More Related Content Similar to การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance) (20) การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)2. •การฟื้นฟูศิลปวิทยา หมายถึง การเกิดใหม่(rebirth)
•เป็นช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลง
ทางวัฒนธรรมในทวีปยุโรป
ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมยุคใหม่
•สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาเป็นการเคลื่อนไหวทาง
วัฒนธรรมที่กินเวลาตัง้แต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 14 ถึง 17
3. สาเหตุของการฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
1. การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เกิดการค้าระหว่างดินแดนต่างๆมากขึน้
ทา ให้มีความมั่งคั่งอย่างยิ่ง
2. ความเสื่อมศรัทธาต่อศาสนาคริสต์
3. การล่มสลายของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ทา ให้ยุโรปที่อพยพไปอยู่ไบแซนไทน์
เดินทางกลับยุโรป และนาวิทยาการกรีก -โรมันมาด้วย
4. การประดิษฐ์แท่นพิมพ์เคลื่อนที่ได้ของจอห์น กูเตนเบิร์กชาวเยอรมัน
ทา ให้หนังสือราคาถูกลง ประชาชนหาซือ้ได้ง่าย
จอห์น กูเตนเบิร์ก
4. แนวคิดในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
ศิลปะในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ นับเป็นการปฏิวัติอีกอย่างหนึ่ง
คือหันกลับไปนิยมความงามแบบกรีก ที่เน้นความงานตามธรรมชาติ
1. แนวคิดใหม่ในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
การฟื้นฟูศิลปะวิทยาการเกิดขึน้ที่เมืองฟลอเรนซ์
ในอิตาลีเป็นแห่งแรกภายใต้การนาของพ่อค้า
จากนั้นก็แพร่หลายไปยังนครรัฐอื่นๆ
แถบอิตาลีทางเหนือ ปัจจัยที่ทา ให้เกิดการ
ฟื้นฟูศิลปวิทยาการในอิตาลีเป็นแห่งแรก
เกิดจากความเหมาะสมของสภาพที่ตั้ง
ทางภูมิศาสตร์ของอิตาลีซึ่ง
เป็นคาบสมุทรย่นืออกไปในทะเลเป็นสา คัญ
5. ทาให้รัฐอิตาลีภาคเหนือ ต่างก็ประกอบธุรกิจการค้า อุตสาหกรรมและการธนาคาร
ชาวอิตาลีในรัฐต่างๆ จะมีกองเรือค้าขายแบบ ผูกขาดการค้าในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
โดยนาสินค้าไปขายยังแถบฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
แล้วนาสินค้าจากทางตะวันออกไปขายทางยุโรปจนถึงมหาสมุทรแอตแลนติค
และทะเลบอลติค พ่อค้าเหล่านี้พยายามดา เนินชีวิตตามแบบขุนนาง
สมัยกลางทุกอย่าง จนได้รับสมญาว่าเป็น “Merchant Princes”
7. ศิลปินคนสาคัญ
ลีโอนาโด ลาวินซี
พระกระยาหารค่า มือ้สุดท้าย หรือ The Last Supper ในภาษาอังกฤษ
เป็นจิตรกรรมฝาผนัง ที่วาดให้แก่ผู้อุปถัมภ์ดยุก โลโดวิโค สฟอร์ซา (Lodovico Sforza)
เป็นภาพที่มาจากพระกระยาหารค่า มือ้สุดท้ายของพระเยซู ก่อนที่พระองค์จะทรงถูกนาไปตรึงกางเขน
และภาพของโมนาลิซา
8. ไมเคิล แองเจลโล
เขาเป็นประติมากรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอิตาลีด้วย เขาได้แสดงความสารถของเขามาตั้งแต่เด็ก
ประติมากรรมชนิ้เย่ยีมของไมเคิลแอนเจโลนั้น ชิน้หนึ่ง
คือ รูปสลักมหึมาของเดวิด รูปสลักนี้งด
งามมากและมีชีวิตจิตใจเป็นอย่างยิ่ง เขา ชอบการปั้นสลัก
มากกว่าการเขียนรูป แต่เขาใช้เวลามากกว่าสี่ปี เขียนเพดาน
วิหารซีสทีน ที่วาติกันในโรม ถวายพระสันตะปาปา
ภาพเขียนมหึมานี้เป็นเรื่องการสร้างโลกและฉากเหตุการณ์อ่นืๆจากพระคัมภีร์ ไบเบิล
11. -the prince -ut opid
เมืองในอุดมคติที่ปราศจากความเลวร้าย
เป็นหนังสือตา ราเกี่ยวกับปรัชญา
และทฤษฎีการเมือง เขียนโดย
นิคโคโล มาเคียเวลลี นักทฤษฎีด้านการเมือง
และอาสาสมัครชาวเมืองฟลอเรนซ์
ในปี พ.ศ. 2056
12. 2)การรับอิทธิพลของบทละครกรีก
-โรมิโอและจูเลียต -macbeth
เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเรื่องราวความขัดแย้ง
ของสองตระกูล คือ ตระกูล มอนตะคิว
และ คาปุเล็ต ในเมืองเวโรนา
ซึ่งระบุชัดเจนความขัดแย้ง
ของสองตระกูลชัดเจน
เป็นโศกนาฏกรรมยอดเยี่ยมซึ่งเป็นที่รู้จักดี
อีกเรื่องหนึ่งของ วิลเลียม เชกสเปียร์ เป็นเรื่องราว
ความทะเยอทะยานอันไม่มีที่สิน้สุดและ
นาพาชีวิตไปสู่ความหายนะ โดยนาเรื่องราว
มาจากพระประวัติของ พระเจ้าแม็คเบ็ธ
แห่งสกอตแลนด์
13. -king lear
-A midsummer Night’s Dream
ราตรีนิมิตกลางคิมหันต์ หรือ ฝันกลางคืนฤดูร้อน
ผลงานสุขนาฏกรรมท่ผีสมผสานเรื่องราวความรักของหนุ่มสาว
เวทมนตร์ นางฟ้า เรื่องรักสลับคู่อลเวง และฉากตลกขา ขัน
-เวนิชวานิช
เป็นบทละครของวิลเลียม เชกสเปียร์
ซึ่งเชื่อว่าแต่งขึ้นในราวปี ค.ศ. 1596-1598
จัดอยู่ในประเภทละครชวนหัว แต่ต่อมา
ก็ได้รับการยอมรับให้เป็นวรรณกรรมโรแมนติก
ในบรรดาผลงานของเช็คสเปียร์ทั้งหมด
เนื่องจากมีฉากรักที่โดดเด่นมากได้แปลเป็น
ภาษาไทยครั้งแรกโดย
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงพระราชนิพนธ์แปลเป็นกลอนบทละคร
ในปี พ.ศ. 2459 นอกจากนี้ยังมี เวนิสวาณิช
ฉบับการ์ตูน เรียบเรียงโดย ชลลดา ชบางบอน