SlideShare a Scribd company logo
1 of 58
Download to read offline
บทที่ 9
   ระบบต่ อมไร้ ท่อ
(ENDOCRINE SYSTEM)



                      1
ระบบต่ อมไร้ ท่อ
(ENDOCRINE SYSTEM)




                      2
ระบบต่ อมไร้ ท่อ
(ENDOCRINE SYSTEM)

   ต่ อมไร้ ท่อ (endocrine gland) ต่ อมที่
    หลั่งสารและไปมีผลต่ อเซลล์ เปาหมาย้
    โดยผ่ าน extracellular fluid เช่ นกระแส
    เลือด โดยมี 9 ชนิดในคน
   ต่ อมมีท่อ(exocrine gland) ต่ อมที่หลั่ง
    สารและไปมีผลต่ อเซลล์ เปาหมายโดย
                                ้
    ผ่ านท่ อ

                                        3
ฮอร์ โมน หมายถึงสารเคมีท่ สร้ างมาจาก
                            ี
เซลล์ ของต่ อมไร้ ท่อ(endocrine cell) และ
ไปมีผลควบคุมการทางานของเซลล์
เปาหมายที่อยู่ห่างออกไป โดยขนส่ งไป
  ้
ตามกระเสเลือด
การทางานของร่ างกายที่ควบคุม
โดยฮอร์ โมนหรื อสารเคมี เรี ยก
chemical control และเรี ยกกลุ่ม
สารเคมีดังกล่ าวว่ า chemical
messenger หรื อ molecular
messenger


                                            4
ระบบประสานงาน(co-ordinating system)




5
หน้ าที่ของฮอร์ โมนแบ่ งออกได้ เป็ น 3 กลุ่มใหญ่
1. ควบคุมการเจริญเติบโต (growth)
2. ควบคุมและรักษาสภาพแวดล ้อมภายใน
   ร่างกายให ้เป็ นปกติ
3. ควบคุมการทางานของร่างกายอย่างอัตโนมัต ิ




                                                     6
Chemical messengerหรื อmolecular messenger แบ่ งเป็ น 5 ชนิดดังนี ้
 1. Paracrine (local regulator) 2. Neurotransmitter 3. Neurohormone
 4. Hormone 5. Pheromone




                                                                  7
ฮอร์ โมนแบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมีได้ เป็ น 4 ชนิด คือ
1. ฮอร์ โมนเปปไทด์ หรื อโปรตีน
 (Polypeptide hormone)
2. ฮอร์ โมนสเตียรอยด์
 (Steroid hormone)
3. ฮอร์ โมนเอมีน
 (Amine hormone)
4.ฮอร์ โมนกรดไขมัน
 (Fatty acid hormone)




                                                               8
กลไกการออกฤทธิ์ของchemical messenger และฮอร์ โมน
  -ออกฤทธิ์ ได้ โดยการจับกับตัวรับสัญญาณ(receptor)




สารเคมีตัวเดียวกันสามารถมีผลต่ อ
เซลล์ ชนิดต่ างๆ ได้ ต่างกันโดยขึนกับ
                                 ้
1.ตัวรั บต่ างกัน (a กับb&c)
2.ตัวถ่ ายทอดสัญญาณในเซลล์
  ต่ างกัน (bกับc)
                                                        9
การออกฤทธิ์ของฮอร์ โมน แบ่ งตามโครงสร้ างได้ เป็ น 2 แบบ
1.พวกที่ มีตัวรั บอยู่ท่ ผนังเซลล์ (cell membrane receptor)ได้ แก่ ฮอร์ โมนที่มีขนาดใหญ่
                         ี
 ผ่ านเข้ าเซลล์ ไม่ ได้ ไม่ ละลายในไขมัน เช่ น ฮอร์ โมนโปรตีน




                                                                                   10
2.พวกที่ มีตัวรั บอยู่ภายในเซลล์ ได้ แก่ ฮอร์ โมนที่มีขนาดเล็กและละลายในไขมันได้
  เช่ น ฮอร์ โมนสเตียรอยด์ , ฮอร์ โมนไทรอยด์ , Vitamin D3, NO



                                               -ตัวรั บอาจอยู่ในไซโตพลาสม
                                                หรื อนิวเคลียส



-ตัวรั บเมื่อจับกับฮอร์ โมน
 (hormone-receptor complex)
 จะทาหน้ าที่เป็ น transcription factor
                                                                              11
ฮอร์โมนจากต่อมไร ้ท่อทีสาคัญของร่างกาย
                                            ่
 ต่อมไร ้ท่อมีการเปลียนแปลงมาจากเนือเยือทัง 3 ชน คือ
                           ่                   ้     ่ ้   ั้
1. พวกที่เปลี่ยนแปลงมาจากเนือเยื่อชันกลาง
                                 ้     ้
     * สร้างสารพวกสเตอรอยด์
- ต่อมหมวกไตส่วนนอก (adrenal cortex)
- รังไข่ (ovary)
- อัณฑะ (testis)
2. พวกที่เปลี่ยนแปลงมาจากเนือเยื่อชันนอก และเนือเยื่อชันใน
                               ้         ้       ้     ้
     * สร้างสารพวกเปปไทด์ โปรตีน
     - ต่อมไทรอยด์(thyroid gland)
     - ต่อมใต้ สมอง(hypophysis หรือ pituitary)
     - ต่อมหมวกไตส่วนใน(adrenal medulla)
                                                            12
ความสาคัญของต่ อมไร้ ท่อต่ อร่ างกาย
1. พวกที่ร่างกายขาดไม่ ได้ (essential endocrine gland)
- ต่อมไทรอยด์ (thyroid gland)
- ต่อมพาราไทรอยด์(parathyriod gland)
- ต่อมหมวกไตส่วนนอก (adrenal cortex)
- ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ ฮานส์
2. พวกที่ร่างกายขาดได้ (non-essential endocrine gland)
- ต่อมใต้ สมองส่วนหน้ า (pituitary)
- ต่อมไพเนียล(pineal gland)
- ต่อมหมวกไตส่วนใน (adrenal medulla)
- รังไข่ (ovary)
- อัณฑะ(testis)
                                                         13
กลไกการควบคุมการหลั่งฮอร์ โมน
    การควบคุมการหลั่ง
    ฮอร์ โมน ส่ วนใหญ่
    เป็ นกลไกการควบคุม
    ย้ อนกลับแบบ
    negative feedback




                                14
การควบคุม homeostasis ของแคลเซียมโดย PTH และ Calcitonin




                                                                 15
       การทางานแบบตรงข้ ามกัน(antagonistic) ของฮอร์ โมน 2 ชนิด
ระบบต่ อมไร้ ท่อในสัตว์ ไม่ มีกระดูกสันหลัง
1.Brain hormone(BH) หลังจาก
                        ่
neurosecretory cells มาเก็บไว้ ที่
corpus cardiacum

2.BHกระตุ้ นprothoracic
gl. ให้ หลังฮอร์ โมน
           ่                                  4.Juvenile hormone(JH) หลังจากcorpus
                                                                         ่
ecdysone                                      allatum ยับยังการเกิด metamorphosis
                                                           ้
                                              เมื่อ JH ลดลงแมลงสามารถพัฒนาไปสู่
                                              ระยะต่อไปได้

3.ecdysone กระตุ้น
การลอกคราบ



                                                                             16
ระบบต่ อมไร้ ท่อในสัตว์ มีกระดูกสันหลัง(คน)
-ในร่ างกายคนเรามีต่อมไร้ ท่อ
 ทังหมด 9 ต่ อม
   ้
-Tropic hormones:
 ฮอร์ โมนที่ไปมีบทบาท
 ควบคุมการหลั่งฮอร์ โมน
 ของต่ อมไร้ ท่ออื่น ๆ




                                                        17
การทางานร่ วมกันระหว่ างระบบประสาทและระบบต่ อมไร้ ท่อ
             (ไฮโปทาลามัสและต่ อมใต้ สมอง)
 -ไฮโปทาลามัสทาหน้ าที่เชื่อมโยง
  ระหว่ างระบบต่ อมไร้ ท่อและ
  ระบบประสาท
-เซลล์ ประสาท(neurosecretory cell)
 จากไฮโปทาลามัสไปควบคุมการ
 หลั่งฮอร์ โมนจากต่ อมใต้ สมองส่ วน
 หน้ า ทังแบบกระตุ้น(releasing
         ้
 homrone) และยับยัง(inhibiting
                     ้
 hormone)
                                                    18
ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง
                              pituitary
     ต่อมใต ้สมองเป็ นต่อมไร ้ท่อ อยูบริเวณตรง
                                     ่
                                  ่
     กลางสมองแบ่งได ้ เป็ น 3 สวน คือ

1.    ต่อมใต ้สมอง
        ่
      สวนหน ้า
      (Anterior
      pituitary)
2.    ต่อมใต ้สมอง
          ่
      สวนกลาง
      (intermidiate )
3.    ต่อมใต ้สมอง
            ่
      สวนหลัง
      (Posterior
      pituitary)


                                                 19
ต่ อมใต้ สมองส่ วนหน้ า(anterior pituitary gland or adenohypophysis)
-ควบคุมการหลั่งฮอร์ โมนโดยไฮโปทาลามัส โดยหลั่ง releasing/inhibiting
 ผ่ านทางเส้ นเลือด portal vessel




                                                                20
ฮอร์ โมนโกรท (Growth hormone,GH)

 - ฮอร์ โมนโกรท (Growth hormone,GH) เป็ นสารพวกโปรตีน
   ควบคุมการเจริญเติบโต ของร่างกาย

                   น้อยไป              มากไป
      เด็ก       dwarfism            giantism


     ผูใหญ่
       ้       acromegaly        simmon’s disease




                                                        21
giantism
• เนื่องจากในวัยเด็กมีการสร้ าง GH มาก
  เกินไปจะมีผลกระตุ้นการเจริญเติบโต
  มากกว่าปกติ เรี ยกว่า สภาวะยักษ์
  (giantism)




                                  22
13 years old




                                                                21 years old
                                                                Entering his car,
                                            18 years old        front seat had
                                                                to be removed




18 years old
High School
Graduation                                                                 23
                      http://www.altonweb.com/history/wadlow/
dwarfism
• เนื่องจากในวัยเด็กมีการขาด
  ฮอร์ โมน GH น้ อยทาให้ เกิด
  อาการร่างกายมีขนาดเล็ก แคระ
  แกร็น เนื่องจากการเจริญเติบโต
  ของกระดูกถูกยับยัง้ ระบบสืบ
  พันธ์ไม่เจริญ



                                  24
acromegaly
• เนื่องจากในวัยผู้ใหญ่มีฮอร์ โมน GH มากเกินไปจะมีผลต่อ
  การกระตุ้นการเจริญของกระดูกในด้ านกว้ าง เนื่องจาก
  กระดูกทางด้ านยาวบิดไปแล้ ว ยาวอีกไม่ได้ และยับยัง้
  เนื ้อเยื่อเกี่ยวพันด้ วย ทาให้ กระดูกที่คางขยายขนาดกว้ าง
  ขึ ้นฟั นห่างใบหน้ าเป็ นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู นิ ้วมือ นิ ้วเท้ ามี
  ขนาดใหญ่ขึ ้น ผิวหนังหนาและหยาบ




                                                               25
simmon’s disease
• เนื่องจากในผู้ใหญ่ที่มีฮอร์ โมนโกรธ
  น้ อยมักไม่แสดงลักษณะอาการให้
  เห็นแต่พบว่าน ้าตาลในเลือดต่าจึง
  ทนต่อความเครี ยดทางอารมณ์ได้
  น้ อยกว่าคนปกติ และมักจะเป็ นลม
  หน้ ามืดง่าย อาจเป็ นโรคผอมแห้ ง



                                        26
ฮอร์ โมนโกนาโดโทรฟิ น
       (gonadotrophin หรือ gonadotrophic hormone,Gn )


1. ฮอร์ โมนกระตุ้นฟอลลิเคิล หรื อ ฟอลลิเคิลสติมิวเลติงฮอร์ โมน(follicle
      stimulating hormone,FSH)
   เป็ นฮอร์ โมนพวกโปรตีนที่รวมอยูกบคาร์ โบไฮเดรต(glycoprotein) ทาหน้ าที่
                                    ่ ั
- กระต้ นฟอลลิเคิลของรังไข่ให้ เจริญเติบโต
- ออกฤทธิ์ร่วมกับฮอร์ โมนลูทิไนท์(LH)ในการกระต้ นให้ มีการสร้ างและหลังฮอร์ โมนอีสโทร
                                                                      ่
       เจน
- FSH ในเพศชายจะกระตุ้นเนื ้อเยื่อสืบพันธุ์(germinal epithelium) ภายในหลอด
    สร้ างอสุจิในอัณฑะ ให้ สร้ างอสุจิ(spermatogenesis)

                                                                                27
- ฮอร์ โมน LH กระตุ้นกลุมเซลล์
                            ่
  อินเตอร์ สติเชียลให้ หลัง
                          ่
- ฮอร์ โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone)
                                        28
ฮอร์ โมนโพรแลกติน (prolactin) หรือ (lactogenic hormone)
• เป็ นฮอร์ โมนประเภทโปรตีน กระตุ้นการเจริญ
  ของท่อของการผลิตน ้านมกระตุ้นการสร้ าง
  และผลิตน ้านม
• ในขณะตังครรภ์และตอนคลอดจะมีโพรแลก
             ้
  ตินสูง
• โพรแลกตินในเพศชายไม่ทราบหน้ าที่แน่ชด     ั
  แต่มีผ้ รายงานว่าโพรแลกตินจะทาหน้ าที่
          ู
  ร่วมกับฮอร์ โมนเพศชายในการกระตุ้นอวัยวะที่
  เกี่ยวข้ องกับการสืบพันธุ์ เช่น ต่อมลูกหมาก
  ท่อนาอสุจิ และต่อมสร้ างน ้าเลี ้ยงอสุจิ
                                                             29
• เป็ นฮอร์ โมนประเภทโปรตีน กระตุ้นการเจริญของท่อของการผลิต
  น ้านมกระตุ้นการสร้ างและผลิตน ้านม
• ในขณะตังครรภ์และตอนคลอดจะมีโพรแลกตินสูง
              ้
• โพรแลกตินในเพศชายไม่ทราบหน้ าที่แน่ชด แต่มีผ้ รายงานว่าโพรแลก
                                            ั      ู
  ตินจะทาหน้ าที่ร่วมกับฮอร์ โมนเพศชายในการกระตุ้นอวัยวะที่
  เกี่ยวข้ องกับการสืบพันธุ์ เช่น ต่อมลูกหมาก ท่อนาอสุจิ และต่อมสร้ าง
  น ้าเลี ้ยงอสุจิ




                                                                     30
ฮอร์ โมนอะดรีโนคอร์ ตโคโทรฟิ น
                                            ิ
             (adrenocorticotrophin hormone) หรือ ACTH


ทาหน้ าที่กระตุ้นอะดรี นลคอร์ เทก ของต่อมหมวกไตให้ สร้ างฮอร์ โมนตามปกติ
                        ั




                                                                           31
ACTH
•   กระตุ้นการเติบโตและการสร้ างฮอร์ โมนของต่อมหมวกไตส่วนนอก
•   กระต้ นการปลดปล่อยกรดไขมันออกจากเนื ้อเยื่อ
•   กระตุ้นการหลังอินซูลนจากตับอ่อน
                  ่     ิ
•   กระตุ้นการหลัง GH จากต่อมใต้ สมองส่วนหน้ า
                    ่
•   ACTH ยังมีลกษณะบางอย่างเหมือนฮอร์ โมนจากต่อมใต้ สมอง
                      ั
    ส่วนกลาง(MSH)จึงกระตุ้นเมลานินภายในสัตว์เลือดเย็น เช่น กบ ทาให้ มี
    สีเข้ มขึ ้น


                                                                   32
ฮอร์ โมนกระตุ้นไทรอยด์
               (thyroid stimulating hormone)

หรื อ TSH ทาหน้ าที่กระตุ้นต่อมไทรอยด์ให้ หลังฮอร์ โมนตาม
                                             ่
ปกติ ฮอร์ โมนจากต่อมใต้ สมองส่วนหน้ าจะควบคุมโดยฮอร์ โมน
ประสาทที่สร้ างมาจากไฮโพทาลามัส




                                                            33
ไฮโพทาลามัสกับการสร้ างและหลังฮอร์ โมนของต่อมใต้ สมองส่วนหน้ า
                             ่




                                                           34
• ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลัง GH (GH releasing hormone,GHRH)
                        ่
• ฮอร์ โมนยับยังการหลัง GH (GH inhibiting hormone,GHIH)
               ้      ่
• ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลังโพรแลกติน(prolactin releasing
                          ่
  hormone,PRH)
• ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลังของต่อมไทรอยด์ (thyroid releasing
                         ่
  hormone,TRH)กระตุ้นการหลัง TSH่
• ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลัง Gn (gonadotrophin releasing
                       ่
  hormone,GnRH)กระตุ้นการหลัง FSH ่
  และ LH

                                                            35
ต่ อมใต้ สมองส่ วนกลาง ทาหน้ าที่ผลิตฮอร์ โมน ดังนี ้

- ฮอร์ โมนเมลาโนไซต์ (Melanocyte
   stimulating hormone) หรื อ MSH
ทาหน้ าที่ทาให้ รงควัตถุภายในเซลล์
ผิวหนังกระจายไปทัว เซลล์
                    ่




                                                        36
ต่ อมใต้ สมองส่ วนหลัง(Posterior pituitary gland or neurohypophysis)

-ฮอร์ โมนที่หลั่งจากต่ อมใต้
 สมองส่ วนหลังสร้ างมาจาก
 เซลล์ ประสาทของไฮโปทา
 ลามัส
-โดยเซลล์ ประสาทจะยื่น
 ส่ วน axon เข้ ามาในต่ อม
 ใต้ สมองส่ วนหลัง




                                                                 37
• ต่อมใต้สมองส่ วนหลัง
  หรื อนิวโรไฮโพไฟซีส                                              Axons to
  ไม่ได้สร้างฮอร์โมนเอง                                            primary
                                                                   capillaries

  แต่ฮอร์โมนถูกสร้างมา
  จาก นิวโรซีครี ทอรี
  เซลล์ของไฮโพทาลามัส               Portal                Primary
                                                          capillaries
                                    venules
  โดยกลุ่มเซลล์เหล่านี้จะ                          Pituitary stalk
  มีแอกซอนมาสิ้ นสุ ดอยู่
  ภายในต่อมใต้สมอง                                    Posterior pituitary
  ส่ วนหลัง และเข้าสู่ Secondary
                          capillaries
  กระแสเลือด                                  Anterior pituitary




                                                                       38
วาโซเพรสซิน(Vasopressin)
 หรื อ ฮอร์ โมนแอนติได

- ยูเรติก ADH มีหน้ าที่ดดน ้า
                           ู
  กลับของหลอดไต และ
  กระตุ้นให้ หลอด เลือดบีบตัว
  ถ้ าขาดฮอร์ โมนนี ้จะเกิดการ
  เบาจืดทาให้ ปัสสาวะ บ่อย




                                 39
ADH
• มีผลให้มีการดูดน้ ากลับที่ท่อหน่วยไต
• ฮอร์โมนนี้จะมีการหลังออกมาเมื่อ กระหายน้ า และขาดน้ า
                         ่
  ความเครี ยดสูง ความดันเลือดสูง
• ยาที่มีผลต่อการกระตุนประสาทส่ วนกลาง ฝิ่ น เฮโรอีนจะมีผลในการ
                       ้
  กระตุนการหลังฮอร์โมนด้วย
         ้      ่
• ถ้ามี ADH น้อยมากๆจะทาให้เกิดโรคเบาจืด(diabetes insipidus)
  มีปัสสาวะออกมามากถึงวันละ 20 ลิตรต่อวัน


                                                             40
ออกซีโทซิน (Oxytocin)

ทาหน้าที่กระตุนกล้ามเนื้อเรี ยบ
              ้
  และ อวัยวะภายใน กระตุน     ้
  กล้ามเนื้อรอบ ๆ ต่อมน้ านม
  ให้ขบน้ านม ฮอร์โมนนี้จะ
         ั
  หลังออกมามากตอนคลอด
       ่
  เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อ มดลูก
  บีบตัวขณะคลอด


                                  41
ตับอ่ อน (pancreas)




-ตับอ่ อนประกอบด้ วยendocrine
 gland (islets of Langerhans) และ
 exocrine gland(หลั่ งเอนไซม์ )
-Islet of Langerhans ประกอบด้ วย
 alpha cells(หลั่ ง glucagon) และ beta
 cells (หลั่ง insulin)
                                                   42
-insulin และ glucagon จะทาหน้ าที่ตรงข้ ามกัน(antagonistic)
:insulin ลดระดับนาตาลในเลือด โดยไปกระตุ้นให้ มีการนากลูโคสเข้ าสู่เซลล์
                   ้
(ยกเว้ นเซลล์ สมอง), ลดการสลายไกลโคเจนที่ตับ, และลดการเปลี่ยนกรดอะมิ
โนและกลีเซอรอลไปเป็ นนาตาล
                         ้
:glucagon เพิ่มระดับนาตาลในเลือด โดยกระตุ้นเซลล์ ตับให้ สลายไกลโคเจนมา
                      ้
เป็ นกลูโคส เปลี่ยนกรดอะมิโนและกลีเซอรอลมาเป็ นกลูโคส
Diabetes mellitus (โรคเบาหวาน) สภาวะที่ระดับนาตาลในเลือดสูงกว่ าปกติ (คน
                                                 ้
ปกติ = 90mg/100ml) อาจเกิดเนื่องจากร่ างกายขาด insulin หรื อเซลล์ เปาหมาย
                                                                    ้
ไม่ ตอบสนองต่ อinsulin




                                                                      43
ต่ อมหมวกไต (adrenal gland)


                                                                   -mineralocorticoid ควบคุม
                                                                   สมดุลของเกลือและน ้า
-หลังเมื่อร่างกายอยู่
    ่                                                              เช่น aldosterone กระตุ้นให้ มี
ในสภาวะเครี ยด                                                     การดูดกลับของNa+และน ้าที่
                                                                   ท่อไต

                              autonomic
                              nervous system
                              (sympathetic)
-กระตุ้ นการสลายไกลโค
เจนได้ เป็ นกลูโคสจากตับ                                               -glucocorticoid กระตุ้น
และกล้ ามเนื ้อและกระตุ้น                                              การสังเคราะห์กลูโคสจาก
การปล่อย fatty acidจาก                                                 noncarbohydrate
เซลล์ไขมัน                                                             source เช่นจากโปรตีน
-กระตุ้ นcardiovascular
และ respiratory system
-ต่ อมหมวกไตแบ่ งเป็ น 2 ส่ วนคือ adrenal cortex(ด้ านนอก)และadrenal medulla(ตรงกลาง)
                                                                               44
ฮอร์ โมนจากต่ อมหมวกไต
ต่อมหมวกไต (adrenal gland) ประกอบด้ วยเนื ้อเยื่อ 2 ชนิดคือ
1. อะดรี นลคอร์ เทกซ์ (adrenal cortex) เป็ นเนื ้อเยื่อชันนอก
          ั                                              ้
2. อะดรี นลเมดุลลา (adrenal medulla) เป็ นเนื ้อเยื่อชันใน
            ั                                              ้
อะดรี นลคอร์ เทกซ์
       ั
ผลิตฮอร์ โมนได้ มาก สามารถแบ่งออกเป็ น 2 กลุมใหญ่ คือ
                                           ่




                                                                45
อะดรีนัลคอร์ เทกซ์ (adrenal cortex)
1. ฮอร์ โมนกลูโคคอร์ ตคอยด์ (Glucocorticoid hormone)
                       ิ
ทาหน้ าที่ควบคุมเมตาโบลิซมของคาร์ โบไฮเดรต กระตุ้นการ
                         ึ
เปลี่ยนคาร์ โบไฮเดรตและไกลโคเจนเป็ นกลูโคส และยังควบ
คุมสมดุลของเกลือแร่

2. ฮอร์ โมนมิเนราโลคอทิคอยด์ (mineralocorticoid) ทาหน้ าที่
ควบคุมสมดุลของน ้าและเกลือแร่ในร่างกาย เช่น อัลโดสเตอโรน
(aldosterone) ทาหน้ าที่ดดโซเดียมกลับท่อหน่วยไต
                         ู



                                                              46
อะดรีนัลเมดุลลา (adrenal medulla)
 อะดรีนัลเมดุลลา ผลิตฮอร์ โมนดังนี ้
 1. อะดรีนาลิน (adrenalin)
   ทาให้ น ้าตาลในเลือดเพิ่มขึ ้น และ กระตุ้นการเต้ นของหัวใจ
 2. นอร์ อะดรีนาลิน (noradrenalin)
    ทาหน้ าที่หลังจากเส้ นประสาทซิมพาเทติก ทาให้ ความดันเลือดสูง
                 ่




                                                                   47
ต่ อมไทรอยด์ (Thyroid gland)
-ต่ อมไทรอยด์ ในสัตว์ เลียง
                         ้
 ลูกด้ วยนมมี 2 พู วางตัวอยู่
บนหลอดลม
-สร้ างฮอร์ โมน
 triiodothyronine (T3) และ
 thyroxine (T4)
-ทาหน้ าที่ควบคุม
 กระบวนการเมตาบอลิสม
-ควบคุมการสร้ างโดย TSH


                                                     48
ฮอร์ โมนจากต่ อมพาราไทรอยด์ (Parathyriod gland)

ฮอร์ โมนจากต่ อมพาราไทรอยด์
- พาราทอร์ โมน (parathormone,PTH) ทาหน้ าที่รักษาสมดุลและ
  ฟอสฟอรัสในร่างกายให้ คงที่
- มีผลกระตุ้นให้ มีการเพิ่มแคลเซียมและฟอสฟอรัส
- ถ้ ามีระดับแคลเซียมต่าในเลือดจะกระตุ้นให้ มีการหลังฮอร์ โมนมาก
                                                    ่
  ขึ ้น
- ถ้ าหลังฮอร์ โมนมากเกินไปจะทาให้ มีการสะสมแคลเซียมที่ไตที่เส้ น
         ่
  เลือด กระดูกเสียแคลเซียมมากเกินไป หักง่ายเป็ นโรคกระดูกพรุน

                                                                    49
50
ฮอร์ โมนจากอวัยวะเพศ
เพศชาย
ฮอร์ โมนแอนโดรเจน
   (androgens)ประกอบไปด้ วย

เทสโทสเตอโรน (testosteron)
มีหน้ าที่ควบคุมลักษณะเกี่ยวกับ
การเปลี่ยนแปลงของเพศชายใน
ช่วงวัยรุ่น

                                          51
เพศหญิง
- เอสโทรเจน (estrogens) สร้ างจากเซลล์ฟอลลิเคิลในรังไข่ ฮอร์ โมนนี ้จะต่าในขณะมี
    ประจาเดือน
- ฮอร์ โมนโปรเจสเทอโรน (progesterone) สร้ างจาก คอร์ ปัสลูเทียม ควบคุมลักษณะ
    เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่าง กายในช่วงวัยรุ่น




                                                                             52
ต่ อมไพเนียล(pineal gland)
ฮอร์ โมนจากต่อมไพเนียล ต่อมไพเนียลอยูบริเวณกึงกลางของ
                                         ่        ่
สมองส่วนเซรี บรัมพูซ้ายและพูขวา ต่อมนี ้ไม่ได้ ทาหน้ าที่สร้ าง
ฮอร์ โมน ต่อมนี ้จะสร้ างเมลาโทนิน (melatonin) ในคนและสัตว์
ชันสูงในช่วงวัยรุ่นและยับยังการเจริญเติบของอวัยวะสืบพันธุ์
   ้                        ้
ถ้ าขาดจะทาให้ เด็กเป็ นหนุ่มสาวเร็วกว่าปกติ




                                                                  53
ต่ อมไร้ ท่อที่เกี่ยวกับการปรับตัวของสัตว์
    - ต่อมใต้ สมองส่วนกลาง           MSH
    - ต่อมไพเนียล                    melatonin
ต่ อมไร้ ท่อที่เกี่ยวข้ องกับภูมค้ ุมกัน
                                ิ
    - Thymus gland
ต่ อมไร้ ท่อที่ทาหน้ าที่ควบคุมพฤติกรรม Biological clock
   - pineal gland




                                                           54
55
56
57
ตาแหน่งของต่อมทีผลิตฟี โรโมนในสุนัข
                 ่
   1. Labial glands.
   2. Auricular glands.
   3. Perianal glands.
   4. Vulva หรือ Preputial glands.
   5. Interdigitous glands.           58

More Related Content

What's hot

วิวัฒนาการ
วิวัฒนาการวิวัฒนาการ
วิวัฒนาการWichai Likitponrak
 
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมนการรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมนsukanya petin
 
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system kasidid20309
 
10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)
10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)
10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)สำเร็จ นางสีคุณ
 
ระบบประสาท - Nervous system
ระบบประสาท - Nervous systemระบบประสาท - Nervous system
ระบบประสาท - Nervous systemsupreechafkk
 
การลำเลียงในพืช
การลำเลียงในพืชการลำเลียงในพืช
การลำเลียงในพืชพัน พัน
 
บทที่ 16 ยีนและโครโมโซม
บทที่  16  ยีนและโครโมโซมบทที่  16  ยีนและโครโมโซม
บทที่ 16 ยีนและโครโมโซมPinutchaya Nakchumroon
 
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียนใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียนสำเร็จ นางสีคุณ
 
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชsukanya petin
 
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)สำเร็จ นางสีคุณ
 
การทำงานระบบประสาท
การทำงานระบบประสาทการทำงานระบบประสาท
การทำงานระบบประสาทDew Thamita
 
ศูนย์ควบคุมระบบประสาท
ศูนย์ควบคุมระบบประสาท ศูนย์ควบคุมระบบประสาท
ศูนย์ควบคุมระบบประสาท Thitaree Samphao
 
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน Thitaree Samphao
 
สอบกลางภาคชีวะ51 1m-5
สอบกลางภาคชีวะ51 1m-5สอบกลางภาคชีวะ51 1m-5
สอบกลางภาคชีวะ51 1m-5Wichai Likitponrak
 
ระบบประสาทPart1blank
ระบบประสาทPart1blankระบบประสาทPart1blank
ระบบประสาทPart1blankThanyamon Chat.
 

What's hot (20)

วิวัฒนาการ
วิวัฒนาการวิวัฒนาการ
วิวัฒนาการ
 
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมนการรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
 
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
 
10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)
10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)
10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)
 
ม.6 นิเวศ
ม.6 นิเวศม.6 นิเวศ
ม.6 นิเวศ
 
ระบบประสาท - Nervous system
ระบบประสาท - Nervous systemระบบประสาท - Nervous system
ระบบประสาท - Nervous system
 
การลำเลียงในพืช
การลำเลียงในพืชการลำเลียงในพืช
การลำเลียงในพืช
 
ชุดการสอนที่ 1ต่อมไร้ท่อ.ในร่างกาย
ชุดการสอนที่ 1ต่อมไร้ท่อ.ในร่างกายชุดการสอนที่ 1ต่อมไร้ท่อ.ในร่างกาย
ชุดการสอนที่ 1ต่อมไร้ท่อ.ในร่างกาย
 
บทที่ 16 ยีนและโครโมโซม
บทที่  16  ยีนและโครโมโซมบทที่  16  ยีนและโครโมโซม
บทที่ 16 ยีนและโครโมโซม
 
แผนBioม.4 1
แผนBioม.4 1แผนBioม.4 1
แผนBioม.4 1
 
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียนใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
 
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
 
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
 
การทำงานระบบประสาท
การทำงานระบบประสาทการทำงานระบบประสาท
การทำงานระบบประสาท
 
ระบบหายใจ (Respiratory System)
ระบบหายใจ (Respiratory System)ระบบหายใจ (Respiratory System)
ระบบหายใจ (Respiratory System)
 
บทที่ ๑๐ พฤติกรรม
บทที่ ๑๐ พฤติกรรมบทที่ ๑๐ พฤติกรรม
บทที่ ๑๐ พฤติกรรม
 
ศูนย์ควบคุมระบบประสาท
ศูนย์ควบคุมระบบประสาท ศูนย์ควบคุมระบบประสาท
ศูนย์ควบคุมระบบประสาท
 
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน
 
สอบกลางภาคชีวะ51 1m-5
สอบกลางภาคชีวะ51 1m-5สอบกลางภาคชีวะ51 1m-5
สอบกลางภาคชีวะ51 1m-5
 
ระบบประสาทPart1blank
ระบบประสาทPart1blankระบบประสาทPart1blank
ระบบประสาทPart1blank
 

Viewers also liked

การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต - Movement system
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต - Movement systemการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต - Movement system
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต - Movement systemsupreechafkk
 
ระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive system
ระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive systemระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive system
ระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive systemsupreechafkk
 
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behaviore
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behavioreพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behaviore
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behavioresupreechafkk
 
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต - Homeostasis
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต - Homeostasisการรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต - Homeostasis
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต - Homeostasissupreechafkk
 
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตหน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตsupreechafkk
 
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตsupreechafkk
 
พันธุกรรม
พันธุกรรมพันธุกรรม
พันธุกรรมsupreechafkk
 
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตบทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตฟลุ๊ค ลำพูน
 
การสลายสารอาหารเพื่อให้ได้พลังงาน - Energy of cell
การสลายสารอาหารเพื่อให้ได้พลังงาน - Energy of cellการสลายสารอาหารเพื่อให้ได้พลังงาน - Energy of cell
การสลายสารอาหารเพื่อให้ได้พลังงาน - Energy of cellsupreechafkk
 
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive systemระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive systemsupreechafkk
 
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตเคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตsupreechafkk
 
เราจะศึกษาวิทยาศาสตร์กันอย่างไร
เราจะศึกษาวิทยาศาสตร์กันอย่างไรเราจะศึกษาวิทยาศาสตร์กันอย่างไร
เราจะศึกษาวิทยาศาสตร์กันอย่างไรsupreechafkk
 
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บทรูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บทAekapoj Poosathan
 

Viewers also liked (13)

การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต - Movement system
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต - Movement systemการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต - Movement system
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต - Movement system
 
ระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive system
ระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive systemระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive system
ระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive system
 
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behaviore
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behavioreพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behaviore
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behaviore
 
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต - Homeostasis
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต - Homeostasisการรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต - Homeostasis
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต - Homeostasis
 
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตหน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
 
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
 
พันธุกรรม
พันธุกรรมพันธุกรรม
พันธุกรรม
 
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตบทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
 
การสลายสารอาหารเพื่อให้ได้พลังงาน - Energy of cell
การสลายสารอาหารเพื่อให้ได้พลังงาน - Energy of cellการสลายสารอาหารเพื่อให้ได้พลังงาน - Energy of cell
การสลายสารอาหารเพื่อให้ได้พลังงาน - Energy of cell
 
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive systemระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
 
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตเคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
 
เราจะศึกษาวิทยาศาสตร์กันอย่างไร
เราจะศึกษาวิทยาศาสตร์กันอย่างไรเราจะศึกษาวิทยาศาสตร์กันอย่างไร
เราจะศึกษาวิทยาศาสตร์กันอย่างไร
 
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บทรูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
 

Similar to ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone system

ต่อมไร้ท่อ54
ต่อมไร้ท่อ54ต่อมไร้ท่อ54
ต่อมไร้ท่อ54Oui Nuchanart
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อWan Ngamwongwan
 
9789740330530
97897403305309789740330530
9789740330530CUPress
 
Biology Computer Project
Biology Computer ProjectBiology Computer Project
Biology Computer ProjectBee Attarit
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อWichai Likitponrak
 
6.ดุลกับฮอร์โมน
6.ดุลกับฮอร์โมน6.ดุลกับฮอร์โมน
6.ดุลกับฮอร์โมนWichai Likitponrak
 
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2Kobchai Khamboonruang
 
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011Namthip Theangtrong
 
1.3 endocrine system
1.3 endocrine system1.3 endocrine system
1.3 endocrine systemPiro Jnn
 
ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก
ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก
ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก Utai Sukviwatsirikul
 
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อบทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อNattapong Boonpong
 
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormoneเรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormonekasidid20309
 

Similar to ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone system (20)

ต่อมไร้ท่อ54
ต่อมไร้ท่อ54ต่อมไร้ท่อ54
ต่อมไร้ท่อ54
 
ระบบต่อมไร้ท่อ
ระบบต่อมไร้ท่อระบบต่อมไร้ท่อ
ระบบต่อมไร้ท่อ
 
Endocrine system
Endocrine systemEndocrine system
Endocrine system
 
ระบบต่อมไร้ท่อ
ระบบต่อมไร้ท่อระบบต่อมไร้ท่อ
ระบบต่อมไร้ท่อ
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ
 
ฮอร์โมน
ฮอร์โมนฮอร์โมน
ฮอร์โมน
 
Endocrine system
Endocrine systemEndocrine system
Endocrine system
 
9789740330530
97897403305309789740330530
9789740330530
 
Biology Computer Project
Biology Computer ProjectBiology Computer Project
Biology Computer Project
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ
 
6.ดุลกับฮอร์โมน
6.ดุลกับฮอร์โมน6.ดุลกับฮอร์โมน
6.ดุลกับฮอร์โมน
 
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
 
Hormone
HormoneHormone
Hormone
 
1.3 endocrine system
1.3 endocrine system1.3 endocrine system
1.3 endocrine system
 
ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก
ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก
ยาสำหรับผู้มีบุตรยาก
 
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อบทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
 
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormoneเรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
 
5.ฮอร์โมน
5.ฮอร์โมน5.ฮอร์โมน
5.ฮอร์โมน
 

ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone system

  • 1. บทที่ 9 ระบบต่ อมไร้ ท่อ (ENDOCRINE SYSTEM) 1
  • 3. ระบบต่ อมไร้ ท่อ (ENDOCRINE SYSTEM) ต่ อมไร้ ท่อ (endocrine gland) ต่ อมที่ หลั่งสารและไปมีผลต่ อเซลล์ เปาหมาย้ โดยผ่ าน extracellular fluid เช่ นกระแส เลือด โดยมี 9 ชนิดในคน ต่ อมมีท่อ(exocrine gland) ต่ อมที่หลั่ง สารและไปมีผลต่ อเซลล์ เปาหมายโดย ้ ผ่ านท่ อ 3
  • 4. ฮอร์ โมน หมายถึงสารเคมีท่ สร้ างมาจาก ี เซลล์ ของต่ อมไร้ ท่อ(endocrine cell) และ ไปมีผลควบคุมการทางานของเซลล์ เปาหมายที่อยู่ห่างออกไป โดยขนส่ งไป ้ ตามกระเสเลือด การทางานของร่ างกายที่ควบคุม โดยฮอร์ โมนหรื อสารเคมี เรี ยก chemical control และเรี ยกกลุ่ม สารเคมีดังกล่ าวว่ า chemical messenger หรื อ molecular messenger 4
  • 6. หน้ าที่ของฮอร์ โมนแบ่ งออกได้ เป็ น 3 กลุ่มใหญ่ 1. ควบคุมการเจริญเติบโต (growth) 2. ควบคุมและรักษาสภาพแวดล ้อมภายใน ร่างกายให ้เป็ นปกติ 3. ควบคุมการทางานของร่างกายอย่างอัตโนมัต ิ 6
  • 7. Chemical messengerหรื อmolecular messenger แบ่ งเป็ น 5 ชนิดดังนี ้ 1. Paracrine (local regulator) 2. Neurotransmitter 3. Neurohormone 4. Hormone 5. Pheromone 7
  • 8. ฮอร์ โมนแบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมีได้ เป็ น 4 ชนิด คือ 1. ฮอร์ โมนเปปไทด์ หรื อโปรตีน (Polypeptide hormone) 2. ฮอร์ โมนสเตียรอยด์ (Steroid hormone) 3. ฮอร์ โมนเอมีน (Amine hormone) 4.ฮอร์ โมนกรดไขมัน (Fatty acid hormone) 8
  • 9. กลไกการออกฤทธิ์ของchemical messenger และฮอร์ โมน -ออกฤทธิ์ ได้ โดยการจับกับตัวรับสัญญาณ(receptor) สารเคมีตัวเดียวกันสามารถมีผลต่ อ เซลล์ ชนิดต่ างๆ ได้ ต่างกันโดยขึนกับ ้ 1.ตัวรั บต่ างกัน (a กับb&c) 2.ตัวถ่ ายทอดสัญญาณในเซลล์ ต่ างกัน (bกับc) 9
  • 10. การออกฤทธิ์ของฮอร์ โมน แบ่ งตามโครงสร้ างได้ เป็ น 2 แบบ 1.พวกที่ มีตัวรั บอยู่ท่ ผนังเซลล์ (cell membrane receptor)ได้ แก่ ฮอร์ โมนที่มีขนาดใหญ่ ี ผ่ านเข้ าเซลล์ ไม่ ได้ ไม่ ละลายในไขมัน เช่ น ฮอร์ โมนโปรตีน 10
  • 11. 2.พวกที่ มีตัวรั บอยู่ภายในเซลล์ ได้ แก่ ฮอร์ โมนที่มีขนาดเล็กและละลายในไขมันได้ เช่ น ฮอร์ โมนสเตียรอยด์ , ฮอร์ โมนไทรอยด์ , Vitamin D3, NO -ตัวรั บอาจอยู่ในไซโตพลาสม หรื อนิวเคลียส -ตัวรั บเมื่อจับกับฮอร์ โมน (hormone-receptor complex) จะทาหน้ าที่เป็ น transcription factor 11
  • 12. ฮอร์โมนจากต่อมไร ้ท่อทีสาคัญของร่างกาย ่ ต่อมไร ้ท่อมีการเปลียนแปลงมาจากเนือเยือทัง 3 ชน คือ ่ ้ ่ ้ ั้ 1. พวกที่เปลี่ยนแปลงมาจากเนือเยื่อชันกลาง ้ ้ * สร้างสารพวกสเตอรอยด์ - ต่อมหมวกไตส่วนนอก (adrenal cortex) - รังไข่ (ovary) - อัณฑะ (testis) 2. พวกที่เปลี่ยนแปลงมาจากเนือเยื่อชันนอก และเนือเยื่อชันใน ้ ้ ้ ้ * สร้างสารพวกเปปไทด์ โปรตีน - ต่อมไทรอยด์(thyroid gland) - ต่อมใต้ สมอง(hypophysis หรือ pituitary) - ต่อมหมวกไตส่วนใน(adrenal medulla) 12
  • 13. ความสาคัญของต่ อมไร้ ท่อต่ อร่ างกาย 1. พวกที่ร่างกายขาดไม่ ได้ (essential endocrine gland) - ต่อมไทรอยด์ (thyroid gland) - ต่อมพาราไทรอยด์(parathyriod gland) - ต่อมหมวกไตส่วนนอก (adrenal cortex) - ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ ฮานส์ 2. พวกที่ร่างกายขาดได้ (non-essential endocrine gland) - ต่อมใต้ สมองส่วนหน้ า (pituitary) - ต่อมไพเนียล(pineal gland) - ต่อมหมวกไตส่วนใน (adrenal medulla) - รังไข่ (ovary) - อัณฑะ(testis) 13
  • 14. กลไกการควบคุมการหลั่งฮอร์ โมน การควบคุมการหลั่ง ฮอร์ โมน ส่ วนใหญ่ เป็ นกลไกการควบคุม ย้ อนกลับแบบ negative feedback 14
  • 15. การควบคุม homeostasis ของแคลเซียมโดย PTH และ Calcitonin 15 การทางานแบบตรงข้ ามกัน(antagonistic) ของฮอร์ โมน 2 ชนิด
  • 16. ระบบต่ อมไร้ ท่อในสัตว์ ไม่ มีกระดูกสันหลัง 1.Brain hormone(BH) หลังจาก ่ neurosecretory cells มาเก็บไว้ ที่ corpus cardiacum 2.BHกระตุ้ นprothoracic gl. ให้ หลังฮอร์ โมน ่ 4.Juvenile hormone(JH) หลังจากcorpus ่ ecdysone allatum ยับยังการเกิด metamorphosis ้ เมื่อ JH ลดลงแมลงสามารถพัฒนาไปสู่ ระยะต่อไปได้ 3.ecdysone กระตุ้น การลอกคราบ 16
  • 17. ระบบต่ อมไร้ ท่อในสัตว์ มีกระดูกสันหลัง(คน) -ในร่ างกายคนเรามีต่อมไร้ ท่อ ทังหมด 9 ต่ อม ้ -Tropic hormones: ฮอร์ โมนที่ไปมีบทบาท ควบคุมการหลั่งฮอร์ โมน ของต่ อมไร้ ท่ออื่น ๆ 17
  • 18. การทางานร่ วมกันระหว่ างระบบประสาทและระบบต่ อมไร้ ท่อ (ไฮโปทาลามัสและต่ อมใต้ สมอง) -ไฮโปทาลามัสทาหน้ าที่เชื่อมโยง ระหว่ างระบบต่ อมไร้ ท่อและ ระบบประสาท -เซลล์ ประสาท(neurosecretory cell) จากไฮโปทาลามัสไปควบคุมการ หลั่งฮอร์ โมนจากต่ อมใต้ สมองส่ วน หน้ า ทังแบบกระตุ้น(releasing ้ homrone) และยับยัง(inhibiting ้ hormone) 18
  • 19. ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง pituitary ต่อมใต ้สมองเป็ นต่อมไร ้ท่อ อยูบริเวณตรง ่ ่ กลางสมองแบ่งได ้ เป็ น 3 สวน คือ 1. ต่อมใต ้สมอง ่ สวนหน ้า (Anterior pituitary) 2. ต่อมใต ้สมอง ่ สวนกลาง (intermidiate ) 3. ต่อมใต ้สมอง ่ สวนหลัง (Posterior pituitary) 19
  • 20. ต่ อมใต้ สมองส่ วนหน้ า(anterior pituitary gland or adenohypophysis) -ควบคุมการหลั่งฮอร์ โมนโดยไฮโปทาลามัส โดยหลั่ง releasing/inhibiting ผ่ านทางเส้ นเลือด portal vessel 20
  • 21. ฮอร์ โมนโกรท (Growth hormone,GH) - ฮอร์ โมนโกรท (Growth hormone,GH) เป็ นสารพวกโปรตีน ควบคุมการเจริญเติบโต ของร่างกาย น้อยไป มากไป เด็ก dwarfism giantism ผูใหญ่ ้ acromegaly simmon’s disease 21
  • 22. giantism • เนื่องจากในวัยเด็กมีการสร้ าง GH มาก เกินไปจะมีผลกระตุ้นการเจริญเติบโต มากกว่าปกติ เรี ยกว่า สภาวะยักษ์ (giantism) 22
  • 23. 13 years old 21 years old Entering his car, 18 years old front seat had to be removed 18 years old High School Graduation 23 http://www.altonweb.com/history/wadlow/
  • 24. dwarfism • เนื่องจากในวัยเด็กมีการขาด ฮอร์ โมน GH น้ อยทาให้ เกิด อาการร่างกายมีขนาดเล็ก แคระ แกร็น เนื่องจากการเจริญเติบโต ของกระดูกถูกยับยัง้ ระบบสืบ พันธ์ไม่เจริญ 24
  • 25. acromegaly • เนื่องจากในวัยผู้ใหญ่มีฮอร์ โมน GH มากเกินไปจะมีผลต่อ การกระตุ้นการเจริญของกระดูกในด้ านกว้ าง เนื่องจาก กระดูกทางด้ านยาวบิดไปแล้ ว ยาวอีกไม่ได้ และยับยัง้ เนื ้อเยื่อเกี่ยวพันด้ วย ทาให้ กระดูกที่คางขยายขนาดกว้ าง ขึ ้นฟั นห่างใบหน้ าเป็ นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู นิ ้วมือ นิ ้วเท้ ามี ขนาดใหญ่ขึ ้น ผิวหนังหนาและหยาบ 25
  • 26. simmon’s disease • เนื่องจากในผู้ใหญ่ที่มีฮอร์ โมนโกรธ น้ อยมักไม่แสดงลักษณะอาการให้ เห็นแต่พบว่าน ้าตาลในเลือดต่าจึง ทนต่อความเครี ยดทางอารมณ์ได้ น้ อยกว่าคนปกติ และมักจะเป็ นลม หน้ ามืดง่าย อาจเป็ นโรคผอมแห้ ง 26
  • 27. ฮอร์ โมนโกนาโดโทรฟิ น (gonadotrophin หรือ gonadotrophic hormone,Gn ) 1. ฮอร์ โมนกระตุ้นฟอลลิเคิล หรื อ ฟอลลิเคิลสติมิวเลติงฮอร์ โมน(follicle stimulating hormone,FSH) เป็ นฮอร์ โมนพวกโปรตีนที่รวมอยูกบคาร์ โบไฮเดรต(glycoprotein) ทาหน้ าที่ ่ ั - กระต้ นฟอลลิเคิลของรังไข่ให้ เจริญเติบโต - ออกฤทธิ์ร่วมกับฮอร์ โมนลูทิไนท์(LH)ในการกระต้ นให้ มีการสร้ างและหลังฮอร์ โมนอีสโทร ่ เจน - FSH ในเพศชายจะกระตุ้นเนื ้อเยื่อสืบพันธุ์(germinal epithelium) ภายในหลอด สร้ างอสุจิในอัณฑะ ให้ สร้ างอสุจิ(spermatogenesis) 27
  • 28. - ฮอร์ โมน LH กระตุ้นกลุมเซลล์ ่ อินเตอร์ สติเชียลให้ หลัง ่ - ฮอร์ โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone) 28
  • 29. ฮอร์ โมนโพรแลกติน (prolactin) หรือ (lactogenic hormone) • เป็ นฮอร์ โมนประเภทโปรตีน กระตุ้นการเจริญ ของท่อของการผลิตน ้านมกระตุ้นการสร้ าง และผลิตน ้านม • ในขณะตังครรภ์และตอนคลอดจะมีโพรแลก ้ ตินสูง • โพรแลกตินในเพศชายไม่ทราบหน้ าที่แน่ชด ั แต่มีผ้ รายงานว่าโพรแลกตินจะทาหน้ าที่ ู ร่วมกับฮอร์ โมนเพศชายในการกระตุ้นอวัยวะที่ เกี่ยวข้ องกับการสืบพันธุ์ เช่น ต่อมลูกหมาก ท่อนาอสุจิ และต่อมสร้ างน ้าเลี ้ยงอสุจิ 29
  • 30. • เป็ นฮอร์ โมนประเภทโปรตีน กระตุ้นการเจริญของท่อของการผลิต น ้านมกระตุ้นการสร้ างและผลิตน ้านม • ในขณะตังครรภ์และตอนคลอดจะมีโพรแลกตินสูง ้ • โพรแลกตินในเพศชายไม่ทราบหน้ าที่แน่ชด แต่มีผ้ รายงานว่าโพรแลก ั ู ตินจะทาหน้ าที่ร่วมกับฮอร์ โมนเพศชายในการกระตุ้นอวัยวะที่ เกี่ยวข้ องกับการสืบพันธุ์ เช่น ต่อมลูกหมาก ท่อนาอสุจิ และต่อมสร้ าง น ้าเลี ้ยงอสุจิ 30
  • 31. ฮอร์ โมนอะดรีโนคอร์ ตโคโทรฟิ น ิ (adrenocorticotrophin hormone) หรือ ACTH ทาหน้ าที่กระตุ้นอะดรี นลคอร์ เทก ของต่อมหมวกไตให้ สร้ างฮอร์ โมนตามปกติ ั 31
  • 32. ACTH • กระตุ้นการเติบโตและการสร้ างฮอร์ โมนของต่อมหมวกไตส่วนนอก • กระต้ นการปลดปล่อยกรดไขมันออกจากเนื ้อเยื่อ • กระตุ้นการหลังอินซูลนจากตับอ่อน ่ ิ • กระตุ้นการหลัง GH จากต่อมใต้ สมองส่วนหน้ า ่ • ACTH ยังมีลกษณะบางอย่างเหมือนฮอร์ โมนจากต่อมใต้ สมอง ั ส่วนกลาง(MSH)จึงกระตุ้นเมลานินภายในสัตว์เลือดเย็น เช่น กบ ทาให้ มี สีเข้ มขึ ้น 32
  • 33. ฮอร์ โมนกระตุ้นไทรอยด์ (thyroid stimulating hormone) หรื อ TSH ทาหน้ าที่กระตุ้นต่อมไทรอยด์ให้ หลังฮอร์ โมนตาม ่ ปกติ ฮอร์ โมนจากต่อมใต้ สมองส่วนหน้ าจะควบคุมโดยฮอร์ โมน ประสาทที่สร้ างมาจากไฮโพทาลามัส 33
  • 35. • ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลัง GH (GH releasing hormone,GHRH) ่ • ฮอร์ โมนยับยังการหลัง GH (GH inhibiting hormone,GHIH) ้ ่ • ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลังโพรแลกติน(prolactin releasing ่ hormone,PRH) • ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลังของต่อมไทรอยด์ (thyroid releasing ่ hormone,TRH)กระตุ้นการหลัง TSH่ • ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลัง Gn (gonadotrophin releasing ่ hormone,GnRH)กระตุ้นการหลัง FSH ่ และ LH 35
  • 36. ต่ อมใต้ สมองส่ วนกลาง ทาหน้ าที่ผลิตฮอร์ โมน ดังนี ้ - ฮอร์ โมนเมลาโนไซต์ (Melanocyte stimulating hormone) หรื อ MSH ทาหน้ าที่ทาให้ รงควัตถุภายในเซลล์ ผิวหนังกระจายไปทัว เซลล์ ่ 36
  • 37. ต่ อมใต้ สมองส่ วนหลัง(Posterior pituitary gland or neurohypophysis) -ฮอร์ โมนที่หลั่งจากต่ อมใต้ สมองส่ วนหลังสร้ างมาจาก เซลล์ ประสาทของไฮโปทา ลามัส -โดยเซลล์ ประสาทจะยื่น ส่ วน axon เข้ ามาในต่ อม ใต้ สมองส่ วนหลัง 37
  • 38. • ต่อมใต้สมองส่ วนหลัง หรื อนิวโรไฮโพไฟซีส Axons to ไม่ได้สร้างฮอร์โมนเอง primary capillaries แต่ฮอร์โมนถูกสร้างมา จาก นิวโรซีครี ทอรี เซลล์ของไฮโพทาลามัส Portal Primary capillaries venules โดยกลุ่มเซลล์เหล่านี้จะ Pituitary stalk มีแอกซอนมาสิ้ นสุ ดอยู่ ภายในต่อมใต้สมอง Posterior pituitary ส่ วนหลัง และเข้าสู่ Secondary capillaries กระแสเลือด Anterior pituitary 38
  • 39. วาโซเพรสซิน(Vasopressin) หรื อ ฮอร์ โมนแอนติได - ยูเรติก ADH มีหน้ าที่ดดน ้า ู กลับของหลอดไต และ กระตุ้นให้ หลอด เลือดบีบตัว ถ้ าขาดฮอร์ โมนนี ้จะเกิดการ เบาจืดทาให้ ปัสสาวะ บ่อย 39
  • 40. ADH • มีผลให้มีการดูดน้ ากลับที่ท่อหน่วยไต • ฮอร์โมนนี้จะมีการหลังออกมาเมื่อ กระหายน้ า และขาดน้ า ่ ความเครี ยดสูง ความดันเลือดสูง • ยาที่มีผลต่อการกระตุนประสาทส่ วนกลาง ฝิ่ น เฮโรอีนจะมีผลในการ ้ กระตุนการหลังฮอร์โมนด้วย ้ ่ • ถ้ามี ADH น้อยมากๆจะทาให้เกิดโรคเบาจืด(diabetes insipidus) มีปัสสาวะออกมามากถึงวันละ 20 ลิตรต่อวัน 40
  • 41. ออกซีโทซิน (Oxytocin) ทาหน้าที่กระตุนกล้ามเนื้อเรี ยบ ้ และ อวัยวะภายใน กระตุน ้ กล้ามเนื้อรอบ ๆ ต่อมน้ านม ให้ขบน้ านม ฮอร์โมนนี้จะ ั หลังออกมามากตอนคลอด ่ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อ มดลูก บีบตัวขณะคลอด 41
  • 42. ตับอ่ อน (pancreas) -ตับอ่ อนประกอบด้ วยendocrine gland (islets of Langerhans) และ exocrine gland(หลั่ งเอนไซม์ ) -Islet of Langerhans ประกอบด้ วย alpha cells(หลั่ ง glucagon) และ beta cells (หลั่ง insulin) 42
  • 43. -insulin และ glucagon จะทาหน้ าที่ตรงข้ ามกัน(antagonistic) :insulin ลดระดับนาตาลในเลือด โดยไปกระตุ้นให้ มีการนากลูโคสเข้ าสู่เซลล์ ้ (ยกเว้ นเซลล์ สมอง), ลดการสลายไกลโคเจนที่ตับ, และลดการเปลี่ยนกรดอะมิ โนและกลีเซอรอลไปเป็ นนาตาล ้ :glucagon เพิ่มระดับนาตาลในเลือด โดยกระตุ้นเซลล์ ตับให้ สลายไกลโคเจนมา ้ เป็ นกลูโคส เปลี่ยนกรดอะมิโนและกลีเซอรอลมาเป็ นกลูโคส Diabetes mellitus (โรคเบาหวาน) สภาวะที่ระดับนาตาลในเลือดสูงกว่ าปกติ (คน ้ ปกติ = 90mg/100ml) อาจเกิดเนื่องจากร่ างกายขาด insulin หรื อเซลล์ เปาหมาย ้ ไม่ ตอบสนองต่ อinsulin 43
  • 44. ต่ อมหมวกไต (adrenal gland) -mineralocorticoid ควบคุม สมดุลของเกลือและน ้า -หลังเมื่อร่างกายอยู่ ่ เช่น aldosterone กระตุ้นให้ มี ในสภาวะเครี ยด การดูดกลับของNa+และน ้าที่ ท่อไต autonomic nervous system (sympathetic) -กระตุ้ นการสลายไกลโค เจนได้ เป็ นกลูโคสจากตับ -glucocorticoid กระตุ้น และกล้ ามเนื ้อและกระตุ้น การสังเคราะห์กลูโคสจาก การปล่อย fatty acidจาก noncarbohydrate เซลล์ไขมัน source เช่นจากโปรตีน -กระตุ้ นcardiovascular และ respiratory system -ต่ อมหมวกไตแบ่ งเป็ น 2 ส่ วนคือ adrenal cortex(ด้ านนอก)และadrenal medulla(ตรงกลาง) 44
  • 45. ฮอร์ โมนจากต่ อมหมวกไต ต่อมหมวกไต (adrenal gland) ประกอบด้ วยเนื ้อเยื่อ 2 ชนิดคือ 1. อะดรี นลคอร์ เทกซ์ (adrenal cortex) เป็ นเนื ้อเยื่อชันนอก ั ้ 2. อะดรี นลเมดุลลา (adrenal medulla) เป็ นเนื ้อเยื่อชันใน ั ้ อะดรี นลคอร์ เทกซ์ ั ผลิตฮอร์ โมนได้ มาก สามารถแบ่งออกเป็ น 2 กลุมใหญ่ คือ ่ 45
  • 46. อะดรีนัลคอร์ เทกซ์ (adrenal cortex) 1. ฮอร์ โมนกลูโคคอร์ ตคอยด์ (Glucocorticoid hormone) ิ ทาหน้ าที่ควบคุมเมตาโบลิซมของคาร์ โบไฮเดรต กระตุ้นการ ึ เปลี่ยนคาร์ โบไฮเดรตและไกลโคเจนเป็ นกลูโคส และยังควบ คุมสมดุลของเกลือแร่ 2. ฮอร์ โมนมิเนราโลคอทิคอยด์ (mineralocorticoid) ทาหน้ าที่ ควบคุมสมดุลของน ้าและเกลือแร่ในร่างกาย เช่น อัลโดสเตอโรน (aldosterone) ทาหน้ าที่ดดโซเดียมกลับท่อหน่วยไต ู 46
  • 47. อะดรีนัลเมดุลลา (adrenal medulla) อะดรีนัลเมดุลลา ผลิตฮอร์ โมนดังนี ้ 1. อะดรีนาลิน (adrenalin) ทาให้ น ้าตาลในเลือดเพิ่มขึ ้น และ กระตุ้นการเต้ นของหัวใจ 2. นอร์ อะดรีนาลิน (noradrenalin) ทาหน้ าที่หลังจากเส้ นประสาทซิมพาเทติก ทาให้ ความดันเลือดสูง ่ 47
  • 48. ต่ อมไทรอยด์ (Thyroid gland) -ต่ อมไทรอยด์ ในสัตว์ เลียง ้ ลูกด้ วยนมมี 2 พู วางตัวอยู่ บนหลอดลม -สร้ างฮอร์ โมน triiodothyronine (T3) และ thyroxine (T4) -ทาหน้ าที่ควบคุม กระบวนการเมตาบอลิสม -ควบคุมการสร้ างโดย TSH 48
  • 49. ฮอร์ โมนจากต่ อมพาราไทรอยด์ (Parathyriod gland) ฮอร์ โมนจากต่ อมพาราไทรอยด์ - พาราทอร์ โมน (parathormone,PTH) ทาหน้ าที่รักษาสมดุลและ ฟอสฟอรัสในร่างกายให้ คงที่ - มีผลกระตุ้นให้ มีการเพิ่มแคลเซียมและฟอสฟอรัส - ถ้ ามีระดับแคลเซียมต่าในเลือดจะกระตุ้นให้ มีการหลังฮอร์ โมนมาก ่ ขึ ้น - ถ้ าหลังฮอร์ โมนมากเกินไปจะทาให้ มีการสะสมแคลเซียมที่ไตที่เส้ น ่ เลือด กระดูกเสียแคลเซียมมากเกินไป หักง่ายเป็ นโรคกระดูกพรุน 49
  • 50. 50
  • 51. ฮอร์ โมนจากอวัยวะเพศ เพศชาย ฮอร์ โมนแอนโดรเจน (androgens)ประกอบไปด้ วย เทสโทสเตอโรน (testosteron) มีหน้ าที่ควบคุมลักษณะเกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงของเพศชายใน ช่วงวัยรุ่น 51
  • 52. เพศหญิง - เอสโทรเจน (estrogens) สร้ างจากเซลล์ฟอลลิเคิลในรังไข่ ฮอร์ โมนนี ้จะต่าในขณะมี ประจาเดือน - ฮอร์ โมนโปรเจสเทอโรน (progesterone) สร้ างจาก คอร์ ปัสลูเทียม ควบคุมลักษณะ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่าง กายในช่วงวัยรุ่น 52
  • 53. ต่ อมไพเนียล(pineal gland) ฮอร์ โมนจากต่อมไพเนียล ต่อมไพเนียลอยูบริเวณกึงกลางของ ่ ่ สมองส่วนเซรี บรัมพูซ้ายและพูขวา ต่อมนี ้ไม่ได้ ทาหน้ าที่สร้ าง ฮอร์ โมน ต่อมนี ้จะสร้ างเมลาโทนิน (melatonin) ในคนและสัตว์ ชันสูงในช่วงวัยรุ่นและยับยังการเจริญเติบของอวัยวะสืบพันธุ์ ้ ้ ถ้ าขาดจะทาให้ เด็กเป็ นหนุ่มสาวเร็วกว่าปกติ 53
  • 54. ต่ อมไร้ ท่อที่เกี่ยวกับการปรับตัวของสัตว์ - ต่อมใต้ สมองส่วนกลาง MSH - ต่อมไพเนียล melatonin ต่ อมไร้ ท่อที่เกี่ยวข้ องกับภูมค้ ุมกัน ิ - Thymus gland ต่ อมไร้ ท่อที่ทาหน้ าที่ควบคุมพฤติกรรม Biological clock - pineal gland 54
  • 55. 55
  • 56. 56
  • 57. 57
  • 58. ตาแหน่งของต่อมทีผลิตฟี โรโมนในสุนัข ่ 1. Labial glands. 2. Auricular glands. 3. Perianal glands. 4. Vulva หรือ Preputial glands. 5. Interdigitous glands. 58