More Related Content
Similar to 9789740330387 (10)
9789740330387
- 1. 1 พื้นที่การใช้งานของครัวไทย
บทที่
และครัวตะวันตก
การประกอบอาหารไทยและอาหารตะวันตกมีความแตกต่างกันมาก ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียม
กระบวนการประกอบอาหาร และการใช้พื้นที่ภายในห้องครัว เนื่องจากรสชาติที่มีเครื่องเทศประเภท
ต่าง ๆ และวิธีการปรุงอาหารที่ใช้เตาหุงต้ม ก�ำลังไฟที่แรง กลิ่นคราบน�้ำมันต่าง ๆ เหล่านี้จึงท�ำให้มี
การจัดวางพื้นที่ภายในห้องครัวและการใช้งานในแต่ละขั้นตอนเพี่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละ
ประเภท การใช้งานในพื้นที่ห้องครัวสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภทดังต่อไปนี้
1.1 การใช้พื้นที่ท�ำอาหารในครัวไทย
อาหารไทยมีชื่อเสียงและโด่งดังเป็นที่นิยม
ไปทั่วโลก เนื่องจากมีรสชาติที่เผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน
ตามแต่ละชนิดของอาหาร และการใช้เครื่องเทศ
สมุนไพรที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นต้มย� ำ
กุ้ง ผัดไทยซึ่งเป็นอาหารที่ชาวต่างชาติรู้จักและนิยม
อาหารไทยที่มีอยู่หลากหลายในเรื่องของรู ป แบบ
และรสชาติมีการประกอบและการปรุงที่แตกต่างกัน
ไปแต่ละชนิด ประเภทของอาหาร อาหารไทยแบ่ง
ออกได้เป็นอาหารคาว อาหารหวาน หรือประเภท
ขนมไทย ดังนั้น วิธี ขั้นตอนการเตรียม การปรุง
และการประกอบอาหารจึงมีขนตอนและวิธทแตกต่าง
ั้ ี ี่
กัน รวมไปถึงการใช้ขนาดของพื้นที่และพฤติกรรม
กิจกรรมในการใช้งานแตกต่างกันไป ประเภทของ
อาหารไทยสามารถแบ่งออกได้ดังต่อไปนี้ ภาพที่ 1.1
1.1.1 อาหารประเภทแกง เช่น แกงเลียง แกง แสดงภาพพื้นที่ใช้สอยและอุปกรณ์เครื่องใช้
ต่าง ๆ ในการท�ำอาหารไทย
เผ็ด แกงป่า จะต้องใช้วัตถุดิบและเครื่องเทศมาก
ดังนั้นจ�ำเป็นต้องมีพื้นที่เตรียมบนเคาน์เตอร์มากส�ำหรับการตระเตรียมปอกเปลือก หั่น สับ บด และ
- 2. ควรอยู่ใกล้อ่างล้างจานเพื่อสะดวกในการใช้งาน
1.1.2 อาหารประเภทเครื่องจิ้มหรือน�้ำพริก เช่น น�้ำพริกต่าง ๆ หลนประเภทต่าง ๆ ส่วนมาก
จะใช้ครกกับสากในการต�ำหรือโขลกเครื่องปรุงของน�้ำพริกให้เข้ากัน ดังนั้นควรมีพื้นที่ส�ำหรับการ
รองรับพฤติกรรมของการต�ำหรือโขลก ในการก�ำหนดพื้นที่ที่มีระยะความสูงต�่ำของการใช้งาน และ
วัสดุรองรับการใช้งาน
ภาพที่ 1.2
แสดงภาพพื้นที่ส่วนปรุงอาหารและส่วนใช้ส�ำหรับการโขลกเครื่องพริกแกง
2
- 3. 1.1.3 อาหารประเภทแกงคั่ว เช่น แกงขี้เหล็ก แกงเทโพ เป็นแกงที่มักใส่เนื้อสัตว์โขลกลง
ผสมกับน�้ำพริกแกงเพื่อให้น�้ำแกงข้นขึ้น ต้องมีพื้นที่เตรียมอาหารด้านข้างเตาหุงต้มเพื่อท�ำการ
หั่นเนื้อและส่วนผสมอื่น ๆ ควรเป็นเตาหุงต้มที่มีตะแกรงรองรับกระทะทรงโค้ง (Wok) หรือหม้อขนาด
ใหญ่ได้
1.1.4 อาหารประเภทย�ำ พล่า เช่น ย�ำวุ้นเส้น ย�ำถั่วพู ส่วนส�ำคัญคือการท�ำน�้ำย�ำ ต้องมีพื้นที่
เตรียมบนเคาน์เตอร์ใกล้กับอ่างล้างจาน เพราะต้องใช้เขียงส�ำหรับการหั่นและสับวัตถุดิบต่าง ๆ และ
ควรมีปลั๊กไฟเหนือเคาน์เตอร์เพื่อใช้ส�ำหรับเครื่องปั่นหรือบดอาหาร
1.1.5 อาหารประเภทปิ้ง ย่าง เผา เช่น ปิ้งปลา ย่างไก่ กุ้งเผา โดยใช้เตาย่างไฟฟ้า หรือใช้เตา
ย่างแก๊ส จะเป็นแบบฝังบนเคาน์เตอร์ หรือเตาย่างไฟฟ้าลอยตัว ควรมีเครื่องดูดควันที่มีแรงดูดสูง
หรือใช้ครัวไทยภายนอกบ้าน ถ้าใช้เตาถ่านก็จะให้กลิ่นและรสชาติอาหารที่หอมยิ่งขึ้น
1.1.6 อาหารประเภททอด ผัด เช่น ปลาทอดกระเทียมพริกไทย ผักบุ้งผัดไฟแดง เป็นประเภท
ของอาหารที่ต้องใช้ไฟแรงและการผัดอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เตาหุงต้มควรให้ระดับความร้อนที่สูง และ
มีตะแกรงที่รองรับกระทะทรงโค้ง (Wok) จ�ำเป็นต้องมีเครื่องดูดควันที่มีแรงดูดสูง
1.1.7 อาหารประเภทนึ่ง เช่น ปลานึ่งซีอิ๊ว ห่อหมก เป็นอาหารที่ใช้เวลาปรุงค่อนข้างนาน
ควรใช้เตาหุงต้มขนาดใหญ่ที่มีจ�ำนวนหัวเตาหุงต้มมาก และควรมีพื้นที่เตรียมด้านข้างส� ำหรับการ
พักอาหาร ในขณะเตรียมหรือประกอบอาหาร
1.1.8 อาหารประเภทขนมหวาน เช่น ลูกตาลลอยแก้ว กล้วยหักมุกเชื่อม ฟักทองแกงบวด
อาหารประเภทนี้ใช้ส่วนผสมหลักคือน�้ ำตาล แล้วผสมกับวัตถุดิบต่าง ๆ ดังนั้นจึงจ� ำเป็นต้องใช้
เตาหุงต้มเพื่อละลายน�้ำตาล ควรมีพื้นที่เตรียมบนเคาน์เตอร์เพี่อวางอุปกรณ์และวัตถุดิบต่าง ๆ การ
ประกอบอาหารประเภทนี้น่าจะเหมาะส�ำหรับการใช้พื้นที่เคาน์เตอร์เกาะกลางห้อง (Island)
1.2 เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในครัวไทย
การท�ำอาหารไทยต้องมีขั้นตอนการเตรียม ดังนั้น เครื่องมือและอุปกรณ์ที่จะช่วยอ�ำนวยความ
สะดวกในการท�ำอาหารจึงมีความจ�ำเป็น และพฤติกรรมการใช้งานในขณะเตรียม การปรุงอาหาร
จะมีการปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความถนัดในการใช้งานและการท�ำอาหารประเภท
นั้น ๆ สิ่งของหลัก ๆ ที่ใช้ในการท�ำอาหารไทยและอยู่ในครัวไทย ได้แก่ ครกกับสาก เตาไฟหุงต้ม
ตู้กับข้าว และตั่ง สามารถอธิบายถึงการใช้งานได้ดังต่อไปนี้
1.2.1 ครกกับสาก
ครัวไทยมีเอกลักษณ์อยู่อย่างหนึ่งคือ การต�ำ การโขลกเครื่องแกงหรือน�ำพริก ซึ่งจะไม่เหมือน
้
3
- 5. เป็นท่าที่สบายที่สุด ถ้าจะยืนต�ำครกบนเคาน์เตอร์ควรเป็นโครงสร้างที่แข็งแรง และรับน�้ำหนักของ
การกระแทกได้ ถ้าโขลกเครื่องแกงไม่ถนัดก็จะท�ำให้ต้องออกแรงมากแล้วเครื่องแกงก็จะกระเด็น
ออกมาจากครก การใช้งานทั่วไปในการโขลกหรือต�ำ ความสูงของเคาน์เตอร์หรือโต๊ะควรสูงไม่เกิน 65
เซนติเมตร
1.2.2 เตาหุงต้ม
เตาหุงต้มเป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งในการท�ำอาหารไทย การที่จะผัดผักในเวลาสั้นจ�ำเป็นต้อง
ใช้เตาหุงต้มที่ให้ความร้อนสูง การที่ใช้กระทะทรงโค้งมีด้ามจับ หรือที่เรียกว่า ว๊อก (Wok) กับเตาหุงต้ม
ที่เหมาะส�ำหรับกระทะทรงโค้งควรมีขาตั้งกระทะที่สูงเพื่อป้องกันไม่ให้กระทะเคลื่อนที่และหกได้ใน
ขณะประกอบอาหาร และควบคุมระดับไฟได้ง่าย ส่วนมากจะใช้เตาหุงต้มแบบแก๊ส ถ้าใช้เตาหุงต้ม
แบบไฟฟ้าแบบฮอตเพลต (Hot plate) จะให้ความร้อนไม่สูง แต่ต้องใช้กระทะแบบก้นแบน (Pan) ซึ่ง
ก็จะผัดผักหรือท�ำอาหารไทยไม่สะดวก
เตาไฟหุงต้มอีกประเภทหนึ่งคือ เตาอั้งโล่ หรือเตาถ่าน เป็นเตาหุงต้มสมัยเก่า ซึ่งจะมีใช้กัน
ทุกครัวเรือน เหมาะส�ำหรับอาหารไทยที่ต้องการปิ้ง ย่าง หรือเผาหอม เผาพริก เผากะปิ อาหารจะมี
กลิ่นที่หอมเมื่อท�ำอาหารจากเตาอั้งโล่
1.2.3 ตู้กับข้าว
ตู้กับข้าวเป็นเฟอร์นิเจอร์หลักที่อยู่ในห้องครัว ท�ำจากวัสดุที่เป็นไม้หรืออะลูมิเนียม จะมีขาสูง
มักจะวางขาตู้อยู่ในถ้วยที่มีนำเพื่อป้องกันมดและแมลง หน้าบานกระจกใสมีทั้งเป็นบานเปิดหรือบาน
�้
เลื่อน ผนังด้านข้างจะเป็นแผ่นปั๊มรูที่มีรูระบายอากาศขนาดเล็ก หรือกรุด้วยมุ้งลวดเพื่อระบายกลิ่น
อาหารที่อยู่ในตู้ และควรระบายอากาศได้ดี นอกจากนั้นยังป้องกันแมลงวันและแมลงอื่น ๆ ภายใน
มีชั้นปรับระดับใช้เก็บเครื่องปรุง น�้ำมันที่ใช้แล้ว อาหารที่ปรุงเสร็จแล้ว หรืออาหารที่เก็บไว้รับประทาน
มื้อต่อไป
1.2.4 ตั่ง
ตั่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ใช้ส�ำหรับนั่งหรือนอนเล่น ไม่สูงมาก และยังสามารถใช้เป็นที่นั่ง
โขลกน�้ำพริก สับหมู หรือคั้นกะทิได้ สมัยก่อนในครัวไทยจะนิยมท�ำอาหารบนพื้น การใช้งานจะขวาง
ทางเดินไปมาในห้องครัว การนังบนพืนท�ำอาหารหรือปรุงอาหารอาจดูไม่เหมาะสม ไม่สะอาด และท�ำให้
่ ้
อาหารไม่น่ารับประทาน พฤติกรรมการท�ำครัวของคนสมัยก่อนจะนั่งพับเพียบหรือนั่งขัดสมาธิ แต่ใน
ปัจจุบันการนั่งท�ำอาหารในลักษณะนั้นจะไม่ถนัด และยังท�ำให้เกิดการเมื่อยล้าในการที่ต้องมีขั้นตอน
การเตรียมอาหารที่นาน ดังนั้น การที่นั่งห้อยขาบนตั่งโขลกน�้ำพริก เครื่องแกง หรือการเตรียมอาหาร
จะเพิ่มความสะดวกสบายในขณะท�ำงาน
5
- 6. 1.3 วิธีท�ำอาหารและการใช้พื้นที่ในครัวตะวันตก
การปรุงอาหารในครัวตะวันตกมักจะไม่ใช้เครืองเทศทีมกลินแรง เครืองเทศหลักในการปรุงรสชาติ
่ ่ี ่ ่
ที่ใช้ได้แก่ เกลือและพริกไทย นอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นเครื่องเทศที่ใช้ดับกลิ่นคาว จะมีการใช้ไวน์ขาว
และไวน์แดงเพื่อเสริมรสชาติอาหารในแต่ละประเภท อาหารแต่ละชนิดจะใช้เวลาในการเตรียมและ
การปรุงอาหารค่อนข้างนาน และขึ้นอยู่กับการใช้ก�ำลังไฟต�่ำไปจนถึงปานกลาง
การเตรียมอาหารของครัวตะวันตกนั้น อาหารจานหนึ่งมีส่วนผสมหรือเครื่องเคียงอยู่หลาย
อย่าง เช่น การต้มมันฝรั่ง แล้วน�ำมาตั้งให้เย็น ปอกเปลือกแล้วน�ำมาบดผสมเนยใส่เครื่องเทศให้เข้ากัน
รับประทานคู่กับไก่งวงอบ ซึ่งต้องอบในเตาอบหลายชั่วโมง ยังมีสลัดผักสดพร้อมน�้ ำสลัด อาหารใน
ภาพที่ 1.4
แสดงภาพรูปแบบของครัวตะวันตกที่มีพื้นที่ใช้สอยของเคาน์เตอร์เกาะกลางห้อง
6
- 7. แต่ละชนิดมีขั้นตอนการเตรียมที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับวิธีประกอบอาหาร เช่น การต้ม การอบ
การทอด จะใช้เวลาที่แตกต่างกัน ดังนั้น การที่จะใช้พื้นที่บนเตาหุงต้มพร้อมกับการใช้เตาอบ พื้นที่
เตรียมอาหารและพักอาหารที่ทำเสร็จแล้ว จะต้องมีพื้นที่ที่พอเพียง และควรจัดวางต�ำแหน่งเครื่องใช้
�
ไฟฟ้าให้เหมาะกับต�ำแหน่งการใช้งานที่สะดวก ตามหลักการประกอบอาหารแต่ละชนิดสามารถแยก
ออกได้ดังต่อไปนี้
1.3.1 การต้ม (Boiling, Poaching, Braising) แยกออกได้เป็น 3 ระดับ ได้แก่ การต้มใช้ไฟต�่ำ
ปานกลาง และสูงจนน�้ำเดือด การประกอบอาหารประเภทนี้ต้องใช้พื้นที่บนเตาหุงต้มค่อนข้างจะนาน
และควรมีพื้นที่เตรียมบนเคาน์เตอร์ด้านข้างเตาหุงต้มกว้างพอสมควร วัสดุที่ใช้กรุเคาน์เตอร์ควรทน
ความร้อน เพราะเป็นที่พักหม้อเพื่อถ่ายเทสู่ภาชนะที่ใส่น�้ำเย็นแล้วจึงน�ำไปที่อ่างล้างจาน
1.3.2 การตุ๋น การท�ำสตู (Simmering, Stewing) จะเหมือนกับการต้ม แต่ต่างกันคือการ
ใส่ส่วนผสมต่าง ๆ รวมถึงเนื้อสัตว์ลงในหม้อ ใช้ไฟระดับต�ำถึงระดับกลาง ดังนั้นก็จะใช้พื้นที่บนเตา
่
หุงต้มเป็นเวลานาน และควรมีเครื่องดูดควันที่มีแรงดูดหลายระดับเพื่อปรับให้เกิดความเหมาะสมกับ
การใช้งาน
1.3.3 การย่าง การอบ (Grilling, Roasting) ของอาหารตะวันตก มักจะใช้เตาอบเป็นหลัก
โดยก�ำหนดตั้งโปรแกรมของเตาอบว่าจะใช้ไฟส่วนบน ส่วนล่าง หรือทั้ง 2 ส่วน ควรเป็นเตาอบยึดติด
ผนัง การติดตั้งควรก�ำหนดระยะความสูงของหน้าบานในเวลาเปิดให้อยู่ระดับเดียวกันกับเคาน์เตอร์
เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และมีพื้นที่เตรียมบนเคาน์เตอร์ด้านข้างไว้พักอาหาร ด้านล่างของเตา
อบควรมีลิ้นชักไว้ใส่อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ส้อม ถุงมือจับวัสดุที่ร้อนไว้ใกล้ ๆ
นอกจากการย่างในเตาอบแล้ว ยังมีการย่างแบบบาร์บีคิว (Barbeque) โดยใช้เตาถ่านที่มี
ฝาครอบที่เคลื่อนย้ายได้ โดยปกติจะตั้งอยู่ระเบียงด้านหลังของห้องครัว มักจะเป็นที่นิยมใช้กันในช่วง
ฤดูร้อน
1.3.4 การทอดแบบน�้ำมันท่วมอาหาร (Deep fat frying) และการทอดแบบน�้ำมันน้อย (Pan
frying) จะใช้กระทะก้นแบนเป็นหลัก ควรมีพื้นที่เตรียมบนเคาน์เตอร์ใกล้เตาหุงต้มเพื่อพักกระทะร้อน
หรือเตรียมวัตถุดิบก่อนที่จะประกอบในการปรุงอาหาร
1.4 พื้นที่ที่ติดกับห้องครัว
ห้องครัวเป็นห้องหนึงภายในบ้านทีใช้งานอยูเป็นประจ�ำ และเป็นห้องทีมความส�ำคัญเพราะเป็น
่ ่ ่ ่ี
ห้องที่ต้องเตรียม ประกอบ ปรุงอาหารให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัว ห้องครัวส่วนมากมักจะอยู่ติด
กับห้องรับประทานอาหารเพื่อเป็นการใช้พื้นที่ได้ต่อเนื่อง หรือพื้นที่ส่วนเตรียมขนาดเล็ก (Pantry)
7
- 8. ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก และห้องซักรีด ดังนั้น การที่จะออกแบบห้องครัวให้เหมาะสมกับพื้นที่
และห้องที่อยู่ต่อเนื่องกันนั้นจึงจ�ำเป็นต้องรู้ถึงพื้นที่หรือห้องใกล้เคียงเพื่อการจัดกิจกรรมการใช้งาน
ให้เหมาะสมและมีความสอดคล้อง ซึ่งสามารถอธิบายและแบ่งออกเป็นแต่ละห้องได้ดังต่อไปนี้
1.4.1 ห้องรับประทานอาหาร ส่วนมากจะอยู่ติดกับห้องครัว หรืออาจเป็นห้องเดียวกัน หรือ
อาจใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นตัวแบ่งพื้นที่การใช้งานให้เป็นสัดส่วน หรือจะมีผนังเป็นตัวแบ่งพื้นที่แล้วเจาะ
ช่องไว้ส�ำหรับส่งอาหารและพักอาหารก่อนที่จะน�ำมาจัดวางบนโต๊ะ ขนาดของห้องรับประทานอาหาร
จะมีขนาดแตกต่างกันไปตั้งแต่ขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่ขึ้นอยู่กับจ�ำนวนของสมาชิกภายในบ้านใน
การก�ำหนดขนาดของห้อง
พื้นที่ใช้สอยส�ำหรับ 1 คนที่นั่งรับประทานอาหารประมาณ ± 0.60 ตารางเมตร ถ้ามีจำนวน �
สมาชิก 4 คน ควรมีพื้นที่รับประทานอาหารอย่างน้อยที่สุด 4 ตารางเมตร ในการจัดวางรูปทรงของ
โต๊ะรับประทานอาหารนั้นจะขึ้นอยู่กับจ�ำนวนสมาชิกภายในครอบครัวและขนาดของพื้นที่ห้อง ส่วน
รูปทรงของโต๊ะนั้นก็จะมี 2 แบบ คือ รูปทรงกลม และรูปทรงสี่เหลี่ยม ในการจัดวางควรเผื่อพื้นที่ไว้
ส�ำหรับการเข้าออกจากโต๊ะรับประทานอาหารและเก้าอี้
1.4.2 พื้นที่ในส่วนรับประทานอาหารเช้าหรืออาหารว่าง ถ้าเป็นห้องครัวที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่
ก็จะมีหน้าต่างมุข (Bay window) ยื่นออกไป บริเวณนั้นก็จะจัดเป็นพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารเช้า
หรืออาหารว่าง การจัดวางก็เป็นโต๊ะขนาด 2-4 ที่นั่ง หรืออาจเป็นโต๊ะและที่นั่งแบบติดตาย (Ban-
quette style seating) ที่มีโต๊ะอยู่ตรงกลาง หรือในบางครั้งก็จะใช้เคาน์เตอร์บาร์ (Counter bar)
และเก้าอี้ทรงสูง (Stool) ไว้นั่งรับประทานอาหารเช้า แต่ในห้องครัวที่มีขนาดเล็กและมีพื้นที่จ�ำกัด
ก็อาจใช้เป็นโต๊ะขนาดเล็กที่สามารถพับเก็บได้หรือยึดติดไว้กับผนัง และเก้าอี้ที่พับเก็บได้หรือเป็น
เก้าอี้ขนาดเล็ก
1.4.3 พื้นที่ส่วนเตรียมอาหารขนาดเล็ก (Pantry) เป็นส่วนพื้นที่ย่อยจากห้องครัวเพี่อที่จะ
อ�ำนวยความสะดวกแก่การใช้งาน ประกอบด้วยตู้เย็น เตาอบไมโครเวฟ อ่างล้างจานขนาดเล็ก และ
เป็นพื้นที่ส�ำหรับเก็บถ้วย จาน แก้ว ช้อนส้อม และอื่น ๆ ในบางครั้งพื้นที่นี้อาจปรับเปลี่ยนการใช้สอย
เป็นเคาน์เตอร์บาร์ขนาดเล็กก็ได้เช่นกัน
1.4.4 ห้องซักรีด ถ้าเป็นบ้านขนาดใหญ่ในต่างประเทศจะมีห้องซักรีดที่มีเครื่องซักผ้า เครื่อง
อบผ้า และอุปกรณ์การรีดผ้าตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน หรือจะเป็นส่วนเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อกับทางเดิน
หรือเป็นพื้นที่ที่เป็นช่องขนาดเล็กเข้าไปก็จะสามารถใช้งานควบคู่ไปกับห้องครัวได้
ในประเทศไทยนั้นใช้แต่เครื่องซักผ้า ส่วนมากจะตั้งเครื่องซักผ้าอยู่บริเวณด้านนอกตัวบ้านใน
บริเวณลานซักล้าง ซึ่งเหมาะส�ำหรับการใช้งานเพราะสามารถเอาเสื้อผ้าที่ซักแล้วตากแดดได้เลย
ก็อาจจะใช้ห้องเก็บเสื้อผ้าเตรียมรีดต่อไป
8
- 9. 1.4.5 ห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น การใช้งานของทั้ง 2 ห้องนี้ก็จะต้องมีความสัมพันธ์กับ
ห้องครัว เพราะจะต้องสะดวกในการบริการการเสิร์ฟอาหาร อาหารว่าง และเครื่องดื่ม กิจกรรมหลัก
ของห้องนี้คือ การท�ำให้แขกหรือสมาชิกในครอบครัวได้มีการสนทนากัน มีการพักผ่อน ดูโทรทัศน์
หรือมีการสังสรรค์กัน เช่น การจัดงานเลี้ยง งานวันเกิด การรวมกลุ่มท�ำงานอดิเรก และกิจกรรมอื่น ๆ
ก็อาจมีพื้นที่ที่ต่อเนื่องออกไปถึงบริเวณระเบียงภายนอกบ้าน หรือส่วนหน้าบ้าน หรือหลังบ้าน
1.5 การวางต�ำแหน่งของห้องครัว
ต�ำแหน่งของห้องครัวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นครัวแบบเปิดอยู่ภายใน
ตัวบ้านที่สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง หรือครัวแบบปิดที่ตั้งอยู่นอกบ้าน นอกเหนือจากนั้นคือ
การหันทิศทางเพื่อเป็นการรับแสงแดดและลมเข้าสู่ภายในห้องครัวเป็นสิ่งที่จ�ำเป็น โดยการผ่าน
ช่องหน้าต่าง ประตู และช่องแสงเพื่อใช้แสงสว่างจากภายนอกและใช้ลมถ่ายเทอากาศภายในครัว
ต�ำแหน่งของห้องครัวและทิศทางของแสงสามารถอธิบายได้ดังต่อไปนี้
1.5.1 ทิศของแสง ควรอยู่ในทิศทางที่มีแสงสว่างส่องได้ถึง ทั้งนี้เพื่อให้แสงแดดได้ฆ่าเชื้อโรค
ต่าง ๆ และไล่ความชื้นภายในครัว โดยเฉพาะในบริเวณอ่างล้างจานควรอยู่ใกล้กับช่องหน้าต่าง จะ
ช่วยให้อากาศไหลเวียน-ถ่ายเท และระบายกลินต่าง ๆ ในขณะทีประกอบอาหาร ทังยังท�ำให้ภายในครัว
่ ่ ้
เย็นสบาย
• แสงทางทิศเหนือ ให้ความสว่างกับห้องครัวได้ตลอดทังวัน แต่ไม่เกิดความร้อนเพราะ
้
ไม่ใช่ทิศทางโคจรของดวงอาทิตย์
• แสงทางทิศใต้ มักจะส่องห้องครัวในช่วงฤดูหนาว และจะให้แสงพอเหมาะในช่วง
ฤดูร้อน การที่ท�ำช่องแสงบนหลังคาทางทิศใต้หรือทางทิศตะวันตกจะช่วยให้ห้องครัวได้รับแสงสว่าง
ในช่วงฤดูหนาวได้เต็มที่ เพราะในช่วงฤดูหนาวพระอาทิตย์จะอ้อมไปทิศใต้
• แสงทางทิศตะวันออก ห้องครัวที่หันไปทางทิศตะวันออกจะได้รับแสงแดดตอนเช้า
จะท�ำให้ห้องได้รับความร้อนและแสงสว่างเพราะเป็นทิศที่พระอาทิตย์ขึ้น
• แสงทางทิศตะวันตก ได้แสงแดดในช่วงบ่ายถึงเย็น ซึ่งอาจมีผลท�ำให้ผู้ที่ใช้ห้องครัว
ไม่ค่อยสะดวกสบายในการประกอบอาหาร ถ้ามีหน้าต่างควรมีมู่ลี่ปรับแสงหรือม่านบังแดด หรืออาจ
ปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อลดแสงและความร้อน
ห้องครัวของชาวตะวันออกมักจะจัดวางอยู่ตรงต�ำแหน่งที่เหมาะที่สุดของบ้าน คือ ทิศตะวัน
ออกเฉียงเหนือ หรือตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งจะเป็นทิศที่รับแสงแดดและลมอย่างพอเหมาะ ส่วนผู้ที่มี
ความเชือในเรืองฮวงจุยจะวางต�ำแหน่งห้องครัวไว้ททางทิศตะวันออก เพราะห้องครัวจะได้รบแสงแดด
่ ่ ้ ี่ ั
9
- 11. • ห้องครัวแบบเปิด (Open plan) พื้นที่จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ต่อเนื่องกับห้องรับ
ประทานอาหารไปถึงห้องอื่น ๆ หรือพื่นที่ที่ต่อเนื่อง ในแปลนก็จะเป็นแบบโปร่ง ควรมีการจัดวาง
ต�ำแหน่งเฟอร์นิเจอร์เพื่อเป็นการแบ่งแยกพื้นที่ในการใช้งาน และไม่ควรมีความสูงมาก ถ้าสูงมากก็จะ
แบ่งแยกพื้นที่ออกเป็นคนละส่วน
• ห้องครัวแบบปิด (Closed plan) พื้นที่ของห้องครัวจะมีทางเข้าออกทางเดียวที่เชื่อม
ต่อกันกับส่วนรับประทานอาหาร อาจมีผนังที่เจาะช่องส�ำหรับส่งอาหาร และอีกทางหนึ่งจะเชื่อมต่อ
กับส่วนของลานซักล้าง เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องครัวส่วนมากจะเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบติดตาย (Built-in)
สรุปได้ว่า ห้องครัวทั้ง 2 รูปแบบนี้จะต้องขึ้นอยู่กับความต้องการและพฤติกรรมการใช้งานของ
เจ้าของบ้าน และขนาดของพื้นที่ภายในบ้าน การใช้งาน ขนาด และรูปแบบของการออกแบบห้องครัว
ก็จะมีความแตกต่างกันไป
1.5.3 ห้องครัวภายนอกตัวบ้าน ถ้าเป็นบ้านหลังขนาดใหญ่ทมพนทีเพียงพอส�ำหรับท�ำห้องครัว
ี่ ี ื้ ่
ห้องคนใช้ และห้องเก็บของในอาคารเดียวกัน พื้นที่เหล่านี้ก็จะอยู่ใกล้ ๆ กันจึงสามารถท�ำอาหารไทย
จีนที่ต้องใช้ไฟแรง ๆ และใส่เครื่องเทศต่าง ๆ แต่ในกรณีที่มีพื้นที่จ�ำกัด ห้องครัวภายนอกก็อาจจะอยู่
ในส่วนของลานซักล้าง โดยมีการต่อเติมหลังคาหรือกันสาดยื่นออกมาคลุม ทั้งห้องครัวขนาดใหญ่
และห้องครัวขนาดเล็กมีอุปกรณ์เครื่องใช้อ�ำนวยความสะดวกต่าง ๆ จัดวางอยู่ในต�ำแหน่งที่เหมาะสม
ส�ำหรับการใช้งาน
ในบ้านบางหลังก็สามารถมีห้องครัวทั้ง 2 แบบ ห้องครัวที่ตั้งอยู่ในบ้านอาจจะแต่งเป็นห้องครัว
โชว์ ตกแต่งให้สวยงาม ใช้ท�ำการเตรียมอาหารหรือการประกอบอาหารที่เรียบง่าย และมีครัวไทยที่
รองรับการท�ำอาหารหนักอยู่ภายนอกตัวบ้าน
11