 
การเลือกวิธีการวัดผล ต้องเลือกให้เหมาะสมกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ทั้ง 3 ด้าน 
คือ พุทธิพิสัย ทักษะพิสัย จิตพิสัย 
คุณสมบัติของเครื่องมือวัดผล 
1) มีความเที่ยงตรง ( Validity) ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด วัดได้ตรงระดับของการเรียนรู้ใน 
จุดประสงค์ 
2) มีความเป็นปรนัย ( Objectivity) คา ถามชัดเจน คา ตอบแน่นอน ตรวจง่าย แปลความหมายของ 
คะแนนชัดเจน 
3) มีความสะดวกในการกระทา ( Practicality) การจัดพิมพ์ถูกต้อง ชัดเจน จัดหน้ากระดาษคา ถาม 
และคา ตอบเหมาะสม 
ชนิดของข้อสอบ 
จากัดคาถาม ไม่จากัดคา ตอบ เติมคา ถูก/ผิด จับคู่ เลือกคา 
7. แหล่งการเรียนรู้ 
ชนิดของข้อสอบ 
อัตนัย ปรนัย 
แหล่งการเรียนรู้ หมายถึง ประสบการณ์ แหล่งข้อมูล ข่าวสาร เทคโนโลยีสารสนเทศ แหล่งความรู้ 
วิทยาการต่างๆ ที่เสริมสร้างให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการรับรู้ ใฝ่รู้ใฝ่เรียน แสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้ตาม 
อัธยาศัยอย่างต่อเนื่อง 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
28 
8. บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 
เป็นการบันทึกผลการจัดการเรียนรู้ตามแผนการเรียนรู้ ควรบันทึกดังนี้ 
1) ผลการเรียนรู้ตามที่กา หนดจุดประสงค์การเรียนรู้ ในแผนการเรียนรู้ ซึ่งส่วนใหญ่มี 3 ด้าน ด้าน 
องค์ความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ และด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 
2) ปัญหาอุปสรรค ควรบันทึกสาเหตุที่การจัดการเรียนรู้ไม่เป็นไปตามจุดประสงค์การเรียนรู้ที่วาง 
ไว้ น่าจะมีสาเหตุมาจากอะไร 
3) ข้อเสนอแนะ บันทึกข้อเสนอแนะในการปรับปรุงต่อผู้เรียนที่ไม่ผ่านและที่ผ่านกิจกรรมตาม 
จุดประสงค์การเรียนรู้ 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
29 
ใบช่วยสอน (Instruction Sheet) 
ใบช่วยสอน เป็นเอกสารที่ครูเรียบเรียง ค้นคว้าและเขียนขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ประกอบการ 
เรียนรู้ ในกระบวนการเรียนรู้ ครูจะต้องเป็นผู้วางแผนและจัดการเรียนรู้ให้ครบถ้วนตามหลักสูตรที่กา หนด 
ด้วยวิชาทฤษฎีและปฏิบัติการใช้ใบช่วยสอนทา ให้ผู้เรียน เรียนรู้งานง่ายและรวดเร็วดังนี้ 
ใบช่วยสอนที่ใช้โดยนาไปมี 4 ชนิด (สถาพร, 2553 : 92-98) 
1) ใบความรู้ (Information Sheet) 
2) ใบงาน (Job Sheet) 
3) ใบปฏิบัติงาน (Operation Sheet) 
4) ใบมอบหมายงาน (Assignment Sheet) 
1) ใบความรู้ (Information Sheets) 
เป็นเอกสารที่รวบรวมเนื้อหาสาระที่สัมพันธ์กับวิชาชีพนั้นๆ เมื่อผู้เรียนจะต้องนา มาศึกษาก่อน 
ปฏิบัติงาน 
ลักษณะที่สาคัญของใบความรู้ 
1. รหัส ชื่อวิชา 
2. ชื่อหน่วยการเรียนรู้ 
3. ชื่อใบความรู้ จา นวนชั่วโมงและเวลาที่ใช้ 
4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 
4.1 จุดประสงค์ทั่วไป 
4.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 
5. เนื้อหาสาระ (มีภาพ แผนภูมิประกอบ) 
6. แบบฝึกหัด,คา ถาม,เฉลย 
7. เฉลย 
8. เอกสารอ้างอิง 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
30 
2) ใบงาน (Job Sheet) 
เป็นเอกสารที่แสดงรายละเอียดการปฏิบัติงานตั้งแต่ เริ่มต้นจนถึงสิ้นสุด ใบงานจะบอก 
รายการเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้กับงานวิธีนั้นๆ พร้อมทั้งคา แนะนา วิธีการปฏิบัติงานให้เกิดความ 
ปลอดภัยอย่างชัดเจน 
ลักษณะที่สาคัญของใบความรู้ 
1. รหัส ชื่อวิชา 
2. ชื่อหน่วยการเรียนรู้ 
3. ชื่อเรื่อง 
4. จา นวนชั่วโมงและเวลาที่ใช้ 
5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 
5.1 จุดประสงค์ทั่วไป 
5.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 
6. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน (มีภาพประกอบ) 
7. เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ 
8. ข้อควรระวัง 
9. มอบงาน 
10. วัดผล/ประเมินผล 
11. เอกสารอ้างอิง 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
31 
3) ใบปฏิบัติงาน (Operation Sheet) 
เป็นเอกสารใบช่วยสอนที่ใช้ควบคู่กับใบงาน เป็นเอกสารเสริมในกรณีที่ใบงานมีการตัดขั้นตอน 
หรือมีช่วงของการปฏิบัติงานขาดหายไป ใบปฏิบัติงานจะเสริมให้ใบงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องและประสบ 
ผลสา เร็จตามความคาดหวังของครู 
ลักษณะที่สาคัญของใบปฏิบัติงาน ได้แก่ 
1. รหัส ชื่อวิชา 
2. ชื่อหน่วยการเรียนรู้ 
3. เรื่อง/ชื่องาน 
4. จา นวนชั่วโมงและเวลาที่ใช้ 
5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 
5.1 จุดประสงค์ทั่วไป 
5.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 
6. เครื่องมือ/อุปกรณ์/วัสดุ 
7. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน(ควรมีภาพประกอบ) 
8. ข้อควรระวัง 
9. ข้อเสนอแนะ 
10. การประเมินผล 
11. หนังสืออ้างอิง 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
32 
4) ใบมอบหมายงาน (Assignment Sheet) 
เป็นเอกสารที่เขียนเฉพาะหัวข้อ หัวเรื่อง หัวงาน หรือแสดงรายละเอียดอื่นที่ผู้สอนกา หนดให้ 
ผู้เรียนไปค้นคว้า ดูงาน ทา รายงาน ทา แบบฝึกหัด 
ลักษณะที่สาคัญของใบงานมอบหมาย ได้แก่ 
1. ชื่อวิชา 
2. ชื่อหน่วยการเรียนรู้ 
3. ชื่องาน 
4. จุดประสงค์มอบหมายงาน 
5. แนวทางการปฏิบัติงาน 
6. แหล่งค้นคว้า 
7. คา ถาม หรือปัญหา 
8. กา หนดเวลาส่งงาน 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
33 
รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้ 
ควรอนุญาตให้ใช้ในการสอนได้ 
ควรปรับปรุงเกี่ยวกับ.................................................................................................................................. 
………………………………………………………………………………………………………………… 
…………………………………………... 
ลงชื่อ (…………………………………………) 
หวัหนา้หมวด/หัวหน้าแผนก 
………./………./………. 
เห็นควรอนุญาตให้ใช้ในการสอนได้ 
ควรปรับปรุงดังเสนอ 
อื่นๆ……………………………………………………………………………………………… 
……………………………………………………………………………………………………………. 
………………………………………… 
ลงชื่อ (…………………………………………) 
รองผอู้า นวยการฝ่ายวชิาการ 
………./………./………. 
ควรอนุญาตให้ใช้ในการสอนได้ 
อื่นๆ....................................................................................................................... 
ลงชื่อ (…………………………………………) 
ผอู้า นวยการ 
………./………./……… 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
34 
บรรณานุกรม 
พิสิฐ เมธาภัทร, การพัฒนาหลักสูตรอาชีวะศึกษาและเทคนิคศึกษา. กรุงเทพฯ: 
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 2550. 
ไพโรจน์ สถิตยากรและอัครัตน์ พูลกระจ่าง,การพัฒนาหลักสูตรรายวิชา. กรุงเทพฯ: 
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 2550. 
มนต์ชัย มนูธาราม, คู่มือการเขียนแผนการเรียนรู้. นครราชสีมา: เอกสารการฝึกอบรม 
ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, 2555 
สถาพร ไมตรีจิตร์, การเขียนแผนการสอนและการเขียนใบช่วยสอน. พิมพ์ครั้งที่ 3 
กรุงเทพ : ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาชีวศึกษา 3,2544 
สา นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, มาตรฐานการประเมินสื่อการเรียนรู้และ 
นวัตกรรมอาชีวศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ, 2553 
ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคผนวก
คู่มือการเขียนแผนการเรียนรู้ ศูนย์ส่งเสริม
คู่มือการเขียนแผนการเรียนรู้ ศูนย์ส่งเสริม
คู่มือการเขียนแผนการเรียนรู้ ศูนย์ส่งเสริม
คู่มือการเขียนแผนการเรียนรู้ ศูนย์ส่งเสริม
คู่มือการเขียนแผนการเรียนรู้ ศูนย์ส่งเสริม
คู่มือการเขียนแผนการเรียนรู้ ศูนย์ส่งเสริม
คู่มือการเขียนแผนการเรียนรู้ ศูนย์ส่งเสริม

More Related Content

What's hot

แบบทดสอบ 100 ข้อ
แบบทดสอบ 100  ข้อแบบทดสอบ 100  ข้อ
แบบทดสอบ 100 ข้อหรร 'ษๅ
 
แบบประเมินงานนำเสนอในรูปแบบออนไลน์
แบบประเมินงานนำเสนอในรูปแบบออนไลน์แบบประเมินงานนำเสนอในรูปแบบออนไลน์
แบบประเมินงานนำเสนอในรูปแบบออนไลน์kruood
 
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑พัน พัน
 
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบwanchalerm sotawong
 
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6Napadon Yingyongsakul
 
ตัวอักษรแบบของกระทรวงศึกษาธิการ
ตัวอักษรแบบของกระทรวงศึกษาธิการตัวอักษรแบบของกระทรวงศึกษาธิการ
ตัวอักษรแบบของกระทรวงศึกษาธิการNapadon Yingyongsakul
 
มาตราแม่ กน
มาตราแม่ กนมาตราแม่ กน
มาตราแม่ กนkhemmarat
 
ระเบียบวิธีวิจัย.ppt
ระเบียบวิธีวิจัย.pptระเบียบวิธีวิจัย.ppt
ระเบียบวิธีวิจัย.pptAey Usanee
 
รูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณี
รูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณีรูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณี
รูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณีParichart Ampon
 
รายงานทางวิชาการเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม
รายงานทางวิชาการเรื่อง หัวใจชายหนุ่มรายงานทางวิชาการเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม
รายงานทางวิชาการเรื่อง หัวใจชายหนุ่มGuntima NaLove
 
วิทย์ฯเพิ่มเติมเทอม1ม1
วิทย์ฯเพิ่มเติมเทอม1ม1วิทย์ฯเพิ่มเติมเทอม1ม1
วิทย์ฯเพิ่มเติมเทอม1ม1Niwat Yod
 
กำหนดการโครงการต่าง ๆ1
กำหนดการโครงการต่าง ๆ1กำหนดการโครงการต่าง ๆ1
กำหนดการโครงการต่าง ๆ1Looktan Kp
 
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6sapatchanook
 
แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2
แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2
แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2iberryh
 
แบบทดสอบไทย สะกดคำ ป1
แบบทดสอบไทย สะกดคำ ป1แบบทดสอบไทย สะกดคำ ป1
แบบทดสอบไทย สะกดคำ ป1Mayuree Kung
 

What's hot (20)

เล่มที่ 6 คำอุทาน
เล่มที่ 6 คำอุทานเล่มที่ 6 คำอุทาน
เล่มที่ 6 คำอุทาน
 
แบบทดสอบ 100 ข้อ
แบบทดสอบ 100  ข้อแบบทดสอบ 100  ข้อ
แบบทดสอบ 100 ข้อ
 
แบบประเมินงานนำเสนอในรูปแบบออนไลน์
แบบประเมินงานนำเสนอในรูปแบบออนไลน์แบบประเมินงานนำเสนอในรูปแบบออนไลน์
แบบประเมินงานนำเสนอในรูปแบบออนไลน์
 
การใช้ a/an/some/any
การใช้ a/an/some/any การใช้ a/an/some/any
การใช้ a/an/some/any
 
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
 
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
 
การปฐมนิเทศ
การปฐมนิเทศการปฐมนิเทศ
การปฐมนิเทศ
 
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
 
ตัวอักษรแบบของกระทรวงศึกษาธิการ
ตัวอักษรแบบของกระทรวงศึกษาธิการตัวอักษรแบบของกระทรวงศึกษาธิการ
ตัวอักษรแบบของกระทรวงศึกษาธิการ
 
มาตราแม่ กน
มาตราแม่ กนมาตราแม่ กน
มาตราแม่ กน
 
ระเบียบวิธีวิจัย.ppt
ระเบียบวิธีวิจัย.pptระเบียบวิธีวิจัย.ppt
ระเบียบวิธีวิจัย.ppt
 
รูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณี
รูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณีรูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณี
รูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณี
 
รายงานทางวิชาการเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม
รายงานทางวิชาการเรื่อง หัวใจชายหนุ่มรายงานทางวิชาการเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม
รายงานทางวิชาการเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม
 
วิทย์ฯเพิ่มเติมเทอม1ม1
วิทย์ฯเพิ่มเติมเทอม1ม1วิทย์ฯเพิ่มเติมเทอม1ม1
วิทย์ฯเพิ่มเติมเทอม1ม1
 
มารยาทไทย1
มารยาทไทย1มารยาทไทย1
มารยาทไทย1
 
กำหนดการโครงการต่าง ๆ1
กำหนดการโครงการต่าง ๆ1กำหนดการโครงการต่าง ๆ1
กำหนดการโครงการต่าง ๆ1
 
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
 
Verb to_..
Verb  to_..Verb  to_..
Verb to_..
 
แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2
แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2
แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2
 
แบบทดสอบไทย สะกดคำ ป1
แบบทดสอบไทย สะกดคำ ป1แบบทดสอบไทย สะกดคำ ป1
แบบทดสอบไทย สะกดคำ ป1
 

Similar to คู่มือการเขียนแผนการเรียนรู้ ศูนย์ส่งเสริม

การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอิงมาตรฐาน
การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอิงมาตรฐานการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอิงมาตรฐาน
การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอิงมาตรฐานkruthai40
 
รายงานการศึกษาค้นคว้า ครูชำนาญการ
รายงานการศึกษาค้นคว้า ครูชำนาญการรายงานการศึกษาค้นคว้า ครูชำนาญการ
รายงานการศึกษาค้นคว้า ครูชำนาญการkanidta vatanyoo
 
Slideshare
SlideshareSlideshare
Slidesharepaewwaew
 
การออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม
การออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมการออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม
การออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมPrasert Boon
 
บทบาทของอาจารย์ด้านการเรียนการสอน
บทบาทของอาจารย์ด้านการเรียนการสอนบทบาทของอาจารย์ด้านการเรียนการสอน
บทบาทของอาจารย์ด้านการเรียนการสอนPrachyanun Nilsook
 
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพแผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพpronprom11
 
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพแผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพpronprom11
 
Backward Design ผอ เบญจลักษณ์
Backward  Design ผอ เบญจลักษณ์Backward  Design ผอ เบญจลักษณ์
Backward Design ผอ เบญจลักษณ์krujulee
 
Faculty And Curriculum Development (For Net Generation)
Faculty And Curriculum Development (For Net Generation)Faculty And Curriculum Development (For Net Generation)
Faculty And Curriculum Development (For Net Generation)Denpong Soodphakdee
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9benty2443
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9nattawad147
 

Similar to คู่มือการเขียนแผนการเรียนรู้ ศูนย์ส่งเสริม (20)

01 ตอนที่ 1 word
01 ตอนที่ 1 word01 ตอนที่ 1 word
01 ตอนที่ 1 word
 
การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอิงมาตรฐาน
การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอิงมาตรฐานการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอิงมาตรฐาน
การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอิงมาตรฐาน
 
งานส่งคศ.3
งานส่งคศ.3งานส่งคศ.3
งานส่งคศ.3
 
รายงานการศึกษาค้นคว้า ครูชำนาญการ
รายงานการศึกษาค้นคว้า ครูชำนาญการรายงานการศึกษาค้นคว้า ครูชำนาญการ
รายงานการศึกษาค้นคว้า ครูชำนาญการ
 
Slideshare
SlideshareSlideshare
Slideshare
 
การออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม
การออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมการออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม
การออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม
 
นำเสนอ
นำเสนอนำเสนอ
นำเสนอ
 
Cjpowerpoint2
Cjpowerpoint2Cjpowerpoint2
Cjpowerpoint2
 
โครงงานพอเพียงเลี้ยงชีพ
โครงงานพอเพียงเลี้ยงชีพโครงงานพอเพียงเลี้ยงชีพ
โครงงานพอเพียงเลี้ยงชีพ
 
บทบาทของอาจารย์ด้านการเรียนการสอน
บทบาทของอาจารย์ด้านการเรียนการสอนบทบาทของอาจารย์ด้านการเรียนการสอน
บทบาทของอาจารย์ด้านการเรียนการสอน
 
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพแผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
 
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพแผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
แผนการจัดการเรียนรู้การงาน วพ
 
Backward Design ผอ เบญจลักษณ์
Backward  Design ผอ เบญจลักษณ์Backward  Design ผอ เบญจลักษณ์
Backward Design ผอ เบญจลักษณ์
 
Faculty And Curriculum Development (For Net Generation)
Faculty And Curriculum Development (For Net Generation)Faculty And Curriculum Development (For Net Generation)
Faculty And Curriculum Development (For Net Generation)
 
การออกแบบหน่วยการเรียนรู้
การออกแบบหน่วยการเรียนรู้การออกแบบหน่วยการเรียนรู้
การออกแบบหน่วยการเรียนรู้
 
9 170819173701
9 1708191737019 170819173701
9 170819173701
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
9 170819173701
9 1708191737019 170819173701
9 170819173701
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 

คู่มือการเขียนแผนการเรียนรู้ ศูนย์ส่งเสริม

  • 1. คู่มือการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ โดย ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หน่วยศึกษานิเทศก์ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
  • 2. คำนำ คู่มือการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ ฉบับนี้ได้ดา เนินการจัดทา ขึ้นโดย ศูนย์ส่งเสริมและ พัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สา นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในลักษณะ ของคู่มือเกี่ยวกับขั้นตอนในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ประกอบด้วยขั้นตอนการวิเคราะห์ หลักสูตรรายวิชา การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ การสร้างใบช่วยสอน (Instruction Sheet) และ แบบฝึกหัดการปฏิบัติการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ คู่มือฉบับนี้เน้นองค์ประกอบที่สา คัญของการ เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ข้อความ หรือประโยคที่กระชับและสั้นได้ใจความเพื่อให้ครู สามารถศึกษาค้นคว้าและพัฒนาการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง เอกสารฉบับนี้สา เร็จลงได้ด้วยความร่วมมืออย่างยิ่งจาก คณะผู้บริหาร ครูผู้สอน ศึกษานิเทศก์ นักวิชาการ ซึ่งได้อุทิศ สติปัญญา ความรู้และประสบการณ์ ตลอดจนสละเวลามา ช่วยเพื่อพัฒนาคู่มือการเขียนแผนการเรียนรู้ จึงขอขอบคุณผู้มีส่วนร่วมทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2556 ก สำรบัญ ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 3. เรื่อง หน้ำ คา นา ก สารบัญ ข ขั้นตอนการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ 1 หลักสูตรการอาชีวศึกษา 2 การวิเคราะห์หลักสูตรรายวิชา 4 ทฤษฎีการเรียนรู้ของบลูม 10 แผนการจัดการเรียนรู้ 16 องค์ประกอบสา คัญของแผนการจัดการเรียนรู้ 17 ใบช่วยสอน (Instruction Sheets) 29 รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้ 33 บรรณานุกรม 34 ภาคผนวก - คา สั่งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ 24/2554 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตร : กาจัดทา คู่มือแผนการเรียนรู้สมรรถนะการ ประเมินหลักสูตร ปวช. 2545/ 2546 และ ปวส.2546 - คา สั่งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ 11/2555 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองรูปแบบการพัฒนานิเทศภายในเชิงระบบและคู่มือการ จัดทา แผนการเรียนรู้ของสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ข ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 4. ขั้นตอนการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ เริ่มต้น หลักสูตรรายวิชา (สอศ.) *จุดประสงค์รายวิชา *มาตรฐานรายวิชา *คา อธิบายรายวิชา 1.วิเคราะห์หลักสูตรรายวิชา *วิเคราะห์หัวข้อเรื่อง *รายละเอียดหัวข้อเรื่อง วิเคราะห์ เนื้อหาวิชา จุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานรายวิชา วิเคราะห์ระดับ พุทธิพิสัย ทักษะพิสัย จิตพิสัย กา หนดการเรียนรู้ 2.เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ 1. สาระสาคัญ 2.จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.สาระการเรียนรู้ 4.สื่อการเรียนรู้ 5.กระบวนการเรียนรู้ 6.การวัดผลและประเมินผล 7.แหล่งการเรียนรู้ 8.บันทึกหลังการเรียนรู้ 3.ใบช่วยสอน 1.ใบความรู้ 2.ใบงาน 3.ใบปฏิบัติงาน 4.ใบมอบหมายงาน ประเมิน ผ่าน แผนการจัดการเรียนรู้ สิ้นสุด ไม่ผ่าน 1 ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 5. 2 หลักสูตรการอาชีวศึกษา สา นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีหน้าที่โดยตรงในการจัดการศึกษาวิชาชีพเพื่อพัฒนา กา ลังคนระดับฝีมือ ระดับผู้ชา นาญการเฉพาะสาขาวิชาชีพ(ระดับเทคนิค)และระดับเทคโนโลยีสายปฏิบัติการ ให้สอดคล้องกับตลาดแรงงาน สภาพเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม สามารถเป็น ผู้ปฏิบัติงาน หัวหน้างานนักเทคโนโลยีสายปฏิบัติการหรือเป็นผู้ประกอบการและประกอบอาชีพอิสระได้ โดยเป็นการแก้ปัญหาสร้างองค์ความรู้ในอาชีพ มีบุคลิกภาพ คุณธรรม จริยธรรมที่ดี การพัฒนาหลักสูตรการอาชีวศึกษาเป็นการนา มาตรฐานอาชีพหรือมาตรฐานสมรรถนะไปพัฒนาสู่ มาตรฐานการศึกษาวิชาชีพในรูปของกรอบคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพ แล้วพัฒนาเป็นหลักสูตรการอาชีวศึกษา และจาการที่สา นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้มีกา หนดกรอบมาตรฐานคุณวุฒิการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2554 เพื่อเป็นกรอบมาตรฐานในการกา หนดกรอบคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพ ระดับสาขาวิชาให้สถานศึกษา หรือสถาบันการอาชีวศึกษาใช้เป็นกรอบในการพัฒนาหรือปรับปรุงหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนและ พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้สามารถผลิตผู้สา เร็จการศึกษาที่มีคุณภาพและเพื่อประโยชน์ต่อการรับรอง มาตรฐานคุณวุฒิผู้สา เร็จการศึกษา ประกอบด้วย คุณวุฒิระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพระยะสั้น ระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นสูง และระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสาย ปฏิบัติการ โดยคุณภาพผู้สา เร็จการศึกษาทุกระดับคุณวุฒิ ต้องครอบคลุมอย่างน้อย 3 ด้าน คือ ด้าน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ได้แก่ คุณธรรม จริยธรรม จรยาบรรณวิชาชีพ พฤติกรรมลักษณะนิสัยและทักษะ ทางปัญญา ด้านสมรรถนะหลักและสมรรถนะทั่วไป ได้แก่ ความรู้และทักษะการสื่อสารการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ การพัฒนาการเรียนรู้และการปฏิบัติงาน การทา งานร่วมกับผู้อื่น การใช้กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ การประยุกต์ใช้ตัวเลข การจัดการและการพัฒนางาน และด้านสมรถนะวิชาชีพ ได้แก่ ความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะในสาขาวิชาชีพสู่การปฏิบัติจริง รวมทั้งประยุกต์สู่อาชีพ ทั้งนี้ สา นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจะนา กรอบมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ ไป พัฒนาเป็นกรอบคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพสาขาวิชาแต่ละระดับคุณวุฒิ เพื่อสถานศึกษาหรือสถาบันการ อาชีวศึกษาจะได้ใช้แนวทางในการพัฒนาหรือปรับปรุงรายละเอียดของหลักสูตร และจัดการเรียนการสอน เพื่อให้คุณภาพของผู้สา เร็จการศึกษาในสาขาวิชาของระดับคุณวุฒิเดียวกันมีมาตรฐานที่เทียบเคียงกันได้ โดย มีขั้นตอนในการดา เนินการตามแผนภาพดังนี้ ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 6. 3 ผู้รับผิดชอบ ภารกิจ/กิจกรรม เอกสารทเี่กยี่วข้อง/เอกสารทไี่ด้ การกาหนดสาขา ที่จะพัฒนาหลักสูตร - ข้อมูลอาชีพและความต้องการกา ลังคนจาก ผลการวิจัย/ผลสา รวจ/BOI/สภาอุตสาหกรรม สภาวิชาชีพ ฯลฯ - ข้อมูลความต้องการและจา นวนผู้เรียน - ความพร้อมของสถานศึกษา/สถาบัน กรอบคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพ ระดับ.....สาขาวิชา........ การพัฒนา หลักสูตรการอาชีวศึกษา - มาตรฐานอาชีพ/มาตรฐานสมรรถนะ - มาตรฐานการศึกษาวิชาชีพ - จา นวนหน่วยกิตและโครงสร้างหลักสูตร - เนื้อหาสาระสา คัญของหลักสูตร - การนา กรอบคุณวุฒิ ฯ สู่การปฏิบัติ - กรอบมาตรฐานหลักสูตร - กรอบคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพ ระดับ - จุดประสงค์สาขาวิชา - โครงสร้างหลักสูตร ระดับ สาขาวิชา - รายวิชาแต่ละหมวดวิชาตามโครงสร้าง - ร่างหลักสูตร พร้อมแผ่นบันทึกข้อมูล - เอกสารประกอบการขออนุมัติหลักสูตร การขออนุมัติหลักสูตร ขั้นตอนการดา เนินการพัฒนาหลักสูตรการอาชีวศึกษา สานักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา และ สถานศึกษา/สถาบัน คณะกรรมการที่แต่งตั้ง โดย สอศ. และผู้เชี่ยวชาญในอาชีพ คณะกรรมการ พัฒนาหลักสูตร ของสถานศึกษา/สถาบัน สอศ./คณะกรรมการ การอาชีวศึกษา ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 7. 4 การวิเคราะห์หลักสูตรรายวิชา การเขียนแผนการเรียนรู้จะต้องนา ข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ มาทา การวิเคราะห์เพื่อหาหัวข้อ เรื่อง จากนั้นทา การวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง ซึ่งจะทา ในรูปขอบเขตของเนื้อหาที่ต้องการเรียนรู้ แหล่งข้อมูล หัวข้อเรื่อง หัวข้อเรื่อง หัวข้อเรื่อง ขอบเขตและรายละเอียดของเนื้อหา แหล่งข้อมูลที่ครูไปสืบค้น คือ หลักสูตรรายวิชา ซึ่งประกอบด้วยจุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานวิชา คา อธิบายรายวิชา ในทางปฏิบัติครูจึงต้องนา เอาคา อธิบายรายวิชามาทา การวิเคราะห์เนื้อหา หัวข้อเรื่อง (Topic) ที่ต้องจัดการเรียนรู้ ฉะนั้นต้องทา การวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง (Topic Analysis) หรือวิเคราะห์โครงสร้าง ของวิชา ซึ่งจะทา ให้ทราบขอบเขตและรายละเอียดของเนื้อหาวิชาที่ต้องจัดการเรียนรู้ ความจาเป็นในการวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง การเขียนแผนการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสิ่งที่จะต้องทา คือ จะต้องแยก ย่อยเนื้อหาต่างๆ ให้ชัดเจนและจัดแบ่งหัวข้อเรื่องตามลา ดับความยากง่ายของเนื้อหา ต้องคา นึงกับความ เปลี่ยนแปลงของหัวข้อเรื่องและรายละเอียดของเนื้อหาอยู่ตลอดเวลา เนื้อหาข้อมูลที่ทันสมัยเป็นปัจจุบันมา จัดการเรียนรู้ ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 8. 5 แหล่งข้อมูลที่ช่วยในการวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง คา อธิบายรายวิชาเป็นแหล่งข้อมูลหลักที่จะทา ให้ทราบว่าวิชานั้นๆ ต้องเรียนรู้อะไรบ้าง แต่ก็ยังไม่ เพียงพอจา เป็นต้องใช้แหล่งข้อมูลให้มากที่สุดมาช่วยในการวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง บางครั้งอาจต้องเพิ่มหัวข้อ เรื่องที่สา คัญและต้องสู่เป้าไปอีก ซึ่งแหล่งข้อมูลต่างๆที่ใช้ในการวิเคราะห์มีดังนี้ 1. คา อธิบายรายวิชา 2. ผู้เชี่ยวชาญ 3. ผู้ชา นาญงาน 4. ประสบการณ์ของครูผู้สอน 5. หนังสือ ตา ราและเอกสารต่างๆ การวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง (Topic Analysis) การวิเคราะห์แยกย่อยหัวข้อเรื่อง(ชื่อวิชา) เพื่อกา หนดรายละเอียดเนื้อหาที่จะใช้ในการเรียนรู้ในการ แยกย่อยหัวข้อเรื่องเพื่อกา หนดรายการเนื้อหาสา คัญจะแบ่งการแยกออกเป็น หัวข้อหลัก ( Main Element)และ จากหัวข้อหลักแยกย่อยเป็นหัวข้อย่อย (Element) หัวข้อหลัก (Main Element) ความรู้หลัก (Main Knowledge) = = หัวข้อย่อย (Element) ความรู้ย่อย (Knowledge) ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 9. 6 การวิเคราะห์หัวข้อเรื่องโดยทั่วไปสามารถวิเคราะห์ได้ 2 แบบ คือ 1. การวิเคราะห์หัวข้อเรื่องแบบแผนภูมิลา ดับ (Scalar Pattern) หัวข้อเรื่อง (รหัส ชื่อวิชา) หัวข้อหลัก (หน่วย) หัวข้อหลัก (หน่วย) หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย 2. การวิเคราะห์หัวข้อเรื่องแบบแผนภูมิปะการัง (Coral Pattern) หัวข้อหลัก (หน่วย) หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อเรื่อง (รหัส ชื่อวิชา) หัวข้อหลัก หัวข้อหลัก หัวข้อหลัก หัวข้อหลัก ย่อยย่อย ย่อย หัวข้อหลัก หัวข้อหลัก หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 10. 7 หลักจากการวิเคราะห์หัวข้อเรื่องเสร็จสิ้น โดยใช้แผนภูมิลา ดับ (Scalar Pattern) หรือแผนภูมิปะการัง (Coral Pattern) จะได้รายละเอียดของหัวข้อในรูปของหัวข้อหลัก ( Main Element) และหัวข้อย่อย ( Element) ซึ่งถ้าจะให้เห็นภาพได้ง่ายควรนา มาเขียนเรียบเรียงใหม่ในรูปแบบตามตรง ดังนี้ ตารางรายละเอียดหัวข้อเรื่อง หัวข้อหลัก (Main Element) หัวข้อย่อย (Element) 1. ……….…………………………………….... ……….…………………………………….... ……….…………………………………….... ……….…………………………………….... ……….…………………………………….... 2. ……….…………………………………….... ……….…………………………………….... ……….…………………………………….... ……….…………………………………….... ……….…………………………………….... 3. ……….…………………………………….... ……….…………………………………….... ……….…………………………………….... ……….…………………………………….... ……….…………………………………….... 1.1 ……….…………………………………….. 1.2 ……….…………………………………….. 1.3 ……….…………………………………….. 1.4 ……….…………………………………….. 1.5 ……….…………………………………….. 2.1 ……….…………………………………….. 2.2 ……….…………………………………….. 2.3 ……….…………………………………….. 2.4 ……….…………………………………….. 2.5 ……….…………………………………….. 3.1 ……….…………………………………….. 3.2 ……….…………………………………….. 3.3 ……….…………………………………….. 3.4 ……….…………………………………….. 3.5 ……….…………………………………….. การวิเคราะห์หัวข้อเรื่องนา ไปเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมนั้น โดยปกติจะนา หัวข้อย่อย ( Element) มาเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ถ้านาหัวข้อย่อยมาเขียนแล้ว ละเอียดมากเกินไปก็จะใช้หัวข้อหลัก (Main Element) มาเขียนแทน ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 11. 8 ขั้นตอนการวิเคราะห์หัวข้อเรื่องเพื่อเขียนจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม หัวข้อเรื่อง (รหัส วิชา) หัวข้อหลัก หัวข้อหลัก หัวข้อหลัก หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย หัวข้อย่อย จุดประสงค์ เชิงพฤติกรรม จุดประสงค์ เชิงพฤติกรรม ประโยชน์ในการวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง จุดประสงค์ เชิงพฤติกรรม 1) เขียนจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมได้ชัดเจน 2) รวมเนื้อหาและขอบเขตได้ชัดเจน 3) ค้นคว้าเนื้อหาได้ตรงจุดและสะดวก 4) ออกแบบและเขียนแผนการเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น 5) เลือกวิธีการเรียนรู้ได้ง่ายและเหมาะสม 6) สามารถสรุปความคิดรวบยอดสา คัญได้ดี 7) การวัดและประเมินผลมีความเที่ยงตรง จุดประสงค์ เชิงพฤติกรรม จุดประสงค์ เชิงพฤติกรรม จุดประสงค์ เชิงพฤติกรรม ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 12. 9 สรุปขั้นตอนการวิเคราะห์หัวข้อเรื่อง 13 หัวข้อเรื่อง วิเคราะห์หัวข้อเรื่อง เขียน Pattern เขียนตารางรายละเอียดหัวข้อเรื่อง ออกแบบและวางแผนการเรียนรู้ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม เนื้อหา วิธีการสอน สื่อการสอน วัดผลและประเมินผล ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 13. 10 ทฤษฎีการเรียนรู้ของบลูม ทฤษฎีการเรียนรู้ เบนจามิน บลูมและคณะ (Bloom et al, 1956) ได้จา แนกจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ออกเป็น 3 ด้าน คือ 1. ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) 2. ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) 3. ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) พุทธิพิสัย (Cognitive Domain) พฤติกรรมด้านสมองเป็นพฤติกรรมเกี่ยวกับสติปัญญา ความรู้ ความคิด ความเฉลียวฉลาด ความสามารถในการคิดเรื่องราวต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นความสามารถทางสติปัญญา การเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) แบ่งการเรียนรู้เป็น 6 ระดับ การประเมินค่า การสังเคราะห์ การวิเคราะห์ การนาไปใช้ ความเข้าใจ ความรู้ที่เกิดจากความจา ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 14. 11 ด้านพุทธิพิสัย (พฤติกรรมด้านสมอง) (Cognitive Domain) ความรู้ (Knowledge) สามารถในการจา ความรู้ต่างๆที่ได้เรียนรู้มา ความเข้าใจ (Comprehension) สามารถในการแปลความ ขยายความในสิ่งที่ได้เรียนรู้ การนาไปใช้ (Application) สามารถในการใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้มาก่อให้เกิดสิ่งใหม่ การวิเคราะห์ (Analysis) สามารถในการแยกความรู้ออกเป็นส่วน ทา ความเข้าใจแต่ละส่วน ว่าสัมพันธ์ หรือแตกต่างกันอย่างไร การสังเคราะห์ (Synthesis) สามารถในการรวมความรู้ต่างๆ หรือประสบการณ์ต่างๆให้เกิดเป็นสิ่งแปลกใหม่ การประเมินค่า (Evaluation) สามารถในการตัดสินคุณค่าอย่างมีเหตุผล พฤติกรรมทางพุทธิพิสัย 6 ระดับ ได้ 1. ความรู้ ความสามารถในการเก็บรักษามวลประสบการณ์ต่างๆ จากการที่ได้รับรู้ไว้และระลึกสิ่งนั้น ได้เมื่อต้องการเปรียบดังเทปบันทึกเสียงหรือวีดิทัศน์ที่สามารถเก็บเสียงและภาพของเรื่องราวต่างๆ ได้ สามารถเปิดฟังหรือดูภาพเหล่านั้นได้ เมื่อต้องการ 2. ความเข้าใจ เป็นความสามารถในการจับใจความสา คัญของสื่อ และสามารถแสดงออกมาในรูปของ การแปลความ ตีความ คาดคะเน ขยายความหรือการกระทา อื่นๆ 3. การนาความรู้ไปใช้เป็นขั้นที่ผู้เรียนสามารถนา ความรู้ ประสบการณ์ไปใช้ในการแก้ปัญหาใน สถานการณ์ต่างๆได้ ซึ่งจะต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ จึงจะสามารถนา ไปใช้ได้ 4. การวิเคราะห์ ผู้เรียนสามารถคิดหรือแยกแยะเรื่องราวสิ่งต่างๆ ออกเป็นส่วนย่อยเป็นองค์ประกอบที่ สา คัญได้และมองเห็นความสัมพันธ์ของส่วนที่เกี่ยวข้องกัน ความสามารถในการวิเคราะห์จะ แตกต่างกันไปแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 15. 12 5. การสังเคราะห์ ความสามารถในการที่ผสมผสานส่วนย่อยๆ เข้าเป็นเรื่องราวเดียวกันอย่างมีระบบ เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ที่สมบูรณ์และดีกว่าเดิม อาจเป็นการถ่ายทอดความคิดออกมาให้ผู้อื่นเข้าใจได้ง่าย การกา หนดวางแผนวิธีการดา เนินงานขึ้นใหม่ หรืออาจจะเกิดความคิดในอันที่จะสร้างความสัมพันธ์ ของสิ่งที่เป็นนามธรรมขึ้นมาในรูปแบบหรือแนวคิดใหม่ 6. การประเมินค่า เป็นความสามารถในการตัดสิน ตีราคา หรือสรุปเกี่ยวกับคุณค่าของสิ่งต่างๆออกมา ในรูปของคุณธรรมอย่างมีกฎเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นไปตามเนื้อหาสาระในเรื่องนั้นๆ หรือ อาจเป็นกฎเกณฑ์ที่สังคมยอมรับก็ได้ ตัวอย่างคากริยา พุทธิพิสัย ระดับ จุดประสงค์ทั่วไป จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ความรู้ รู้ศัพท์ รู้ข้อเท็จจริง รู้กฎเกณฑ์ รู้ลา ดับขั้น รู้ความสา คัญ รู้วิธีการ บรรยาย ชี้แจง เขียน บอก เลือก ชี้บ่ง จัด จา แนก ระบุ ค้นหา วิธีปฏิบัติ ความเข้าใจ เข้าใจข้อเท็จจริง ตีความหมาย คาดการณ์ที่เกิดขึ้น เรียบเรียง แปลง แปล เปลี่ยน อธิบาย ขยายความ เขียนใหม่ สรุป การนาไปใช้ แก้ปัญหา คา นวณ ตรวจสอบ ประมาณการ พิจารณา เลือก เลือก เปลี่ยนวิธีการ คา นวณ ปรับปรุง ใช้ เขียนแผนงาน แก้ปัญหา ผลิต แต่ง วิเคราะห์ วิเคราะห์ จา แนก ชี้บ่ง เปรียบเทียบ จัดประเภท ระบุ หาความสัมพันธ์ สังเคราะห์ สังเคราะห์ เขียนแผนผัง วางแผน กา หนด ขอบข่าย ประเมิน พิจารณา ประเมินค่า ประเมิน ตัดสิน เปรียบเทียบกับมาตรฐาน เปรียบเทียบกับเกณฑ์ ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 16. 13 การเรียนรู้ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) แบ่งการเรียนรู้เป็น 5 ระดับ ทาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทาได้ต่อเนื่องประสนกัน ทาได้ถูกต้องแม่นยา ทาได้ตามแบบ เลียนแบบ ทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) (พฤติกรรมด้านกล้ามเนื้อประสาท) พฤติกรรมที่บ่งถึงความสามารถในการปฏิบัติงานได้อย่างคล่องแคล่วชา นิชา นาญ ซึ่งแสดงออกมาได้ โดยตรงมีเวลาและคุณภาพของงานเป็นตัวชี้ระดับของทักษะ พฤติกรรมด้านทักษะพิสัย ประกอบด้วย พฤติกรรมย่อยๆ 5 ขั้น ดังนี้ ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 17. 14 ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) เลียนแบบ (Imitiation) สังเกตและทา ตาม ทา ได้ตามแบบ (Manipulation) ทา ตามได้ ทา ได้ถูกต้องแม่นยา (Precision) ทา ได้ถูกต้อง ควบคุมและลดความผิดพลาด ทา ได้ต่อเนื่องประสานกัน (Articulation) เรียนรู้วิธีการถูกต้องตามขั้นตอน ทา ได้อย่างเป็นธรรมชาติ (Naturalization) แสดงพฤติกรรมเป็นประจา เป็นอัตโนมัติจนกลายเป็นธรรมชาติ 1. เลียนแบบ เป็นการให้ผู้เรียนได้รับรู้หลักการปฏิบัติที่ถูกต้อง หรือเป็นการเลือกหาตัวแบบที่สนใจ 2. ทา ได้ตามแบบ เป็นพฤติกรรมที่ผู้เรียนพยายามฝึกตามแบบที่ตนสนในและพยายามทา ซ้า เพื่อที่จะให้เกิดทักษะตามแบบที่ตนสนใจให้ได้ หรือสามารถปฏิบัติงานได้ตามข้อเสนอแนะ 3. ทา ได้ถูกต้องแม่นยา พฤติกรรมสามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องชี้แนะเมื่อได้ กระทา ซ้า แล้ว ก็พยายามหาความถูกต้องในการปฏิบัติ 4. ทา ได้ต่อเนื่องประสานกัน หลังจากตัดสินใจเลือกรูปแบบที่เป็นของตัวเองจะกระทา ตามรูปแบบนั้น อย่างต่อเนื่อง จนปฏิบัติงานที่ยุ่งยากซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง คล่องแคล่ว การที่ผู้เรียนเกิด ทักษะได้ ต้องอาศัยการฝึกฝนและกระทา อย่างสม่า เสมอ 5. ทา ได้อย่างเป็นธรรมชาติ พฤตกรรมที่ได้จากการฝึกอย่างต่อเนื่อง จนสามารถปฏิบัติได้คล่องแคล่ว ว่องไวโดยอัตโนมัติ เป็นไปอย่างธรรมชาติ ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 18. 15 การเรียนรู้ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) (พฤติกรรมด้านจิตใจ) แบ่งการเรียนรู้เป็น 5 ระดับ พัฒนาเป็นลักษณะนิสัย จัดระบบคุณค่า เห็นคุณค่า ตอบสนอง รับรู้ ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) รับรู้ (Receive) ตั้งใจสนในสิ่งเร้า ตอบสนอง (Respond) มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่จัดขึ้น เห็นคุณค่า (Value) รู้สึกชอบซึ้งยินดีและมีเจตคติที่ดีต่อสิ่งนั้น จัดระบบคุณค่า (Organize) เห็นความแตกต่างในคุณค่า แก้ไขความขัดแย้ง สร้างปรัชญาหรือเป้าหมายให้กับตนเอง พัฒนาเป็นลักษณะนิสัย (Characterize) ทา ให้เป็นคุณลักษณะหนึ่งของชีวิต ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 19. 16 ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) (พฤติกรรมด้านจิตใจ) ค่านิยม ความรู้สึก ความซาบซึ้ง ทัศนคติ ความเชื่อ ความสนใจและคุณธรรม พฤติกรรมด้านนี้อาจ ไม่เกิดขึ้นทันที ดังนั้น การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และสอดแทรกสิ่ง ที่ดีงามอยู่ตลอดเวลา จะทา ให้พฤติกรรมของผู้เรียนเปลี่ยนไปในแนวทางที่พึงประสงค์ได้ จะประกอบด้วย พฤติกรรมย่อยๆ 5 ระดับ ได้ 1. รับรู้ เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นต่อปรากฏการณ์หรือสิ่งเร้าอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นไปในลักษณะ ของการแปลความหมายของสิ่งเร้านั้นว่าคืออะไร แล้วจะแสดงออกมาในรูปของความรู้สึกที่ เกิดขึ้น 2. ตอบสนอง เป็นการกระทา ที่แสดงออกมาในรูปของความเต็มใจ ยินยอมและพอใจต่อสิ่งเร้านั้น ซึ่งเป็นการตอบสนองที่เกิดจากการเลือกสรรแล้ว 3. เห็นคุณค่า การเลือกปฏิบัติในสิ่งที่เป็นที่ยอมรับกันในสังคมการยอมรับนับถือในคุณค่านั้นๆ หรือปฏิบัติตามในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนกลายเป็นความเชื่อ แล้วจึงเกิดทัศนคติที่ดีในสิ่งนั้น 4. จัดระบบคุณค่า การสร้างแนวคิด จัดระบบของค่านิยมที่เกิดขึ้นโดยอาศัยความสัมพันธ์ ถ้าเข้า กันได้ก็จะยึดต่อไปแต่ถ้าขัดกันอาจไม่ยอมรับอาจจะยอมรับค่านิยมใหม่โดยยกเลิกค่านิยมเก่า 5. พัฒนาเป็นลักษณะนิสัย การนา ค่านิยมที่ยึดถือมาแสดงพฤติกรรมที่เป็นนิสัยประจา ตัว ให้ ประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่ถูกต้องดีงามพฤติกรรมด้านนี้ จะเกี่ยวกับความรู้สึกและจิตใจ ซึ่งจะเริ่ม จากการได้รับรู้จากสิ่งแวดล้อม แล้วจึงเกิดปฏิกิริยาโต้ตอบ ขยายกลายเป็นความรู้สึกด้านต่างๆ จนกลายเป็นค่านิยมและยังพัฒนาต่อไปเป็นความคิด อุดมคติ ซึ่งจะควบคุมทิศทางพฤติกรรม แผนการเรียนรู้ แผนการเรียนรู้ หมายถึง การจัดเตรียมการสอนไว้ล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรโดยผู้สอนจะกา หนด ขั้นตอนการพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม สอดคล้องและเป็นไปตามจุดมุ่งหมายของ หลักสูตรตามสภาพของผู้เรียน เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์และท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ ในการออกแบบการเขียนแบบการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสา คัญ ครูผู้สอนควรคา นึงถึงหลักสูตร โดย มีการวิเคราะห์หลักสูตรรายวิชา ลักษณะรายวิชา ซึ่งประกอบด้วย จุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานรายวิชา คา อธิบายรายวิชา เพื่อจัดทา แผนการเรียนรู้และกา หนดจุดประสงค์การเรียนรู้ในแต่ละครั้งที่จัดการเรียนรู้ ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 20. 17 นอกจากนี้จะต้องคา นึงถึงผู้เรียน การพัฒนาประสบการณ์ในการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ การประเมินผลที่ สอดคล้องและครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้ องค์ประกอบสาคัญของแผนการเรียนรู้ 1. สาระสา คัญ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (มาตรฐานการเรียนรู้) - จุดประสงค์ทั่วไป - จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 3. สาระการรับรู้ 4. สื่อการเรียนรู้ 5. กระบวนการจัดการรับรู้ 6. กระบวนการวัดผลและประเมินผล 7. แหล่งการเรียนรู้ 8. บันทึกหลังการสอน 1. สาระสาคัญ สาระสา คัญหรือแนวคิดหลัก หมายถึง ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับเนื้อหา หลักการ วิธีการ ที่ต้องการ จะให้ผู้เรียนได้รับหลังจากเรียนรู้ในหน่วยหรือเรื่องนั้นๆทั้งในด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการและเจต คติ วัฒนาพร (2543 : 88) ได้ระบุวิธีเขียนสาระสา คัญไว้ดังนี้ 1) พิจารณาจุดประสงค์การเรียนรู้ว่าต้องการให้ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมหรือความรู้ ความสามารถด้าน ใด 2) พิจารณาเนื้อหา เป็นการเรียนการสอนเกี่ยวกับเรื่องอะไร เรียนรู้แล้วจะได้รับความรู้ความเข้าใจ ความคิดรวบยอดอะไร หรือได้รับประโยชน์คุณค่าใดจาการเรียนเนื้อหานั้น 3) นา ผลการเรียนพิจารณาจุดประสงค์การเรียนรู้มาประกอบกับการพิจารณาเนื้อหาแล้วเขียนเป็น ข้อสรุปเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้เรียนจะเรียนรู้หรือสิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับจากการเรียน ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 21. 18 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ ในกระบวนการเรียนรู้สิ่งที่สา คัญที่สุดคือ การให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยให้ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมนั้นๆออกมา ซึ่งจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมมีความจา เป็นดังนี้ 1) เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ 2) วัดผลและประเมินผลผู้เรียนว่าได้บรรลุตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ 3) ผู้เรียนได้รู้ว่าหลังจากผ่านการเรียนรู้แล้ว เขาจะรู้อะไรและปฏิบัติได้ 4) ผู้สอนได้สอนบรรลุตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ จุดประสงค์การเรียนรู้ แบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ (พิสิฐ,2550:79-81) 1. จุดประสงค์ทั่วไป ( General Objectives) เป็นจุดประสงค์ที่ตั้งขึ้นในแนวกว้างๆว่าเมื่อมีการ เรียนรู้แล้ว ผู้เรียนจะรู้อะไรบ้างเข้าใจนา ไปใช้อะไรได้บ้าง 2. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ( Behavioral Objectives) เป็นจุดประสงค์ที่ตั้งขึ้นเพื่อแสดงให้เห็น อย่างชัดเจนว่า หลังจากมีการเรียนรู้แล้ว ผู้เรียนจะสามารถแสดงพฤติกรรมที่วัดได้ สังเกตได้ ออกมาอย่างไรบ้าง ภายใต้เงื่อนไขอย่างไร ส่วนประกอบของจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ประกอบด้วยสาระสาคัญ 3 ส่วน ดังนี้ 1. พฤติกรรมขั้นสุดท้ายหรือพฤติกรรมที่คาดหวัง (Terminal Behavior or Expected Behavior) 2. เงื่อนไขหรือสถานการณ์ (Condition or Situation) 3. เกณฑ์หรือมาตรฐาน (Criteria or Standard) จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม พฤติกรรมที่คาดหวัง เงื่อนไขหรือสถานการณ์ เกณฑ์หรือมาตรฐาน ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 22. 19 พฤติกรรมขั้นสุดท้ายหรือพฤติกรรมที่คาดหวัง (Terminal Behavior or Expected Behavior) พฤติกรรมขั้นสุดท้ายหรือพฤติกรรมที่คาดหวัง หมายถึง การแสดงออกของผู้เรียนเมื่อสิ้นสุด บทเรียนแล้วผู้เรียนแสดงพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาก ซึ่งพฤติกรรมที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องวัดได้ หรือ สังเกตได้การระบุพฤติกรรมที่คาดหวังจึงต้องใช้คา กิริยาที่บ่งถึง การกระทา ( Action Verb) เช่น บอกอธิบาย สร้าง คา นวณ แก้ไข อ่าน วาด วัด จา แนก เป็นต้น พฤติกรรมที่คาดหวังนี้ บางครั้งจะเรียกว่า Task ซึ่งหมายถึงงานหรือภารกิจที่ผู้เรียนแสดงออกมาใน รูปของความสามารถ ตัวอย่าง - บอกส่วนประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้อง - อธิบายความหมายของบทเรียนคอมพิวเตอร์ได้ - จา แนกหน่วยความจา ที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ได้ คา นวณค่ากระแสไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านได้ - พิมพ์ดีดภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้ไม่น้อยกว่า 70 คา ต่อนาที - วิเคราะห์ส่วนประกอบของไมโครโพรเซสเซอร์ได้ เงื่อนไขหรือสถานการณ์ (Condition or Situation) เป็นข้อความที่บ่งถึงสิ่งแวดล้อมสถานการณ์หรือเงื่อนไขที่จะให้ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมที่คาดหวัง ออกมา สามารถกา หนด เงื่อนไขได้ 3 ลักษณะ ดังนี้ 1. ลักษณะที่เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาบทเรียน เช่น 1.1 อธิบายหลักการทา งานของ UPS 1.2 จา แนกส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ 2. ลักษณะของสิ่งเร้าเพื่อให้ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมที่คาดหวังออกมา เช่น 2.1 เมื่อกา หนดฟลอมชนิดต่างๆให้ สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการถ่ายรูปได้ 2.2 เมื่อกา หนดวงจรไฟฟ้ามาให้ สามารถอ่านแบบไม่ถูกต้อง 3. ลักษณะที่เป็นเงื่อนไขของการกระทา เช่น 3.1 คา นวณเลขเศษส่วน โดยใช้เครื่องคิดเลขได้ 3.2 ต่อวงจรไฟฟ้าแสงสว่างในบ้านได้ โดยไม่ต้องดูแบบ ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 23. 20 เกณฑ์หรือมาตรฐาน (Criteria or Standard) เป็นส่วนที่ใช้ระบุความสามารถขั้นต่า ของผู้เรียนว่าจะต้องทา ได้เพียงใด จึงจะยอมรับได้ว่าผู้เรียน บรรลุตามวัตถุประสงค์แล้ว การกา หนด เกณฑ์สามารถทา ได้หลายลักษณะดังนี้ 1. ลักษณะความเร็วหรือการบ่งเวลาลักษณะนี้เป็นการวัดระดับความชา นาญมากกว่าความรู้ เช่น 1.1 ท่องสูตรคูณตั้งแต่แม่ 1 ถึงแม่ 12 ได้จบภายในเวลา 3 นาที 1.2 ต่อมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับเข้ากับระบบไฟฟ้าได้ภายใน 5 นาที 2. ลักษณะปริมาณที่ต่า ที่สุด เช่น 2.1 คา นวณโจทย์เรื่องบัญญัติไตรยางศ์ได้ 8 ใน 10 ข้อ 2.2 บอกอาการของคอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัสได้อย่างน้อย 5 อาการ 3. เป็นเกณฑ์ที่ไม่สามารถระบุในเชิงความเร็วหรือปริมาณได้ เช่น 3.1 อธิบายความหมายของบทเรียนคอมพิวเตอร์ได้ 3.2 ระบุองค์ประกอบที่มีผลต่อความเร็วในการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้หรือเนื้อหาสาระเป็นส่วนรายละเอียดที่เชื่อมโยงกับสาระสา คัญและสอดคล้องกับ จุดประสงค์การเรียนรู้ ประกอบกับทฤษฎี หลักการ วิธีการ แนวปฏิบัติ ครูจะต้องศึกษาจากแหล่งความรู้ ต่างๆ มาพิจารณาให้เหมาะสมกับระดับของผู้เรียนการเขียนเนื้อสาระการเรียนรู้ ตามหัวข้อเรื่อง หากมีเนื้อหา มากเกินไปควรเขียนเฉพาะหัวข้อหลักในเรื่องที่ตั้งไว้ ส่วนรายละเอียดให้นา ไปใส่ในภาคผนวกท้ายแผนการ เรียนรู้ หรือจะจะแยกไว้เป็นเอกสารประกอบการวัดการเรียนรู้ก็ได้ สาระการเรียนรู้จะต้องครอบคลุม จุดประสงค์การเรียนรู้ทั้ง 3 ด้าน (Taxonomy of Educational Objectives : Bloom and others) 1) ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) เป็นจุดประสงค์ที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนด้านสติปัญญา (Intellectual Outcome) คือความรู้ ความเข้าใจ ทักษะการใช้ความคิด (Thinking Skill) 2) ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) เป็นจุดประสงค์ที่มุ่งพัฒนาพฤติกรรมที่เกี่ยวกับการ กระทา (Doing) ของผู้เรียนเกี่ยวกับทักษะความชา นาญ โดยมุ่งพัฒนากล้ามเนื้อหรืออวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 24. 21 3) ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) เป็นจุดประสงค์ที่มุ่งพัฒนาพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในจิตใจของ ผู้เรียนเกี่ยวข้องกับความรู้สึกหรืออารมณ์ เช่น เจตคติ ( Attitude) ค่านิยม ( Value) ความสนใจ (Interest) และความซาบซึ้ง (Appreciation) ซึ่งอาจสังเกตได้จากท่าทีที่แสดงออกมา 4. สื่อการเรียนรู้ ประสาทการรับรู้ข้อมูลของมนุษย์ (ไพโรจน์ และอัคครัตน์,2552) อื่น ๆ 10 % 0 % การมองเห็น 75 % การฟัง 15 % ประสาทการรับรู้ของมนุษย์ ประสาทการรับรู้ของมนุษย์ จะสามารถรับรู้ข้อมูลได้จาก - การมองเห็น ประมาณ 75 % - การฟัง ประมาณ 15 % - อื่นๆ เช่น ดมกลิ่น ชิม และสัมผัส ประมาณ 10 % ดังนั้นการเรียนรู้ จึงมีความจา เป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ผู้เรียนได้รับเนื้อหาในการเรียนมากที่สุด สื่อ การเรียนรู้จึงมีความจา เป็นอย่างยิ่งต่อกระบวนการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ จะนา ให้เกิดการ เรียนรู้ได้มากทั้งนี้เพราะว่า สื่อการเรียนรู้ ช่วยให้ผู้เรียนรับเนื้อหาเข้าไปจดจา ในสมองเป็นคนรู้ได้มากขึ้น ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 25. 22 สื่อการเรียนรู้ (Instructional media) สื่อการเรียนรู้ หมายถึง สิ่งต่างๆที่ใช้เป็นเครื่องมือหรือช่องทางสา หรับทา ให้การสอนของครูถึง ผู้เรียนและทา ให้ผู้เรียนเรียนรู้ตามจุดประสงค์ได้เป็นอย่างดี การจาแนกชนิดของสื่อต่างๆ สื่อการสอนที่นิยมใช้สา หรับการเรียนรู้ในปัจจุบัน สามารถสรุปได้ดังนี้ - คอมพิวเตอร์ - เครื่องขยายภาพจากคอมพิวเตอร์ ( LCD) - เครื่องขยายเสียง/เทปบันทึกเสียง - ไวท์บอร์ด - โทรทัศน์/วีดีทัศน์/ภาพยนตร์ - ของจริง - หนังสือ/ตา รา/ใบเนื้อหา/คู่มือต่างๆ - หุ่นจา ลอง ข้อมูลย้อนกลับ ว(งFeedback) จรสื่อ ผู้ส่งสาร (Sender) สื่อ (Media) ช่องทาง (Channel) ผู้รับสาร (Receiver) ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 26. 23 ขั้นตอนในการออกแบบสื่อการเรียนรู้ คาพูด(อธิบาย) รูปภาพนิ่ง รูปภาพเคลื่อนไหว ของจริง - คาบรรยาย - ไวท์บอร์ด - ใบเนื้อหา - เครื่องบันทักเสียง - คอมพิวเตอร์ - ข้อความ จุดประสงค์ ประเด็นสาคัญของเนื้อหา สื่อการเรียนรู้ - ภาพนิ่ง - ใบเนื้อหา - คอมพิวเตอร์ - แผ่นภาพ - แผ่นภาพ - โมเดล พลาสติก - วีดิโอ - ภาพยนตร์ - คอมพิวเตอร์ ภาพเคลื่อนไหว - ของจริง - วีดิโอ - ภาพยนตร์ - On demand ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 27. 24 การออกแบบ การสร้าง และวิธีการใช้สื่อการสอนแต่ละประเภท สื่อการสอน การออกแบบ การสร้าง วิธีการใช้สื่อ ของจริง - พิจารณาของจริงที่จะ นาไปใช้สอน - ขนย้ายง่าย - เป็นอุปกรณ์ที่ไม่เกิด อันตรายต่อผู้เรียน - หาได้ง่ายไม่ต้องลงทุน ใหม่ - จัดหาด้วยการซื้อ - จัดหาจากของที่มีอยู่ และสอดคล้องกับ จุดประสงค์ - จัดหาให้มีจา นวนมาก และเพียงพอ - เลือกขนาด และ น้า หนักที่เหมาะสม - ให้เห็นและสัมผัสได้จริง - แจกให้ผู้เรียนได้ ทดลองและมีปริมาณ เพียงพอ - เก็บทันทีหลังจากใช้ งานเสร็จ ใบเนื้อหา/ตา รา - เน้นให้มีรูปภาพที่แสดง รายละเอียดเพียงพอ - ข้อความต้องสอดคล้อง กับจุดประสงค์หรือเนื้อหา ที่สอน - มีแบบฝึกหัดทุกบทเรียน - จัดพิมพ์ต้นฉบับ - ถ่ายเอกสาร/Off SET - จัดทา รูปเล่ม - จัดทา ให้มีเนื้อหาครบ ตามวัตถุประสงค์ การสอน - แจกก่อน/ขณะสอน/ หลังสอน - แจกผู้เรียนให้ครบทุกคน - หากมีกิจกรรมให้ แจกหลังการสอน - หลังการสอน ควรมี แบบฝึกหัดให้ทา ไวท์บอร์ด - วางแผนการสอนล่วงหน้า ที่จะเขียนข้อความลงบน ไวท์บอร์ด - จัดแบ่งพื้นที่กระดาษให้ เหมาะสม - วางแผนการลบและการ เขียนใหม่ที่สอดคล้องกัน - มีรูปภาพที่ต้องเขียน ซับซ้อนจะต้องเตรียม ไว้ก่อน - เขียนข้อความให้ ชัดเจน อ่านง่าย - เน้นใช้ปากกาสีต่างๆ จา แนกเนื้อหา - รูปภาพที่วาดไว้ก่อน จะต้องปิดบังไว้ก่อน - ใช้เสริมให้ผู้เรียนมี กิจกรรมในการเรียน การสอน - ไม่ยืนบังผู้เรียน - หันหน้าไปทางผู้เรียน - การเขียนขณะสอน แต่ละครั้งไม่เกิน 2–3 นาที หุ่นจา ลอง - ออกแบบให้ใช้วัสดุที่หา ง่ายในท้องถิ่น - ใช้วัสดุเหลือใช้ หรือ Recycle - เลือกซื้อที่มีขายใน ท้องตลาด - การจัดทา จะต้อง ลงทุนไม่มากและ - ต้องแสดงให้เห็นถึก ส่วนที่จา เป็น และ อธิบายส่วนที่ซับซ้อน ได้ชัดเจน ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 28. 25 สื่อการสอน การออกแบบ การสร้าง วิธีการใช้สื่อ - ต้องออกแบบให้ครอบคลุม จุดประสงค์การสอน - ใช้เป็นตัวแทนของจริง จา แนกสาระที่ สา คัญได้หลาย จุดประสงค์ - สามารถใช้งานได้ ต่อเนื่องและถอด ประกอบได้ - สามารถจา แนกและ ถอดชิ้นส่วน แล้ว จะต้องประกอบเข้าที่ เดิมได้ แผ่นภาพ - พิจาณาจากเนื้อหาที่ ซับซ้อนและมองเห็น ภายนอกไม่ได้ - ภาพที่ใช้เกิดจากคู่มือ อุปกรณ์เครื่องมือที่แสดง ภาพ ตัดแสดงภายในได้ ชัดเจน - จา แนกชิ้นส่วนภายในได้ ชัดเจนและสื่ออย่างอื่น ทา ไม่ได้ - แผ่นภาพที่เป็นกระดาษ ควรอัดกรอบใส่แผ่น พลาสติกใส เพื่อความ คงทน - ชิ้นส่วนที่แสดงภายใน ของรูปภาพควรเน้น จา แนกเป็นสีที่ชัดเจน - ครอบคลุมจุดประสงค์ การสอนที่จา เป็น - ใช้สถานการณ์ที่ไม่มีสื่อ อื่นหรือสื่ออื่นแสดงได้ไม่ ชัดเจน - ใช้แขวนที่มั่นคงและมีไม้ชี้ ขณะสอน - ให้ผู้เรียนมีกิจกรรมในการ สอนได้ดีขึ้น ทีวี วีดิทัศน์และ ภาพยนตร์ - จัดทา บท SCRIP ให้ สอดคล้องกับจุดประสงค์ - เชื่อมโยงและการจัดต่อ VDO.TAPE ให้ได้เนื้อหา ที่สอดคล้องความต้องการ - การสร้างบทเรียนต้องมี กิจกรรมให้ผู้เรียนได้แสดง ความคิดเห็น - การใช้กล้องถ่าย VDO จะต้องเน้นความชัดเจน ของภาพ - จะต้องลา ดับภาพตาม ขั้นตอนของเนื้อหา - จัดหา VDO.TAPE ที่มีไว้ แล้วจะต้องเลือกมาตัดต่อ ให้เหมาะสมเวลาหรือ บรรยายกับจา นวนคน ๆ มากๆ - ใช้กับเครื่องเล่น VDO และ TV - ก่อนเปิดฉาย VDO จะต้องชี้แจงจุดประสงค์ ให้ชัดเจน - ไม่ควรให้ดูตลอด ควร หยุดแล้วซักถาม - การเลือก VDO ที่มีอยู่ แล้วจะต้องตรวจสอบและ เตรียมการไว้ล่วงหน้า คอมพิวเตอร์ - ออกแบบบทเรียนที่จะใช้ สร้างโปรแกรมต่างๆ เช่น - Power Point - ผู้สร้างบทเรียนจะต้อง เข้าใจโปรแกรมที่ใช้เป็น อย่างดี - ใช้แสดงบนจอ Monitor สา หรับผู้สอนและขยาย ภาพโดย LCD ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 29. 26 - Auto wear - Tool Book - Movie - Photoshop - Flash - การออกแบบบทเรียนที่ เลือกโปรแกรมที่ สอดคล้องกับ Version ที่ สามารถใช้ร่วมกับ คอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ - ผู้สร้างกับผู้สอนบทเรียน จะต้องเข้าใจโปรแกรม การสร้างและคัดเลือก ข้อความ และรูปภาพได้เหมาะสม - การสร้างจะต้องคา นึงถึง บทเรียนที่เรียงลา ดับและ ครอบคลุม - การสร้างจะต้องคา นึงถึง บทเรียนที่เรียงลา ดับและ ครอบคลุมจุดประสงค์ได้ ทั้งหมด - ผู้ใช้จะต้องจัดเตรียม โปรแกรมและเรียกใช้ ล่วงหน้าให้พร้อมก่อน - ผู้ใช้จะต้องสามารถใช้งาน กับเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่อง LCD เป็น อย่างดี - การชี้ภาพหรือบทความ จะต้องใช้ Laser ชี้ 5. กระบวนการจัดการเรียนรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ คือกระบวนการเรียนรู้หรือประสบการณ์ต่างๆที่ผู้สอนจัดให้ผู้เรียนเกิด การเรียนรู้ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กา หนดไว้ การจัดกระบวนการเรียนรู้นอกจากจะเน้นผู้เรียนเป็นสา คัญ แล้วจะต้องคา นึงถึงวิธีการจัดการเรียนรู้ตามธรรมชาติของแต่ละกลุ่มสาระ รวมทั้งทักษะกระบวนการและ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ลักษณะของกิจกรรมหรือกระบวนการจัดการเรียนรู้ สรุปได้ดังนี้ 1) สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และสาระการเรียนรู้ 2) ฝึกกระบวนการสา คัญให้ผู้เรียน 3) เหมาะสมกับธรรมชาติของวัยของผู้เรียน 4) เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาของชีวิตจริง 5) เน้นผู้เรียนเป็นสา คัญ 6. กระบวนการวัดผลและประเมินผล กระบวนการวัดผลและประเมินผล เป็นการตรวจสอบว่าผู้เรียนบรรลุจุดประสงค์ในการเรียนรู้ที่ กา หนดไว้ในแผนการเรียนรู้หรือไม่ การวัดผล หมายถึง กระบวนการให้ได้มาซึ่งตัวเลขหรือสัญลักษณ์ที่มีความหมายแทนคุณลักษณะ ของสิ่งที่วัด โดยใช้เครื่องมือที่มีความเหมาะสมและมีคุณภาพ การประเมินผล หมายถึง การวินิจฉัยตัดสินคุณค่าของบุคคล สิ่งของหรืออื่นๆอย่างมีหลักเกณฑ์ ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 30. 27 วิธีการวัดผลที่เหมาะสมกับนิสัยแบบต่างๆ การเลือกวิธีการวัดผล ต้องเลือกให้เหมาะสมกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ทั้ง 3 ด้าน คือ พุทธิพิสัย ทักษะพิสัย จิตพิสัย คุณสมบัติของเครื่องมือวัดผล 1) มีความเที่ยงตรง ( Validity) ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด วัดได้ตรงระดับของการเรียนรู้ใน จุดประสงค์ 2) มีความเป็นปรนัย ( Objectivity) คา ถามชัดเจน คา ตอบแน่นอน ตรวจง่าย แปลความหมายของ คะแนนชัดเจน 3) มีความสะดวกในการกระทา ( Practicality) การจัดพิมพ์ถูกต้อง ชัดเจน จัดหน้ากระดาษคา ถาม และคา ตอบเหมาะสม ชนิดของข้อสอบ จากัดคาถาม ไม่จากัดคา ตอบ เติมคา ถูก/ผิด จับคู่ เลือกคา 7. แหล่งการเรียนรู้ ชนิดของข้อสอบ อัตนัย ปรนัย แหล่งการเรียนรู้ หมายถึง ประสบการณ์ แหล่งข้อมูล ข่าวสาร เทคโนโลยีสารสนเทศ แหล่งความรู้ วิทยาการต่างๆ ที่เสริมสร้างให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการรับรู้ ใฝ่รู้ใฝ่เรียน แสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้ตาม อัธยาศัยอย่างต่อเนื่อง ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 31. 28 8. บันทึกผลหลังการเรียนรู้ เป็นการบันทึกผลการจัดการเรียนรู้ตามแผนการเรียนรู้ ควรบันทึกดังนี้ 1) ผลการเรียนรู้ตามที่กา หนดจุดประสงค์การเรียนรู้ ในแผนการเรียนรู้ ซึ่งส่วนใหญ่มี 3 ด้าน ด้าน องค์ความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ และด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 2) ปัญหาอุปสรรค ควรบันทึกสาเหตุที่การจัดการเรียนรู้ไม่เป็นไปตามจุดประสงค์การเรียนรู้ที่วาง ไว้ น่าจะมีสาเหตุมาจากอะไร 3) ข้อเสนอแนะ บันทึกข้อเสนอแนะในการปรับปรุงต่อผู้เรียนที่ไม่ผ่านและที่ผ่านกิจกรรมตาม จุดประสงค์การเรียนรู้ ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 32. 29 ใบช่วยสอน (Instruction Sheet) ใบช่วยสอน เป็นเอกสารที่ครูเรียบเรียง ค้นคว้าและเขียนขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ประกอบการ เรียนรู้ ในกระบวนการเรียนรู้ ครูจะต้องเป็นผู้วางแผนและจัดการเรียนรู้ให้ครบถ้วนตามหลักสูตรที่กา หนด ด้วยวิชาทฤษฎีและปฏิบัติการใช้ใบช่วยสอนทา ให้ผู้เรียน เรียนรู้งานง่ายและรวดเร็วดังนี้ ใบช่วยสอนที่ใช้โดยนาไปมี 4 ชนิด (สถาพร, 2553 : 92-98) 1) ใบความรู้ (Information Sheet) 2) ใบงาน (Job Sheet) 3) ใบปฏิบัติงาน (Operation Sheet) 4) ใบมอบหมายงาน (Assignment Sheet) 1) ใบความรู้ (Information Sheets) เป็นเอกสารที่รวบรวมเนื้อหาสาระที่สัมพันธ์กับวิชาชีพนั้นๆ เมื่อผู้เรียนจะต้องนา มาศึกษาก่อน ปฏิบัติงาน ลักษณะที่สาคัญของใบความรู้ 1. รหัส ชื่อวิชา 2. ชื่อหน่วยการเรียนรู้ 3. ชื่อใบความรู้ จา นวนชั่วโมงและเวลาที่ใช้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4.1 จุดประสงค์ทั่วไป 4.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 5. เนื้อหาสาระ (มีภาพ แผนภูมิประกอบ) 6. แบบฝึกหัด,คา ถาม,เฉลย 7. เฉลย 8. เอกสารอ้างอิง ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 33. 30 2) ใบงาน (Job Sheet) เป็นเอกสารที่แสดงรายละเอียดการปฏิบัติงานตั้งแต่ เริ่มต้นจนถึงสิ้นสุด ใบงานจะบอก รายการเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้กับงานวิธีนั้นๆ พร้อมทั้งคา แนะนา วิธีการปฏิบัติงานให้เกิดความ ปลอดภัยอย่างชัดเจน ลักษณะที่สาคัญของใบความรู้ 1. รหัส ชื่อวิชา 2. ชื่อหน่วยการเรียนรู้ 3. ชื่อเรื่อง 4. จา นวนชั่วโมงและเวลาที่ใช้ 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 จุดประสงค์ทั่วไป 5.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 6. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน (มีภาพประกอบ) 7. เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ 8. ข้อควรระวัง 9. มอบงาน 10. วัดผล/ประเมินผล 11. เอกสารอ้างอิง ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 34. 31 3) ใบปฏิบัติงาน (Operation Sheet) เป็นเอกสารใบช่วยสอนที่ใช้ควบคู่กับใบงาน เป็นเอกสารเสริมในกรณีที่ใบงานมีการตัดขั้นตอน หรือมีช่วงของการปฏิบัติงานขาดหายไป ใบปฏิบัติงานจะเสริมให้ใบงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องและประสบ ผลสา เร็จตามความคาดหวังของครู ลักษณะที่สาคัญของใบปฏิบัติงาน ได้แก่ 1. รหัส ชื่อวิชา 2. ชื่อหน่วยการเรียนรู้ 3. เรื่อง/ชื่องาน 4. จา นวนชั่วโมงและเวลาที่ใช้ 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 จุดประสงค์ทั่วไป 5.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 6. เครื่องมือ/อุปกรณ์/วัสดุ 7. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน(ควรมีภาพประกอบ) 8. ข้อควรระวัง 9. ข้อเสนอแนะ 10. การประเมินผล 11. หนังสืออ้างอิง ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 35. 32 4) ใบมอบหมายงาน (Assignment Sheet) เป็นเอกสารที่เขียนเฉพาะหัวข้อ หัวเรื่อง หัวงาน หรือแสดงรายละเอียดอื่นที่ผู้สอนกา หนดให้ ผู้เรียนไปค้นคว้า ดูงาน ทา รายงาน ทา แบบฝึกหัด ลักษณะที่สาคัญของใบงานมอบหมาย ได้แก่ 1. ชื่อวิชา 2. ชื่อหน่วยการเรียนรู้ 3. ชื่องาน 4. จุดประสงค์มอบหมายงาน 5. แนวทางการปฏิบัติงาน 6. แหล่งค้นคว้า 7. คา ถาม หรือปัญหา 8. กา หนดเวลาส่งงาน ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 36. 33 รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้ ควรอนุญาตให้ใช้ในการสอนได้ ควรปรับปรุงเกี่ยวกับ.................................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………... ลงชื่อ (…………………………………………) หวัหนา้หมวด/หัวหน้าแผนก ………./………./………. เห็นควรอนุญาตให้ใช้ในการสอนได้ ควรปรับปรุงดังเสนอ อื่นๆ……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………… ลงชื่อ (…………………………………………) รองผอู้า นวยการฝ่ายวชิาการ ………./………./………. ควรอนุญาตให้ใช้ในการสอนได้ อื่นๆ....................................................................................................................... ลงชื่อ (…………………………………………) ผอู้า นวยการ ………./………./……… ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • 37. 34 บรรณานุกรม พิสิฐ เมธาภัทร, การพัฒนาหลักสูตรอาชีวะศึกษาและเทคนิคศึกษา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 2550. ไพโรจน์ สถิตยากรและอัครัตน์ พูลกระจ่าง,การพัฒนาหลักสูตรรายวิชา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 2550. มนต์ชัย มนูธาราม, คู่มือการเขียนแผนการเรียนรู้. นครราชสีมา: เอกสารการฝึกอบรม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, 2555 สถาพร ไมตรีจิตร์, การเขียนแผนการสอนและการเขียนใบช่วยสอน. พิมพ์ครั้งที่ 3 กรุงเทพ : ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาชีวศึกษา 3,2544 สา นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, มาตรฐานการประเมินสื่อการเรียนรู้และ นวัตกรรมอาชีวศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ, 2553 ดร.มนต์ชัย มนูธาราม ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ