ทฤษฏีการค้าระหว่างประเทศ
- 3. ลัทธิการค้านิยม Mercantilism
ทฤษฎีการได้เปรียบสมบูรณ์ Absolute Advantage
ทฤษฎีความได้เปรียบเปรียบเทียบ Comparative Advantage
ทฤษฎีเฮกเชอร์-ออแลง Heckscher-Ohlin Theory
ทฤษฎีวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ The Product Life-Cycle Theory
ทฤษฎีความได้เปรียบในการแข่งขันระหว่างประเทศ
National Competitive Advantage
ทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศ
- 4. Thomas Mun
เป็นทฤษฎีแรกที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศในศตวรรษที่ 16
เกิดจากแนวคิดที่ว่า การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ รัฐควร
ส่งเสริมพัฒนาการทางธุรกิจและการค้าระหว่างประเทศ
เงินและทองเป็นโลหะมีมูลค่า ดังนั้นการค้าระหว่างประเทศที่ส่งออก
มากกว่านาเข้าทาให้เกิดการเกินดุลการค้า ประเทศได้เงินและทองมา
เป็นทุนสารองของประเทศ
การดาเนินธุรกิจระหว่างประเทศเน้นกลยุทธ์การได้เปรียบทางการค้า
เพื่อให้เกิดการเกินดุลการค้า มีการตั้งกาแพงภาษี สนับสนุนการ
ส่งออก การแสวงหาอาณานิคมเพื่อความมั่งคั่งของประเทศ
ลัทธิการค้านิยม Mercantilism
- 6. Adam Smith
พิจารณาข้อด้อยของลัทธิการค้านิยมได้แก่ การที่แต่ละประเทศมี
ความชานาญไม่เหมือนกันในการผลิตสินค้าและบริการเฉพาะอย่าง
ดังนั้นการผลิตสินค้าทุกชนิดเพื่อส่งออกจึงไม่เหมาะสม
ประเทศที่ไม่ชานาญในการผลิตสินค้าชนิดหนึ่งแต่ทาการผลิตสินค้า
ชนิดนั้น ทาให้ต้นทุนการผลิตสูง
ควรให้แต่ละประเทศผลิตสินค้าที่ตนชานาญและแลกเปลี่ยนกัน
เพื่อต้นทุนที่ต่ากว่า ทาให้แต่ละประเทศรู้ว่าควรผลิตอะไร ไม่ควร
ผลิตอะไร
ทฤษฏีการได้เปรียบโดยสมบูรณ์ Absolute Advantage
- 7. ปัจจัยการผลิต (หน่วย)
มาเลเซีย 800
ไทย 800
ทฤษฏีการได้เปรียบโดยสมบูรณ์ Absolute Advantage
จานวนทรัพยากร (หน่วย) ที่ต้องใช้ในการผลิต
น้ามันปาล์มข้าวสารต่อ 1 ตัน
น้ามันปาล์ม ข้าวสาร
มาเลเซีย 20 40
ไทย 80 20
- 10. แต่ละประเทศสามารถนาไปใช้วางแผนการผลิต โดยเฉพาะในการกาหนด
นโยบายระยะยาว
ประเทศที่มีการวางแผนทางเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ จึงไม่ควรผลิตสินค้า
บางชนิดที่ประเทศอื่นมีต้นทุนการผลิตต่ากว่า
ผู้บริหารประเทศสามารถนาไปประยุกต์ใช้เพื่อกาหนดนโยบายในการ
ส่งเสริมธุรกิจที่เหมาะสมกับความสามารถของประเทศ
สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในระดับองค์กรได้อีกด้วย
ทฤษฏีการได้เปรียบโดยสมบูรณ์ Absolute Advantage
- 11. David Ricardo
ให้ความสาคัญที่ผลผลิต โดยมีรากฐานมาจากแรงงาน
เสนอแนวคิดที่ว่า ประเทศที่มีความได้เปรียบในการผลิตสินค้าชนิดใดควร
ทาการผลิตสินค้านั้น
สั่งสินค้าที่ตนไม่มีความชานาญและต้องใช้ต้นทุนการผลิตสูงจากประเทศที่มี
ความชานาญและสามารถผลิตได้ในต้นทุนต่ากว่า
ทาให้เกิดผลรวมของทั้งสองประเทศสูงกว่าที่แต่ละประเทศจะผลิตสินค้าทุก
ชนิด
หากประเทศใดได้เปรียบในการผลิตสินค้าหลายชนิด ความสามารถในการ
ผลิตสินค้าชนิดใดได้เปรียบสูงกว่า ก็ควรใช้ทรัพยากรผลิตสินค้าชนิดที่ให้
ผลผลิตสูงกว่า
ทฤษฎีความได้เปรียบเปรียบเทียบ ComparativeAdvantage
- 12. ปัจจัยการผลิต (หน่วย)
มาเลเซีย 800
ไทย 800
ทฤษฎีความได้เปรียบเปรียบเทียบ ComparativeAdvantage
จานวนทรัพยากร (หน่วย) ที่ต้องใช้ในการผลิต
น้ามันปาล์มข้าวสารต่อ 1 ตัน
น้ามันปาล์ม ข้าวสาร
มาเลเซีย 20 25
ไทย 80 40
มาเลเซีย : ไทย 1 : 4 1 : 1.6
- 15. ในการวางแผนและกาหนดนโยบายของรัฐ ต้องคานึงถึงความ
ได้เปรียบในด้านความสามารถในการผลิต ใช้ความได้เปรียบจาก
ทรัพยากรที่มีผลิตสินค้าที่ชานาญ และไม่นาทรัพยากรไปใช้ผลิตสิ่งที่
ไม่ชานาญ
การกาหนดแผนทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศจึงต้องพิจารณาจาก
ผลรวมของการผลิตและการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเลือกผลิตสินค้าที่
ตนสามารถผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทฤษฎีนี้เป็นองค์ประกอบสาคัญต่อการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
ในทางปฏิบัติ ต้องคานึงถึงปัจจัยในส่วนที่เกี่ยวกับค่าขนส่งและ
ข้อจากัดทางการค้าระหว่างประเทศอีกด้วย
ทฤษฎีความได้เปรียบเปรียบเทียบ ComparativeAdvantage
- 16. Eli Heckscher and Bertil Ohlin
ได้ขยายแนวคิดเดิมไปสู่ ปัจจัยสาคัญอื่นๆ ของประเทศ เนื่องจากแต่ละ
ประเทศมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเหล่านี้แตกต่างกัน ทาให้ต้นทุน
การผลิตต่างกัน ยิ่งทรัพยากรเหล่านี้มีมาก ต้นทุนการผลิตยิ่งต่า
แต่ละประเทศจะส่งสินค้าที่ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่มากในประเทศในการ
ผลิตออกจาหน่ายต่างประเทศ และสั่งสินค้าเข้าที่ไม่สามารถทาใน
ประเทศได้เนื่องจากขาดแคลนทรัพยากร
ดังนั้นการค้าระหว่างประเทศถูกกาหนดโดยปัจจัยพื้นฐานของประเทศ
มิใช่จากแรงงานเพียงประการเดียว
ทฤษฎีเฮกเชอร์ ออแลง Heckscher-OhlinTheory
- 17. ทฤษฎีเฮกเชอร์ ออแลง Heckscher-OhlinTheory
พิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องในภาพรวมมากกว่าในลักษณะของตัวแบบ
(Model) เช่นทฤษฏีของริคาโด (ผลผลิตและแรงงาน) ซึ่งเป็นเพียง
หนึ่งในปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ
Wassily Leontief
ค้บพบสิ่งที่ขัดแย้งกับทฤษฎีของเฮกเชอร์ ออแลง และขัดแย้งกับ
ความน่าจะเป็น Leontief Paradox
ประเทศที่ควรจะส่งออกสินค้าที่ใช้ทุนสูง เนื่องจากได้เปรียบด้าน
เงินทุน กลับส่งออกสินค้าที่ใช้ทุนต่ากว่า นาเข้าสินค้าที่ใช้ทุนสูงกว่า
สินค้าบางชนิดที่ต้องใช้ทุนในการผลิตมาก กลับผลิตในประเทศที่
ค่าแรงต่ากว่าเพื่อให้ต้นทุนไม่สูงจนเกินไป
- 18. ทฤษฎีเฮกเชอร์ ออแลง Heckscher-OhlinTheory
สินค้าบางอย่างใช้เทคโนโลยีสูง กลายเป็นสินค้าราคาไม่แพง และ
ล้าสมัยเร็วเช่น คอมพิวเตอร์
สาหรับประเทศไทย เป็นประเทศส่งออกรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องใช้
ทุนและเทคโนโลยีที่ประเทศไทยไม่มีเลย แต่การไหลเข้าของทุนและ
เทคโนโลยีจากต่างประเทศทาให้ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกรถยนต์ได้
ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยควรส่งออกสินค้าเกษตรเพราะมีที่ดินและแรงงาน
ในความเป็นจริง ประเทศไทยจึงเป็นเพียงฐานแรงงานและฐานการ
ผลิตของต่างชาติ เป็นเพียงทางผ่านของทุนและผลกาไรของต่างชาติ
เท่านั้น
- 19. Raymond Vernon
เป็นทฤษฎีเกี่ยวกับพัฒนาการของวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่
จุดเริ่มต้นจนพัฒนาไปสู่จุดสูงสุด
ในระยะแรก ราคาไม่ใช่ปัจจัยสาคัญในการเลือกซื้อสินค้า เนื่องจาก
เป็นสินค้าใหม่ที่แตกต่างจากสินค้าอื่นในตลาด
เมื่อความต้องการสินค้าถึงจุดอิ่มตัว ราคาจะเข้ามามีบทบาทในการ
รักษาส่วนแบ่งตลาด ต้นทุนการผลิตจึงมีส่วนสาคัญ ทาให้ต้องย้าย
ฐานการผลิตไปประเทศที่มีค่าแรงต่ากว่า
ทฤษฎีวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ The Product Life-CycleTheory
- 21. ทฤษฎีวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ The Product Life-CycleTheory
ขั้นตอนที่ 1 ช่วงแนะนา เป็นช่วงการคิดค้นนวัตกรรมด้วยการวิจัย
พัฒนาที่ทันสมัยที่ยังไม่มีผู้อื่นทาได้ การใช้แรงงานมีความชานาญสูง
ราคาผลิตภัณฑ์ค่อนข้างสูง มีการพัฒนาไปสู่การผลิตที่มีมาตรฐาน
ขั้นตอนที่ 2 ช่วงเจริญเติบโต หลังจากแนะนาออกสู่ตลาดจะมีการการ
ส่งออก ทาให้มีการย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศเพราะคู่แข่งใน
ประเทศมีมากขึ้น
ขั้นตอนที่ 3 ช่วงอิ่มตัว การนาเข้าจากประเทศต้นแบบหมดไป แต่จะ
ใช้ประโยชน์จากค่าจ้างแรงงานราคาถูกในประเทศกาลังพัฒนาเป็น
ฐานการผลิต
ขั้นตอนที่ 4 ช่วงลดลง สินค้าตกรุ่น ยอดขายลดลง ทาให้ผลักดันให้มี
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
- 22. Michael Porter
หาข้อสรุปว่าเหตุใดบางประเทศประสบความสาเร็จหรือความล้มเหลว
ในธุรกิจระหว่างประเทศ
พบว่ามีกลุ่มปัจจัยที่เกี่ยวข้อง 4 กลุ่มคือ
ปัจจัยพื้นฐานของประเทศ (Factor endowments)
ความต้องการสินค้าของประเทศนั้น (Demand conditions)
อุตสาหกรรมสนับสนุนและกลยุทธ์ทางธุรกิจ (Related and supporting
industries)
โครงสร้างทางการบริหารและคู่แข่งขันขององค์กรธุรกิจ (Firm strategy,
structure, and rivalry)
ทฤษฎีความได้เปรียบในการแข่งขันระหว่างประเทศ
NationalCompetitive Advantage
- 23. หมายถึงปัจจัยขั้นพื้นฐานที่จาเป็นต่อการผลิต
จัดกลุ่มปัจจัยออกเป็น
ปัจจัยพื้นฐาน
ทรัพยากรธรรมชาติ ภูมิอากาศ สถานที่ จานวนประชากร
ปัจจัยระดับสูง (Advanced factors)
ระบบคมนาคมขนส่งและสาธารณูปโภค ความชานาญของแรงงาน
ประสิทธิภาพในการวิจัยค้นคว้า ปัจจัยระดับสูงเกิดจากตัวบุคคล
องค์กร และการดาเนินงานของรัฐในการส่งเสริมด้วย
ทฤษฏีนี้ให้ความสาคัญกับปัจจัยระดับสูงมาก เนื่องจากปัจจัยระดับสูง
บางชนิดสาคัญต่อความสาเร็จอย่างมาก
ปัจจัยพื้นฐานของประเทศ Factor Endowments
- 28. อุปสรรคจากภาษีและโควต้า Tariff and Quota
อุปสรรคจากภาษีขาเข้า Tariff
รัฐกาหนดภาษีขาเข้าสูงทาให้สินค้าชนิดนั้นราคาสูงกว่าสินค้าภายในประเทศทา
ให้แข่งขันได้ยาก
การจากัดปริมาณนาเข้า Quantity Limit or Quota
การกาหนดปริมาณการนาเข้าของสินค้าเพื่อมิให้สินค้าต่างประเทศมีส่วนครอง
ตลาดจนทาให้กิจการท้องถิ่นเสียหาย
อาจมีผลทาให้อุตสาหกรรมภายในไม่พัฒนา เนื่องจากไม่มีคู่แข่ง
การกาหนดราคาขายร่วมในตลาดระหว่างประเทศ International price
fixing
มีการร่วมตัวกันของประเทศหรือผู้ผลิตสินค้าเพื่อกาหนดราคาขายใน
ต่างประเทศร่วมกัน เช่นกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ามันออกจาหน่ายหรือกลุ่ม OPEC
- 29. การควบคุมทางการเงิน Financial control
การควบคุมเกี่ยวกับระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Exchange
control) การควบคุมดังกล่าวมีผลต่อการค้าระหว่างประเทศโดยตรง
เนื่องจากระบบเงินตรา (Currency) เป็นปัจจัยสาคัญของการค้าระหว่าง
ประเทศ
การควบคุมการลงทุนจากต่างประเทศ Foreign investment
control
เป็นการควบคุมการลงทุนจากต่างประเทศในรูปแบบต่าง ๆ เช่นห้ามถือหุ้น
เกินสัดส่วนที่กาหนด ห้ามมิให้ส่งกาไรออกเกินกาหนด การควบคุมรายจ่าย
ค่าสัมปทาน royalty
การควบคุมเหล่านี้ไม่เกิดผลดีต่อธุรกิจระยะยาวของประเทศเหล่านั้นเอง
อุปสรรคจากปัจจัยที่ไม่ใช่ภาษี Nontariff Barrier
- 30. ปัจจัยอื่น
กฏหมาย ข้อบังคับ หรือระเบียบราชการต่างๆที่ก่อให้เกิดความล่าช้า และ
ความสับสนในการนาเข้า ส่งออก หรือการลงทุน
อุปสรรคทางเทคนิค (Technical barrier) เช่น การกาหนดมาตราฐาน
ของผลิตภัณฑ์ให้สูง จนต่างประเทศไม่สามารถนาเข้าได้
การกาหนดปัจจัยทางสังคมที่แต่ละประเทศมีความพร้อมไม่เท่ากัน
นโยบายของรัฐ เช่น สนับสนุนให้ใช้ของที่ผลิตในประเทศแทนการใช้
สินค้าชนิดเดียวกันจากต่างประเทศ
อุปสรรคจากปัจจัยที่ไม่ใช่ภาษี Nontariff Barrier